หากพวกเขาซุ่มโจมตีเป่ยหวนจากปากเขาเขี้ยวหมาป่าจริง แล้วถูกเป่ยหวนกวาดล้างแทน ถึงครานั้นใครจะคุ้มกันซั่วฟาง?เมื่อใดที่กองทัพใหญ่เป่ยหวนฆ่าเข้ามา เว่ยเหวินจงจะเอาอะไรมาป้องกัน?ไอ้สุนัข!เพื่อที่จะฆ่าตน ถึงขนาดไม่สนใจความปลอดภัยของซั่วเป่ยเลย!ขณะที่หยุนเจิงกำลังโมโหฉุนเฉียวอยู่นั้น ภูตสามและภูตห้าก็เข้ามารายงานว่ากองทัพใหญ่เป่ยหวนเคลื่อนไหวแล้ว!เป่ยหวนคิดจะเล่นตุกติกจริงหรือ?หยุนเจิงขมวดคิ้ว แล้วถาม “กองทัพใหญ่เป่ยหวนไปรวมตัวกันที่ใด?”“เหมือนจะไปทางปากเขาเขี้ยวหมาป่าขอรับ!”ภูตสามตอบ“ปากเขาเขี้ยวหมาป่า?”หยุนเจิงขมวดคิ้วมุ่น สัมผัสได้ถึงความไม่ชอบมาพากลเป่ยหวนส่งคนไปที่ปากเขาเขี้ยวหมาป่ามากมายเพียงนั้นแล้วยังจะไปเสริมทัพที่ปากเขาเขี้ยวหมาป่าอีก?เป่ยหวนต้องคิดซุ่มโจมตีพวกเขาที่ปากเขาเขี้ยวหมาป่าครั้งหนึ่งแน่เพียงแค่ซุ่มโจมตีต้องใช้กำลังคนมากเพียงนี้เชียวหรือ?“สอดแนมต่อไป!”หยุนเจิงสั่งการทั้งสอง แล้วรีบลุกขึ้นดูภาพแผนที่ทันทีเป่ยหวนส่งคนมาซุ่มโจมตีทหารทั่วไปของพวกเขามากมายเพียงนี้เลยหรือ?ประเมินพวกเขาสูงเกินไปแล้วกระมัง?“เป็นไปได้หรือไม่ที่ปานปู้จะมองแผนการข
ไม่นาน จั่วเริ่นและคนอื่นๆ ก็มาถึงกระโจมของหยุนเจิง“โจมตีค่าย?”เมื่อได้ยินถึงการวิเคราะห์ของหยุนเจิง ฝูงชนพลันอ้ำอึ้งในบัดดล“พวกเขาจะโจมตีค่ายจากที่ใดกัน?”เสิ่นลั่วเยี่ยนตามไม่ทันจึงถามต่อว่า “พวกเขาเป็นทหารม้าเชียวนะ! นอกจากปากเขาเขี้ยวหมาป่าและหุบผาชันช่องลมแล้ว ยังมีที่ใดที่พวกเขาจะ…”“พวกเขาสามารถละทิ้งม้ารบได้!”หลูซิ่งได้สติก่อน “ทหารม้าเปลี่ยนมาเป็นทหารราบง่ายมาก! ทว่าทหารราบจะเปลี่ยนไปเป็นทหารม้านั้นยากมาก!”หลูซิ่งเอ่ยคำนี้ออกไป ฝูงชนพลันทุบศีรษะของตนทันใดนั่นน่ะสิ!ทหารม้าลงจากม้าก็กลายเป็นทหารราบแล้วนี่!ปัญหาง่ายๆ เช่นนี้ พวกเขากลับนึกไม่ออกสถานที่ที่ทหารม้าไม่สามารถปีนขึ้นไปได้ แต่ทหารราบทำได้!ทันใดนั้นพวกเขาก็ตระหนักได้ว่าความคิดพวกเขาเริ่มเปลี่ยนไปพวกเขาคอยคิดมาตลอดว่าทหารม้าของเป่ยหวนเก่งกาจแค่ไหน แต่กลับละเลยปัญหาที่ง่ายที่สุดไปได้“ดังนั้น จุดประสงค์ของพวกเขาคือซุ่มโจมตีหุบผาชันช่องลม และครอบครองหุบผาทั้งสองฝั่ง จากนั้นค่อบนำทหารม้าใหญ่เดินทางผ่านหุบผาชันช่องลมตรงมาที่ซั่วฟาง! พวกเขาคิดจะใช้ซั่วฟางเป็นฐานที่มั่นในการเอาชนะกองทหารมณฑลฝ่ายเหนือ!”
นั่นน่ะสิ!พวกเขากำลังคนเพียงเท่านี้ในเมื่อเป่ยหวนคิดจะโจมตีค่ายแล้ว อย่างไรก็ต้องส่งคนนับหมื่นมาแน่นอนพูดถึงความสามารถในการสู้รบแล้ว ทหารทั่วไปของพวกเขาสู้ของเป่ยหวนไม่ได้แน่นอนถึงแม้พวกเขาจะสู้ไม่ถอยจนกำจัดคนของเป่ยหวนที่ถูกส่งมาซุ่มโจมตีได้ทั้งหมด คนสองหมื่นกว่าคนของพวกเขาก็คงเหลือรอดอยู่ไม่มากแล้ว!นี่คือทุกอย่างของหยุนเจิง!ห้ามทำให้สูญเสียไปทั้งหมดภายในสงครามเดียว!สิ่งสำคัญคือ แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่พวกเขาจะไม่ทำให้คนของเป่ยหวนหลุดไปได้!หากกองกำลังของพวกเขาสู้จนหมดแล้ว ทหารม้าใหญ่ของเป่ยหวนฆ่าผ่านหุบผาชันช่องลมมา เช่นนั้นก็จะคุ้มกันซั่วฟางไม่ได้อีกต่อไป!เช่นนี้ดูเสี่ยงมากจริงๆ!หยุนเจิงกล่าวยิ้มๆ “ข้าพอมีวิธีที่จะกำจัดพวกมันทั้งหมด แต่ทำได้เพียงกำจัดพวกมันทั้งหมด ไม่สามารถทำเงียบๆ ได้ และไม่สามารถซุ่มโจมตีพวกมันเป็นครั้งที่สองได้ด้วย…”“วิธีอะไร?”เสิ่นลั่วเยี่ยนถามทันที“ข้าเองก็มีวิธีเช่นกัน!”อวี๋ซื่อจงกล่าว “เพียงแต่ว่า เราอาจจะต้องสูญเสียของบางอย่างไป”“ใช่!”หยุนเจิงพยักหน้าเบาๆ “แต่ทว่า สูญเสียสิ่งของย่อมดีกว่าสูญเสียคน!”ทั้งสองพลางกล่าวพลางสบตากันย
ในช่วงเวลานี้ น้ำแข็งบนแม่น้ำไป๋สุ่ยมีความหนาเกือบหนึ่งเมตรแล้ว!แม้ว่าจะเป็นกองทหารหลายพันคน น้ำแข็งก็สามารถรับน้ำหนักได้!เมื่อเห็นความดุเดือดในการนำกองทัพลงสู่หุบผาแม่น้ำ ในที่สุดปานปู้ก็แสดงรอยยิ้มโล่งใจบนใบหน้าของเขาชนะแล้ว!พวกเขาไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ที่ปากเขาเขี้ยวหมาป่าอีกต่อไปไม่ว่ากองกำลังหลักของหยุนเจิงจะอยู่ที่นี่หรือที่ปากเขาเขี้ยวหมาป่าล้วนไม่สำคัญอีกต่อไป!ไม่ว่ากองกำลังหลักของหยุนเจิงจะอยู่ที่ไหน พวกเขาก็หนีไม่พ้นชะตากรรมที่จะถูกกวาดล้างไปได้!ทหารราบหมื่นนาย และทหารม้าสามหมื่นนาย!ขอเพียงแค่ผ่านหุบผาชันช่องลมไปได้ ทหารสนามที่แก่ชราอ่อนแอ ป่วย และพิการเหล่านั้นไม่มีทางหยุดพวกเขาได้เลย!ตอนนี้ พวกเขาสามารถประกาศได้แล้วว่าเมืองซั่วฟางเป็นของพวกเขา!ขอเพียงพวกเขายึดครองซั่วฟางได้สำเร็จ ต่อจากนี้ก็เป็นกองทหารมณฑลฝ่ายเหนือที่ต้องตื่นตระหนกแล้ว!“เหล่าสหาย! ตามข้าไปโจมตี!”ปานปู้คำรามอย่างตื่นเต้นและพุ่งเข้าไปในหุบผาแม่น้ำตามไปด้วยทั้งสองฝั่งของหุบผาอูถูเป็นผู้นำทหารข้างกายหลายคนตรงไปที่ค่ายด้วยจิตสังหารพวยพุ่งเมื่อเห็นทหารเป่ยหวนที่พุ่งเข้า
เวลานี้ ทหารของเป่ยหวนโกลาหลวุ่นวายกันพลันทุกคนต่างแย่งกันวิ่งหนีจากทะเลเพลิงบางคนวิ่งไปถึงชายขอบของหุบผา ก็กระโดดลงไปในหุบผาด้วยความตื่นตระหนก โดยไม่สนว่าหน้าผาจะสูงชันหรือไม่ เพียงเพื่อจะหนีจากทะเลเพลิงที่อยู่ข้างหลังแต่หลังจากที่กระโดดลงไป พวกเขาก็รู้สึกเสียใจทันทีเพราะในหุบเขา มีทหารต้าเฉียนจำนวนมากรออยู่ก่อนแล้วทันทีที่พวกเขากระโดดลงไป ก็ถูกทหารต้าเฉียนปิดล้อมบางคนก็วิ่งออกไปนอกค่ายด้วยความตื่นตระหนกทว่าทันทีที่พวกเขารอดพ้นจากทะเลเพลิง ก็มีธนูอันแหลมคมมาต้อนรับพวกเขาทหารม้าที่นำโดยอวี๋ซื่อจงไม่รู้โผล่มาตอนไหน"รักษาระยะห่าง!"“อย่าสู้ระยะประชิด!”“ยิงได้!”อวี๋ซื่อจงงอคันธนูและตั้งศรธนูพร้อมตะโกนใส่ทหารม้าที่ต้องการต่อสู้ระยะประชิดกับศัตรูจนตาแดงตาดำหลังจากที่อวี๋ซื่อจงตะโกนใส่ คนเหล่านั้นก็รู้สึกตัวและรีบถอยห่างจากศัตรู แล้วเริ่มยิ่งธนูใหม่อีกครั้งเสียงคำรามปลุกชายหนุ่มที่กำลังตกตะลึงอยู่ อวี๋ซื่อจงรีบงอคันธนูและตั้งศรธนูอย่างรวดเร็วอวี๋ซื่อจงเคยเป็นหนึ่งในสมาชิกของกองทหารโลหิตมาก่อน ดังนั้นจึงไม่ต้องพูดถึงทักษะการยิงธนูของเขาเขายิงธนูออกไปถูกคอของทหาร
ทหารม้าเป่ยหวนที่นำโดยอู้เลี่ยและปานปู้จ้องมองที่ด้านบนของหุบเขาอย่างว่างเปล่าใบหน้าของทุกคนเต็มไปด้วยความโศกเศร้าและความโกรธแต่กลับทำอะไรไม่ได้เลยถึงพวกเขาจะพุ่งเข้าไปในตอนนี้ ก็ไม่มีความหมายอะไรนอกจากรนหาที่ตายยิ่งไปกว่านั้น กำแพงไฟที่ปากหุบเขายังขวางทางพวกเขาอยู่ ทำให้พวกเขาไม่สามารถเร่งผ่านเข้าไปได้!“ทิ้งม้า! แล้วปีนขึ้นไปซะ!”“เรายังไม่แพ้!”“ปีนขึ้นไปและฆ่าคนต้าเฉียนไอ้เวรพวกนี้ให้หมด!”อู้เลี่ยตะโกนอย่างบ้าคลั่ง“องค์ชายใหญ่ ไม่ได้พ่ะย่ะค่ะ!คนที่อยู่ข้างๆ กดมือของอู้เลี่ย และพูดอย่างกังวลว่า "ในเมื่อศัตรูรู้แล้วว่าเราจะโจมตีค่าย ดังนั้นพวกเขาย่อมต้องเตรียมการซุ่มโจมตีอย่างแน่นอน หากเราปีนขึ้นไปตอนนี้ก็มีแต่ตายเท่านั้น!"หากพวกเขาทิ้งม้าแล้วปีนขึ้นไปบนหุบเขา เกรงว่ายังขึ้นไปไม่ถึงครึ่งทาง ฝนธนูคงจะตกลงมาก่อนแล้ว!ถึงครานั้น คนของพวกเขาไม่ก็ตกผาตาย ไม่ก็ถูกยิงตาย!ในเวลานี้ ห้ามทำให้สูญกองกำลังทหารไปเปล่าๆ อีกต่อไป“แล้วจะดูพวกเขาตายอยู่อย่างนี้หรือ?”ดวงตาสีแดงเลือดของอู้เลี่ยดุร้ายราวกับสัตว์ร้ายกินคน"ถอยทัพเถอะ!"คนข้างๆ หันหน้าไปด้านข้างอย่างเจ็บปวดใจแล
ปานปู้ได้ยินดังนั้น ปราณโลหิตในใจพลันพวยพุ่งอย่างห้ามไม่อยู่แต่ทว่าเขาเองก็รู้ว่าหยุนเจิงจงใจแทงใจดำเขา จึงทำได้เพียงระงับปราณโลหิตในใจแล้วกัดฟันกล่าวว่า “หยุนเจิง อย่าดีใจเร็วไปหน่อยเลย คนที่เจ้าสั่งให้ไปซุ่มโจมตีที่ปากเขาเขี้ยวหมาป่าเหล่านั้น เกรงว่าบัดนี้ก็คงถูกกวาดล้างแล้วเช่นกัน!”“ราชครู เจ้าเองก็อายุปูนนี้แล้ว เหตุใดถึงยังใสซื่อเช่นนี้เล่า?”หยุนเจิงไม่แยแส กล่าวหัวเราะว่า “บอกความจริงกับเจ้าก็ได้ ข้าไม่เคยคิดจะซุ่มโจมตีพวกเจ้าเลยด้วยซ้ำ! ข้าเพียงแค่ทดสอบดูว่ามีคนของเราร่วมมือคิดจะสังหารข้าหรือไม่เท่านั้น! คาดไม่ถึงเลยว่าจะมีจริงๆ!”อะไรนะ?ได้ยินคำพูดของหยุนเจิงแล้ว สีหน้าของปานปู้พลันเปลี่ยนไปในทันทีหยุนเจิงเพียงแค่ทดสอบดูเท่านั้น?เขารู้อยู่แล้วว่ามีคนในกองทหารมณฑลฝ่ายเหนือคิดจะสังหารเขานั้นหรือ?ให้ตายเถอะ!ถูกหลอกจนได้!ตนถูกไอ้สารเลวคนนี้หลอกอีกครั้งแล้ว!“วันนี้ ข้าพ่ายแล้ว! แต่ข้าไม่มีทางพ่ายตลอดแน่!”ปานปู้ระงับความรู้สึกอยากกระอักเลือดเอาไว้ แล้วเอ่ยดุดันว่า “วันหลัง ข้าจะตัดศีรษะของเจ้าเองกับมือให้ได้!”“ได้ๆ! เจ้าจะทำอย่างไรก็ได้!”หยุนเจิงกล่าวอย่างไ
ปานปู้ไม่กล้าเสี่ยง แน่นอนว่าอู้เลี่ยก็ไม่กล้าเช่นกันทั้งสองเจรจากันอยู่พักหนึ่ง สุดท้ายก็ตอบตกลงคำขอของหยุนเจิงวินาทีนี้ อู้เลี่ยรู้สึกเสียใจและโกรธมากรู้เช่นนี้ พวกเขาแลกเปลี่ยนศพดีๆ ไม่ดีหรอกหรือ?ทำเช่นนั้นยังสามารถแลกม้าศึกชราอ่อนแอสองพันตัวกับร่างศพเหล่านั้นได้ด้วยแต่ทว่าครั้งนี้พวกเขาตั้งใจมาซุ่มโจมตีซั่วฟาง ดังนั้นจึงไม่ได้นำม้าศึกชราอ่อนแอเหล่านั้นมาด้วยแถมพวกเขาก็ไม่สามารถเสียเวลากับหยุนเจิงต่อไปได้จึงทำได้เพียงทำตามข้อตกลงของหยุนเจิงก่อนบัญชีนี้ค่อยคิดกันภายหลัง!ทหารม้าสองพันนายถูกบังคับให้ลงจากม้าปานปู้เก็บซ่อนความเจ็บปวดเอาไว้ แล้วเดินไปข้างหน้าอีกครั้ง “ม้าศึกให้พวกเจ้าได้! แต่ขณะที่พวกข้าเคลื่อนย้ายศพ พวกเขาต้องถอยหลัง!”กล่าวจบ ปานปู้พลันชี้ไปยังมือธนูสองพันนายบริเวณปากทางเข้านั่น“ไม่ต้องรอให้ถึงตอนที่พวกเจ้าเคลื่อนย้ายศพหรอก”หยุนเจิงกล่าวยิ้มๆ “ขอแค่พวกเจ้าส่งม้าศึกมา ข้าจะสั่งให้พวกเขาถอยหลังทันที!”“เป็นเช่นนั้นดีที่สุด!”ปานปู้กัดฟันเอ่ยเสียงต่ำ จากนั้นโบกมือ ทหารม้ากลุ่มหนึ่งก็นำม้าศึกสองพันตัวส่งไปบริเวณปากทางเข้านั่นเมื่อเห็นม้าศึกที่พึ่