ตามด้วยแม่ทัพอีกคนหนึ่ง “หากโจมตีเทียนหู ไม่เพียงแต่สามารถขมขู่ติ้งเป่ยและหม่าอี้ได้เท่านั้น แต่ยังสามารถขมขู่สนามม้าโม่หยางด้วย ข้าคิดว่าเป้าหมายของเป่ยหวนอาจจะเป็นเทียนหู!”คนเหล่านี้ปริปากพูด คนอื่นๆ จึงเริ่มพูดความคิดเห็นของตนขึ้นมาคนส่วนใหญ่คิดว่า โอกาสที่เป่ยหวนจะโจมตีทางซั่วฟางนั้นน้อยมากเป่ยหวนต้องเดาได้แน่นอนว่าพวกเขาต้องป้องกันหยุนเจิงที่เป็นท่านอ๋องคนนี้มาก การโจมตีปีกขวานั้น ไม่ใช่ทางเลือกที่ฉลาดอีกอย่าง อย่างไรซั่วฟางก็มีทหารทั่วไปหนึ่งแสนสองหมื่นนาย!ถึงแม้ทหารทั่วไปเหล่านี้จะต่อสู้ไม่เก่ง แต่จำนวนคนมาก!พูดไม่น่าฟังหน่อย ถึงแม้จะเป็นหมูหนึ่งแสนสองหมื่นตัว ก็เพียงพอให้เป่ยหวนดื่มหม้อหนึ่งแล้วทหารทั่วไปหนึ่งสอนสองหมื่นนาย หากอยู่เฝ้าเมือง เป่ยหวนส่งทหารม้าหนึ่งถึงสองหมื่นนายมาโจมตีก็ไม่อาจจะโจมตีได้หมดทีเดียวยิ่งไปกว่านั้น เนื่องจากเป่ยหวนเป็นการโจมตีแบบไม่คาดคิด ไม่มีทางโจมตีก่อนกองทหารใหญ่อยู่แล้ว มิเช่นนั้น กองกำลังป้องกันด้านหน้าของพวกเขาจะอ่อนแอ ซึ่งจะให้โอกาสแก่ป้อมเมืองสุยหนิงและป้อมเมืองจิ้งอันแน่นอนดังนั้น คนส่วนใหญ่จึงคิดว่า โอกาสที่เป่ยหวนจะโจมตีป
ได้ยินคำพูดของหยุนเจิงแล้ว คนไม่น้อยต่างก็เข้าสู่ภวังค์ความคิดต้องยอมรับว่าความกังวลของหยุนเจิงใช่ว่าจะไม่มีเหตุผลขอเพียงสูญเสียกองกำลังของกองทหารมณฑลฝ่ายเหนือไป เช่นนั้นหากเป่ยหวนโจมตีมาอีกครั้งก็จะง่ายมากฉินชีหูเองก็คิดอย่างจริงจังเขารู้เรื่องภายในบ้างเล็กน้อยจักรพรรดิเหวินอยากหลอกใช้หยุนเจิงมาทำให้กองกำลังของเป่ยหวนลดลง แล้วเช่นนั้นเป่ยหวนจะไม่สามารถทำให้กองกำลังของกองทหารมณฑลฝ่ายเหนือลดลงได้อย่างไร?ไม่จำเป็นต้องมาก ขอเพียงกำจัดทหารรบของกองทหารมณฑลฝ่ายเหนือได้สักเจ็ดแปดหมื่นนาย เมื่อถึงต้นนฤดูใบไม้ผลิต้าเฉียนอาจจะไม่มีกำลังพอที่จะบุกโจมตีแล้วก็ได้ไม่ใช่เพราะไม่มีกำลังให้การโจมตี แต่เป็นเพราะถูกทำลายคติธรรมไปหมดแล้ว“องค์ชายหกมีเหตุผล!”ฉินชีหูเห็นด้วย แล้วถามหยุนเจิงอย่างสงสัย “ท่านเป็นคนคิดได้ หรือว่า…”หยุนเจิงรู้ว่าเขาอยากถามอะไร จึงทำปากส่งสัญญาณให้กับเสิ่นลั่วเยี่ยนข้างๆที่แท้ก็เสิ่นลั่วเยี่ยนนี่เองที่คิดได้!ฉินชีหูหัวเราะแหะๆ แล้วเอ่ยขมวดคิ้ว “องค์ชายหกโชคดีจริงๆ!”“แน่นอนอยู่แล้ว!”หยุนเจิงเองก็หัวเราะตามใบหน้าของเสิ่นลั่วเยี่ยนร้อนผ่าว แล้วจ้องหยุนเจ
หากตนยืนหยัดที่จะอยู่ที่ซั่วฟางต่อ เมื่อเกิดเรื่องขึ้นมา เขาจะโทษพวกเขาสองพี่น้องไม่ได้!เพราะพวกเขาบอกให้ตนไปที่เมืองสู้ฉวีแล้ว แต่ตนยืนหยัดจะอยู่ที่ซั่วฟางเอง“ท่านอ๋อง ข้าแนะนำให้ท่านกับพระชายาคิดดีๆ อีกครั้ง”เว่ยเหวินจงขมวดคิ้วกล่าว “ข้าเองก็คิดว่าควรป้องกันที่ปีกขวาก่อนล่วงหน้า ส่วนปีกซ้ายก็มอบให้ทหารทั่วไปหนึ่งแสนสองหมื่นนายนั่นป้องกัน! ขอแค่ท่านอ๋องกับพระชายาไปถึงเมืองสู้ฉวีได้ ข้าก็ไม่กังวลอะไรแล้ว!”“เรื่องนี้ไม่มีอะไรต้องพูดอีก!”หยุนเจิงปฏิเสธโดยไม่คิด “ไม่ว่าแม่ทัพใหญ่จะสร้างกองกำลังป้องกันอย่างไร ข้าก็จะทำการป้องกันที่ซั่วฟางก่อน! หากเป่ยหวนกล้าบุกซั่วฟาง เช่นนั้นข้าจะทำให้พวกมันมาได้ แต่กลับไม่ได้เลยคอยดู!”ได้ยินคำพูดหนักแน่นของหยุนเจิงแล้ว คนไม่น้อยต่างก็ผงกศีรษะเบาๆถึงแม้ความสามารถของหยุนเจิงจะไม่ยอดเยี่ยม แต่ความกล้าเต็มล้น!ถือว่าเป็นลูกผู้ชายคนหนึ่ง“แม่ทัพใหญ่ ข้ายังคงคิดว่าเป่ยหวนจะโจมตีที่ปีกซ้าย”ฉินชีหูกล่าวอีกครั้ง “ในเมื่อองค์ชายหกยืนยันว่าจะอยู่ที่ซั่วฟาง แม่ทัพใหญ่ก็ส่งทหารม้าไปที่ซั่วฟางสักเล็กน้อย เพื่อเพิ่มกองกำลังป้องกันให้กับปีกซ้าย”“ข้าเ
หลังจากเสร็จการประชุม เว่ยเหวินจงถึงได้สั่งให้คนทำอาหารให้ทุกคนทานไม่หรูหรามาก แต่ด้วยในช่วงนี้ของซั่วเป่ย ถือว่าไม่เลวแล้วขณะที่ทานอาหารอยู๋นั้น ฉินชีหูพูดคุยกับหยุนเจิงมากมายนักแต่ทว่าอย่างไรก็ยังคงเป็นคำนั้นหากเป่ยหวนโจมตีซั่วฟางก่อน เช่นนั้นก็รับมือป้องกันไว้ เป่ยหวนจะเรียกอาวุธอย่างไรก็ห้ามออกไปรับสงครามเด็ดขาด!ซั่วฟางมีทหารทั่วไปมากมายเพียงนั้น ถึงจะเป็นคนชราและคนพิการ แค่เรื่องการขนย้ายหนิต่างๆ คงทำได้อยู่กระมัง?ขอแค่พวกเขาไม่ออกไปทำสงคราม โอกาสที่เป่ยหวนจะโจมตีซั่วฟางได้มีไม่มากสำหรับการตักเตือนของฉินชีหู หยุนเจิงและเสิ่นลั่วเยี่ยนแสดงถึงความขอบคุณอีกครั้งแต่ทว่า หยุนเจิงตัดสินใจแล้วว่า เขาจะไม่อยู่เฝ้าที่เมืองหลังจากทานอาหารเสร็จ เว่ยเหวินจงก็ได้จัดแจงให้ทุกคนอยู่พักที่จวนเว่ยเหวินขงจัดห้องให้กับพวกเขา เสิ่นลั่วเยี่ยนจึงทำได้เพียงนอนห้องเดียวกันกับหยุนเจิงเมื่อเห็นรอยยิ้มชั่วร้ายของหยุนเจิงแล้ว เสิ่นลั่วเยี่ยนก็รู้ทันทีว่าไอ้สารเลวคนนี้ต้องมีแผนร้ายแน่ๆ“ข้าบอกไว้ก่อนเลยนะ ว่าตอนนี้ข้ายังรังเกียจอยู่!”เสิ่นลั่วเยี่ยนจ้องหยุนเจิงตาเขม็ง “หากท่านกล้าทำอะ
แท้จริงแล้ว หยุนเจิงรู้สึกว่าวิธีที่มั่นคงที่สุดคือการนำทหารสามหมื่นนายนั่นไปเฝ้าอยู่ที่ติ้งเป่ยเช่นนี้ ไม่ว่าเป่ยหวนจะโจมตีจากทางไหน เว่ยเหวินจงก็สามารถเข้าไปสนับสนุนได้ทันเวลา“เช่นนั้นท่านคิดว่าเป่ยหวนจะโจมตีซั่วฟางหรือเทียนหู?”เสิ่นลั่วเยี่ยนเอียวศีรษะถาม“หากเว่ยเหวินจงย้ายทหารสามหมื่นนายนั่นไปที่ปีกขวาจริง เช่นนั้นเป่ยหวนย่อมต้องโจมตีซั่วฟางแน่นอน!”หยุนเจิงแน่วแน่“เพราะเหตุใด?”เสิ่นลั่วเยี่ยนถามอย่างไม่เข้าใจหยุนเจิงตอบ “ข้าไม่รู้ว่าเว่ยเหวินจงตั้งใจละเลยหรือว่าไม่รู้จริงๆ กันแน่ เป่ยหวนอยากจะกลืนกินกองกำลังของเราย่อมต้องอยากให้คนของเราเคลื่อนไหวอยู่แล้ว!”“อย่างไรข้าก็เป็นองค์ชาย หากเป่ยหวนโจมตีซั่วฟาง ถึงซั่วฟางจะมีกำลังมากพอ แต่เว่ยเหวินจงก็ต้องส่งทหารมาช่วยเหลืออยู่แล้ว แม้จะเป็นการสร้างภาพก็ตาม!”“เช่นนี้ เป่ยหวนถึงจะมีโอกาสโจมตีได้”เขาเชื่อมั่นว่าเป่ยหวนไม่มีทางโจมตีเมืองทางเลือกที่โง่เหขลาที่สุดนี้แน่นอนอยากคิดจะโจมตีอย่างเด็ดขาด สู้รวบรวมกองกำลังแล้วโจมตีที่ป้อมเมืองสุยหนิงและป้อมเมืองจิ้งอันดีกว่าเช่นนี้ อย่างน้อยเป่ยหวนก็ไม่ต้องกังวลเรื่องกองทัพเสร
ไม่นาน หยุนเจิงก็พบกับนักรบภูตสิบแปดคนสองคนที่ได้รับบาดเจ็บก็ส่งตัวไปรักษาพยาบาลแล้วส่วนที่เหลืออีกหกคนกำลังกินข้าวอยู่ในกระโจม เห็นได้ชัดว่าหิวโซแล้วเมื่อเห็นหยุนเจิงเข้ามา ทุกคนถึงได้หยุดกินแล้วลุกขึ้น“กินต่อเถอะ ไม่ต้องสนใจข้า!”หยุนเจิงห้ามกลุ่มคนที่กำลังจะคำนับให้ “กินอิ่มก่อนค่อยว่ากัน!”“ขอบพระทัยท่านอ๋อง”ทุกคนตอบรับพร้อมกัน แล้วกินอาหารต่อไปพวกเขาที่รู้ว่าหยุนเจิงมีเรื่องจะถามจึงเร่งมือกินอาหารเป็นพิเศษ“ท่านอ๋อง ข้ากินอิ่มแล้ว!”ภูตหนึ่งดื่มน้ำลงไป แล้วลุกขึ้นก่อนนับตั้งแต่ที่พวกเขาได้รับการฝึกฝน หยุนเจิงก็ขอให้พวกเขาลืมชื่อและตัวตนของพวกเขาซะดังนั้นพวกเขาจึงเหลือเพียงหมายเลขตั้งแต่ภูตหนึ่งไปจนถึงภูตสิบแปด“ดี!”หยุนเจิงพยักหน้าเล็กน้อย แล้วเรียกภูตหนึ่งมานั่งข้างๆ “เล่ารายละเอียดทุกอย่างให้ข้าฟังที!”“ขอรับ!”ภูตหนึ่งไม่รีรอ รีบเล่ารายละเอียดที่พวกเขาได้พบเจอมาทันทีพวกเขาข้ามไปที่เขตเป่ยหวนผ่านแม่น้ำไป๋สุ่ยตามคำสั่งของหยุนเจิง หลังจากนั้นก็สำรวจรอบๆ เขตเป่ยหวน และตามหากลุ่มทหารม้าน้อยของเป่ยหวนแต่ทว่า แรกเริ่มพวกเขาดวงไม่ดีนัก เป่ยหวนที่อยู่บริเว
เมี่ยวอินส่ายศีรษะเบาๆ แล้วกล่าวอย่างจริงจังว่า “ข้ากลัวว่าจะกระทบต่อลมปราณครรภ์น่ะ”ลมปราณครรภ์?หยุนเจิงมึนงงนางไม่ได้ตั้งครรภ์สักหน่อย จะมีลมปราณครรภ์ได้อย่างไร?จะว่าไปเสิ่นลั่วเยี่ยนแม่นางนี่ก็โหดเหมือนกันนะ!ถึงสู้เมี่ยวอินได้ด้วย?เสิ่นลั่วเยี่ยนไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเมี่ยวอินกำลังตั้งครรภ์ได้ยินเมี่ยวอินพูดเช่นนี้แล้วพลันหมดคำพูดในบัดดลหยุนเจิงมองทั้งสองแวบหนึ่งแล้วศึกษาภาพแผนที่ต่อ“ท่านเอาแต่จ้องภาพแผนที่ทั้งวันทั้งคืนทำไมกัน?”เสิ่นลั่วเยี่ยนแค่นเสียงเย็นชา “ท่านคิดว่าดูภาพแผนที่หลายหนแล้วจะชนะได้นั้นหรือ?”“คนของข้านำข่าวกลับมาแล้ว”หยุนเจิงพูดโดยไม่เงยหน้า “จากรายงานของพวกเขา เป่ยหวนจะโจมตีเทียนหู จากนั้นค่อยส่งทหารชั้นยอดสองหมื่นนายลอบโจมตีซั่วฟางจากปากเขาเขี้ยวหมาป่า…”“อะไรนะ?”เสิ่นลั่วเยี่ยนสีหน้าเปลี่ยนไป ไม่โต้เถียงกับหยุนเจิงต่อไป เปลี่ยนมานั่งดูภาพแผนที่ข้างๆ หยุนเจิงแทนหยุนเจิงทำเครื่องหมายไว้ที่ปากเขาเขี้ยวหมาป่าและหุบผาชันช่องลมไว้แล้วเสิ่นลั่วเยี่ยนดูก็เห็นปากเขาเขี้ยวหมาป่าทันที“เหมือนที่ข้าคิด!”เสิ่นลั่วเยี่ยนกล่าวอย่างดีใจ “เราสร้างกับดัก
“ตรงนี้!”ใบหน้าของหยุนเจิงเต็มไปด้วยรอยยิ้มแล้วชี้ไปที่ภาพแผนที่“เมืองสู้ฉวี?”เสิ่นลั่วเยี่ยนไม่เข้าใจ “ทำไมถึงทำเครื่องหมายที่เมืองสู้ฉวีอีกแล้วล่ะ?”“โง่!”หยุนเจิงเคาะศีรษะของเสิ่นลั่วเยี่ยนเบาๆ “ถ้าทหารม้าเป่ยหวนจะบุกมาจากปากเขาเขี้ยวหมาป่า ทำไมพวกเขาต้องโจมตีซั่วฟางด้วย โจมตีตลอดทางตอนใต้ไปยังเมืองสู้ฉวีที่อ่อนแอกว่าไม่ดีกว่าหรือ? ”ทหารรักษาการณ์เมืองสู่ฉวีมีเพียงห้าพันนายเท่านั้น!แต่ทหารฝั่งซั่วฟางมีเท่าใดกัน?นั่นมันแสนกว่านานเชียวนะ!แม้ว่าจะเป็นทหารทั่วไปทั้งหมด แต่จำนวนคนก็กดเป่ยหวนได้อย่างแน่นอนนอกจากนั้น เมืองสู้ฉวีซึ่งเป็นกองหลังยังจะต้องตุนเสบียงไว้มากมายด้วยเมืองสู้ฉวีอยู่ห่างจากปากเขาเขี้ยวหมาป่าเพียงสามร้อยกว่าลี้เท่านั้นทหารม้าเป่ยหวนจู่โจมด้วยความเร็วเต็มกําลัง เพียงแค่หนึ่งวัน ก็สามารถฆ่าเมืองสู้ฉวีได้แล้ว ที่อื่นๆ ไม่สามารถเข้ามาสนับสนุนได้ทันเลยด้วยซ้ำ!หากกองทหารซั่วฟางกล้าออกเมืองมาหยุดการโจมตี พวกเขาก็จะมีตกอยู่ในแผนการของเป่ยหวน!ดังนัน หากกองทหารเป่ยหวนเข้ามาจากปากเขาเขี้ยวหมาป่าแล้วตรงไปที่เมืองสู้ฉวีนั้น จะเป็นทางที่ดีที่สุด!เป่ยหวนแ