Share

บทที่ 39

Author: เหลียงซานเหลากุ่ย
last update Last Updated: 2024-02-26 18:09:23
กลางดึก

พอมาถึงที่พักที่ทางต้าเฉียนจัดแจงให้ ปานปู้ยังคงไม่สามารถกลืนโทสะลงท้องได้

วันนี้หากไม่มีองค์ชายหกนั่นมาก่อความวุ่นวาย พวกต้าเฉียนต้องหน้าแตกหมอไม่รับเย็บอย่างแน่นอน ส่วนตนก็จะบรรลุเป้าหมายในการแสดงอานุภาพต่อชาวต้าเฉียนได้

องค์ชายหกสมควรตายยิ่ง!

กล้าทำให้พวกเขากลายเป็นคนที่หน้าแตกหมอไม่รับเย็บ ทำให้พวกเขาเป็นฝ่ายถูกกระทำแทน

ช่างน่าชังยิ่งนัก!

ได้ยินมาว่าองค์ชายหกของต้าเฉียนนี้เป็นเศษสวะไร้ประโยชน์ เหตุใดจึงมีปัญญาทำเรื่องเช่นนี้?

บันทึกโบราณของราชวงศ์ต้าเฉียนมี...รูบิคนั่นจริงหรือ

แต่นั่นเป็นสิ่งที่ตนคิดค้นได้โดยบังเอิญจริงๆ!

หรือว่า คนในราชวงศ์ต้าเฉียนคิดล้ำหน้าตนไปแต่แรกแล้วจริงๆ

“ฉึบ!”

ขณะที่ปานปู้กำลังกลัดกลุ้มใจ ด้านนอกมีเสียงผิดปกติดังขึ้น

มีมือสังหาร?

สีหน้าปานปู้แปรเปลี่ยน เปิดประตูออกไปทันที

เขาเพิ่งเปิดประตู องครักษ์ที่เฝ้าประตูก็มาถึงปากประตูแล้ว

“ท่านราชครู เมื่อครู่มีคนยิงลูกธนูมา ด้านบนยังมีจดหมายฉบับหนึ่งด้วยขอรับ!”

ขณะที่องครักษ์พูด ก็รีบยื่นลูกธนูและจดหมายฉบับนั้นให้ทันที

“แล้วคนล่ะ”

ปานปู้ถาม

“มองไม่เห็นขอรับ”

องครักษ์ส่ายหน้าช้าๆ

“ข้ารู้แ
Locked Chapter
Continue to read this book on the APP

Related chapters

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 40

    เสียเวลานอนของข้า!โชคดีที่ตอนนี้ยังไม่ใช่ฤดูหนาวหากเป็นฤดูหนาว เขาไม่อยากจะลุกออกจากเตียงเลยจริงๆตอนที่มาถึงด้านนอกตำหนักใหญ่ที่จัดการประชุมเช้า มีขุนนางใหญ่มากมายรวมตัวกันอยู่เพื่อรอเข้าร่วมประชุมเช้า“องค์ชายหก วันนี้หากได้รับพระราชทานรางวัลแล้ว ต้องเชิญข้าดื่มสุราสักหลายจอกหน่อยแล้ว!”“ใช่แล้ว ใช่แล้ว! เมื่อวานข้ายังดื่มกับองค์ชายหกไม่ถึงใจเลย”“องค์ชายหกมีคุณงามความดีในการเรียกคืนดินแดน ต้องได้รับรางวัลไม่น้อยเป็นแน่!”“คุณงามความดีขององค์ชายหก เพียงพอแล้วต่อการบันทึกนามลงในตำราประวัติศาสตร์…”ครั้งนี้ มีขุนนางใหญ่มากมายในราชสำนักที่เป็นคนเข้ามาทักทายเขาอวี้กั๋วกงเซียวว่านโฉวถึงขั้นตบไปที่บ่าของหยุนเจิงอย่างโอ่อ่าผ่าเผย “องค์ชายหก จากนี้ไปหากมีใครกล้ามาบอกว่าเจ้าไร้ประโยชน์อีก ข้าจะฉีกปากคนผู้นั้นเสีย!”เรียกคืนดินแดน เป็นความหวังใจของแม่ทัพเฒ่าอย่างพวกเขาอยู่แล้วพอถึงวัยเช่นพวกเขาแล้ว เดิมคิดว่าคงไม่มีโอกาสเห็นวันที่เรียกคืนดินแดนที่สูญเสียไปนั้นกลับมาได้ คิดไม่ถึงว่า แผ่นดินผืนนั้น กลับถูกหยุนเจิงใช้วิธีเช่นนี้เรียกกลับคืนมาได้“ขอบคุณอวี้กั๋วกงมาก ขอบคุณทุกท่านม

    Last Updated : 2024-02-26
  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 41

    ผู้คนเงียบเสียงลง ทันใดนั้นก็ไม่รู้ว่าจะว่ากล่าวเช่นไรอีก“ฝ่าบาท องค์ชายหกมีคุณงามความดีที่ยิ่งใหญ่จริง!”สวีสือฝู่ยืนขึ้นมา “ทว่า กระหม่อมคิดว่า ตอนนี้เป่ยหวนเพียงพูดคืนดินแดนที่สูญเสียไปอย่างปากเปล่า เรื่องนี้นับว่ายังไม่ได้รับข้อสรุปชั่วคราว! ต่อให้ฝ่าบาทใคร่จะแต่งตั้งองค์ชายหกเป็นอ๋อง ก็ต้องรอให้ได้รับข้อสรุปในตอนท้ายแล้วค่อยว่ากันใหม่พ่ะย่ะค่ะ!”“คำพูดนี้ของจิ้วกั๋วกงมีเหตุผล!”“สมควรเป็นเช่นนี้!”“กล่าวอย่างยอมถอยให้หมื่นก้าว อย่างน้อยก็ต้องรอให้ลงนามหนังสือข้อตกลงการคืนดินแดนก่อนค่อยว่ากัน”“ใช่แล้วๆ ตอนนี้หากจะฝ่ากฎแต่งตั้ง องค์ชายหกเป็นอ๋อง ยังเร็วเกินไปมากนัก…”ผู้คนเห็นด้วยตามๆ กัน“เป็นเพราะเสด็จพ่อยังไม่สร่างเมาหรือไม่…”และในเวลานี้ มีเสียงบ่นงึมงำดังขึ้นมาทันใดนั้น ผู้คนทะยอยกวาดสายตาไปยังแถวท้ายสุดพระพักตร์ของจักรพรรดิเหวินก็กระตุก จ้องไปที่หยุนเจิงที่อยู่ตรงมุม อย่างน่าโกรธและน่าขัน “เจ้าหก เมื่อครู่เจ้าว่าอะไรนะ”“หา?”หยุนเจิงเงยหน้าขึ้นมาทันที แสร้งทำเป็นจ้องไปยังจักรพรรดิเหวินกับผู้คนอย่างลุกลี้ลุกลน จากนั้นก็แสร้างทำท่าหงอยๆ พูดติดๆ ขัดๆ ว่า “ลูก ไ

    Last Updated : 2024-02-26
  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 42

    พอได้ยินคำพูดของจักรพรรดิเหวิน เหล่าขุนนางก็เก็บเสียงเงียบกริบมารดาสิ เรื่องนี้ใครจะรู้!ที่เป่ยหวนคิด แน่นอนว่ายิ่งมากยิ่งดีสิ!ปัญหาไม่ใช่เรื่องที่เป่ยหวนอยากได้เท่าไหร่ ปัญหาคือต้าเฉียนให้ได้แค่ไหน สรุปแล้วจุดขีดสุดของต้าเฉียนอยู่ตรงไหนต่างหาก!นี่ต่างหากที่เป็นปัญหา!ในขณะที่ทุกคนไม่รู้ว่าจะเปิดปากพูดเช่นไร เซียวว่านโฉวเดินออกมาพูดว่า “มอบเสบียงให้พวกเขาสักหน่อย แค่คนของพวกเขาไม่หิวตายก็พอแล้ว! หากอยากได้มากกว่านั้น ก็นำทหารรบมาแลก!”เซียวว่านโฉวเป็นฝ่ายสนับสนุนการรบ เขาไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งกับการช่วยเหลือเป่ยหวนด้านเสบียงกรังแต่ในเมื่อจักรพรรดิเหวินได้ตัดสินใจไม่เปิดศึกแล้ว เขาเองก็ไม่สามารถว่าอะไรได้ในใจเขาก็เข้าใจดี หากเวลานี้เปิดศึกกับเป่ยหวนนั้นไม่เป็นประโยชน์กับต้าเฉียนเลยสักนิด“เกรงว่าเป่ยหวนจะไม่เรียกร้องมากกว่านี้น่ะสิ!”จักรพรรดิเหวินถอนหายใจยาวเฮือกหนึ่ง กลัดกลุ้มพระทัยเป็นอย่างมากเช่นกัน“เสด็จพ่อ ลูกคิดว่า หากเป่ยหวนยินยอมลงนามบนสัญญาคืนดินแดนที่เราเสียไป ให้เสบียงพวกเขามากน้อยก็ไม่เป็นไรพ่ะย่ะค่ะ!”เวลานี้ องค์ชายสี่หยุนถิงก็ออกมาเสนอความเห็นคำพูดของอ

    Last Updated : 2024-02-26
  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 43

    หลังจากกลับถึงบ้านแล้วหยุนเจิงก็นอนชดเชยก่อนเลยแน่นอนว่า การนอนชดเชยนั้นเขาเพียงทำให้ผู้อื่นดู ที่จริงเขากำลังเอนกายครุ่นคิดเรื่องต่างๆ อยู่บนเตียงผ่านไปเพียงครู่ ซินเซิงสาวใช้ที่เขาเพิ่งรับมาก็มาปลุกเขา บอกว่าคนจากทางวันนำของรางวัลมาให้แล้วหยุนเจิงมองสาวรับใช้คนนี้อดไม่ได้คิดว่า ไก่งามเพราะขนคนงามเพราะแต่งจริงๆก่อนหน้านี้สาวรับใช้คนนี้ตัวสกปรกมอมแมม ดูไปแล้วก็แค่นั้นแต่ตอนนี้พออาบน้ำให้สะอาดแล้วเปลี่ยนใส่อาภรณ์ใหม่ ทันใดนั้นก็รู้สึกว่าเด็กคนนี้สดใสเป็นอย่างมากทว่า เด็กสาวคนนี้เพิ่งจะอายุได้สิบหกปี ยังไม่ถึงวัยแรกแย้มอย่าเต็มตัวแม้ว่าหยุนเจิงรู้สึกตัวเองก็สมควรจะได้ใช้ชีวิตเสเพลดั่งองค์ชาย แต่การเป็นคนรุ่นใหม่ที่ดีนั้น เขาไม่ควรคิดไม่ดีไม่ร้ายกับเด็กสาวคนนี้อืม เลี้ยงไว้อีกหน่อยแล้วกัน!ทันใดนั้นในสมองของหยุนเจิงก็เกิดความคิดเช่นนี้ขึ้นความคิดเช่นนี้ทำให้หยุนเจิงสะดุ้งโหยงเวรเอ้ย!ที่แท้เราก็เป็นชั่วร้ายเหมือนกัน!เอ๋ ไม่ใช่สิ!น่าจะเป็นสัญชาตญาณของลูกพี่ผู้เป็นเจ้าของร่างเดิมที่ยังหลงเหลืออยู่!ต้องใช่แน่ๆ!หยุนเจิงหาเหตุผลที่เหมาะสมแก่ตัวเอง จากนั้นจึงนำซินเ

    Last Updated : 2024-02-26
  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 44

    “ค่อยยังชั่ว”เยี่ยจื่อพยักหน้าเล็กน้อย “งานแต่งนี้แม้จะมีคนจากทางวังคอยจัดแจง แต่อย่างไรเสียองค์ชายหกเป็นถึงองค์ชาย มีรับก็ต้องมีแลก มีที่ให้ใช้เงินอยู่ไม่น้อยจริงๆ”หยุนเจิงพยักหน้าเล็กน้อยจากนั้นก็พูดต่อว่า “พี่สะใภ้ ที่จวนข้ายังมีของขวัญอีกบางส่วน เดี๋ยวเจ้าช่วยข้าเอาไปขายแลกเงินเสียเถอะ!”เยี่ยจื่อตะลึงเล็กน้อยแล้วก็ถามขึ้นอย่างฉงนใจว่า “องค์ชายไม่กลัวข้าแอบเก็บไว้เองหรือ”“ข้าเชื่อว่าพี่สะใภ้ไม่ใช่คนเช่นนั้น”หยุนเจิงหัวเราะเหอะๆ “อีกอย่าง ข้ากับลั่วเยี่ยนก็จะแต่งงานกันอยู่แล้ว ของของข้าก็เป็นของของนั้นมิใช่หรือ พี่สะใภ้กับลั่วเยี่ยนดีต่อกันเช่นนี้ ไม่มีทางละโมบเงินของนางหรอกใช่ไหม”เสิ่นลั่วเยี่ยนเบะปาก แค่นเสียงเบากล่าวว่า “ข้าว่านะ เจ้าคงกลัวว่าเจ้าไปขายเองจะเสียหน้า ก็เลยให้พี่สะใภ้ของข้าไปช่วยเจ้าจัดการเรื่องนี้สิท่า!”“แค่กๆ…”หยุนเจิงไอแห้งสองที แล้วก็แสร้งทำเหมือนคนโดนเปิดโปงความคิดเยี่ยจื่อเขม่นเสิ่นลั่วเยี่ยนไปทีหนึ่ง ส่งสัญญาณไม่ให้นางพูดจาเลอะเลือน ขณะเดียวกันก็ยิ้มพยักหน้า “ท่านแม่ให้ข้ามาก็เพื่อมาช่วยอยู๋แล้ว ในเมื่อองค์ชายมั่นใจในตัวข้าเช่นนี้ เรื่องนี้ก็

    Last Updated : 2024-02-26
  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 45

    พอได้ยินเสียงของเกาเหอ คนที่กำลังดึงกล่องลมไม่แม้แต่จะหันกลับมามองสักนิด แล้วกล่าวขึ้นอย่างแช่มช้าว่า “เจ้าจำผิดคนแล้ว”“ไม่มีทาง!”เกาเหอรีบขึ้นไปตรงหน้า พูดขึ้นอย่างมั่นใจว่า “ปีนั้นตอนอยู่ที่ซั่วเป่ย ท่านยังเคยแสดงฝีมือการขี่ม้าและยิงธนูต่อหน้าพระพักตร์ฝ่าบาท ได้รับคำชมจากฝ่าบาทด้วย!”“เจ้าจำผิดคนแล้ว”ตู้กุยหยวนพูดขึ้นอีกครั้ง แล้วดึงกล่องลมของตนต่อไปเกาเหอยังอยากจะพูดต่อ แต่หยุนเจิงหยุดเขาไว้ “เจ้ารู้จักคนผู้นี้”“อื้อ!”เกาเหอพยักหน้า “เดิมเขาเป็นผู้บัญชาการกองทหารโลหิต!”ทหารโลหิต?หยุนเจิงถามขึ้นอย่างสงสัย “ทหารโลหิตคืออะไรรึ?”“แม้แต่ทหารโลหิตเจ้าก็ไม่รู้จักหรือ”เสิ่นลั่วเยี่ยนมองไปยังหยุนเจิงอย่างดูถูก อดไม่ได้กระแหนะกระแหนเขาขึ้นในใจเขาไม่ได้พูดปาวๆ ว่าจะไปซั่วเป่ยหรอกหรือแม้แต่ทหารโลหิตเขาก็ไม่รู้จัก?เยี่ยจื่อยิ้มแล้วกล่าวว่า “ทหารโลหิตเป็นหน่วยที่ยอดเยี่ยมที่สุดของกองทัพในมณฑลทางเหนือ ว่ากันว่ามีคนน้อยกว่าห้าร้อยคนในกองทัพทหารโลหิต และเงื่อนไขในการเข้าร่วมกองทัพนี้นั้นโหดมาก”“ทุกครั้งที่พวกเขาออกรบจะมีโลหิตท่วมกาย จึงถูกเรียกว่าทหารโลหิตมาแต่ไหนแต่ไรแล

    Last Updated : 2024-02-26
  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 46

    ก่อนที่หยุนเจิงจะทะลุมิติมา เขาก็เป็นทหารมาก่อนเขาเชื่อว่าตนเองจะเข้าใจตู้กุยหยวนได้แม่ทัพที่กล้าหาญปานนั้นจะไม่มีใจนักรบได้อย่างไรเมื่อได้ยินคำพูดนี้ของหยุนเจิง เสิ่นลั่วเยี่ยนแทบจะลุกไปทุบสมองอันโง่เง่าเต่าตุ่นของเขาเสียเจ้าคนโง่เง่าเต่าตุ่น!ไม่ว่าจะเป็นตายอย่างไรเขาก็ยังจะดันทุรังหาความตายที่ซั่วเป่ยให้ได้ใช่หรือไม่?เขายืนกรานจะให้ตนเองเป็นหม้ายไปตลอดชีวิตเลยอย่างนั้นหรือตู้กุยหยวนเองก็ตกใจกับคำพูดของหยุนเจิงเช่นกัน ครู่หนึ่งเขาจึงส่ายหน้ายิ้มเจื่อนพลางกล่าวว่า “เรียนองค์ชายตามตรง ศึกการสู้รบเมื่อห้าปีก่อน ไม่เพียงแต่ทำให้ผู้น้อยแขนหักเท่านั้น แต่ยังทำลายความกล้าหาญของผู้น้อยไปด้วย! ผู้น้อยไร้ความกล้าหาญที่จะสู้รบแล้ว…”“เช่นนั้นก็เพิ่มความกล้าหาญ!”หยุนเจิงส่ายหน้า ชี้ไปที่เยี่ยจื่อที่อยู่ข้างๆ พลางกล่าวว่า “สามีของพี่สะใภ้ท่านนี้ก็ตายในสนามรบซั่วเป่ยเหมือนกัน เมื่อคืนข้าถามนางว่าเสียใจหรือไม่ที่ไม่ได้เห็นหน้าสามีเป็นครั้งสุดท้าย ข้าให้เจ้าทายว่านางตอบข้าว่าอย่างไร”ตอบเช่นไร?เสิ่นลั่วเยี่ยนรู้สึกประหลาดใจเมื่อคืนหยุนเจิงพูดคุยเรื่องนี้กับพี่สะใภ้ด้วยหรือ?ต

    Last Updated : 2024-02-26
  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 47

    หลังจากสั่งช่างตีเหล็กตีดาบเหมือนของเกาเหอให้เขาเล่มหนึ่งเพื่อเอาไว้เป็นอาวุธติดตัวเสร็จ หยุนเจิงก็ทิ้งแผนที่จวนเอาไว้ ก่อนจะพาคนสามคนจากไปในขณะที่กลับไปนั้น เสิ่นลั่วเยี่ยนมองหยุนเจิงด้วยสายตาอันประหลาดใจ“เจ้าก็ใช่ว่าจะไม่มีข้อดีเลยนะ!”ยากมากที่เสิ่นลั่วเยี่ยนจะเผยรอยยิ้มต่อหน้าหยุนเจิงเช่นนี้“ข้าก็แค่ไม่อยากให้ทหารที่เสียเลือดเสียเนื้อพลีชีพเพื่อต้าเฉียนเหล่านั้นต้องผิดหวังก็เท่านั้นเอง”หยุนเจิงส่ายหน้าเบาๆ และกล่าวด้วยความโกรธว่า “วันพรุ่งในที่ประชุม ข้าจะรายงานเรื่องนี้ต่อเสด็จพ่อ ข้าจะขอให้เสด็จพ่อตรวจสอบเรื่องนี้อย่างเคร่งครัด”“องค์ชาย ไม่ได้นะพ่ะย่ะค่ะ!” ทันใดนั้นเกาเหอส่งเสียงขึ้น“หือ?”หยุนเจิงหันไปมองเกาเหอ “เหตุใดถึงไม่ได้ เจ้าเองก็เป็นคนในกองทัพ หากเงินบำรุงขวัญของพี่น้องเจ้าโดนยักยอกไป เจ้าจะอยู่เฉยไม่ทำอันใดเลยอย่างนั้นหรือ”“ก็จริง!”เสิ่นลั่วเยี่ยนพยักหน้า กล่าวด้วยสายตาเคร่งขรึมเด็ดเดี่ยวว่า “คนที่มันยักยอกเงินบำรุงขวัญของเหล่าทหารที่พลีชีพไป มันสมควรตาย!”เกาเหอส่ายหน้าและกล่าวอย่างจริงจังว่า “องค์ชายทำเช่นนี้จะทำให้กระทบผลประโยชน์ของคนจำนวนมากได

    Last Updated : 2024-02-26

Latest chapter

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1310

    เมื่อเห็นทั้งสองคน ทหารยามที่อยู่หน้ากระโจมรีบคำนับ“ไม่ต้องมากพิธี!”หยุนเจิงโบกมือ แล้วพาเมี่ยวอินเข้าไปในกระโจมแม้ว่าทัวต๋าจะฟื้นสติได้สองสามวันแล้ว แต่สีหน้าของเขายังคงดูแย่มาก แทบไม่มีเลือดฝาด ดูเหมือนคนที่ใกล้สิ้นใจเต็มทีเมื่อเห็นทั้งสองคนเดินเข้ามา ทัวต๋าถามอย่างแผ่วเบา “หยุน... หยุนเจิง?”นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้พบกันแต่ทัวต๋าก็สามารถตัดสินได้ทันทีว่าผู้ที่อยู่ตรงหน้านี้คือจิ้งเป่ยอ๋อง หยุนเจิง“ใช่แล้ว!”หยุนเจิงพยักหน้า พร้อมจ้องทัวต๋าด้วยสายตาเย็นชา “เจ้าคงได้ยินข่าวว่ากองทัพของเจ้าพ่ายแพ้ทั้งสายแล้วใช่หรือไม่? หากยังไม่ทราบ ข้าก็ยินดีบอกให้เจ้าฟัง”ทัวต๋ารู้ข่าวการพ่ายแพ้ของกองทัพแนวหน้าแล้วจริงๆอีกทั้ง ยังรู้ด้วยว่าพวกเขาพ่ายแพ้อย่างไรแม้ว่าเขาจะไม่เคยออกจากกระโจม แต่ก็ได้ยินทหารยามที่อยู่นอกกระโจมพูดถึงเรื่องนี้ไม่น้อย“เจ้าต้องการ…ให้ข้ายอมจำนนหรือ?”ทัวต๋าพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา หายใจรัว พร้อมกับคาดเดาจุดประสงค์ของหยุนเจิงได้“ใช่แล้ว!”หยุนเจิงพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ข้าจะไม่พูดอ้อมค้อมกับเจ้า ตราบใดที่เจ้ายอมรับเงื่อนไขของข้า ข้าก็จะให้โอกาสเจ้าแ

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1309

    เช้าวันรุ่งขึ้น หยุนเจิงก็ได้รับข่าวว่าหวังชี่ฟื้นแล้ว“ดียิ่งนัก!”หยุนเจิงตะโกนด้วยความดีใจ ก่อนจะรีบเรียกเมี่ยวอินว่า “เร็ว ไปดูหวังชี่กัน!”พูดจบ หยุนเจิงก็คว้ามือเมี่ยวอินแล้ววิ่งไปยังกระโจมที่หวังชี่อยู่โดยไม่รอคำตอบเมื่อพวกเขามาถึงกระโจม ด้านในก็เต็มไปด้วยผู้คนทั้งหมดเป็นทหารใต้บัญชาของหวังชี่“พอแล้ว พอแล้ว! ออกไปกันก่อนเถอะ ข้างในคนแน่นขนาดนี้ เหลวไหลเกินไปแล้ว?”หยุนเจิงไล่ทหารที่ล้อมอยู่ในกระโจมให้ออกไปทั้งหมด แล้วให้เมี่ยวอินจับชีพจรของหวังชี่เพื่อตรวจดูว่าอาการบาดเจ็บของเขาเริ่มคงที่แล้วหรือยังหวังชี่รู้สึกซาบซึ้งใจจนพูดออกมาด้วยเสียงแผ่วเบา “ขอบ…ขอบคุณฮูหยินเมี่ยว…”“พอแล้ว อย่าเพิ่งพูดอะไรตอนนี้!”เมี่ยวอินขัดหวังชี่ก่อนจะตั้งใจจับชีพจรของเขาต่อหยุนเจิงพยักหน้าให้หวังชี่เล็กน้อย แต่ไม่ได้พูดอะไรหลังจากนั้นไม่นาน เมี่ยวอินก็ปล่อยข้อมือของหวังชี่ พร้อมกับถอนหายใจโล่งอกก่อนจะพูดว่า “ชีวิตเจ้าถือว่ารอดมาได้แล้ว! แต่คราวนี้เจ้าบาดเจ็บหนักมาก คงต้องใช้เวลาอีกนานกว่าจะฟื้นตัว”หวังชี่ยิ้มบางๆ ก่อนจะกล่าวขอบคุณเมี่ยวอินอีกครั้ง “ขอบ…ขอบคุณฮูหยินเมี่ยวอิน…ที่ช่ว

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1308

    หวังชี่ยังคงอยู่ในอาการหมดสติ และมีไข้สูงที่ไม่ลดลงเขาเองก็ยังไม่แน่ใจว่าไข้ของหวังชี่เกิดจากร่างกายที่อ่อนแอเกินไป หรือเพราะบาดแผลติดเชื้อเมี่ยวอินเตรียมยาต้มให้คนคอยป้อนหวังชี่ แต่จนถึงตอนนี้ ไข้ของหวังชี่ก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะลดลงขณะที่หยุนเจิงเดินเข้ามาในกระโจม เมี่ยวอินก็กำลังตรวจอาการของหวังชี่อยู่“เป็นอย่างไรบ้าง?”หยุนเจิงถามด้วยความกังวล“ก็เหมือนเดิม ขึ้นอยู่กับโชคชะตาของเขาแล้ว!”เมี่ยวอินลุกขึ้นด้วยความอ่อนใจ “หากไข้ของเขาลดลงได้ ก็น่าจะรอดชีวิตได้”สิ่งที่ทำได้ นางได้ทำไปหมดแล้วตอนนี้ทุกอย่างขึ้นอยู่กับเจตจำนงในการมีชีวิตรอดของหวังชี่“เข้าใจแล้ว!”หยุนเจิงถอนหายใจเบาๆ “ไปเถิด ไปเดินเล่นข้างนอกกับข้าหน่อย”เมี่ยวอินพยักหน้าเล็กน้อย ก่อนถามว่า “ท่านไปดูทัวต๋ามาหรือยัง?”ทัวต๋าฟื้นสติแล้วแต่ร่างกายยังคงอ่อนแอมาก“ยังไม่ได้ไปเลย!”หยุนเจิงส่ายหน้าแล้วยิ้ม “ให้เขาฟื้นตัวก่อนเถิด ถ้าข้าไปคุยกับเขาแล้วเขาโมโหตายไป ข้าก็เสียเวลาพูดเปล่าๆ!”เมี่ยวอินชะงักเล็กน้อย ก่อนจะยิ้มบางๆ “นั่นสิ! ขนาดคนที่แข็งแรงยังแทบทนไม่ไหวกับเงื่อนไขของท่าน แล้วคนที่ใกล้ตายแบบเขายิ

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1307

    ขณะที่หยุนเจิงได้รับข้อความตอบกลับจากเจียเหยา เขากำลังตรวจสอบรายงานการรบที่ตู๋กูเช่อส่งมาข้อความตอบกลับของเจียเหยานั้นเรียบง่ายมากมีเพียงสองคำรับทราบ!และไม่ได้เขียนเป็นรหัสลับเพียงสองคำนี้ ก็ไม่มีความจำเป็นต้องใช้รหัสลับหยุนเจิงวางข้อความของเจียเหยาทิ้งไว้ข้างๆ และตรวจสอบรายงานการรบของตู๋กูเช่อต่อองค์ชายรองแห่งโฉวฉือ หยวนเว่ย นำกองกำลังป้องกันด่านเทียนฉงทิ้งป้อมหลบหนีในปัจจุบัน จั่วเริ่นได้นำทัพเข้าไปประจำการที่ด่านเทียนฉงแล้วแต่ผลลัพธ์จากการไล่ล่าโหลวอี้ของตู๋กูเช่อและพวกกลับไม่ดีนักแม้ว่านักรบภูตสิบแปดจะสามารถสร้างความขัดแย้งระหว่างกองทัพโฉวฉือและแคว้นต้าเย่ว์ได้สำเร็จ แต่กลับไม่ได้ทำให้เกิดความโกลาหลในวงกว้าง ทำให้ศัตรูสูญเสียกำลังเพียงสามพันกว่านายเท่านั้นขณะที่ตู๋กูเช่อนำทัพไล่ตาม โหลวอี้ได้นำกองกำลังถอนตัวไปยังพื้นที่ใกล้ชายแดนแคว้นต้าเย่ว์แล้วตู๋กูเช่อนำทัพโจมตี ทำลายศัตรูได้สองพันนาย และจับเชลยได้มากกว่าสี่พันคนกองกำลังใหญ่ของโฉวฉือและแคว้นต้าเย่ว์ถูกโหลวอี้พากลับเข้าไปในแคว้นต้าเย่ว์ตู๋กูเช่อกังวลเรื่องเสบียง จึงหยุดการไล่ล่า และหันไปควบคุมเชลยศึกกล

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1306

    ขณะเดียวกัน ผู้เลี้ยงเหยี่ยวที่ได้รับข่าวสารก็ควบม้ามาอย่างรวดเร็ว“องค์หญิง! ข่าวจากฝั่งจิ้งเป่ยอ๋องมาถึงแล้ว!”ผู้เลี้ยงเหยี่ยวมาถึงเบื้องหน้าพวกเขา และส่งข้อความที่ได้รับมาอย่างรวดเร็วเจียเหยารับข้อความนั้น แล้วใช้ไฟจากไม้ขีดจุดกองหญ้าแห้งเล็กๆ เพื่อเริ่มถอดรหัสข้อความกองกำลังของเราสลายกองทัพศัตรูแล้ว ให้รีบมาจับเชลยทางตะวันตกของแม่น้ำหยางฉางข้อความของหยุนเจิงนั้นสั้นกระชับอย่างไรก็ตาม ขณะที่เจียเหยาอ่านข้อความ นางกลับนิ่งอึ้งไปเจียเหยาถูตาอย่างแรง ก่อนจะตรวจสอบข้อความอีกครั้งอย่างละเอียด กลัวว่าตนเองจะถอดรหัสผิดแต่ไม่ว่านางจะถอดรหัสอีกกี่ครั้ง เนื้อหาก็ยังเหมือนเดิมหยุนเจิงนำกองกำลังสลายทัพเจ็ดหมื่นของกุ่ยฟางได้แล้วหรือ?นี่…เป็นไปได้อย่างไร?กุ่ยฟางยังมีกองกำลังถึงเจ็ดหมื่นไม่ใช่หรือ!หยุนเจิงมีกำลังพลแค่หมื่นกว่านาย และในจำนวนนั้นมีทหารม้าเพียงห้าพันเท่านั้น!พวกเขายังไม่ทันโจมตี ยังไม่ได้สมทบกับหยุนเจิงเพื่อโจมตีศัตรู หยุนเจิงก็สลายกองทัพศัตรูได้แล้ว?นี่มันบ้าไปแล้ว!หยุนเจิงทำเช่นนี้ได้อย่างไรกัน?ถึงแม้ขวัญกำลังใจของกุ่ยฟางจะตกต่ำ ก็ไม่น่าจะถูกทำลายลงได

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1305

    บนทุ่งกว้างไกลสุดลูกหูลูกตา อวี่ซื่อจงและเจียเหยายังคงนำทัพบุกโจมตีพวกเขาใช้กลยุทธ์ในการเดินทัพเช่นเดียวกัน โดยให้กองหน้าเตรียมหญ้าแห้งสำหรับกองหลังอย่างไรก็ตาม เมื่อรวมกำลังพลของกองทหารมณฑลเหนือและเป่ยหวนเข้าด้วยกัน ก็มีจำนวนถึงสองหมื่นนายทำให้ความเร็วในการบุกโจมตีของพวกเขาช้าลงจากความเร็วในปัจจุบัน พวกเขาต้องใช้เวลาอีกประมาณหนึ่งวันถึงจะไปสมทบกับหยุนเจิงได้เมื่ออวี่ซื่อจงนำกองทหารม้า 10,000 นายมาถึงทุ่งหญ้าเล็กๆ ที่เจียเหยากล่าวถึง ทหารกองทหารมณฑลเหนือก็เริ่มปฏิบัติการกันเองโดยไม่ต้องรอคำสั่งบางคนเริ่มปล่อยม้าให้เล็มหญ้า บางคนเริ่มเก็บเกี่ยวหญ้าแห้งเพื่อเตรียมไว้ให้กองกำลังเป่ยหวนที่ตามมาบางส่วนรวบรวมถุงน้ำของทุกคนแล้ววิ่งไปยังต้นน้ำเพื่อเติมน้ำอวี่ซื่อจงหยุดพัก หยิบข้าวคั่วกำมือเล็กๆ ใส่ปากเคี้ยวอย่างช้าๆ ขณะเดียวกันก็ครุ่นคิดในใจหลังจากผ่านไปกว่าชั่วโมง กองกำลังเป่ยหวนที่เป็นกองหลังก็มาถึงขณะนั้น กองทหารมณฑลเหนือได้เตรียมหญ้าแห้งให้ม้าศึกของพวกเขาเรียบร้อยแล้วเมื่อเจียเหยามาหา อวี่ซื่อจงยังคงจมอยู่ในความคิดของตัวเอง“แม่ทัพอวี่ ท่านกำลังคิดอะไรอยู่หรือ?”เจี

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1304

    ทัวต๋า?หยุนเจิงสะดุดใจ ก่อนจะสั่งกองทหารองครักษ์ว่า “ไปตามเหมิงตัวมา ให้เขาตรวจดูว่าคนผู้นั้นคือทัวต๋าหรือไม่!”กองทหารองครักษ์รับคำสั่งแล้วรีบรุดไปไม่นาน หยุนเจิงก็ได้รับคำตอบที่ชัดเจนคนผู้นั้นก็คือทัวต๋า ราชาแห่งกุ่ยฟางจริงๆรถม้าของทัวต๋าพลิกคว่ำระหว่างการถอนกำลัง กองทหารกุ่ยฟางที่หนีตายอย่างลนลานอาจไม่ได้สังเกตเห็นทัวต๋าเลยทัวต๋าที่หมดสติถูกหามเข้ามาเมี่ยวอินเงยหน้ามองหยุนเจิงแล้วถาม “ให้ข้าตรวจดูอาการของทัวต๋าก่อนหรือไม่?”“อย่าเพิ่งไปสนใจเขา!”หยุนเจิงส่ายหน้าเบาๆ “ช่วยหวังชี่รักษาบาดแผลก่อน!”ความพ่ายแพ้ครั้งนี้ของกุ่ยฟาง นับได้ว่าถูกทำลายจนหมดสิ้นตามสถานการณ์ปกติ ต่อให้ทัวต๋าตาย กุ่ยฟางก็ควรจะยอมแพ้แล้วหากกุ่ยฟางยังไม่ยอมแพ้ เขาก็ยังมีวิธีจัดการกุ่ยฟางต่อให้ทัวต๋าตาย ยังมีทัวฮวนและเหมิงตัวอยู่มิใช่หรือ?เพียงแต่ถ้าทัวต๋ายังมีชีวิตอยู่ อาจช่วยลดความยุ่งยากได้บ้างแต่ในใจเขา ชีวิตของทัวต๋าไม่มีค่ามากเท่าชีวิตของหวังชี่เลย“เข้าใจแล้ว!”เมี่ยวอินไม่พูดอะไรอีก และลงมือใช้เส้นด้ายจากลำไส้แกะเย็บบาดแผลของหวังชี่ที่ทำความสะอาดแล้วผ่านไปเพียงหนึ่งชั่วโมง เมี่

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1303

    จนกระทั่งฟ้าสว่างจ้า สนามรบที่อยู่ไกลออกไปจึงค่อยๆ สงบลงทหารกุ่ยฟางหลบหนีอย่างไร้ทิศทาง หยุนเจิงก็ไม่ได้ส่งคนไล่ตามในตอนนี้ ทหารกุ่ยฟางตกอยู่ในอาการคุ้มคลั่งพวกทหารเหล่านั้นไม่มีความหวาดกลัวหลงเหลืออยู่ มีเพียงความคิดที่จะเอาชีวิตรอดใครที่ขวางทางพวกเขา พวกเขาก็พร้อมจะสู้ตายถ้าส่งคนไปไล่ตามตอนนี้ พวกเขาจะต้องสูญเสียมากปล่อยให้พวกมันหนีไปก่อน!อย่างไรเสีย พวกมันก็ถอนกำลังอย่างลนลาน แถมยังไม่มีเสบียงติดตัวรอจนพวกมันหมดแรงวิ่ง แล้วค่อยส่งคนไปจับตัวถึงตอนนั้น อาจไม่ต้องจับตัวพวกมันด้วยซ้ำ แค่พวกทหารที่หนีแตกพ่ายรู้ว่าการยอมแพ้จะทำให้พวกเขามีข้าวกิน พวกมันก็จะเข้ามายอมจำนนเองหยุนเจิงวางกล้องส่องทางไกลลง แล้วหันไปสั่งชวีจื้อว่า “รีบพาคนไปกวาดล้างสนามรบ ฆ่าศัตรูที่บาดเจ็บสาหัสให้ตายอย่างรวดเร็ว! ระวังแยกแยะคนของเราให้ดี!”“ขอรับ!”ชวีจื้อรับคำสั่ง แล้วนำคนเข้าไปยังสนามรบที่เต็มไปด้วยความพินาศคนของพวกเขาจะผูกผ้าขาวไว้รอบข้อเท้า เพียงแค่เลิกกางเกงขึ้นมาก็จะมองเห็นแม้ว่าจะเสียเวลาอยู่บ้าง แต่วิธีนี้ช่วยลดโอกาสที่จะฆ่าทหารบาดเจ็บฝ่ายตัวเองได้มากที่สุดขณะที่ชวีจื้อนำคนเข้

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1302

    เมื่อพวกเขาบุกเข้าไป ความโกลาหลในกองทัพกุ่ยฟางก็ยิ่งแพร่กระจายออกไปทหารที่ประสาทตึงเครียดถึงขีดสุดสูญเสียความเชื่อใจต่อคนรอบข้าง บนสมรภูมินั้นดูเหมือนว่าทุกแห่งหนจะเต็มไปด้วยศัตรู“เกิดอะไรขึ้น?”ชื่อเหยียนที่ได้ยินเสียงความวุ่นวาย รีบวิ่งออกมาจากกระโจม และเจอกับทหารที่หน้าตาตื่นตระหนกวิ่งมารายงาน“ฝ่าบาท ศัตรูบุกเข้ามาแล้ว! ทั่วทั้งค่ายมีแต่ศัตรู...”ทหารรายงานด้วยน้ำเสียงตื่นตระหนก“อะไรนะ?”ชื่อเหยียนถึงกับใจสั่นไหวในค่ายเต็มไปด้วยศัตรูอย่างนั้นหรือ?หรือศัตรูบุกโจมตีครั้งใหญ่จริงๆ?ชื่อเหยียนตกใจจนแทบทำอะไรไม่ถูก แต่พยายามบังคับตัวเองให้สงบ แล้วตะโกนสั่งเสียงดัง “ตีเกราะ! รีบตีเกราะเดี๋ยวนี้! ส่งคำสั่งไปยังทุกกอง ต้องสกัดศัตรูให้ได้ ฆ่าศัตรูแล้วไล่มันกลับไป!”ทันทีที่คำสั่งของชื่อเหยียนถูกส่งออกไป เสียงกลองดังกึกก้องไปทั่วค่าย“ตึง ตึง ตึง...”เสียงกลองที่ดังถี่ยิบเป็นสัญญาณบอกการโจมตีเมื่อได้ยินเสียงกลองดังนี้ กองทหารกุ่ยฟางก็เริ่มโจมตี “ศัตรู”ทว่าทุกครั้งที่พวกเขาโจมตี ความโกลาหลกลับยิ่งลุกลามเร็วขึ้นเมื่อได้ยินเสียงกลองถี่ยิบดังมาจากกองทัพกุ่ยฟาง ใบหน้าของหย

DMCA.com Protection Status