ไม่กี่วันหลังจากนั้น ตู้กุยหยวนพวกเขาเริ่มบุกโจมตีปราบโจรถึงแม้เสิ่นลั่วเยี่ยนจะนิสัยไม่ดี แต่ยังดีที่นางทำตามที่ตกลงเอาไว้เวลาไม่กี่วัน นางก็นำพาองครักษ์ประกบตัวนับสิบคนไปปราบโจร ระหว่างที่สู้รบอยู่นั้น นางก็สามารถเชื่อฟังคำสั่งได้สุยโจวมีโจรมากมายแต่ทว่า โจรหัวโจกที่ใหญ่ที่สุดก็คือพวกจ้าวเฮยหู่โจรอื่นๆ อย่าว่าแต่กลุ่มนับพันคนเลย แม้แต่กลุ่มนับร้อยคนยังมีน้อยพวกเขากำราบโจรด้วยกำลังคนที่ได้เปรียบกว่า ไม่มีโจรคนไหนสู้ได้เลยไม่กี่วัน จุดประสงค์ในการฝึกซ้อมทหารก็ลุล่วงไปด้วยดีที่สำคัญ ไม่มีคนบาดเจ็บเลย แถมยังได้โจรมาเพิ่มเป็นจำนวนสามสิบกว่าคนด้วยเดิมทีโจรพวกนี้ก็เป็นทหารของจวนขุนนาง แต่เพราะถูกตัดเงินจึงลาออก ทว่ากลับถูกจวนขุนนางหมายหัวว่าเป็นทหารหลบหนี จึงต้องตกระกำลำบากเป็นเช่นนี้แต่ทว่าพวกเขาไม่เคยทำเรื่องไม่ดี อย่างมากก็แค่ปล้นพวกทหารใจดำชอบปอกลอกคนอื่นเพื่อความร่ำรวยเท่านั้นเริ่มมีกลิ่นอายของการปล้นเศรษฐีเพื่อช่วยเหลือคนยากจนแล้ว“ข้างหน้าก็เป็นเขตหลินผิงแล้วสินะ?”หยุนเจิงมองไปที่ไกลจากรถม้า แล้วถามเยี่ยจื่อที่อยู่ข้างๆ“อืม ใช่แล้ว!”เยี่ยจื่อพยักหน้าหงึกๆ
เฝิงอวี้และจั่วเริ่นรู้ว่าเสิ่นลั่วเยี่ยนก็มีใจอยากฝึกซ้อมทหารเช่นกัน จึงได้มอบหมายโจรกลุ่มเล็กนี้ให้องครักษ์ใกล้ชิดของเสิ่นลั่วเยี่ยนไปจัดการแต่แล้ว พวกเขากลับประเมินโจรกลุ่มนี้ต่ำไปไม่รอให้เสิ่นลั่วเยี่ยนพวกเขารายงาน สิ่งที่ได้มาก็คือข่าวที่ว่าเสิ่นลั่วเยี่ยนพวกเขาถูกจับเป็นทั้งหมดบัดนี้ เฝิงอวี้และจั่วเริ่นได้ล้อมรอบหุบเขาไป๋ฮวาไว้แล้วแต่ทว่าเพราะเสิ่นลั่วเยี่ยนพระชายาคนนี้ตกอยู่ในมือของพวกโจร พวกเขาจึงไม่กล้าตัดสินใจทำอะไรบุ่มบ่ามหัวโจกของโจรกลุ่มนั้นบอกแล้วว่าหากจะให้พวกมันปล่อยตัวพระชายา ก็ให้หยุนเจิงผู้เป็นจิ้งเป่ยอ๋องไปเจรจาด้วยตนเอง!ให้เจ้าไปด้วยตนเอง?เยี่ยจื่อขมวดคิ้วสัมผัสได้ถึงความผิดปกติหุบเขาไป๋ฮวา!นั่นมันสถานที่ที่นัดเจอคนจวนเสิ่นไม่ใช่หรือ?หุบเขาไป๋ฮวามีโจรปรากฏตัวขึ้น ทั้งยังจับตัวเสิ่นลั่วเยี่ยนพวกเขาไว้ มิหนำซ้ำยังจะให้หยุนเจิงไปเจรจาด้วยตนเองด้วยคิดอย่างไรก็รู้สึกเหมือนเป็นกับดักคนพวกนั้นต้องการเอาเปรียบหยุนเจิง!“หรือว่าเรื่องที่เรานัดพบกันที่หุบเขาไป๋ฮวาถูกแพร่งพรายออกไป?”ในตาของเยี่ยจื่อสั่นวูบไหว สงสัยว่าจวนเสิ่นต้องมีไส้ศึกที่จักรพรรด
ควบม้าไปตลอดทาง ในที่สุดหยุนเจิงก็มาถึงหุบเขาไป๋ฮวากระท่อมของโจรหุบเขาไป๋ฮวาพวกนี้เรียบง่ายมากบอกว่าเป็นกระท่อม แต่ความจริงคือใช้หินตั้งเป็นกำแพงอยู่ข้างนอกถ้ำ จากนั้นทำประตูไม้ง่ายๆ เท่านั้นดูก็รู้ว่าโจรพวกนี้มีชีวิตความเป็นอยู่ไม่สู้ดีนักแต่ทว่าเพียงแค่โจรกระจอกๆ เช่นนี้กลับจับตัวเสิ่นลั่วเยี่ยนพวกเขาไว้ได้!เกรงว่า โจรที่เดิมครองกระท่อมนั่นคงถูกฆ่าไปหมดแล้วส่วนคนที่เหลืออยู่ที่นั่นน่าจะเป็นคนที่คิดจะเอาชีวิตของตน!มารดามันเถอะ!ประมาทเกินไป!ไม่คิดเลยว่าตระกูลเสิ่นจะมีไส้ศึก!“ข้าน้อยไม่สามารถปกป้องพระชายาไว้ได้ ขอองค์ชายทรงลงโทษด้วย!”เมื่อเห็นหยุนเจิง เฝิงอวี้และจั่วเริ่นต่างก็เผยสีหน้ารู้สึกผิดขอให้ลงโทษตน“ไม่ใช่ความผิดของพวกเจ้า นี่เป็นแผนการของคนอื่น”หยุนเจิงส่ายศีรษะเบาๆ แล้วถาม “ข้างในนั่นมีประมาณกี่คน?”“ไม่เกินยี่สิบคนขอรับ!” เฝิงอวี้รีบตอบน้อยเพียงนี้เชียวหรือ?หยุนเจิงขมวดคิ้วแน่นคนน้อยเพียงนี้ แต่กลับจับตัวเสิ่นลั่วเยี่ยนพวกเขาไว้ได้ ดูท่าแล้วฝีมือของคนกลุ่มนี้คงจะไม่ธรรมดา!ทำอย่างไรถึงจะช่วยเสิ่นลั่วเยี่ยนพวกเขาออกมาได้นะ?อีกอย่าง ยังต้องตร
ใบหน้าของคนคนนั้นซีดขาว ดูทรมานยิ่งกว่าบิดาที่ตายไปแล้วเสียอีกรู้สึกว่าเขาจะร้องไห้ออกมาได้ตลอดเวลาอย่างไรอย่างนั้นตอนนี้หยุนเจิงค่อนข้างมั่นใจแล้วว่า คนคนนี้เป็นโจรที่ถูกข่มขู่แน่นอนไม่แน่อาจจะมีคนชี้ธนูใส่เขาอยู่ข้างในถ้ำก็เป็นได้!จะว่าไปแล้ว ตัวบงการในถ้ำน่าจะไม่มีกำลังคนมากขนาดนั้นสินะ?หากไม่ได้จริงๆ ก็มีโอกาสที่จะลองสู้สักตั้งแล้ว“เช่นนั้นก็ให้ลูกพี่ของเจ้ามาคุยกันหน้าประตู!”หยุนเจิงเอ่ยแล้วสั่งการให้ฝูงชนวางคันธนูในมือลง เผยความจริงใจของตนคนคนนั้นปั้นสีหน้าลำบาก แล้วเอ่ยเสียงเจือร้องไห้ “ลูกพี่ให้ท่านอ๋องเข้ามาคุย…”“ข้าไม่ได้โง่เขลาปานนั้น!”สีหน้าของหยุนเจิงแย่ถึงขีดสุด “ไม่ก็ให้ข้าเห็นหน้าพระชายาก่อน! หรือไม่ก็ให้ลูกพี่ของเจ้าออกมาคุยหน้าประตู! ความอดทนของข้ามีจำกัด อย่าทำให้ข้าต้องลงมือ!”มารดามันเถอะ!คนยังไม่ทันได้เห็นเลยคิดจะให้ตนเข้าไปอีก?นี่มันต้องการเอาชีวิตตนชัดๆ!อีกอย่าง คนข้างในนั่นเป็นอะไรกันแน่?สิ่งที่ตนพูดอยู่ข้างนอก เขาต้องได้ยินอยู่แล้วสิ!แต่ทว่าเหตุใดเขายังต้อให้คนคอยส่งคำพูดอยู่หน้าประตูราวกับเป็นตัวถ่ายทอดคำพูดล่ะ?คนข้างในคงไม่ได
บริเวณข้างในถ้ำ ใบหน้าอันคุ้นเคยทั้งสองปรากฏตรงหน้าเขาเมี่ยวอิน!หมิงเย่ว์!วินาทีนี้ เมี่ยวอินกับหมิงเย่ว์กำลังนั่งอยู่ข้างๆ เสิ่นลั่วเยี่ยน แล้วมองหยุนเจิงด้วยสีหน้ายิ้มแย้มบนพื้นยังมีกลุ่มคนที่นอนราบพื้นอยู่“ข้า…”มุมปากของหยุนเจิงกระตุกเล็กน้อย เกือบสบถคำหยาบออกมาแล้วก็ได้!เขาก็ว่าเหตุใดตัวบงการที่อยู่ข้างในนี้ถึงไม่พูดไม่จา!ที่แท้ก็เป็นพวกนางสองคนนี่เอง!พวกนางนี่มันเยี่ยมยอดจริงๆ!ลำพังแค่คนสองคนก็ทำให้พวกเขาตื่นตระหนกถึงเพียงนี้“อุ๊บ…”เมื่อเห็นท่าทีหงุดหงิดของหยุนเจิงแล้ว ทั้งสองจึงอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา“หัวเราะอะไรกัน! รีบปล่อยคนซะ!”หยุนเจิงจ้องตาสตรีทั้งสองตาเป็นมัน แล้วตะโกนต่อคนที่อยู่นอกถ้ำว่า “เอาล่ะ ไม่ต้องตื่นตระหนกไป พวกเดียวกันหยอกล้อกันเอง!”พวกเดียวกัน?หยอกล้อ?เมื่อได้ยินคำพูดของหยุนเจิงแล้ว ผู้คนที่อยู่ข้างนอกถ้ำต่างก็มึนงงกันระนาวเกิดอะไรขึ้น?คนพวกนี้จับตัวพระชายาไปเพื่อหยอกล้อนั้นหรือ?หยอกล้อเช่นนี้กันได้ด้วยหรือ?เกาเหอรีบพาคนวิ่งเข้าไปเมื่อเขาเห็นเมี่ยวอินและหมิงเย่ว์ ก็อ้ำอึ้งอยู่ตรงนั้นเมื่อเห็นท่าทีอ้ำอึ้งของผู้คน ส
หยุนเจิงชี้ไปยังคนที่นอนราบอยู่บนพื้นยังไม่ได้สติอย่างหมดคำพูด“อืม”เมี่ยวอินพยักหน้ายิ้มๆ“เจ้ายังมีหน้ามาหัวเราะอีก?”หยุนเจิงมองบนใส่นาง “รีบทำให้พวกเขาฟื้นซะ!”“ไม่ต้อง”เมี่ยวอินยิ้มมุมปาก “อีกครึ่งชั่วยาม พวกเขาก็จะฟื้นขึ้นมาเอง”“ข้า…”หยุนเจิงชะงักงันเล็กน้อยคร้านที่จะเถียงกับเมี่ยวอินอีก จึงสั่งการเกาเหอ “รีบส่งคนกลับไปรายงานที ประเดี๋ยวฮูหยินจื่อเขาจะเป็นห่วงเอา!”“ขอรับๆ!”เกาเหอได้สติแล้วรีบวิ่งออกไปทันทีหยุนเจิงปลดเชือกให้กับเสิ่นลั่วเยี่ยนเสิ่นลั่วเยี่ยนกลับไม่ได้พุ่งเข้าไปหาเมี่ยวอินกับหมิงเย่ว์แต่อย่างใด เพียงแค่จ้องพวกนางทั้งสองราวกับเป็นไก่ชนอย่างไรอย่างนั้น“คนพวกนี้…”หยุนเจิงเงยหน้ามองโจรที่ตัวสั่นเทาอยู่“ท่านอ๋องไว้ชีวิตด้วย!”“ท่านอ๋อง พวกข้าถูกบังคับ!”“ขอร้องล่ะ ไว้ชีวิตพวกข้าเถอะ…”ตามด้วยสายตาที่มองมาของหยุนเจิง โจรนับสิบคนต่างพากันคุกเข่าอ้อนวอนขึ้นมา“เอาเถอะๆ!”หยุนเจิงโบกมือ แล้วสั่งการคนที่เพิ่งเข้ามาไม่กี่คนว่า “คุมตัวพวกเขาไว้ก่อน!”“ขอรับ!”คนเหล่านั้นเข้าไปคุมตัวโจรกลุ่มนั้นออกไปจากถ้ำ“ข้าว่านะ พวกเจ้าสองคนไม่มีอะไรจะอธิบา
ภายใต้การอธิบายของเมี่ยวอิน ทำให้หยุนเจิงเข้าใจสถานการณ์ทุกอย่างพวกเขาออกจากเมืองจักรพรรดิในวันแรก ส่วนฮูหยินเสิ่นพวกเขาออกเดินทางในเช้าวันที่สามเดิมทีพวกนางคิดจะมาพร้อมกับฮูหยินเสิ่น แต่ทว่าฮูหยินเสิ่นบอกให้พวกนางนำไปก่อน จะได้ไปพบกับหยุนเจิงพวกเขาเร็วกว่าแล้วแจ้งข่าวที่พวกเขาออกจากเมืองจักรพรรดิได้สำเร็จแก่หยุนเจิงเขา เพื่อไม่ให้พวกเขาเป็นกังวลหยุนเจิงพวกเขาเดินทางก่อนสองวัน ทว่าพวกเขามีสัมภาระ แม้จะเดินทางเร็วกว่า แต่ก็ไม่เร็วไปกว่าเท่าไรนักในทางกลับกันเมี่ยวอินและหมิงเย่ว์ขี่ม้าคนละตัวพวกเขาเดินทางออกจากอู่หยางในวันแรก เมี่ยวอินและหมิงเย่ว์ก็ตามมาถึงในวันที่สองแล้วทั้งสองได้ยินเรื่องที่พวกเราปราบโจรจึงได้ตัดสินใจเดินทางอีกทางหนึ่งมาถึงหุบเขาไป๋ฮวาก่อนหยุนเจิงพวกเขาก่อนเดิมทีพวกนางคิดจะทำให้หยุนเจิงพวกเขาประหลาดใจแต่ทว่าสุดท้าย พวกเขามาถึงหุบเขาไป๋ฮวาก็ถูกโจรกลุ่มเล็กที่อาศัยอยู่ที่นี่หมายตาเข้าโจรพวกนี้ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกนางสองคนอยู่แล้ว พวกมันถูกโจมตีจนส่งเสียงร้องปู่ร้องย่าเวลานั้นเอง เมี่ยวอินถึงได้มีความคิดจะลองใจหยุนเจิงขึ้นมาแต่ทว่าเดิมทีนางเพียงแค่คิด
“นี่น่ะหรือ?”หยุนเจิงผิดหวังอย่างมากถือศีลกินเจสำรวมตนไปจะมีประโยชน์ใด!ไม่สู้กินเสพให้เต็มไปที่ไปเลยดีกว่า!“เจ้ายังคิดจะใช้จดหมายฉบับเดียวทำให้เขาเสียตำแหน่งองค์รัชทยาท?”เมี่ยวอินมองหยุนเจิงอย่างหมดคำพูดใจเขาดำจริงๆหยุนลี่ถูกเขาลอบกัดจนถูกกักตนถือศีลกินเจสำรวมตนที่ตำหนักตงกง เขายังไม่รู้จักพอใจ?เสิ่นลั่วเยี่ยนฟังอย่างสับสนมึนงง ขมวดคิ้วกล่าว “พวกเจ้ากำลังพูดสิ่งใดกัน?”“เจ้าไม่ได้บอกนางเรื่องจดหมายฉบับนั้น?”เมี่ยวอินถามหยุนเจิงด้วยความประหลาดใจ“บอกแล้วสิ!”หยุนเจิงยักไหล่ “แต่นางนึกว่าจดหมายฉบับนั้นเป็นข้าแอบคัดลอกบทกวีของพี่สะใภ้นาง ไม่ได้คิดสิ่งใดมาก”“ห๊า?”เมี่ยวอินตกใจ จากนั้นก็มองเสิ่นลั่วเยี่ยนอย่างหัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออกนางไม่รู้ว่าควรจะบอกว่าเสิ่นลั่วเยี่ยนไร้เดียงสาเกินไปหรือว่าโง่เขลาเกินไปกันแน่นางนึกว่าสามีของนางผู้นี้เป็นตะเกียงประหยัดน้ำมันหรือ?ด้วยการอธิบายจากเมี่ยวอิน เสิ่นลั่วเยี่ยนในที่สุดก็เข้าใจอำนาจของจดหมายฉบับนั้นแล้วเวลานี้ เสิ่นลั่วเยี่ยนไม่รู้จะควรชมหยุนเจิงว่าฉลาด หรือว่าจะบอกว่าเขาร้ายกาจดีแล้วแค่จดหมายฉบับเดียว เขากลับสร้
“ลูก…ลูกสาวเพคะ”หมอตำแยที่ตกใจกับท่าทางของหยุนเจิงก่อนหน้านี้ เอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ“ลูกสาวดี! ลูกสาวดี!”หยุนเจิงพึมพำกับตัวเอง ก่อนก้มลงมองเด็กน้อยที่ยังคงร้องไห้เสียงดังไม่เหมือนหยุนชางเลย เด็กหญิงตัวน้อยคนนี้เกิดมาโดยแทบไม่มีริ้วรอยบนผิวเลย เพียงแค่ตัวแดงระเรื่อเท่านั้น“เจ้าตัวน้อย เจ้านี่เกือบทำให้แม่ของเจ้าสิ้นชีวิตเลยนะ…”เมื่อนึกถึงเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ หัวใจของหยุนเจิงยังคงสั่นไหวเขาไม่อาจจินตนาการได้เลยว่า หากเขาสูญเสียเยี่ยจื่อไป เขาจะต้องเจ็บปวดเพียงใดโชคดีที่มันเป็นเพียงความหวาดกลัวลวงตา!“อุแว๊ๆ…”เด็กน้อยยังคงร้องไห้ และดูเหมือนเสียงของนางจะแจ่มชัดขึ้นเรื่อยๆหยุนเจิงลูบแผ่วเบาบนผ้าห่อตัวของนาง ก่อนหันไปมองหมอตำแยทั้งสามที่ยังยืนไม่มั่นใจ “ให้รางวัล! ให้รางวัลทุกคน! คนละห้าร้อยตำลึง!”ห้าร้อยตำลึง!?หมอตำแยทั้งสามแทบไม่เชื่อหูตัวเองท่านอ๋องผู้นี้ ช่างใจกว้างนัก!แค่เอ่ยปาก ก็แจกเงินรางวัลมากมายถึงเพียงนี้!“เอาล่ะ พวกเจ้าทำความสะอาดให้เรียบร้อยเถิด”หยุนเจิงเรียกสติหมอตำแย “เสร็จแล้วก็ไปรับรางวัลได้เลย”หยุนเจิงกล่าวจบ ก็กอดลูกสาวไปนั่งลงที่
“อ๊าก…”เสียงกรีดร้องของเยี่ยจื่อสะท้อนก้องอยู่ในหูของหยุนเจิง ราวกับสามารถฉีกหัวใจของเขาออกเป็นเสี่ยงๆ“พอแล้ว! อย่าคลอดแล้ว! ข้าไม่ต้องการลูกแล้ว! ข้าต้องการแค่เจ้า!”หยุนเจิงน้ำตาคลอเบ้า ส่ายศีรษะไปมาอย่างร้อนรน ก่อนจะหันไปตะโกนลั่นใส่หมอตำแยข้างๆ “ช่วยนางไว้! อย่าไปสนใจเด็ก!”เขากลัว!เขากลัวจริงๆ!แม้ว่าเขาจะไม่ใช่หมอ แต่เขาก็รู้ดีว่า หากพลาดแม้แต่นิดเดียว นางอาจตกเลือดหนักได้แม้แต่ในยุคปัจจุบัน การตกเลือดมากก็ยังยากที่จะรักษา แล้วนี่เป็นยุคโบราณ“ออกมาแล้ว! ออกมาแล้ว!”ขณะนั้นเอง หมอตำแยก็ร้องขึ้นด้วยเสียงตื่นเต้น“อุแว๊…”เสียงร้องแหลมใสของทารกดังขึ้นภายในห้องคลอด แต่ในขณะเดียวกัน เสียงของเยี่ยจื่อกลับเงียบลงอย่างกะทันหัน!หมอตำแยคนหนึ่งรีบเช็ดเลือดที่เปรอะเปื้อนตัวทารก ขณะที่อีกคนเตรียมห่อทารกในผ้าห่ม และหันไปแสดงความยินดีกับหยุนเจิง “ขอแสดงความยินดีด้วยพ่ะย่ะค่ะ ท่านอ๋อง เด็กน้อยเป็น…”“ช่างลูกก่อน! ดูจื่อเอ๋อร์ก่อนว่านางเป็นอย่างไรบ้าง!”หยุนเจิงตะโกนอย่างเกรี้ยวกราด ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยโทสะและความหวาดหวั่น มือของเขาที่กุมมือเยี่ยจื่อไว้สั่นเทาอย่างรุนแรงตอน
เสียงร้องของเยี่ยจื่อ ทำให้หัวใจของหยุนเจิงบีบรัดตามไปด้วย“จื่อเอ๋อร์! ข้ากลับมาแล้ว!”หยุนเจิงไม่สนใจพูดคุยกับเสิ่นลั่วเยี่ยนและคนอื่นๆ เขารีบพุ่งไปที่ประตู แล้วตะโกนเข้าไปข้างใน“สามี!”เสียงร้องเจ็บปวดของเยี่ยจื่อดังขึ้นอีกครั้งแม้หยุนเจิงจะมองไม่เห็นสถานการณ์ภายในห้อง แต่เขาก็นึกภาพออกว่าเยี่ยจื่อต้องเจ็บปวดเพียงใดหากเป็นไปได้ เขาอยากจะแบ่งเบาความเจ็บปวดของนาง“จื่อเอ๋อร์ อย่ากลัว! สามีอยู่ที่นี่กับเจ้า!”หยุนเจิงกล่าวปลอบ แล้วรีบหันไปถามเสิ่นลั่วเยี่ยน “จื่อเอ๋อร์เป็นอย่างไรบ้าง?”เสิ่นลั่วเยี่ยนที่ดวงตาแดงก่ำ แอบมองไปทางประตูห้อง ก่อนจะตอบเสียงแผ่วเบา “หมอตำแยบอกว่า ตำแหน่งของทารกไม่ค่อยปกติ อาจคลอดได้ยาก เมี่ยวอินก็กำลังช่วยอยู่ เราเองก็ทำอะไรไม่ได้ ได้แต่ยืนร้อนใจอยู่ข้างนอก……”ตำแหน่งทารกผิดปกติ!เมื่อได้ยินคำนี้ หัวใจของหยุนเจิงพลันเต้นรัวขึ้นมาทันที เขาหันขวับไปมองฮูหยินเสิ่นและเว่ยซวงที่ยืนอยู่ใกล้ๆพบว่าทั้งสองต่างมีดวงตาแดงก่ำ ใบหน้าหม่นหมอง เห็นได้ชัดว่ากระวนกระวายใจไม่น้อยหยุนเจิงเข้าใจทันทีว่า เสิ่นลั่วเยี่ยนคงไม่อยากให้เขากังวลเกินไป จึงบอกเพียงว่าคลอ
ไม่กี่วันต่อมา ขณะที่หยุนเจิงอยู่ที่จิงหยางฝู่ เขาได้รับข่าวสารฮั่วเหวินจิ้งตายแล้ว!ไม่ได้ถูกฆ่าปิดปาก แต่ตายเพราะป่วย!หยุนเจิงคาดว่า ฮั่วเหวินจิ้งคงเสียชีวิตเพราะบาดแผลติดเชื้อเมื่อได้รับข่าวนี้ หยุนเจิงแทบอยากจะด่าหยุนลี่ว่าโง่เง่าเป็นหมูเสียจริงทำไมเขาถึงไม่ใช้วิธีทรมานก่อน แล้วค่อยให้หมอรักษาไว้ล่ะ?อีกแค่ก้าวเดียว เขากำลังจะสาวไปถึงตัวการเบื้องหลังได้อยู่แล้วแท้ๆ แต่ฮั่วเหวินจิ้งกลับมาตายเสียก่อนมันเหมือนกับฟ้ากำลังเล่นตลกกับเขา!สิ่งเดียวที่พอทำให้โล่งใจได้บ้างคือ อีกาดำและอีกาขาวต่างได้รับความเสียหายหนัก คนของเขาที่แทรกซึมอยู่ในอีกาดำ น่าจะสามารถก้าวขึ้นไปอีกขั้นหนึ่งได้หากสามารถทำให้คนของเขากลายเป็นหัวหน้าของอีกาดำได้ ก็คงดี!แต่ไม่รู้ว่าเงาสอง ที่ร่วมเดินทางไปเมืองหลวงเพื่อฆ่าปิดปาก ยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ขอให้รอดปลอดภัยเถอะ!หยุนเจิงถอนหายใจเงียบๆ ก่อนลุกขึ้นยืนในเมื่อฮั่วเหวินจิ้งตายไปแล้ว เขาก็ไม่ต้องรอสอบสวนอะไรอีกเรื่องที่เหลือ ก็ปล่อยให้ทัวฮวนจัดการไปก็แล้วกัน!“ส่งคำสั่งถึงอวี่ซื่อจง ให้เหลือทหารห้าพันนายประจำการอยู่ที่นี่ ภายใต้การบัญชาของรองแม่ท
“ลูกเข้าใจพ่ะย่ะค่ะ!”หยุนลี่รีบรับคำสั่ง“จำไว้! ฮั่วเหวินจิ้งถูกนักฆ่าสังหาร ไม่ใช่ตายเพราะป่วย!”จักรพรรดิเหวินกล่าวเตือนหยุนลี่ด้วยใบหน้าเย็นชา ก่อนเสด็จออกจากจวนองค์รัชทายาทแม้จะนั่งอยู่ในเกี้ยวแล้ว แต่เพลิงโทสะของจักรพรรดิเหวินยังคงลุกโชนไม่มอดอย่างไรก็ตาม ท่ามกลางความโกรธเกรี้ยวในพระทัย ก็ยังมีความรู้สึกซับซ้อนบางอย่างซ่อนอยู่เขารู้ดีว่าฮั่วเหวินจิ้งไม่ใช่คนของหยุนเจิงหากสามารถเค้นเอาความจริงจากฮั่วเหวินจิ้งได้ จนรู้ว่าใครอยู่เบื้องหลัง บางทีพระองค์เองอาจไม่รู้ว่าควรจัดการอย่างไรหากเป็นพระโอรสองค์ใดองค์หนึ่ง หรือแม้แต่นางสนมคนใดคนหนึ่งของพระองค์ พระองค์จะต้องลงพระอาญาสังหารพวกเขาด้วยพระองค์เองอย่างนั้นหรือ?หากเรื่องนี้ทำให้คนที่รอดพ้นจากเคราะห์ครั้งนี้ได้สำนึกและเลิกล้มความคิดที่จะก่อความวุ่นวาย นั่นก็คงเป็นผลลัพธ์ที่ดีที่สุดสำหรับตัวการเบื้องหลังของฮั่วเหวินจิ้ง จักรพรรดิเหวินเองก็พอมีข้อสันนิษฐานอยู่ในพระทัยแต่เป็นเพียงแค่ข้อสันนิษฐาน พระองค์ยังไม่สามารถสรุปได้แน่ชัดยิ่งไปกว่านั้น คนที่พระองค์สงสัยมีอยู่หลายคน ทำให้ไม่อาจฟันธงได้ว่าเป็นผู้ใดกันแน่ดูเหมือ
ภายในพระราชวัง จักรพรรดิเหวินและหยุนลี่กำลังตรวจสอบข่าวเร่งด่วนจากเมืองฝูโจวอย่างไรก็ตาม ทั้งสองเพียงกวาดตามองก็ขว้างเอกสารฉบับนั้นทิ้งด้วยความโกรธอย่าว่าแต่หยุนลี่เลย แม้แต่จักรพรรดิเหวินก็อดด่าหยุนเจิงในใจไม่ได้ลูกอกตัญญูผู้นี้ ชักจะเหลวไหลขึ้นทุกวันเรื่องเล็กน้อยแค่ไหนก็กล้าใช้ชื่อข่าวเร่งด่วนทางทหารส่งมาถึงเมืองหลวงนี่เป็นครั้งที่สองแล้ว!ข่าวเร่งด่วนทางทหารถูกเขาใช้เป็นของเล่นไปแล้ว!คราวหน้า ถ้าเจอตัวเจ้าเด็กเหลือขอนั่น ข้าจะเตะมันให้กระอักสองทีแน่!“กราบทูลฝ่าบาท องค์รัชทายาทฝ่าบาท กองกำลังของกระหม่อมถูกลอบโจมตีโดยนักฆ่าที่ถนนเป่ยเจีย……”ขณะที่จักรพรรดิเหวินและหยุนลี่กำลังเดือดดาลกับหยุนเจิง เฉียวเหยียนเซียนก็ส่งคนมาแจ้งข่าวนักฆ่าหลายสิบคนที่ร่วมมือกันสังหารฮั่วเหวินจิ้งและครอบครัว ถูกสังหารหรือถูกจับกุมเป็นส่วนใหญ่มีเพียงไม่กี่คนที่ฉวยโอกาสความชุลมุนหลบหนีไปได้ครั้งนี้ การวางแผนของพวกเขารัดกุมยิ่งนักหากไม่ใช่เพราะพลส่งสารข่าวเร่งด่วนโผล่มาขัดจังหวะ คงไม่มีทางที่นักฆ่าจะรอดไปได้เลยนอกจากนี้ พวกเขายังพบหน้าไม้ทรงอานุภาพจำนวนมากในที่เกิดเหตุเมื่อรายงานมาถ
ขณะที่เฉียวเหยียนเซียนนำกำลังคุมตัวนักโทษผ่านถนนเป่ยเจีย หน้าต่างบนหอคอยของอาคารสองหลังที่อยู่สองฟากถนนค่อยๆ เปิดออกเล็กน้อยหน้าไม้จำนวนมากถูกเล็งออกมาจากช่องหน้าต่างโดยไร้เสียง เพียงแค่รอให้กรงนักโทษเข้าสู่ระยะยิง พวกเขาก็จะลงมือทันทีขบวนคุ้มกันเข้าใกล้พวกเขามากขึ้นเรื่อยๆ เงาสองก็เตรียมพร้อมเช่นกันเขาไม่รู้ว่าฮั่วเหวินจิ้งมีความสำคัญต่อหยุนเจิงเพื่อให้ได้รับความไว้วางใจจากอีกาดำมากขึ้น เขาจำเป็นต้องร่วมมือสังหารเหล่านักโทษเหล่านี้แต่เขาก็รู้ดีว่า หากลงมือแล้ว การจะหลบหนีออกจากเมืองหลวงไม่ใช่เรื่องง่ายแต่เขาต้องรอด!ส่วนหนึ่งเพราะเขาไม่ต้องการตาย อีกส่วนหนึ่งก็เพราะ หากเขารอด เขาจะมีโอกาสพบกับผู้ที่คอยสนับสนุนการหลบหนีของพวกเขาและบุคคลนี้ อาจเป็นกุญแจสำคัญในการเปิดโปงผู้อยู่เบื้องหลังตัวจริง!เงาสองครุ่นคิดเงียบๆ พร้อมเหลือบมองหน้าไม้ในมือพวกเขาปลอมตัวเป็นพ่อค้าเพื่อแฝงตัวเข้าเมืองหลวง ย่อมไม่สามารถพกพาอาวุธเหล่านี้มาเองได้หน้าไม้เหล่านี้ถูกเตรียมไว้ล่วงหน้า ถูกซุกซ่อนไว้ที่เนินเขาเหมียวเอ่อร์ซานสิ่งเหล่านี้เป็นอาวุธของกองทัพ!แม้ทางราชสำนักจะควบคุมอาวุธประเภทนี
“ฝ่าบาท เงาสามแจ้งข่าวด่วน!”จิงหยางฟู่ เสิ่นควานถือจดหมายฉบับหนึ่ง รีบรุดเข้ามาด้วยท่าทีเร่งรีบเงาสาม?นี่เป็นหนึ่งในคนที่สามารถแทรกซึมเข้าไปในอีกาดำได้สำเร็จเงาสามส่งข่าวด่วนมา ดูท่าแล้ว อีกาดำคงจะลงมือแล้วแน่หากไม่มีอะไรผิดพลาด อีกาดำน่าจะต้องการสังหารฮั่วเหวินจิ้งเพื่อกำจัดภัยร้ายอย่างสิ้นซาก!หยุนเจิงครุ่นคิดไปพลาง รับจดหมายจากเสิ่นควานและเปิดออกดูเมื่อเห็นเนื้อหาในจดหมาย หยุนเจิงก็ขมวดคิ้วโดยไม่รู้ตัวข่าวที่เงาสามส่งมา ตรงกับที่เขาคาดการณ์ไว้ไม่มีผิดหัวหน้าอีกาดำและอีกาขาวนำทัพมาด้วยตนเอง ต้องการฆ่าฮั่วเหวินจิ้งให้ได้!แม้แต่เงาสองก็ถูกเลือกให้เข้าร่วมภารกิจลอบสังหารครั้งนี้ตอนนี้ พวกเขาได้รับเพียงคำสั่งให้เตรียมพร้อม แต่ยังไม่รู้เวลาและสถานที่ลงมือที่แน่ชัดหัวหน้าอีกาดำและอีกาขาวตั้งใจปกปิดข้อมูล ไม่ให้ผู้ใดซักถาม ใครที่ร่วมภารกิจก็แค่ทำตามคำสั่งในขณะลงมือเท่านั้นพวกเขากลัวว่าจะถูกสงสัย จึงไม่กล้าไต่ถามอะไรมากข่าวที่เงาสามส่งกลับมา สำหรับหยุนเจิงแล้ว ไม่ใช่ข่าวดีเลยเขายอมจ่ายเงินกว่าล้านตำลึงเพื่อให้ครอบครัวฮั่วเหวินจิ้งปลอดภัยและมาถึงมือเขาแต่ตอนนี
หญิงสาวนิ่งเงียบ ทำอย่างไรดี? นางเองก็อยากหาคนมาปรึกษา ว่าควรทำเช่นไรในสถานการณ์นี้ แต่เวลานี้… เกรงว่าคงไม่มีผู้ใดสามารถให้คำตอบแก่นางได้ ไม่นึกเลยว่า… แผนการที่นางวางมาอย่างรอบคอบมายาวนาน กลับจะพังทลายลงในมือของหยุนลี่! เฮ้อ! นางทอดถอนใจยาวในใจ แต่ในดวงตากลับปรากฏประกายเย็นยะเยือก "ไม่ว่าอย่างไร… ฮั่วเหวินจิ้งต้องไม่มีชีวิตรอดไปถึงมือหยุนเจิง! หากไร้ซึ่งความกังวลเรื่องครอบครัว ฮั่วเหวินจิ้งจะต้องเปิดโปงเราทั้งหมดแน่!" นางรู้ดีว่าฮั่วเหวินจิ้งกำลังกังวลสิ่งใด สิ่งที่ฮั่วเหวินจิ้งกังวลที่สุดในตอนนี้ คือความปลอดภัยของครอบครัว เขาจึงไม่กล้าเปิดโปงนางออกไป แต่หากครอบครัวของฮั่วเหวินจิ้งถูกส่งไปถึงมือหยุนเจิงอย่างปลอดภัย เช่นนั้น เขาย่อมไม่มีเหตุผลใดให้ปิดปากอีกต่อไป! ระหว่างหยุนลี่กับหยุนเจิง นางเกรงกลัวหยุนเจิงมากกว่า เพราะหยุนเจิงคือผู้กุมอำนาจกองทัพ… หากหยุนเจิงรู้ว่า ผู้อยู่เบื้องหลังเรื่องทั้งหมดนี้คือตัวนางเอง เช่นนั้น… นางคงหนีไม่พ้นความตาย! ไม่ใช่แค่หยุนเจิง… แม้แต่หยุนลี่ หรือแม้กระทั่งองค์จักรพรรดิ… ก็คงไม่ปล่อยนางไปเช่นกัน! เมื่อได้ยินเช่