ไม่กี่วันหลังจากนั้น ตู้กุยหยวนพวกเขาเริ่มบุกโจมตีปราบโจรถึงแม้เสิ่นลั่วเยี่ยนจะนิสัยไม่ดี แต่ยังดีที่นางทำตามที่ตกลงเอาไว้เวลาไม่กี่วัน นางก็นำพาองครักษ์ประกบตัวนับสิบคนไปปราบโจร ระหว่างที่สู้รบอยู่นั้น นางก็สามารถเชื่อฟังคำสั่งได้สุยโจวมีโจรมากมายแต่ทว่า โจรหัวโจกที่ใหญ่ที่สุดก็คือพวกจ้าวเฮยหู่โจรอื่นๆ อย่าว่าแต่กลุ่มนับพันคนเลย แม้แต่กลุ่มนับร้อยคนยังมีน้อยพวกเขากำราบโจรด้วยกำลังคนที่ได้เปรียบกว่า ไม่มีโจรคนไหนสู้ได้เลยไม่กี่วัน จุดประสงค์ในการฝึกซ้อมทหารก็ลุล่วงไปด้วยดีที่สำคัญ ไม่มีคนบาดเจ็บเลย แถมยังได้โจรมาเพิ่มเป็นจำนวนสามสิบกว่าคนด้วยเดิมทีโจรพวกนี้ก็เป็นทหารของจวนขุนนาง แต่เพราะถูกตัดเงินจึงลาออก ทว่ากลับถูกจวนขุนนางหมายหัวว่าเป็นทหารหลบหนี จึงต้องตกระกำลำบากเป็นเช่นนี้แต่ทว่าพวกเขาไม่เคยทำเรื่องไม่ดี อย่างมากก็แค่ปล้นพวกทหารใจดำชอบปอกลอกคนอื่นเพื่อความร่ำรวยเท่านั้นเริ่มมีกลิ่นอายของการปล้นเศรษฐีเพื่อช่วยเหลือคนยากจนแล้ว“ข้างหน้าก็เป็นเขตหลินผิงแล้วสินะ?”หยุนเจิงมองไปที่ไกลจากรถม้า แล้วถามเยี่ยจื่อที่อยู่ข้างๆ“อืม ใช่แล้ว!”เยี่ยจื่อพยักหน้าหงึกๆ
เฝิงอวี้และจั่วเริ่นรู้ว่าเสิ่นลั่วเยี่ยนก็มีใจอยากฝึกซ้อมทหารเช่นกัน จึงได้มอบหมายโจรกลุ่มเล็กนี้ให้องครักษ์ใกล้ชิดของเสิ่นลั่วเยี่ยนไปจัดการแต่แล้ว พวกเขากลับประเมินโจรกลุ่มนี้ต่ำไปไม่รอให้เสิ่นลั่วเยี่ยนพวกเขารายงาน สิ่งที่ได้มาก็คือข่าวที่ว่าเสิ่นลั่วเยี่ยนพวกเขาถูกจับเป็นทั้งหมดบัดนี้ เฝิงอวี้และจั่วเริ่นได้ล้อมรอบหุบเขาไป๋ฮวาไว้แล้วแต่ทว่าเพราะเสิ่นลั่วเยี่ยนพระชายาคนนี้ตกอยู่ในมือของพวกโจร พวกเขาจึงไม่กล้าตัดสินใจทำอะไรบุ่มบ่ามหัวโจกของโจรกลุ่มนั้นบอกแล้วว่าหากจะให้พวกมันปล่อยตัวพระชายา ก็ให้หยุนเจิงผู้เป็นจิ้งเป่ยอ๋องไปเจรจาด้วยตนเอง!ให้เจ้าไปด้วยตนเอง?เยี่ยจื่อขมวดคิ้วสัมผัสได้ถึงความผิดปกติหุบเขาไป๋ฮวา!นั่นมันสถานที่ที่นัดเจอคนจวนเสิ่นไม่ใช่หรือ?หุบเขาไป๋ฮวามีโจรปรากฏตัวขึ้น ทั้งยังจับตัวเสิ่นลั่วเยี่ยนพวกเขาไว้ มิหนำซ้ำยังจะให้หยุนเจิงไปเจรจาด้วยตนเองด้วยคิดอย่างไรก็รู้สึกเหมือนเป็นกับดักคนพวกนั้นต้องการเอาเปรียบหยุนเจิง!“หรือว่าเรื่องที่เรานัดพบกันที่หุบเขาไป๋ฮวาถูกแพร่งพรายออกไป?”ในตาของเยี่ยจื่อสั่นวูบไหว สงสัยว่าจวนเสิ่นต้องมีไส้ศึกที่จักรพรรด
ควบม้าไปตลอดทาง ในที่สุดหยุนเจิงก็มาถึงหุบเขาไป๋ฮวากระท่อมของโจรหุบเขาไป๋ฮวาพวกนี้เรียบง่ายมากบอกว่าเป็นกระท่อม แต่ความจริงคือใช้หินตั้งเป็นกำแพงอยู่ข้างนอกถ้ำ จากนั้นทำประตูไม้ง่ายๆ เท่านั้นดูก็รู้ว่าโจรพวกนี้มีชีวิตความเป็นอยู่ไม่สู้ดีนักแต่ทว่าเพียงแค่โจรกระจอกๆ เช่นนี้กลับจับตัวเสิ่นลั่วเยี่ยนพวกเขาไว้ได้!เกรงว่า โจรที่เดิมครองกระท่อมนั่นคงถูกฆ่าไปหมดแล้วส่วนคนที่เหลืออยู่ที่นั่นน่าจะเป็นคนที่คิดจะเอาชีวิตของตน!มารดามันเถอะ!ประมาทเกินไป!ไม่คิดเลยว่าตระกูลเสิ่นจะมีไส้ศึก!“ข้าน้อยไม่สามารถปกป้องพระชายาไว้ได้ ขอองค์ชายทรงลงโทษด้วย!”เมื่อเห็นหยุนเจิง เฝิงอวี้และจั่วเริ่นต่างก็เผยสีหน้ารู้สึกผิดขอให้ลงโทษตน“ไม่ใช่ความผิดของพวกเจ้า นี่เป็นแผนการของคนอื่น”หยุนเจิงส่ายศีรษะเบาๆ แล้วถาม “ข้างในนั่นมีประมาณกี่คน?”“ไม่เกินยี่สิบคนขอรับ!” เฝิงอวี้รีบตอบน้อยเพียงนี้เชียวหรือ?หยุนเจิงขมวดคิ้วแน่นคนน้อยเพียงนี้ แต่กลับจับตัวเสิ่นลั่วเยี่ยนพวกเขาไว้ได้ ดูท่าแล้วฝีมือของคนกลุ่มนี้คงจะไม่ธรรมดา!ทำอย่างไรถึงจะช่วยเสิ่นลั่วเยี่ยนพวกเขาออกมาได้นะ?อีกอย่าง ยังต้องตร
ใบหน้าของคนคนนั้นซีดขาว ดูทรมานยิ่งกว่าบิดาที่ตายไปแล้วเสียอีกรู้สึกว่าเขาจะร้องไห้ออกมาได้ตลอดเวลาอย่างไรอย่างนั้นตอนนี้หยุนเจิงค่อนข้างมั่นใจแล้วว่า คนคนนี้เป็นโจรที่ถูกข่มขู่แน่นอนไม่แน่อาจจะมีคนชี้ธนูใส่เขาอยู่ข้างในถ้ำก็เป็นได้!จะว่าไปแล้ว ตัวบงการในถ้ำน่าจะไม่มีกำลังคนมากขนาดนั้นสินะ?หากไม่ได้จริงๆ ก็มีโอกาสที่จะลองสู้สักตั้งแล้ว“เช่นนั้นก็ให้ลูกพี่ของเจ้ามาคุยกันหน้าประตู!”หยุนเจิงเอ่ยแล้วสั่งการให้ฝูงชนวางคันธนูในมือลง เผยความจริงใจของตนคนคนนั้นปั้นสีหน้าลำบาก แล้วเอ่ยเสียงเจือร้องไห้ “ลูกพี่ให้ท่านอ๋องเข้ามาคุย…”“ข้าไม่ได้โง่เขลาปานนั้น!”สีหน้าของหยุนเจิงแย่ถึงขีดสุด “ไม่ก็ให้ข้าเห็นหน้าพระชายาก่อน! หรือไม่ก็ให้ลูกพี่ของเจ้าออกมาคุยหน้าประตู! ความอดทนของข้ามีจำกัด อย่าทำให้ข้าต้องลงมือ!”มารดามันเถอะ!คนยังไม่ทันได้เห็นเลยคิดจะให้ตนเข้าไปอีก?นี่มันต้องการเอาชีวิตตนชัดๆ!อีกอย่าง คนข้างในนั่นเป็นอะไรกันแน่?สิ่งที่ตนพูดอยู่ข้างนอก เขาต้องได้ยินอยู่แล้วสิ!แต่ทว่าเหตุใดเขายังต้อให้คนคอยส่งคำพูดอยู่หน้าประตูราวกับเป็นตัวถ่ายทอดคำพูดล่ะ?คนข้างในคงไม่ได
บริเวณข้างในถ้ำ ใบหน้าอันคุ้นเคยทั้งสองปรากฏตรงหน้าเขาเมี่ยวอิน!หมิงเย่ว์!วินาทีนี้ เมี่ยวอินกับหมิงเย่ว์กำลังนั่งอยู่ข้างๆ เสิ่นลั่วเยี่ยน แล้วมองหยุนเจิงด้วยสีหน้ายิ้มแย้มบนพื้นยังมีกลุ่มคนที่นอนราบพื้นอยู่“ข้า…”มุมปากของหยุนเจิงกระตุกเล็กน้อย เกือบสบถคำหยาบออกมาแล้วก็ได้!เขาก็ว่าเหตุใดตัวบงการที่อยู่ข้างในนี้ถึงไม่พูดไม่จา!ที่แท้ก็เป็นพวกนางสองคนนี่เอง!พวกนางนี่มันเยี่ยมยอดจริงๆ!ลำพังแค่คนสองคนก็ทำให้พวกเขาตื่นตระหนกถึงเพียงนี้“อุ๊บ…”เมื่อเห็นท่าทีหงุดหงิดของหยุนเจิงแล้ว ทั้งสองจึงอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา“หัวเราะอะไรกัน! รีบปล่อยคนซะ!”หยุนเจิงจ้องตาสตรีทั้งสองตาเป็นมัน แล้วตะโกนต่อคนที่อยู่นอกถ้ำว่า “เอาล่ะ ไม่ต้องตื่นตระหนกไป พวกเดียวกันหยอกล้อกันเอง!”พวกเดียวกัน?หยอกล้อ?เมื่อได้ยินคำพูดของหยุนเจิงแล้ว ผู้คนที่อยู่ข้างนอกถ้ำต่างก็มึนงงกันระนาวเกิดอะไรขึ้น?คนพวกนี้จับตัวพระชายาไปเพื่อหยอกล้อนั้นหรือ?หยอกล้อเช่นนี้กันได้ด้วยหรือ?เกาเหอรีบพาคนวิ่งเข้าไปเมื่อเขาเห็นเมี่ยวอินและหมิงเย่ว์ ก็อ้ำอึ้งอยู่ตรงนั้นเมื่อเห็นท่าทีอ้ำอึ้งของผู้คน ส
หยุนเจิงชี้ไปยังคนที่นอนราบอยู่บนพื้นยังไม่ได้สติอย่างหมดคำพูด“อืม”เมี่ยวอินพยักหน้ายิ้มๆ“เจ้ายังมีหน้ามาหัวเราะอีก?”หยุนเจิงมองบนใส่นาง “รีบทำให้พวกเขาฟื้นซะ!”“ไม่ต้อง”เมี่ยวอินยิ้มมุมปาก “อีกครึ่งชั่วยาม พวกเขาก็จะฟื้นขึ้นมาเอง”“ข้า…”หยุนเจิงชะงักงันเล็กน้อยคร้านที่จะเถียงกับเมี่ยวอินอีก จึงสั่งการเกาเหอ “รีบส่งคนกลับไปรายงานที ประเดี๋ยวฮูหยินจื่อเขาจะเป็นห่วงเอา!”“ขอรับๆ!”เกาเหอได้สติแล้วรีบวิ่งออกไปทันทีหยุนเจิงปลดเชือกให้กับเสิ่นลั่วเยี่ยนเสิ่นลั่วเยี่ยนกลับไม่ได้พุ่งเข้าไปหาเมี่ยวอินกับหมิงเย่ว์แต่อย่างใด เพียงแค่จ้องพวกนางทั้งสองราวกับเป็นไก่ชนอย่างไรอย่างนั้น“คนพวกนี้…”หยุนเจิงเงยหน้ามองโจรที่ตัวสั่นเทาอยู่“ท่านอ๋องไว้ชีวิตด้วย!”“ท่านอ๋อง พวกข้าถูกบังคับ!”“ขอร้องล่ะ ไว้ชีวิตพวกข้าเถอะ…”ตามด้วยสายตาที่มองมาของหยุนเจิง โจรนับสิบคนต่างพากันคุกเข่าอ้อนวอนขึ้นมา“เอาเถอะๆ!”หยุนเจิงโบกมือ แล้วสั่งการคนที่เพิ่งเข้ามาไม่กี่คนว่า “คุมตัวพวกเขาไว้ก่อน!”“ขอรับ!”คนเหล่านั้นเข้าไปคุมตัวโจรกลุ่มนั้นออกไปจากถ้ำ“ข้าว่านะ พวกเจ้าสองคนไม่มีอะไรจะอธิบา
ภายใต้การอธิบายของเมี่ยวอิน ทำให้หยุนเจิงเข้าใจสถานการณ์ทุกอย่างพวกเขาออกจากเมืองจักรพรรดิในวันแรก ส่วนฮูหยินเสิ่นพวกเขาออกเดินทางในเช้าวันที่สามเดิมทีพวกนางคิดจะมาพร้อมกับฮูหยินเสิ่น แต่ทว่าฮูหยินเสิ่นบอกให้พวกนางนำไปก่อน จะได้ไปพบกับหยุนเจิงพวกเขาเร็วกว่าแล้วแจ้งข่าวที่พวกเขาออกจากเมืองจักรพรรดิได้สำเร็จแก่หยุนเจิงเขา เพื่อไม่ให้พวกเขาเป็นกังวลหยุนเจิงพวกเขาเดินทางก่อนสองวัน ทว่าพวกเขามีสัมภาระ แม้จะเดินทางเร็วกว่า แต่ก็ไม่เร็วไปกว่าเท่าไรนักในทางกลับกันเมี่ยวอินและหมิงเย่ว์ขี่ม้าคนละตัวพวกเขาเดินทางออกจากอู่หยางในวันแรก เมี่ยวอินและหมิงเย่ว์ก็ตามมาถึงในวันที่สองแล้วทั้งสองได้ยินเรื่องที่พวกเราปราบโจรจึงได้ตัดสินใจเดินทางอีกทางหนึ่งมาถึงหุบเขาไป๋ฮวาก่อนหยุนเจิงพวกเขาก่อนเดิมทีพวกนางคิดจะทำให้หยุนเจิงพวกเขาประหลาดใจแต่ทว่าสุดท้าย พวกเขามาถึงหุบเขาไป๋ฮวาก็ถูกโจรกลุ่มเล็กที่อาศัยอยู่ที่นี่หมายตาเข้าโจรพวกนี้ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกนางสองคนอยู่แล้ว พวกมันถูกโจมตีจนส่งเสียงร้องปู่ร้องย่าเวลานั้นเอง เมี่ยวอินถึงได้มีความคิดจะลองใจหยุนเจิงขึ้นมาแต่ทว่าเดิมทีนางเพียงแค่คิด
“นี่น่ะหรือ?”หยุนเจิงผิดหวังอย่างมากถือศีลกินเจสำรวมตนไปจะมีประโยชน์ใด!ไม่สู้กินเสพให้เต็มไปที่ไปเลยดีกว่า!“เจ้ายังคิดจะใช้จดหมายฉบับเดียวทำให้เขาเสียตำแหน่งองค์รัชทยาท?”เมี่ยวอินมองหยุนเจิงอย่างหมดคำพูดใจเขาดำจริงๆหยุนลี่ถูกเขาลอบกัดจนถูกกักตนถือศีลกินเจสำรวมตนที่ตำหนักตงกง เขายังไม่รู้จักพอใจ?เสิ่นลั่วเยี่ยนฟังอย่างสับสนมึนงง ขมวดคิ้วกล่าว “พวกเจ้ากำลังพูดสิ่งใดกัน?”“เจ้าไม่ได้บอกนางเรื่องจดหมายฉบับนั้น?”เมี่ยวอินถามหยุนเจิงด้วยความประหลาดใจ“บอกแล้วสิ!”หยุนเจิงยักไหล่ “แต่นางนึกว่าจดหมายฉบับนั้นเป็นข้าแอบคัดลอกบทกวีของพี่สะใภ้นาง ไม่ได้คิดสิ่งใดมาก”“ห๊า?”เมี่ยวอินตกใจ จากนั้นก็มองเสิ่นลั่วเยี่ยนอย่างหัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออกนางไม่รู้ว่าควรจะบอกว่าเสิ่นลั่วเยี่ยนไร้เดียงสาเกินไปหรือว่าโง่เขลาเกินไปกันแน่นางนึกว่าสามีของนางผู้นี้เป็นตะเกียงประหยัดน้ำมันหรือ?ด้วยการอธิบายจากเมี่ยวอิน เสิ่นลั่วเยี่ยนในที่สุดก็เข้าใจอำนาจของจดหมายฉบับนั้นแล้วเวลานี้ เสิ่นลั่วเยี่ยนไม่รู้จะควรชมหยุนเจิงว่าฉลาด หรือว่าจะบอกว่าเขาร้ายกาจดีแล้วแค่จดหมายฉบับเดียว เขากลับสร้