แชร์

บทที่ 1063

ผู้เขียน: เหลียงซานเหลากุ่ย
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-25 17:00:00
เจียเหยาในใจเต็มไปด้วยสงสัย ถูกหยุนเจิงพามายังหน้าภูเขาแห้งแล้งแห่งหนึ่ง

บนภูเขามีต้นไม้ไม่กี่ต้น

บริเวณโดยรอบไม่มีสิ่งใดน่าดูชม

เจียเหยาไม่เข้าใจ “เจ้าพาข้ามาที่นี่เพื่อสิ่งใด?”

“เดี๋ยวเจ้าก็รู้แล้ว”

หยุนเจิงไม่ได้อธิบายมากความ เรียกเกาเหอเข้ามา กระซิบข้างหูเขาไม่กี่ประโยค

เกาเหอรับคำสั่ง ควบม้าไปยังภูเขาแห้งแล้งอย่างรวดเร็ว

หลังจากเกาเหอไปแล้ว นักรบภูตเก้าที่รออยู่ตรงนั้นนานแล้วปรากฎตัวออกมาอย่างรวดเร็ว

สองคนทักทายสองสามประโยค เกาเหอรีบควบม้ากลับมา

“องค์ชาย สั่งการเรียบร้อยแล้ว”

เกาเหอกลับมารายงานหยุนเจิง

“ยกธง!”

หยุนเจิงสั่งการ

“ขอรับ!”

เกาเหอรับคำสั่ง รับธงสีเขียวมาจากมือคนด้านข้างอย่างรวดเร็ว

นักรบภูตเก้ารู้ นี่เป็นการบอกเขาให้เตรียมความพร้อม

นักรบภูตเก้าเตรียมพร้อมแล้ว ให้นักรบภูตสิบโบกธงสีเขียวกลับ

เมื่อเห็นธงสีเขียวที่อยู่ตรงหน้า หยุนเจิงสั่งเกาเหอ “ธงแดง!”

“ขอรับ!”

เกาเหอรับธงสีแดงมาโบก

เจียเหยามองพวกหยุนเจิงด้วยสีหน้าประหลาด ไม่มีใครรู้ว่าพวกเขาต้องการทำสิ่งใด

ฝึกฝนหรือ?

นี่ฝึกสิ่งใดออกมาไม่ได้!

ขณะที่เจียเหยากำลังสงสัย ภูตเก้าและภูตสิบหนีไปจากภูเขาแห้ง
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1064

    เพื่อข่มขวัญเจียเหยา หยุนเจิงจึงยอมเสียเลือดหากเจียเหยายังไม่ยอมสยบ ยังคิดเล่นเล่ห์เหลี่ยมเหล่านั้น ก็อย่าโทษที่เขาใจร้ายเจียเหยาเรียกสติกลับมาอย่างยากเย็น มองหยุนเจิงด้วยสีหน้าเจ็บปวด “เจ้าใช้สิ่งนี้สร้างหิมะถล่มสังหารทหารชั้นยอดสองหมื่นคนของพวกเรา?”“ใช่!”หยุนเจิงพยักหน้า “ดังนั้น ตอนนี้เจ้ารู้แล้วว่าเหตุข้าไม่กลัวจะให้เวลาพวกเจ้าพัฒนายี่สิบปีแล้วกระมัง?”ต่อให้เวลาพวกเจ้ายี่สิบปี พวกเจ้าก็ทำได้เพียงสร้างทาสให้ข้ามากขึ้นคำพูดของหยุนเจิงก่อนหน้านี้ ดังขึ้นมาในสมองของเจียเหยาเวลานี้ ภายในใจเจียเหยาเกิดความรู้สึกไร้เรี่ยวแรงเป็นความรู้สึกไร้เรี่ยวแรงที่ไม่เคยมีมาก่อน!นางไม่รู้สิ่งนี้ทำขึ้นได้เช่นไรแต่นางรู้ หากใช้สิ่งนี้บนสนามรบ สำหรับเป่ยหวนแล้ว เรียกได้ว่าเป็นการโจมตีที่โหดร้ายรุนแรงอย่างอื่นไม่ต้องกล่าวถึง เสียงแค่เสียงดังสนั่นหู ก็สามารถทำให้ม้าศึกตกใจกลัวจนเกิดความวุ่นวายแล้วยังไม่ทันได้เปิดศึก ฝ่ายนางก็คงวุ่นวายก่อนแล้วเป่ยหวน นอกจากยอมสวามิภักดิ์แล้ว ก็ไม่มีทางออกอื่นแล้วหรือ? “ความจริงเจ้าควรรู้ ข้าจัดการกับเป่ยหวนนับว่าออมมือแล้ว”“บอกตามตรง ต่อให้ข้า

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-25
  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1065

    กระทั่งกลับถึงจวนอ๋อง เจียเหยาล้วนไม่ได้กล่าวสิ่งใดสักประโยคไม่มีใครรู้เจียเหยากำลังคิดสิ่งใดแต่ทุกคนต่างรู้ เจียเหยาตกใจกระทบกระเทือนเพราะเรื่องวันนี้แล้วพวกเขา ไหนเลยจะไม่ตกใจกระทบกระเทือนเล่า?เมื่อเห็นเจียเหยาถูกส่งตัวกลับไปกักบริเวณที่เรือนเล็กของนาง ผู้หญิงทุกคนอดไม่ได้ที่จะคร่ำครวญหยุนเจิงไม่คิดมากมายต่อแล้ว จากนั้นก็เรียกพวกเยี่ยจื่อมาเยี่ยจื่อเลือกคนมีความสามารถมาจากทุกเมือง เป็นองครักษ์ที่ปรึกษาของจวนอ๋อง ช่วยนางจัดการเรื่องทางการเมืองเวลาส่วนใหญ่ที่หยุนเจิงออกไปทำสงครามข้างนอก คนภายในนี้ นอกจากสองคนก่อนหน้านี้ที่ช่วยเจียเหยาจัดการเรื่องเบ็ดเตล็ดภายในจวนอ๋องแล้ว หลายคนเขาล้วนไม่รู้จัก เยี่ยจื่อแนะนำให้หยุนเจิงรู้จักทีละคนหยุนเจิงคิดว่า ด้วยสถานการณ์ตรงหน้า ดูเหมือนจะมีรูปแบบสำนักปกครองภายในแล้วต่อไป ก็สามารถทำตามวิธีนี้ได้แต่ว่า ต้องหาคนที่มีความสามารถจัดตั้งสำนักปกครองภายในอย่างเป็นทางการไม่แน่ อาจให้เยี่ยจื่อเป็นผู้ช่วยปกครองหญิงภายในสำนักก็ได้มีสิ่งนี้ รอให้มีเงินทองในมือเหลือเฟือแล้ว จำเป็นต้องสร้างศาลาว่าการอย่างเป็นทางการก่อนหน้านี้เป็นเพราะค่าใ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-25
  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1066

    สมุดบัญชีหยุนเจิงเพียงกวาดตามองคร่าวๆ ก็รู้สึกปวดหัวขึ้นมาแล้วคลังทั้งซั่วเป่ย แทบไม่ต้องนับเลยคลังส่วนตัวของหยุนเจิง เหลือเพียงหนึ่งล้านกว่าตำลึงเงินเท่านั้นเนื่องจากจางซูช่วยหาเงินให้พวกเขาอยู่ตลอดเงินที่เขานำมาจากเมืองจักรพรรดิ ใช้จ่ายหมดได้นานแล้ว!อีกทั้ง นี่ยังไม่นับรวมเงินชดเชยบำนาญของทหารเสียชีวิตในสนามรบครั้งนี้และเงินรางวัลชองคนที่มีผลงานหากนับรวมเหล่านั้นเข้าไปด้วย หนึ่งล้านตำลึงเงินของเขา ไม่มีทางเพียงพอเด็ดขาดดูสมุดบัญชีตรงหน้า หยุนเจิงแทบทนไม่ไหวอยากส่งคนของนักรบภูตสิบแปดเขาไปปล้นเศรษฐีภายในด่านแล้วมารดาเขาสิ!เงินนี้แม้จะดูเยอะ แต่ใช้จ่ายขึ้นมา กลับไม่เพียงพอใช้จ่าย“เอาล่ะ พวกเจ้าออกไปทำงานก่อนเถอะ!”หยุนเจิงนวดขมับ จากนั้นก็ลุกขึ้นดึงมือเยี่ยจื่อ “ไปเดินเล่นกับข้าเถอะ!”เยี่ยจื่อยกมุมปากหัวเราะ เดินไปสวนดอกไม้ของจวนอ๋องกับหยุนเจิง“เริ่มกลุ้มใจเรื่องเงินแล้ว?”เยี่ยจื่อยิ้มถามหยุนเจิง“กลุ้มใจนิดหน่อย แต่ก็ยังดีหน่อย”หยุนเจิงส่ายหน้าหัวเราะ จากนั้นก็บอกความคิดของเขาที่จะสร้างสำนักปกครองภายในและให้เยี่ยจื่อเป็นผู้ช่วยดูแลสำนักปกครองภายในกับนาง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-25
  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1067

    คนสอดแนม?หยุนเจิงผิดปกติเล็กน้อยการเคลื่อนไหวของเจ้าสามเร็วนัก!ส่งคนสอดแนมมาเร็วเพียงนี้แล้ว?ระหว่างขบคิด หยุนเจิงถามอีกครั้ง “มีแค่คนสอดแนมคนเดียวหรือ?”“ไม่เท่านั้น”เยี่ยจื่อส่ายหน้า “คนผู้นั้นมีพวกหลายคน แต่พวกเขาทั้งหมดถูกจับและสังหารพร้อมกัน”“เรื่องนี้ค่อนข้างหน้าเสียดาย!” หยุนเจิงแอบเสียงดาย “ต่อไปหากมีคนสอดแนม อย่าสังหารเด็ดขาด! ส่งไปขุดเหมืองถ่านเลนหรือทำเหมืองแร่ก็ได้ พวกเรามีที่ให้ใช้แรงงานมากมาย!”คนสอดแนม ก็มีประโยชน์ของคนสอดแนมไม่ใช่หรือ?เช่นไรก็เป็นคน ขอแค่มีชีวิต ก็สามารถสร้างคุณค่าได้ไม่มากก็น้อยเยี่ยจื่อเมื่อได้ฟัง พลันหัวเราะไม่ออกร้องไห้ไม่ได้ “เจ้าเป็นห่านป่าที่ถูกถอนขนแล้ว!”“ถอนขน?”หยุนเจิงหัวเราะอย่างไม่เห็นด้วย “ข้ายังอยากถอน...”กล่าวถึงตรงนี้ หยุนเจิงหยุดชะงักกะทันหัน ในสมองหมุนแล่นอย่างรวดเร็ว“เกิดเรื่องใดแล้ว?”เยี่ยจื่อไม่เข้าใจขณะนั้นเอง หยุนเจิงจับใบหน้าเยี่ยจื่อเอาไว้ภายใต้สายตาเขินอายของเยี่ยจื่อ เขาจูบริมฝีปากนางอย่างรุนแรง“ทำสิ่งใดน่ะ?”การกระทำของหยุนเจิงทำให้เยี่ยจื่ออายอย่างมากหยุนเจิงกระพริบตาปริบๆ จากนั้นก็ยิ้มร้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-26
  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1068

    สถานการณ์ตรงหน้า นับว่าเป็นจุดจบที่ชนะทั้งสองฝ่าย!“คิดเช่นเดียวกันกับข้า”เจียเหยายิ้มถากถาง จากนั้นก็กล่าวถาม “ยี่สิบปีต่อไป เป่ยหวนจะยังคงอยู่หรือไม่?”“ไม่รู้”หยุนเจิงส่ายหน้าเบาๆ “เรื่องยี่สิบปีถัดไป ใครจะบอกได้อย่างชัดเจน! บางที ยี่สิบปีต่อไป แม้แต่ต้าเฉียนก็ล้วนไม่อยู่แล้ว นับประสาสิ่งใดกับเป่ยหวน? แต่ว่า เป่ยหวนไม่จำเป็นต้องคงอยู่ แต่ชาวเป่ยหวนคงอยู่ก็พอแล้ว”เขาสามารถจิตนาการได้ว่าโลกในยี่สิบปีให้หลังเป็นเช่นไรแต่เขาไม่สามารถให้ทุกสิ่งทุกอย่างดำเนินไปตามที่เขาจินตนาการได้อย่างอื่นไม่ต้องกล่าวถึง แค่ดินปืนอย่างเดียวก็สามารถทำให้จบเห่ได้แล้วเขาทำดินปืนออกมาได้นานแล้ว แต่จนถึงตอนนี้ก็ยังหาเหมืองดินประสิวไม่พบเรื่องราวมากมาย ล้วนไม่สามารถดำเนินไปตามที่เขาคาดการณ์ได้เขาสามารถลองไปเปลี่ยนโลกใบนี้ได้ แต่ไม่ใช่โค่นล้มโลกใบนี้ช่วงวิถีแห่งประวัติศาสตร์ สามารถไปขับเคลื่อนได้ แต่ต้องค่อยเป็นค่อยไปทีละก้าวหวังหมั่งผู้นี้ถูกสงสัยอย่างหนักว่าเป็นนักเดินทางข้ามเวลามา นี่เป็นกรณีตัวอย่างที่ดีที่สุด“ใช่หรือ?”เจียเหยาครุ่นคิดชั่วครู่ จากนั้นก็ถาม “หลังต่อสู้กับเป่ยหวนจบแล

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-26
  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1069

    สภาพลำบากยากแค้นของเป่ยหวน นางเคยได้ยินอาจารย์ปานปู้กล่าวมานานหลายปีแล้วเป่ยหวนแม้จะทำการเพาะปลูก แต่ที่ดินของเป่ยหวนและสภาพอากาศเป็นตัวตัดสิน พืชเกษตรมากมายไม่อาจเพาะปลูกได้ชาวเป่ยหวนไม่ใช่ไม่ชอบบริโภคข้าวเปลือกหรืออาหารประเทภเส้นแต่เป็นเพราะเป่ยหวนมีพื้นที่เหมาะกับการเพาะปลูกข้าวเปลือกและข้าวสาลีไม่มากผลผลิตของข้าวสาลีหยวนก็น้อยจนน่าสงสารดังนั้น เป่ยหวนมักไม่สามารถทนต่อภัยพิบัติทางธรรมชาติได้เมื่อเกิดโรคระบาดทำให้ปศุสัตว์ล้มตายเป็นจำนวนมาก เป่ยหวนจำเป็นต้องใช้เวลานานจึงสามารถพื้นฟูพลังหยวนได้เพราะข้อจำกัดเหล่านี้ ทำให้เป่ยหวนมีพื้นที่กว้างขวางแต่ประชากรบางตานับดูแล้ว ดินแดนของเป่ยหวนกว้างขวางกว่าต้าเฉียนมากหากประชากรทุกคนของเป่ยหวนล้วนสามารถกินอิ่ม ทุกครัวเรือนทำงานและอยู่อาศัยกันอย่างมีความสุข ประชากรของเป่ยหวนคงยกระดับไปนานแล้ว“เอาล่ะ อย่าเอาแต่คิดถึงมันเทศดินเลย”หยุนเจิงกล่าวอย่างจนใจ “มีของที่ดีกว่ามันเทศดินเยอะแยะไป! ข้าก็ว่าพวกเจ้านี่จริงๆ เลย ที่ดินมากมายเพียงนี้ เลี้ยงสัตว์ประเภทเป็ดเลี้ยงไก่หน่อยไม่ดีหรือ? หากพวกเจ้ามีเป็ดไก่จำนวนหลายหมื่นตัว พวกตั๊กแตน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-26
  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1070

    นิ่งเงียบอยู่ชั่วครู่ เจียเหยาจึงกล่าวกับหยุนเจิง “ผู้เฒ่าผู้นั้นมาจากแคว้นที่เชื่อว่าลาถูย่า เป็นแคว้นที่อยู่ห่างไกลจากพวกเรามาก พวกเขาเพื่อสร้างเรือที่สามารถแล่นเดินทางไกลนั้น ก็ใช้เวลาสิบปีเต็มๆ...”ต่อมา เจียเหยาก็เล่ารายละเอียดของแคว้นที่ผู้เฒ่าผู้นั้นอาศัยอยู่ให้หยุนเจิงฟังจากการบรรยายของชายชราผู้นั้น ลาถูย่าน่าจะไม่ได้อุดมสมบูรณ์ไปมากกวาแคว้นต้าเฉียน ผลผลิตก็ไม่อาจเทียบต้าเฉียนได้แต่ว่า ชาวลาถูย่ามีจิตวิญญาณแห่งการผจญภัยพวกเขาได้สำรวจโลกที่ปลายมหาสมุทรอันกว้างใหญ่ก่อนหน้าผู้เฒ่าผู้นั้น ก็มีคนเริ่มทำเรื่องนี้แล้วแต่คนเหล่านั้นออกเดินทางไปตั้งหลายปีก็ไม่ได้กลับไป น่าจะถูกฝังไว้ในมหาสมุทรกว้างใหญ่แล้วตามที่ผู้เฒ่าผู้นั้นกล่าว พวกเขาเดินสมุทรมาตั้งนานหลายปี ไปยังสถานที่ที่เจียเหยาไม่เคยได้ยินมาก่อนมากมายผู้เฒ่ากล่าวว่า โลกใบนี้กว้างใหญ่มากแต่กว้างใหญ่เพียงใด ผู้เฒ่าเองก็กล่าวไม่ชัดเจนเพราะว่า เขาก็ยังไม่ได้ไปถึงยังทุกมุมของโลกใบนี้กล่าวจบเรื่องเหล่านี้ เจียเหยาเตือนด้วยความจริงใจ “ถ้าหากเจ้าต้องการส่งคนออกทะเลไปตามหาลาถูย่า ข้าแนะนำเจ้าทางที่ต้องสร้างเรือขนาดยัก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-26
  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1071

    หลังจากสนทนามากมายกับเจียเหยา หยุนเจิงตัดสินใจแล้วชีวิตของเจียเหยา เขาไม่ต้องการชั่วคราวข้อดีที่ใหญ่ที่สุดของเจียเหยาคือสายตาของนางกว้างไกลกว่าชาวเป่ยหวนคนอื่น อีกทั้ง ภายในใจนางมีชาวเป่ยหวนอยู่ ไม่เอาชีวิตของชาวเป่ยหวนมาเป็นเบี้ยล่างขอแค่นางไม่ทำสิ่งใดแผลงๆ ผลประโยชน์ที่เป่ยหวนนำมาให้ต้าเฉียนจะมีมากขึ้นหากนางทำสิ่งใดแผลงๆ เช่นนั้นเขาก็คงต้องใช้วิธีเด็ดขาดรุ่นแรงเหล่านั้นแล้วแม้เรื่องของเจียเหยาจัดการได้แล้ว แต่ชีวิตเคล้าสุรานารีในจินตนาการของหยุนเจิงยังไม่มาถึงต่อให้มีพวกเยี่ยจื่อคอยช่วยจัดการดูแลการปกครอง แต่ทุกวันก็มีเรื่องราวทุกรูปแบบมาหาเขา เรื่องราวมากมาย ล้วนต้องให้เขาตัดสินใจ ทำเอาหยุนเจิงมีความคิดอยากส่งคนไปลักพาตัวคนที่เมืองจักรพรรดิมาใช้งานที่ซั่วเป่ยแล้วเรื่องออกทะเล หยุนเจิงยังคิดไม่ตกแต่ว่า ก่อนออกทะเล ต้องสร้างท่าเรือก่อนส่วนเรื่องเรือ ตอนนี้หยุนเจิงยังไม่คิดจะสร้างเอง ด้านหนึ่งเพราะซั่วเป่ยมีช่างฝีมือสร้างเรือน้อยมาก อีกด้านหนึ่งคือเพราะการสร้างเรือด้วยตัวเองใช้เวลานานเกินไปมีเวลา ส่งคนไปยังอี๋โจว อวี้โจวซื้อเรือสินค้าขนาดใหญ่เอาพืชเกษตรที่ให้ผลผลิ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-27

บทล่าสุด

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1390

    “จะใช้เงินมากมายขนาดไหนกัน?” “ก็เยอะจริงพ่ะย่ะค่ะ แม้แต่ลูกเองยังไม่อยากเชื่อเลยว่าลูกใช้เงินไปมากขนาดนี้” หยุนเจิงทำหน้ามุ่ยเหมือนคนมีทุกข์ จนเยี่ยจื่อที่อยู่ข้างๆ แทบอยากจะตีเขา เจ้าคนนี้นี่! พูดเกินจริงก็ต้องมีขอบเขตบ้างสิ! เสด็จพ่ออย่างไรก็เป็นถึงกษัตริย์ แม้จะไม่ทราบรายละเอียดว่าการสร้างเมืองใช้เงินเท่าไร แต่ก็น่าจะพอรู้คร่าวๆ อยู่บ้าง สิบล้านตำลึงขึ้นไป เขากล้าพูดออกมาได้อย่างไร? นี่มันก็เหมือนกับการโกหกเสด็จพ่ออย่างโจ่งแจ้งเลยไม่ใช่หรือ? “พอแล้ว อย่ามาทำตัวพล่ามเป็นคนจนให้ข้าฟังเลย!” จักรพรรดิเหวินเหลือบมองหยุนเจิงด้วยหางตา “ข้าไม่ได้อยากได้เงินของเจ้าหรือธุรกิจทำเงินของเจ้า! และเจ้าก็อย่าหวังจะได้สักตำลึงจากข้าเลย ท้องพระคลังตอนนี้ไม่มีเงินให้เจ้าแล้ว!” พล่ามว่าจนหรือ? เขาอยากพล่ามว่าจนนักหรือ! ในปีนี้ ต้าเฉียนก็ถือว่าเจอภัยพิบัติไม่น้อย ใช้เงินไปเหมือนน้ำไหล ถ้าไม่ใช่เพราะเงินสะสมจากหลายปีที่ผ่านมา ราชสำนักคงอดอยากไปแล้ว! “ก็ได้ๆ!” หยุนเจิงพยักหน้ารับหลายครั้ง ในใจโล่งอกอย่างยิ่ง เขายังกลัวว่าเสด็จพ่อจะมาที่นี่เพื่อมารีดไถ โดยเ

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1389

    วันถัดมา จักรพรรดิเหวินที่เหนื่อยล้าจากการเดินทางก็ตื่นสายเล็กน้อย หลังจากรับประทานอาหารเช้าอย่างง่ายๆ จักรพรรดิเหวินก็ให้ทุกคนพาเดินสำรวจในเล่ออาน จักรพรรดิเหวินไม่ได้เปิดเผยฐานะตนเอง ไม่ได้พาผู้ติดตามมากมาย และยังปลอมตัวเล็กน้อยเพื่อเลี่ยงความยุ่งยาก หลังจากเดินสำรวจรอบเมือง จักรพรรดิเหวินก็ค่อนข้างพอใจ ระหว่างเดินบนถนนในเมือง จักรพรรดิเหวินก็ย่อตัวลงดูอะไรบางอย่าง “นี่มันอะไรหรือ?” จักรพรรดิเหวินชี้ไปที่ปูนระหว่างก้อนอิฐสองก้อนแล้วถาม “นี่คือปูนซีเมนต์” หยุนเจิงอธิบาย “มันทำหน้าที่เหมือนกาวข้าวเหนียว แต่มีความแข็งแรงกว่าเล็กน้อย และหาง่ายกว่า ไม่เปลืองข้าว แค่ปริมาณการผลิตยังน้อยอยู่” “สิ่งนี้ใช้ได้ทีเดียว!” จักรพรรดิเหวินลุกขึ้นช้าๆ “เจ้าเคยคิดจะขายปูนซีเมนต์นี้ไปพื้นที่เขตในหรือไม่?” “นั่นคงยากหน่อย” หยุนเจิงส่ายหัว “ซั่วเป่ยยังขาดปูนนี้มาก จะเอาไปขายที่เขตในได้อย่างไร? ยิ่งไปกว่านั้น สิ่งนี้ส่วนใหญ่ใช้ในงานของราชสำนัก ชาวบ้านทั่วไปไม่จำเป็นต้องใช้” “เช่นนั้น มันเทศล่ะ?” จักรพรรดิเหวินมองหยุนเจิงด้วยรอยยิ้ม “ข้าได้ยินมาว่ามันเทศในซั่วเป่ยป

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1388

    “ห้ะ?” หยุนเจิงเบิกตากว้างด้วยความตกตะลึง แทบไม่เชื่อหูตัวเอง “วางใจเถอะ ข้ารู้ขอบเขตดี” จักรพรรดิเหวินกล่าวด้วยรอยยิ้ม “นี่เป็นช่วงสำคัญที่เจ้าจะรวบรวมใจชาวเป่ยหวน แม้ข้าจะอยากไปบวงสรวงฟ้าดินที่เขาเทพหมาป่า แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลา ข้าเข้าใจดี” “เสด็จพ่อ นี่ไม่ใช่เรื่องของขอบเขตหรือไม่ขอบเขตนะพ่ะย่ะค่ะ!” หยุนเจิงคร่ำครวญแทบล้มประดาตาย “เสด็จพ่อจะไปเยือนวังหลวงเป่ยหวน เรื่องนั้นไม่มีปัญหา แต่เสด็จพ่อคิดดูเถิด หากเสด็จพ่อไป ลูกคงต้องนำทัพสักหมื่นสองหมื่นนายเพื่อคุ้มครองเสด็จพ่อใช่ไหมพ่ะย่ะค่ะ? ทัพหมื่นสองหมื่นนาย เดินทางหน้าหนาว ต้องขนเสบียงและเสื้อผ้ากันหนาวแค่ไหน? ไปกลับอย่างไรเสียก็ต้องใช้เวลาหนึ่งถึงสองเดือนใช่ไหมพ่ะย่ะค่ะ?” นี่ยังไม่รวมว่าต้องออกเดินทางจากค่ายใหญ่เขาห่านป่าหวนกลับ! หากออกเดินทางจากที่อื่น เวลาก็ยิ่งนานกว่านี้! นี่เป็นการเดินทางของฮ่องเต้นะ! จะให้เดินทางเร่งด่วนตลอดทางก็ไม่ได้! ต่อให้เสด็จพ่ออยากไปจริง ก็ควรรอเวลาที่เหมาะสมกว่านี้! “สักสองเดือนก็สักสองเดือนเถอะ!” จักรพรรดิเหวินกล่าวอย่างไม่ใส่ใจ “อย่างไรเสีย เจ้าก็ไม่จัดงานแต่งกับเจียเ

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1387

    จักรพรรดิเหวินหยุดครู่หนึ่ง ก่อนถ่ายทอดคำที่จักรพรรดิพระองค์ก่อนเคยกล่าวไว้ให้หยุนเจิงฟัง ผู้เลี้ยงแกะในมือนั้น ต้องมีผืนดิน หมาป่า แกะ และสุนัข! ผืนดิน คือกฎเกณฑ์ ขีดเส้นจำกัดไว้เป็นคอก หมาป่าคือภัยคุกคาม บอกฝูงแกะว่าอย่าได้วิ่งพล่าน ในพื้นที่ที่ขีดเส้นให้เท่านั้นจึงจะปลอดภัยจากหมาป่า แกะ คือหัวหน้าฝูง ขณะเลี้ยง หากควบคุมหัวหน้าฝูงได้ ฝูงแกะก็จะไม่หลงทาง สุนัขช่วยต้อนฝูงแกะ นำแกะที่ไม่เชื่อฟังกลับเข้าฝูง เมื่อได้ฟังคำพูดของจักรพรรดิเหวิน หยุนเจิงก็อดไม่ได้ที่จะตระหนักในทันที ไม่ต้องสงสัยเลยว่า จางฮว๋ายก็คือหัวหน้าฝูงแกะตัวนั้น ไม่ว่าจะเป็นจักรพรรดิพระองค์ก่อนหรือเสด็จพ่อ ต่างก็ต้องการหัวหน้าฝูงตัวนี้เพื่อควบคุมฝูงแกะ ผ่านไปครู่หนึ่ง หยุนเจิงก็เอ่ยถามอีกครั้งว่า “เสด็จพ่อคงไม่ได้คิดจะส่งเกาซื่อเจินมาให้ลูกเป็นหัวหน้าฝูงใช่ไหม?” “เจ้าคิดว่าเกาซื่อเจินมีความสามารถจะเป็นหัวหน้าฝูงหรือ?” จักรพรรดิเหวินเผยรอยยิ้มเหยียดหยาม กล่าวอย่างมีนัยว่า “หัวหน้าฝูงไม่ใช่ว่าใครจะเป็นได้!” เช่นนี้เองหรือ? หยุนเจิงครุ่นคิดอยู่ในใจ จริงแท้ เกาซื่อเจินไม่มีความสามาร

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1386

    คนเราไม่ใช่หญ้าหรือไม้ ใครเลยจะไร้ซึ่งความรู้สึก? แต่ตราบใดที่ขึ้นนั่งบนบัลลังก์จักรพรรดิ หลายเรื่องก็จะมิอาจทำตามใจตนได้อีก เมื่อได้ขึ้นครองราชย์ ไม่ว่าเจ้าจะมีสถานะอื่นใดมากมาย สถานะแรกของเจ้าก็คือจักรพรรดิ! “ความจริง ลูกไม่ได้คิดถึงตำแหน่งนั้นมากมายเลยพ่ะย่ะค่ะ” หยุนเจิงกล่าวอย่างจริงจัง “ก็เพราะลูกเข้าใจสิ่งที่เสด็จพ่อพูด ลูกถึงไม่อยาก…” “เจ้าคิดว่าตอนนี้ยังเป็นเรื่องที่เจ้าเลือกเองได้หรือ?” จักรพรรดิเหวินตัดคำพูดของหยุนเจิงทันที “หากเจ้าไม่ขึ้นครองราชย์ แล้วผู้คนภายใต้บังคับบัญชาของเจ้าจะเป็นเช่นไร? บรรดาแม่ทัพผู้สร้างผลงานยิ่งใหญ่เหล่านี้ ใครเล่าจะทำให้พวกเขารู้สึกวางใจได้ นอกจากเจ้า?” เพราะผลงานสูงจนสั่นคลอนพระราชอำนาจใช่หรือไม่? หยุนเจิงยิ้มอย่างจนปัญญา ในข้อนี้ เขาเองก็เห็นด้วย นับแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน มีแม่ทัพมากมายที่สร้างผลงานยิ่งใหญ่แต่ต้องจบชีวิตอย่างน่าเศร้า เพียงเมื่อพวกเขาสิ้นชีวิต จักรพรรดิจึงจะวางใจได้ ไม่ฉะนั้น เมื่อแม่ทัพผู้เกรียงไกรส่งเสียงเรียก ใครเล่าจะไม่เกรงกลัว? “เรื่องในวันข้างหน้า ไว้ค่อยว่ากันเถิดพ่ะย่ะค่ะ!” หยุนเจิงไ

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1385

    หยุนเจิงเล่าเรื่องนี้กินเวลาเกือบครึ่งชั่วโมง ระหว่างนั้น จักรพรรดิเหวินแทบไม่พูดแทรก เพียงแต่ทานหม้อไฟร้อนๆ พร้อมจิบสุราไปพลาง จนกระทั่งหยุนเจิงพูดจบ จักรพรรดิเหวินจึงวางตะเกียบลง พร้อมมองหยุนเจิงตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยสีหน้าสงสัย “เสด็จพ่อ มองลูกเช่นนี้ทำไม?” หยุนเจิงถูกมองจนขนลุก ในใจแอบคิดว่า หรือว่าตาแก่คนนี้จะมีแผนร้ายอีกแล้ว “ใครสอนเรื่องพวกนี้ให้เจ้า?” จักรพรรดิเหวินมีสีหน้าเต็มไปด้วยความสงสัย “อย่ามาอ้างว่าหนังสือแปลกประหลาดเล่มนั้นสอนเจ้า ข้าไม่เชื่อว่าหนังสือจะมีเรื่องพวกนี้!” ศาสตร์แห่งจักรพรรดิ! นี่ไม่ใช่สิ่งที่จะเรียนรู้จากหนังสือได้ และอาจารย์ก็ไม่สามารถสอนเรื่องพวกนี้ กระทั่งองค์ชายส่วนใหญ่ยังไม่มีโอกาสได้ศึกษาเรื่องศาสตร์แห่งจักรพรรดิอย่างลึกซึ้ง แล้วหยุนเจิงที่เคยใช้เวลาอยู่แต่ในจวนปี้ปัวนั้น ใครกันที่สอนเรื่องพวกนี้ให้เขา? หรือว่าเขาจะเข้าใจสิ่งเหล่านี้ได้เอง? หยุนเจิงหัวเราะเบาๆ “เมื่อก่อนลูกไม่มีอะไรทำ ก็มักอ่านพงศาวดารบ่อยๆ เรื่องพวกนี้ลูกเรียนรู้มาจากพงศาวดาร” “ไร้สาระ!” จักรพรรดิเหวินตอบกลับอย่างไม่สุภาพ “หากเรียนรู้เรื่อง

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1384

    จากทางใต้จนถึงซั่วเป่ยระยะทางไกลถึงเพียงนี้ ระหว่างทางไม่มีความช่วยเหลือจากทางการ หรือทางการไม่อนุญาตให้ผ่าน เหล่าผู้ประสบภัยแม้จะมีปีกบิน ก็ใช่ว่าจะบินมาถึงซั่วเป่ยได้ “เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับข้าเลย ทั้งหมดเป็นเรื่องที่พี่สามของเจ้าจัดการ” จักรพรรดิเหวินหัวเราะเยาะตนเองเบาๆ “พอเถอะ อย่าเพิ่งพูดถึงเรื่องนี้อีก! เจ้าพูดวกไปวนมานานนักแล้ว มีข้ออ้างอะไรที่ดีกว่านี้หรือไม่?” ยังจะพูดถึงเรื่องนี้อีกหรือ? เรื่องนี้จะหลีกเลี่ยงไม่ได้เลยหรือไร? หยุนเจิงในใจเต็มไปด้วยความอึดอัด จึงไม่อยากแต่งเรื่องอ้างใดๆ อีก กล่าวตรงๆ ว่า “ลูกไม่ปิดบังเสด็จพ่อแล้ว ลูกไม่อยากจัดพิธีสมรสกับเจียเหยาเลยสักนิด! ลูกคิดว่าลูกกับเจียเหยาแค่มีสถานะเป็นสามีภรรยาก็เพียงพอแล้ว ไม่มีความจำเป็นต้องจัดงานสมรสใหญ่โตให้เปลืองแรงและสิ้นเปลืองทรัพย์สินหรอก” จักรพรรดิเหวินหรี่ตาลงเล็กน้อย สีหน้าดูไม่สบอารมณ์ มองหยุนเจิงพร้อมกล่าวว่า “ข้าลำบากวุ่นวายเตรียมงานมานานถึงเพียงนี้ แม้แต่ปีใหม่ยังไม่ได้อยู่ฉลองในเมืองหลวง แต่ต้องมาเตรียมงานสมรสให้เจ้า หากเจ้าไม่จัดพิธีสมรส ข้าก็คงกลายเป็นคนหน้าไม่อายแล้ว! เจ้าลองพูดดูสิ ว

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1383

    จักรพรรดิเหวินให้เวลาหยุนเจิงคิดเหตุผลมาแก้ตัวอย่างเต็มที่ พระองค์เองก็ค่อยๆ ลิ้มรสอาหารอย่างไม่รีบร้อน “เนื้อนี้ค่อนข้างเหนียวไปหน่อย” จักรพรรดิเหวินเคี้ยวเนื้อในปากแล้วกลืนลงไป จากนั้นก็เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบๆ “ดูท่าว่าข้าจะแก่แล้วจริงๆ ฟันของข้าไม่เหมือนเดิมแล้ว” “……” หยุนเจิงหน้ามืด หัวเราะอย่างขื่นขมพลางมองไปที่จักรพรรดิเหวิน “ลูกจะให้คนไปหาในเมืองดูดีไหมพ่ะย่ะค่ะ ว่ามีลูกวัวอยู่บ้างหรือเปล่า แล้วให้พวกเขาเชือดมันสดๆ เอาเนื้อมาถวาย?” เหนียวอะไรกัน! ไม่ใช่ว่ากำลังอ้อมค้อมจะบอกว่าตนเองโตพอที่จะไม่ฟังคำสั่งแล้วหรือไร? จักรพรรดิเหวินหยุดมือเล็กน้อย ก่อนจะมองหยุนเจิงด้วยสายตาทั้งขบขันและหงุดหงิด “เจ้าตั้งใจจะยั่วข้าใช่ไหม?” “มิบังอาจพ่ะย่ะค่ะ!” หยุนเจิงส่ายหัวพร้อมยิ้ม “เสด็จพ่อเสด็จมาไกลถึงเพียงนี้ ลูกจะไม่รับรองเสด็จพ่ออย่างดีได้หรือพ่ะย่ะค่ะ?” “ช่างเถอะ! ข้าไม่กล้าสั่งให้เจ้าเชือดลูกวัวเพื่อมารับรองข้าหรอก” จักรพรรดิเหวินเอ่ยอย่างเรียบๆ “วัวเป็นรากฐานของเกษตรกรรม รอให้ลูกวัวโตแล้วใช้มันไถนาเพื่อประโยชน์ของราษฎรจะดีกว่า!” แค่นี้ก็จบแล้วไม่ใช่หรื

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1382

    บัดนี้ ในห้องเหลือเพียงพวกเขาสี่คนแล้วจักรพรรดิเหวินหันไปมองเมี่ยวอินอีกครั้ง “เจ้าคือเมี่ยวอินใช่หรือไม่? ข้าจำได้ว่า ข้าได้มีพระราชโองการแต่งตั้งเจ้าเป็นชายารองของเจ้าหกแล้วไม่ใช่หรือ? เมื่อเห็นข้าแล้ว เหตุใดเจ้าจึงไม่เรียกเสด็จพ่อสักคำ?” เมี่ยวอินค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมองจักรพรรดิเหวินด้วยสีหน้าซับซ้อน “หากพระองค์เป็นหญิงสาวธรรมดาเฉกเช่นหม่อมฉัน พระองค์จะสามารถเรียกคำว่าเสด็จพ่อออกมาจากปากได้หรือเพคะ?” “ก็คงยากที่จะพูดออกมา” จักรพรรดิเหวินไม่ได้โกรธ “ข้าได้สั่งประหารครอบครัวของเจ้า แต่ข้าก็ได้ประหารลูกชายของตัวเองเช่นกัน!” “แม้ข้าจะเสียใจ แต่ข้าจะไม่ยอมรับผิดต่อเจ้า และจะไม่ร้องขอการให้อภัยจากเจ้า!” “ข้ายังคงยืนยันคำเดิม ไม่ว่ารัชทายาทองค์ก่อนจะถูกใส่ร้ายจนต้องก่อกบฏหรือไม่ แต่ตราบใดที่เขาชักธงขึ้นแล้ว เรื่องนี้ย่อมไม่มีทางย้อนกลับไปได้!” “ข้าเป็นผู้นำครอบครัว แต่เหนือสิ่งอื่นใด ข้าคือกษัตริย์ของแผ่นดินนี้!” คำพูดของจักรพรรดิเหวินหนักแน่นดุจหินผา แม้แต่เขาเองก็ไม่คิดว่าเมื่อมาถึง สิ่งแรกที่เขาต้องเผชิญคือเรื่องของเมี่ยวอิน “ใช่เพคะ!” เมี่ยวอินยิ้มเจื่อน “ห

DMCA.com Protection Status