ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด แกร๊ก
"เตอร์ เสร็จรึยังจะสายแล้วนะ" เพราะวันนี้มีเรียนช่วงเช้า และเหมือนทุกวันที่ฉันต้องมาตามเขาไปเรียนพร้อมกัน "ยังไม่เสร็จ มินช่วยเตอร์ทีซิ" เขาเดินออกมาจากห้องน้ำมองฉันด้วยสายตาเจ้าเล่ห์ แต่ตาของฉันดันไปหยุดที่แผงอกแกร่งแถมเปลือยเปล่ามีหยดน้ำเกราะ ซิกแพคแน่นๆ นั่นอีก ทั้งตัวของเขาเวลานี้มีเพียงผ้าขนหนูที่ผูกเอวไว้อย่างหมิ่นเหม่ ทั้งๆ ที่ฉันควรจะชินกับภาพนี้ที่เห็นเกือบทุกวัน ทั้งๆ ที่เขาเป็นเพื่อนสนิทของฉัน แต่ใจฉันดันสั่นไหว หน้าอดร้อนผ่าวไม่ได้เลย "ช่... ช่วยอะไร" "อืมมมม มินอยากช่วยอะไรละ หึ" พอเห็นแก้มแดงๆ ของยัยซื่อบื่อ ผมก็อดจะก้มหน้าเข้าไปใกล้ๆ ไม่ได้ แค่อยากจะแกล้งเธอสักหน่อย "ถอยเลยเตอร์ มา... มินเป่าผมให้" "หึ" "มินทำแซนวิชมาเผื่อ กินในรถแล้วกันเนอะ" "ในรถเหรอ เตอร์ไม่ติดนะ" "เตอร์!!" "ครับผม" ยัยซื่อบื่อจะรู้มั๊ยว่าเสียงดุของเธอนั้นมันเหมือนเสียงลูกแมวที่กำลังขู่แค่ไหน... "โหยยย อาจารย์โหดชะมัดเลย" เสียงและท่าทางงอแงของมายเกิดขึ้นหลังจากจบคลาส เมื่อความเครียดเข้ามา ร่างกายก็ต้องการปะทะของหวาน "มินนี่ ชาเย็นตัดขาต้องเข้าฉันละนะ" "ได้สิ ฉันยกน้ำตาลให้แกกับลลิลหมดร้านเลย เตอร์ มินไปกับมายและลลิลก็ได้นะ" ประโยคแรกฉันพูดเล่นกับยัยมายลลิล ก่อนที่จะหันไปพูดกับแก๊งค์หนุ่มหล่อที่คอยเดินตามหลัง "อืม เดี๋ยวตามไป" ผมที่กำลังแยกกับพวกสาวๆ ต้องหยุดชะงัก คิ้วผมผูกเป็นปมอย่างไม่มีสาเหตุสายตาเหลือบไปเห็นผู้ชายที่ชนมินเมื่อวันก่อนกำลังเดินเข้ามาหายัยซื่อบื่อที่กำลังยิ้มร่าเริงอยู่นั่น "มินใช่มั๊ยครับ เรากันต์นะ" ฉันว่าฉันคุ้นหน้ากันต์นะ แต่ฉันจำไม่ได้ว่าเคยเจอที่ไหน ยัยเพื่อนตัวแสบทั้งสองคนก็ยืนม้วนเขินไปมาให้กับความหล่อใสของผู้ชายตรงหน้าอยู่ข้างฉัน "มิน เตอร์เปลี่ยนใจแล้ว เตอร์จะไปพร้อมมินเลย" อีกแล้ว... มาอีกแล้วเสียงเข้มยิ่งกว่าอเมริกาโน่ไม่ใส่น้ำตาล... "อื้อออ ไอ้บ้าเตอร์" ฉันร้องดังลั่นไม่สนสายตาหลายคู่ที่จ้องมองมา จะเพราะใคร มีเขาคนเดียวนั่นแหละที่กล้าเอามือหนามาบีบปากฉัน "ยิ้มอยู่ได้ น่ารำคาญ" "เอ้า" "กลับคอนโดเลยนะ ไม่ต้องเข้าร้าน" เขาพูดอย่างเอาแต่ใจ "ได้ไงเตอร์ มินนัดมายกับลลิลไว้นะ" "ให้ไอ้สองคนนั้นไปเป็นเพื่อน" ทั้งๆที่ เขาขับรถสปอร์ตหรู แต่ทำไมวันนี้ฉันรู้สึกว่าเสียงแอร์ดังมาก ไม่มีเสียงเพลงคลอเบาเบา ไม่มีคำพูดกวนกวนออกมาจากปากเขาเหมือนเช่นทุกวัน มีแต่เขาที่ทำหน้ายักษ์เหยียบคันเร่งสุดแรง เพราะความบังเอิญตอนปีหนึ่งที่เราสองคนต้องทำรายงานคู่กัน ทำให้ฉันกับเขาเริ่มสนิทจนรวมกลุ่มสามสาวสวยของฉันกับแก๊งค์หนุ่มหล่อของเขา เขาเหมือนพลังงานบางอย่าง ไม่สิ!เหมือนเงาของฉันมากกว่า "เตอร์กินผัดกระเพรามั๊ยมินทำให้" นี่แหละหน้าที่ฉัน เป็นแม่ครัวให้เขาตอบแทนที่เขาคอยขับรถรับส่งฉัน "อืม" "enjoy na tutor ^____^" ผมเดินหลบเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าด้วยชุดสบายๆ ออกมาก็สะดุดกับโน้ตที่เธอทิ้งไว้ กระเพราไข่ดาวหน้ายิ้ม "หึ" เมนูโปรดเวลาที่ผมรู้สึกหงุดหงิด ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด แกร๊ก "อ้าว เตอร์" เธอหันมายิ้มให้ผมที่เปิดประตูห้องเธอเข้ามา รอยยิ้มนั่นหน่ะ ควรเป็นของผมที่เป็นเพื่อนสนิทเธอเท่านั้น ผมล้มตัวลงนอนบนโซฟาแล้วหนุนตักเธอก่อนจะหยิบมือถือขึ้นมาเล่น ส่วนเธอก็นั่งทำงานส่งอาจารย์อยู่เงียบๆ ตักของยัยซื่อบื่อมันนุ่มกว่าหมอนผมซะอีกเกือบ 2 ชั่วโมงที่ผมนอนหนุนตักเธอเล่นเกมส์ พอเงยหน้าขึ้นมาอีกทีก็เห็นเธอนั่งสัปหงกไปมา มือของผมเลยอยากจะซนลองบีบแก้มป่องๆ ของเธอเล่น ยัยซื่อบื่อก็คือยัยซื่อบื่ออยู่วันยันค่ำแถมยังขี้เซาอีก "หึ" ห้องแชท 'TTKN'KKAY : ไอ้เตอร์ เรียนเชิญเข้าร้านคับK.NAI: รีบมาผมเปิดอ่านแชทสองคนนั้นที่ตามให้ผมเข้าร้านแต่ไม่ตอบ ผมแค่หายไปไม่กี่ชั่วโมงพวกมันก็ตามกันแล้ว ทีหายกันไปเป็นวัน ผมยังไม่เคยตามพวกมันเลย ถ้าเจอหน้าผมจะบวกค่าเหล้าเพิ่ม ส่วนยัยซื่อบื่อนี่ ผมคงต้องอุ้มเธอไปนอนที่เตียงดีดีไม่งั้นมีหวังคอเคล็ดต้องลำบากผมพาไปหาหมออีก"มึงกับมินนี่ยังไงวะ ตัวติดกันเกิน" ทันทีที่ผมเดินมาที่โต๊ะ VVIP ไอ้นายก็ยิงคำถามใส่ผม"ไม่ยังไง" "คับ ไม่ยังไงคับ กูสองคนจดไว้หมดละ ตั้งแต่ปีหนึ่ง" ไอ้กายนี่อีกคนขยันนักเรื่องของผม ผมได้แต่ส่ายหัวอย่างเบื่อหน่ายให้กับความวุ่นวายของพวกมันสองคนก่อนจะยกแก้วจนหมด"ตามรับตามส่งตั้งแต่ปีหนึ่ง ตามใจเขาทุกอย่าง ผู้ชายคนไหนก็เข้าใกล้ไม่ได้ หึหึ" ไอ้กายนี่มันพูดมากจริงๆ"มินน่ารักขนาดนั้น ใครๆก็ชอบ ยิ่งเวลายิ้ม ขนาดกูเป็นเพื่อนกูยังเคลิ้มเลย"ปึก! แก้วของผมกระทบกับโต๊ะอย่างแรง ผม
จุ๊บ จุ๊บ จุ๊บผมลองยื่นปากไปจุ๊บปากอวบอิ่มของเธอเบาเบาสามที แต่เป็นสามทีที่ผมแทบจะอดใจไม่ไหว ตากลมโตเหมือนลูกแมวจ้องมองมาที่ผม แก้มพองๆนุ่มๆหอมๆ ทำผมห้ามใจไม่ได้อีกต่อไปอยากจะชิมปากเล็กเล็กที่คอยเอาแต่บ่นผมสักหน่อยว่ามันจะหวานมากแค่ไหน หวานเหมือนคาราเมลมัคคิอาโต้ที่เธอชอบรึเปล่า"อื้อ" ฉันร้องท้วงขึ้นพร้อมกับรัวมือทุบที่แผงอกแกร่งเพราะเริ่มหายใจไม่ออก เขาจูบฉันอยู่นานนับนาที แถมมือปลาหมึกของเขายังค่อยๆ เลื่อนเข้ามาในเสื้อนอนลายการ์ตูนของฉัน มือหนาลูบไล้แผ่นหลังบางไปมาอย่างแผ่วเบาทำฉันขนลุกซู่ รู้สึกมวนท้องเหมือนมีฝูงผีเสื้อมาบินเล่นอยู่ข้างในผมค่อยๆ ถอนริมฝีปากออกอย่างอ้อยอิ่ง ก่อนจะพลิกตัวให้เราสองคนนอนตะแครงหันหน้าเข้าหากันโดยที่สองแขนของผมยังคงกอดเธอเอาไว้ 'ฟอดดด' ผมกดจมูกลงที่แก้มนุ่มของเธอซ้ำๆฟอดใหญ่ และกระชับอ้อมกอดแน่นให้ใบหน้าแดงๆ ของเธอซบเข้าที่แผงอก มือก็คอยลูบผมเธอเบาเบาราวกับขับกล่อมเธอ ไม่รู้ว่าตอนนี้ เธอจะได้ยินเสียงหัวใจของผมมั๊ย แต่ที่แน่ๆ คืนนี้ ผมคงนอนหลับสนิทกว่าคืนไหนๆ และหวังว่าเธอจะฝันดีไปพร้อมกับผมตุบ! ผมลืมตาตื่นขึ้นทันทีที่มีอะไรเหวี่ยงมาที่ท้องผม พอมองด
"ไว้ว่าง ๆ เราขอนัดสาวสาวช่วยมาเป็นนางแบบให้เราได้มั๊ย เราอยากเก็บโปรไฟล์หน่ะ" "ได้สิ พวกเราเต็มใจมาก" ฉันได้แต่ส่ายหัวไปมากับลลิล เพราะยัยมายตอบรับกันต์ทันทีไม่ถามฉันสองคนสักคำ"อยากได้ฟิลไหนขอให้บอก แต่บอกล่วงหน้านะ พวกเราจะได้เอฟชุดทัน คิก คิก" ออกนอกหน้ามากยัยมาย ฉันกับลลิลเบะปากมองบนพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย"ว่าแต่... น่ารักกันขนาดนี้ รับบัตรคิวได้ที่ไหนหรอ" ถึงปากกันต์จะเอ่ยถามมายอย่างทีเล่นทีจริง แต่สายตาของเขากลับเหล่มองมาที่ฉันอย่างปิดไม่มิด หล่อหล่อใสใสอย่างเขาแถมคุยก็เก่งถ่ายรูปก็สวย ฉันแอบเห็นในไอจีของเขาที่ยัยมายเปิดให้ดู ก็ว้าวมาก โปรไฟล์ดีขนาดนี้ผู้หญิงในสต๊อกคงแน่นน่าดู เพราะขนาดเตอร์ที่ดูนิ่งนิ่งกับคนอื่น สาวสาวยังแย่งกันต่อแถวยาวพอพอกับแถวกดบัตรคอนเลยก็ว่าได้ ฉันที่ยังไม่ทันได้อ้าปากยัยสองคนนั้นก็พากันประสานเสียงตอบกันต์ด้วยท่าทางที่ใครเห็นก็ต้องหลงเพราะความสดใสของพวกนาง"เชิญรับบัตรคิวทางนี้ได้เลยคร้าาาา" พร้อมทำสองมือส่งมินิฮาร์ทให้กับเขา ฉันได้แต่ยกมือขึ้นมากุมขมับ กันต์นั่งคุยเล่นกับพวกเราต่อสักพักก่อนจะขอตัวกลับเพราะมีถ่ายงานต่อ ทำไมนะทำไม อยู่อยู่ฉันก็รู้สึกห
"มิน รอเตอร์ก่อน" ผมรีบวิ่งไปจับนิ้วก้อยเล็กเล็กของเธอมาเกี่ยวไว้กับนิ้วก้อยของผม มินงอนผมตั้งแต่ผมขึ้นเสียงใส่เธอในรถ ก็เธอเล่นพูดว่าจะสนิทกับไอ้หมอนั่นมากกว่าผม ใครจะทนไหว ผมไม่มีทางยอมง่ายง่ายแน่ ไหนจะตอนที่อยู่ในร้านอีก ทำไมต้องนั่งใกล้กันขนาดนั้น ผมไม่เข้าใจ น่าหงุดหงิดชะมัด แทนที่ควรจะเป็นผมที่ต้องคิดบัญชีกับเธอ กลับกลายเป็นผมที่ต้องวิ่งตามเธออย่างตอนนี้ พอเข้ามาในร้านปิ้งย่างที่พวกนั้นนั่งรออยู่ก่อน ผมรีบดันตัวเธอให้เข้าไปนั่งด้านในก่อนที่ผมจะแทรกตัวเข้าไปนั่งข้างๆ เพราะกลัวว่าเธอจะหนีไปนั่งข้างแก๊งค์เพื่อนสาว"ชาเขียวเย็นไม่หวานสอง" ผมรีบสั่งน้ำของมินกับผม เผื่อว่าน้ำเย็นๆ ชื่นๆใจ จะช่วยลดอาการงอนของเธอลงบ้าง นิดหน่อยก็ยังดี ระหว่างที่ผมกับเพื่อนๆ ย่างเนื้อกันอยู่ ผมก็ไม่ลืมที่จะคอยย่างและคีบเนื้อไปวางไว้ในจานเธอโดยเฉพาะเห็ดออรินจิที่เธอชอบ ส่วนมือข้างที่ว่างอยู่ก็ไปดึงมือนุ่มนิ่มของเธอมาจับไว้บีบเล่นอยู่ใต้โต๊ะ เพราะไม่อยากให้พวกนั้นเห็นแล้วแซวผมกับมิน เดี๋ยวเธอจะเอามาพาลงอนผมอีก แค่ข้อเดียวตอนนี้ ผมก็ร้อนรนจะแย่"มาย ลลิล ไปกินไอติมกันต่อมั๊ย เราเลี้ยงเอง" ผมที่กำลังงัดแผนสอ
'ฟอดดดดด'ผมยักคิ้วเข้มยิ้มกรุ่มกริ่มและมองไปที่เธอ หลังจากที่จมูกโด่งโด่งของผมจัดการเข้ากับแก้มนุ่มๆ ของเธอได้สำเร็จ "หึ" หน้าเธอตอนนี้น่าตลกชะมัด ใบหน้าจิ้มลิ้มแดงระเรื่อ ตากลมโตเบิกกว้าง ปากเล็กเล็กอ้าค้างอยู่นานนับนาที คงจะตกใจที่โดนผมจู่โจมอย่างไม่ทันตั้งตัว ผมที่กำลังจะก้มไปจัดการกับแก้มหอมหอมของเธออีกข้างนั้น"โอ๊ะ โอ๊ยยย มิน มิน เตอร์เจ็บ ไม่แกล้งแล้วๆ" กลับกลายเป็นผมที่โดนเธอกระโดดกอดคอแล้วงับเข้าที่แก้มสากข้างขวา ดูท่าแล้วราตรีนี้ยังอีกยาวไกล และการกลับไปนอนที่ห้องตัวเองก็ไม่ได้อยู่ในแผนของผมในคืนนี้ซะด้วยสิ ผมใช้สองมือหนาของผมล๊อคเข้าที่ต้นขาของเธอให้พอตั้งหลัก เธอพลาดเองที่เอาสองขาเล็กเล็กมาเกี่ยวเข้ากับเอวสอบของผมไว้คงจะกลัวตก จากนั้นผมเดินพาเธอไปวางไว้บนเตียงก่อนจะพาตัวผมลงไปนอนทาบกับตัวเธอ โดยใช้ข้อศอกทั้งสองข้างยันไว้กับที่นอนเพื่อช่วยยกตัวผมขึ้นให้ห่างจากเธอเล็กน้อย อยากจะมองหน้าหวานหวานนี้ใกล้ใกล้อีกครั้งและอีกครั้ง... "เตอร์นอนด้วยนะ นอนเฉยเฉย" "ไม่น่าไว้ใจตรงนอนเฉยเฉยนี่แหละ" "หึ ได้หรอ" ผมเลิกคิ้วแกล้งถามเธอเล่น"ไอ้บ้าเตอร์! " "โอเค โอเค เตอร์ไม่แกล้ง ไม่แกล
เป็นคำถามที่ผมแค่แกล้งลองถามเธอไป ยังไม่ได้ต้องการคำตอบจากเธอตอนนี้ ผมจึงเฉไฉหยิบชามข้าวต้มของเราสองคนที่ทานเสร็จแล้วไปเก็บในครัวแทน แล้วเดินกลับไปหาเธอที่นั่งทำหน้าเอ๋ออยู่ที่เดิม"ไปอาบน้ำก่อนนะ ยัยซื่อบื่อ" ก่อนจะใช้มือสากหนาของผมผลักศีรษะเธอเบาเบา"เตอร์ไปนั่งเล่นเกมส์รอที่ร้านกาแฟชั้น3นะ" "กลับก่อนก็ได้นะเตอร์""จะรอ" "แกกับเตอร์นี่ ใช่แฟนมั๊ย พูด!!" ทันทีที่ฉันเดินเข้ามาหาสองสาว ยัยมายที่มาในลุคลูกคุณแบบที่นางชอบ ก็ยิงคำถามใส่ฉันไม่ปล่อยให้ฉันหายเหนื่อยก่อนบ้างเลย"แฟนอะไร ใครแฟน ก็เพื่อนกันป๊ะ" ฉันตอบไปแบบนั้นถึงแม้จะเสียงสูงไปสักหน่อยเพราะแอบหวั่นไหวกับคำถาม แต่มันก็คือเรื่องจริงนี่นา... "เพื่อนแบบใดก่อน" ลลิลนี่ก็อีกคนเอากับเขาด้วย อยากจะขอหยิกแก้มกลมๆ ของนางกลางห้างดังให้หายหมันเขี้ยวสักที"แบบพวกแกสองคนนี่แหละ ป่ะ รีบไปช๊อปกันดีกว่า" ฉันเนียนเปลี่ยนเรื่องทันที แล้วจูงมือนักข่าวสาวสุดสวยทั้งสองคนเดินเข้าเคาเตอร์แบรนด์ดัง ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นที่พวกเรานัดกันไว้"โก โก" "มิน แกลองใส่ชุดนี้สิ" ยัยมายผู้รับบทสไตล์ลิสให้ฉันกับลลิลเดินถือชุดเดรสเกาะอกกระโปรงจั๊มสั้นสีชมพูพร้อมก
เตอร์ขับรถมาส่งฉันที่คอนโดตามปกติก่อนจะรีบร้านของเขาต่อ แถมยังใจดีถือของขึ้นมาให้อีก บทจะน่ารักก็น่ารัก บทจะน่าหยุมก็สุดสุด ฉันที่ตอนนี้นั่งจัดของที่ซื้อมาก็ต้องส่ายหัวให้กับความไม่มีสติของตัวเอง เสื้อผ้าเอย เครื่องประดับกระจุกกระจิกเอย ไหนจะชุดพาเลตแบรนด์ดังอีก สงสัยคงต้องงดช๊อปสักสองเดือน ไม่อย่างนั้นมีหวังใส่ไม่ทันแน่แน่ "ยัยซื่อบื่อ เสร็จยัง" ผมนั่งเล่นเกมส์รอเธอแต่งตัวอยู่ที่ห้องนั่งเล่น ผ่านไปกว่าหนึ่งชั่วโมงแล้วก็ยังไม่ออกมา จะแต่งอะไรเยอะแยะ แกร๊กเสียงประตูดังขึ้น พร้อมกับกลิ่นน้ำหอมอ่อนอ่อนที่เธอชอบใช้ประจำ ผมรีบหันไปมองเตรียมจะบ่นสักหน่อย"มิน" เสียงผมแผ่วเบาจนแทบจะไม่ได้ยินทันทีที่เห็น เธอใส่เสื้อครอปสายเดี่ยวที่หนาประมาณสองนิ้วผ้าลูกไม้สีขาวลายดอกไม้สีชมพูโชว์เอวขาวบางนิดหน่อย ทำผมอยากจะเดินเข้าไปหยิกสักทีสองที กับกระโปรงยาวสีขาวผ้าลูกไม้ลายเดียวกัน ผมสีน้ำตาลคาราเมลม้วนลอนถูกเกล้าขึ้นสูงพร้อมผูกโบว์ดูน่ารัก ไหนจะปากเล็กเล็กที่ทาด้วยลิปสีชมพูพีชและตากลมโตที่มีเส้นสีอายไลเนอร์ตรงหางตา เธอน่ารักมาก...น่ารักเหมือนตุ๊กตาจนผมอยากเข้าไปกอด ใจเตอร์มันสั่นไหวไปหมดแล้วมิน"เตอ
"เตอร์ วันนี้มินไปร้านเตอร์ด้วยสิ" "ทำไม" "มินอยากไปเช็คเรทติ้ง " "หืม"เราสองคนกำลังดูซีรีย์เรื่องโปรดของเธอ ผมที่นอนอยู่บนโซฟา เงยหน้าเลิกคิ้วเข้มมองเธอที่นั่งอยู่ใกล้ ยัยซื่อบื่อนี่นะชอบหาเรื่องให้ผมคอยแกล้งอยู่เรื่อย ผมค่อยค่อยเลื่อนตัวขึ้นและพลิกตัวเล็กน้อยจนหน้าผมอยู่บริเวณซอกคอขาวหอมของเธอ อยากจะงับสักที"เตอร์เช็คให้ เตอร์เช็คเก่ง" "ชะ เช็คยังไง"เธอเหมือนแมวน้อยขนพองพยายามย่นคอหนีผม เมื่อลมหายใจอุ่นๆ ของผมกระทบเข้ากับผิวของเธอ"ก็เช็คคค...ทุกซอกทุกมุม หึ" "เช็คบ่อยละสิ" ฉันพยายามใช้สองมือดันอกแกร่งไว้ และมองสู้สายตาเจ้าเล่ห์ของเขาที่มันดูมีประกายระยิบระยับ สู้มา สู้กลับ ไม่โกง! "ไม่บ่อย แค่กับมิน""ลองมั้ย"ผมใช้หน้าผากกว้างของผมแตะกับหน้าผากมนของเธอ เอ่ยถามแผ่วเบา "ละ ลองอะไร""ลองให้เตอร์เช็ค ตรงนี้ ตรงนี้ และตรงนี้" ผมใช้ริมฝีปากชมพูคล้ำของผมไปจูบที่ริมฝีปากอวบอิ่มสีชมพูพีช ที่แก้มป่องๆ สองข้าง และเปลือกตาที่มีขนตางอนยาวทั้งซ้ายและขวา"ลองเช็คคค... ตรงนี้"ผมกระซิบข้างหูเล็กของเธอเบาเบา ก่อนจะก้มไปจูบซอกคอหอมหอมของเธอหนึ่งครั้ง...ที่ไหปลาร้าหนึ่งครั้ง...ที่หัวไห
หลังจากวันนั้นที่เขาขอฉันแต่งงาน งานแต่งของเราสองคนก็ถูกจัดขึ้นหลังจากนั้นสองเดือนทันทีที่เราฝึกงานเสร็จ เราเลือกหนึ่งในโรงแรมของกายเป็นสถานที่จัดงาน เชิญแขกและญาติผู้ใหญ่ของสองครอบครัวมาร่วมงานเกือบพันคน มีหนูมายกับลลิลเป็นเพื่อนเจ้าสาวแสนสวยของฉัน ส่วนเขาก็มีสองหนุ่มอย่างนายกับกายเป็นเพื่อนเจ้าบ่าว วันนั้นเป็นวันที่เราสองคนมีความสุขมากอีกวันหนึ่ง เพราะนอกจากจะเป็นวันแต่งงานของเราสองคนแล้วยังเป็นวันรวมตัวของคนที่เรารัก และเป็นวันที่ป๊า มามี๊ คุณพ่อ คุณแม่ ของเรายิ้มกว้างกว่าวันไหนๆแต่เพราะว่าเตอร์ลางานได้แค่ห้าวันเพราะต้องกลับมาเตรียมงานขยายสาขาในต่างประเทศ และเขาก็อยากจะพาฉันไปแก้ตัวที่ตอนครบรอบหนึ่งเดือนพาฉันไปแบบกระทันหันด้วย เราเลยตัดสินใจไปฮันนีมูนกันที่ญี่ปุ่น และการแช่ออนเซนมองดูน้องฟูจิ คือหนึ่งในแพลนของฉันกับเขา แต่ก็ต้องแอบลุ้นกันอีกทีว่าเราสองคนจะเป็นผู้โชคดีได้เห็นน้องฟูจิแบบคนอื่นหรือเปล่าและคำตอบก็คือ เราเป็นผู้โชคดี เหมือนอย่างในตอนนี้ที่ฉันกำลังนอนพิงอกแกร่งอยู่ในบ่อออนเซนส่วนตัวมองดูน้องฟูจิที่ออกมาให้เรายลโฉมโดยไม่มีเมฆมาปิดบังเลยสักนิด... "มิน เตอร์อยากมีเบบี๋"
"ถ่ายงานให้เตอร์ทั้งวัน เหนื่อยมั้ย""ไม่เหนื่อยนะ มินสนุก""แต่...""ขอค่าตัวด้วยค่ะบอส""ค่าตัวแพง ผมไม่มีจ่ายหรอกครับ""โห นี่มินทำงานฟรีหรอเนี่ย""เสียใจจัง""หึ" "เตอร์ขอจ่ายค่าจ้างเป็นดินเนอร์มื้อพิเศษแทนได้มั้ย""อืม..." "นี่ถ้าไม่ใช่เตอร์ มินไม่ยอมหรอกนะ""ขอบคุณครับผม"ฟอดผมนั่งรอเธอที่กำลังอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดที่ผมออกแบบและสั่งตัดมาให้เธอโดยเฉพาะ เดรสสั้นเกาะอกขนนกสีฟ้าพาสเทลพร้อมรองเท้าแก้วส้นสูงรัดข้อ ที่ดูเข้ากันกับผมในเสื้อเชิ้ตคอจีนสีฟ้าพาสเทลเฉดเดียวกัน เพื่อพาไปดินเนอร์ที่โรงแรมหรูบนตึกที่สูงที่สุดของประเทศซึ่งผมขอปิดโซนเพื่อเธอโดยเฉพาะ พอเสียงประตูเปิดขึ้น พร้อมกับการปรากฎตัวของร่างบางน่าทะนุถนอมที่กำลังยืนส่งยิ้มให้ผม ใบหน้าของเธอถูกเติมแต่งด้วยเครื่องสำอางบางเบาเผยผิวใสสุขภาพดี ปากอวบอิ่มถูกทาด้วยลิปสติกสีชมพูพีช เส้นผมสีน้ำตาลคาราเมลตรงสวยดูมีน้ำหนักปกคลุมไหล่มนเล็กน้อยราวกับไม่ได้ตั้งใจ เสริมความน่ารักด้วยเดรสสีโปรดของเธอ ผมไม่รอช้าที่จะเดินไปใส่สร้อยทองคำขาวมีจี้เป็นไข่มุกเม็ดเล็กที่ผมหยิบเตรียมมาถือไว้ที่ลำคอขาวของเธอจากด้านหลัง พร้อมกับจุมพิตลงไหล่
เช้าวันแรกของการฝึกงาน ฉันต้องตื่นเช้ากว่าปกติ เพื่อเตรียมอาหารเช้าง่ายๆ อย่างแซนวิชทูน่าสลัดและชงกาแฟสำหรับเราสองคนไว้กินกันในรถเหมือนตอนที่ไปมหาวิทยาลัยฯ ก่อนจะไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดนักศึกษาที่ดูเรียบร้อยเพราะไม่อยากให้ใครว่าได้ทีหลังว่าไม่เหมาะสมเดี๋ยวจะกระทบไปถึงเขา"มิน เสร็จยัง""จะเสร็จแล้ว ขอห้านาที""ไม่ต้องสวยมากหรอก""เตอร์ไม่อยากให้ใครมอง""เอ้า""มีแฟนสวยเตอร์ต้องดีใจสิ""เตอร์ดีใจ แต่อยากเก็บไว้คนเดียว""ถ้าแต่งงาน เตอร์จะให้มินอยู่แต่บ้าน""ไม่ได้สิ ร้านมินละ""มินตอบตกลงแล้วนะ""ห๊ะ""หึ" ฟอดฉันหลงกลเขาอีกแล้วสินะ พอดูเรียบร้อยแล้วว่าไม่ได้ลืมอะไร เขาก็จูงมือฉันและแย่งกระเป๋าของฉันไปสะพายไว้เองจนฉันแอบคิดว่าวันเกิดเขาปีหน้าฉันจะซื้อให้เขาสักใบนึงน่าจะดี โชคดีที่เช้านี้ถนนค่อนข้างโล่งรถไม่ค่อยติด ทำให้เราสองคนมาถึงก่อนเวลาอย่างที่ตั้งใจกันไว้ เพราะถึงเขาจะเป็นลูกเจ้าของบริษัทและเป็นรองประธานบริษัท แต่เขาก็อยากเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับพนักงานและไม่อยากให้คุณพ่อคุณแม่โดนว่าแล้วพาลมาถึงฉันด้วย แฟนฉันน่ารักที่สุดเลย... พอถึงเวลาเริ่มงานพี่ฝ่ายบุคคลก็มาพาฉันไปส่งที
"ทำไมมินเมื่อยจังเลย""ควรเมื่อยอยู่นะ" "หึ" "หืม?" "ก็มินเล่นไม่พัก""..." "ถ้ารู้ว่าเมาแล้วมินขยันขนาดนี้" "เตอร์จะซื้อมาไว้ที่ห้องสักลังนึง"เพี๊ยะ! มือเล็กของฉันฟาดลงไปที่ต้นแขนแกร่งทันที ก่อนจะมุดตัวลงไปในผ้าห่มปิดใบหน้าที่แดงเป็นมะเขือเทศเพราะความเขินอาย จะไม่ให้ฉันอายได้ยังไง ดูเขาพูดซิ ภาพเมื่อคืนที่ฉันทำลอยมาเป็นฉากฉากเลย แล้วเขาก็พูดออกมาอย่างหน้าตาเฉยพร้อมกับรอยยิ้มกรุ่มกริ่มที่ดูมีความสุขจนน่าหมันไส้อีก แต่อยู่อยู่ฉันก็รู้สึกเหมือนว่าฉันคิดผิด เพราะภายใต้ผ้าห่มสีฟ้าผืนใหญ่มันมีอาวุธร้ายพร้อมรบซ่อนอยู่ ทั้งเขาและฉันตอนนี้ไม่มีเสื้อผ้าปกคลุมกันเลยแม้แต่ชิ้นเดียว ให้ตายเถอะ! จะหนีตอนนี้ก็ไม่ทันแล้ว... "ยัยมิน แกจะไม่ไปฝึกงานที่บริษัทฉันจริงๆ หรอ""ฉันอยากให้แกไปด้วยจะได้ครบแก๊งค์""นั่นสิ ขาดขาเม้าท์ไปหนึ่ง เหงาแย่""ฉันก็อยากไปกับพวกแก""แต่เตอร์อยากให้ฉันไปช่วยทำพีอาร์ที่บริษัทเขา""พวกแกได้หยุดเสาร์อาทิตย์มั้ย""นัดกันไปช๊อปหรือไปกินของอร่อยกันก็ได้""หรือมาเจอกันที่นี่""อยู่ใกล้กันแค่นี่เอง"สองสาวแวะมาหาฉันที่คาเฟ่มินิมินนี่แหล่งกบดานหลักของพวกฉันเพราะเครื่องดื่ม
สุดท้ายฉันก็ต้องเอาเสื้อแจ๊คเก็ตสีดำของเขามาใส่ทับอีกที เพื่อปกปิดรอยจางจางและเปลี่ยนลุคให้ดูเท่ห์มากขึ้น ส่วนเขาก็ฉันเสื้อเชิ้ตตัวที่ฉันรีดไว้ให้ปลดกระดุมตั้งสามเม็ดโชว์กล้ามหน้าอกแน่นแน่น ทำฉันมองตาขวางจนต้องเอาคืนโดยการโน้มคอเขาลงมาแล้วกัดเข้าที่หน้าอกขาวขาวของเขาจนเป็นรอยฟัน ซึ่งเขาก็ไม่กล้าบ่นอะไรกลับดูชอบใจด้วยซ้ำ แต่ในเมื่อฉันไม่ได้เกิดเขาก็ต้องไม่ได้เกิดเหมือนกัน วินวิน"โห ลลิลแซ่บมากกก""แต่หนูมาย แกเหมือนไปวัดนะ""ผิดปกติมาก""ปกติสุดสุด ฉันแค่อยากเปลี่ยนลุคเป็นสาวเรียบร้อยบ้าง"พอมาถึงร้านเหล้าของเตอร์ เขาก็ขอแวะไปดูความเรียบร้อยในร้านแปปนึง ให้ฉันเดินมาหาเพื่อนๆ ที่โต๊ะวีไอพีที่ประจำของพวกเรา ซึ่งพอเดินมาถึงหนุ่มๆ ก็สั่งเครื่องดื่มพร้อมกับแกล้มรอไว้เรียบร้อยแล้ว ส่วนสองสาววันนี้ฉันขอมอบมงให้ลลิลเป็นสาวแซ่บที่สุด นางมาในชุดเกาะอกหนังสีดำกับกางเกงหนังสั้นสีเดียวกัน ดูมั่นและเปรี้ยวสุดสุด ผิดกับยัยหนูมายที่ปกติจะต้องเป็นสาวแซ่บแต่กลับใส่เสื้อฮู้ดสีดำตัวโคร่งกับกางเกงยีนส์ขาสั้นสีดำ รองเท้าผ้าใบสีขาวจนดูแปลกตาไปเลย ส่วนกายก็แต่งตัวคล้ายๆ เตอร์เป็นปกติ แต่ที่ดูไม่ค่อยปกต
และแล้ววันชี้ชะตาของพวกเราทั้งหกคนก็มาถึง ฉันรีบตื่นแต่เช้ามาทำอาหารเช้าง่ายๆ อย่างแซนวิชทูน่าแฮมใส่ผักสลัดกับมะเขือเทศเพื่อเพิ่มคุณค่าทางอาหารให้เขาพร้อมกับอเมริกาโน่เย็นแก้วโปรด และไม่ลืมที่จะทำแซนวิชใส่กล่องไปเผื่อเพื่อนอีกสี่คนด้วย เพื่อเป็นกำลังใจให้มีแรงพรีเซนต์และผ่านไปได้ด้วยดีจะได้ไปฉลองพร้อมกัน"เตอร์จะกินแซนวิชเลยมั้ย" "มินป้อน เตอร์จะได้ขับรถสะดวก""ใจดีจัง""อ้าปาก""อร่อย" "ไม่อยากแบ่งให้ไอ้นายกับไอ้กายกิน""ให้พวกมันไปหากินเอง""เอ้า ไม่ได้สิ""เพื่อนนะ" "หวงหมด"พอมาถึงมหาวิทยาลัยฯ ฉันกับเขาก็รีบเดินไปหาเพื่อนๆ ที่นั่งรอกันอยู่ตรงโต๊ะหินอ่อนมุมเดิมที่เป็นจุดนัดพบ โดยเขาที่สะพายกระเป๋าใส่แมคบุคกับเล่มรายงานทำหน้าที่ถือถุงอาหารเช้าของเพื่อนให้ ส่วนฉันก็ช่วยถือแก้วเก็บความเย็นที่ใส่กาแฟของเราสองคนไว้และรีบก้าวให้ทันเขา พอมาถึงเขาก็รีบแจกขนมให้เพื่อนสาวสองคนไม่ยอมหยิบไปให้สองหนุ่ม ฉันจึงต้องกดดันเขาด้วยสายตาอำมหิตของฉัน จนเขาชักสีหน้างอแงทำปากจิ๊จ๊ะแล้วก็ยอมแบ่งให้อีกสองหนุ่มโดนการโยนไปให้ดีที่นายกับกายรับไว้ทันไม่อย่างนั้นอดกินกันแน่ๆ ฉันจึงชี้นิ้วอย่างคาดโทษใส่เขาขอ
วันนี้เธอชวนผมตื่นแต่เช้ามาทำบุญใส่บาตรเนื่องในวันเกิดของผมที่วัดแถวคอนโด นานๆ ได้ทำบุญทั้งทีก็รู้สึกอิ่มบุญอย่างบอกไม่ถูก ยิ่งมากับคนที่ผมรักด้วยแล้วยิ่งมีความสุขเข้าไปใหญ่ แต่เราสองคนเลือกให้อาหารปลาแทนการปล่อยปลานะเพราะกลัวว่าสุดท้ายแล้วจะเป็นฆ่าพวกเขาทางอ้อม ถึงแม้ว่าผมจะรู้สึกสงสารที่พวกมันถูกกักขังไว้ในถุงใสก็เถอะ พอให้อาหารปลาเสร็จ ท้องของคนข้างๆ ก็ร้องประท้วงเสียงดังขึ้นมาทันทีราวกับกลัวน้อยหน้าปลาในแม่น้ำ ผมเลยพาเธอเดินลัดเลาะไปร้านก๋วยเตี๋ยวโบราณซอยข้างๆ เป็นร้านเพิงไม้เล็กเล็กวิวแม่น้ำไม่มีแอร์มีแต่ลมพัดผ่านพอให้ไม่ร้อนมาก เนื่องจากตากับยายเจ้าของร้านทำแต่ชามเล็กๆ ชามละยี่สิบบาท ทำให้ผู้ชายสูงใหญ่อย่างผมสั่งมาทีเดียวสี่ชามเป็นบะหมี่แห้งต้มยำสองชามและเส้นเล็กต้มยำสองชาม ส่วนเธอขอลองสั่งเส้นหมี่ขาวต้มยำกับบะหมี่แห้งมาอย่างละหนึ่งก่อนเพราะกลัวกินไม่หมด ผมที่ชอบทานรสจัดพอชิมคำแรกต่อมรับรสก็รับรู้ได้ถึงน้ำซุปกระดูกหมูที่ผ่านการเคี่ยวมาจนกลมกล่อม หมูสับ ตับและไส้หมูทำมาอย่างดีไม่มีกลิ่นให้เสียงรส เส้นเล็กลวกไม่เป็นก้อนเหนียวหนุบหนับกำลังดี โรยด้วยถั่วลิสงและพริกป่นที่ตาคุยว่าตาคั
"มิน ใกล้ถึงวันเกิดเตอร์แล้ว""อืม มินไม่ลืมนะ""แต่ปีนี้เตอร์อยากได้ของขวัญ""...แล้วเตอร์อยากได้อะไร""แต่...แบบนี้มินก็ไม่ได้เซอร์ไพร์สหน่ะสิ""เซอร์ไพร์สสิ""เซอร์ไพร์สสุดสุด""เดี๋ยวเตอร์เปิดรูปให้ดู""..."ตากลมโตของฉันถึงกับต้องเบิกกว้างทันทีที่เห็นรูปที่เขาเปิดให้ดู มันเป็นชุดคล้ายๆ กับที่ฉันซื้อมาจากญี่ปุ่นเพื่อเซอร์ไพรส์เขาเมื่อตอนวันครบรอบหนึ่งเดือนแต่ต่างกันตรงที่แบบของเขามันแทบปิดอะไรไม่ได้เลย ฉันถึงกับยกมือกุมขยับส่ายหัวไปมาให้กับความไม่รู้จักพอของเขา อันที่จริงฉันหน่ะ เตรียมของขวัญวันเกิดไว้ให้เค้าตั้งหลายวันแล้ว แอบไปเดินเลือกตอนที่เขาไปร้านเหล้าเป็นนาฬิกาคู่ที่มีฟังก์ชั่นพิเศษสามารถเช็คอัตราการเต้นของหัวใจและค่าออกซิเจนได้และเพิ่มรายละเอียดเข้าไปโดยยิงเลเซอร์ชื่อภาษาอังกฤษตรงสายซึ่งต้องสั่งทำพิเศษ เพราะว่าช่วงนี้เขาแทบไม่มีเวลาพักผ่อนเลยไหนจะต้องเขียนโปรแกรมโปรเจคจบไหนจะร้านเหล้าและคอยเข้าประชุมที่บริษัทแทนคุณพ่อของเขาอยู่บ่อยครั้ง ทำให้ฉันเป็นห่วงสุขภาพของเขามากเป็นพิเศษ แต่ต่อให้เขาทำงานมาเหนื่อยขนาดไหนก็ยังมีแรงหาเรื่องรังแกฉันได้เกือบทุกวันวันละหลายชั่วโมง จนเหมือ
"มินอยากแอบอยู่ในกระเป๋าไปด้วยค่ะ""เด็กคนนี้นี่น้า" "ปิดเทอมมินจะรีบบินไปหาป๊ากับมามี๊นะคะ""ไม่ใช่พอมีแฟนแล้วลืมป๊ากับมี๊นะ""ป๊าขา มินรักป๊ากับมามี๊ม๊ากมากค่ะ" ฟอด"ถึงแล้วมี๊จะคอลมาจ๊ะ ดูแลตัวเองนะน้องมิน""ผมจะช่วยดูแลมินเป็นอย่างดีครับ""อืม ทำให้ได้อย่างที่พูด""บ๊ายบายค่ะ/สวัสดีครับ"รอบนี้ป๊ากับมามี๊มีเวลาว่างอยู่กับฉันสามวันราวกับว่าตั้งใจจะมาแอบดูแฟนของฉันตามที่ท่านเอ่ยแซวจริงๆ เพราะมีอยู่วันนึงอยู่ๆ เขาก็ชวนป๊าไปตีกอล์ฟที่สนามแถวชานเมืองออกกันไปแต่เช้ากว่าจะกลับกันเข้ามาก็พอดีทานมื้อเย็น แถมยังดูสนิทกันมากขึ้นอีกด้วย เพราะฉันแอบสังเกตว่าเขาไม่ค่อยเกร็งเวลาอยู่กับท่านและรอยยิ้มที่ดูใจดีของป๊าเหมือนเวลาคุยกับฉัน แต่ยังไม่ทันหายคิดถึงเลย ฉันก็ต้องมาส่งท่านที่สนามบินแล้ว โดยมีเขาอาสาขับรถมาส่งด้วย เรียกว่าตามทำคะแนนสุดสุด"คิดอะไรอยู่""คิดถึงป๊ากับมามี๊""เดี๋ยวปิดเทอมเตอร์พาไปนะ""อืม ขอบคุณนะ""ว่าแต่ แอบไปคุยอะไรกับป๊า""บอกมินมาเลยนะ""ความลับ""ถ้ายอมบอก มินเลี้ยงกาแฟแก้วนึง""หึ ตั้งแก้วนึง เยอะจัง""เตอร์ดื่มไม่หมดกันพอดี"และเขาก็ขับรถสปอร์ตหรูคู่