"มิน รอเตอร์ก่อน" ผมรีบวิ่งไปจับนิ้วก้อยเล็กเล็กของเธอมาเกี่ยวไว้กับนิ้วก้อยของผม มินงอนผมตั้งแต่ผมขึ้นเสียงใส่เธอในรถ ก็เธอเล่นพูดว่าจะสนิทกับไอ้หมอนั่นมากกว่าผม ใครจะทนไหว ผมไม่มีทางยอมง่ายง่ายแน่ ไหนจะตอนที่อยู่ในร้านอีก ทำไมต้องนั่งใกล้กันขนาดนั้น ผมไม่เข้าใจ น่าหงุดหงิดชะมัด แทนที่ควรจะเป็นผมที่ต้องคิดบัญชีกับเธอ กลับกลายเป็นผมที่ต้องวิ่งตามเธออย่างตอนนี้ พอเข้ามาในร้านปิ้งย่างที่พวกนั้นนั่งรออยู่ก่อน ผมรีบดันตัวเธอให้เข้าไปนั่งด้านในก่อนที่ผมจะแทรกตัวเข้าไปนั่งข้างๆ เพราะกลัวว่าเธอจะหนีไปนั่งข้างแก๊งค์เพื่อนสาว
"ชาเขียวเย็นไม่หวานสอง" ผมรีบสั่งน้ำของมินกับผม เผื่อว่าน้ำเย็นๆ ชื่นๆใจ จะช่วยลดอาการงอนของเธอลงบ้าง นิดหน่อยก็ยังดี ระหว่างที่ผมกับเพื่อนๆ ย่างเนื้อกันอยู่ ผมก็ไม่ลืมที่จะคอยย่างและคีบเนื้อไปวางไว้ในจานเธอโดยเฉพาะเห็ดออรินจิที่เธอชอบ ส่วนมือข้างที่ว่างอยู่ก็ไปดึงมือนุ่มนิ่มของเธอมาจับไว้บีบเล่นอยู่ใต้โต๊ะ เพราะไม่อยากให้พวกนั้นเห็นแล้วแซวผมกับมิน เดี๋ยวเธอจะเอามาพาลงอนผมอีก แค่ข้อเดียวตอนนี้ ผมก็ร้อนรนจะแย่ "มาย ลลิล ไปกินไอติมกันต่อมั๊ย เราเลี้ยงเอง" ผมที่กำลังงัดแผนสองขึ้นมาง้อมิน ซึ่งเธอไม่มีทางปฏิเสธได้อยู่แล้ว เพราะไหนจะเพื่อนของเธอและของชอบอย่างไอติมอีก ไม่มีใครรู้ใจเธอเท่าผมแน่นอน "ป๋ามากกก" "ไปสิ" ฉันได้แต่นั่งบรึนปากให้กับความเห็นแก่กินของยัยเพื่อนตัวแสบสองคนนั่น ทำไมฉันจะไม่รู้ว่าที่เตอร์ทำอยู่ตอนนี้ เพราะเขากำลังพยายามง้อฉัน อันที่จริง ใจฉันหน่ะ มันอ่อนยวบตั้งแต่เขาวิ่งมาเกี่ยวก้อยฉันแล้วแหละ แต่อยากจะขอดัดนิสัยเอาแต่ใจของเขาอีกสักหน่อย "มิน เป่าผมให้เตอร์หน่อยสิ ไดร์ที่ห้องเตอร์เสีย" ผมถือวิสาสะเปิดประตูห้องนอนมินเข้ามา แต่ภาพที่ผมเห็นทำผมยืนมองเธอตาค้างก้าวขาไม่ออก มินนั่งชันเข่าทาโลชั่นที่ขาขาวขาว กางเกงนอนขาสั้นลายการ์ตูนของเธอล่นลงมาจนเห็นขาอ่อนเล็กน้อยเกือบเห็นอะไรต่อมิอะไร 'อึก' ผมถึงขนาดกลืนน้ำลายลงด้วยความยากลำบาก ต้องเบี่ยงเบนสายตาคมมองไปรอบๆ ห้อง ที่ผมเคยเข้ามานอนแล้ว จนไปสะดุดกับรูปคู่ของผมกับมินตอนรับน้องสมัยปีหนึ่งที่ตั้งอยู่บนชั้นวางของรวมกับภาพหมู่เพื่อนๆ ของเราสองคน รูปนั้นอาจจะดูเป็นรูปธรรมดา แต่สำหรับผม มันคือการถ่ายรูปคู่กับคนอื่นนอกจากครอบครัวครั้งแรก ที่สำคัญ รอยยิ้มของเธอทำหัวใจแกร่งของผมละลายเหลวตั้งแต่วันนั้น...มุมปากผมยกขึ้นเล็กน้อยเมื่อนึกถึงความทรงจำครั้งแรกที่ผมมีต่อเธอ "วุ่นวายจังนะเตอร์" เสียงของมินดึงสติผมให้หันกลับมาที่เธอ ผมไม่ได้เถียงเธอกลับไปแต่รีบพาตัวเองเดินไปนั่งลงที่เก้าอี้แทนเธอเพราะกลัวเธอจะไล่ผมให้ออกไปรอข้างนอก มินเสียบปลั๊กไดร์เป่าผมและเดินมายืนซ้อนข้างหลังใช้มือเล็กเล็กค่อยๆ ปัดเส้นผมไปมา นอกจากแม่แล้วไม่มีผู้หญิงคนไหนสามารถจับหัวของผมได้ มีก็แต่...มินคนนี้คนเดียว ผมนั่งมองเธอผ่านกระจกเงาตรงหน้า ถึงแม้เธอจะสูงประมาณหนึ่งร้อยหกสิบห้ารูปร่างสมส่วนพอดิบพอดี แต่ยังห่างกับผมยี่สิบเซนติเมตรเห็นจะได้ ขนาดผมนั่งอยู่ที่เก้าอี้เธอตอนนี้ ศีรษะของผมยังสูงเกือบๆ ถึงคางของเธอเลย ผมขยับตัวลงเล็กน้อยทิ้งศีรษะไปข้างหลังเงยหน้าขึ้นมองสบตาของเธอ "มินหายงอนเตอร์นะ" ตึก ตึก ตึก เสียงหัวใจที่เต้นรัวของฉันมันดังแข่งกับเสียงไดร์เป่าผมที่เปิดอยู่ เตอร์จะรู้ตัวมั๊ยว่าสายตาอ้อนอ้อนเหมือนเด็กน้อยเอาแต่ใจของเขานั้น มันกำลังทำลายกำแพงของฉันลงทีละนิดทีละนิด จนเขาเกือบจะก้าวเข้ามาอยู่ข้างในใจฉัน หรืออันที่จริงเขาไม่เคยอยู่นอกกำแพงตั้งแต่แรกเลยต่างหาก "อื้ม" ฉันตอบเตอร์กลับไปเบาเบาก่อนจะใช้นิ้วเล็กเล็กดีดหน้าผากของเขาด้วยความหมันเขี้ยว ทำให้เขามองฉันตาขวางแต่เพียงแวบเดียวเท่านั้นแววตาของเขาก็เปลี่ยนเป็นเจ้าเล่ห์ขึ้นมาทันที ก่อนจะหันมาแย่งไดร์ในมือของฉันไปวางที่โต๊ะกระจกและใช้มือใหญ่รวบข้อมือเล็กทั้งสองของฉันไม่ให้หนีไปไหน 'ฟอดดดดด''ฟอดดดดด'ผมยักคิ้วเข้มยิ้มกรุ่มกริ่มและมองไปที่เธอ หลังจากที่จมูกโด่งโด่งของผมจัดการเข้ากับแก้มนุ่มๆ ของเธอได้สำเร็จ "หึ" หน้าเธอตอนนี้น่าตลกชะมัด ใบหน้าจิ้มลิ้มแดงระเรื่อ ตากลมโตเบิกกว้าง ปากเล็กเล็กอ้าค้างอยู่นานนับนาที คงจะตกใจที่โดนผมจู่โจมอย่างไม่ทันตั้งตัว ผมที่กำลังจะก้มไปจัดการกับแก้มหอมหอมของเธออีกข้างนั้น"โอ๊ะ โอ๊ยยย มิน มิน เตอร์เจ็บ ไม่แกล้งแล้วๆ" กลับกลายเป็นผมที่โดนเธอกระโดดกอดคอแล้วงับเข้าที่แก้มสากข้างขวา ดูท่าแล้วราตรีนี้ยังอีกยาวไกล และการกลับไปนอนที่ห้องตัวเองก็ไม่ได้อยู่ในแผนของผมในคืนนี้ซะด้วยสิ ผมใช้สองมือหนาของผมล๊อคเข้าที่ต้นขาของเธอให้พอตั้งหลัก เธอพลาดเองที่เอาสองขาเล็กเล็กมาเกี่ยวเข้ากับเอวสอบของผมไว้คงจะกลัวตก จากนั้นผมเดินพาเธอไปวางไว้บนเตียงก่อนจะพาตัวผมลงไปนอนทาบกับตัวเธอ โดยใช้ข้อศอกทั้งสองข้างยันไว้กับที่นอนเพื่อช่วยยกตัวผมขึ้นให้ห่างจากเธอเล็กน้อย อยากจะมองหน้าหวานหวานนี้ใกล้ใกล้อีกครั้งและอีกครั้ง... "เตอร์นอนด้วยนะ นอนเฉยเฉย" "ไม่น่าไว้ใจตรงนอนเฉยเฉยนี่แหละ" "หึ ได้หรอ" ผมเลิกคิ้วแกล้งถามเธอเล่น"ไอ้บ้าเตอร์! " "โอเค โอเค เตอร์ไม่แกล้ง ไม่แกล
เป็นคำถามที่ผมแค่แกล้งลองถามเธอไป ยังไม่ได้ต้องการคำตอบจากเธอตอนนี้ ผมจึงเฉไฉหยิบชามข้าวต้มของเราสองคนที่ทานเสร็จแล้วไปเก็บในครัวแทน แล้วเดินกลับไปหาเธอที่นั่งทำหน้าเอ๋ออยู่ที่เดิม"ไปอาบน้ำก่อนนะ ยัยซื่อบื่อ" ก่อนจะใช้มือสากหนาของผมผลักศีรษะเธอเบาเบา"เตอร์ไปนั่งเล่นเกมส์รอที่ร้านกาแฟชั้น3นะ" "กลับก่อนก็ได้นะเตอร์""จะรอ" "แกกับเตอร์นี่ ใช่แฟนมั๊ย พูด!!" ทันทีที่ฉันเดินเข้ามาหาสองสาว ยัยมายที่มาในลุคลูกคุณแบบที่นางชอบ ก็ยิงคำถามใส่ฉันไม่ปล่อยให้ฉันหายเหนื่อยก่อนบ้างเลย"แฟนอะไร ใครแฟน ก็เพื่อนกันป๊ะ" ฉันตอบไปแบบนั้นถึงแม้จะเสียงสูงไปสักหน่อยเพราะแอบหวั่นไหวกับคำถาม แต่มันก็คือเรื่องจริงนี่นา... "เพื่อนแบบใดก่อน" ลลิลนี่ก็อีกคนเอากับเขาด้วย อยากจะขอหยิกแก้มกลมๆ ของนางกลางห้างดังให้หายหมันเขี้ยวสักที"แบบพวกแกสองคนนี่แหละ ป่ะ รีบไปช๊อปกันดีกว่า" ฉันเนียนเปลี่ยนเรื่องทันที แล้วจูงมือนักข่าวสาวสุดสวยทั้งสองคนเดินเข้าเคาเตอร์แบรนด์ดัง ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นที่พวกเรานัดกันไว้"โก โก" "มิน แกลองใส่ชุดนี้สิ" ยัยมายผู้รับบทสไตล์ลิสให้ฉันกับลลิลเดินถือชุดเดรสเกาะอกกระโปรงจั๊มสั้นสีชมพูพร้อมก
เตอร์ขับรถมาส่งฉันที่คอนโดตามปกติก่อนจะรีบร้านของเขาต่อ แถมยังใจดีถือของขึ้นมาให้อีก บทจะน่ารักก็น่ารัก บทจะน่าหยุมก็สุดสุด ฉันที่ตอนนี้นั่งจัดของที่ซื้อมาก็ต้องส่ายหัวให้กับความไม่มีสติของตัวเอง เสื้อผ้าเอย เครื่องประดับกระจุกกระจิกเอย ไหนจะชุดพาเลตแบรนด์ดังอีก สงสัยคงต้องงดช๊อปสักสองเดือน ไม่อย่างนั้นมีหวังใส่ไม่ทันแน่แน่ "ยัยซื่อบื่อ เสร็จยัง" ผมนั่งเล่นเกมส์รอเธอแต่งตัวอยู่ที่ห้องนั่งเล่น ผ่านไปกว่าหนึ่งชั่วโมงแล้วก็ยังไม่ออกมา จะแต่งอะไรเยอะแยะ แกร๊กเสียงประตูดังขึ้น พร้อมกับกลิ่นน้ำหอมอ่อนอ่อนที่เธอชอบใช้ประจำ ผมรีบหันไปมองเตรียมจะบ่นสักหน่อย"มิน" เสียงผมแผ่วเบาจนแทบจะไม่ได้ยินทันทีที่เห็น เธอใส่เสื้อครอปสายเดี่ยวที่หนาประมาณสองนิ้วผ้าลูกไม้สีขาวลายดอกไม้สีชมพูโชว์เอวขาวบางนิดหน่อย ทำผมอยากจะเดินเข้าไปหยิกสักทีสองที กับกระโปรงยาวสีขาวผ้าลูกไม้ลายเดียวกัน ผมสีน้ำตาลคาราเมลม้วนลอนถูกเกล้าขึ้นสูงพร้อมผูกโบว์ดูน่ารัก ไหนจะปากเล็กเล็กที่ทาด้วยลิปสีชมพูพีชและตากลมโตที่มีเส้นสีอายไลเนอร์ตรงหางตา เธอน่ารักมาก...น่ารักเหมือนตุ๊กตาจนผมอยากเข้าไปกอด ใจเตอร์มันสั่นไหวไปหมดแล้วมิน"เตอ
"เตอร์ วันนี้มินไปร้านเตอร์ด้วยสิ" "ทำไม" "มินอยากไปเช็คเรทติ้ง " "หืม"เราสองคนกำลังดูซีรีย์เรื่องโปรดของเธอ ผมที่นอนอยู่บนโซฟา เงยหน้าเลิกคิ้วเข้มมองเธอที่นั่งอยู่ใกล้ ยัยซื่อบื่อนี่นะชอบหาเรื่องให้ผมคอยแกล้งอยู่เรื่อย ผมค่อยค่อยเลื่อนตัวขึ้นและพลิกตัวเล็กน้อยจนหน้าผมอยู่บริเวณซอกคอขาวหอมของเธอ อยากจะงับสักที"เตอร์เช็คให้ เตอร์เช็คเก่ง" "ชะ เช็คยังไง"เธอเหมือนแมวน้อยขนพองพยายามย่นคอหนีผม เมื่อลมหายใจอุ่นๆ ของผมกระทบเข้ากับผิวของเธอ"ก็เช็คคค...ทุกซอกทุกมุม หึ" "เช็คบ่อยละสิ" ฉันพยายามใช้สองมือดันอกแกร่งไว้ และมองสู้สายตาเจ้าเล่ห์ของเขาที่มันดูมีประกายระยิบระยับ สู้มา สู้กลับ ไม่โกง! "ไม่บ่อย แค่กับมิน""ลองมั้ย"ผมใช้หน้าผากกว้างของผมแตะกับหน้าผากมนของเธอ เอ่ยถามแผ่วเบา "ละ ลองอะไร""ลองให้เตอร์เช็ค ตรงนี้ ตรงนี้ และตรงนี้" ผมใช้ริมฝีปากชมพูคล้ำของผมไปจูบที่ริมฝีปากอวบอิ่มสีชมพูพีช ที่แก้มป่องๆ สองข้าง และเปลือกตาที่มีขนตางอนยาวทั้งซ้ายและขวา"ลองเช็คคค... ตรงนี้"ผมกระซิบข้างหูเล็กของเธอเบาเบา ก่อนจะก้มไปจูบซอกคอหอมหอมของเธอหนึ่งครั้ง...ที่ไหปลาร้าหนึ่งครั้ง...ที่หัวไห
หลังจากที่พายุลงหม้อชาบูและถังไก่ทอดชุดใหญ่สงบ ตอนนี้พวกเราทั้งหกคนกำลังแบ่งทีมจับคู่กันเล่นเกมส์ เหมือนฟ้ากลั่นแกล้ง ให้เทพด้านการเล่นเกมส์อย่างเขากับกายจับชื่อได้คู่กัน ฉันแอบเห็นเขาส่ายหัวทำหน้าเบื่อหน่าย ส่วนฉันคู่กับเพื่อนรักอย่างลลิล แต่ที่น่าตลกที่สุดคือ ตอนที่ยัยมายเปิดฉลากแล้วเห็นชื่อนายคู่กัดของนาง เล่นเอานางโวยวายขอเปลี่ยนคู่อยู่พักใหญ่ พวกเราเลือกเจงก้าเป็นเกมส์แรกของค่ำคืนนี้ โดยมีกฎอยู่ว่าใครทำตึกถล่มก่อนคนนั้นต้องยกหมดแก้ว และถ้าทีมไหนคะแนนรวมน้อยที่สุดทีมนั้นต้องกินเหล้าต๊อกตามจำนวนที่ทีมชนะกำหนด เริ่ม! "ยัยเตี้ย เล่นเป็นมั้ยเนี่ย" "นายนั่นแหละ ทำฉันแพ้มาหลายตาแล้วนะ" "โอ้ยย..." เสียงเถียงกันอย่างไม่มีใครยอมใครของนายกับยัยมายดังขึ้นตลอดเวลาที่พวกเราเล่นเกมส์ แก้มของนางเริ่มแดงระเรื่อเพราะโดนยกหมดแก้วไปหลายเกมส์ติด ไหนจะเหล้าชอตอีกเกือบสิบแก้วได้ ต่างจากนายที่ดูเหมือนยังไม่ค่อยมีอาการเมาเท่าไหร่ มีก็แค่ใบหูที่แดงตลอดเวลาไม่รู้เพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์หรือผลจากการโดนเพื่อนร่วมทีมดึงทุกครั้งที่แพ้กันแน่ คู่นี้เรียกว่าเป็นสีสันของคืนนี้เลยก็ว่าได้"เมายัง"เขาใช้ศีรษะมาชนหั
"สวัสดีวันจันทร์" "55555 ขำมากยัยมาย" ฉันกับลลิลนั่งรอยัยมายที่โต๊ะหินอ่อน โต๊ะประจำข้างตึกเรียนของพวกเราตั้งแต่ปีหนึ่ง ทันทีที่ยัยมายมาถึงก็ไหว้ย่อฉันสองคนด้วยท่าทางขายขำ"สวยมักนก ตลกมักได้ไง ไม่เคยได้ยินกันหรอ" "แล้วได้บ้างยัง" ลลิลชิงถามก่อนฉัน"เกือบ เกือบ""วีคนี้เราสอบเสร็จ ไปเที่ยวกันดีมั้ย" นานๆ ทีลลิลจะออกปากชวน ฉันกับมายไม่มีทางปฏิเสธอยู่แล้ว"แต่ฉันอยากไปทะเล""ได้สิ ไปทะเลก็ดีเหมือนกัน" "แบรนด์ชุดว่ายน้ำที่ฉันตาม ออกคอลเลคชั่นใหม่พอดีเลย แซ่บมากกกก"เป็นยัยมายที่ตื่นเต้นสุดสุดกับการนัดกันไปเที่ยวทะเลเพราะนางอยากใส่บิกินีถ่ายรูปลงไอจีสวยสวย พวกเราเลือกวัน สถานที่ และจองที่พักบนเกาะทางทะเลฝั่งอันดามัน เป็นบ้านหนึ่งหลังสองห้องนอนมีสระว่ายน้ำด้านนอกที่มองเห็นวิวทะเลสวยๆ ไม่รู้ว่าพอไปถึงจะตรงปกเหมือนในเว็บไซต์มั้ย ส่วนยัยมายก็รับหน้าที่จองตั๋วเครื่องบินเหมือนเคย เพราะครอบครัวนางเป็นเจ้าของธุรกิจสายการบินชื่อดัง คุณหนูมายชื่อนี้ไม่เกินจริงหลังจากจบคลาส พวกเราสามคนก็รีบแยกกับพวกหนุ่มๆ พากันไปห้างหรูใจกลางเมือง และตรงดิ่งเข้าชอปชุดว่ายน้ำแบรนด์ดังที่ยัยมายเล็งเอาไว้ มีแต่
ตอนนี้ผมที่นอนเปลเฝ้ามองเธออยู่หน้าบ้านพัก ปล่อยให้หนูร่าเริงไปก่อนคับ ไหนๆ ก็มาเที่ยวพักผ่อนทั้งที ปล่อยให้เธอได้สนุกได้มีรอยยิ้มมีเสียงหัวเราะสดใสดีกว่า ผมนอนคิดเล่นๆ ว่าเธอจะทำหน้าเอ๋อขนาดไหนเมื่อเห็นผม ก็รู้สึกหายเบื่อขึ้นมาทันที ระหว่างที่รอสาวๆ อยู่นั้น ผมก็โทรสั่งให้พนักงานเตรียมเตาปิ้งย่างและซีฟู้ดชุดใหญ่มาที่หน้าบ้านพักของผม รอให้ปลาที่หิวโซมากินเหยื่อ ทำการใหญ่ใจต้องนิ่ง ยิ่งอยากได้ปลาตัวใหญ่ใจต้องเย็นที่สุด"เฮ้ย เตอร์นายมาได้ยังไง" "เรามาพักผ่อนอะ" "บังเอิญจังเลยนะ" "อืม" บ้านพักของผมเป็นทางผ่านกลับที่พักของพวกเธอ ลลิลที่หันมาเห็นผมก็ตกใจตะโกนทักผมเสียงดังทำให้ยัยซื่อบื่อหันมาทำตาโตเท่าไข่ห่านทันที น่าตลกชะมัด"หิวกันมั้ย เราสั่งซีฟู้ดมา กินคนเดียวไม่น่าจะหมด""โห กำลังหิวพอดีเลย งั้นพวกเราไม่เกรงใจนะ"และแล้วแผนของผมก็สำเร็จโดยที่ผมไม่ต้องออกแรงเลยสักนิดผมก็สามารถตกเพื่อนเธอได้อย่างง่ายดาย "หึ" มุมปากของผมยกยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์แล้วหันไปยักคิ้วสบตาเธอที่มองอยู่ก่อน "มาย ลลิล ไปเปลี่ยนชุดกัน""มิน ช่วยเตอร์ย่างปลาหมึกก่อนสิ""เตอร์ย่างเองสิ""อยู่ช่วยเตอร์หน่อยนะ ค่อยกล
กรุ้งกริ้ง กรุ้งกริ้ง"อเมริกาโน่เย็นไม่หวานหนึ่ง" เสียงทุ้มและเสียงหวานใสพูดขึ้นพร้อมกันทันทีที่เห็นหน้าหนุ่มหล่อเข้มยิ้มมุมปาก ให้กับเพื่อนสนิทที่อยู่ตรงหน้าเพราะความรู้ใจของเธอ เธอคือเพื่อนสนิทของเขา เธอคือคนที่ทำให้เขาพูดมากกว่าหนึ่งประโยค แค่กับเธอคนเดียวเท่านั้น"เดี๋ยวมินไปเสิร์ฟให้ เตอร์ไปนั่งกับพวกนั้นก่อนสิ" "ไม่อ่ะ เตอร์จะจับตาดูว่ามินแอบใส่อะไรในแก้วเตอร์รึป่าว" ฉันได้แต่ยู่ปากมองบนใส่เพราะขี้เกียจเถียงกับเขา "หึ" แต่เหนื่อยกว่าการชงกาแฟให้เขาก็คือการที่ผมของฉันโดนนิ้วเรียวยาวของเขาดึงเล่นไปมาไม่หยุด "กาแฟพร้อมเสิร์ฟค่ะ คุณลูกค้า"" ขอบคุณคร้าบบ"ปึก โอ้ย!!"นี่เตอร์ จะหยุดทำไมไม่บอก" ฉันที่มัวแต่เดินก้มหน้าถอดผ้ากันเปื้อนก็ต้องชนกับแผ่นหลังแกร่งของเขาอย่างจัง"เดินไม่ดูเอง ยัยซื่อบื่อ" ผมเลิกคิ้วคมใส่เธอเพราะอยากจะแกล้งเธออีกสักหน่อย ยิ่งตากลมโตมองขวาง ปากเล็กเล็กขมุบขมิบไปมา น่าแกล้งชะมัด "หึ" "เตอร์ ไปนั่งกับนายสิจะมาเบียดมินทำไม""ก็เตอร์อยากนั่งตรงนี้" "ไอ้เตอร์ พวกกูกำลังชวนกันไปต่อร้านมึง โอเคมั้ย" เป็นกายที่เอ่ยชวนเพื่อนที่รู้ว่าไม่มีทางปฏิเสธ "อืม" ผมตอ
ตอนนี้ผมที่นอนเปลเฝ้ามองเธออยู่หน้าบ้านพัก ปล่อยให้หนูร่าเริงไปก่อนคับ ไหนๆ ก็มาเที่ยวพักผ่อนทั้งที ปล่อยให้เธอได้สนุกได้มีรอยยิ้มมีเสียงหัวเราะสดใสดีกว่า ผมนอนคิดเล่นๆ ว่าเธอจะทำหน้าเอ๋อขนาดไหนเมื่อเห็นผม ก็รู้สึกหายเบื่อขึ้นมาทันที ระหว่างที่รอสาวๆ อยู่นั้น ผมก็โทรสั่งให้พนักงานเตรียมเตาปิ้งย่างและซีฟู้ดชุดใหญ่มาที่หน้าบ้านพักของผม รอให้ปลาที่หิวโซมากินเหยื่อ ทำการใหญ่ใจต้องนิ่ง ยิ่งอยากได้ปลาตัวใหญ่ใจต้องเย็นที่สุด"เฮ้ย เตอร์นายมาได้ยังไง" "เรามาพักผ่อนอะ" "บังเอิญจังเลยนะ" "อืม" บ้านพักของผมเป็นทางผ่านกลับที่พักของพวกเธอ ลลิลที่หันมาเห็นผมก็ตกใจตะโกนทักผมเสียงดังทำให้ยัยซื่อบื่อหันมาทำตาโตเท่าไข่ห่านทันที น่าตลกชะมัด"หิวกันมั้ย เราสั่งซีฟู้ดมา กินคนเดียวไม่น่าจะหมด""โห กำลังหิวพอดีเลย งั้นพวกเราไม่เกรงใจนะ"และแล้วแผนของผมก็สำเร็จโดยที่ผมไม่ต้องออกแรงเลยสักนิดผมก็สามารถตกเพื่อนเธอได้อย่างง่ายดาย "หึ" มุมปากของผมยกยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์แล้วหันไปยักคิ้วสบตาเธอที่มองอยู่ก่อน "มาย ลลิล ไปเปลี่ยนชุดกัน""มิน ช่วยเตอร์ย่างปลาหมึกก่อนสิ""เตอร์ย่างเองสิ""อยู่ช่วยเตอร์หน่อยนะ ค่อยกล
"สวัสดีวันจันทร์" "55555 ขำมากยัยมาย" ฉันกับลลิลนั่งรอยัยมายที่โต๊ะหินอ่อน โต๊ะประจำข้างตึกเรียนของพวกเราตั้งแต่ปีหนึ่ง ทันทีที่ยัยมายมาถึงก็ไหว้ย่อฉันสองคนด้วยท่าทางขายขำ"สวยมักนก ตลกมักได้ไง ไม่เคยได้ยินกันหรอ" "แล้วได้บ้างยัง" ลลิลชิงถามก่อนฉัน"เกือบ เกือบ""วีคนี้เราสอบเสร็จ ไปเที่ยวกันดีมั้ย" นานๆ ทีลลิลจะออกปากชวน ฉันกับมายไม่มีทางปฏิเสธอยู่แล้ว"แต่ฉันอยากไปทะเล""ได้สิ ไปทะเลก็ดีเหมือนกัน" "แบรนด์ชุดว่ายน้ำที่ฉันตาม ออกคอลเลคชั่นใหม่พอดีเลย แซ่บมากกกก"เป็นยัยมายที่ตื่นเต้นสุดสุดกับการนัดกันไปเที่ยวทะเลเพราะนางอยากใส่บิกินีถ่ายรูปลงไอจีสวยสวย พวกเราเลือกวัน สถานที่ และจองที่พักบนเกาะทางทะเลฝั่งอันดามัน เป็นบ้านหนึ่งหลังสองห้องนอนมีสระว่ายน้ำด้านนอกที่มองเห็นวิวทะเลสวยๆ ไม่รู้ว่าพอไปถึงจะตรงปกเหมือนในเว็บไซต์มั้ย ส่วนยัยมายก็รับหน้าที่จองตั๋วเครื่องบินเหมือนเคย เพราะครอบครัวนางเป็นเจ้าของธุรกิจสายการบินชื่อดัง คุณหนูมายชื่อนี้ไม่เกินจริงหลังจากจบคลาส พวกเราสามคนก็รีบแยกกับพวกหนุ่มๆ พากันไปห้างหรูใจกลางเมือง และตรงดิ่งเข้าชอปชุดว่ายน้ำแบรนด์ดังที่ยัยมายเล็งเอาไว้ มีแต่
หลังจากที่พายุลงหม้อชาบูและถังไก่ทอดชุดใหญ่สงบ ตอนนี้พวกเราทั้งหกคนกำลังแบ่งทีมจับคู่กันเล่นเกมส์ เหมือนฟ้ากลั่นแกล้ง ให้เทพด้านการเล่นเกมส์อย่างเขากับกายจับชื่อได้คู่กัน ฉันแอบเห็นเขาส่ายหัวทำหน้าเบื่อหน่าย ส่วนฉันคู่กับเพื่อนรักอย่างลลิล แต่ที่น่าตลกที่สุดคือ ตอนที่ยัยมายเปิดฉลากแล้วเห็นชื่อนายคู่กัดของนาง เล่นเอานางโวยวายขอเปลี่ยนคู่อยู่พักใหญ่ พวกเราเลือกเจงก้าเป็นเกมส์แรกของค่ำคืนนี้ โดยมีกฎอยู่ว่าใครทำตึกถล่มก่อนคนนั้นต้องยกหมดแก้ว และถ้าทีมไหนคะแนนรวมน้อยที่สุดทีมนั้นต้องกินเหล้าต๊อกตามจำนวนที่ทีมชนะกำหนด เริ่ม! "ยัยเตี้ย เล่นเป็นมั้ยเนี่ย" "นายนั่นแหละ ทำฉันแพ้มาหลายตาแล้วนะ" "โอ้ยย..." เสียงเถียงกันอย่างไม่มีใครยอมใครของนายกับยัยมายดังขึ้นตลอดเวลาที่พวกเราเล่นเกมส์ แก้มของนางเริ่มแดงระเรื่อเพราะโดนยกหมดแก้วไปหลายเกมส์ติด ไหนจะเหล้าชอตอีกเกือบสิบแก้วได้ ต่างจากนายที่ดูเหมือนยังไม่ค่อยมีอาการเมาเท่าไหร่ มีก็แค่ใบหูที่แดงตลอดเวลาไม่รู้เพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์หรือผลจากการโดนเพื่อนร่วมทีมดึงทุกครั้งที่แพ้กันแน่ คู่นี้เรียกว่าเป็นสีสันของคืนนี้เลยก็ว่าได้"เมายัง"เขาใช้ศีรษะมาชนหั
"เตอร์ วันนี้มินไปร้านเตอร์ด้วยสิ" "ทำไม" "มินอยากไปเช็คเรทติ้ง " "หืม"เราสองคนกำลังดูซีรีย์เรื่องโปรดของเธอ ผมที่นอนอยู่บนโซฟา เงยหน้าเลิกคิ้วเข้มมองเธอที่นั่งอยู่ใกล้ ยัยซื่อบื่อนี่นะชอบหาเรื่องให้ผมคอยแกล้งอยู่เรื่อย ผมค่อยค่อยเลื่อนตัวขึ้นและพลิกตัวเล็กน้อยจนหน้าผมอยู่บริเวณซอกคอขาวหอมของเธอ อยากจะงับสักที"เตอร์เช็คให้ เตอร์เช็คเก่ง" "ชะ เช็คยังไง"เธอเหมือนแมวน้อยขนพองพยายามย่นคอหนีผม เมื่อลมหายใจอุ่นๆ ของผมกระทบเข้ากับผิวของเธอ"ก็เช็คคค...ทุกซอกทุกมุม หึ" "เช็คบ่อยละสิ" ฉันพยายามใช้สองมือดันอกแกร่งไว้ และมองสู้สายตาเจ้าเล่ห์ของเขาที่มันดูมีประกายระยิบระยับ สู้มา สู้กลับ ไม่โกง! "ไม่บ่อย แค่กับมิน""ลองมั้ย"ผมใช้หน้าผากกว้างของผมแตะกับหน้าผากมนของเธอ เอ่ยถามแผ่วเบา "ละ ลองอะไร""ลองให้เตอร์เช็ค ตรงนี้ ตรงนี้ และตรงนี้" ผมใช้ริมฝีปากชมพูคล้ำของผมไปจูบที่ริมฝีปากอวบอิ่มสีชมพูพีช ที่แก้มป่องๆ สองข้าง และเปลือกตาที่มีขนตางอนยาวทั้งซ้ายและขวา"ลองเช็คคค... ตรงนี้"ผมกระซิบข้างหูเล็กของเธอเบาเบา ก่อนจะก้มไปจูบซอกคอหอมหอมของเธอหนึ่งครั้ง...ที่ไหปลาร้าหนึ่งครั้ง...ที่หัวไห
เตอร์ขับรถมาส่งฉันที่คอนโดตามปกติก่อนจะรีบร้านของเขาต่อ แถมยังใจดีถือของขึ้นมาให้อีก บทจะน่ารักก็น่ารัก บทจะน่าหยุมก็สุดสุด ฉันที่ตอนนี้นั่งจัดของที่ซื้อมาก็ต้องส่ายหัวให้กับความไม่มีสติของตัวเอง เสื้อผ้าเอย เครื่องประดับกระจุกกระจิกเอย ไหนจะชุดพาเลตแบรนด์ดังอีก สงสัยคงต้องงดช๊อปสักสองเดือน ไม่อย่างนั้นมีหวังใส่ไม่ทันแน่แน่ "ยัยซื่อบื่อ เสร็จยัง" ผมนั่งเล่นเกมส์รอเธอแต่งตัวอยู่ที่ห้องนั่งเล่น ผ่านไปกว่าหนึ่งชั่วโมงแล้วก็ยังไม่ออกมา จะแต่งอะไรเยอะแยะ แกร๊กเสียงประตูดังขึ้น พร้อมกับกลิ่นน้ำหอมอ่อนอ่อนที่เธอชอบใช้ประจำ ผมรีบหันไปมองเตรียมจะบ่นสักหน่อย"มิน" เสียงผมแผ่วเบาจนแทบจะไม่ได้ยินทันทีที่เห็น เธอใส่เสื้อครอปสายเดี่ยวที่หนาประมาณสองนิ้วผ้าลูกไม้สีขาวลายดอกไม้สีชมพูโชว์เอวขาวบางนิดหน่อย ทำผมอยากจะเดินเข้าไปหยิกสักทีสองที กับกระโปรงยาวสีขาวผ้าลูกไม้ลายเดียวกัน ผมสีน้ำตาลคาราเมลม้วนลอนถูกเกล้าขึ้นสูงพร้อมผูกโบว์ดูน่ารัก ไหนจะปากเล็กเล็กที่ทาด้วยลิปสีชมพูพีชและตากลมโตที่มีเส้นสีอายไลเนอร์ตรงหางตา เธอน่ารักมาก...น่ารักเหมือนตุ๊กตาจนผมอยากเข้าไปกอด ใจเตอร์มันสั่นไหวไปหมดแล้วมิน"เตอ
เป็นคำถามที่ผมแค่แกล้งลองถามเธอไป ยังไม่ได้ต้องการคำตอบจากเธอตอนนี้ ผมจึงเฉไฉหยิบชามข้าวต้มของเราสองคนที่ทานเสร็จแล้วไปเก็บในครัวแทน แล้วเดินกลับไปหาเธอที่นั่งทำหน้าเอ๋ออยู่ที่เดิม"ไปอาบน้ำก่อนนะ ยัยซื่อบื่อ" ก่อนจะใช้มือสากหนาของผมผลักศีรษะเธอเบาเบา"เตอร์ไปนั่งเล่นเกมส์รอที่ร้านกาแฟชั้น3นะ" "กลับก่อนก็ได้นะเตอร์""จะรอ" "แกกับเตอร์นี่ ใช่แฟนมั๊ย พูด!!" ทันทีที่ฉันเดินเข้ามาหาสองสาว ยัยมายที่มาในลุคลูกคุณแบบที่นางชอบ ก็ยิงคำถามใส่ฉันไม่ปล่อยให้ฉันหายเหนื่อยก่อนบ้างเลย"แฟนอะไร ใครแฟน ก็เพื่อนกันป๊ะ" ฉันตอบไปแบบนั้นถึงแม้จะเสียงสูงไปสักหน่อยเพราะแอบหวั่นไหวกับคำถาม แต่มันก็คือเรื่องจริงนี่นา... "เพื่อนแบบใดก่อน" ลลิลนี่ก็อีกคนเอากับเขาด้วย อยากจะขอหยิกแก้มกลมๆ ของนางกลางห้างดังให้หายหมันเขี้ยวสักที"แบบพวกแกสองคนนี่แหละ ป่ะ รีบไปช๊อปกันดีกว่า" ฉันเนียนเปลี่ยนเรื่องทันที แล้วจูงมือนักข่าวสาวสุดสวยทั้งสองคนเดินเข้าเคาเตอร์แบรนด์ดัง ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นที่พวกเรานัดกันไว้"โก โก" "มิน แกลองใส่ชุดนี้สิ" ยัยมายผู้รับบทสไตล์ลิสให้ฉันกับลลิลเดินถือชุดเดรสเกาะอกกระโปรงจั๊มสั้นสีชมพูพร้อมก
'ฟอดดดดด'ผมยักคิ้วเข้มยิ้มกรุ่มกริ่มและมองไปที่เธอ หลังจากที่จมูกโด่งโด่งของผมจัดการเข้ากับแก้มนุ่มๆ ของเธอได้สำเร็จ "หึ" หน้าเธอตอนนี้น่าตลกชะมัด ใบหน้าจิ้มลิ้มแดงระเรื่อ ตากลมโตเบิกกว้าง ปากเล็กเล็กอ้าค้างอยู่นานนับนาที คงจะตกใจที่โดนผมจู่โจมอย่างไม่ทันตั้งตัว ผมที่กำลังจะก้มไปจัดการกับแก้มหอมหอมของเธออีกข้างนั้น"โอ๊ะ โอ๊ยยย มิน มิน เตอร์เจ็บ ไม่แกล้งแล้วๆ" กลับกลายเป็นผมที่โดนเธอกระโดดกอดคอแล้วงับเข้าที่แก้มสากข้างขวา ดูท่าแล้วราตรีนี้ยังอีกยาวไกล และการกลับไปนอนที่ห้องตัวเองก็ไม่ได้อยู่ในแผนของผมในคืนนี้ซะด้วยสิ ผมใช้สองมือหนาของผมล๊อคเข้าที่ต้นขาของเธอให้พอตั้งหลัก เธอพลาดเองที่เอาสองขาเล็กเล็กมาเกี่ยวเข้ากับเอวสอบของผมไว้คงจะกลัวตก จากนั้นผมเดินพาเธอไปวางไว้บนเตียงก่อนจะพาตัวผมลงไปนอนทาบกับตัวเธอ โดยใช้ข้อศอกทั้งสองข้างยันไว้กับที่นอนเพื่อช่วยยกตัวผมขึ้นให้ห่างจากเธอเล็กน้อย อยากจะมองหน้าหวานหวานนี้ใกล้ใกล้อีกครั้งและอีกครั้ง... "เตอร์นอนด้วยนะ นอนเฉยเฉย" "ไม่น่าไว้ใจตรงนอนเฉยเฉยนี่แหละ" "หึ ได้หรอ" ผมเลิกคิ้วแกล้งถามเธอเล่น"ไอ้บ้าเตอร์! " "โอเค โอเค เตอร์ไม่แกล้ง ไม่แกล
"มิน รอเตอร์ก่อน" ผมรีบวิ่งไปจับนิ้วก้อยเล็กเล็กของเธอมาเกี่ยวไว้กับนิ้วก้อยของผม มินงอนผมตั้งแต่ผมขึ้นเสียงใส่เธอในรถ ก็เธอเล่นพูดว่าจะสนิทกับไอ้หมอนั่นมากกว่าผม ใครจะทนไหว ผมไม่มีทางยอมง่ายง่ายแน่ ไหนจะตอนที่อยู่ในร้านอีก ทำไมต้องนั่งใกล้กันขนาดนั้น ผมไม่เข้าใจ น่าหงุดหงิดชะมัด แทนที่ควรจะเป็นผมที่ต้องคิดบัญชีกับเธอ กลับกลายเป็นผมที่ต้องวิ่งตามเธออย่างตอนนี้ พอเข้ามาในร้านปิ้งย่างที่พวกนั้นนั่งรออยู่ก่อน ผมรีบดันตัวเธอให้เข้าไปนั่งด้านในก่อนที่ผมจะแทรกตัวเข้าไปนั่งข้างๆ เพราะกลัวว่าเธอจะหนีไปนั่งข้างแก๊งค์เพื่อนสาว"ชาเขียวเย็นไม่หวานสอง" ผมรีบสั่งน้ำของมินกับผม เผื่อว่าน้ำเย็นๆ ชื่นๆใจ จะช่วยลดอาการงอนของเธอลงบ้าง นิดหน่อยก็ยังดี ระหว่างที่ผมกับเพื่อนๆ ย่างเนื้อกันอยู่ ผมก็ไม่ลืมที่จะคอยย่างและคีบเนื้อไปวางไว้ในจานเธอโดยเฉพาะเห็ดออรินจิที่เธอชอบ ส่วนมือข้างที่ว่างอยู่ก็ไปดึงมือนุ่มนิ่มของเธอมาจับไว้บีบเล่นอยู่ใต้โต๊ะ เพราะไม่อยากให้พวกนั้นเห็นแล้วแซวผมกับมิน เดี๋ยวเธอจะเอามาพาลงอนผมอีก แค่ข้อเดียวตอนนี้ ผมก็ร้อนรนจะแย่"มาย ลลิล ไปกินไอติมกันต่อมั๊ย เราเลี้ยงเอง" ผมที่กำลังงัดแผนสอ
"ไว้ว่าง ๆ เราขอนัดสาวสาวช่วยมาเป็นนางแบบให้เราได้มั๊ย เราอยากเก็บโปรไฟล์หน่ะ" "ได้สิ พวกเราเต็มใจมาก" ฉันได้แต่ส่ายหัวไปมากับลลิล เพราะยัยมายตอบรับกันต์ทันทีไม่ถามฉันสองคนสักคำ"อยากได้ฟิลไหนขอให้บอก แต่บอกล่วงหน้านะ พวกเราจะได้เอฟชุดทัน คิก คิก" ออกนอกหน้ามากยัยมาย ฉันกับลลิลเบะปากมองบนพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย"ว่าแต่... น่ารักกันขนาดนี้ รับบัตรคิวได้ที่ไหนหรอ" ถึงปากกันต์จะเอ่ยถามมายอย่างทีเล่นทีจริง แต่สายตาของเขากลับเหล่มองมาที่ฉันอย่างปิดไม่มิด หล่อหล่อใสใสอย่างเขาแถมคุยก็เก่งถ่ายรูปก็สวย ฉันแอบเห็นในไอจีของเขาที่ยัยมายเปิดให้ดู ก็ว้าวมาก โปรไฟล์ดีขนาดนี้ผู้หญิงในสต๊อกคงแน่นน่าดู เพราะขนาดเตอร์ที่ดูนิ่งนิ่งกับคนอื่น สาวสาวยังแย่งกันต่อแถวยาวพอพอกับแถวกดบัตรคอนเลยก็ว่าได้ ฉันที่ยังไม่ทันได้อ้าปากยัยสองคนนั้นก็พากันประสานเสียงตอบกันต์ด้วยท่าทางที่ใครเห็นก็ต้องหลงเพราะความสดใสของพวกนาง"เชิญรับบัตรคิวทางนี้ได้เลยคร้าาาา" พร้อมทำสองมือส่งมินิฮาร์ทให้กับเขา ฉันได้แต่ยกมือขึ้นมากุมขมับ กันต์นั่งคุยเล่นกับพวกเราต่อสักพักก่อนจะขอตัวกลับเพราะมีถ่ายงานต่อ ทำไมนะทำไม อยู่อยู่ฉันก็รู้สึกห