ระบบ: "ตอนนี้ไม่มีภารกิจ แต่มีสารขอความช่วยเหลือจากผู้ถูกเลือกหมายเลข 8798451444765 ท่านต้องการเปิดดูหรือไม่"
"ข้าต้องการ"
พรึบ! นี่มัน.....เด็กที่เธอเคยอุปถัมภ์นี่ เธอจำชื่อนี้ได้เพราะเด็กคนนี้เป็นลูกครึ่ง แม่นำมาทิ้งที่สถานเด็กกำพร้าตั้งแต่เกิด เด็กไม่มีใบแจ้งเกิด เธอจึงให้สถานเลี้ยงเด็กกำพร้ารับของเด็กคนนี้ และรับรองการแจ้งเกิดให้.....ชื่อนี้เธอเป็นคนตั้งให้เอง ส่วนนามสกุลใช้เป็นของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า สุรกิจพล
สารขอความช่วยเหลือ: เร่งด่วน
จากผู้ถูกเลือกหมายเลข 8798451444765 อเล็กซ์ สุรกิจพล
ต้องการแลกเปลี่ยน: ทองคำ (จำนวนมาก)
ของตอบแทน: หินเวททุกธาตุ (กรุณาระบุธาตุที่ต้องการรับมาด้วย)
อัตราแลกเปลี่ยน: 1:1
เวลาคงเหลือของสาร: 1:35:02 วินาที
"ระบบ ทองคำที่ข้ามีในตู้เซฟสามารถแลกเปลี่ยนไปได้ไหม และข้าสามารถติดต่อกับผู้ถูกเลือกคนนี้ได้ไหม"
"ท่านสามารถทำได้ เพียงแค่ตั้งจิตนึกถึงสิ่งนั้น และระบุจำนวนที่จะแลกเปลี่ยน สิ่งนั้นจะถูกนำเข้าระบบแลกเปลี่ยนทันที ส่วนการติดต่อ ท่านสามารถส่งสารไปทางกล่องข้อความได้ขอรับ"
หลินหลินมองหน้าจอที่ มีกล่องสี่เหลี่ยมให้เราระบุข้อความไป คล้ายการส่งอีเมล์ มีชื่อผู้ส่ง และผู้รับเป็นหมายเลขประจำตัวของผู้ถูกเลือกแต่ละคน
ผู้ส่ง: หลินหลิน หมายเลข 955174895156454
ผู้รับ: อเล็กซ์ สุรกิจพล หมายเลข 8798451444765
ข้อความ: สวัสดี อเล็กซ์ ฉันยินดีแลกเปลี่ยนทองคำกับคุณ ไม่ทราบว่าคุณต้องการมากแค่ไหน และไม่ทราบว่าตอนนี้คุณอยู่ในยุคไหน ฉันเองก็เคยอยู่ในยุคที่คุณอยู่ 2024 เผื่อมีสิ่งใดที่สามารถช่วยเหลือกันได้ หากคุณต้องการอะไรพิมพ์บอกมาได้เลย ฉันพร้อมจะช่วยคุณ
หลินหลินกดส่งข้อความทันที
ตี๊ดดิ๊ง: ส่งข้อความสำเร็จ
ติ๋ง! จดหมายใหม่ เปิดอ่าน กดยืนยัน?
ผู้ส่ง: อเล็กซ์ สุรกิจพล 8798451444765
ผู้รับ: หลินหลิน หมายเลข 955174895156454
ข้อความ: คุณใช่..คุณแม่ของผมไหมครับ หากใช่ได้โปรดบอกผม ผมดีใจมากหากพระเจ้าเมตตาให้ผมพบคุณอีกครั้ง รูปที่ผมเห็นอยู่ตอนนี้คุณเด็กมาก แต่ผมมั่นใจว่าคุณน่าจะใช่คุณแม่หลินลดาของผม
ส่วนทองคำผมต้องการจำนวนมากครับ ผมได้ระบบเก็บของเก่ามา มันมีแต่แร่ ซึ่งหากผมขายมันในยุค 2024 ผมคงโดนจับ ตอนนี้มีสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าที่หนึ่งกำลังจะถูกปิด ผมต้องการเงินจำนวนมาก เพื่อช่วยเหลือพวกเขา หากคุณมีทองคำได้โปรดแลกกับผมโดยด่วน ขอบคุณครับ
ตี๊ดดิ๊ง: ส่งข้อความสำเร็จ
"แสดงว่า อเล็กซ์ ยังอยู่ในยุคเดิมสินะ"
"ระบบ ข้าเปิดเผยตัวตนได้หรือไม่"
"ไม่มีกฎข้อห้ามในเรื่องนี้ เพราะอีกฝ่ายก็เป็นผู้ถูกเลือกเช่นกัน"
"แสดงว่าห้ามบอกคนอื่นที่ไม่ใช่ผู้ถูกเลือกใช่ไหม"
"มีข้อยกเว้นหลายประการ ขอให้ผู้ถูกเลือกค่อยๆ ทำความเข้าใจไปทีละน้อย"
"อืม เข้าใจแล้ว"
หลินหลินหลับตานึกถึงทองคำ 200 ก้อน ปรากฏมิติมีข้อความส่งกลับมาว่า
"กรุณากดยืนยันนำทองคำเข้าระบบจำนวน 200 ก้อน"
หลินหลินรีบกดยืนยันที่หน้าจอ ในช่องเก็บของของเธอมีทองคำขึ้นมาและมีช่องว่างอีก 2 ช่อง แต่ที่เธอต้องกรี๊ดคือ ข้อความข้างๆ ที่โชว์ขึ้นว่า
"คุณต้องการแลกเป็นเหรียญทองเข้าระบบหรือไม่"
กดยืนยัน หลินหลินมองดูเวลาของ อเล็กซ์ เธอรีบส่งให้ อเล็กซ์ ก่อน
"เหรียญทองรอแม่ก่อน เดี๋ยวแม่มาแลกนะลูก ฮ่าๆๆๆๆ"
หลินหลิน: อเล็กซ์ เธอคือดาวนำโชคของฉัน และใช่ฉันคือหลินลดา ฉันส่งทองคำให้เธอ 200 ก้อน ขอให้เธอใช้ชีวิตให้ดี และหากไม่รู้จะนำแร่นี้ขายที่ไหน เธอสามารถติดต่อส่งมาขายให้ฉันได้
อเล็กซ์: ขอบคุณครับคุณแม่ ผมจะส่งแร่ทั้งหมดที่มีให้คุณแม่ครับ และผมคงส่งข้อความหาคุณอีกเร็วๆ นี้ไม่ได้ เพราะผมต้องถึงเลเวลถัดไปก่อน สิ่งที่ผมอยากบอกมากที่สุด ขอบคุณที่ตั้งชื่อให้ผม และรับเลี้ยงผม ให้ผมได้มีโอกาสได้เรียน และทำสิ่งที่อยากทำ ตอนนี้ผมได้ช่วยคนอื่นเหมือนคุณแม่สอนแล้วนะครับ ดูแลสุขภาพด้วยนะครับ ขอบคุณครับ
หลินหลินขมวดคิ้ว
"ทำไมของเธอไม่เห็นมีการจำกัดข้อความเลย หรือว่าระบบแต่ละอันไม่เหมือนกัน"
ระบบ: "ใช่แล้วผู้ถูกเลือกหลินหลิน ระบบเจ๋งกว่า รุ่นใหม่กว่าของเด็กนั่นมาก จงภูมิใจที่มีระบบมาเป็นบัดดี้ได้เลย"
แค่กๆๆๆ หลินหลินแทบสำลักอาการหลงตัวเองของระบบทันที
หลินหลินตั้งจิตคิดถึงเงินสด 10 ก้อน (10 ล้านบาท) กดยืนยันเข้าระบบ ใจที่เต้นแรงอยู่แล้วแทบจะทะลุออกมา เมื่อช่องข้างๆ เหรียญทอง ปรากฏช่องเหรียญเงินขึ้นมา
แต่ที่ต้องกรี๊ดหนักกว่านั้นคือข้อความแจ้งว่า มันสามารถนำออกไปใช้นอกระบบได้
" อร้ายยยยยย รวยแล้ว"
หลินหลินรีบกดยืนยันทันที ดวงตาเบิกกว้างหัวใจสั่นระริก ไม่ใช่ดีใจแต่ตกใจกับอัตราแลกเปลี่ยน
"10 ล้านได้มาแค่ 1000 ตำลึงเงินเนี้ยนะ โอ้วแม่เจ้า ทำใจแปป........."
เมื่อตั้งสติได้แล้ว หลินหลินนึกถึงทองคำระบุจำนวน 10 ก้อน เพชร 10 ก้อน กดแลกเข้าระบบทันที เธอได้เหรียญทองมา 10 เหรียญ และข้างเหรียญทอง ก็ปรากฏสัญลักษณ์เพชรขึ้นมาอีก 1 เพชร
"โอ้วจะเป็นลม ระบบใช้อัตราอะไรแลกเปลี่ยนเนี้ย"
ระบบ: "ค่าเงินในมิติผันผวน จะเปลี่ยนทุกๆ 5 วินาที ดังนั้นผู้แลกเงิน ทอง หรือเพชรในมิตินี้ต้องพึ่งดวงเท่านั้น เพราะค่าเงินจะผันผวนไปเรื่อยๆ อย่างตอนที่ผู้ถูกเลือกหลินหลินแลกนั้น ยังไม่ใช่ค่าเงินที่ต่ำที่สุด"
"หืมมมม มีต่ำกว่านี้อีกหรือนี่"
ระบบ: "ใช่แล้วผู้ถูกเลือกหลินหลิน ท่านโชคดีมาก"
"เอาล่ะ หลินหลิน เราอยู่ในมิติผันผวน ท่องจำไว้ฮึย....."
หลินหลินตั้งจิตกำหนดเงินสด 10 ล้านและส่งไปให้อเล็กซ์ พร้อมข้อความว่า จะใช้อะไรให้คิดให้ดี อย่าใช้เพราะความอยากได้ หรือใช้เพราะความสงสาร จงใช้เพราะสติปัญญา เพราะฉันคงไม่ได้ส่งเงินมาให้เธอได้อีกแล้ว
เธอไม่คาดหวังว่าเขาจะใช้อย่างถูกต้อง แต่เพราะเธอคิดว่า อเล็กซ์ เป็นคนเดียวที่ใช้ประโยชน์ได้สูงสุดตามค่าเงิน เธอได้แต่หวังว่า มันจะช่วยเขาหรือคนอื่นๆ ได้ก็เท่านั้น เหมือนที่เธอทำบุญต่างๆ เธอก็ไม่ได้รู้ทุกแง่มุมอยู่ดีว่าเงินของเธอไปทางไหน ดังนั้นให้ก็คือให้ ให้แบบไม่เดือดร้อนก็พอ
อย่างน้อยตอนนี้ฉันก็มี 1000 เหรียญเงิน 10 เหรียญทองในระบบ 1 เพชรที่ยังไม่รู้ว่าใช้อะไรได้
หลินหลินละสายตาจากหน้าจอสั่งการมิติ ตั้งใจว่าจะมองทุ่งหญ้าหวังผ่อนคลาย พอเงยหน้าขึ้น กลับต้องตกใจกับรวงข้าวเหลืองอร่าม ข้าวโพดฝักใหญ่ๆ เต็ม 10 แปลง และที่ดินพร้อมปลูกอีก 10 แปลงที่อยู่ติดกัน หลินหลินรีบหันไปดูเล้าไก่ เล้าเป็ด และคอกหมูทางด้านซ้ายมือ ทุกอย่างมีสัญลักษณ์พร้อมเก็บเกี่ยวผลผลิตแล้ว
"โอ้ว....ไวขนาดนี้เลยหรอ"
โรงงานแปรรูปอาหารสัตว์ก็พร้อมใช้แล้ว มือบางถูมือเข้าหากัน
"เอาล่ะ มาสร้างความมั่งคั่งกันจ้า ข้าพร้อมแล้ว...."
ผ่านไปหลายชั่วยาม หลินหลินยังคงจดจ่ออยู่กับการเก็บเกี่ยวข้าว ข้าวโพด และผลผลิตจากสัตว์ทั้ง 3 เก็บ ขาย เก็บขาย วนไปอย่างนี้หลายชั่วยาม จนมีเสียงแจ้งเตือนให้อัปเดตโกดัง....
ตอนนี้ผลิตผลของเธอเต็มโกดังแล้ว ข้าว 300 กระสอบ ข้าวโพด 200 กระสอบ เนื้อหมู 100 ชั่ง ไข่ไก่ 500 ฟอง ไข่เป็ด 500 ฟอง
หลินหลินมองหน้าจอที่ให้อัปเดตโกดัง แต่อัปเดตโกดัง…นางจะต้องอัปเดตมิติก่อน และใช้เงินมากถึง 5 เหรียญทอง …
นี่ถ้าเธอไม่ได้โชคดีมีข้าวของเงินทองที่เก็บไว้ติดตามมาด้วย คงไม่ได้อัปเดต ระบบง่ายขนาดนี้
หลินหลินสั่งการอัปเดตระบบทันที แสงสว่างวงกลมไล่ขยายพื้นที่ออกไป มันเกิดขึ้นเหมือนตอนเธอเปิดมิติอีกครั้ง แต่ครั้งนี้กลับเริ่มต้นที่ไกลๆ เหมือนพื้นที่เธอถูกขยายออกไปด้วย
"เอาล่ะ มาอัปเดตโกดังกัน มีอะไรให้ซื้อบ้างนะ"
หลินหลินขยายโกดังเป็น 3 เท่า ใช้เงินไปถึง 5000 เหรียญเงิน ดีที่เธอขยันขายของเข้าระบบถึงมีตำลึงมากพอ อีกอย่างเธอต้องรีบอัปโกดังก่อนอย่างอื่น เพราะหลังๆ มันแพงกว่านี้แน่นอน แต่..เธอก็ไม่หวั่นเพราะเงินสดในตู้เธอเยอะ
ดังนั้น เจ้าแม่หลินหลินคนนี้......จะสร้างมิติฟาร์มในฝัน! หลินหลินเติมเหรียญเงิน เหรียญทองและเพชรไปครึ่งตู้ เธอจดจ่อกับเกมตรงหน้า ตอนนี้มิติเธอขยายถึงระดับ 5 แล้ว
พื้นที่กว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา พื้นที่เพาะปลูกกว่า 200 แปลง เธอปลูกข้าว ข้าวโพด กะหล่ำปลี ผักบุ้ง แครอท ผักกาดขาว พริก ต้นหอม ผักชี และผักต่างๆ เล้าไก่ตอนนี้อัปเดตเป็นโรงเรือน 2 โรงใหญ่ เป็ด 2 โรงเรือน หมู 3 โรงเรือน แพะ 10 คอก ไก่งวง 1 โรงเรือน ปลารวมสายพันธุ์ 1 บ่อใหญ่ ซึ่งนางตรวจดูแล้วในนี้มีหอย ปูและกุ้งอยู่ด้วย
แต่นางชอบคือ... ชันโรง ตอนแรกที่ระบบปลดล็อก นางก็งง ว่าชันโรงคืออะไร
แต่พอรู้ว่าชันโรงเป็นแมลงอีกหนึ่งชนิดที่สามารถผลิตน้ำผึ้งได้เหมือนผึ้ง แต่ไม่เป็นอันตรายเพราะไม่สามารถต่อยได้ มันยังช่วยผสมเกสรให้กับไม้ผล พืชผักในมิติ ทำให้เพิ่มผลผลิตขึ้นได้ ส่วนน้ำผึ้งที่ได้จากชันโรงก็มีคุณค่าทางสารอาหารและราคาสูงกว่าน้ำผึ้งปกติอีกด้วย
หลินหลินทอดตามองผลไม้ของเธออย่างภาคภูมิใจ สตรอว์เบอร์รี แอปเปิล ฝรั่ง แคนตาลูป องุ่น มะม่วง กล้วย เงาะ ลำไย ที่ขาดไม่ได้คือทุเรียน......
"ฮ่าๆๆๆ ไม่อยากออกจากมิติเลย"
หลินหลิน: "ระบบ ข้าอยู่ในมิติมากี่เดือนแล้วหรอ"
หลินหลินรีบถามระบบเพราะเธอรู้แค่ว่าเธออยู่ที่นี่นานมาก เธอกว่าจะผ่านระดับ 5 ได้ คาดว่าต้องมี 3 เดือนแน่นอน
ระบบ: "ท่านอยู่ในนี้มา 3 เดือนกว่า แต่ภายนอกคือ 3 วันเท่านั้น"
"ห๊ะ!!! เวลาห่างกันขนาดนี้เลยหรอ"
3 เดือนที่ผ่านมานี้เธอกินนอนที่เรือนไม้ของเธอ ตอนนี้เธอต่อเติมครัวน้อยขึ้นมาทางด้านหลัง มองเห็นน้ำตก ส่วนที่อาบน้ำของเธอสร้างติดกันกับตัวเรือนด้านซ้าย เพราะเธอซื้อแบบสำเร็จรูปมาจากระบบ มันสะดวกและเข้ากับตัวบ้านเรือนไม้ของเธอ
ดีที่ในระบบมิติ มีอ่างอาบน้ำ และโถส้วมมาด้วย ไม่อย่างนั้นเธอคงแย่แน่ๆ เพราะเธอไม่ชอบเข้าห้องน้ำร่วมกับคนอื่น...
หลินหลินมองของที่อยู่ในโกดังที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพราะตอนนี้เธอได้อัปเดตให้ระบบเก็บเกี่ยวอัตโนมัติ เธอไม่ต้องทำอะไรเลย แค่รอระบบแจ้งเตือนให้อัปเดต
หรือซื้อของลงมิติเพิ่มเท่านั้น หลินหลินเลื่อนหน้าจอไปที่โรงงานแปรรูปต่างๆ น่าแปลกที่ระดับ 5 แล้ว แต่โรงงานแปรรูปกลับมีแค่พวกอาหารสัตว์ในมิติเท่านั้น เธอเข้าไปดูที่ร้านค้า หน้าจอก็เป็นสีเทา ยังไม่สามารถซื้อได้หลินหลินตัดใจออกจากหน้าร้านค้า และนั่งมองฟาร์มของเธอ
"วันนี้ฉันอยากกิน ต้มยำปลาใส่เห็ด แต่ขาดเห็ด"
"ระบบ ข้าอยากได้เห็ด ในระบบไม่มีขายหรือแลกเปลี่ยนหรอ"
ระบบ: (แอบยิ้มร้ายกาจ พร้อมเสียงตอบที่ไม่ให้มีพิรุธว่า)
"ข้างนอกมีเห็ด ท่านสามารถเก็บเห็ดจากป่าข้างนอกได้"
"งั้นหรอ... อืม ออกไปยืดเส้นยืดสายบ้างก็ดีนะ แต่ชุดของยุคนี้มีแค่ชุดของร่างนี้ที่สวมใส่ไว้เท่านั้น ชุดอื่นในมิติมีแต่ของยุคปัจจุบัน เธอเคยขอแลกเปลี่ยนในระบบก็ไม่มีใครแลกมาเลย คงต้องใส่ชุดนี้ไปก่อนล่ะนะ"
"ออกมิติ"
พรึ่บ! หลินหลินกวาดตามองสถานที่เดิม ที่เธอลืมตาที่นี่เป็นครั้งแรก
"ป่า ป่าจริงๆ ด้วย หึ้ย! หนาว ขนาดตอนกลางวันอากาศยังหนาวขนาดนี้เลยหรอเนี่ย"
"ระบบ ออกจากป่าทางไหน มีระบบช่วยนำทางไหม"
ระบบ: "กำลังติดตั้งดวงตานำทาง กรุณารอสักครู่"
หลินหลินรอไม่นาน ดวงตาของเธอก็มีการเปลี่ยนแปลง ในสายตาของเธอ เหมือนเห็นป้ายบอกทางเต็มไปหมด รวมทั้งคำเตือนต่างๆ
คำเตือน!
พอนางอ่านแล้วก็ยกเลิกการเก็บเห็ดออกไปก่อน นางควรที่จะเริ่มเรียนรู้โลกข้างนอกมิติได้แล้ว ไหนๆ ก็ออกมาแล้ว ถ้าอย่างนั้นเรามาใช้ชีวิตกันเลย ข้าพร้อมแล้ว!
หลินหลินไล่อ่านป้ายแต่ละป้ายก็หัวเราะออกมา
"โอ้ว... มีอะไรเจ๋งไปกว่าหลินหลินผู้นี้อีกหรือไม่ จงเรียกข้าหลินหลินลูกรักพระเจ้าได้เลย ฮ่าๆๆ"
ความทะเล้นของหลินหลินทำให้ระบบอดไม่ได้ที่จะกรอกตามองบนด้วยความหมั่นไส้ แทบจะยึดดวงตาตรวจสอบคืนทันที แต่ก็จริงอย่างที่นางว่า เบื้องบน ส่งของขวัญระดับ 20 มาให้ทั้งที่ผู้ถูกเลือกที่อยู่เพียงแค่ระดับ 5... ระดับนี้ความจริงจะได้ความสามารถรับรู้ทิศทางเท่านั้น.....แต่นางกลับได้ ดวงตาตรวจสอบ!
ไปทางนั้น....
หลินหลินอ่านป้ายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ป้ายไปเก็บเห็ดหลินจือ ป้ายไปเก็บมัน ป้ายไปรังนกกระจอกเทศ ป้ายระวังงูพิษ ป้ายไปถ้ำหมี..จนไปเจอป้ายออกจากป่า
สองเท้าก้าวเดินไปตามทางที่ป้ายบอก ผ่านไปประมาณ 1 ก้านธูป (30 นาที) ป่าเริ่มบางตา ตามทางเริ่มมีรอยทางเดิน น่าจะเป็นเส้นทางที่คนในหมู่บ้านใช้เดินเข้าป่ากันหาของป่ากัน เดินอีกไม่นาน หลินหลินก็พ้นชายป่า เห็นบ้านหลังแรกในสายตา บ้านที่นี่เป็นบ้านดินมุงด้วยหญ้าแฝก บ้านแต่ละหลังที่เห็นไม่ได้อยู่ติดกัน
หลินหลินเดินตามป้ายนำทางไปยังบ้านเดิมของร่างนี้ นางตั้งใจขอไปดูสักหน่อยแต่ไม่คิดว่า......
"อีนังหลานเฮงซวย! แกกลับมาทำไมห๊ะ!!!"
หลินหลินหันไปมองหญิงอ้วนตรงหน้า แต่ยังไม่ทันทำอะไร ข้อมือบางก็ถูกกระชากดึงไปทันที"แกรีบมากับข้าเดี๋ยวนี้ จะให้ใครเห็นนางหลานสาวตัวซวยคนนี้ไม่ได้เด็ดขาด"หลินหลินปล่อยให้ยัยป้าของร่างเดิมนี่ดึงเข้าไปในบ้าน เพราะนี่คือสิ่งที่เธอต้องการ นึกว่าจะต้องปืนเข้ามาซะอีก หลินหลินมองสำรวจบ้านหลังนี้ ไม่ต่างจากความทรงจำของร่างเดิม บ้านหลังนี้เป็นบ้านดิน แต่ค่อนข้างคับแคบ ตัวบ้านไม่ใหญ่มาก แต่กลิ่นเหม็นที่โชยมาน่าจะมาจากห้องส้วมหลังบ้าน จากความทรงจำที่นี่ยังเป็นส้วมหลุมดิน โดยใช้หญ้าแฝกมาปิดปากหลุมคลุมไว้เท่านั้น เธอขมวดคิ้วเป็นปมแรงกดที่ข้อมือไม่น้อยเลย แต่เธอก็อยากรู้ว่ายัยป้านี่ จะทำอะไร ท่าทางรุรี้รุรน ไม่อยากให้ใครเห็นว่าเป็นเธอมันเพราะอะไรกันปึก.. ร่างของหลินหลินถูกเหวี่ยงไปตรงห้องเก็บฟืน นางชุน ย่าซิน รีบเอามือเช็ดกับกระโปรงอย่างรีบร้อนด้วยท่าทางรังเกียจ"แกกลับมาทำไม ไม่ตายไปซะ ไสหัวออกไป ที่นี่ไม่มีที่ให้แกอีกแล้ว"หลินหลินจับข้อมือมานวด นั่งก้มหน้า ไม่โต้ตอบอะไร เพราะยังไง ยัยป้านี่ก็คงบอกจุดประสงค์ของนางออกมาแน่"แก....นังตัวซวย แกได้ยินที่ข้าบอกไหม? แกน
หลินหลินมองห้องพักที่นางจ่ายไปถึง 5 ตำลึง ทุกอย่างดูเหมาะสมกับราคา เพราะห้องนี้กว้างขวางมาก ไม่มีกลิ่นอับ ภายในห้องจุดกำยานหอมอ่อน ๆ ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย ที่สำคัญมีพื้นที่ให้ใช้สอยเยอะไม่อึดอัด ห้องนี้น่าจะสามารถพักได้ถึง 4 คนสบาย ๆ เลยด้านในทางซ้ายมือ มีเตียงไม้ขนาดใหญ่ 1 หลัง ตรงกลางห้องมีโต๊ะกินอาหารทรงกลมแกะสลักลวดลายสวยงาม พร้อมเก้าอี้เข้าชุด 4 ตัว วางล้อมรอบโต๊ะ ถัดไปทางขวาจะมีฉากกั้นลายดอกเหมยขนาดใหญ่ น่าจะเป็นห้องอาบน้ำหลินหลินเดินไปเปิดหน้าต่างเป็นอย่างแรก บนห้องพักนี้มีหน้าต่างขนาดใหญ่พร้อมตั่งยาวไว้ให้นั่งมองออกไปชมวิวสวนทางด้านหลังของโรงเตี๊ยมด้วยมองออกไปภายนอกดูร่มรื่นเพราะภายในสวนมีการตกแต่งต้นไม้ใหญ่ไว้หลายจุด เจ้าของที่นี่ช่างร่ำรวยเสียจริง แต่หากให้นางเดา ต้องเป็นบุรุษไม่ใช่สตรีแน่นอน เพราะการตกแต่งออกไปทางดุดัน ซื่อตรงหลินหลินปิดหน้าต่างลงก่อนจะเดินไปดูส่วนของห้องอาบน้ำ เห็นอ่างไม้ขนาดใหญ่ และมีโถไม้ขับถ่ายวางไว้ใกล้กันเมื่อสำรวจจนพอใจแล้ว หลินหลินจึงเดินมาที่โต๊ะหนังสือ ที่นี่ใจปล้ำเหมือนกันนะเนี่ย ถึงกับมีกระดาษและหมึกไว้ให้อย่างละ 1 ชุด แม้กระดาษที่ให้จะไม่ใ
“เถ้าแก่ ข้าจะจ่ายเงินให้ท่านครึ่งหนึ่งของราคาสินค้าทั้งหมด ท่านออกใบลงนามรับรองการจ่ายเงินให้ข้า ส่วนวันที่จะมารับข้าจะแจ้งท่านอีกที"เถ้าแก่มองสำรวจที่อาภรณ์ของคุณหนูตรงหน้า นางไม่พกถุงหอม ไม่มีเครื่องประดับสักชิ้น เมื่อแน่ใจแล้วว่านางไม่มีถุงมิติ จึงเอ่ยปากแนะนำ"คุณหนูขอรับ ข้าขอแนะนำท่านสักเรื่อง หากคุณหนูจะขนของพวกนี้ไปไกลจากเมืองนี้ ข้าแนะนำให้คุณหนูเช่าถุงมิติจากหอเซียงซิน ที่นั่นมีให้เช่าของวิเศษหลายอย่าง แม้ถุงมิติราคาสูงหน่อย แต่มันสามารถใส่สิ่งของได้เยอะ ปลอดภัยจากโจร หรือความเสียหายของการเดินทางขอรับ”“ดูจากของที่คุณหนูซื้อแล้ว ต้องใช้เกวียนขนหลายคัน เสี่ยงต่อการเสียหายและถูกปล้นกลางทาง อีกอย่าง เมื่อครบกำหนดวันสัญญาเช่าถุงมิติ เราไม่ต้องเสียเวลาไปคืน ถุงมิติทุกใบจะลงเวทไว้ มันจะกลับคืนสู่หอเซียงซินโดยที่ผู้เช่าไม่ต้องนำไปคืนเลยขอรับ"เถ้าแก่ตัดสินใจแนะนำวิธีนี้ไป เพราะดูจากการที่นางซื้อของแล้วนางมีเงินพอที่จะจ่ายค่าเช่าถุงมิติแน่นอน และคุณหนูหลายๆคนไม่ทราบว่ามีวิธีนี้"หืม... ถุงมิติ งั้นหรอ ข้ารอดแล้ว"หลินหลินพยักหน้ายกยิ้มบาง "เถ้าแก่ อีกครึ่งชั่วยามข้าจะมารับสินค้า
"กรี๊ดดดด........นี่มัน!!!" นางลอกคราบ...นางเป็นงูหรอ...เอ้ย..นางเป็นคนสินางเป็นคน หลินหลินเธอต้องตั้งสติ.....ความเจ็บปวดที่เพิ่งผ่านพ้นไปยังคงทิ้งร่องรอยไว้บนร่างกาย ผิวหนังที่หลุดลอกเป็นแผ่น ๆ ทำให้หลินหลินอดคิดถึงงูที่ลอกคราบไม่ได้ ความรู้สึกแสบร้อนยังคงติดตรึงอยู่บนผิวหนังทุกตารางนิ้ว เหมือนถูกไฟลนแผดเผาจนแทบสลายหลินหลินค่อย ๆ ลูบไล้ไปตามแขนเรียวอย่างระมัดระวัง ผิวหนังเก่าที่แห้งกร้านและหมองคล้ำกำลังถูกผลัดออกไปทีละน้อย เผยให้เห็นผิวใหม่ที่ขาวเนียนสวยราวกับไข่มุกเบื้องล่าง ความเจ็บปวดเริ่มจางหายไป แทนที่ด้วยความรู้สึกตื่นเต้นและประหลาดใจ"กระจก" หลินหลินพึมพำเรียกหาสิ่งที่จะสะท้อนภาพของเธอในตอนนี้พรึบ! กระจกขนาดไม่ใหญ่มากปรากฏขึ้นเบื้องหน้า หลินหลินมองภาพสะท้อนของตัวเองด้วยความตกตะลึง นางงดงามกว่าดาราจีนในยุคของนางเสียอีก งามแบบไม่น่ามีอยู่จริงบนโลก "งานพอ ๆ กับเล่อปาเลยอิอิ"หลินหลินเหม่อมองภาพที่ปรากฏอยู่ เหมือนนางมองสาวงามล่มเมือง ร่างกายสวยงามที่สมส่วนรับกัน เครื่องหน้าทั้งห้า งดงามไร้ที่ติ ทุกอย่างลงตัวเหมือนสวรรค์สร้าง ผิวเนียนขาวใส ใบหน้าเรียวรีรูปไ
หลินหลินนั่งเอนหลังบนเก้าอี้ม้าโยก มองระบบเก็บเกี่ยวผลผลิตและขายออกแบบอัตโนมัติ ผลผลิตนางตั้งระบบไว้ เก็บ 50% ขายออก 50% แต่ผลผลิตก็ออกไวมาก ทำให้นางต้องอัปเดตโกดังอยู่ตลอด ตอนนี้นางมีเงินในระบบจากการขายแจกันและของจากระบบเยอะมาก เรียกได้ว่าโจรปล้น 100 ครั้งก็ยังไม่หมดตัว ฮ่าๆๆ เมื่อมองดูแล้วนี่คงใกล้รุ่งเช้าแล้ว หลินหลินจึงออกจากมิติไปยังห้องพักพรึ่บ..หลินหลินมองห้องที่มืดสนิท ข้างนอกคงยังไม่สว่าง แต่มีแสงของพระอาทิตย์โผล่พ้นขึ้นมาบ้างแล้ว นางลองเปิดประตูออกไปข้างนอก ไม่คิดว่าจะเจอใคร แต่กลับพบเสี่ยวเอ้อนั่งอยู่ตรงริมสุดทาง หรือว่าที่นี่เสี่ยวเอ้อรอให้บริการแขกตั้งแต่รุ่งเช้า.... เสี่ยวเอ้อไม่รอช้ารีบเข้ามาสอบถามนางทันที แต่ก็ต้องชะงักกับความงามของสตรีตรงหน้า เพราะคุณหนูท่านนี้ไม่ใช่คุณหนูคนเมื่อวาน แต่เป็นห้องนี้แน่ เพราะเมื่อวานเป็นเขาเองที่พานางมาส่ง คุณหนูท่านนี้งดงามมาก.. มากกว่าทุกคนที่เขาเคยพบเห็นมา เสี่ยวเอ้อเรียกสติตนเอง โค้งตัวก้มหน้าลง และสอบถามทันที "คุณหนูต้องการสิ่งใดหรือไม่ขอรับ"หลินหลินยืนนิ่ง.... คิดในใจว่าเสี่ยวเอ้อต้องจำนางไม่ได้แน่ ถ
ทางฝั่งหลินหลิน... ย้อนกลับไปตอนที่หลังเสี่ยวเอ้อรับถุงเงินและออกไป นางก็เข้ามิติไปเช็คราคาเครื่องประดับทั้งหมด เป็นอย่างที่นางคิดไม่มีผิด ของพวกนี้ทำกำไรให้นางเยอะมากหลินหลินไม่รอช้า นางออกจากห้องพักมุ่งหน้าสู่ร้านเครื่องประดับต่างๆ นางใส่ผ้าคลุมแปลงโฉม ตอนนี้ผู้คนจึงเห็นว่านางเป็นหญิงสาวอายุ 27-28 ปีก่อนหน้านี้ หลินหลินจ้างปู่หลิวกับสือหย่ง (ชายชราและเด็กน้อยที่รับจ้างตรวจเช็คแจกันให้นาง) ให้พวกเขาไปเช่ารถม้าพร้อมคนขับมา 1 คัน ปู่หลิวรับคำและไปจ้างคนที่รู้จักกันในหมู่บ้านคนนี้มีนามว่า หานเซียว เขาเคยเป็นทหารแต่ได้รับบาดเจ็บจึงออกจากการเป็นทหารมารับจ้างขับรถม้าแทนหลินหลินนั่งรอที่ร้านน้ำชาเล็ก ๆ ริมถนน ถัดไปอีก 2 ซอย นางวางแผนว่า นางจะนั่งรถม้าชมรอบเมืองสักหน่อยนางอยากดูวิธีชีวิตของคนที่นี่... เมื่อทุกอย่างพร้อมแล้ว ทั้ง 3 คนก็มายืนรอรับคำสั่งจากนาง หลินหลินส่งชุดให้ทุกคนเปลี่ยน พวกเขาไปหลบหลังรถม้าที่เป็นมุมอับ.. ลับตาคน และรีบเปลี่ยนชุดออกมาทันที...ชุดมีลักษณะเหมือนกันทั้ง 3 ตัว เป็นผ้าเนื้อดี ราคาแพง สีเทาเข้ม มีแค่ของปู่หลิวที่จะตัดขอบดำไม่เหมือนอีก 2 คน นางสั่งทุกคนว่า"ห
ผู้ดูแลสั่งให้คนเชิญหลินหลินขึ้นไปชั้นสอง ห้องที่ 3 ชั้นนี้เป็นห้องส่วนตัว มีไว้ต้อนรับแขกคนสำคัญ คู่ค้า หรือเชื้อพระวงศ์เท่านั้นระหว่างที่หลินหลินและปู่หลิวเดินตามคนนำทางไป ผู้ดูแลก็รีบไปเรียนนายท่านใหญ่ทันทีก๊อก ก๊อก ก๊อก ผู้ดูแลรอสัญญาณเสียงจากคนด้านในก่อน รอไม่นานเสียงนายท่านใหญ่ก็ดังขึ้น "ว่ามา..." ผู้ดูแลไม่ชินกับเสียงดุดันนี้เลยจริงๆ ... "เรียนนายท่านใหญ่ขอรับ มีคุณหนูท่านหนึ่งต้องการซื้อเครื่องประดับจำนวนมาก ข้าน้อยเลยมาแจ้งนายท่านใหญ่ก่อนขอรับ"เย่วเทียนชุนขมวดคิ้วเป็นปม ร้านเขาเป็นร้านอันดับ 1 ของเมืองนี้ คนที่ต้องการซื้อของส่วนใหญ่ผู้ดูแลจะเป็นคนดูเอง ไม่เคยต้องให้เขาไปดูแล "ซื้อจำนวนมาก? ... มากแค่ไหน ถึงกับต้องมาตามเขา"มุมปากหนายกยิ้ม เขาเองก็อยากจะรู้เช่นกันว่าใครมาเล่นตลกกับเขากันเทียนชุนวางสมุดบัญชีลง เขาตรวจบัญชีเสร็จพอดี มีอะไรอย่างอื่นให้ทำบ้างก็ดี ร่างสูงลุกขึ้นจากโต๊ะทำงาน เมื่อด้านในมีเสียงความเคลื่อนไหว ผู้ติดตามหน้าห้องทั้ง 2 ก็เปิดประตูรอนายของตนเองทันทีผู้ดูแลเดินนำเทียนชุนไปยังห้องพิเศษห้องที่ 3 เขารู้สึกถึงรังสีกดดันจากทางข้างหลัง ความจริงเขาแค่จ
"500 เหรียญทองก็ย่อมได้... แต่มีข้อแม้หนึ่งข้อ ข้าจะมั่นใจได้อย่างไรว่าเจ้าจะซื้อขายกับข้าอีกครั้ง" เทียนชุนเอ่ยเสียงเรียบ แต่แววตาคมกริบจับจ้องหลินหลินไม่คลาดสายตาราวกับจะมองทะลุผ่านใบหน้าของนางผู้ดูแลแทบเป็นลม... กำไรหายไปอีก 57 เหรียญทอง ทำไมนายท่านยิ่งเจรจามันกลับยิ่งน้อยลง หรือคนโง่ ๆ อย่างเขาจะไม่เข้าใจการค้ากันนะ.....หลินหลินครุ่นคิด ตอนแรกนางแค่จะมาเหมาสินค้าเข้าระบบ ไม่คิดผูกขาดกับใคร..."เรียนคุณชายตามตรง พรุ่งนี้.. ข้ากำลังจะออกเดินทางไปทางใต้ ไม่ได้อยู่เมืองนี้ ไม่ทราบว่าท่านมีร้านอยู่ทางใต้บ้างไหมเจ้าคะ"เทียนชุนชะงักไปเล็กน้อย น่าเสียดายที่นางจะไม่ได้อยู่ที่เมืองนี้แล้ว และอีก 2 วัน ตัวเขาเองก็ต้องออกเดินทางขึ้นเหนือ"ร้านค้าตระกูลเย่วมีหลายสาขาทั่วทั้งแคว้น"เสียงเข้มเอ่ยขึ้น เหมือนมีความไม่พอใจเจืออยู่เล็กน้อย"เจ้าจะลงใต้ไปเมื่อใด""ข้าจะไปเหมาสินค้าอีก 2-3 ร้านเจ้าค่ะ และจะออกเดินทางพรุ่งนี้เลยเจ้าค่ะ"" ต้องการสินค้ามากมายขนาดนั้น ...เจ้าจะเปิดร้านขาย? ""ข้าไม่ได้จะเปิดร้านเจ้าค่ะ ข้าแค่โชคดีที่มีลูกค้าเป็นพวกพ่อค้าต่างแคว้น ของทั้งหมดมีคนต้องการซื้ออยู่แล้วเ
บทพิเศษเสี่ยวเฮย และ เสี่ยวหมี(หมีหิมะ)ภายในมิติ ทันทีที่หลินหลินจากไป เสี่ยวเฮยทรุดตัวลงกับพื้น น้ำตาไหลอาบแก้ม"ฮือๆ นายหญิง... ทำไม... ทำไมถึงทิ้งข้า"เสี่ยวเฮยคร่ำครวญด้วยความเสียใจเสี่ยวหมีเดินเข้ามาใกล้ "เสี่ยวเฮย เจ้าอย่าเสียใจไปเลย นายหญิงคงมีเหตุผลของนาง""เหตุผลอะไรกัน ข้าไม่เข้าใจ!" เสี่ยวเฮยร้องไห้โฮ "ข้ารักนายหญิง ข้าอยากอยู่กับนายหญิงตลอดไป"เสี่ยวหมีมองเสี่ยวเฮยด้วยความสงสาร "เสี่ยวเฮย... " เสี่ยวหมีลังเล "ข้า.. ข้าอ่านตำราโบราณออก""แล้วอย่าไร" เสี่ยวเฮยเงยหน้ามองเสี่ยวหมี"ตำราโบราณกล่าวไว้ว่า หากต้องกำจัดอสูรหิมะ ต้องระเบิดพลังจากภายในด้วยพลังระดับ 8 สองสาย และระดับ 9 หนึ่งสาย"เสี่ยวหมีอธิบายเสี่ยวเฮยขมวดคิ้ว "แล้วมันเกี่ยวอะไรกับนายหญิง""นายหญิงเป็นมนุษย์ นางมีพลังระดับ 9 ที่นายหญิงยกเลิกพันธะสัญญา ก็เพราะ... นางต้องการปกป้องเจ้า"เสี่ยวเฮยนิ่งอึ้ง "ปกป้องข้า?""ใช่ นางรู้ว่า หากเจ้ายังมีพันธะสัญญาอยู่ หากนางระเบิดพลังเจ้าจะตายไปด้วย "เสี่ยวหมีพูดด้วยน้ำเสียงเศร้า "นางรักเจ้ามาก เสี่ยวเฮย"เสี่ยวเฮยเบิกตากว้าง หัวใจของมันรู้สึกอบอุ่น ใน
ภายในจวนท่านแม่ทัพ บรรยากาศเต็มไปด้วยความตึงเครียดและความคาดหวัง เสียงร้องโอดโอยของหลินหลินดังเล็ดลอดออกมาจากห้องคลอดเป็นระยะๆ ทำให้เทียนชุนที่ยืนรออยู่ด้านนอกร้อนใจเป็นอย่างยิ่ง เขากำมือแน่น พยายามสะกดกลั้นความกังวลเอาไว้ แต่ก็ไม่อาจหยุดความคิดที่วนเวียนอยู่ในหัวได้"หลินเอ๋อร์ เจ้าต้องปลอดภัยนะ"เขาพึมพำกับตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่าบิดามารดาของทั้งสองฝ่ายก็อยู่ในอาการไม่ต่างกัน พวกเขานั่งรออยู่ที่ห้องโถงใหญ่ ใบหน้าเต็มไปด้วยความวิตกกังวล เสียงร้องของหลินหลินแต่ละครั้งทำให้หัวใจของพวกเขาแทบจะหยุดเต้น"ลูกต้องปลอดภัยนะ"มารดาของหลินหลินพึมพำภาวนา ทันใดนั้นเสียงร้องของทารกก็ดังขึ้น ทำลายความเงียบสงัดในจวน ทุกคนต่างเงยหน้าขึ้นมองประตูห้องคลอดด้วยความตื่นเต้นไม่นาน หมอตำแยก็เปิดประตูออกมาพร้อมกับรอยยิ้มกว้าง "ยินดีด้วยเจ้าค่ะ ฮูหยินคลอดลูกแฝดชายหญิง เป็นเด็กที่แข็งแรงมาก"เทียนชุนรีบพุ่งเข้าไปในห้องคลอดทันที เขาเห็นหลินหลินนอนอยู่บนเตียง ใบหน้าซีดเซียวแต่ก็เปื้อนไปด้วยรอยยิ้มแห่งความสุข ข้างกายนางมีทารกน้อยสองคนนอนอยู่เทียนชุนทรุดตัวลงข้างเตียง จับมือภรรยาไว้แน่น"หลินเอ๋อร์ เจ้าเก่งมาก"
หลินหลินค่อยๆ ลืมตาตื่นขึ้นมา พบว่าตัวเองอยู่ในอ้อมกอดที่คุ้นเคยของเทียนชุน ทันทีที่สติกลับคืนมา ภาพเหตุการณ์สุดท้ายก่อนหมดสติก็ฉายชัดขึ้นในห้วงความคิด เสียงระเบิดดังสนั่น ภาพดวงตาที่ทั้งสองมองมาที่นาง…น้ำตาไหลอาบแก้มหลินหลินอีกครั้ง ความเจ็บปวดของความสูญเสียกัดกินหัวใจของนางอย่างรุนแรง นางพยายามสะกดกลั้นเสียงสะอื้น แต่ก็ไม่สามารถหยุดยั้งมันได้"เสี่ยวเฮย... เสี่ยวหมี..."นางพึมพำชื่อของพวกมันซ้ำๆ ราวกับต้องการเรียกพวกเขากลับมาเทียนชุนตื่นขึ้นมาเมื่อรู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนจากร่างกายของภรรยา เขามองหลินหลินที่กำลังร้องไห้อย่างหนัก หัวใจของเขาเจ็บปวดไม่ต่างกัน เขาโอบกอดนางไว้แน่น พยายามปลอบโยน" หลินเอ๋อร์"เขาพูดเสียงแผ่วเบา "ทุกอย่างจบแล้ว"หลินหลินเงยหน้ามองสามี น้ำตาไหลอาบแก้ม "ข้า... ข้าทำไม่สำเร็จ"นางพูดเสียงสั่นเครือ "ข้าไม่สามารถปกป้องพวกเขาได้"เทียนชุนส่ายหน้า "ไม่ใช่ความผิดของเจ้า พวกเขาเลือกที่จะเสียสละตัวเองเช่นเจ้าเลือกที่จะสละตัวเองเพื่อพวกเรา""แต่..."หลินหลินยังคงร้องไห้ไม่หยุดเทียนชุนเช็ดน้ำตาให้ภรรยาอย่างอ่อนโยน "เสี่ยวเฮยและเสี่ยวหมีคงภูมิใจในตัวเอง ที่พวกเขา
หลินหลินรีบร้อนเข้าสู่มิติเพื่อเตรียมตัวรับมือกับภัยคุกคามครั้งใหญ่ แม้จะมีเวลาจำกัดเพียงสองชั่วยาม (สี่ชั่วโมง) แต่นางก็ไม่รอช้า มุ่งตรงไปยังหอตำราเวททันทีภายในหอตำรา บรรยากาศเงียบสงบและเคร่งขรึม อักษรโบราณสีทองเรียงรายอยู่บนผนังถ้ำสูงตระหง่าน หลินหลิน ค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับอสูรหิมะ สัตว์ในตำนานที่กำลังคุกคามพวกเขา ครั้งนี้อักษรไม่ได้พุงเข้ามาที่ตัวของนางแต่ปรากฏหนังสือโบราณเก่าแก่อสูรหิมะ... สัตว์ในตำนานที่ถือกำเนิดจากพายุหิมะอันรุนแรง ดูดกลืนพลังจากความหนาวเย็นจนกลายเป็นอสูรร้ายทรงพลัง มันออกตามล่านักเวทระดับ 9 เพื่อดูดกลืนพลังขั้นสุดท้ายของพวกเขาหลินหลินสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ตัวอักษรในตำราเต้นระริกราวกับจะตอกย้ำความจริงที่ว่า มีเพียงนางและสามีเท่านั้นที่อยู่ในระดับ 9 มือของนางเริ่มสั่นไหว ความกลัวกัดกินหัวใจนางพลิกหน้าตำราต่อไปอย่างรวดเร็ว ค้นหาวิธีที่จะหยุดยั้งอสูรตนนี้มีเพียงสายฟ้าฟาดลงกลางหัวใจ 9 ครั้งเท่านั้นที่จะสังหารมันได้ หรือ... การระเบิดพลังจากภายใน ต้องใช้พลังเวทระดับ9 หนึ่งขุม หรือระดับ 8 สองขุม ถึงจะจัดการกับอสูรหิมะตนนี้ได้หลินหลินหน้าซีดเผือด มือบางสั่นเทาจนเสี่ยวเ
"เราจะพักที่นี่เอาแรงก่อน" หลินหลินหันไปบอกกับทั้งสามคน ก่อนจะมอบน้ำทิพย์ให้พวกเขาคนละกระบอกนางใช้เวลาพูดคุยกับครอบครัวอีกหนึ่งเค่อ (30 นาที) ก่อนจะขอตัวกลับไปทำภารกิจต่อระบบแจ้งเตือนว่ายังมีผู้รอดชีวิตอีก 2 คน แต่ดวงตาตรวจสอบของนางกลับใช้การไม่ได้ในพายุหิมะที่รุนแรงเช่นนี้ นางต้องพึ่งดวงล้วนๆในการค้นหาพวกเขาหลินหลินและเหล่าทหารกลับมายังจวนแม่ทัพอีกครั้งครั้งนี้นางร่ายโล่เวทขึ้นมาเพื่อต้านทานพายุ นางจะเป็นผู้นำทัพหน้า ส่วนหลิวเคออยู่ซ้าย โหลกังอยู่ขวา และอิงหานคอยระวังหลัง ทุกคนต่างดึงพลังเวทของตนเองออกมาใช้อย่างเต็มที่เพื่อต่อสู้กับพายุที่โหมกระหน่ำพวกเขาเดินฝ่าพายุหิมะไปอย่างยากลำบาก หิมะหนาแน่นจนแทบมองไม่เห็นทางข้างหน้า ลมพัดกระหน่ำจนแทบจะปลิวไปตามลม หลายครั้งที่พวกเขาเกือบจะล้มลง แต่ก็ยังคงประคองกันและกันไว้ได้ตอนนี้พวกเขาพบกับภาพที่น่าสลดใจที่สุด...เท่าที่เคยพบเจอ สองตายายนอนกอดกัน ร่างกายของพวกเขาถูกปกคลุมไปด้วยหิมะหนา ราวกับกำลังหลับใหลอย่างสงบ แต่หลินหลินรู้ดีว่าพวกเขาจากไปแล้วหลินหลินทรุดตัวลงข้างๆ ร่างของสองตายาย น้ำตาไหลอาบแก้มของนางอย่างไม่อาจควบคุมได้ น
เวลาผ่านไปอย่างเชื่องช้า เทียนชุนยังคงโอบกอดหลินหลินไว้แนบอก ความรู้สึกภายในของเขาลึกล้ำเกินกว่าจะบรรยายออกมาเป็นคำพูดในฐานะสามี เขาอยากปกป้องภรรยาสุดที่รักจากอันตรายข้างนอก แต่ในฐานะแม่ทัพ เขาก็ไม่อาจละทิ้งประชาชนในแดนเหนือได้เช่นกัน เขาติดอยู่ในวังวนของความขัดแย้งภายในใจ ปล่อยนางไปก็ห่วง กักตัวนางไว้ก็ผิดต่อหน้าที่หลินหลินที่จมอยู่ในห้วงความคิดของตนเอง เริ่มตั้งสติและรวบรวมความกล้า นางไม่ใช่คนที่จะยอมแพ้อะไรง่ายๆ และการเดิมพันครั้งนี้ถือว่าคุ้มค่าที่จะเสี่ยงเพื่อคนที่นางรักหลินหลินค่อยๆ ผละออกจากอ้อมกอดที่อบอุ่นของสามี เงยหน้าขึ้นสบตาเขาอย่างแน่วแน่"ท่านพี่" นางเอ่ยเสียงหนักแน่น"สำหรับข้า ท่านคือโลกทั้งใบ ดังนั้นข้าจะทำภารกิจนี้ให้สำเร็จ กลับมาเคียงข้างท่านให้ได้ ข้าสัญญา"แววตาของหลินหลินเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นและความรักที่ล้นปรี่ เทียนชุนมองลึกลงไปในดวงตาคู่นั้น เขาเห็นถึงความแข็งแกร่งและความเสียสละที่ซ่อนอยู่ภายใน แม้ใจจะแหลกสลายที่ต้องปล่อยนางไป แต่เขาก็รู้ดีว่าไม่มีสิ่งใดหยุดยั้งภรรยาของเขาได้เขาพยักหน้ารับอย่างเชื่องช้า รู้สึกถึงก้อนสะอื้นที่จุกอยู่ในลำคอ "พี่จะรอเจ้า...
ยามจื่อ (00.00 น.) ความมืดมิดปกคลุมราตรีไร้เสียง มองเห็นเพียงแสงเทียนริบหรี่จากบ้านเรือนบางหลัง ทว่าในเงามืดนั้น มีกลุ่มเงาเคลื่อนไหวอย่างว่องไวและเงียบเชียบ นำโดยหลิวเคอ และทหารฝีมือดีของหลินหลินอีกหลายสิบนาย ด้วยวรยุทธ์และพลังเวทที่สูงส่งถึงระดับ 7 พวกเขาเคลื่อนไหวราวกับภูตพราย ไร้ร่องรอย ไม่มีใครแม้แต่จะรู้สึกถึงการมีอยู่ของพวกเขา แต่ละคนล้วนมีถุงมิติขนาดเล็กที่หลินหลินกว้านซื้อมาจากระบบมากถึง 500 ใบบ้านเรือนทุกหลังในเมืองถูกเยี่ยมเยือนโดยกลุ่มเงาเหล่านี้ พวกเขาเข้าออกอย่างรวดเร็วและเงียบเชียบ ของมีค่าทุกชิ้นถูกกวาดลงถุงมิติอย่างรวดเร็วและแม่นยำ ไม่ว่าจะเป็นทองคำ เงิน เครื่องประดับ หรือของสำคัญอื่นๆ ล้วนถูกเก็บลงถุงมิติข้างตัวยามหยิน (03.00น.)ไม่มีบ้านเรือนหลังไหนที่พวกเขาไม่ไปเยือน ทุกอย่างดำเนินไปอย่างเป็นระบบและรวดเร็ว ราวกับปฏิบัติการลับที่ได้รับการวางแผนมาอย่างดีรุ่งเช้าวันใหม่มาเยือนพร้อมกับความโกลาหล เมื่อชาวเมืองทุกหลังคาเรือนตื่นขึ้นมาพบว่าของมีค่าภายในบ้านหายไปอย่างไร้ร่องรอย! แม้แต่โต๊ะรับแขกไม้เนื้อดีก็ยังอันตรธานไป สร้างความตื่นตระหนกและหวาดกลัวไปทั่วหลินหลินคาดกา
ขณะที่หลินหลินกำลังมุ่งหน้าไปยังถ้ำแห่งต่อไป นางก็สำลักเลือดออกมาจนเปรอะเปื้อนอาภรณ์ ทหารที่เห็นเหตุการณ์ต่างตกใจ"นายหญิง!!"หลินหลินยกมือขึ้นเช็ดคราบเลือดอย่างไม่ใส่ใจ "ไม่เป็นไร ข้าไม่เป็นอะไร"นางฝืนยิ้มให้พวกเขา แต่ในใจกลับรู้สึกหนักอึ้ง พลังเวทในตัวนางเหลือน้อยเต็มที การสร้างปราการครั้งใหญ่เมื่อครู่นี้ดูดพลังของนางไปมากมาย หลินหลินกัดฟันข่มความเจ็บปวดที่แล่นขึ้นมาในอก พยายามรักษาท่าทีให้นิ่งสงบที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่นางรู้ดีว่าร่างกายของนางกำลังส่งสัญญาณเตือน"ไม่เป็นไรหลินหลิน เจ้าจะไม่เป็นอะไร"หลินหลินพูดเสียงแผ่วเบา เพื่อส่งกำลังใจให้ตัวเองข้าจะต้องเข้มแข็ง ข้าต้องทำได้ นางบอกตัวเองในใจภาพความฝันที่สองเมื่อคืนยังคงตามหลอกหลอนนาง ความรู้สึกผิดที่ไม่อาจปกป้องทุกคนได้ยังคงกัดกินหัวใจของนาง นางไม่อาจปล่อยให้เหตุการณ์เช่นนั้นเกิดขึ้นอีกในความฝันนั้น นางเห็นตัวเองเลือกสร้างปราการคุ้มกันเมืองแดนเหนือเอาไว้ เพราะคิดว่าเพียงแค่พายุผ่านไปทุกอย่างจะกลับมาเป็นปกติ ค่ายทหารถูกพายุถล่มจนพังพินาศ และเมื่อพายุสงบลง กองกำลังศัตรูก็บุกเข้าโจมตีทันที แม้ว่าในท้ายที่สุด นางแล
เทียนชุนแทบไม่ได้ฟังที่หลินหลินพูด เขาจดจ้องอยู่แต่กับเรือนร่างตรงหน้า เทียนชุนประกบจูบหญิงสาวอย่างโหยหา หลายวันมานี้เขาคิดถึงนางแทบขาดใจ เมื่อคืนที่เห็นนางเหนื่อยจึงไม่อยากรบกวนนาง อยากให้นางได้พักผ่อน แต่ไม่คิดว่าเช้ามาเขาจะได้อาหารเช้าที่แสนวิเศษ "ท่านพี่...อ้า.. "นิ้วสากลูบไล้เนื้ออวบอูมอย่างช่ำชอง นิ้วหนาชำแหละกลีบชมพูเข้าไปในช่องทางรักอย่างโหยหา..เขาชักนิ้วเข้าออกระรัวจนร่างบางหวีดร้อง....."อะๆๆๆ..อ้า! " ร่างบางบิดเร้าด้วยความเสียว เทียนชุนดึงนิ้วที่เปียกย้อมด้วยน้ำรักของสตรีตรงหน้าออกมา เขาชูให้นางดูก่อนใช้ลิ้นเลียนิ้วหนา หลินหลินมองภาพนั้นด้วยหัวใจที่สั่นไหว เขาดูเซ็กซี่ขยี้ใจนางมาก..."อ้า... "ร่างกายเริ่มร้อนรุ่มหนัก เทียนชุนควักท่อนเอ็นที่พองโตออกมาชักรูดสองสามทีก่อนเสียบอัดเข้าไปจนมิดด้าม"อ้า..หลินเอ๋อร์... "ร่างหนาครางต่ำ..."อืมมมม!!! "พั่บ..พั่บ..พั่บ..พั่บ..เสียงเนื้อกระทบกันดังกึกก้องห้องนอน หลินหลินตัวโยกไปตามแรงกระแทกของสามี"อ๊ะ!อ๊ะ!อ๊ะ!อ๊ะ! งื้อ... ""ใหญ่มากท่านพี่ของท่านใหญ่มาก..." เทียนชุนที่ได้ยินภรรยา