แชร์

บทที่6

last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-12 11:55:26

“เถ้าแก่  ข้าจะจ่ายเงินให้ท่านครึ่งหนึ่งของราคาสินค้าทั้งหมด ท่านออกใบลงนามรับรองการจ่ายเงินให้ข้า ส่วนวันที่จะมารับข้าจะแจ้งท่านอีกที"

เถ้าแก่มองสำรวจที่อาภรณ์ของคุณหนูตรงหน้า นางไม่พกถุงหอม ไม่มีเครื่องประดับสักชิ้น เมื่อแน่ใจแล้วว่านางไม่มีถุงมิติ จึงเอ่ยปากแนะนำ

"คุณหนูขอรับ ข้าขอแนะนำท่านสักเรื่อง หากคุณหนูจะขนของพวกนี้ไปไกลจากเมืองนี้ ข้าแนะนำให้คุณหนูเช่าถุงมิติจากหอเซียงซิน ที่นั่นมีให้เช่าของวิเศษหลายอย่าง แม้ถุงมิติราคาสูงหน่อย แต่มันสามารถใส่สิ่งของได้เยอะ ปลอดภัยจากโจร หรือความเสียหายของการเดินทางขอรับ”

“ดูจากของที่คุณหนูซื้อแล้ว ต้องใช้เกวียนขนหลายคัน เสี่ยงต่อการเสียหายและถูกปล้นกลางทาง อีกอย่าง เมื่อครบกำหนดวันสัญญาเช่าถุงมิติ เราไม่ต้องเสียเวลาไปคืน ถุงมิติทุกใบจะลงเวทไว้ มันจะกลับคืนสู่หอเซียงซินโดยที่ผู้เช่าไม่ต้องนำไปคืนเลยขอรับ"

เถ้าแก่ตัดสินใจแนะนำวิธีนี้ไป เพราะดูจากการที่นางซื้อของแล้วนางมีเงินพอที่จะจ่ายค่าเช่าถุงมิติแน่นอน และคุณหนูหลายๆคนไม่ทราบว่ามีวิธีนี้

"หืม... ถุงมิติ งั้นหรอ ข้ารอดแล้ว"

หลินหลินพยักหน้ายกยิ้มบาง

 "เถ้าแก่ อีกครึ่งชั่วยามข้าจะมารับสินค้า ไม่ทราบว่าร้านของท่านปิดยามใด"

"ไม่เป็นไรขอรับ ข้ารอได้ขอรับ...."

ทำไมเขาจะรอไม่ได้ล่ะ เงินทั้งนั้น ต่อให้นางบอกจะมาดึกดื่นเขาก็จะรอ... เงินก้อนใหญ่ขนาดนี้ใครไม่รอก็โง่แล้ว

หลินหลินรีบเดินออกไปสำรวจร้านค้าอื่น ๆ พบร้านเป้าหมายอยู่ 3-4 ร้านแต่พวกเขากำลังจะปิดร้านแล้ว พรุ่งนี้นางจะมาเหมาให้หมด

หลินหลินหันหลังกลับไปร้านขายแจกันก่อนเวลานัดหมาย เถ้าแก่ให้ลูกน้องมาตรวจสอบความเรียบร้อยของสินค้า 2 คน คนหนึ่งเป็นชายชรา อีกคนเป็นเด็กชายอายุไม่น่าจะเกิน 13 หนาว พวกเขาทำงานกันอย่างขะมักเขม้น

"เถ้าแก่ ข้ามาแล้วเจ้าค่ะ"

 ครั้งนี้นางพกถุงหอมมาด้วย มันดูแปลกตากว่าถุงหอมทั่วไป เพราะนางสั่งซื้อจากระบบ เนื้อผ้า เส้นด้าย ลวดลายล้วนแตกต่างจากถุงหอมทั่วไป

เถ้าแก่คิดว่านี่คงเป็นถุงมิติ จึงมองด้วยสายตาชื่นชม หารู้ไม่ นี่คือถุงหอมธรรมดาที่ขายอยู่ในระบบจำนวนมาก

ระหว่างรอให้คนงานร้านเถ้าแก่ตรวจของที่จะส่งมอบ นางก็เดินไปชำระเงินที่เหลือกับเถ้าแก่

เขาอยากจะได้ลูกค้ากระเป๋าหนักอย่างนางเป็นลูกค้าประจำเหลือเกิน แต่ดูก็รู้ว่านางคงเดินทางแค่ผ่านมาเพียงเท่านั้น

"เถ้าแก่ ท่านเคยไปเมืองทางเหนือไหมเจ้าคะ สภาพอากาศ ความเป็นอยู่เป็นอย่างไรเจ้าคะ"

"อืม... เมืองทางเหนือหรือขอรับ.... ที่ข้ารู้ จะมีอากาศหนาวเย็นตลอดปีขอรับ หน้าหนาวหิมะตกหนักมาก ชาวบ้านใช้ชีวิตลำบากยากเข็ญ ทุกปีคนตายจำนวนมากพ่อค้าทำการค้าลำบาก ค่าเดินทางแพง เพราะไม่มีใครอยากไปเสี่ยงกับโจรป่าและสภาพอากาศแบบนั้น แต่ตอนนี้ความเป็นอยู่ดีขึ้นกว่าแต่ก่อนมากขอรับ”

“ ตั้งแต่ฝ่าบาทแต่งตั้งชินอ๋องให้ไปปกครองเมืองเหนือ ก็มีผู้คนเล่าขานกันต่อ ๆ มาว่า การค้าเริ่มเปิด เนื่องจากชินอ๋องตั้งค่ายทหารที่นอกเมือง ผู้คนจึงกล้าออกมาขายของกันมากขึ้น ขโมยก็ลดลง ไม่มีใครกล้าเป็นขโมยเพราะ...ท่านอ๋องกำหนดบทลงโทษหนักมาก ชาวบ้านหลายคนเลยสมัครไปเป็นทหารแทน เพราะมีอาหารและมีตำลึงให้ขอรับ"

"อืม... เป็นความคิดที่ชาญฉลาดนะเจ้าคะ เพราะอาณาเขตใกล้กับแคว้นอื่นด้วย ถ้าตั้งค่ายทหารปักหลักไว้ตรงนั้น ศัตรูก็กลัวเกรง การจัดการอะไรก็ง่ายกว่าตั้งค่ายทหารในเมืองอื่น ท่านอ๋องแคว้นเราทรงปรีชาสามารถยิ่งนักเจ้าคะ"

“ฮ่าๆๆๆ ใช่แล้ว เขาว่ากันว่าท่านรูปงามมาก เก่งกาจหาใครเทียบไม่ได้เลยนะขอรับ แต่... น่าเสียดาย...ที่เป็นพวก เอ่อ...ท่านเป็นพวกตัดแขนเสื้อตัวเองน่ะขอรับ (ชายรักชาย) "

เถ้าแก่ป้องปากพูดด้วยน้ำเสียงกระซิบ

หลินหลินทำหน้าตกใจเล็กน้อยและพยักหน้ารับรู้

 "แล้วเมืองทางใต้น่าอยู่ไหมเจ้าคะ"

เถ้าแก่ยิ้มกว้าง 

"ข้าเดินทางมาจากตอนใต้ขอรับ บ้านข้าอยู่ที่นั่น ที่นั่นอากาศดี การค้าคึกคัก ผู้คนจริงใจ ที่สำคัญอาหารจากทะเลนั้นยอดเยี่ยมมากขอรับ หากคุณหนูได้ไปที่นั่น คุณหนูจะไม่อยากไปเมืองอื่น ๆ เลยขอรับ"

เถ้าแก่ยืดอกพูดด้วยความภูมิใจ

"ฮ่า ๆ  ไว้ข้าจะต้องไปให้ได้เลยเจ้าค่ะ"

"เถ้าแก่ขอรับ ของตรวจเสร็จหมดแล้วขอรับ"

 เสียงของเด็กหนุ่มดังขึ้น

เถ้าแก่ผายมือเชิญหลินหลินให้ไปตรวจสอบสินค้า หลินหลินเดินดูเสร็จก็เก็บของทุกอย่างเข้ามิติทีละใบ เมื่อทุกอย่างเสร็จแล้วหลินหลินจึงขอตัว แต่ก่อนออกจากร้านนางก็ตัดสินใจส่งตำลึงให้ชายชรา 1 ตำลึงและเด็กน้อย 13 หนาว อีก 1 ตำลึง

ทั้งสองไม่กล้ารับ นางจึงยิ้มให้พวกเขาและกล่าวว่า...

"พบหน้าถือว่าเป็นวาสนาต่อกันรับไปเถอะเจ้าคะ ข้าไม่ได้เดือนร้อนอะไร"

หลินหลินจะบอกได้อย่างไรว่านางสงสาร ดวงตาตรวจสอบขึ้นสถานะให้นางเห็นย่อมต้องอยากให้นางช่วยพวกเขา

ทั้งสองดีใจเป็นอย่างมาก 1 ตำลึงนี้พวกเขาและครอบครัวสามารถอยู่ได้อีกหลายวัน

"ขอบคุณขอรับคุณหนู หากมีอะไรให้ข้ารับใช้ พวกเรารับจ้างอยู่ตรงหัวมุมถนนนะขอรับ ให้คนมาตามได้ขอรับ"

อ่อ... ที่แท้เถ้าแก่จ้างพวกเขาชั่วคราวเท่านั้น  หลินหลินยิ้มและบอกว่าพรุ่งนี้นางจะมาจ้างพวกเขาแน่นอน

นางมุ่งหน้ากลับโรงเตี๊ยมและตรงขึ้นไปยังห้องพักเลย นางอยากจะเข้ามิติแทบแย่แล้ว

แอ๊ด ปัง หลินหลินรีบปิดประตูห้องพัก ตั้งจิตเข้ามิติ

ระบบ: "ท่านผู้ถูกเลือกหลินหลิน โปรดตรวจสอบช่องประมูลเพื่อยืนยันการรับเงิน"

 เมื่อระบบแจ้งเตือน หลินหลินไม่รอช้า เข้ายืนยันรับเงินทันที

"กรี๊ด..... แจกัน 13 ใบขายไปในราคา 331 เหรียญทอง"

แค่ไม่นานนางทำกำไรได้ถึง 300 เหรียญทอง

"เอาล่ะ พรุ่งนี้แม่จะซื้อให้หมดตัวเลย"

หลินหลินมองดูเหรียญทองที่มีในระบบ ตอนนี้นางมี 2,531 เหรียญทอง 5 เพชร และ 400,000 ตำลึง ในระบบไม่สามารถเอาตำลึงไปแลกเหรียญทองได้ ช่องใครช่องมัน

เพาะแบบนี้นางถึงดีใจที่หาช่องทางเพิ่มเหรียญทองขึ้นมาได้ เพราะกว่าจะได้มา 2,000 เหรียญทอง นางต้องขายเครื่องประดับของนางเข้าประมูลถึง 10 ชิ้น ซึ่งแต่ละชิ้นมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 10 ล้าน ขาดทุนแล้วขาดทุนแล้ว..!!

แต่พอนางเปลี่ยนมาขายของในยุคนี้ กำไรกลับมากมายมหาศาล ชีวิตนี้ไม่ลำบากแล้วหลินหลินเอ้ย....

หลินหลินดูของในโกดังที่เก็บเข้าขายออกอัตโนมัติ ก็เห็นระบบมีคอกเลี้ยงม้ามาใหม่ จึงจัดการซื้อไป 2 คอก และเอาม้าลงยังคอกให้เรียบร้อย ก่อนเข้าไปนอนพักผ่อนที่เรือนไม้ในมิติ

วันนี้นางอยากลองแช่น้ำตกข้างหลังเรือน ตั้งแต่มีมา นางยังไม่เคยไปสัมผัสเลยสักครั้ง มัวแต่นั่งหาเงิน งก ๆ พอเห็นเงินน้อยแล้วใจมันโหวงเหวงบอกไม่ถูก

คิดได้ดังนั้นจึงหยิบชุดคลุมอาบน้ำเดินออกทางประตูหลัง  เส้นทางหลังเรือนนี้ระบบตกแต่งเป็นแผ่นหินยาวขนาดใหญ่ ถูกวางสลับกับหินขนาดเล็ก  คล้ายขั้นบันไดตลอดทางเดิน

จนไปถึงส่วนของน้ำตกซึ่งมันดูสวยถูกใจนางมากๆ หลินหลินยื่นมือไปสัมผัสกับธารน้ำตก ตรงส่วนที่นางยืนอยู่นี้คือตรงกลาง หากจะไปที่น้ำตกต้องเดินไปอีกสักพัก

ตรงนี้แหละน้ำไม่แรง นางอยากแช่ตัวสบาย ๆ ในน้ำ ไม่รอช้าหลินหลินปลดชุดทุกอย่างออกจนเหลือเพียงร่างกายเปลือย นางไม่ต้องกังวลว่าจะมีใครมาเห็น ก็นี่มันมิติของนาง....

เท้าเปลือยเปล่าก้าวลงไปอย่างช้า ๆ น้ำเย็นดีจัง หลินหลินก้าวเดินลงไปเรื่อย ๆ น้ำตรงนี้ลึกแค่ระดับเอวของนางเท่านั้น

เมื่อเดินถึงโขดหินตรงกลางแล้ว หลินหลินก็เอนตัวนอนหลับตาทำสมาธิปล่อยจิตให้ว่างตามความเคยชิน ความเย็นสายหนึ่งปะทะเข้ามาที่ร่างกายของนาง สักพักนางจับได้ถึงความร้อนสายหนึ่งสัมผัสตัวนาง น้ำอุ่นโอบล้อมรอบตัวของนางช้า ๆ

ยังไม่ทันที่หลินหลินจะได้คิดวิเคราะห์อะไร คิ้วเรียวต้องขมวดกันแน่น เมื่อนางรู้สึกถึงความร้อนลวกที่ก่อตัวขึ้นอย่างรวดเร็วราวกับถูกโยนลงไปในบ่อลาวา ความเจ็บปวดแล่นริ้วไปทั่วร่าง ราวกับมีเปลวเพลิงนับพันกำลังเผาไหม้ผิวหนังของนาง

อึก! เจ็บ

 ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วมากจนแทบลืมหายใจ หลินหลินพยายามจะลืมตาขึ้นดูว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ แต่เปลือกตาหนักอึ้งราวกับถูกปิดผนึกด้วยตะกั่ว

ความเจ็บปวดที่ได้รับในตอนนี้บีบรัดทุกอณูของร่างกาย ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากันแน่นจนไร้สีเลือด ความเจ็บปวดยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นอีก

นางร้อน นางร้อนราวกับร่างกายกำลังจะหลอมละลาย ความรู้สึก... ถึงความเจ็บปวดเหมือนเข็มที่ทิ่มตำลงมาพร้อมกันนับพัน นับหมื่นเล่มทิ่มแทงลงมา

"กรี๊ด......."

 สองมือกำเข้าหากันแน่น จนเล็บจิกเข้าที่ฝ่ามือ เลือดสีแดงสดไหลออกมา แต่กลับไม่ทำให้นางได้รู้สึกดีขึ้นหรือบรรเทาความเจ็บปวดตามร่างกายเลยแม้แต่น้อย

"กรี๊ดดดด"

ร่างบางร้องออกมาสุดเสียง ดิ้นรนทุรนทุราย กระเสือกกระสนอยากจะหนีจากตรงนี้ ความเจ็บปวดที่มีมันยิ่งกว่าการกรีดมีดลงผิวหนังของนางเสียอีก มันเหมือนกับร่างกายกำลังถูกฉีกออกเป็นชิ้น ๆ แล้วประกอบขึ้นใหม่ด้วยไฟบรรลัยกัลป์

น้ำตาไหลนองหน้าความเจ็บปวดรวดร้าว ความร้อนที่เหมือนถูกต้มถูกกรีดผิวหนังทั้งเป็น ก็ค่อย ๆ คลายลง และจางหายไป ทิ้งไว้เพียงความอ่อนล้าที่ถาโถมเข้ามา หลินหลินลืมตาขึ้นช้า ๆ ร่างกายสั่นเทา

ความเจ็บปวดที่นางได้รับ เหมือนนางกำลังจะตาย...นางไม่เข้าใจ แต่พอมองไปที่ร่างกายตนเองก็ต้องตกใจ

"นี่...นี่มัน!!!"

บทที่เกี่ยวข้อง

  • หลินหลินกับระบบมิติผันผวน   บทที่7

    "กรี๊ดดดด........นี่มัน!!!" นางลอกคราบ...นางเป็นงูหรอ...เอ้ย..นางเป็นคนสินางเป็นคน หลินหลินเธอต้องตั้งสติ.....ความเจ็บปวดที่เพิ่งผ่านพ้นไปยังคงทิ้งร่องรอยไว้บนร่างกาย ผิวหนังที่หลุดลอกเป็นแผ่น ๆ ทำให้หลินหลินอดคิดถึงงูที่ลอกคราบไม่ได้ ความรู้สึกแสบร้อนยังคงติดตรึงอยู่บนผิวหนังทุกตารางนิ้ว เหมือนถูกไฟลนแผดเผาจนแทบสลายหลินหลินค่อย ๆ ลูบไล้ไปตามแขนเรียวอย่างระมัดระวัง ผิวหนังเก่าที่แห้งกร้านและหมองคล้ำกำลังถูกผลัดออกไปทีละน้อย เผยให้เห็นผิวใหม่ที่ขาวเนียนสวยราวกับไข่มุกเบื้องล่าง ความเจ็บปวดเริ่มจางหายไป แทนที่ด้วยความรู้สึกตื่นเต้นและประหลาดใจ"กระจก" หลินหลินพึมพำเรียกหาสิ่งที่จะสะท้อนภาพของเธอในตอนนี้พรึบ! กระจกขนาดไม่ใหญ่มากปรากฏขึ้นเบื้องหน้า หลินหลินมองภาพสะท้อนของตัวเองด้วยความตกตะลึง นางงดงามกว่าดาราจีนในยุคของนางเสียอีก งามแบบไม่น่ามีอยู่จริงบนโลก "งานพอ ๆ กับเล่อปาเลยอิอิ"หลินหลินเหม่อมองภาพที่ปรากฏอยู่ เหมือนนางมองสาวงามล่มเมือง ร่างกายสวยงามที่สมส่วนรับกัน เครื่องหน้าทั้งห้า งดงามไร้ที่ติ ทุกอย่างลงตัวเหมือนสวรรค์สร้าง ผิวเนียนขาวใส ใบหน้าเรียวรีรูปไ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-12
  • หลินหลินกับระบบมิติผันผวน   บทที่8

    หลินหลินนั่งเอนหลังบนเก้าอี้ม้าโยก มองระบบเก็บเกี่ยวผลผลิตและขายออกแบบอัตโนมัติ ผลผลิตนางตั้งระบบไว้ เก็บ 50% ขายออก 50% แต่ผลผลิตก็ออกไวมาก ทำให้นางต้องอัปเดตโกดังอยู่ตลอด ตอนนี้นางมีเงินในระบบจากการขายแจกันและของจากระบบเยอะมาก เรียกได้ว่าโจรปล้น 100 ครั้งก็ยังไม่หมดตัว ฮ่าๆๆ เมื่อมองดูแล้วนี่คงใกล้รุ่งเช้าแล้ว หลินหลินจึงออกจากมิติไปยังห้องพักพรึ่บ..หลินหลินมองห้องที่มืดสนิท ข้างนอกคงยังไม่สว่าง แต่มีแสงของพระอาทิตย์โผล่พ้นขึ้นมาบ้างแล้ว นางลองเปิดประตูออกไปข้างนอก ไม่คิดว่าจะเจอใคร แต่กลับพบเสี่ยวเอ้อนั่งอยู่ตรงริมสุดทาง หรือว่าที่นี่เสี่ยวเอ้อรอให้บริการแขกตั้งแต่รุ่งเช้า.... เสี่ยวเอ้อไม่รอช้ารีบเข้ามาสอบถามนางทันที แต่ก็ต้องชะงักกับความงามของสตรีตรงหน้า เพราะคุณหนูท่านนี้ไม่ใช่คุณหนูคนเมื่อวาน แต่เป็นห้องนี้แน่ เพราะเมื่อวานเป็นเขาเองที่พานางมาส่ง คุณหนูท่านนี้งดงามมาก.. มากกว่าทุกคนที่เขาเคยพบเห็นมา เสี่ยวเอ้อเรียกสติตนเอง โค้งตัวก้มหน้าลง และสอบถามทันที "คุณหนูต้องการสิ่งใดหรือไม่ขอรับ"หลินหลินยืนนิ่ง.... คิดในใจว่าเสี่ยวเอ้อต้องจำนางไม่ได้แน่ ถ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-12
  • หลินหลินกับระบบมิติผันผวน   บทที่9

    ทางฝั่งหลินหลิน... ย้อนกลับไปตอนที่หลังเสี่ยวเอ้อรับถุงเงินและออกไป นางก็เข้ามิติไปเช็คราคาเครื่องประดับทั้งหมด เป็นอย่างที่นางคิดไม่มีผิด ของพวกนี้ทำกำไรให้นางเยอะมากหลินหลินไม่รอช้า นางออกจากห้องพักมุ่งหน้าสู่ร้านเครื่องประดับต่างๆ นางใส่ผ้าคลุมแปลงโฉม ตอนนี้ผู้คนจึงเห็นว่านางเป็นหญิงสาวอายุ 27-28 ปีก่อนหน้านี้ หลินหลินจ้างปู่หลิวกับสือหย่ง (ชายชราและเด็กน้อยที่รับจ้างตรวจเช็คแจกันให้นาง) ให้พวกเขาไปเช่ารถม้าพร้อมคนขับมา 1 คัน ปู่หลิวรับคำและไปจ้างคนที่รู้จักกันในหมู่บ้านคนนี้มีนามว่า หานเซียว เขาเคยเป็นทหารแต่ได้รับบาดเจ็บจึงออกจากการเป็นทหารมารับจ้างขับรถม้าแทนหลินหลินนั่งรอที่ร้านน้ำชาเล็ก ๆ ริมถนน ถัดไปอีก 2 ซอย นางวางแผนว่า นางจะนั่งรถม้าชมรอบเมืองสักหน่อยนางอยากดูวิธีชีวิตของคนที่นี่... เมื่อทุกอย่างพร้อมแล้ว ทั้ง 3 คนก็มายืนรอรับคำสั่งจากนาง หลินหลินส่งชุดให้ทุกคนเปลี่ยน พวกเขาไปหลบหลังรถม้าที่เป็นมุมอับ.. ลับตาคน และรีบเปลี่ยนชุดออกมาทันที...ชุดมีลักษณะเหมือนกันทั้ง 3 ตัว เป็นผ้าเนื้อดี ราคาแพง สีเทาเข้ม มีแค่ของปู่หลิวที่จะตัดขอบดำไม่เหมือนอีก 2 คน นางสั่งทุกคนว่า"ห

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-12
  • หลินหลินกับระบบมิติผันผวน   บทที่10

    ผู้ดูแลสั่งให้คนเชิญหลินหลินขึ้นไปชั้นสอง ห้องที่ 3 ชั้นนี้เป็นห้องส่วนตัว มีไว้ต้อนรับแขกคนสำคัญ คู่ค้า หรือเชื้อพระวงศ์เท่านั้นระหว่างที่หลินหลินและปู่หลิวเดินตามคนนำทางไป ผู้ดูแลก็รีบไปเรียนนายท่านใหญ่ทันทีก๊อก ก๊อก ก๊อก ผู้ดูแลรอสัญญาณเสียงจากคนด้านในก่อน รอไม่นานเสียงนายท่านใหญ่ก็ดังขึ้น "ว่ามา..." ผู้ดูแลไม่ชินกับเสียงดุดันนี้เลยจริงๆ ... "เรียนนายท่านใหญ่ขอรับ มีคุณหนูท่านหนึ่งต้องการซื้อเครื่องประดับจำนวนมาก ข้าน้อยเลยมาแจ้งนายท่านใหญ่ก่อนขอรับ"เย่วเทียนชุนขมวดคิ้วเป็นปม ร้านเขาเป็นร้านอันดับ 1 ของเมืองนี้ คนที่ต้องการซื้อของส่วนใหญ่ผู้ดูแลจะเป็นคนดูเอง ไม่เคยต้องให้เขาไปดูแล "ซื้อจำนวนมาก? ... มากแค่ไหน ถึงกับต้องมาตามเขา"มุมปากหนายกยิ้ม เขาเองก็อยากจะรู้เช่นกันว่าใครมาเล่นตลกกับเขากันเทียนชุนวางสมุดบัญชีลง เขาตรวจบัญชีเสร็จพอดี มีอะไรอย่างอื่นให้ทำบ้างก็ดี ร่างสูงลุกขึ้นจากโต๊ะทำงาน เมื่อด้านในมีเสียงความเคลื่อนไหว ผู้ติดตามหน้าห้องทั้ง 2 ก็เปิดประตูรอนายของตนเองทันทีผู้ดูแลเดินนำเทียนชุนไปยังห้องพิเศษห้องที่ 3 เขารู้สึกถึงรังสีกดดันจากทางข้างหลัง ความจริงเขาแค่จ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-12
  • หลินหลินกับระบบมิติผันผวน   บทที่11

    "500 เหรียญทองก็ย่อมได้... แต่มีข้อแม้หนึ่งข้อ ข้าจะมั่นใจได้อย่างไรว่าเจ้าจะซื้อขายกับข้าอีกครั้ง" เทียนชุนเอ่ยเสียงเรียบ แต่แววตาคมกริบจับจ้องหลินหลินไม่คลาดสายตาราวกับจะมองทะลุผ่านใบหน้าของนางผู้ดูแลแทบเป็นลม... กำไรหายไปอีก 57 เหรียญทอง ทำไมนายท่านยิ่งเจรจามันกลับยิ่งน้อยลง หรือคนโง่ ๆ อย่างเขาจะไม่เข้าใจการค้ากันนะ.....หลินหลินครุ่นคิด ตอนแรกนางแค่จะมาเหมาสินค้าเข้าระบบ ไม่คิดผูกขาดกับใคร..."เรียนคุณชายตามตรง พรุ่งนี้.. ข้ากำลังจะออกเดินทางไปทางใต้ ไม่ได้อยู่เมืองนี้ ไม่ทราบว่าท่านมีร้านอยู่ทางใต้บ้างไหมเจ้าคะ"เทียนชุนชะงักไปเล็กน้อย น่าเสียดายที่นางจะไม่ได้อยู่ที่เมืองนี้แล้ว และอีก 2 วัน ตัวเขาเองก็ต้องออกเดินทางขึ้นเหนือ"ร้านค้าตระกูลเย่วมีหลายสาขาทั่วทั้งแคว้น"เสียงเข้มเอ่ยขึ้น เหมือนมีความไม่พอใจเจืออยู่เล็กน้อย"เจ้าจะลงใต้ไปเมื่อใด""ข้าจะไปเหมาสินค้าอีก 2-3 ร้านเจ้าค่ะ และจะออกเดินทางพรุ่งนี้เลยเจ้าค่ะ"" ต้องการสินค้ามากมายขนาดนั้น ...เจ้าจะเปิดร้านขาย? ""ข้าไม่ได้จะเปิดร้านเจ้าค่ะ ข้าแค่โชคดีที่มีลูกค้าเป็นพวกพ่อค้าต่างแคว้น ของทั้งหมดมีคนต้องการซื้ออยู่แล้วเ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-12
  • หลินหลินกับระบบมิติผันผวน   บทที่12

    หลินหลินเข้ามิติมาเพื่อดูว่าตัวนางจะหายไปจากตรงนั้นไหม นางดูนาฬิกา ตอนนี้ 10 วิแล้วที่นางอยู่ในมิตินางลุ้นมาก สิ่งที่นางคิดไม่น่ามีอะไรผิดพลาด มันเป็นทฤษฎีของแมลง นักวิทยาศาสตร์มีการวิจัยเกี่ยวกับความสามารถอันน่าทึ่งของแมลงไว้ว่า แมลงบางชนิดสามารถบินหลบสายฝนได้โดยที่ตัวมันไม่เปียกด้วยซ้ำ!ซึ่งแมลงพวกนี้มีสายตาที่ไวมากเป็นพิเศษ แถมยังมีปฏิกิริยาตอบสนองแบบฉับพลันอีกด้วย ซึ่งการตอบสนองของมันไวกว่ามนุษย์ถึง 10 เท่า!แมลงบางชนิดจะมีดวงตาที่ขาและมีดวงตาขนาดใหญ่ ซึ่งประกอบด้วยเลนส์ขนาดเล็กจำนวนมากมายเรียงกัน เลนส์เหล่านี้ทำหน้าที่รับภาพและประมวลผลออกมา ซึ่งมีความไวมากกว่ามนุษย์มากถึง 4 เท่า บวกกับมันสามารถทำความเร็วในการบินได้ 8 กม. ต่อชม. นั้นทำให้มันมองเห็นภาพเป็นแบบสโลว์โมชั่น ความสามารถการมองเห็นแบบสโลว์โมชั่นของมัน ทำให้การตบจากมนุษย์เป็นแค่การตบแบบสโลว์โมชั่นของมันเท่านั้นเมื่อหลินหลินลองเทียบเวลา 1 เดือนในมิติกับ 1 วันภายนอก มันมีความต่างที่เหลื่อมล้ำกับการรับภาพผ่านดวงตาของมนุษย์ทั่วไป นางเลือกทั้ง 3 คนนี้เป็นกลุ่มแรกที่นางจะทดลอง เพราะพวกเขาบางคนไม่มีพลังเวท หานเซียวมีแค่เวทระด

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-12
  • หลินหลินกับระบบมิติผันผวน   บทที่13

    "ท่านปู่ขายอะไรเจ้าคะ"หลินหลินเอ่ยถามชายชราด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนผู้เฒ่าเฉียวค่อย ๆ เงยหัวขึ้นมองคนตรงหน้า ดวงตาที่แสนเศร้าหมองและเหนื่อยล้า แต่กลับมอบรอยยิ้มอบอุ่นให้หลินหลินภาพของชายชราผู้โดดเดี่ยว ทรุดโทรม และสิ้นหวัง สะท้อนเข้ามาในใจหลินหลินอย่างไม่อาจห้ามได้ นางเห็นถึงความอ่อนล้าในทุกอิริยาบถของเขา ร่างกายที่ผ่ายผอม เสื้อผ้าที่ขาดวิ่น และแผ่นผ้าเก่า ๆ ที่ปูรองหนังสือเพียงไม่กี่เล่ม บอกเล่าเรื่องราวของชีวิตที่ยากลำบาก"คุณหนู..."เสียงแหบพร่าของชายชราทำให้หลินหลินรู้สึกสะท้านในใจ มันเป็นเสียงที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดและความสิ้นหวัง"ข้าขายตำราขอรับ คุณหนูสนใจตำราหรือขอรับ... ตำราพวกนี้ข้าน้อยสะสมมันมาทั้งชีวิต ตอนนี้ชราแล้ว บุตรชายก็มาบาดเจ็บ จึงต้องนำมันมาขาย เชิญคุณหนูเลือกดูก่อนขอรับ"หลินหลินหยิบขึ้นมาเปิดผ่าน ๆ "ท่านปู่ ตำราท่านขายยังไงเจ้าคะ"ปู่เฉียวกลัวว่าวันนี้เขาจะไม่มีเงินไปจ่ายค่าหมอให้ลูกชาย จึงตัดใจลดราคาตำราลง"เรียนคุณหนูตามตรง ตำราพวกนี้ปกติข้าขายอยู่เล่มละ 2 ตำลึงขอรับ แต่บัดนี้จนใจต่อโชคชะตาแล้ว.... ข้าน้อยหวังเพียงเงินไปจ่ายค่าหมอค่ายาให้บุตรชาย คุณหนูให้เท่าไร

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-12
  • หลินหลินกับระบบมิติผันผวน   บทที่14

    โครงการถุงยังชีพ มาถึงโลกใบนี้แล้ว นางจะริเริ่มเปลี่ยนแปลงที่นี่เอง" ไม่เป็นไรเจ้าค่ะเถ้าแก่ รบกวนท่านเตรียมสินค้าให้ข้า ข้าต้องการอย่างละ 9 กระสอบเจ้าค่ะ ท่านแค่เตรียมไม่ต้องไปส่ง ข้าจะเก็บเข้าถุงมิติเจ้าค่ะ"" ได้ขอรับ เชิญคุณหนู เชิญนั่งรอตรงนี้สักครู่ขอรับ"เถ้าแก่รีบไปจัดเตรียมเก้าอี้ให้หลินหลิน วันนี้เขาโชคดีจริง ๆ มีลูกค้ามาเหมาของจำนวนมาก แถมไม่กดราคาเขาด้วยที่ร้านเขาขายถูกจึงมีเศรษฐีหลายคนมาข่มขู่ว่าซื้อเยอะต้องลดราคา เขาไม่สามารถลดให้ได้จริง ๆ ร้านเขาเป็นร้านเล็ก ๆ ไม่ได้เอากำไรมากมาย ลูกค้าของเขาก็ชาวบ้านทั้งนั้น จะขายเอากำไรมากขึ้นก็สงสาร เลยได้แต่ขายราคานี้มาตลอดเถ้าแก่กำลังไล่ตรวจนับข้าวสารแต่ละชนิด สายตาของหลินหลินก็ไปปะทะกับผักดอง เกี่ยมไฉ่ ผักกาดดองเค็ม นางลุกขึ้นไปดูก็พบว่ามีผักกาดดองเปรี้ยว ซึงไฉ่ และหัวไชโป๊อยู่ด้วย หลินหลินบอกเถ้าแก่ว่านางเอา 3 อย่างนี้ด้วย ให้เหลือทิ้งไว้ที่ร้านอย่างละ 1 ถุงที่วางโชว์ (5 กิโล) นอกนั้นนางเอาหมด เถ้าแก่ก็น่ารัก รีบมาจัดการต่อให้นางเลยเถ้าแก่แม้จะสงสัยว่านางเหลือไว้ทำไม แต่เขาต้องรีบจัดของจึงยังไม่ได้ถามออกไปหลินหลินเดินดูเค

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-13

บทล่าสุด

  • หลินหลินกับระบบมิติผันผวน   บทที่25

    และแล้ววันเดินทางก็มาถึงที่หน้าจวนตระกูลเจียง ขบวนของท่านแม่ทัพหยางเทียนชุนมาถึงแล้วหลินหลินรู้สึกตกใจเล็กน้อย ที่เห็นขบวนของเขายิ่งใหญ่อลังการกว่าที่คิด ธงทิวสีดำปักลายพยัคฆ์คำรามสีทองโบกสะบัดท้าทายสายลม ทหารองครักษ์กว่าสามสิบนายอยู่ในชุดเกราะสีดำขลับ พวกเขาขี่ม้าศึกสง่าผ่าเผย อาวุธและเครื่องแบบล้วนประณีต บ่งบอกถึงยศศักดิ์หลินหลินรู้ดีว่า หยางเทียนชุนต้องการประกาศให้ทุกคนรู้ว่านางเป็นคู่หมั้นของเขา แม้จะมีข่าวลือออกไปบ้างแล้ว แต่การปรากฏตัวพร้อมขบวนที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้ ยิ่งตอกย้ำความสัมพันธ์ให้ชัดเจนยิ่งขึ้น นางก็อดคิดไม่ได้ว่า .... ท่านแม่ทัพทำเรื่องใหญ่โตเกินไปแล้วหัวใจของหลินหลินเต้นแรง ด้วยความตื่นเต้นและประหม่านี่เป็นครั้งแรกที่นางจะได้ออกเดินทางไกลในโลกใบนี้ชาวบ้านต่างพากันมามุงดู ส่งเสียงฮือฮาเมื่อเห็นขบวนของท่านแม่ทัพ วันนี้หลินหลินเลือกสวมชุดสีดำ ที่ดูทะมัดทะแมงคล้ายกับชุดของเหล่ายอดฝีมือ ผมยาวของนางถูกรวบเป็นหางม้าง่ายๆ ท่านแม่ทัพไม่ได้ให้นางปลอมตัวเป็นบุรุษเพราะยังไม่มีเครื่องรางหรือของวิเศษใดๆ ที่สามารถเปลี่ยนจากสตรีเป็นบุรุษได้ เขาบอก

  • หลินหลินกับระบบมิติผันผวน   บทที่24

    "ท่านแม่... ข้ากลับมาแล้วเจ้าค่ะ อ๊ะ! ท่านพ่อยังไม่ไปร้านหรือเจ้าคะ?” "พ่อเจ้าอยู่จัดการเรื่องส่งคนเร่ร่อนไปหัวเมืองต่างๆ พร้อมกับขบวนคาราวานพ่อค้าที่พ่อของเจ้ารู้จักแทนลูกน่ะสิ...นี่ก็เพิ่งจะสั่งคนของเจ้าไป พวกเขาคงไปทำตามที่พ่อเจ้าสั่งอยู่""ข้าฝากเรื่องนี้กับท่านพ่อด้วยนะเจ้าคะ"หลินหลินหันไปส่งสายตาออดอ้อน "จะกอดแค่เพียงแม่เจ้าคนเดียวพ่อก็น้อยใจแย่...""โอ๋ๆลูกผิดไปแล้วเจ้าค่ะ" หลินหลินสลับกอดท่านพ่อท่านแม่จนทั้งสองคนต้องบอกให้นางหยุดเพราะกลัวนางจะเหนื่อย... เจียงเหวินไม่อยากจะแจ้งบิดากับมารดาว่าอีกสองวันพวกเขาต้องออกเดินทางขึ้นแดนเหนือ อยากให้ท่านแม่มีความสุขมากกว่านี้อีกหน่อย แต่คงจะไม่ได้ เพราะท่านแม่ชวนหลินเอ๋อร์ออกจากจวนไปซื้อของในวันพรุ่งนี้ ยังไม่ทันที่หลินหลินจะรับปาก พี่ใหญ่ก็ขัดขึ้นมาก่อน "ท่านพ่อ ท่านแม่ขอรับ ข้ามีเรื่องต้องแจ้งขอรับ" หลินหลินกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก.....ทำไมสายตาพี่ใหญ่ถึงมองนางแบบนั้น "ข้าและน้องต้องเดินทางขึ้นแดนเหนือวันมะรืนนี้ขอรับ และท่านแม่ทัพ มีคำสั่งห้ามหลินเอ๋อร์ออกจ

  • หลินหลินกับระบบมิติผันผวน   บทที่23

    "นายกองลี่ เข้ามา"ไม่ถึง 2 ลมหายใจก็มีบุรุษอีกคนเข้ามาภายในห้อง เขาคือหนึ่งในผู้คุ้มกันฝีมือดี"หากเจ้าหนีเขาได้ภายใน 1 จิบชา ข้าจะให้เจ้าร่วมขบวน"1 จิบชา เขาดูถูกนางเกินไปแล้ว.....บรรยากาศในห้องตึงเครียดขึ้นทันที "ท่านแม่ทัพ!"เจียงเหวินที่กำลังจะกล่าวบางอย่าง...ต้องเงียบเสียงลงด้วยเสียงของน้องสาว "พี่ใหญ่ไม่เชื่อใจข้าหรือเจ้าคะ"ลี่เฟยได้ยินคำสั่งผู้เป็นนายก็คิดจะลงมือทันที แต่เขาขยับตัวไม่ได้ เหมือนมีลมมายึดตัวเขาไว้ ลมในห้องพลันหมุนวนรอบตัวเขา ราวกับกรงขังที่มองไม่เห็น"แม่นาง เจ้าทำอะไร ทำไมข้าขยับตัวไม่ได้...""ข้าแค่ใช้เวทลมเล็กน้อยเจ้าค่ะ" รอยยิ้มหวานกล่าว..แต่แววตากลับเฉียบคมไม่มีแววล้อเล่นแม้แต่น้อยหลินหลินมองไปที่ผู้สั่งการ เห็นเขาค่อยละเมียดจิบชาช้าๆ ก็นึกหมั่นไส้ เขาไม่ยอมให้นางใช้วิธีนี้... ถ้านางไม่ทำอะไรสักอย่างเขาคงไม่ให้นางไปสินะหลินหลินถอนหายใจ เรียกดาบที่ห้องใต้ดินออกมา ดาบเล่มนั้นปรากฏขึ้นในมือ นางปลดเวทลมให้นายกองลี่ แล้วกระโดดออกจากทางหน้าต่าง ร่างของนางพุ่งทะยานออกไปดุจพญาเหยี่ยวนายกองลี่ไม่รอช้า เขาเรียกดาบยาวออกมา และตามนางออกไปทันที เสียงฝีเท้าหนัก

  • หลินหลินกับระบบมิติผันผวน   บทที่22

    "พวกเราสามคนนอนไม่หลับ ใจพี่รอให้ถึงรุ่งเช้าเพื่อสะสางปัญหา หากเจ้ามาช้ากว่านี้อีกนิดพี่คงไปอุ้มเจ้าที่เรือนแล้ว " "ฮ่าๆๆๆ"หลินหลินส่ายหน้ากับความขี้เล่นของพี่ชาย วันนี้นางไม่ได้เอาอาหารออกจากมิตินางแจ้งท่านแม่ไปแล้วว่าอยากลองทานอาหารฝีมือแม่ครัวที่จวน ทุกคนทานอาหารเช้ากันอย่างอารมณ์ดี มีแต่เจียงเหวินเท่านั้นที่เติมข้าวไป 3 ถ้วยแล้ว แต่หลินหลินก็ยังกินไปแค่ครึ่งถ้วย เขาไม่กล้าเร่งน้อง แต่ตอนนี้ใจเขามันร้อนรุ่มเหลือเกินหลินหลินเห็นสายตาที่พี่ใหญ่มองมาเป็นระยะ ก็รู้ว่าเขาร้อนใจ นางจึงเร่งการกินให้หมดถ้วยแค่เพียงหลินหลินวางถ้วยน้ำชา เจียงเหวินก็อุ้มน้องวิ่งขึ้นรถม้าออกไปเลย ฮูหยินเจียงส่ายหน้ากับลูกชาย แต่นางก็เข้าใจว่ารีบไว้ดีกว่าไม่ทันการ เขาย่อมต้องรู้สถานการณ์ว่าต้องรีบหรือไม่รีบ ยังดีที่รอน้องกินข้าวหมดก่อน ทางด้านหลินหลินก็กรอกตามองบน"พี่ใหญ่ ท่านรีบขนาดนี้ไม่ไปปลุกข้าตอนยามโฉ่วแทนเล่า (01.00 น.) "หลินหลินกล่าวประชดประชันแต่แววตามีแต่ความขบขัน"หลินเอ๋อร์ เข้าใจพี่หน่อยเถิด เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ กว่าเราจะจัดเสบียงและเดินทางถึงแดนเหนือใช้เวลานานนัก เราต้องรีบแล้ว"หลินห

  • หลินหลินกับระบบมิติผันผวน   บทที่21

    ทันใดนั้น เสียงแจ้งเตือนจากระบบก็ดังขึ้น "พรสัมฤทธิ์ผล"ภาพความทรงจำเก่าๆ พรั่งพรูเข้ามาในห้วงคำนึงหลินหลินเห็นภาพของครอบครัวที่อบอุ่น ภาพของพวกเขารักและดูแลนางเหมือนไข่ในหิน แต่แล้วความสุขก็พังทลายลง เมื่อนางทำผิดพลาดครั้งใหญ่หลวง นางหลงเชื่อคนรักจนนำภัยมาสู่ครอบครัว สุดท้าย พวกเขาก็ต้องตายอย่างน่าอนาถแต่แม้ถึงวาระสุดท้าย พวกเขาก็ไม่เคยกล่าวโทษนางเลยสักคำ มีเพียงความรักและความปรารถนาดีที่จะปกป้องนางจนลมหายใจสุดท้ายความเจ็บปวดจากอดีตชาติแล่นริ้วเข้ามาในหัวใจราวกับคมมีดกรีดลึก ความรู้สึกผิด ท่วมท้นจนนางแทบหายใจไม่ออก ราวกับมีมือที่มองไม่เห็น บีบคั้นหัวใจของนางเสียงหัวเราะแห่งความสุขยังคงดังต่อเนื่อง ท่ามกลางบรรยากาศที่อบอุ่นและเบิกบานราวกับฟ้าหลังฝน นายท่านเจียงและฮูหยินเจียงโอบกอดกัน มองภาพเจียงเหวินที่กำลังอุ้มหลินหลินหมุนไปมาด้วยแววตาเปี่ยมสุข"ฮือ...ฮือ ไม่เอาแล้วนะเจ้าคะ ถ้าทำอีกข้าโกรธจริงๆ ด้วย " น้ำตาของหลินหลินไหลอาบแก้ม ไม่ใช่เพราะความกลัว แต่เป็นเพราะความเสียใจจากภาพความทรงจำอันเจ็บปวดในอดีตชาตินางเกิดมาพร้อมกับความรักความอบอุ่นของพวกเขา เป็นความรู้สึกที่นางโหยหามาตลอ

  • หลินหลินกับระบบมิติผันผวน   บทที่20

    "ขอรับ จริงขอรับ""ถ้าอย่างนั้น...เจ้ามีสตรีในดวงใจหรือยัง?""ยังขอรับท่านแม่ แต่หากจะจับคู่ให้ข้า ท่านคงต้องผิดหวังแล้ว""ข้ามองนางเป็นดังน้องสาวขอรับ"ฮูหยินเจียงส่งค้อนให้ลูกชายแล้วหันมาส่งยิ้มให้หญิงสาวตรงหน้า"หลินเอ๋อร์ เจ้าอยากไปดูเรือนพักของเจ้าก่อนไหม? ป้าจะพาเจ้าไปเอง "หลินหลินส่ายหน้า"ท่านลุงกับท่านป้ายังไม่ได้ทานอาหารเช้าเลยเจ้าค่ะ""พวกเรามาทานอาหารกันก่อนดีกว่าไหมเจ้าคะ มื้อนี้ข้ามีของอร่อยอีกเพียบเลยนะเจ้าค่ะ""ดี ดี ลุงอยากกินอาหารของหลินเอ๋อร์ อาหารเจ้าอร่อยยิ่งนัก"ทั้งสามคนลุกขึ้นเดินไปยังห้องอาหาร ท่านป้าเลิกแกล้งพี่เจียงเหวินเถอะเจ้าค่ะ ดูเขาทำหน้าเศร้าสิเจ้าคะ"ฮ่าๆๆๆ"ทั้งสามหัวเราะขึ้นพร้อมกัน เจียงเหวินยิ้มอบอุ่น มองทั้งสามหัวเราะ เขาจะจดจำภาพนี้ฝังไปในใจเขาตลอดไป หากวันหนึ่งเขาไม่ได้อยู่บนโลกนี้แล้ว เขาก็หวังว่านางจะยังคงรักบิดามารดาเขาบ้าง สักเล็กน้อยก็ยังดี ให้พวกท่านได้อยู่บนโลกนี้ต่อไปได้เจียงเหวินหลบสายตามองลงพื้น เขาไม่กล้าบอกบิดามารดา ว่าเขาทำงานพลาด และโทษใหญ่หลวงกำลังรอเขาอยู่ เขาขอเวลาท่านแม่ทัพไว้ 10 วันตอนนี้เขาเหลือเวลาเพียง 5 วันเท่านั้น เ

  • หลินหลินกับระบบมิติผันผวน   บทที่19

    เมื่อแจกทุกอย่างครบแล้ว หลินหลินก็ประกาศเรื่องสำคัญทันทีนายท่านเจียงกับฮูหยินเจียงมายืนประกบข้างหลินหลิน ฮูหยินเจียงมองหลินหลินด้วยแววตาชื่นชม นางก็อยากรู้ว่าหลินเอ๋อร์จะทำสิ่งใดหลินหลินกวาดสายตามองไปยังกลุ่มคนที่เบื้องหน้า นางเห็นความหวังริบหรี่ในแววตาของพวกเขา หลายคนผ่ายผอม อิดโรยจากความยากลำบาก"สิ่งสุดท้ายที่พวกท่านจะได้วันนี้ คือทางเลือก " หลินหลินเอ่ยเสียงดังฟังชัด"สวรรค์จะมอบทางเลือกให้พวกท่าน ขอให้พวกท่านตัดสินใจให้ดีเสียงของหลินหลินก้องกังวานไปทั่วบริเวณ เหมือนเสียงสวรรค์ที่หยาดลงมาปลุกความหวังในใจคนสิ้นหวัง"เย็นนี้จะมีคนของข้า ทั้งสามคนมาให้พวกท่านลงนามแจ้งความประสงค์ หากพวกท่านต้องการเดินทางไปเมืองใด ข้าจะเป็นคนจ่ายค่าเดินทางให้พวกท่านทั้งหมดเอง"เสียงฮือฮาดังขึ้น คนเหล่านั้นมองหน้ากันด้วยความประหลาดใจ"โดยค่าเดินทางนี้ข้าจะจ่ายให้กับกองคาราวานหรือรถเทียมวัวที่ข้าจ้างวานโดยตรง แม้การเดินทางมันไม่ได้สบายนัก แต่ก็คงไม่ลำบากจนพวกท่านทนไม่ได้" หลินหลินเว้นวรรคเล็กน้อย ก่อนจะพูดต่อด้วยน้ำเสียงที่เด็ดขาด"และอีกหนึ่งเรื่องคือ พวกเจ้า เจ้าเจ้า"หลินหลินชี้นิ้วไปยังคนที่ดวง

  • หลินหลินกับระบบมิติผันผวน   บทที่18

    เมื่อคนเร่รอนเริ่มเห็นข้าวของจำนวนมาก ก็ค่อยๆ ขยับเข้ามาสอบถามด้วยความสงสัยว่านำของพวกนี้มาทำอะไรปู่หลิวเห็นเช่นนั้น จึงได้โอกาสบอกกับคนเร่รอนคนนั้นว่า "อีก1เค่อ คุณหนูของข้าจะทำการแจกจ่ายอาหารและของยังชีพ รบกวนเจ้าไปประกาศให้ทุกคนทราบด้วย จะได้ไม่เสียเวลาให้มาต่อแถวรอ อย่าลืมเอาชามช้อนของพวกเจ้ามาด้วย""ได้ ได้ ขอรับ ขอบคุณขอรับ ขอบคุณขอรับ""เอ้ย...พวกเรามีคนใจดีมากแจกอาหาร เตรียมชามช้อนมารอรับเร็วเข้า!"เสียงตะโกนดังก้องไปในความมืดนั้น สามารถปลุกพลังแห่งความวุ่นวายได้ในทันที ดีที่หลินหลินมีท่านลุงท่านป้า ทั้งสองมีประสบการณ์มาก่อน จึงให้คนของตนเองกันไม่ให้คนเร่ร่อนเบียดเข้ามาใกล้โต๊ะ เพราะอาจจะชนหม้อข้าวต้มเสียหายได้แต่ความหิวนั้นไม่เข้าใครออกใคร เริ่มมีการทะเลาะแย่งแถวกันเด็กๆ ถูกผลักออกจากแถว เด็กน้อยคนหนึ่งร้องไห้จ้าเมื่อถูกคนตัวใหญ่ผลักล้มลง ผู้คนล้วนไม่สนใจ นางเห็นดังนั้นจึงตะโกนออกไปว่า"หากพวกเจ้ายังทะเลาะกันอีกแม้แต่ครั้งเดียว...ข้าจะเก็บของทั้งหมดกลับไป!"แค่เพียงเสียงเดียวก็ทำให้ทุกอย่างสงบลงในพริบตา ทุกสายตาย้ายไปมองที่นางเป็นตาเดียว พร้อมกับเบิกตากว้างด้วยความตกใจสิ

  • หลินหลินกับระบบมิติผันผวน   บทที่17

    เอาล่ะ....นางผิดเอง " ระบบจากนี้ไปต้องคอยเตือนข้าทุกเรื่อง เข้าใจไหม? ""ระบบจะเตือนผู้ถูกเลือกขอรับ"หลินหลินจัดการข้าวของที่จะแจกจ่ายพวกคนเร่ร่อนเสร็จ พอมีเวลาว่าง นางก็มานั่งพักที่ชานเรือน พร้อมกับถ้วยชาและขนมคุกกี้ บรรยากาศยามเย็นช่างเงียบสงบ เหมาะแก่การพักผ่อนหย่อนใจเสียจริงแต่แล้ว หลินหลินก็นึกขึ้นได้ว่า นางลืมหินเวทที่เก็บไว้ในมิติเสียสนิท! นางรีบเรียกหินเวทลมออกมา ก้อนหินสีฟ้าใสเปล่งประกายระยิบระยับอยู่ในมือ หลินหลินหลับตา เพ่งสมาธิ สัมผัสได้ถึงพลังเวทที่ไหลเวียนเข้าสู่ลูกแก้วเวทลมในร่างกายทันใดนั้น ก็รู้สึกเหมือนมีลมปราณปั่นป่วนในท้อง คล้ายกับ...จะเรอ!"เอิ๊กกกกกกก!"เสียงเรอของหลินหลินดังกึกก้องหลินหลินลืมตาขึ้น มองไปรอบๆ ด้วยความตกตะลึง ถ้วยชา จานคุกกี้ หายไปไหนหมด! นางกวาดสายตามองหา จนไปสะดุดกับแสงสะท้อนของแก้วกระเบื้องที่พุ่มดอกไม้ ห่างออกไป 10 เมตร!"หา! 10 เมตร?" หลินหลินอ้าปากค้าง"แค่เรอเองนะ แรงขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย!"นางหัวเราะออกมาเสียงดัง ทั้งขำทั้งตกใจ ไม่คิดว่าพลังเวทจะทำให้เรอได้แรงขนาดนี้หลินหลินลุกขึ้น เดินไปเก็บถ้วยชาและจานคุกกี้ที่กระเด็นไป

DMCA.com Protection Status