"กรี๊ดดดด........นี่มัน!!!"
นางลอกคราบ...นางเป็นงูหรอ...เอ้ย..นางเป็นคนสินางเป็นคน หลินหลินเธอต้องตั้งสติ.....
ความเจ็บปวดที่เพิ่งผ่านพ้นไปยังคงทิ้งร่องรอยไว้บนร่างกาย ผิวหนังที่หลุดลอกเป็นแผ่น ๆ ทำให้หลินหลินอดคิดถึงงูที่ลอกคราบไม่ได้ ความรู้สึกแสบร้อนยังคงติดตรึงอยู่บนผิวหนังทุกตารางนิ้ว เหมือนถูกไฟลนแผดเผาจนแทบสลาย
หลินหลินค่อย ๆ ลูบไล้ไปตามแขนเรียวอย่างระมัดระวัง ผิวหนังเก่าที่แห้งกร้านและหมองคล้ำกำลังถูกผลัดออกไปทีละน้อย เผยให้เห็นผิวใหม่ที่ขาวเนียนสวยราวกับไข่มุกเบื้องล่าง ความเจ็บปวดเริ่มจางหายไป แทนที่ด้วยความรู้สึกตื่นเต้นและประหลาดใจ
"กระจก"
หลินหลินพึมพำเรียกหาสิ่งที่จะสะท้อนภาพของเธอในตอนนี้
พรึบ! กระจกขนาดไม่ใหญ่มากปรากฏขึ้นเบื้องหน้า หลินหลินมองภาพสะท้อนของตัวเองด้วยความตกตะลึง นางงดงามกว่าดาราจีนในยุคของนางเสียอีก งามแบบไม่น่ามีอยู่จริงบนโลก
"งานพอ ๆ กับเล่อปาเลยอิอิ"
หลินหลินเหม่อมองภาพที่ปรากฏอยู่ เหมือนนางมองสาวงามล่มเมือง ร่างกายสวยงามที่สมส่วนรับกัน เครื่องหน้าทั้งห้า งดงามไร้ที่ติ ทุกอย่างลงตัวเหมือนสวรรค์สร้าง ผิวเนียนขาวใส ใบหน้าเรียวรีรูปไข่ ดวงตายคมดุจหงส์ จมูกโด่งสันได้รูป แพขนตางอนงามดุจขนนก ริมฝีปากสีชมพูระเรื่อ ชวนให้น่าสัมผัส
แต่พอหลินหลินนึกถึงความเจ็บปวดที่ได้รับก็สยดสยองมากเช่นกัน มันเหมือนกับร่างกายของเธอกำลังถูกสร้างขึ้นมาใหม่ทุกอณูเนื้อ กระดูกทุกชิ้นถูกหลอมและจัดเรียง เส้นเลือดทุกเส้นถูกสร้างขึ้นมาใหม่ มันเป็นความเจ็บปวดที่เกินกว่าจะบรรยาย เป็นความเจ็บปวดที่ทำให้เธออยากจะกรีดร้องออกมาดัง ๆ อีกครั้ง
หลินหลินทำความสะอาดเรือนร่างทุกสัดส่วนอย่างทะนุถนอม ลุกขึ้นจากน้ำ หยิบเสื้อคลุมมาสวมใส่
"เอ... เหมือนนางสูงขึ้นนะเนี่ย"
หลินหลินหันกลับไปมองธารน้ำตกตรงหน้าอีกครั้ง นางแอบคิดนะว่านี่อาจจะเป็นน้ำตกวิเศษก็เป็นได้
"ไว้ค่อยถามระบบวันหลังดีกว่า"
หลินหลินกลับเข้าเรือนไม้ วันนี้เธออยากนอนในมิติ เมื่อร่างกายสัมผัสกับเบาะนอนที่แสนนุ่ม และกลิ่นที่คุ้นเคย หลินหลินก็หลับลึกทันที เธอไม่กังวลเพราะเวลาในนี้กับข้างนอกต่างกันมาก 1 วันข้างนอก เท่ากับนางใช้ชีวิตในนี้ได้ถึง 1 เดือน
หลินหลินหลับใหลโดยไม่รู้การเปลี่ยนแปลงภายในร่างกายของเธอแม้แต่น้อย หากเธอลืมตาขึ้นมาสักนิดเธอจะเห็นภาพน่ามหัศจรรย์ที่ลูกแก้วสีขาว สีฟ้า สีแดง และสีน้ำตาล ทยอยหลั่งไหลเข้าไปในตัวเธออย่างไม่ขาดสาย คนทั่วไปจะมีได้แค่ 1-2 ธาตุ แต่เธอกับมี 4 ธาตุ ดิน น้ำ ลม ไฟ นั่นแปลว่าเธอสามารถใช้เวทได้ถึง 4 เวทเลยทีเดียว
หากมีใครรู้ว่าสตรีนางนี้เป็นผู้ใช้เวททั้ง 4 แผ่นดินคงต้องสั่นสะเทือนเพื่อตามหานาง แม้วันเวลาผันผ่านไปแต่หลินหลินยังคงหลับไหลไม่ตื่นขึ้นมา ร่างกายของหลินหลินยังคงดูดลูกแก้วเวทเข้าตัวอย่างต่อเนื่องไม่มีทีท่าที่จะหยุดแต่อย่างใด...
ปัง! ปัง! ปัง! ปัง! เสียงระเบิดดังขึ้นติดกัน 4 ครั้งทำให้หลินหลินรู้สึกตัวตื่น ตอนนี้ หลินหลินไม่ได้รู้ตัวเลยว่าเธอนอนหลับในมิติ ยาวนานถึง 15 วัน
"ระบบ เสียงอะไร ทำไมเสียงเหมือนระเบิด ดังใกล้ตัวเธอขนาดนี้"
ระบบ: "เสียงการเปิดใช้ธาตุในตัวของผู้ถูกเลือกขอรับ ขอแสดงความยินดีด้วยขอรับ....ตอนนี้ผู้ถูกเลือกสามารถใช้เวททั้ง 4 ได้แล้วขอรับ"
หลินหลินปรับจูนข้อมูลที่เธอได้รับจากระบบมา เพราะเธอเพิ่งตื่นจึงโหลดข้อมูลช้า
"ห๊ะ.... 4 เวท นี่นางต้องเป็นลูกรักพระเจ้าแน่ ๆ ขอบคุณพระเจ้าเจ้าค่ะ หลินหลินจะใช้ชีวิตให้ดี ให้สมกับโอกาสที่ท่านมอบให้"
หลินหลินลุกขึ้นนั่งบนที่นอนบิดตัวไล่ความเมื่อยล้าเล็กน้อย นางลองรวบรวมสมาธิ กำหนดจิต ดิน น้ำ ลม ไฟ กำหนดสลับไปสักพัก ก็เห็นลูกแก้วทั้ง 4 อยู่ตรงจุดตันเถียน นางเพ่งสมาธิเข้าไปก็สัมผัสถึงลูกแก้วทั้ง 4 หากนางเพ่งสีแดง ร่างกายนางจะเริ่มร้อนขึ้น หากนางเพ่งสีฟ้า...
ร่างกายก็เย็นสบายเหมือนสายน้ำโอบอุ้มไว้ เมื่อเพ่งลูกแก้วสีขาวใบต่อไป นางกลับรู้สึกว่าตัวนางเบาไร้น้ำหนัก ล่องลอยอยู่ในอากาศราวกับไร้แรงโน้มถ่วง
หลินหลินย้ายจิตไปที่ลูกแก้วสีน้ำตาลลูกสุดท้าย ลูกนี้นางสัมผัสได้ถึงความหนักแน่นและแข็งแกร่ง มั่นคงดุจขุนเขา เมื่อสำรวจลูกแก้วทั้ง 4 จนพอใจแล้ว หลินหลินก็ถอนสมาธิออกมาทันที
นางถามระบบว่านางนอนไปกี่ชั่วโมงแล้ว เมื่อได้คำตอบหลินหลินกลับต้องตกใจว่านางนอนนานขนาดนั้นได้ยังไงกัน แต่นางก็ขี้คร้านจะหาคำตอบ โลกนี้มันมหัศจรรย์ตั้งแต่ที่นางมาอยู่ที่นี่แล้ว
วันนี้หลินหลินเลือกใส่ชุดสีขาวไล่สีผสมกับสีเทาเงิน มีความพริ้วไหวระยิบระยับในเนื้อผ้า ชุดนี้เป็นชุดเวทระดับสูง ป้องกันการโจมตีระดับสูงสุด สามารถทำความสะอาดตัวเองได้ และปรับสภาพให้เป็นอุณหภูมิปกติ ผู้สวมใส่จะรู้สึกถึงอากาศสบายตลอดเวลา ชุดนี้นางซื้อมาจากระบบถึง 50 เหรียญทองเชียวนะ
เมื่อสวมใส่เสร็จแล้วหลินหลินก็เดินไปนั่งที่โต๊ะเครื่องแป้งที่นางสั่งซื้อจากระบบมา หลินหลินเลือกจัดแต่งทรงผมอย่างง่าย ๆ โดยการรวบผมครึ่งหัวแบบไม่แน่น แล้วปักปิ่นหยกสีขาวระย้าโค้งตามทรงผม มือเรียวเอื้อมไปหยิบต่างหูที่เข้าคู่กับปิ่น
หลินหลินยิ้มให้กับตัวเอง การแต่งตัวจัดผมแบบนี้นางคิดว่าง่ายดี นางชอบ นางไม่ชอบอะไรที่ยุ่งยาก"
หลินหลินสังเกตเห็นกลางหน้าผากตนเองมีสัญลักษณ์บางอย่างปรากฏขึ้น แต่มันกลับเรืองแสง หากให้เดานางคิดว่าสัญลักษณ์นี้ไม่น่าจะมีใครมองเห็นแน่นอนหลินหลินออกจากเรือนไม้มาตรวจสอบฟาร์มในมิติต่อ นางยังมีเวลาอีกมาก หลินหลินไม่รอช้า เธออยากรู้ว่ามีอะไรให้เธอซื้อบ้างนะ
เมื่อเห็นระบบปลดล็อกโรงไม้แปรรูป หลินหลินกดซื้อทันที นางอยากจะกระโดดกอดระบบ
โรงไม้แปรรูปอันนี้มันจะช่วยนางได้มาก เพราะนางกำลังคิดจะสร้างจวน....
เมื่อในฟาร์มไม่ได้มีอะไรให้ซื้อแล้ว หลินหลินก็มานั่งอัปเดตโกดังแทน ตอนนี้เนื้อสัตว์ในโกดังนางมีจำนวนมาก เรียกว่าเลี้ยงคนทั้งแคว้นได้เลย แต่นางไม่วางใจ นางเชื่อว่าในอนาคตนางต้องได้ใช้ของพวกนี้แน่นอน
วันนี้หลินหลินเลือกที่จะกินอาหารจากระบบ ในมิติของนางมีโรงงานแปรรูปอาหาร 1 โรง นางเคยสั่งทำอาหารต่าง ๆ ไว้มากมาย วันนี้มีโอกาสขอลองชิมสักหน่อย
หลินหลินเลือกซาลาเปาไส้หมูแดง 1 ลูก ไส้หมูสับไข่เค็ม 1 ลูก เกี๊ยวกุ้ง 1 ชาม เมื่อกดตกลง ของที่เลือกก็ปรากฏลอยอยู่ในอากาศตรงหน้าหลินหลินทันที
หลินหลินมองซ้ายขวา นางลืมซื้อโต๊ะกินข้าว ที่ชานหน้าเรือนที่นี่ไม่มีที่นั่งกินข้าวเลย ทั้งในอดีตและปัจจุบัน มีแต่โต๊ะทรงกลมเล็ก ๆ วางถ้วยน้ำชาเท่านั้น
หลินหลินปล่อยให้อาหาร 2 อย่างลอยอยู่อย่างนั้น นางเลือกเข้าระบบไปหาโต๊ะกินข้าวก่อน เลือกไม่นานก็เจอโต๊ะไม้พร้อมเก้าอี้ เรียบ ๆ แต่ดูหรู โต๊ะชุดนี้ในระบบขายอยู่ 10 เหรียญทอง
หลินหลินจัดการซื้อทันที เมื่อโต๊ะพร้อมแล้วหลินหลินแค่คิด อาหารทั้งหมดก็ลอยมาอยู่บนโต๊ะทันที หลินหลินงงว่าเธอไม่ต้องสั่งการผ่านระบบหน้าจอหรอ ก็มีเสียงสวรรค์ของระบบอธิบายทันที
ระบบ: "ของที่อยู่ในมิติท่านไม่ต้องสั่งการผ่านจอขอรับ แต่ของที่ท่านจะซื้อใหม่ อัพเดตหรือขายออก แลกเปลี่ยน รวมทั้งติดต่อกับผู้ถูกเลือกรายอื่น จำเป็นต้องสั่งการผ่านจอระบบขอรับ"
หลินหลินลองดู นางตั้งจิตเปลี่ยนชุด แค่นึกถึงชุดในตู้อีกชุด บนร่างของนางก็เกิดการเปลี่ยนแปลงทันที
"เจ๋ง......."
หลินหลินกลับไปใส่ชุดเดิม และลองสั่งเก็บเกี่ยวสตรอว์เบอร์รี ทันใดนั้นสตรอว์เบอร์รีก็ถูกเก็บเกี่ยวเข้าไปยังโกดัง
" ขอบคุณระบบ มันสะดวกสบายขึ้นเยอะเลย"
ระบบ : "เป็นเพราะผู้สร้างอัพเดตระบบของผู้ถูกเลือก ระบบเลยได้อัพเกรดไปด้วยขอรับ" (เขาจะบอกนางได้ยังไง... ว่าขนาดระบบยังแอบคิดว่านางต้องเป็นลูกรักผู้สร้างแน่ ๆ)
หลินหลินมองดูซาลาเปาอวบอ้วนตรงหน้า
"น่ากินจัง"
เมื่อหลินหลินหยิบซาลาเปาขึ้นมากัด ร่างบางหลับตายิ้มพริ้มไปกับรสชาติที่ได้
"มันอร่อยมากๆ"
รสชาตินี้เหมือนในภัตตาคารอาหารจีนระดับ 5 ดาวเลย แป้งของซาลาเปานุ่มฟู กัดไปเจอกับไส้หมูแดงทรงเครื่องที่ทีรสหวานเค็มกำลังพอดี กลิ่นเครื่องเทศตีขึ้นจมูกทำให้หลินหลินรู้สึกได้ถึงความลงตัวของรสชาติ
"แค่ก ๆ ๆ น้ำ ขอน้ำหน่อย"
ในมือของหลินหลินปรากฏกระบอกไม้ไผ่ใส่น้ำขึ้นมาทันที หลินหลินรีบดื่มน้ำลงไปทันที นี่นางไม่ได้สำลักนะ นางแค่รีบกลืนเพราะอยากกัดคำต่อไปแค่นั้น
“ฮ่า ๆ ๆ"
ขนาดนางที่กินอาหารเลิศรสมานับไม่ถ้วนยังรู้สึกว่ามันอร่อยขนาดนี้ ไม่ต้องพูดถึงคนในยุคนี้เลย นางต้องขายดีมากแน่ ๆ
“ฮ่า ๆ ๆ เงินจ๋า รอแม่ก่อน"
หลินหลินตักเกี๊ยวกุ้งมาชิม
"โอ้ว.... ใส่กุ้งเป็นตัวเลยหรือนี่ ดีจัง อึ้ย..... อร่อยมาก"
มืออีกข้างเอื้อมไปหยิบซาลาเปาไส้หมูขึ้นมากัด...
"สุดยอด.... มันสุดยอดมาก”
ข้างในหมูก้อนใหญ่มาก ตรงกลางมีไข่เค็มด้วย รสชาติกลมกล่อมลงตัว
ทำไมอาหารจากระบบถึงอร่อยขนาดนี้นะ ถ้าไม่ติดว่านางกินไม่หมดนางจะสั่งอย่างอื่นมาลองกินอีก หลินหลินนั่งกินไปจนหมด ปกตินางไม่กินเยอะขนาดนี้ แต่มันอร่อยมาก
“ หยุดกินไม่ได้เลย"
ร่างบางเอามือลูบท้องและตบเบา ๆ
"เห้อ... อิ่มลุกไม่ขึ้นเลย"
หลินหลินอยากรู้ว่าในระบบอัปเดตโรงงานแปรรูปอาหารให้ทำอาหารอะไรไว้อีกบ้าง จึงเข้าไปดูที่หน้าจอ
"หืม.... มีหมด ของเยอะมาก ทั้งไทย จีน ฝรั่ง กิมจิผักดองเกาหลี ก็ยังมี ฮ่า ๆ ๆ ระบบฉันรักนายนะ รักมาก"
ระบบ : "ข้าน้อยก็รักผู้ถูกเลือกขอรับ" (ระบบเขินอาย)
หลินหลินไม่ได้รับรู้ว่าตอนนี้ระบบเขินอายอยู่ จึงไม่ได้ล้อเลียนอะไรไป หากรู้นางคงไม่ปล่อยไปแน่...
หลินหลินเลื่อนดูของในโรงงานแปรรูป มีสินค้าหลายตัวที่นำไปขายข้างนอกมิติได้ เช่น ไข่เค็ม ผักดอง ปลาตากแห้ง ปูดอง หอยดอง เธอจะขายให้ใคร...ขายที่ไหนดี คงต้องคิดให้รอบครอบกว่านี้ จากที่เถ้าแก่ร้านแจกันบอกมา เธออยากลงใต้ เธอชอบทะเล..ไว้เธอจะวางแผนสอบถามคนที่นี่อีกที ทะเลจ๋า...รอแม่ก่อน......
หลินหลินนั่งเอนหลังบนเก้าอี้ม้าโยก มองระบบเก็บเกี่ยวผลผลิตและขายออกแบบอัตโนมัติ ผลผลิตนางตั้งระบบไว้ เก็บ 50% ขายออก 50% แต่ผลผลิตก็ออกไวมาก ทำให้นางต้องอัปเดตโกดังอยู่ตลอด ตอนนี้นางมีเงินในระบบจากการขายแจกันและของจากระบบเยอะมาก เรียกได้ว่าโจรปล้น 100 ครั้งก็ยังไม่หมดตัว ฮ่าๆๆ เมื่อมองดูแล้วนี่คงใกล้รุ่งเช้าแล้ว หลินหลินจึงออกจากมิติไปยังห้องพักพรึ่บ..หลินหลินมองห้องที่มืดสนิท ข้างนอกคงยังไม่สว่าง แต่มีแสงของพระอาทิตย์โผล่พ้นขึ้นมาบ้างแล้ว นางลองเปิดประตูออกไปข้างนอก ไม่คิดว่าจะเจอใคร แต่กลับพบเสี่ยวเอ้อนั่งอยู่ตรงริมสุดทาง หรือว่าที่นี่เสี่ยวเอ้อรอให้บริการแขกตั้งแต่รุ่งเช้า.... เสี่ยวเอ้อไม่รอช้ารีบเข้ามาสอบถามนางทันที แต่ก็ต้องชะงักกับความงามของสตรีตรงหน้า เพราะคุณหนูท่านนี้ไม่ใช่คุณหนูคนเมื่อวาน แต่เป็นห้องนี้แน่ เพราะเมื่อวานเป็นเขาเองที่พานางมาส่ง คุณหนูท่านนี้งดงามมาก.. มากกว่าทุกคนที่เขาเคยพบเห็นมา เสี่ยวเอ้อเรียกสติตนเอง โค้งตัวก้มหน้าลง และสอบถามทันที "คุณหนูต้องการสิ่งใดหรือไม่ขอรับ"หลินหลินยืนนิ่ง.... คิดในใจว่าเสี่ยวเอ้อต้องจำนางไม่ได้แน่ ถ
ทางฝั่งหลินหลิน... ย้อนกลับไปตอนที่หลังเสี่ยวเอ้อรับถุงเงินและออกไป นางก็เข้ามิติไปเช็คราคาเครื่องประดับทั้งหมด เป็นอย่างที่นางคิดไม่มีผิด ของพวกนี้ทำกำไรให้นางเยอะมากหลินหลินไม่รอช้า นางออกจากห้องพักมุ่งหน้าสู่ร้านเครื่องประดับต่างๆ นางใส่ผ้าคลุมแปลงโฉม ตอนนี้ผู้คนจึงเห็นว่านางเป็นหญิงสาวอายุ 27-28 ปีก่อนหน้านี้ หลินหลินจ้างปู่หลิวกับสือหย่ง (ชายชราและเด็กน้อยที่รับจ้างตรวจเช็คแจกันให้นาง) ให้พวกเขาไปเช่ารถม้าพร้อมคนขับมา 1 คัน ปู่หลิวรับคำและไปจ้างคนที่รู้จักกันในหมู่บ้านคนนี้มีนามว่า หานเซียว เขาเคยเป็นทหารแต่ได้รับบาดเจ็บจึงออกจากการเป็นทหารมารับจ้างขับรถม้าแทนหลินหลินนั่งรอที่ร้านน้ำชาเล็ก ๆ ริมถนน ถัดไปอีก 2 ซอย นางวางแผนว่า นางจะนั่งรถม้าชมรอบเมืองสักหน่อยนางอยากดูวิธีชีวิตของคนที่นี่... เมื่อทุกอย่างพร้อมแล้ว ทั้ง 3 คนก็มายืนรอรับคำสั่งจากนาง หลินหลินส่งชุดให้ทุกคนเปลี่ยน พวกเขาไปหลบหลังรถม้าที่เป็นมุมอับ.. ลับตาคน และรีบเปลี่ยนชุดออกมาทันที...ชุดมีลักษณะเหมือนกันทั้ง 3 ตัว เป็นผ้าเนื้อดี ราคาแพง สีเทาเข้ม มีแค่ของปู่หลิวที่จะตัดขอบดำไม่เหมือนอีก 2 คน นางสั่งทุกคนว่า"ห
ผู้ดูแลสั่งให้คนเชิญหลินหลินขึ้นไปชั้นสอง ห้องที่ 3 ชั้นนี้เป็นห้องส่วนตัว มีไว้ต้อนรับแขกคนสำคัญ คู่ค้า หรือเชื้อพระวงศ์เท่านั้นระหว่างที่หลินหลินและปู่หลิวเดินตามคนนำทางไป ผู้ดูแลก็รีบไปเรียนนายท่านใหญ่ทันทีก๊อก ก๊อก ก๊อก ผู้ดูแลรอสัญญาณเสียงจากคนด้านในก่อน รอไม่นานเสียงนายท่านใหญ่ก็ดังขึ้น "ว่ามา..." ผู้ดูแลไม่ชินกับเสียงดุดันนี้เลยจริงๆ ... "เรียนนายท่านใหญ่ขอรับ มีคุณหนูท่านหนึ่งต้องการซื้อเครื่องประดับจำนวนมาก ข้าน้อยเลยมาแจ้งนายท่านใหญ่ก่อนขอรับ"เย่วเทียนชุนขมวดคิ้วเป็นปม ร้านเขาเป็นร้านอันดับ 1 ของเมืองนี้ คนที่ต้องการซื้อของส่วนใหญ่ผู้ดูแลจะเป็นคนดูเอง ไม่เคยต้องให้เขาไปดูแล "ซื้อจำนวนมาก? ... มากแค่ไหน ถึงกับต้องมาตามเขา"มุมปากหนายกยิ้ม เขาเองก็อยากจะรู้เช่นกันว่าใครมาเล่นตลกกับเขากันเทียนชุนวางสมุดบัญชีลง เขาตรวจบัญชีเสร็จพอดี มีอะไรอย่างอื่นให้ทำบ้างก็ดี ร่างสูงลุกขึ้นจากโต๊ะทำงาน เมื่อด้านในมีเสียงความเคลื่อนไหว ผู้ติดตามหน้าห้องทั้ง 2 ก็เปิดประตูรอนายของตนเองทันทีผู้ดูแลเดินนำเทียนชุนไปยังห้องพิเศษห้องที่ 3 เขารู้สึกถึงรังสีกดดันจากทางข้างหลัง ความจริงเขาแค่จ
"500 เหรียญทองก็ย่อมได้... แต่มีข้อแม้หนึ่งข้อ ข้าจะมั่นใจได้อย่างไรว่าเจ้าจะซื้อขายกับข้าอีกครั้ง" เทียนชุนเอ่ยเสียงเรียบ แต่แววตาคมกริบจับจ้องหลินหลินไม่คลาดสายตาราวกับจะมองทะลุผ่านใบหน้าของนางผู้ดูแลแทบเป็นลม... กำไรหายไปอีก 57 เหรียญทอง ทำไมนายท่านยิ่งเจรจามันกลับยิ่งน้อยลง หรือคนโง่ ๆ อย่างเขาจะไม่เข้าใจการค้ากันนะ.....หลินหลินครุ่นคิด ตอนแรกนางแค่จะมาเหมาสินค้าเข้าระบบ ไม่คิดผูกขาดกับใคร..."เรียนคุณชายตามตรง พรุ่งนี้.. ข้ากำลังจะออกเดินทางไปทางใต้ ไม่ได้อยู่เมืองนี้ ไม่ทราบว่าท่านมีร้านอยู่ทางใต้บ้างไหมเจ้าคะ"เทียนชุนชะงักไปเล็กน้อย น่าเสียดายที่นางจะไม่ได้อยู่ที่เมืองนี้แล้ว และอีก 2 วัน ตัวเขาเองก็ต้องออกเดินทางขึ้นเหนือ"ร้านค้าตระกูลเย่วมีหลายสาขาทั่วทั้งแคว้น"เสียงเข้มเอ่ยขึ้น เหมือนมีความไม่พอใจเจืออยู่เล็กน้อย"เจ้าจะลงใต้ไปเมื่อใด""ข้าจะไปเหมาสินค้าอีก 2-3 ร้านเจ้าค่ะ และจะออกเดินทางพรุ่งนี้เลยเจ้าค่ะ"" ต้องการสินค้ามากมายขนาดนั้น ...เจ้าจะเปิดร้านขาย? ""ข้าไม่ได้จะเปิดร้านเจ้าค่ะ ข้าแค่โชคดีที่มีลูกค้าเป็นพวกพ่อค้าต่างแคว้น ของทั้งหมดมีคนต้องการซื้ออยู่แล้วเ
หลินหลินเข้ามิติมาเพื่อดูว่าตัวนางจะหายไปจากตรงนั้นไหม นางดูนาฬิกา ตอนนี้ 10 วิแล้วที่นางอยู่ในมิตินางลุ้นมาก สิ่งที่นางคิดไม่น่ามีอะไรผิดพลาด มันเป็นทฤษฎีของแมลง นักวิทยาศาสตร์มีการวิจัยเกี่ยวกับความสามารถอันน่าทึ่งของแมลงไว้ว่า แมลงบางชนิดสามารถบินหลบสายฝนได้โดยที่ตัวมันไม่เปียกด้วยซ้ำ!ซึ่งแมลงพวกนี้มีสายตาที่ไวมากเป็นพิเศษ แถมยังมีปฏิกิริยาตอบสนองแบบฉับพลันอีกด้วย ซึ่งการตอบสนองของมันไวกว่ามนุษย์ถึง 10 เท่า!แมลงบางชนิดจะมีดวงตาที่ขาและมีดวงตาขนาดใหญ่ ซึ่งประกอบด้วยเลนส์ขนาดเล็กจำนวนมากมายเรียงกัน เลนส์เหล่านี้ทำหน้าที่รับภาพและประมวลผลออกมา ซึ่งมีความไวมากกว่ามนุษย์มากถึง 4 เท่า บวกกับมันสามารถทำความเร็วในการบินได้ 8 กม. ต่อชม. นั้นทำให้มันมองเห็นภาพเป็นแบบสโลว์โมชั่น ความสามารถการมองเห็นแบบสโลว์โมชั่นของมัน ทำให้การตบจากมนุษย์เป็นแค่การตบแบบสโลว์โมชั่นของมันเท่านั้นเมื่อหลินหลินลองเทียบเวลา 1 เดือนในมิติกับ 1 วันภายนอก มันมีความต่างที่เหลื่อมล้ำกับการรับภาพผ่านดวงตาของมนุษย์ทั่วไป นางเลือกทั้ง 3 คนนี้เป็นกลุ่มแรกที่นางจะทดลอง เพราะพวกเขาบางคนไม่มีพลังเวท หานเซียวมีแค่เวทระด
"ท่านปู่ขายอะไรเจ้าคะ"หลินหลินเอ่ยถามชายชราด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนผู้เฒ่าเฉียวค่อย ๆ เงยหัวขึ้นมองคนตรงหน้า ดวงตาที่แสนเศร้าหมองและเหนื่อยล้า แต่กลับมอบรอยยิ้มอบอุ่นให้หลินหลินภาพของชายชราผู้โดดเดี่ยว ทรุดโทรม และสิ้นหวัง สะท้อนเข้ามาในใจหลินหลินอย่างไม่อาจห้ามได้ นางเห็นถึงความอ่อนล้าในทุกอิริยาบถของเขา ร่างกายที่ผ่ายผอม เสื้อผ้าที่ขาดวิ่น และแผ่นผ้าเก่า ๆ ที่ปูรองหนังสือเพียงไม่กี่เล่ม บอกเล่าเรื่องราวของชีวิตที่ยากลำบาก"คุณหนู..."เสียงแหบพร่าของชายชราทำให้หลินหลินรู้สึกสะท้านในใจ มันเป็นเสียงที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดและความสิ้นหวัง"ข้าขายตำราขอรับ คุณหนูสนใจตำราหรือขอรับ... ตำราพวกนี้ข้าน้อยสะสมมันมาทั้งชีวิต ตอนนี้ชราแล้ว บุตรชายก็มาบาดเจ็บ จึงต้องนำมันมาขาย เชิญคุณหนูเลือกดูก่อนขอรับ"หลินหลินหยิบขึ้นมาเปิดผ่าน ๆ "ท่านปู่ ตำราท่านขายยังไงเจ้าคะ"ปู่เฉียวกลัวว่าวันนี้เขาจะไม่มีเงินไปจ่ายค่าหมอให้ลูกชาย จึงตัดใจลดราคาตำราลง"เรียนคุณหนูตามตรง ตำราพวกนี้ปกติข้าขายอยู่เล่มละ 2 ตำลึงขอรับ แต่บัดนี้จนใจต่อโชคชะตาแล้ว.... ข้าน้อยหวังเพียงเงินไปจ่ายค่าหมอค่ายาให้บุตรชาย คุณหนูให้เท่าไร
โครงการถุงยังชีพ มาถึงโลกใบนี้แล้ว นางจะริเริ่มเปลี่ยนแปลงที่นี่เอง" ไม่เป็นไรเจ้าค่ะเถ้าแก่ รบกวนท่านเตรียมสินค้าให้ข้า ข้าต้องการอย่างละ 9 กระสอบเจ้าค่ะ ท่านแค่เตรียมไม่ต้องไปส่ง ข้าจะเก็บเข้าถุงมิติเจ้าค่ะ"" ได้ขอรับ เชิญคุณหนู เชิญนั่งรอตรงนี้สักครู่ขอรับ"เถ้าแก่รีบไปจัดเตรียมเก้าอี้ให้หลินหลิน วันนี้เขาโชคดีจริง ๆ มีลูกค้ามาเหมาของจำนวนมาก แถมไม่กดราคาเขาด้วยที่ร้านเขาขายถูกจึงมีเศรษฐีหลายคนมาข่มขู่ว่าซื้อเยอะต้องลดราคา เขาไม่สามารถลดให้ได้จริง ๆ ร้านเขาเป็นร้านเล็ก ๆ ไม่ได้เอากำไรมากมาย ลูกค้าของเขาก็ชาวบ้านทั้งนั้น จะขายเอากำไรมากขึ้นก็สงสาร เลยได้แต่ขายราคานี้มาตลอดเถ้าแก่กำลังไล่ตรวจนับข้าวสารแต่ละชนิด สายตาของหลินหลินก็ไปปะทะกับผักดอง เกี่ยมไฉ่ ผักกาดดองเค็ม นางลุกขึ้นไปดูก็พบว่ามีผักกาดดองเปรี้ยว ซึงไฉ่ และหัวไชโป๊อยู่ด้วย หลินหลินบอกเถ้าแก่ว่านางเอา 3 อย่างนี้ด้วย ให้เหลือทิ้งไว้ที่ร้านอย่างละ 1 ถุงที่วางโชว์ (5 กิโล) นอกนั้นนางเอาหมด เถ้าแก่ก็น่ารัก รีบมาจัดการต่อให้นางเลยเถ้าแก่แม้จะสงสัยว่านางเหลือไว้ทำไม แต่เขาต้องรีบจัดของจึงยังไม่ได้ถามออกไปหลินหลินเดินดูเค
หลินหลินนั่งคุยกับป้าเจียงเพลิน เผลอลืมบุรุษ 3 คนที่นั่งรอนางอยู่หน้าเรือนไปเสียสนิท" ท่านป้า ข้าขอไปสั่งงานคนของข้าสักครู่นะเจ้าคะ" ฮูหยินเจียงยิ้มรับรู้ "เจ้าไปเถอะ เดี๋ยวสักพักแม่นมจางคงมาหาป้าที่จวนนี้เป็นแน่"" แม่นมจาง? เป็นแม่นมของป้าเอง ไว้ป้าจะแนะนำให้เจ้ารู้จัก นางเป็นคนที่จิตใจดีมากทีเดียว""เจ้าค่ะ" หลินหลินยิ้มหวานก่อนเดินออกมาหน้าเรือน เห็นท่านปูหลิวนั่งรออยู่ที่ใต้ต้นไม้ มีสือหย่งและหานเซียวนั่งขนาบข้าง พอพวกเขาเห็นนางก็รีบลุกและเดินมาหา" ขอโทษที่ให้รอนานเจ้าค่ะ" หลินหลินยื่นส่งเงิน ให้ทุกคนคนละ 5 ตำลึงเงินตามที่นางให้สัญญาไว้ " วันนี้พวกท่านกลับบ้านได้เลยนะเจ้าคะ และอย่าลืมหาที่ปลอดภัยถอดแหวนกับชุดเก็บไว้ใส่ในวันพรุ่งนี้ ก่อนมาหาข้า พรุ่งนี้ข้าจะจ้างพวกท่านอีก 1 วัน มีใครมาไม่ได้ไหมเจ้าคะ"" มาได้ขอรับ..." ทั้งสามตอบด้วยสีหน้าดีใจยิ้มกว้าง จะไม่ให้เขาดีใจได้อย่างไร รับงานนี้พวกเขาได้เงินมากถึง 10 ตำลึงภายใน 2 วันหลินหลินส่งห่อผ้าที่ข้างในมีซาลาเปาไส้ผัก ไส้หมู ไส้หมูแดง รวมๆ กันห่อละ 10 ลูก ให้พวกเขาทั้ง 3 คน " นำกลับไปให้คนที่บ้านกินนะเจ้าคะ และพรุ่งนี้เจอ
บทพิเศษเสี่ยวเฮย และ เสี่ยวหมี(หมีหิมะ)ภายในมิติ ทันทีที่หลินหลินจากไป เสี่ยวเฮยทรุดตัวลงกับพื้น น้ำตาไหลอาบแก้ม"ฮือๆ นายหญิง... ทำไม... ทำไมถึงทิ้งข้า"เสี่ยวเฮยคร่ำครวญด้วยความเสียใจเสี่ยวหมีเดินเข้ามาใกล้ "เสี่ยวเฮย เจ้าอย่าเสียใจไปเลย นายหญิงคงมีเหตุผลของนาง""เหตุผลอะไรกัน ข้าไม่เข้าใจ!" เสี่ยวเฮยร้องไห้โฮ "ข้ารักนายหญิง ข้าอยากอยู่กับนายหญิงตลอดไป"เสี่ยวหมีมองเสี่ยวเฮยด้วยความสงสาร "เสี่ยวเฮย... " เสี่ยวหมีลังเล "ข้า.. ข้าอ่านตำราโบราณออก""แล้วอย่าไร" เสี่ยวเฮยเงยหน้ามองเสี่ยวหมี"ตำราโบราณกล่าวไว้ว่า หากต้องกำจัดอสูรหิมะ ต้องระเบิดพลังจากภายในด้วยพลังระดับ 8 สองสาย และระดับ 9 หนึ่งสาย"เสี่ยวหมีอธิบายเสี่ยวเฮยขมวดคิ้ว "แล้วมันเกี่ยวอะไรกับนายหญิง""นายหญิงเป็นมนุษย์ นางมีพลังระดับ 9 ที่นายหญิงยกเลิกพันธะสัญญา ก็เพราะ... นางต้องการปกป้องเจ้า"เสี่ยวเฮยนิ่งอึ้ง "ปกป้องข้า?""ใช่ นางรู้ว่า หากเจ้ายังมีพันธะสัญญาอยู่ หากนางระเบิดพลังเจ้าจะตายไปด้วย "เสี่ยวหมีพูดด้วยน้ำเสียงเศร้า "นางรักเจ้ามาก เสี่ยวเฮย"เสี่ยวเฮยเบิกตากว้าง หัวใจของมันรู้สึกอบอุ่น ใน
ภายในจวนท่านแม่ทัพ บรรยากาศเต็มไปด้วยความตึงเครียดและความคาดหวัง เสียงร้องโอดโอยของหลินหลินดังเล็ดลอดออกมาจากห้องคลอดเป็นระยะๆ ทำให้เทียนชุนที่ยืนรออยู่ด้านนอกร้อนใจเป็นอย่างยิ่ง เขากำมือแน่น พยายามสะกดกลั้นความกังวลเอาไว้ แต่ก็ไม่อาจหยุดความคิดที่วนเวียนอยู่ในหัวได้"หลินเอ๋อร์ เจ้าต้องปลอดภัยนะ"เขาพึมพำกับตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่าบิดามารดาของทั้งสองฝ่ายก็อยู่ในอาการไม่ต่างกัน พวกเขานั่งรออยู่ที่ห้องโถงใหญ่ ใบหน้าเต็มไปด้วยความวิตกกังวล เสียงร้องของหลินหลินแต่ละครั้งทำให้หัวใจของพวกเขาแทบจะหยุดเต้น"ลูกต้องปลอดภัยนะ"มารดาของหลินหลินพึมพำภาวนา ทันใดนั้นเสียงร้องของทารกก็ดังขึ้น ทำลายความเงียบสงัดในจวน ทุกคนต่างเงยหน้าขึ้นมองประตูห้องคลอดด้วยความตื่นเต้นไม่นาน หมอตำแยก็เปิดประตูออกมาพร้อมกับรอยยิ้มกว้าง "ยินดีด้วยเจ้าค่ะ ฮูหยินคลอดลูกแฝดชายหญิง เป็นเด็กที่แข็งแรงมาก"เทียนชุนรีบพุ่งเข้าไปในห้องคลอดทันที เขาเห็นหลินหลินนอนอยู่บนเตียง ใบหน้าซีดเซียวแต่ก็เปื้อนไปด้วยรอยยิ้มแห่งความสุข ข้างกายนางมีทารกน้อยสองคนนอนอยู่เทียนชุนทรุดตัวลงข้างเตียง จับมือภรรยาไว้แน่น"หลินเอ๋อร์ เจ้าเก่งมาก"
หลินหลินค่อยๆ ลืมตาตื่นขึ้นมา พบว่าตัวเองอยู่ในอ้อมกอดที่คุ้นเคยของเทียนชุน ทันทีที่สติกลับคืนมา ภาพเหตุการณ์สุดท้ายก่อนหมดสติก็ฉายชัดขึ้นในห้วงความคิด เสียงระเบิดดังสนั่น ภาพดวงตาที่ทั้งสองมองมาที่นาง…น้ำตาไหลอาบแก้มหลินหลินอีกครั้ง ความเจ็บปวดของความสูญเสียกัดกินหัวใจของนางอย่างรุนแรง นางพยายามสะกดกลั้นเสียงสะอื้น แต่ก็ไม่สามารถหยุดยั้งมันได้"เสี่ยวเฮย... เสี่ยวหมี..."นางพึมพำชื่อของพวกมันซ้ำๆ ราวกับต้องการเรียกพวกเขากลับมาเทียนชุนตื่นขึ้นมาเมื่อรู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนจากร่างกายของภรรยา เขามองหลินหลินที่กำลังร้องไห้อย่างหนัก หัวใจของเขาเจ็บปวดไม่ต่างกัน เขาโอบกอดนางไว้แน่น พยายามปลอบโยน" หลินเอ๋อร์"เขาพูดเสียงแผ่วเบา "ทุกอย่างจบแล้ว"หลินหลินเงยหน้ามองสามี น้ำตาไหลอาบแก้ม "ข้า... ข้าทำไม่สำเร็จ"นางพูดเสียงสั่นเครือ "ข้าไม่สามารถปกป้องพวกเขาได้"เทียนชุนส่ายหน้า "ไม่ใช่ความผิดของเจ้า พวกเขาเลือกที่จะเสียสละตัวเองเช่นเจ้าเลือกที่จะสละตัวเองเพื่อพวกเรา""แต่..."หลินหลินยังคงร้องไห้ไม่หยุดเทียนชุนเช็ดน้ำตาให้ภรรยาอย่างอ่อนโยน "เสี่ยวเฮยและเสี่ยวหมีคงภูมิใจในตัวเอง ที่พวกเขา
หลินหลินรีบร้อนเข้าสู่มิติเพื่อเตรียมตัวรับมือกับภัยคุกคามครั้งใหญ่ แม้จะมีเวลาจำกัดเพียงสองชั่วยาม (สี่ชั่วโมง) แต่นางก็ไม่รอช้า มุ่งตรงไปยังหอตำราเวททันทีภายในหอตำรา บรรยากาศเงียบสงบและเคร่งขรึม อักษรโบราณสีทองเรียงรายอยู่บนผนังถ้ำสูงตระหง่าน หลินหลิน ค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับอสูรหิมะ สัตว์ในตำนานที่กำลังคุกคามพวกเขา ครั้งนี้อักษรไม่ได้พุงเข้ามาที่ตัวของนางแต่ปรากฏหนังสือโบราณเก่าแก่อสูรหิมะ... สัตว์ในตำนานที่ถือกำเนิดจากพายุหิมะอันรุนแรง ดูดกลืนพลังจากความหนาวเย็นจนกลายเป็นอสูรร้ายทรงพลัง มันออกตามล่านักเวทระดับ 9 เพื่อดูดกลืนพลังขั้นสุดท้ายของพวกเขาหลินหลินสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ตัวอักษรในตำราเต้นระริกราวกับจะตอกย้ำความจริงที่ว่า มีเพียงนางและสามีเท่านั้นที่อยู่ในระดับ 9 มือของนางเริ่มสั่นไหว ความกลัวกัดกินหัวใจนางพลิกหน้าตำราต่อไปอย่างรวดเร็ว ค้นหาวิธีที่จะหยุดยั้งอสูรตนนี้มีเพียงสายฟ้าฟาดลงกลางหัวใจ 9 ครั้งเท่านั้นที่จะสังหารมันได้ หรือ... การระเบิดพลังจากภายใน ต้องใช้พลังเวทระดับ9 หนึ่งขุม หรือระดับ 8 สองขุม ถึงจะจัดการกับอสูรหิมะตนนี้ได้หลินหลินหน้าซีดเผือด มือบางสั่นเทาจนเสี่ยวเ
"เราจะพักที่นี่เอาแรงก่อน" หลินหลินหันไปบอกกับทั้งสามคน ก่อนจะมอบน้ำทิพย์ให้พวกเขาคนละกระบอกนางใช้เวลาพูดคุยกับครอบครัวอีกหนึ่งเค่อ (30 นาที) ก่อนจะขอตัวกลับไปทำภารกิจต่อระบบแจ้งเตือนว่ายังมีผู้รอดชีวิตอีก 2 คน แต่ดวงตาตรวจสอบของนางกลับใช้การไม่ได้ในพายุหิมะที่รุนแรงเช่นนี้ นางต้องพึ่งดวงล้วนๆในการค้นหาพวกเขาหลินหลินและเหล่าทหารกลับมายังจวนแม่ทัพอีกครั้งครั้งนี้นางร่ายโล่เวทขึ้นมาเพื่อต้านทานพายุ นางจะเป็นผู้นำทัพหน้า ส่วนหลิวเคออยู่ซ้าย โหลกังอยู่ขวา และอิงหานคอยระวังหลัง ทุกคนต่างดึงพลังเวทของตนเองออกมาใช้อย่างเต็มที่เพื่อต่อสู้กับพายุที่โหมกระหน่ำพวกเขาเดินฝ่าพายุหิมะไปอย่างยากลำบาก หิมะหนาแน่นจนแทบมองไม่เห็นทางข้างหน้า ลมพัดกระหน่ำจนแทบจะปลิวไปตามลม หลายครั้งที่พวกเขาเกือบจะล้มลง แต่ก็ยังคงประคองกันและกันไว้ได้ตอนนี้พวกเขาพบกับภาพที่น่าสลดใจที่สุด...เท่าที่เคยพบเจอ สองตายายนอนกอดกัน ร่างกายของพวกเขาถูกปกคลุมไปด้วยหิมะหนา ราวกับกำลังหลับใหลอย่างสงบ แต่หลินหลินรู้ดีว่าพวกเขาจากไปแล้วหลินหลินทรุดตัวลงข้างๆ ร่างของสองตายาย น้ำตาไหลอาบแก้มของนางอย่างไม่อาจควบคุมได้ น
เวลาผ่านไปอย่างเชื่องช้า เทียนชุนยังคงโอบกอดหลินหลินไว้แนบอก ความรู้สึกภายในของเขาลึกล้ำเกินกว่าจะบรรยายออกมาเป็นคำพูดในฐานะสามี เขาอยากปกป้องภรรยาสุดที่รักจากอันตรายข้างนอก แต่ในฐานะแม่ทัพ เขาก็ไม่อาจละทิ้งประชาชนในแดนเหนือได้เช่นกัน เขาติดอยู่ในวังวนของความขัดแย้งภายในใจ ปล่อยนางไปก็ห่วง กักตัวนางไว้ก็ผิดต่อหน้าที่หลินหลินที่จมอยู่ในห้วงความคิดของตนเอง เริ่มตั้งสติและรวบรวมความกล้า นางไม่ใช่คนที่จะยอมแพ้อะไรง่ายๆ และการเดิมพันครั้งนี้ถือว่าคุ้มค่าที่จะเสี่ยงเพื่อคนที่นางรักหลินหลินค่อยๆ ผละออกจากอ้อมกอดที่อบอุ่นของสามี เงยหน้าขึ้นสบตาเขาอย่างแน่วแน่"ท่านพี่" นางเอ่ยเสียงหนักแน่น"สำหรับข้า ท่านคือโลกทั้งใบ ดังนั้นข้าจะทำภารกิจนี้ให้สำเร็จ กลับมาเคียงข้างท่านให้ได้ ข้าสัญญา"แววตาของหลินหลินเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นและความรักที่ล้นปรี่ เทียนชุนมองลึกลงไปในดวงตาคู่นั้น เขาเห็นถึงความแข็งแกร่งและความเสียสละที่ซ่อนอยู่ภายใน แม้ใจจะแหลกสลายที่ต้องปล่อยนางไป แต่เขาก็รู้ดีว่าไม่มีสิ่งใดหยุดยั้งภรรยาของเขาได้เขาพยักหน้ารับอย่างเชื่องช้า รู้สึกถึงก้อนสะอื้นที่จุกอยู่ในลำคอ "พี่จะรอเจ้า...
ยามจื่อ (00.00 น.) ความมืดมิดปกคลุมราตรีไร้เสียง มองเห็นเพียงแสงเทียนริบหรี่จากบ้านเรือนบางหลัง ทว่าในเงามืดนั้น มีกลุ่มเงาเคลื่อนไหวอย่างว่องไวและเงียบเชียบ นำโดยหลิวเคอ และทหารฝีมือดีของหลินหลินอีกหลายสิบนาย ด้วยวรยุทธ์และพลังเวทที่สูงส่งถึงระดับ 7 พวกเขาเคลื่อนไหวราวกับภูตพราย ไร้ร่องรอย ไม่มีใครแม้แต่จะรู้สึกถึงการมีอยู่ของพวกเขา แต่ละคนล้วนมีถุงมิติขนาดเล็กที่หลินหลินกว้านซื้อมาจากระบบมากถึง 500 ใบบ้านเรือนทุกหลังในเมืองถูกเยี่ยมเยือนโดยกลุ่มเงาเหล่านี้ พวกเขาเข้าออกอย่างรวดเร็วและเงียบเชียบ ของมีค่าทุกชิ้นถูกกวาดลงถุงมิติอย่างรวดเร็วและแม่นยำ ไม่ว่าจะเป็นทองคำ เงิน เครื่องประดับ หรือของสำคัญอื่นๆ ล้วนถูกเก็บลงถุงมิติข้างตัวยามหยิน (03.00น.)ไม่มีบ้านเรือนหลังไหนที่พวกเขาไม่ไปเยือน ทุกอย่างดำเนินไปอย่างเป็นระบบและรวดเร็ว ราวกับปฏิบัติการลับที่ได้รับการวางแผนมาอย่างดีรุ่งเช้าวันใหม่มาเยือนพร้อมกับความโกลาหล เมื่อชาวเมืองทุกหลังคาเรือนตื่นขึ้นมาพบว่าของมีค่าภายในบ้านหายไปอย่างไร้ร่องรอย! แม้แต่โต๊ะรับแขกไม้เนื้อดีก็ยังอันตรธานไป สร้างความตื่นตระหนกและหวาดกลัวไปทั่วหลินหลินคาดกา
ขณะที่หลินหลินกำลังมุ่งหน้าไปยังถ้ำแห่งต่อไป นางก็สำลักเลือดออกมาจนเปรอะเปื้อนอาภรณ์ ทหารที่เห็นเหตุการณ์ต่างตกใจ"นายหญิง!!"หลินหลินยกมือขึ้นเช็ดคราบเลือดอย่างไม่ใส่ใจ "ไม่เป็นไร ข้าไม่เป็นอะไร"นางฝืนยิ้มให้พวกเขา แต่ในใจกลับรู้สึกหนักอึ้ง พลังเวทในตัวนางเหลือน้อยเต็มที การสร้างปราการครั้งใหญ่เมื่อครู่นี้ดูดพลังของนางไปมากมาย หลินหลินกัดฟันข่มความเจ็บปวดที่แล่นขึ้นมาในอก พยายามรักษาท่าทีให้นิ่งสงบที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่นางรู้ดีว่าร่างกายของนางกำลังส่งสัญญาณเตือน"ไม่เป็นไรหลินหลิน เจ้าจะไม่เป็นอะไร"หลินหลินพูดเสียงแผ่วเบา เพื่อส่งกำลังใจให้ตัวเองข้าจะต้องเข้มแข็ง ข้าต้องทำได้ นางบอกตัวเองในใจภาพความฝันที่สองเมื่อคืนยังคงตามหลอกหลอนนาง ความรู้สึกผิดที่ไม่อาจปกป้องทุกคนได้ยังคงกัดกินหัวใจของนาง นางไม่อาจปล่อยให้เหตุการณ์เช่นนั้นเกิดขึ้นอีกในความฝันนั้น นางเห็นตัวเองเลือกสร้างปราการคุ้มกันเมืองแดนเหนือเอาไว้ เพราะคิดว่าเพียงแค่พายุผ่านไปทุกอย่างจะกลับมาเป็นปกติ ค่ายทหารถูกพายุถล่มจนพังพินาศ และเมื่อพายุสงบลง กองกำลังศัตรูก็บุกเข้าโจมตีทันที แม้ว่าในท้ายที่สุด นางแล
เทียนชุนแทบไม่ได้ฟังที่หลินหลินพูด เขาจดจ้องอยู่แต่กับเรือนร่างตรงหน้า เทียนชุนประกบจูบหญิงสาวอย่างโหยหา หลายวันมานี้เขาคิดถึงนางแทบขาดใจ เมื่อคืนที่เห็นนางเหนื่อยจึงไม่อยากรบกวนนาง อยากให้นางได้พักผ่อน แต่ไม่คิดว่าเช้ามาเขาจะได้อาหารเช้าที่แสนวิเศษ "ท่านพี่...อ้า.. "นิ้วสากลูบไล้เนื้ออวบอูมอย่างช่ำชอง นิ้วหนาชำแหละกลีบชมพูเข้าไปในช่องทางรักอย่างโหยหา..เขาชักนิ้วเข้าออกระรัวจนร่างบางหวีดร้อง....."อะๆๆๆ..อ้า! " ร่างบางบิดเร้าด้วยความเสียว เทียนชุนดึงนิ้วที่เปียกย้อมด้วยน้ำรักของสตรีตรงหน้าออกมา เขาชูให้นางดูก่อนใช้ลิ้นเลียนิ้วหนา หลินหลินมองภาพนั้นด้วยหัวใจที่สั่นไหว เขาดูเซ็กซี่ขยี้ใจนางมาก..."อ้า... "ร่างกายเริ่มร้อนรุ่มหนัก เทียนชุนควักท่อนเอ็นที่พองโตออกมาชักรูดสองสามทีก่อนเสียบอัดเข้าไปจนมิดด้าม"อ้า..หลินเอ๋อร์... "ร่างหนาครางต่ำ..."อืมมมม!!! "พั่บ..พั่บ..พั่บ..พั่บ..เสียงเนื้อกระทบกันดังกึกก้องห้องนอน หลินหลินตัวโยกไปตามแรงกระแทกของสามี"อ๊ะ!อ๊ะ!อ๊ะ!อ๊ะ! งื้อ... ""ใหญ่มากท่านพี่ของท่านใหญ่มาก..." เทียนชุนที่ได้ยินภรรยา