แชร์

บทที่11

last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-12 12:20:47

"500 เหรียญทองก็ย่อมได้... แต่มีข้อแม้หนึ่งข้อ ข้าจะมั่นใจได้อย่างไรว่าเจ้าจะซื้อขายกับข้าอีกครั้ง"   

เทียนชุนเอ่ยเสียงเรียบ แต่แววตาคมกริบจับจ้องหลินหลินไม่คลาดสายตาราวกับจะมองทะลุผ่านใบหน้าของนาง

ผู้ดูแลแทบเป็นลม... กำไรหายไปอีก 57 เหรียญทอง ทำไมนายท่านยิ่งเจรจามันกลับยิ่งน้อยลง หรือคนโง่ ๆ อย่างเขาจะไม่เข้าใจการค้ากันนะ.....

หลินหลินครุ่นคิด ตอนแรกนางแค่จะมาเหมาสินค้าเข้าระบบ ไม่คิดผูกขาดกับใคร...

"เรียนคุณชายตามตรง พรุ่งนี้.. ข้ากำลังจะออกเดินทางไปทางใต้ ไม่ได้อยู่เมืองนี้ ไม่ทราบว่าท่านมีร้านอยู่ทางใต้บ้างไหมเจ้าคะ"

เทียนชุนชะงักไปเล็กน้อย น่าเสียดายที่นางจะไม่ได้อยู่ที่เมืองนี้แล้ว และอีก 2 วัน  ตัวเขาเองก็ต้องออกเดินทางขึ้นเหนือ

"ร้านค้าตระกูลเย่วมีหลายสาขาทั่วทั้งแคว้น"

เสียงเข้มเอ่ยขึ้น เหมือนมีความไม่พอใจเจืออยู่เล็กน้อย

"เจ้าจะลงใต้ไปเมื่อใด"

"ข้าจะไปเหมาสินค้าอีก 2-3 ร้านเจ้าค่ะ และจะออกเดินทางพรุ่งนี้เลยเจ้าค่ะ"

" ต้องการสินค้ามากมายขนาดนั้น ...เจ้าจะเปิดร้านขาย? "

"ข้าไม่ได้จะเปิดร้านเจ้าค่ะ ข้าแค่โชคดีที่มีลูกค้าเป็นพวกพ่อค้าต่างแคว้น ของทั้งหมดมีคนต้องการซื้ออยู่แล้วเจ้าค่ะ ไม่ได้เปิดขายทับการค้าผู้ใดแน่นอนเจ้าค่ะ"

“ข้าไม่ได้คิดแบบนั้น....”

 เทียนชุนเป็นคนพูดน้อย ไม่เคยสานสัมพันธ์กับสตรีนางใด เพราะเขาไม่ชอบที่พวกนางเห็นเขาเป็นบ่อเงินบ่อทอง ไม่คิดจะหาแต่อยากครอบครอง ใจเขามันรังเกียจสตรีอย่างนั้นเป็นที่สุด ต่างจากนาง ...คนที่นั่งอยู่ตรงหน้า

"เอาอย่างนี้เจ้าคะ ท่านลดให้ข้าที่ 530 เหรียญทอง อีก 27 เหรียญทอง หากข้าเดินทางไปถึงสาขาทางใต้ ข้าจะไปเหมาซื้อแบบนี้อีก ถึงตอนนั้นท่านค่อยลดให้ข้าเพิ่มจากส่วนลดเดิมอีก 27 เหรียญทอง ท่านเห็นว่าเป็นอย่างไรเจ้าคะ"

เทียนชุนพยักหน้า มือหนาล้วงเข้าอกเสื้อส่งหยกให้นาง

 "...เจ้าเอาอันนี้ไป หากไปถึงทางใต้แล้วเจอร้านตระกูลเย่ว ให้เจ้าแสดงหยกนี้กับผู้ดูแล เขาจะเข้าใจเอง"

ผู้ดูแลเก็บอาการมือไม้สั่นไว้ ตอนนี้เขาแทบจะมุดลงพื้นไม้แล้ว.... นายท่านถึงกับให้หยกประจำตัว!

หลินหลินรับหยกมาพลิกดู.... เนื้อหยกสีดำเงางามแกะสลักอักษรคำว่า หยาง  ได้งดงามมาก หากนำไปขายคงได้ราคาดี...

" ขอบคุณคุณชายที่ขายสินค้าให้ข้า ข้าจะต้องไปอุดหนุนร้านค้าของท่านอีกแน่นอนเจ้าค่ะ"

 รอยยิ้มงดงามถูกส่งไปให้บุรุษหน้านิ่งตรงหน้า

นางคงไม่รู้ว่าเขาใจเต้นแรงแค่ไหนกับรอยยิ้มของนาง แม้ในใจจะตื่นเต้นเพียงใด แต่ใบหน้ากลับเรียบเฉย..เทียนชุนมองหยกในมือของหญิงสาวครู่หนึ่ง ก่อนยกยิ้ม  คงต้องแล้วแต่วาสนาแล้ว

หลินหลินจ่ายเงินที่เหลือและเก็บของเข้าถุงมิติ โดยมีปู่หลิวและพนักงานของร้านคอยช่วยเหลือ เก็บไม่นานทุกอย่างก็เรียบร้อย หลินหลินจึงส่งเงินให้ผู้ดูแลและพนักงานเล็กน้อยเป็นขวัญน้ำใจ

ปู่หลิวแยกตัวไปแจ้งหานเซียวให้มารับคุณหนูข้างหน้าร้าน ระหว่างรอรถม้า หลินหลินก็เห็นแม่ลูกคู่หนึ่งสวมใส่ชุดเก่า ๆ นั่งกอดกันอยู่ฝั่งตรงข้าม พวกนางนั่งอยู่ตรงซอกเล็ก ๆ

 ผู้เป็นมารดาเช็ดมือกับชุดของนาง ก่อนจะบิหมั่นโถวลูกเล็กให้เด็กน้อยกิน เด็กน้อยอ้าปากรับโดยไม่ได้รู้เลยว่า ชิ้นที่เด็กน้อยได้กินนั้นเกือบจะทั้งหมดของหมั่นโถวชิ้นนั้น

ภาพตรงหน้าทำให้หัวใจของหลินหลินรู้สึกปวดร้าว ความหิวโหยในแววตาของเด็กน้อยและความเสียสละของผู้เป็นแม่อัดแน่นอยู่ในอกของนาง

บางครั้งคนมีมากก็มีมายล้น ส่วนคนที่ไม่มีก็ไม่มีเลยจริงๆ!

หลินหลินเดินเข้าไปหยุดอยู่ตรงหน้าของทั้งสองอย่างแผ่วเบา นางนั่งยองๆ ให้อยู่ระดับเดียวกันกับแม่ลูกคู่นี้ พยายามไม่ให้สร้างความตกใจหรือคุกคามพวกเขา ใบหน้าของนางประดับไปด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน ทว่าแววตาของนางกลับฉายแววเศร้าสร้อยเมื่อเห็นภาพตรงหน้า

ผู้เป็นมารดาคงตกใจที่มีคนมานั่งตรงหน้า จึงรวบตัวลูกสาวมากอดไว้แน่น ร่างกายของนางสั่นเทาเล็กน้อย สายตาที่มองมามีแต่ความหวาดระแวงและหวาดกลัวต่อคนแปลกหน้า

หลินหลินค่อยๆ หยิบซาลาเปาไส้หมูลูกใหญ่  ที่นุ่มฟูและส่งกลิ่นหอมเย้ายวนออกมาจากมิติ นางยื่นมันออกไปให้ 2 ลูก แต่ไม่มีใครกล้ายื่นมือมารับ นางจึงวางซาลาเปาไว้บนห่อผ้าเล็ก ๆ วางไว้ตรงหน้าผู้เป็นมารดา

"ข้าให้ หวังว่ามันคงจะพอช่วยเหลือท่านได้..."

หลินหลินลุกขึ้นยืนพร้อมกับส่งยิ้มให้ทั้งสองอีกครั้ง ก่อนจะหันหลังเดินจากไป เป็นจังหวะเดียวกับที่รถม้ามาถึงพอดี นางก้าวขึ้นรถม้าเพื่อมุ่งตรงไปร้านเครื่องประดับอีก 2 ร้าน โดยไม่เห็นว่ามีสายตาคมที่มองมาจากชั้น 3 ของร้านที่นางเพิ่งจากมา

บนชั้นสามของร้านเครื่องประดับ เทียนชุนยืนมองภาพนั้นจากหน้าต่างด้วยความรู้สึกแปลกใหม่ในใจ 

สตรีผู้นี้...นางมีเมตตาต่อคนรอบข้าง เขาไม่เคยเห็นใครที่มีจิตใจงดงามเช่นนี้มาก่อน

แววตาของเขาจับจ้องไปยังร่างของหลินหลินที่ค่อยๆ หายลับไปกับรถม้า ความรู้สึกบางอย่างก่อตัวขึ้นในใจของเขา เป็นความรู้สึกที่เขาไม่เคยสัมผัสมาก่อน เป็นความรู้สึกที่เขาก็ไม่เข้าใจ...

"ให้คนสืบเรื่องของนางมาอย่างละเอียด"

 เทียนชุนสั่งเสียงเข้ม ก่อนที่เงาหนึ่งจะหายวับไปในความมืด

เย่วเทียนชุนถอดแหวนเวทออก เผยให้เห็นรูปลักษณ์ที่แท้จริงของเขา บุรุษรูปงามที่หาจับตัวได้ยาก เขาเอามือลูบหยกอีกชิ้นที่คล้ายกันแต่อันนี้สลักคำว่า "เย่ว" ไว้ หยกที่เขาให้นางไปมันคือหยกคู่ มารดาเคยกล่าวว่าหยกชิ้นนั้นมีความพิเศษในตัวของมันอยู่...

 เมื่อใดที่ลูกชายของแม่เจอสตรีที่อยากใช้ชีวิตร่วมกัน จงมอบหยกนี้ให้แก่นาง หากนางคือคู่ของเจ้า หยกสองชิ้นนี้จะเหนี่ยวรั้งกันไว้ไม่ให้พรากจากกัน แต่หากนางไม่ใช่คู่ครองของเจ้า หยกนี้จะกลับคืนสู่เจ้าเอง

เขาอายุจะ 26 แล้ว... พบเจอหญิงงามล่มเมืองมานักต่อนัก ยังไม่เคยมีใครที่ทำให้เขาใจเต้นแรงได้อย่างนาง เขารู้สึกคุ้นเคยกับดวงตาคู่นั้นอย่างบอกไม่ถูก... แม้ใบหน้าจะไม่เหมือนกับสตรีที่อยู่ในใจเขา แต่เขาเชื่อสัญชาตญาณของตนเอง หัวใจเขาไม่น่าผิดพลาด และเขาจะลองเชื่อมารดาดูสักครั้ง

  "จะใช่นางหรือไม่นะ? "

 เขาพึมพำกับหยกในมือ ราวกับหวังว่ามันจะตอบคำถามที่ค้างคาใจ

เมื่อหลินหลินจากไปแล้ว ผู้เป็นแม่รีบหยิบซาลาเปาส่งให้ลูกสาวตัวน้อยทันที ก่อนที่ใครจะมาเห็นแล้วแย่งมันไป นางไม่ได้กินอะไรที่อยู่ท้องมานานหลายวันแล้ว

เด็กน้อยเมื่อเจอซาลาเปาร้อน ๆ ลูกใหญ่อยู่ตรงหน้าก็กัดไปเต็มคำ

 "อืมม... "

"อร่อยเจ้าค่ะท่านแม่ มีเนื้อด้วย อร่อยมากเลย  ท่านแม่รีบกินเร็ว ๆ เข้า"

สองแม่ลูกนั่งกินซาลาเปากันอย่างมีความสุข นี่เป็นอาหารที่ดีที่สุดสำหรับชีวิตนางเลย

ตอนนี้นางอยากขอบคุณคุณหนูท่านนี้เหลือเกิน แต่ก็ไม่ทันแล้ว นางผิดเอง ตอนนั้นนางกลัว กลัวว่าใครจะมาจับพวกเราสองแม่ลูกไปขาย นางไม่คิดไม่ฝันว่าจะมีใครยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือนางสองคนแม่ลูก จึงไม่ทันได้ขอบคุณนาง

เมื่อเห็นห่อผ้าเล็ก ๆ นางจึงเปิดดู แต่ต้องรีบปิดและยัดใส่เข้าอกเสื้อ อุ้มลูกน้อยวิ่งหายไปจากตรงนั้น ภายในห่อผ้านั้นมีเหรียญทองส่องประกายแวววาวอยู่หนึ่งเหรียญ มันคือความหวัง คือแสงสว่างที่ส่องนำทางให้พวกนางในวันที่มืดมน

หลินหลินนึกถึงสองแม่ลูกนั้น นางอยากช่วยมากกว่านี้ แต่นางกำลังจะเดินทาง 

"หวังว่าเงิน 1 เหรียญทองและของกินเล็กน้อยจะพอช่วยนางสองแม่ลูกให้มีทางรอดพ้นจากปัญหาในชีวิตไปได้ "

 เพราะซาลาเปาผักที่นี่ลูกละ 2 อีแปะ ไส้หมูลูกละ 5 อีแปะ บะหมี่ชามละ 8 อีแปะ หากนางรู้จักใช้ ก็จะมีกินมีใช้และใช้ชีวิตโดยไม่ลำบาก

หลินหลินมองออกไปนอกรถม้า ชีวิตผู้คนไม่ว่าโลกก่อนหรือที่นี่...การที่คนจน  จะลืมตาอ้าปากมันยากเย็นแสนเข็น

ตอนนี้นางมีเงินมากมาย มีมิติวิเศษคอยช่วยเหลือ การแบ่งปันเล็กๆน้อยๆนี้ เป็นสิ่งที่ไม่เหนือบ่ากว่าแรงเลยด้วยซ้ำ แต่นางยังถือคติไม่ช่วยพวกเขาจนเคยตัว

นางเคยคิดเล่นๆว่า บนโลกนี้มีคนเป็นล้านๆคน การที่นางมาพบเจอสองแม่ลูกนั้นย่อมถูกลิขิตไว้แล้ว...ดังนั้นหากนางพบเจอคนที่ต้องการความช่วยเหลือ นางจะไม่ลังเลที่จะช่วยพวกเขา

 เพราะของที่อยู่ในมิติก็ล้วนแต่ไม่ใช่ของๆนางเช่นกัน  นี่น่าจะยามซื่อ (09.30) แล้ว 

"ปู่หลิว ที่นี่มีร้านอาหารอะไรแนะนำบ้างเจ้าคะ ข้าอยากแวะไปชิมอาหารก่อนเจ้าค่ะ"

"มีเหลาฝู่หรงขอรับ เป็นเหลาที่โด่งดังของเมืองนี้ขอรับ คุณหนูอยากไปไหมขอรับ"

"ไปเจ้าค่ะ รบกวนท่านจองห้องส่วนตัวนะเจ้าคะ และให้หานเซียวกับสือหย่งไปทานกับเราด้วยเลยเจ้าคะ"

สีหน้าของปู่หลิวบ่งบอกถึงความไม่เหมาะสม นางจึงต้องพูดต่อว่า

 "...ข้าไม่สนใจใครจะมองว่าอย่างไรเจ้าคะ เอาตามนี้ไปกินกันทั้งหมดนี่แหละเจ้าคะ"

"ได้ขอรับ.. ข้าน้อยจะทำตามที่คุณหนูสั่งขอรับ"

 ปู่หลิวเปิดม่านบอกให้หานเซียวแวะเหลาฝู่หรงก่อนไปร้านขายเครื่องประดับ

การที่นางให้ทุกคนไปกินข้าวพร้อมกันเพราะนางอยากที่จะพิสูจน์บางอย่าง นางเพิ่งคิดได้เมื่อกี้และต้องการที่จะทดสอบกับทั้ง 3 ก่อนเลย

รถม้าวิ่งไปได้ไม่นานก็ชะลอความเร็วลง ปู่หลิวให้หลินหลินรอบนรถม้าก่อน เขาเข้าไปจัดการจองห้องเสร็จก็มาตามนางลงไป

หลินหลินมองร้านอาหารที่ถูกตกแต่งอย่างประณีต มีการประดับโคมแดงเสริมความมงคล โต๊ะเก้าอี้ทางร้านใช้ไม้สีน้ำตาลเข้มให้บรรยากาศที่ลงตัว ทางขึ้นบันไดกว้างขวางไม่คับแคบ บนชั้น 2 มีความเป็นส่วนตัว

ทางร้านกั้นเป็นห้องติด ๆ กัน ภายในมีโต๊ะอาหารอยู่ตรงกลาง ที่เสริมให้ห้องดูโล่งโปร่งสบายคือมีหน้าต่างที่สามารถเปิดรับลมและมองลงไปข้างล่างได้

หลินหลินชอบลวดลายการลงภาพบนผนังกั้นห้อง ห้องที่นางอยู่นี้เป็นลวดลายของดอกเหมยแดง มีนกตัวน้อย ๆ กำลังโบยบิน และเกาะอยู่ตามกิ่งดอกเหมย

หานเซียวและสือหย่งเดินเข้ามาอย่างเกร็งๆ พวกเขาไม่เคยมากินเหลาอาหารแบบนี้ เพราะอาหารที่นี่ขึ้นชื่อว่าแพงมาก เกินกำลังที่พวกเขาจะมีปัญญามากินได้

เสี่ยวเอ้อ พาทั้ง 4 คน นั่งตรงโต๊ะอาหาร หลินหลินสั่งอาหารขึ้นชื่อของทางร้านมา 6 อย่าง ข้าว 4 ถ้วย ที่นางอยากลองคือเป็ดย่าง เพราะตอนนี้ในระบบนางมีเป็ดย่างอยู่เต็มช่อง นางอยากเปิดร้านขายอาหาร เป็ดย่าง คือหนึ่งในรายการที่นางคิดจะขาย ดังนั้นก็ต้องสำรวจก่อนว่าเหลาที่โด่งดังนั้นฝีมือเป็นเช่นไร

หลินหลินเห็นทุกคนนั่งหลังตรง ตัวเกร็งก็อดขำไม่ได้

 "พวกท่านไม่ต้องเกร็งเจ้าค่ะ ทำตัวตามสบาย ข้าแค่หิวเลยแวะมาทานอาหารเท่านั้น"

หลังจากพูดจบ หลินหลินเดินไปดูบรรยากาศเบื้องล่างตรงหน้าต่าง เผื่อให้ทั้ง 3 คนผ่อนคลาย นางเข้าใจ นางเป็นคนแปลกหน้า เพิ่งพบเจอครั้งแรกก็พาพวกเขามาในที่ที่พวกเขาไม่เคยได้มา ย่อมต้องเกร็งเป็นธรรมดา

ผิดจากปู่หลิวที่ดูปล่อยตัวตามสบายหลังจากที่เห็นนางใช้เงินขนาดนั้น เอ๊ะ... หรือว่าหานเซียวกับสือหย่งจะกลัวว่านางไม่มีเงินจ่าย!!! คงไม่มั้ง...

หลินหลินคิดอะไรเพลิน ๆ เสี่ยวเอ้อก็ยกอาหารเข้ามาเต็มโต๊ะ นางเดินกลับมาที่โต๊ะ เมื่อนั่งลงจับตะเกียบ คนทั้ง 3 กลับลุกขึ้นพร้อมกันอย่างพร้อมเพรียง

แค่นั้นยังไม่พอ พวกเขายังถอยหลังออกไปอีก 1 ก้าวยืนก้มหน้าอย่างเจียมเนื้อเจียมตัว  นางตกใจกับความสามัคคีนี้จนถือตะเกียบค้างไว้อย่างนั้น....

"พวกท่านลุกทำไมเจ้าคะ มานั่งกินได้เลย"

หลินหลินเห็นทั้ง 3 คนไม่ขยับ ก็วางตะเกียบลง

 "ปู่หลิว หากพวกท่านไม่กินเป็นเพื่อนข้า ก็ให้เสี่ยวเอ้อมาเก็บเงินค่าอาหารเลยเจ้าค่ะ ข้าไม่กินแล้ว"

หลินหลินทำท่าจะลุกขึ้น...

"เดี๋ยว ๆ ขอรับคุณหนู คุณหนูเข้าใจผิดขอรับ ข้าน้อยแค่ลุกเพื่อให้ท่านได้ทานก่อนขอรับ"

สือหย่งรีบกล่าวออกมาจนลิ้นพันกัน

"อาหารมากมายตรงหน้า คุณหนูยังไม่ทันได้แตะต้องสักคำ"

"เชิญพวกท่านนั่งกินเลยเจ้าค่ะ ข้าเป็นคนทานน้อย แต่ชอบลอง ขอแค่อย่างละคำก็พอเจ้าค่ะ"

หลินหลินตักทุกอย่างอย่างละคำแยกออกมาไว้ในจานเปล่าที่ทางร้านมีให้ ส่วนต้มปลาก็ตักแยกใส่ถ้วยชามใบเล็กไว้ ทั้ง 3 เห็นดังนั้นจึงเดินเข้ามานั่งล้อมโต๊ะอีกครั้ง

หลินหลินมองทุกคนที่กำลังใช้ช้อนตักอาหารคำแรกขึ้นมา เมื่อจดจำว่าวินาทีนี้ทุกคนกำลังทำอะไร ปู่หลิวหยิบช้อน หานเซียวจิบชา สือหย่งกำลังเอื้อมตักปลาชิ้นหนึ่ง

ถึงเวลาที่นางจะทดสอบมิติแล้ว 1 2 3 เข้ามิติ.... พรึ่บ!

หลินหลินเข้ามิติมาเพื่อดูว่าตัวนางจะหายไปจากตรงนั้นไหม นางดูนาฬิกา ตอนนี้ 10 วิแล้ว!

บทที่เกี่ยวข้อง

  • หลินหลินกับระบบมิติผันผวน   บทที่12

    หลินหลินเข้ามิติมาเพื่อดูว่าตัวนางจะหายไปจากตรงนั้นไหม นางดูนาฬิกา ตอนนี้ 10 วิแล้วที่นางอยู่ในมิตินางลุ้นมาก สิ่งที่นางคิดไม่น่ามีอะไรผิดพลาด มันเป็นทฤษฎีของแมลง นักวิทยาศาสตร์มีการวิจัยเกี่ยวกับความสามารถอันน่าทึ่งของแมลงไว้ว่า แมลงบางชนิดสามารถบินหลบสายฝนได้โดยที่ตัวมันไม่เปียกด้วยซ้ำ!ซึ่งแมลงพวกนี้มีสายตาที่ไวมากเป็นพิเศษ แถมยังมีปฏิกิริยาตอบสนองแบบฉับพลันอีกด้วย ซึ่งการตอบสนองของมันไวกว่ามนุษย์ถึง 10 เท่า!แมลงบางชนิดจะมีดวงตาที่ขาและมีดวงตาขนาดใหญ่ ซึ่งประกอบด้วยเลนส์ขนาดเล็กจำนวนมากมายเรียงกัน เลนส์เหล่านี้ทำหน้าที่รับภาพและประมวลผลออกมา ซึ่งมีความไวมากกว่ามนุษย์มากถึง 4 เท่า บวกกับมันสามารถทำความเร็วในการบินได้ 8 กม. ต่อชม. นั้นทำให้มันมองเห็นภาพเป็นแบบสโลว์โมชั่น ความสามารถการมองเห็นแบบสโลว์โมชั่นของมัน ทำให้การตบจากมนุษย์เป็นแค่การตบแบบสโลว์โมชั่นของมันเท่านั้นเมื่อหลินหลินลองเทียบเวลา 1 เดือนในมิติกับ 1 วันภายนอก มันมีความต่างที่เหลื่อมล้ำกับการรับภาพผ่านดวงตาของมนุษย์ทั่วไป นางเลือกทั้ง 3 คนนี้เป็นกลุ่มแรกที่นางจะทดลอง เพราะพวกเขาบางคนไม่มีพลังเวท หานเซียวมีแค่เวทระด

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-12
  • หลินหลินกับระบบมิติผันผวน   บทที่13

    "ท่านปู่ขายอะไรเจ้าคะ"หลินหลินเอ่ยถามชายชราด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนผู้เฒ่าเฉียวค่อย ๆ เงยหัวขึ้นมองคนตรงหน้า ดวงตาที่แสนเศร้าหมองและเหนื่อยล้า แต่กลับมอบรอยยิ้มอบอุ่นให้หลินหลินภาพของชายชราผู้โดดเดี่ยว ทรุดโทรม และสิ้นหวัง สะท้อนเข้ามาในใจหลินหลินอย่างไม่อาจห้ามได้ นางเห็นถึงความอ่อนล้าในทุกอิริยาบถของเขา ร่างกายที่ผ่ายผอม เสื้อผ้าที่ขาดวิ่น และแผ่นผ้าเก่า ๆ ที่ปูรองหนังสือเพียงไม่กี่เล่ม บอกเล่าเรื่องราวของชีวิตที่ยากลำบาก"คุณหนู..."เสียงแหบพร่าของชายชราทำให้หลินหลินรู้สึกสะท้านในใจ มันเป็นเสียงที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดและความสิ้นหวัง"ข้าขายตำราขอรับ คุณหนูสนใจตำราหรือขอรับ... ตำราพวกนี้ข้าน้อยสะสมมันมาทั้งชีวิต ตอนนี้ชราแล้ว บุตรชายก็มาบาดเจ็บ จึงต้องนำมันมาขาย เชิญคุณหนูเลือกดูก่อนขอรับ"หลินหลินหยิบขึ้นมาเปิดผ่าน ๆ "ท่านปู่ ตำราท่านขายยังไงเจ้าคะ"ปู่เฉียวกลัวว่าวันนี้เขาจะไม่มีเงินไปจ่ายค่าหมอให้ลูกชาย จึงตัดใจลดราคาตำราลง"เรียนคุณหนูตามตรง ตำราพวกนี้ปกติข้าขายอยู่เล่มละ 2 ตำลึงขอรับ แต่บัดนี้จนใจต่อโชคชะตาแล้ว.... ข้าน้อยหวังเพียงเงินไปจ่ายค่าหมอค่ายาให้บุตรชาย คุณหนูให้เท่าไร

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-12
  • หลินหลินกับระบบมิติผันผวน   บทที่14

    โครงการถุงยังชีพ มาถึงโลกใบนี้แล้ว นางจะริเริ่มเปลี่ยนแปลงที่นี่เอง" ไม่เป็นไรเจ้าค่ะเถ้าแก่ รบกวนท่านเตรียมสินค้าให้ข้า ข้าต้องการอย่างละ 9 กระสอบเจ้าค่ะ ท่านแค่เตรียมไม่ต้องไปส่ง ข้าจะเก็บเข้าถุงมิติเจ้าค่ะ"" ได้ขอรับ เชิญคุณหนู เชิญนั่งรอตรงนี้สักครู่ขอรับ"เถ้าแก่รีบไปจัดเตรียมเก้าอี้ให้หลินหลิน วันนี้เขาโชคดีจริง ๆ มีลูกค้ามาเหมาของจำนวนมาก แถมไม่กดราคาเขาด้วยที่ร้านเขาขายถูกจึงมีเศรษฐีหลายคนมาข่มขู่ว่าซื้อเยอะต้องลดราคา เขาไม่สามารถลดให้ได้จริง ๆ ร้านเขาเป็นร้านเล็ก ๆ ไม่ได้เอากำไรมากมาย ลูกค้าของเขาก็ชาวบ้านทั้งนั้น จะขายเอากำไรมากขึ้นก็สงสาร เลยได้แต่ขายราคานี้มาตลอดเถ้าแก่กำลังไล่ตรวจนับข้าวสารแต่ละชนิด สายตาของหลินหลินก็ไปปะทะกับผักดอง เกี่ยมไฉ่ ผักกาดดองเค็ม นางลุกขึ้นไปดูก็พบว่ามีผักกาดดองเปรี้ยว ซึงไฉ่ และหัวไชโป๊อยู่ด้วย หลินหลินบอกเถ้าแก่ว่านางเอา 3 อย่างนี้ด้วย ให้เหลือทิ้งไว้ที่ร้านอย่างละ 1 ถุงที่วางโชว์ (5 กิโล) นอกนั้นนางเอาหมด เถ้าแก่ก็น่ารัก รีบมาจัดการต่อให้นางเลยเถ้าแก่แม้จะสงสัยว่านางเหลือไว้ทำไม แต่เขาต้องรีบจัดของจึงยังไม่ได้ถามออกไปหลินหลินเดินดูเค

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-13
  • หลินหลินกับระบบมิติผันผวน   บทที่15

    หลินหลินนั่งคุยกับป้าเจียงเพลิน เผลอลืมบุรุษ 3 คนที่นั่งรอนางอยู่หน้าเรือนไปเสียสนิท" ท่านป้า ข้าขอไปสั่งงานคนของข้าสักครู่นะเจ้าคะ" ฮูหยินเจียงยิ้มรับรู้ "เจ้าไปเถอะ เดี๋ยวสักพักแม่นมจางคงมาหาป้าที่จวนนี้เป็นแน่"" แม่นมจาง? เป็นแม่นมของป้าเอง ไว้ป้าจะแนะนำให้เจ้ารู้จัก นางเป็นคนที่จิตใจดีมากทีเดียว""เจ้าค่ะ" หลินหลินยิ้มหวานก่อนเดินออกมาหน้าเรือน เห็นท่านปูหลิวนั่งรออยู่ที่ใต้ต้นไม้ มีสือหย่งและหานเซียวนั่งขนาบข้าง พอพวกเขาเห็นนางก็รีบลุกและเดินมาหา" ขอโทษที่ให้รอนานเจ้าค่ะ" หลินหลินยื่นส่งเงิน ให้ทุกคนคนละ 5 ตำลึงเงินตามที่นางให้สัญญาไว้ " วันนี้พวกท่านกลับบ้านได้เลยนะเจ้าคะ และอย่าลืมหาที่ปลอดภัยถอดแหวนกับชุดเก็บไว้ใส่ในวันพรุ่งนี้ ก่อนมาหาข้า พรุ่งนี้ข้าจะจ้างพวกท่านอีก 1 วัน มีใครมาไม่ได้ไหมเจ้าคะ"" มาได้ขอรับ..." ทั้งสามตอบด้วยสีหน้าดีใจยิ้มกว้าง จะไม่ให้เขาดีใจได้อย่างไร รับงานนี้พวกเขาได้เงินมากถึง 10 ตำลึงภายใน 2 วันหลินหลินส่งห่อผ้าที่ข้างในมีซาลาเปาไส้ผัก ไส้หมู ไส้หมูแดง รวมๆ กันห่อละ 10 ลูก ให้พวกเขาทั้ง 3 คน " นำกลับไปให้คนที่บ้านกินนะเจ้าคะ และพรุ่งนี้เจอ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-13
  • หลินหลินกับระบบมิติผันผวน   บทที่16

    " ฮะแฮ่ม...พวกเจ้าทำอะไรกันอยู่หรือ..."ท่านลุงเจียงแกล้งเอ่ยถาม แต่สายตากลับจับจ้องอยู่ที่อาหารบนโต๊ะไม่วางตา" ท่านพี่ มานั่งก่อนเจ้าค่ะ ข้ากับหลินเอ๋อร์กำลังรอท่านอยู่พอดี"" หลินเอ๋อร์?" สายตาลุงเจียงย้ายจากอาหารมามองที่หลินหลินทันที หลินหลินยิ้มหวานให้หนึ่งที"ท่านพี่...ตอนนี้ข้ารับหลินเอ๋อร์เป็นหลานสาวแล้ว ข้าชวนนางอยู่ด้วยกันทีนี่ แต่...นางใจแข็งยิ่งนักเจ้าค่ะ หลินเอ๋อร์อยากไปอยู่ทางใต้ หากนางตกลงจะอยู่ที่นี่สักนิดข้าคงให้ท่านสร้างเรือนเพิ่มที่จวนของเราพรุ่งนี้เลยเจ้าค่ะ เอ๊ะ..ท่านพี่หรือเราย้ายไปทางใต้ไปอยู่กับหลินเอ๋อร์ดีเจ้าคะ""ฮ่าๆๆๆ ท่านป้าใจเย็นๆ ก่อนเจ้าค่ะ ข้ายังไม่รู้เลยว่าจะไปที่เมืองใดเจ้าค่ะ ไว้ได้ข้าสร้างจวนเสร็จข้าจะรีบส่งข่าวมาบอกท่านนะเจ้าคะ เผื่อท่านอยากหนีท่านลุงไปอยู่กับข้า ""แค่กๆ หลินเอ๋อร์ ป้าเจ้าอยู่ที่ใดลุงก็อยู่ที่นั่นแหละ เจ้าอย่าให้ทางนางหนีจากลุงเด็ดขาด ฮ่ะๆๆ"สี่เสียงหัวเราะประสานขึ้นมาพร้อมกัน" ท่านลุง เชิญดื่มน้ำใบเตยก่อนเจ้าค่ะ แล้วเราค่อยลงมือทานอาหารกัน ท่านป้าหิวแย่แล้ว"แม่นมเตรียมตัวจะลุกขึ้น หลินหลินจับมือแม่นมเพื่อจะประคอง "แม่นมจะไปไ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-13
  • หลินหลินกับระบบมิติผันผวน   บทที่17

    เอาล่ะ....นางผิดเอง " ระบบจากนี้ไปต้องคอยเตือนข้าทุกเรื่อง เข้าใจไหม? ""ระบบจะเตือนผู้ถูกเลือกขอรับ"หลินหลินจัดการข้าวของที่จะแจกจ่ายพวกคนเร่ร่อนเสร็จ พอมีเวลาว่าง นางก็มานั่งพักที่ชานเรือน พร้อมกับถ้วยชาและขนมคุกกี้ บรรยากาศยามเย็นช่างเงียบสงบ เหมาะแก่การพักผ่อนหย่อนใจเสียจริงแต่แล้ว หลินหลินก็นึกขึ้นได้ว่า นางลืมหินเวทที่เก็บไว้ในมิติเสียสนิท! นางรีบเรียกหินเวทลมออกมา ก้อนหินสีฟ้าใสเปล่งประกายระยิบระยับอยู่ในมือ หลินหลินหลับตา เพ่งสมาธิ สัมผัสได้ถึงพลังเวทที่ไหลเวียนเข้าสู่ลูกแก้วเวทลมในร่างกายทันใดนั้น ก็รู้สึกเหมือนมีลมปราณปั่นป่วนในท้อง คล้ายกับ...จะเรอ!"เอิ๊กกกกกกก!"เสียงเรอของหลินหลินดังกึกก้องหลินหลินลืมตาขึ้น มองไปรอบๆ ด้วยความตกตะลึง ถ้วยชา จานคุกกี้ หายไปไหนหมด! นางกวาดสายตามองหา จนไปสะดุดกับแสงสะท้อนของแก้วกระเบื้องที่พุ่มดอกไม้ ห่างออกไป 10 เมตร!"หา! 10 เมตร?" หลินหลินอ้าปากค้าง"แค่เรอเองนะ แรงขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย!"นางหัวเราะออกมาเสียงดัง ทั้งขำทั้งตกใจ ไม่คิดว่าพลังเวทจะทำให้เรอได้แรงขนาดนี้หลินหลินลุกขึ้น เดินไปเก็บถ้วยชาและจานคุกกี้ที่กระเด็นไป

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-14
  • หลินหลินกับระบบมิติผันผวน   บทที่18

    เมื่อคนเร่รอนเริ่มเห็นข้าวของจำนวนมาก ก็ค่อยๆ ขยับเข้ามาสอบถามด้วยความสงสัยว่านำของพวกนี้มาทำอะไรปู่หลิวเห็นเช่นนั้น จึงได้โอกาสบอกกับคนเร่รอนคนนั้นว่า "อีก1เค่อ คุณหนูของข้าจะทำการแจกจ่ายอาหารและของยังชีพ รบกวนเจ้าไปประกาศให้ทุกคนทราบด้วย จะได้ไม่เสียเวลาให้มาต่อแถวรอ อย่าลืมเอาชามช้อนของพวกเจ้ามาด้วย""ได้ ได้ ขอรับ ขอบคุณขอรับ ขอบคุณขอรับ""เอ้ย...พวกเรามีคนใจดีมากแจกอาหาร เตรียมชามช้อนมารอรับเร็วเข้า!"เสียงตะโกนดังก้องไปในความมืดนั้น สามารถปลุกพลังแห่งความวุ่นวายได้ในทันที ดีที่หลินหลินมีท่านลุงท่านป้า ทั้งสองมีประสบการณ์มาก่อน จึงให้คนของตนเองกันไม่ให้คนเร่ร่อนเบียดเข้ามาใกล้โต๊ะ เพราะอาจจะชนหม้อข้าวต้มเสียหายได้แต่ความหิวนั้นไม่เข้าใครออกใคร เริ่มมีการทะเลาะแย่งแถวกันเด็กๆ ถูกผลักออกจากแถว เด็กน้อยคนหนึ่งร้องไห้จ้าเมื่อถูกคนตัวใหญ่ผลักล้มลง ผู้คนล้วนไม่สนใจ นางเห็นดังนั้นจึงตะโกนออกไปว่า"หากพวกเจ้ายังทะเลาะกันอีกแม้แต่ครั้งเดียว...ข้าจะเก็บของทั้งหมดกลับไป!"แค่เพียงเสียงเดียวก็ทำให้ทุกอย่างสงบลงในพริบตา ทุกสายตาย้ายไปมองที่นางเป็นตาเดียว พร้อมกับเบิกตากว้างด้วยความตกใจสิ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-16
  • หลินหลินกับระบบมิติผันผวน   บทที่19

    เมื่อแจกทุกอย่างครบแล้ว หลินหลินก็ประกาศเรื่องสำคัญทันทีนายท่านเจียงกับฮูหยินเจียงมายืนประกบข้างหลินหลิน ฮูหยินเจียงมองหลินหลินด้วยแววตาชื่นชม นางก็อยากรู้ว่าหลินเอ๋อร์จะทำสิ่งใดหลินหลินกวาดสายตามองไปยังกลุ่มคนที่เบื้องหน้า นางเห็นความหวังริบหรี่ในแววตาของพวกเขา หลายคนผ่ายผอม อิดโรยจากความยากลำบาก"สิ่งสุดท้ายที่พวกท่านจะได้วันนี้ คือทางเลือก " หลินหลินเอ่ยเสียงดังฟังชัด"สวรรค์จะมอบทางเลือกให้พวกท่าน ขอให้พวกท่านตัดสินใจให้ดีเสียงของหลินหลินก้องกังวานไปทั่วบริเวณ เหมือนเสียงสวรรค์ที่หยาดลงมาปลุกความหวังในใจคนสิ้นหวัง"เย็นนี้จะมีคนของข้า ทั้งสามคนมาให้พวกท่านลงนามแจ้งความประสงค์ หากพวกท่านต้องการเดินทางไปเมืองใด ข้าจะเป็นคนจ่ายค่าเดินทางให้พวกท่านทั้งหมดเอง"เสียงฮือฮาดังขึ้น คนเหล่านั้นมองหน้ากันด้วยความประหลาดใจ"โดยค่าเดินทางนี้ข้าจะจ่ายให้กับกองคาราวานหรือรถเทียมวัวที่ข้าจ้างวานโดยตรง แม้การเดินทางมันไม่ได้สบายนัก แต่ก็คงไม่ลำบากจนพวกท่านทนไม่ได้" หลินหลินเว้นวรรคเล็กน้อย ก่อนจะพูดต่อด้วยน้ำเสียงที่เด็ดขาด"และอีกหนึ่งเรื่องคือ พวกเจ้า เจ้าเจ้า"หลินหลินชี้นิ้วไปยังคนที่ดวง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-16

บทล่าสุด

  • หลินหลินกับระบบมิติผันผวน   บทพิเศษ

    บทพิเศษเสี่ยวเฮย และ เสี่ยวหมี(หมีหิมะ)ภายในมิติ ทันทีที่หลินหลินจากไป เสี่ยวเฮยทรุดตัวลงกับพื้น น้ำตาไหลอาบแก้ม"ฮือๆ นายหญิง... ทำไม... ทำไมถึงทิ้งข้า"เสี่ยวเฮยคร่ำครวญด้วยความเสียใจเสี่ยวหมีเดินเข้ามาใกล้ "เสี่ยวเฮย เจ้าอย่าเสียใจไปเลย นายหญิงคงมีเหตุผลของนาง""เหตุผลอะไรกัน ข้าไม่เข้าใจ!" เสี่ยวเฮยร้องไห้โฮ "ข้ารักนายหญิง ข้าอยากอยู่กับนายหญิงตลอดไป"เสี่ยวหมีมองเสี่ยวเฮยด้วยความสงสาร "เสี่ยวเฮย... " เสี่ยวหมีลังเล "ข้า.. ข้าอ่านตำราโบราณออก""แล้วอย่าไร" เสี่ยวเฮยเงยหน้ามองเสี่ยวหมี"ตำราโบราณกล่าวไว้ว่า หากต้องกำจัดอสูรหิมะ ต้องระเบิดพลังจากภายในด้วยพลังระดับ 8 สองสาย และระดับ 9 หนึ่งสาย"เสี่ยวหมีอธิบายเสี่ยวเฮยขมวดคิ้ว "แล้วมันเกี่ยวอะไรกับนายหญิง""นายหญิงเป็นมนุษย์ นางมีพลังระดับ 9 ที่นายหญิงยกเลิกพันธะสัญญา ก็เพราะ... นางต้องการปกป้องเจ้า"เสี่ยวเฮยนิ่งอึ้ง "ปกป้องข้า?""ใช่ นางรู้ว่า หากเจ้ายังมีพันธะสัญญาอยู่ หากนางระเบิดพลังเจ้าจะตายไปด้วย "เสี่ยวหมีพูดด้วยน้ำเสียงเศร้า "นางรักเจ้ามาก เสี่ยวเฮย"เสี่ยวเฮยเบิกตากว้าง หัวใจของมันรู้สึกอบอุ่น ใน

  • หลินหลินกับระบบมิติผันผวน   บทที่90

    ภายในจวนท่านแม่ทัพ บรรยากาศเต็มไปด้วยความตึงเครียดและความคาดหวัง เสียงร้องโอดโอยของหลินหลินดังเล็ดลอดออกมาจากห้องคลอดเป็นระยะๆ ทำให้เทียนชุนที่ยืนรออยู่ด้านนอกร้อนใจเป็นอย่างยิ่ง เขากำมือแน่น พยายามสะกดกลั้นความกังวลเอาไว้ แต่ก็ไม่อาจหยุดความคิดที่วนเวียนอยู่ในหัวได้"หลินเอ๋อร์ เจ้าต้องปลอดภัยนะ"เขาพึมพำกับตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่าบิดามารดาของทั้งสองฝ่ายก็อยู่ในอาการไม่ต่างกัน พวกเขานั่งรออยู่ที่ห้องโถงใหญ่ ใบหน้าเต็มไปด้วยความวิตกกังวล เสียงร้องของหลินหลินแต่ละครั้งทำให้หัวใจของพวกเขาแทบจะหยุดเต้น"ลูกต้องปลอดภัยนะ"มารดาของหลินหลินพึมพำภาวนา ทันใดนั้นเสียงร้องของทารกก็ดังขึ้น ทำลายความเงียบสงัดในจวน ทุกคนต่างเงยหน้าขึ้นมองประตูห้องคลอดด้วยความตื่นเต้นไม่นาน หมอตำแยก็เปิดประตูออกมาพร้อมกับรอยยิ้มกว้าง "ยินดีด้วยเจ้าค่ะ ฮูหยินคลอดลูกแฝดชายหญิง เป็นเด็กที่แข็งแรงมาก"เทียนชุนรีบพุ่งเข้าไปในห้องคลอดทันที เขาเห็นหลินหลินนอนอยู่บนเตียง ใบหน้าซีดเซียวแต่ก็เปื้อนไปด้วยรอยยิ้มแห่งความสุข ข้างกายนางมีทารกน้อยสองคนนอนอยู่เทียนชุนทรุดตัวลงข้างเตียง จับมือภรรยาไว้แน่น"หลินเอ๋อร์ เจ้าเก่งมาก"

  • หลินหลินกับระบบมิติผันผวน   บทที่89

    หลินหลินค่อยๆ ลืมตาตื่นขึ้นมา พบว่าตัวเองอยู่ในอ้อมกอดที่คุ้นเคยของเทียนชุน ทันทีที่สติกลับคืนมา ภาพเหตุการณ์สุดท้ายก่อนหมดสติก็ฉายชัดขึ้นในห้วงความคิด เสียงระเบิดดังสนั่น ภาพดวงตาที่ทั้งสองมองมาที่นาง…น้ำตาไหลอาบแก้มหลินหลินอีกครั้ง ความเจ็บปวดของความสูญเสียกัดกินหัวใจของนางอย่างรุนแรง นางพยายามสะกดกลั้นเสียงสะอื้น แต่ก็ไม่สามารถหยุดยั้งมันได้"เสี่ยวเฮย... เสี่ยวหมี..."นางพึมพำชื่อของพวกมันซ้ำๆ ราวกับต้องการเรียกพวกเขากลับมาเทียนชุนตื่นขึ้นมาเมื่อรู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนจากร่างกายของภรรยา เขามองหลินหลินที่กำลังร้องไห้อย่างหนัก หัวใจของเขาเจ็บปวดไม่ต่างกัน เขาโอบกอดนางไว้แน่น พยายามปลอบโยน" หลินเอ๋อร์"เขาพูดเสียงแผ่วเบา "ทุกอย่างจบแล้ว"หลินหลินเงยหน้ามองสามี น้ำตาไหลอาบแก้ม "ข้า... ข้าทำไม่สำเร็จ"นางพูดเสียงสั่นเครือ "ข้าไม่สามารถปกป้องพวกเขาได้"เทียนชุนส่ายหน้า "ไม่ใช่ความผิดของเจ้า พวกเขาเลือกที่จะเสียสละตัวเองเช่นเจ้าเลือกที่จะสละตัวเองเพื่อพวกเรา""แต่..."หลินหลินยังคงร้องไห้ไม่หยุดเทียนชุนเช็ดน้ำตาให้ภรรยาอย่างอ่อนโยน "เสี่ยวเฮยและเสี่ยวหมีคงภูมิใจในตัวเอง ที่พวกเขา

  • หลินหลินกับระบบมิติผันผวน   บทที่88

    หลินหลินรีบร้อนเข้าสู่มิติเพื่อเตรียมตัวรับมือกับภัยคุกคามครั้งใหญ่ แม้จะมีเวลาจำกัดเพียงสองชั่วยาม (สี่ชั่วโมง) แต่นางก็ไม่รอช้า มุ่งตรงไปยังหอตำราเวททันทีภายในหอตำรา บรรยากาศเงียบสงบและเคร่งขรึม อักษรโบราณสีทองเรียงรายอยู่บนผนังถ้ำสูงตระหง่าน หลินหลิน ค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับอสูรหิมะ สัตว์ในตำนานที่กำลังคุกคามพวกเขา ครั้งนี้อักษรไม่ได้พุงเข้ามาที่ตัวของนางแต่ปรากฏหนังสือโบราณเก่าแก่อสูรหิมะ... สัตว์ในตำนานที่ถือกำเนิดจากพายุหิมะอันรุนแรง ดูดกลืนพลังจากความหนาวเย็นจนกลายเป็นอสูรร้ายทรงพลัง มันออกตามล่านักเวทระดับ 9 เพื่อดูดกลืนพลังขั้นสุดท้ายของพวกเขาหลินหลินสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ตัวอักษรในตำราเต้นระริกราวกับจะตอกย้ำความจริงที่ว่า มีเพียงนางและสามีเท่านั้นที่อยู่ในระดับ 9 มือของนางเริ่มสั่นไหว ความกลัวกัดกินหัวใจนางพลิกหน้าตำราต่อไปอย่างรวดเร็ว ค้นหาวิธีที่จะหยุดยั้งอสูรตนนี้มีเพียงสายฟ้าฟาดลงกลางหัวใจ 9 ครั้งเท่านั้นที่จะสังหารมันได้ หรือ... การระเบิดพลังจากภายใน ต้องใช้พลังเวทระดับ9 หนึ่งขุม หรือระดับ 8 สองขุม ถึงจะจัดการกับอสูรหิมะตนนี้ได้หลินหลินหน้าซีดเผือด มือบางสั่นเทาจนเสี่ยวเ

  • หลินหลินกับระบบมิติผันผวน   บทที่87

    "เราจะพักที่นี่เอาแรงก่อน" หลินหลินหันไปบอกกับทั้งสามคน ก่อนจะมอบน้ำทิพย์ให้พวกเขาคนละกระบอกนางใช้เวลาพูดคุยกับครอบครัวอีกหนึ่งเค่อ (30 นาที) ก่อนจะขอตัวกลับไปทำภารกิจต่อระบบแจ้งเตือนว่ายังมีผู้รอดชีวิตอีก 2 คน แต่ดวงตาตรวจสอบของนางกลับใช้การไม่ได้ในพายุหิมะที่รุนแรงเช่นนี้ นางต้องพึ่งดวงล้วนๆในการค้นหาพวกเขาหลินหลินและเหล่าทหารกลับมายังจวนแม่ทัพอีกครั้งครั้งนี้นางร่ายโล่เวทขึ้นมาเพื่อต้านทานพายุ นางจะเป็นผู้นำทัพหน้า ส่วนหลิวเคออยู่ซ้าย โหลกังอยู่ขวา และอิงหานคอยระวังหลัง ทุกคนต่างดึงพลังเวทของตนเองออกมาใช้อย่างเต็มที่เพื่อต่อสู้กับพายุที่โหมกระหน่ำพวกเขาเดินฝ่าพายุหิมะไปอย่างยากลำบาก หิมะหนาแน่นจนแทบมองไม่เห็นทางข้างหน้า ลมพัดกระหน่ำจนแทบจะปลิวไปตามลม หลายครั้งที่พวกเขาเกือบจะล้มลง แต่ก็ยังคงประคองกันและกันไว้ได้ตอนนี้พวกเขาพบกับภาพที่น่าสลดใจที่สุด...เท่าที่เคยพบเจอ สองตายายนอนกอดกัน ร่างกายของพวกเขาถูกปกคลุมไปด้วยหิมะหนา ราวกับกำลังหลับใหลอย่างสงบ แต่หลินหลินรู้ดีว่าพวกเขาจากไปแล้วหลินหลินทรุดตัวลงข้างๆ ร่างของสองตายาย น้ำตาไหลอาบแก้มของนางอย่างไม่อาจควบคุมได้ น

  • หลินหลินกับระบบมิติผันผวน   บทที่86

    เวลาผ่านไปอย่างเชื่องช้า เทียนชุนยังคงโอบกอดหลินหลินไว้แนบอก ความรู้สึกภายในของเขาลึกล้ำเกินกว่าจะบรรยายออกมาเป็นคำพูดในฐานะสามี เขาอยากปกป้องภรรยาสุดที่รักจากอันตรายข้างนอก แต่ในฐานะแม่ทัพ เขาก็ไม่อาจละทิ้งประชาชนในแดนเหนือได้เช่นกัน เขาติดอยู่ในวังวนของความขัดแย้งภายในใจ ปล่อยนางไปก็ห่วง กักตัวนางไว้ก็ผิดต่อหน้าที่หลินหลินที่จมอยู่ในห้วงความคิดของตนเอง เริ่มตั้งสติและรวบรวมความกล้า นางไม่ใช่คนที่จะยอมแพ้อะไรง่ายๆ และการเดิมพันครั้งนี้ถือว่าคุ้มค่าที่จะเสี่ยงเพื่อคนที่นางรักหลินหลินค่อยๆ ผละออกจากอ้อมกอดที่อบอุ่นของสามี เงยหน้าขึ้นสบตาเขาอย่างแน่วแน่"ท่านพี่" นางเอ่ยเสียงหนักแน่น"สำหรับข้า ท่านคือโลกทั้งใบ ดังนั้นข้าจะทำภารกิจนี้ให้สำเร็จ กลับมาเคียงข้างท่านให้ได้ ข้าสัญญา"แววตาของหลินหลินเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นและความรักที่ล้นปรี่ เทียนชุนมองลึกลงไปในดวงตาคู่นั้น เขาเห็นถึงความแข็งแกร่งและความเสียสละที่ซ่อนอยู่ภายใน แม้ใจจะแหลกสลายที่ต้องปล่อยนางไป แต่เขาก็รู้ดีว่าไม่มีสิ่งใดหยุดยั้งภรรยาของเขาได้เขาพยักหน้ารับอย่างเชื่องช้า รู้สึกถึงก้อนสะอื้นที่จุกอยู่ในลำคอ "พี่จะรอเจ้า...

  • หลินหลินกับระบบมิติผันผวน   บทที่85

    ยามจื่อ (00.00 น.) ความมืดมิดปกคลุมราตรีไร้เสียง มองเห็นเพียงแสงเทียนริบหรี่จากบ้านเรือนบางหลัง ทว่าในเงามืดนั้น มีกลุ่มเงาเคลื่อนไหวอย่างว่องไวและเงียบเชียบ นำโดยหลิวเคอ และทหารฝีมือดีของหลินหลินอีกหลายสิบนาย ด้วยวรยุทธ์และพลังเวทที่สูงส่งถึงระดับ 7 พวกเขาเคลื่อนไหวราวกับภูตพราย ไร้ร่องรอย ไม่มีใครแม้แต่จะรู้สึกถึงการมีอยู่ของพวกเขา แต่ละคนล้วนมีถุงมิติขนาดเล็กที่หลินหลินกว้านซื้อมาจากระบบมากถึง 500 ใบบ้านเรือนทุกหลังในเมืองถูกเยี่ยมเยือนโดยกลุ่มเงาเหล่านี้ พวกเขาเข้าออกอย่างรวดเร็วและเงียบเชียบ ของมีค่าทุกชิ้นถูกกวาดลงถุงมิติอย่างรวดเร็วและแม่นยำ ไม่ว่าจะเป็นทองคำ เงิน เครื่องประดับ หรือของสำคัญอื่นๆ ล้วนถูกเก็บลงถุงมิติข้างตัวยามหยิน (03.00น.)ไม่มีบ้านเรือนหลังไหนที่พวกเขาไม่ไปเยือน ทุกอย่างดำเนินไปอย่างเป็นระบบและรวดเร็ว ราวกับปฏิบัติการลับที่ได้รับการวางแผนมาอย่างดีรุ่งเช้าวันใหม่มาเยือนพร้อมกับความโกลาหล เมื่อชาวเมืองทุกหลังคาเรือนตื่นขึ้นมาพบว่าของมีค่าภายในบ้านหายไปอย่างไร้ร่องรอย! แม้แต่โต๊ะรับแขกไม้เนื้อดีก็ยังอันตรธานไป สร้างความตื่นตระหนกและหวาดกลัวไปทั่วหลินหลินคาดกา

  • หลินหลินกับระบบมิติผันผวน   บทที่84

    ขณะที่หลินหลินกำลังมุ่งหน้าไปยังถ้ำแห่งต่อไป นางก็สำลักเลือดออกมาจนเปรอะเปื้อนอาภรณ์ ทหารที่เห็นเหตุการณ์ต่างตกใจ"นายหญิง!!"หลินหลินยกมือขึ้นเช็ดคราบเลือดอย่างไม่ใส่ใจ "ไม่เป็นไร ข้าไม่เป็นอะไร"นางฝืนยิ้มให้พวกเขา แต่ในใจกลับรู้สึกหนักอึ้ง พลังเวทในตัวนางเหลือน้อยเต็มที การสร้างปราการครั้งใหญ่เมื่อครู่นี้ดูดพลังของนางไปมากมาย หลินหลินกัดฟันข่มความเจ็บปวดที่แล่นขึ้นมาในอก พยายามรักษาท่าทีให้นิ่งสงบที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่นางรู้ดีว่าร่างกายของนางกำลังส่งสัญญาณเตือน"ไม่เป็นไรหลินหลิน เจ้าจะไม่เป็นอะไร"หลินหลินพูดเสียงแผ่วเบา เพื่อส่งกำลังใจให้ตัวเองข้าจะต้องเข้มแข็ง ข้าต้องทำได้ นางบอกตัวเองในใจภาพความฝันที่สองเมื่อคืนยังคงตามหลอกหลอนนาง ความรู้สึกผิดที่ไม่อาจปกป้องทุกคนได้ยังคงกัดกินหัวใจของนาง นางไม่อาจปล่อยให้เหตุการณ์เช่นนั้นเกิดขึ้นอีกในความฝันนั้น นางเห็นตัวเองเลือกสร้างปราการคุ้มกันเมืองแดนเหนือเอาไว้ เพราะคิดว่าเพียงแค่พายุผ่านไปทุกอย่างจะกลับมาเป็นปกติ ค่ายทหารถูกพายุถล่มจนพังพินาศ และเมื่อพายุสงบลง กองกำลังศัตรูก็บุกเข้าโจมตีทันที แม้ว่าในท้ายที่สุด นางแล

  • หลินหลินกับระบบมิติผันผวน   บทที่83

    เทียนชุนแทบไม่ได้ฟังที่หลินหลินพูด เขาจดจ้องอยู่แต่กับเรือนร่างตรงหน้า เทียนชุนประกบจูบหญิงสาวอย่างโหยหา หลายวันมานี้เขาคิดถึงนางแทบขาดใจ เมื่อคืนที่เห็นนางเหนื่อยจึงไม่อยากรบกวนนาง อยากให้นางได้พักผ่อน แต่ไม่คิดว่าเช้ามาเขาจะได้อาหารเช้าที่แสนวิเศษ "ท่านพี่...อ้า.. "นิ้วสากลูบไล้เนื้ออวบอูมอย่างช่ำชอง นิ้วหนาชำแหละกลีบชมพูเข้าไปในช่องทางรักอย่างโหยหา..เขาชักนิ้วเข้าออกระรัวจนร่างบางหวีดร้อง....."อะๆๆๆ..อ้า! " ร่างบางบิดเร้าด้วยความเสียว เทียนชุนดึงนิ้วที่เปียกย้อมด้วยน้ำรักของสตรีตรงหน้าออกมา เขาชูให้นางดูก่อนใช้ลิ้นเลียนิ้วหนา หลินหลินมองภาพนั้นด้วยหัวใจที่สั่นไหว เขาดูเซ็กซี่ขยี้ใจนางมาก..."อ้า... "ร่างกายเริ่มร้อนรุ่มหนัก เทียนชุนควักท่อนเอ็นที่พองโตออกมาชักรูดสองสามทีก่อนเสียบอัดเข้าไปจนมิดด้าม"อ้า..หลินเอ๋อร์... "ร่างหนาครางต่ำ..."อืมมมม!!! "พั่บ..พั่บ..พั่บ..พั่บ..เสียงเนื้อกระทบกันดังกึกก้องห้องนอน หลินหลินตัวโยกไปตามแรงกระแทกของสามี"อ๊ะ!อ๊ะ!อ๊ะ!อ๊ะ! งื้อ... ""ใหญ่มากท่านพี่ของท่านใหญ่มาก..." เทียนชุนที่ได้ยินภรรยา

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status