แชร์

บทที่17

last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-14 19:07:21

            เอาล่ะ....นางผิดเอง

 " ระบบจากนี้ไปต้องคอยเตือนข้าทุกเรื่อง เข้าใจไหม? "

"ระบบจะเตือนผู้ถูกเลือกขอรับ"

หลินหลินจัดการข้าวของที่จะแจกจ่ายพวกคนเร่ร่อนเสร็จ พอมีเวลาว่าง นางก็มานั่งพักที่ชานเรือน พร้อมกับถ้วยชาและขนมคุกกี้ บรรยากาศยามเย็นช่างเงียบสงบ เหมาะแก่การพักผ่อนหย่อนใจเสียจริง

แต่แล้ว หลินหลินก็นึกขึ้นได้ว่า นางลืมหินเวทที่เก็บไว้ในมิติเสียสนิท! นางรีบเรียกหินเวทลมออกมา ก้อนหินสีฟ้าใสเปล่งประกายระยิบระยับอยู่ในมือ หลินหลินหลับตา เพ่งสมาธิ สัมผัสได้ถึงพลังเวทที่ไหลเวียนเข้าสู่ลูกแก้วเวทลมในร่างกาย

ทันใดนั้น ก็รู้สึกเหมือนมีลมปราณปั่นป่วนในท้อง คล้ายกับ...จะเรอ!

"เอิ๊กกกกกกก!"

เสียงเรอของหลินหลินดังกึกก้อง

หลินหลินลืมตาขึ้น มองไปรอบๆ ด้วยความตกตะลึง ถ้วยชา จานคุกกี้ หายไปไหนหมด! นางกวาดสายตามองหา จนไปสะดุดกับแสงสะท้อนของแก้วกระเบื้องที่พุ่มดอกไม้ ห่างออกไป 10 เมตร!

"หา! 10 เมตร?" 

หลินหลินอ้าปากค้าง

"แค่เรอเองนะ แรงขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย!"

นางหัวเราะออกมาเสียงดัง ทั้งขำทั้งตกใจ ไม่คิดว่าพลังเวทจะทำให้เรอได้แรงขนาดนี้

หลินหลินลุกขึ้น  เดินไปเก็บถ้วยชาและจานคุกกี้ที่กระเด็นไปไกล พลางนึกในใจ ต่อไปต้องระวังหน่อยแล้ว อย่าเผลอเรอแรงๆ อีก ไม่งั้นบ้านอาจจะพังได้!

หลินหลินสูดลมหายใจเข้าลึก ก่อนจะเรียกหินเวทลมลูกใหญ่เท่ากำปั้นออกมาจากมิติ ก้อนหินเปล่งประกายสว่างไสว ราวกับดวงดาวที่ร่วงหล่นลงมาอยู่ในมือของนาง หลินหลินหลับตาลง เพ่งสมาธิ ปล่อยให้พลังเวทอันบริสุทธิ์ไหลเวียนเข้าสู่ร่างกาย

เวลาในมิติผ่านไปอย่างเชื่องช้า หลินหลินรู้สึกราวกับตัวเองกำลังล่องลอยอยู่ในห้วงแห่งพลังเวท ไร้ซึ่งกาลเวลา ไร้ซึ่งตัวตน มีเพียงพลังที่ไหลเวียน เติมเต็ม หล่อหลอม จนกระทั่ง...

ปัง! ปัง!

เสียงดังสนั่น ปลุกหลินหลินให้ตื่นจากภวังค์ นางลืมตาขึ้นช้าๆ ร่างกายรู้สึกเบาสบาย คล่องแคล่ว ราวกับขนนก รอยยิ้มแห่งความยินดีปรากฏขึ้นบนใบหน้า เมื่อระบบแจ้งว่านางมีเวทลมระดับ 3 แล้ว

หลินหลินลุกขึ้นยืน ภาพความทรงจำในอดีตชาติที่นางเคยฝึกฝนศิลปะการต่อสู้ผุดขึ้นมาในหัว ในที่สุดความฝันของข้าก็เป็นจริงแล้ว! นางคิดอย่างตื่นเต้น

นางเรียกดาบเล่มงามออกมาจากมิติ วาดลวดลาย ฟาดฟัน เคลื่อนไหวร่างกายอย่างคล่องแคล่ว พลังเวทลมหมุนวนรอบตัว เพิ่มพลัง ความเร็ว และความแม่นยำให้กับทุกการเคลื่อนไหว

ฟ้าว!

ดาบในมือหลินหลินฟาดฟันออกไป เกิดเป็นคลื่นพลังลม ตัดผ่านต้นไม้ใหญ่ข้างๆ จนขาดสะบั้น หลินหลินเบิกตากว้างด้วยความตกใจ

"โอ๊ะโอ! ไม่ได้การ เดี๋ยวต้นไม้ข้าจะเสียหายหมด"

หลินหลินรีบเก็บดาบเข้ามิติ หัวใจยังคงเต้นระรัว ดูเหมือนข้าจะยังควบคุมพลังได้ไม่ดีเท่าไหร่ ต้องฝึกฝนอีกเยอะเลย นางคิด พลางมองต้นไม้ที่ล้มระเนระนาดด้วยความรู้สึกผิด

นางลองวิ่งโดยใช้เวทลมไว้ใต้เท้า ความไวของนางเร็วกว่าที่คิดไว้มาก นางคงต้องหาอะไรมาวัด

หลินหลินเรียกม้าหนุ่มรูปงามออกมาจากมิติ 1 ตัว นางยื่นแอปเปิ้ลแดงก่ำให้ 1 ผล พร้อมกับบอกว่า

 "เจ้าช่วยวิ่งไปรอบๆ ทุ่งหญ้าหน่อยนะ แต่อย่าให้ข้าจับได้ล่ะ

เมื่อม้าได้ยินคำสั่ง มันก็ออกวิ่ง มันใช้ความไวสูงสุดของมัน หลินหลินมองความไวนี้ เท่ากับม้าแข่งในโลกก่อนของข้าเลย

"เอาล่ะ เราคงต้องพิสูจน์กันแล้ว"

แรกๆ หลินหลินก็ใช้ความไวปกติ แต่ก็จับม้าไม่ทัน นางลองเพิ่มความเร็วขึ้นเรื่อยๆ เจ้าม้าก็เหมือนนึกชอบใจ มันวิ่งตามใจนึกคิด อยากจะหมุนตัวกลับก็ทำเลย ทำให้การตามจับมันไม่ใช่เรื่องง่าย

หลินหลินเร่งความเร็วขึ้นอีก จนแทบจะถึงขีดจำกัด นางไม่ยอมแพ้ นางเชื่อว่านางต้องทำได้! ในที่สุด หลินหลินก็วิ่งไล่เจ้าม้าจนทัน นางกระโดดขึ้นไปบนหลังม้าด้วยความคล่องแคล่ว พร้อมกับคว้าเชือกไว้ได้อย่างแม่นยำ

"อ้า."

หลินหลินกำเชือกไว้แน่น นางโน้มร่างกายไปด้านหน้าแนบตัวกับม้า ลมหายใจที่หอบอย่างหนัก ทำให้เจ้าม้าที่รับรู้ว่าเจ้านายของมันเหนื่อยเพียงใดจึงชะลอความเร็วและหยุดเดิน หลินหลินกอดหลังม้าเอนตัวไปทับมันไว้

"เหนื่อย เหนื่อยมาก...แต่ก็สนุกมากเช่นกัน ขอบคุณนะ ข้าจะเรียกเจ้าว่า เฟยหลิน ที่แปลว่า จิตวิญญาณแห่งการโบยบิน"

นางชอบชื่อนี้เพราะมีคำว่าหลินชื่อนางอยู่ด้วย

"เฟยหลิน"

หลินหลินลูบหัวม้าอย่างอ่อนโยน

"ต่อไปนี้ เจ้ามีอิสระแล้ว จงใช้ชีวิตในทุ่งหญ้าแห่งนี้ให้เต็มที่นะ"

"ระบบ ปลดปล่อยม้าทุกตัวออกจากคอก ให้ใช้ชีวิตในทุ่งหญ้าตลอดจนภูเขาลูกนั้น"

"ระบบปลดคอกม้าสำเร็จ กำลังอัปเกรดม้าระดับ 1 ให้เป็นอาชาอสูร"

"หืม อาชาอสูร?"

"สัตว์ที่อยู่นอกฟาร์มจะไม่ใช่สัตว์ธรรมดาขอรับ เพราะได้รับของวิเศษจากมิติโดยตรง จึงจะกลายเป็นสัตว์อสูรขอรับ"

"เข้าใจแล้ว ขอบคุณระบบ"

หลินหลินลองรวบรวมลมบนฝ่ามือ นางเห็นลูกบอลที่เป็นทรงกลม นางลองปล่อยออกไปที่พื้นด้วยความเร็วและแรง

ตู้ม..พื้นดินเป็นหลุมทรงกลมเท่าลูกบอลที่นางเห็น...!!!

"พระเจ้านี่ ลูกเป็นตัวอะไรกัน เป็นลูกรักของพระองค์ใช่ไหมเจ้าคะ ถึงได้รับมิติที่วิเศษขนาดนี้"

 ไว้เข้ามิติรอบหน้านางจะต้องศึกษาเวททั้ง 4 อย่างจริงจัง

หลินหลินออกจากมิติ นางเดินไปเปิดหน้าต่างเพื่อชมพระจันทร์ ในมิติของนางไม่มีกลางคืน วันนี้นางอยากชมแสงจันทร์จึงออกจากมิติมา

แสงของพระจันทร์ยังคงงดงามเสมอในใจนาง เพราะไม่ว่านางจะทุกข์ จะสุข จะทำอะไร นางจะมีพระจันทร์เป็นเพื่อนเสมอ

หลินหลินลองเอามือวาดกลางอากาศ คิดถึงสายลมให้หอบพัดเอาใบไม้ 1 ใบที่ร่วงหล่นอยู่ไม่ไกลมาหานางวูบ...ในมือของนางตอนนี้มีใบไม้นั้นอยู่

"สุดยอด! ข้างนอกมิติก็ทำได้เหมือนในมิติเลย"

หลินหลินเดินไปนั่งที่เตียง นางชั่งใจ ใจหนึ่งก็อยากเข้ามิติไปฝึกเวทเลย แต่อีกใจนางก็อยากนอนชมจันทร์ อยากลองนอนข้างนอกสักคืน

หลินหลินตัดใจไม่เข้ามิติ นางวาดมือให้เทียนที่จุดไว้ดับลง สายลมพัดโชยความเย็นสบายเข้ามา อากาศที่โลกนี้ต่างจากโลกที่นางจากมา นางชอบอากาศที่เย็นสดชื่นแบบนี้ หลินหลินนอนคิดอะไรไปเพลินๆ ชมพระจันทร์ที่แสนงดงามไปพลาง และดวงตาก็ค่อยๆ ปิดลงจนสนิท

"คุณหนูเจ้าคะ ยามเหม่าแล้วเจ้าค่ะ"

ก๊อกๆๆ เสียงเคาะและพูดอันแผ่วเบาเหมือนกลัวคนข้างในจะตกใจตื่นจากนิทรา นี่นางนอนหลับสนิทแบบไม่รู้ตัวเลย...

"ข้ากำลังจะออกไป"

"คุณหนูให้บ่าวเตรียมน้ำเข้ามาเลยไหมเจ้าคะ"

"ไม่ต้อง ข้าชำระกายเรียบร้อยแล้ว"

เมื่อได้ยินดังนั้น สาวใช้ที่นั่งรอหน้าห้องก็ชะงักงุนงง เก็บความสับสนไว้ในใจ คุณหนูชำระร่างกายตอนไหนกัน นางยังไม่เห็นคุณหนูออกจากห้องเลย

หลินหลินเข้ามิติ นางไม่อยากสาย ปู่หลิวคงมารอนางแล้ว นางอาบน้ำด้วยความรวดเร็ว สวมชุดใหม่ วันนี้นางตั้งใจจะไม่สวมชุดเวทปิดบังตนแล้ว

นางไม่อยากปิดบังตัวตนกับท่านลุงท่านป้า ชุดที่นางใส่วันนี้เป็นสีน้ำเงินเข้มไม่รุ่มร่ามจนเกินไป ขับให้ผิวที่ขาวอยู่แล้วยิ่งขาวไปอีก นางมองตนเองในกระจก ยกยิ้มกับคนตรงหน้าและกล่าวกับตนเองว่า

"หลินหลิน เจ้ามันสวยเกินคำบรรยายจริงๆ ฮ่าๆๆ"

เมื่อแต่งตัวเสร็จแล้ว หลินหลินก็เดินออกมาที่ชานเรือน ตรงไปยังหน้าเรือน ก็พบว่าทุกคนมารออยู่พร้อมหน้า ท่านลุงท่านป้า พร้อมด้วยบ่าวไพร่ และรถม้าอีก 3 คัน รวมกับรถม้าของหานเซียวก็เป็น 4 คัน

"เมื่อวานลุงลืมถามเจ้าว่าจะใช้รถม้ากี่คัน ลุงเลยเอามาเผื่อไว้ก่อน"

ลุงเจียงเอ่ยขึ้น ขณะที่หลินหลินเดินเข้ามาใกล้ แสงคบเพลิงส่องกระทบใบหน้าของนาง ทุกคนต่างนิ่งอึ้ง ราวกับต้องมนต์สะกด

หลินหลินในชุดสีน้ำเงินเข้ม งดงามเกินกว่าที่พวกเขาเคยพบเห็นสาวงามล่มเมืองที่เดินออกมานี่คือใคร ? ความเงียบงันเกิดขึ้น ไม่มีใครพูดอะไร เรียกได้ว่าหากมีเข็มสักเล่มตกลงบนพื้น เสียงนั้นคงดังก้องกังวาน

"คาราวะท่านลุงท่านป้าเจ้าค่ะ หลินเอ๋อร์มาสายต้องขออภัยด้วยเจ้าค่ะ"

 ฮูหยินเจียงเป็นคนแรกที่ได้สติ

 "หลินเอ๋อร์ เหตุใดจึงงดงามขึ้นเพียงข้ามคืนขนาดนี้กัน"

" ข้าก็งดงามอยู่แล้วเจ้าค่ะ เพียงแต่...ก่อนหน้านี้ใช้ผ้าคลุมเวทเปลี่ยนอายุและลดความงามลงเพื่อความปลอดภัยเท่านั้นเจ้าค่ะ หวังว่าท่านลุงท่านป้า จะไม่โกรธข้านะเจ้าคะ"

ฮูหยินเจียงเข้ามาใกล้ นางเอามือลูบลงบนแก้มของหญิงสาวแผ่วเบา   

"หลินเอ๋อร์เจ้า.....(มาเป็นลูกสาวของป้าดีไหม)"

 นางตัดใจไม่พูดประโยคหลังออกมา

"ป้าอยากเห็นหน้าเจ้าทุกวัน การเห็นเจ้าทำให้ป้ามีความสุข หากไม่ติดว่าเจ้าจะต้องเดินทาง ป้าคงขอร้องให้เจ้าอยู่กับป้าตลอดไป"

หลินหลินสวมกอดป้าเจียง นางรู้ว่าป้าเจียงรักนางด้วยใจจริงเพราะนางมีดวงตาตรวจสอบ นางซาบซึ้งใจ เมื่อคืนนางก็นอนคิดเรื่องนี้ นางตัดสินใจแล้วจึงตอบไปว่า

 "ข้าจะอยู่ต่ออีก 2-3 วันดีไหมเจ้าคะ"

"ดี ดี แต่ครั้งนี้..เจ้าต้องไปนอนที่จวนของป้า ป้าไม่อยากให้เจ้าอยู่ไกลสายตา ป้าเป็นห่วงเจ้าจนนอนไม่หลับ อีกอย่างป้าอยากให้เจ้ารู้จักกับลูกชายของป้าด้วย"

"ลูกชาย? ได้เจ้าค่ะ ข้าน้อยรับทราบแล้วเจ้าค่ะฮูหยิน"

หลินหลินล้อเลียนเหมือนสาวใช้รับคำสั่ง

นายท่านเจียงมองภาพนี้ด้วยความสุขใจ นานมากแล้วที่ฮูหยินของเขาไม่ได้ยิ้มเล่นหัวเราะแบบนี้ หากเจียงเหวินมาเห็นภาพนี้ เขาคงไม่ต้องห่วงมารดามากจนเกินไป

"รอข้าสักครู่นะเจ้าคะ ข้าเติมของบนรถม้าสักครู่เจ้าค่ะ"

หลินหลินเดินเข้าไปในรถม้าแต่ละคัน นางนำของมากมายมาใส่ไว้แทบจะเต็มคัน

คันแรกของเป็นข้าวต้ม นางใส่ได้แค่ 7 หม้อใหญ่ นางไม่อยากเทินสูงไป ถนนที่นี่เป็นหิน ดังนั้นจึงวางได้แค่ 7 หม้อเท่านั้น

คันที่ 2-3 เป็นถุงยังชีพทั้งหมด จากสายตาน่าจะประมาณ 200 ชุด เพราะนางไม่รู้จำนวนคนที่แน่นอน ดังนั้นก็ต้องเตรียมมากหน่อย

หลินหลินลงจากรถม้าคันสุดท้ายและตรงไปทางปู่หลิว นางเห็นทุกคนทำตัวไม่ถูก จึงส่งยิ้มน้อยๆ บอกพวกเขาว่า

"วันนี้เหนื่อยหน่อยนะเจ้าคะ"

น่าแปลกที่แค่คำพูดเดียว กับทำให้ทั้งสามผ่อนคลายลง

"หลินเอ๋อร์ มานั่งรถม้าป้ามา"

มือที่ยื่นส่งออกมาของป้าเจียงทำให้นางไม่สามารถปกปิดรอยยิ้มไว้ได้เลย หลินหลินวิ่งไปหาป้าเจียง นางไม่ได้จับมือนั้นกลับ แต่กลับวิ่งไปกอดป้าเจียงแน่น

 "ขอบคุณเจ้าค่ะ ขอบคุณที่รักข้า"

ฮูหยินเจียงได้ยินเช่นนั้นก็ยิ่งกระชับกอดนางไว้

"ไปได้แล้วสองแม่ลูก เดี๋ยวจะสาย"

แค่คำนี้ของลุงเจียงทำให้ทั้งสองชะงักและหัวเราะขึ้นมา หากใครมาเห็นก็ต้องคิดแบบนั้นเช่นกัน

เมื่อขึ้นรถม้ามา หลินหลินก็นั่งฟังป้าเจียงเล่าเรื่องราวต่างๆ ในเมืองนี้ ทำให้นางอยากไปร้านรวงที่ป้าเจียงเล่าให้นางฟัง

นางหมายมั่นไว้แล้ว 2-3 วันที่นางอยู่ต่อ นางจะเที่ยวกับท่านป้าให้หนำใจเลย

ลุงเจียงที่นั่งมองหน้านางอยู่นานได้ถามขึ้นว่านางอายุเท่าไร พอนางตอบไปว่า แค่นางตอบว่า 15 หนาวแล้ว ทั้งสองก็ตกใจ และถามว่าใครทำพิธีปักปิ่นให้นาง นางจึงได้ตอบตามตรงว่ายังไม่เคยผ่านพิธีปักปิ่น ทั้งสองหันมองหน้ากัน เป็นป้าเจียงที่ดึงมือนางไปตบเบาๆ แล้วกล่าวว่า

 "เจ้าวางใจป้าคนนี้ได้เลย"

หลินหลินร้องไห้โดยไร้น้ำตา

"ท่านป้า...ท่านเข้าใจผิดแล้วเจ้าค่ะ ข้ามิได้อยากจัดงาน"

แต่พอนางจะกล่าวออกไปกลับพูดไม่ออก ใครจะคิดว่าสิ่งที่มันไม่สำคัญกับนางสักนิดเดียว กลับเป็นความสุขของคนอีก 2 คน

"ถึงแล้วขอรับ"

หลินหลินคำนวณเวลาที่นางนั่งรถม้ามา ค่อนข้างใช้เวลาพอสมควรกว่าจะมาถึงประตูเมือง

นางแจ้งให้พวกเขาออกไปนอกประตูเมืองเลย เพราะตรงนั้นมีพื้นที่โล่งเหมาะกับการแจกจ่ายข้าวของมากกว่าตรงนี้

ขบวนรถม้าทั้ง 4 คัน เคลื่อนตัวผ่านประตูเมืองด้านทิศตะวันตกอย่างช้าๆ ประตูเมืองด้านนี้มีขนาดเล็ก และไม่ค่อยมีผู้คนสัญจร เป็นเส้นทางที่ใช้สำหรับขนส่งสิ่งของ หรือ นำศพออกไปฝังนอกเมือง

กลุ่มคนเร่ร่อนที่อาศัยอยู่บริเวณนั้น ต่างมองขบวนรถม้าด้วยความหวาดระแวง ไม่เคยมีชนชั้นสูงคนใด มายังสถานที่แห่งนี้ ปกติแล้ว หากจะมีการแจกจ่ายสิ่งของ ก็มักจะทำกันที่หน้าจวน หรือ สถานที่ที่ผู้คนพลุกพล่าน พวกเขาจึงกังวลว่า ขบวนรถม้าเหล่านี้ อาจจะมาขับไล่พวกเขา

เมื่อรถม้าทั้ง 4 คัน ผ่านพ้นประตูเมือง ลุงเจียงก็เป็นคนแรกลงจากรถ ตามด้วยหลินหลิน ที่รีบเข้าไปประคองฮูหยินเจียงลงจากรถ

ท้องฟ้ายังไม่สว่างดี มีเพียงแสงสีส้มอ่อนๆ ที่ขอบฟ้า โชคดีที่รถม้าทุกคันมีคบเพลิง ทำให้หลินหลินมองเห็น และทำอะไรได้สะดวกขึ้น

หลินหลินเรียกโต๊ะยาวออกมาจากมิติ 2 ตัว วางต่อกัน จากนั้น ก็นำหม้อข้าวต้มหมูใบโต 3 ใบ มาวางเรียงบนโต๊ะตัวแรก ส่วนโต๊ะตัวที่สอง วางกระบอกไม้ไผ่บรรจุน้ำ และ ซาลาเปาที่ซ้อนกันในเข่งใบใหญ่ถึง 5 ชั้น

บทที่เกี่ยวข้อง

  • หลินหลินกับระบบมิติผันผวน   บทที่18

    เมื่อคนเร่รอนเริ่มเห็นข้าวของจำนวนมาก ก็ค่อยๆ ขยับเข้ามาสอบถามด้วยความสงสัยว่านำของพวกนี้มาทำอะไรปู่หลิวเห็นเช่นนั้น จึงได้โอกาสบอกกับคนเร่รอนคนนั้นว่า "อีก1เค่อ คุณหนูของข้าจะทำการแจกจ่ายอาหารและของยังชีพ รบกวนเจ้าไปประกาศให้ทุกคนทราบด้วย จะได้ไม่เสียเวลาให้มาต่อแถวรอ อย่าลืมเอาชามช้อนของพวกเจ้ามาด้วย""ได้ ได้ ขอรับ ขอบคุณขอรับ ขอบคุณขอรับ""เอ้ย...พวกเรามีคนใจดีมากแจกอาหาร เตรียมชามช้อนมารอรับเร็วเข้า!"เสียงตะโกนดังก้องไปในความมืดนั้น สามารถปลุกพลังแห่งความวุ่นวายได้ในทันที ดีที่หลินหลินมีท่านลุงท่านป้า ทั้งสองมีประสบการณ์มาก่อน จึงให้คนของตนเองกันไม่ให้คนเร่ร่อนเบียดเข้ามาใกล้โต๊ะ เพราะอาจจะชนหม้อข้าวต้มเสียหายได้แต่ความหิวนั้นไม่เข้าใครออกใคร เริ่มมีการทะเลาะแย่งแถวกันเด็กๆ ถูกผลักออกจากแถว เด็กน้อยคนหนึ่งร้องไห้จ้าเมื่อถูกคนตัวใหญ่ผลักล้มลง ผู้คนล้วนไม่สนใจ นางเห็นดังนั้นจึงตะโกนออกไปว่า"หากพวกเจ้ายังทะเลาะกันอีกแม้แต่ครั้งเดียว...ข้าจะเก็บของทั้งหมดกลับไป!"แค่เพียงเสียงเดียวก็ทำให้ทุกอย่างสงบลงในพริบตา ทุกสายตาย้ายไปมองที่นางเป็นตาเดียว พร้อมกับเบิกตากว้างด้วยความตกใจสิ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-16
  • หลินหลินกับระบบมิติผันผวน   บทที่19

    เมื่อแจกทุกอย่างครบแล้ว หลินหลินก็ประกาศเรื่องสำคัญทันทีนายท่านเจียงกับฮูหยินเจียงมายืนประกบข้างหลินหลิน ฮูหยินเจียงมองหลินหลินด้วยแววตาชื่นชม นางก็อยากรู้ว่าหลินเอ๋อร์จะทำสิ่งใดหลินหลินกวาดสายตามองไปยังกลุ่มคนที่เบื้องหน้า นางเห็นความหวังริบหรี่ในแววตาของพวกเขา หลายคนผ่ายผอม อิดโรยจากความยากลำบาก"สิ่งสุดท้ายที่พวกท่านจะได้วันนี้ คือทางเลือก " หลินหลินเอ่ยเสียงดังฟังชัด"สวรรค์จะมอบทางเลือกให้พวกท่าน ขอให้พวกท่านตัดสินใจให้ดีเสียงของหลินหลินก้องกังวานไปทั่วบริเวณ เหมือนเสียงสวรรค์ที่หยาดลงมาปลุกความหวังในใจคนสิ้นหวัง"เย็นนี้จะมีคนของข้า ทั้งสามคนมาให้พวกท่านลงนามแจ้งความประสงค์ หากพวกท่านต้องการเดินทางไปเมืองใด ข้าจะเป็นคนจ่ายค่าเดินทางให้พวกท่านทั้งหมดเอง"เสียงฮือฮาดังขึ้น คนเหล่านั้นมองหน้ากันด้วยความประหลาดใจ"โดยค่าเดินทางนี้ข้าจะจ่ายให้กับกองคาราวานหรือรถเทียมวัวที่ข้าจ้างวานโดยตรง แม้การเดินทางมันไม่ได้สบายนัก แต่ก็คงไม่ลำบากจนพวกท่านทนไม่ได้" หลินหลินเว้นวรรคเล็กน้อย ก่อนจะพูดต่อด้วยน้ำเสียงที่เด็ดขาด"และอีกหนึ่งเรื่องคือ พวกเจ้า เจ้าเจ้า"หลินหลินชี้นิ้วไปยังคนที่ดวง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-16
  • หลินหลินกับระบบมิติผันผวน   บทที่20

    "ขอรับ จริงขอรับ""ถ้าอย่างนั้น...เจ้ามีสตรีในดวงใจหรือยัง?""ยังขอรับท่านแม่ แต่หากจะจับคู่ให้ข้า ท่านคงต้องผิดหวังแล้ว""ข้ามองนางเป็นดังน้องสาวขอรับ"ฮูหยินเจียงส่งค้อนให้ลูกชายแล้วหันมาส่งยิ้มให้หญิงสาวตรงหน้า"หลินเอ๋อร์ เจ้าอยากไปดูเรือนพักของเจ้าก่อนไหม? ป้าจะพาเจ้าไปเอง "หลินหลินส่ายหน้า"ท่านลุงกับท่านป้ายังไม่ได้ทานอาหารเช้าเลยเจ้าค่ะ""พวกเรามาทานอาหารกันก่อนดีกว่าไหมเจ้าคะ มื้อนี้ข้ามีของอร่อยอีกเพียบเลยนะเจ้าค่ะ""ดี ดี ลุงอยากกินอาหารของหลินเอ๋อร์ อาหารเจ้าอร่อยยิ่งนัก"ทั้งสามคนลุกขึ้นเดินไปยังห้องอาหาร ท่านป้าเลิกแกล้งพี่เจียงเหวินเถอะเจ้าค่ะ ดูเขาทำหน้าเศร้าสิเจ้าคะ"ฮ่าๆๆๆ"ทั้งสามหัวเราะขึ้นพร้อมกัน เจียงเหวินยิ้มอบอุ่น มองทั้งสามหัวเราะ เขาจะจดจำภาพนี้ฝังไปในใจเขาตลอดไป หากวันหนึ่งเขาไม่ได้อยู่บนโลกนี้แล้ว เขาก็หวังว่านางจะยังคงรักบิดามารดาเขาบ้าง สักเล็กน้อยก็ยังดี ให้พวกท่านได้อยู่บนโลกนี้ต่อไปได้เจียงเหวินหลบสายตามองลงพื้น เขาไม่กล้าบอกบิดามารดา ว่าเขาทำงานพลาด และโทษใหญ่หลวงกำลังรอเขาอยู่ เขาขอเวลาท่านแม่ทัพไว้ 10 วันตอนนี้เขาเหลือเวลาเพียง 5 วันเท่านั้น เ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-16
  • หลินหลินกับระบบมิติผันผวน   บทที่21

    ทันใดนั้น เสียงแจ้งเตือนจากระบบก็ดังขึ้น "พรสัมฤทธิ์ผล"ภาพความทรงจำเก่าๆ พรั่งพรูเข้ามาในห้วงคำนึงหลินหลินเห็นภาพของครอบครัวที่อบอุ่น ภาพของพวกเขารักและดูแลนางเหมือนไข่ในหิน แต่แล้วความสุขก็พังทลายลง เมื่อนางทำผิดพลาดครั้งใหญ่หลวง นางหลงเชื่อคนรักจนนำภัยมาสู่ครอบครัว สุดท้าย พวกเขาก็ต้องตายอย่างน่าอนาถแต่แม้ถึงวาระสุดท้าย พวกเขาก็ไม่เคยกล่าวโทษนางเลยสักคำ มีเพียงความรักและความปรารถนาดีที่จะปกป้องนางจนลมหายใจสุดท้ายความเจ็บปวดจากอดีตชาติแล่นริ้วเข้ามาในหัวใจราวกับคมมีดกรีดลึก ความรู้สึกผิด ท่วมท้นจนนางแทบหายใจไม่ออก ราวกับมีมือที่มองไม่เห็น บีบคั้นหัวใจของนางเสียงหัวเราะแห่งความสุขยังคงดังต่อเนื่อง ท่ามกลางบรรยากาศที่อบอุ่นและเบิกบานราวกับฟ้าหลังฝน นายท่านเจียงและฮูหยินเจียงโอบกอดกัน มองภาพเจียงเหวินที่กำลังอุ้มหลินหลินหมุนไปมาด้วยแววตาเปี่ยมสุข"ฮือ...ฮือ ไม่เอาแล้วนะเจ้าคะ ถ้าทำอีกข้าโกรธจริงๆ ด้วย " น้ำตาของหลินหลินไหลอาบแก้ม ไม่ใช่เพราะความกลัว แต่เป็นเพราะความเสียใจจากภาพความทรงจำอันเจ็บปวดในอดีตชาตินางเกิดมาพร้อมกับความรักความอบอุ่นของพวกเขา เป็นความรู้สึกที่นางโหยหามาตลอ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-17
  • หลินหลินกับระบบมิติผันผวน   บทที่22

    "พวกเราสามคนนอนไม่หลับ ใจพี่รอให้ถึงรุ่งเช้าเพื่อสะสางปัญหา หากเจ้ามาช้ากว่านี้อีกนิดพี่คงไปอุ้มเจ้าที่เรือนแล้ว " "ฮ่าๆๆๆ"หลินหลินส่ายหน้ากับความขี้เล่นของพี่ชาย วันนี้นางไม่ได้เอาอาหารออกจากมิตินางแจ้งท่านแม่ไปแล้วว่าอยากลองทานอาหารฝีมือแม่ครัวที่จวน ทุกคนทานอาหารเช้ากันอย่างอารมณ์ดี มีแต่เจียงเหวินเท่านั้นที่เติมข้าวไป 3 ถ้วยแล้ว แต่หลินหลินก็ยังกินไปแค่ครึ่งถ้วย เขาไม่กล้าเร่งน้อง แต่ตอนนี้ใจเขามันร้อนรุ่มเหลือเกินหลินหลินเห็นสายตาที่พี่ใหญ่มองมาเป็นระยะ ก็รู้ว่าเขาร้อนใจ นางจึงเร่งการกินให้หมดถ้วยแค่เพียงหลินหลินวางถ้วยน้ำชา เจียงเหวินก็อุ้มน้องวิ่งขึ้นรถม้าออกไปเลย ฮูหยินเจียงส่ายหน้ากับลูกชาย แต่นางก็เข้าใจว่ารีบไว้ดีกว่าไม่ทันการ เขาย่อมต้องรู้สถานการณ์ว่าต้องรีบหรือไม่รีบ ยังดีที่รอน้องกินข้าวหมดก่อน ทางด้านหลินหลินก็กรอกตามองบน"พี่ใหญ่ ท่านรีบขนาดนี้ไม่ไปปลุกข้าตอนยามโฉ่วแทนเล่า (01.00 น.) "หลินหลินกล่าวประชดประชันแต่แววตามีแต่ความขบขัน"หลินเอ๋อร์ เข้าใจพี่หน่อยเถิด เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ กว่าเราจะจัดเสบียงและเดินทางถึงแดนเหนือใช้เวลานานนัก เราต้องรีบแล้ว"หลินห

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-17
  • หลินหลินกับระบบมิติผันผวน   บทที่23

    "นายกองลี่ เข้ามา"ไม่ถึง 2 ลมหายใจก็มีบุรุษอีกคนเข้ามาภายในห้อง เขาคือหนึ่งในผู้คุ้มกันฝีมือดี"หากเจ้าหนีเขาได้ภายใน 1 จิบชา ข้าจะให้เจ้าร่วมขบวน"1 จิบชา เขาดูถูกนางเกินไปแล้ว.....บรรยากาศในห้องตึงเครียดขึ้นทันที "ท่านแม่ทัพ!"เจียงเหวินที่กำลังจะกล่าวบางอย่าง...ต้องเงียบเสียงลงด้วยเสียงของน้องสาว "พี่ใหญ่ไม่เชื่อใจข้าหรือเจ้าคะ"ลี่เฟยได้ยินคำสั่งผู้เป็นนายก็คิดจะลงมือทันที แต่เขาขยับตัวไม่ได้ เหมือนมีลมมายึดตัวเขาไว้ ลมในห้องพลันหมุนวนรอบตัวเขา ราวกับกรงขังที่มองไม่เห็น"แม่นาง เจ้าทำอะไร ทำไมข้าขยับตัวไม่ได้...""ข้าแค่ใช้เวทลมเล็กน้อยเจ้าค่ะ" รอยยิ้มหวานกล่าว..แต่แววตากลับเฉียบคมไม่มีแววล้อเล่นแม้แต่น้อยหลินหลินมองไปที่ผู้สั่งการ เห็นเขาค่อยละเมียดจิบชาช้าๆ ก็นึกหมั่นไส้ เขาไม่ยอมให้นางใช้วิธีนี้... ถ้านางไม่ทำอะไรสักอย่างเขาคงไม่ให้นางไปสินะหลินหลินถอนหายใจ เรียกดาบที่ห้องใต้ดินออกมา ดาบเล่มนั้นปรากฏขึ้นในมือ นางปลดเวทลมให้นายกองลี่ แล้วกระโดดออกจากทางหน้าต่าง ร่างของนางพุ่งทะยานออกไปดุจพญาเหยี่ยวนายกองลี่ไม่รอช้า เขาเรียกดาบยาวออกมา และตามนางออกไปทันที เสียงฝีเท้าหนัก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-18
  • หลินหลินกับระบบมิติผันผวน   บทที่24

    "ท่านแม่... ข้ากลับมาแล้วเจ้าค่ะ อ๊ะ! ท่านพ่อยังไม่ไปร้านหรือเจ้าคะ?” "พ่อเจ้าอยู่จัดการเรื่องส่งคนเร่ร่อนไปหัวเมืองต่างๆ พร้อมกับขบวนคาราวานพ่อค้าที่พ่อของเจ้ารู้จักแทนลูกน่ะสิ...นี่ก็เพิ่งจะสั่งคนของเจ้าไป พวกเขาคงไปทำตามที่พ่อเจ้าสั่งอยู่""ข้าฝากเรื่องนี้กับท่านพ่อด้วยนะเจ้าคะ"หลินหลินหันไปส่งสายตาออดอ้อน "จะกอดแค่เพียงแม่เจ้าคนเดียวพ่อก็น้อยใจแย่...""โอ๋ๆลูกผิดไปแล้วเจ้าค่ะ" หลินหลินสลับกอดท่านพ่อท่านแม่จนทั้งสองคนต้องบอกให้นางหยุดเพราะกลัวนางจะเหนื่อย... เจียงเหวินไม่อยากจะแจ้งบิดากับมารดาว่าอีกสองวันพวกเขาต้องออกเดินทางขึ้นแดนเหนือ อยากให้ท่านแม่มีความสุขมากกว่านี้อีกหน่อย แต่คงจะไม่ได้ เพราะท่านแม่ชวนหลินเอ๋อร์ออกจากจวนไปซื้อของในวันพรุ่งนี้ ยังไม่ทันที่หลินหลินจะรับปาก พี่ใหญ่ก็ขัดขึ้นมาก่อน "ท่านพ่อ ท่านแม่ขอรับ ข้ามีเรื่องต้องแจ้งขอรับ" หลินหลินกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก.....ทำไมสายตาพี่ใหญ่ถึงมองนางแบบนั้น "ข้าและน้องต้องเดินทางขึ้นแดนเหนือวันมะรืนนี้ขอรับ และท่านแม่ทัพ มีคำสั่งห้ามหลินเอ๋อร์ออกจ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-19
  • หลินหลินกับระบบมิติผันผวน   บทที่25

    และแล้ววันเดินทางก็มาถึงที่หน้าจวนตระกูลเจียง ขบวนของท่านแม่ทัพหยางเทียนชุนมาถึงแล้วหลินหลินรู้สึกตกใจเล็กน้อย ที่เห็นขบวนของเขายิ่งใหญ่อลังการกว่าที่คิด ธงทิวสีดำปักลายพยัคฆ์คำรามสีทองโบกสะบัดท้าทายสายลม ทหารองครักษ์กว่าสามสิบนายอยู่ในชุดเกราะสีดำขลับ พวกเขาขี่ม้าศึกสง่าผ่าเผย อาวุธและเครื่องแบบล้วนประณีต บ่งบอกถึงยศศักดิ์หลินหลินรู้ดีว่า หยางเทียนชุนต้องการประกาศให้ทุกคนรู้ว่านางเป็นคู่หมั้นของเขา แม้จะมีข่าวลือออกไปบ้างแล้ว แต่การปรากฏตัวพร้อมขบวนที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้ ยิ่งตอกย้ำความสัมพันธ์ให้ชัดเจนยิ่งขึ้น นางก็อดคิดไม่ได้ว่า .... ท่านแม่ทัพทำเรื่องใหญ่โตเกินไปแล้วหัวใจของหลินหลินเต้นแรง ด้วยความตื่นเต้นและประหม่านี่เป็นครั้งแรกที่นางจะได้ออกเดินทางไกลในโลกใบนี้ชาวบ้านต่างพากันมามุงดู ส่งเสียงฮือฮาเมื่อเห็นขบวนของท่านแม่ทัพ วันนี้หลินหลินเลือกสวมชุดสีดำ ที่ดูทะมัดทะแมงคล้ายกับชุดของเหล่ายอดฝีมือ ผมยาวของนางถูกรวบเป็นหางม้าง่ายๆ ท่านแม่ทัพไม่ได้ให้นางปลอมตัวเป็นบุรุษเพราะยังไม่มีเครื่องรางหรือของวิเศษใดๆ ที่สามารถเปลี่ยนจากสตรีเป็นบุรุษได้ เขาบอก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-20

บทล่าสุด

  • หลินหลินกับระบบมิติผันผวน   บทที่25

    และแล้ววันเดินทางก็มาถึงที่หน้าจวนตระกูลเจียง ขบวนของท่านแม่ทัพหยางเทียนชุนมาถึงแล้วหลินหลินรู้สึกตกใจเล็กน้อย ที่เห็นขบวนของเขายิ่งใหญ่อลังการกว่าที่คิด ธงทิวสีดำปักลายพยัคฆ์คำรามสีทองโบกสะบัดท้าทายสายลม ทหารองครักษ์กว่าสามสิบนายอยู่ในชุดเกราะสีดำขลับ พวกเขาขี่ม้าศึกสง่าผ่าเผย อาวุธและเครื่องแบบล้วนประณีต บ่งบอกถึงยศศักดิ์หลินหลินรู้ดีว่า หยางเทียนชุนต้องการประกาศให้ทุกคนรู้ว่านางเป็นคู่หมั้นของเขา แม้จะมีข่าวลือออกไปบ้างแล้ว แต่การปรากฏตัวพร้อมขบวนที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้ ยิ่งตอกย้ำความสัมพันธ์ให้ชัดเจนยิ่งขึ้น นางก็อดคิดไม่ได้ว่า .... ท่านแม่ทัพทำเรื่องใหญ่โตเกินไปแล้วหัวใจของหลินหลินเต้นแรง ด้วยความตื่นเต้นและประหม่านี่เป็นครั้งแรกที่นางจะได้ออกเดินทางไกลในโลกใบนี้ชาวบ้านต่างพากันมามุงดู ส่งเสียงฮือฮาเมื่อเห็นขบวนของท่านแม่ทัพ วันนี้หลินหลินเลือกสวมชุดสีดำ ที่ดูทะมัดทะแมงคล้ายกับชุดของเหล่ายอดฝีมือ ผมยาวของนางถูกรวบเป็นหางม้าง่ายๆ ท่านแม่ทัพไม่ได้ให้นางปลอมตัวเป็นบุรุษเพราะยังไม่มีเครื่องรางหรือของวิเศษใดๆ ที่สามารถเปลี่ยนจากสตรีเป็นบุรุษได้ เขาบอก

  • หลินหลินกับระบบมิติผันผวน   บทที่24

    "ท่านแม่... ข้ากลับมาแล้วเจ้าค่ะ อ๊ะ! ท่านพ่อยังไม่ไปร้านหรือเจ้าคะ?” "พ่อเจ้าอยู่จัดการเรื่องส่งคนเร่ร่อนไปหัวเมืองต่างๆ พร้อมกับขบวนคาราวานพ่อค้าที่พ่อของเจ้ารู้จักแทนลูกน่ะสิ...นี่ก็เพิ่งจะสั่งคนของเจ้าไป พวกเขาคงไปทำตามที่พ่อเจ้าสั่งอยู่""ข้าฝากเรื่องนี้กับท่านพ่อด้วยนะเจ้าคะ"หลินหลินหันไปส่งสายตาออดอ้อน "จะกอดแค่เพียงแม่เจ้าคนเดียวพ่อก็น้อยใจแย่...""โอ๋ๆลูกผิดไปแล้วเจ้าค่ะ" หลินหลินสลับกอดท่านพ่อท่านแม่จนทั้งสองคนต้องบอกให้นางหยุดเพราะกลัวนางจะเหนื่อย... เจียงเหวินไม่อยากจะแจ้งบิดากับมารดาว่าอีกสองวันพวกเขาต้องออกเดินทางขึ้นแดนเหนือ อยากให้ท่านแม่มีความสุขมากกว่านี้อีกหน่อย แต่คงจะไม่ได้ เพราะท่านแม่ชวนหลินเอ๋อร์ออกจากจวนไปซื้อของในวันพรุ่งนี้ ยังไม่ทันที่หลินหลินจะรับปาก พี่ใหญ่ก็ขัดขึ้นมาก่อน "ท่านพ่อ ท่านแม่ขอรับ ข้ามีเรื่องต้องแจ้งขอรับ" หลินหลินกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก.....ทำไมสายตาพี่ใหญ่ถึงมองนางแบบนั้น "ข้าและน้องต้องเดินทางขึ้นแดนเหนือวันมะรืนนี้ขอรับ และท่านแม่ทัพ มีคำสั่งห้ามหลินเอ๋อร์ออกจ

  • หลินหลินกับระบบมิติผันผวน   บทที่23

    "นายกองลี่ เข้ามา"ไม่ถึง 2 ลมหายใจก็มีบุรุษอีกคนเข้ามาภายในห้อง เขาคือหนึ่งในผู้คุ้มกันฝีมือดี"หากเจ้าหนีเขาได้ภายใน 1 จิบชา ข้าจะให้เจ้าร่วมขบวน"1 จิบชา เขาดูถูกนางเกินไปแล้ว.....บรรยากาศในห้องตึงเครียดขึ้นทันที "ท่านแม่ทัพ!"เจียงเหวินที่กำลังจะกล่าวบางอย่าง...ต้องเงียบเสียงลงด้วยเสียงของน้องสาว "พี่ใหญ่ไม่เชื่อใจข้าหรือเจ้าคะ"ลี่เฟยได้ยินคำสั่งผู้เป็นนายก็คิดจะลงมือทันที แต่เขาขยับตัวไม่ได้ เหมือนมีลมมายึดตัวเขาไว้ ลมในห้องพลันหมุนวนรอบตัวเขา ราวกับกรงขังที่มองไม่เห็น"แม่นาง เจ้าทำอะไร ทำไมข้าขยับตัวไม่ได้...""ข้าแค่ใช้เวทลมเล็กน้อยเจ้าค่ะ" รอยยิ้มหวานกล่าว..แต่แววตากลับเฉียบคมไม่มีแววล้อเล่นแม้แต่น้อยหลินหลินมองไปที่ผู้สั่งการ เห็นเขาค่อยละเมียดจิบชาช้าๆ ก็นึกหมั่นไส้ เขาไม่ยอมให้นางใช้วิธีนี้... ถ้านางไม่ทำอะไรสักอย่างเขาคงไม่ให้นางไปสินะหลินหลินถอนหายใจ เรียกดาบที่ห้องใต้ดินออกมา ดาบเล่มนั้นปรากฏขึ้นในมือ นางปลดเวทลมให้นายกองลี่ แล้วกระโดดออกจากทางหน้าต่าง ร่างของนางพุ่งทะยานออกไปดุจพญาเหยี่ยวนายกองลี่ไม่รอช้า เขาเรียกดาบยาวออกมา และตามนางออกไปทันที เสียงฝีเท้าหนัก

  • หลินหลินกับระบบมิติผันผวน   บทที่22

    "พวกเราสามคนนอนไม่หลับ ใจพี่รอให้ถึงรุ่งเช้าเพื่อสะสางปัญหา หากเจ้ามาช้ากว่านี้อีกนิดพี่คงไปอุ้มเจ้าที่เรือนแล้ว " "ฮ่าๆๆๆ"หลินหลินส่ายหน้ากับความขี้เล่นของพี่ชาย วันนี้นางไม่ได้เอาอาหารออกจากมิตินางแจ้งท่านแม่ไปแล้วว่าอยากลองทานอาหารฝีมือแม่ครัวที่จวน ทุกคนทานอาหารเช้ากันอย่างอารมณ์ดี มีแต่เจียงเหวินเท่านั้นที่เติมข้าวไป 3 ถ้วยแล้ว แต่หลินหลินก็ยังกินไปแค่ครึ่งถ้วย เขาไม่กล้าเร่งน้อง แต่ตอนนี้ใจเขามันร้อนรุ่มเหลือเกินหลินหลินเห็นสายตาที่พี่ใหญ่มองมาเป็นระยะ ก็รู้ว่าเขาร้อนใจ นางจึงเร่งการกินให้หมดถ้วยแค่เพียงหลินหลินวางถ้วยน้ำชา เจียงเหวินก็อุ้มน้องวิ่งขึ้นรถม้าออกไปเลย ฮูหยินเจียงส่ายหน้ากับลูกชาย แต่นางก็เข้าใจว่ารีบไว้ดีกว่าไม่ทันการ เขาย่อมต้องรู้สถานการณ์ว่าต้องรีบหรือไม่รีบ ยังดีที่รอน้องกินข้าวหมดก่อน ทางด้านหลินหลินก็กรอกตามองบน"พี่ใหญ่ ท่านรีบขนาดนี้ไม่ไปปลุกข้าตอนยามโฉ่วแทนเล่า (01.00 น.) "หลินหลินกล่าวประชดประชันแต่แววตามีแต่ความขบขัน"หลินเอ๋อร์ เข้าใจพี่หน่อยเถิด เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ กว่าเราจะจัดเสบียงและเดินทางถึงแดนเหนือใช้เวลานานนัก เราต้องรีบแล้ว"หลินห

  • หลินหลินกับระบบมิติผันผวน   บทที่21

    ทันใดนั้น เสียงแจ้งเตือนจากระบบก็ดังขึ้น "พรสัมฤทธิ์ผล"ภาพความทรงจำเก่าๆ พรั่งพรูเข้ามาในห้วงคำนึงหลินหลินเห็นภาพของครอบครัวที่อบอุ่น ภาพของพวกเขารักและดูแลนางเหมือนไข่ในหิน แต่แล้วความสุขก็พังทลายลง เมื่อนางทำผิดพลาดครั้งใหญ่หลวง นางหลงเชื่อคนรักจนนำภัยมาสู่ครอบครัว สุดท้าย พวกเขาก็ต้องตายอย่างน่าอนาถแต่แม้ถึงวาระสุดท้าย พวกเขาก็ไม่เคยกล่าวโทษนางเลยสักคำ มีเพียงความรักและความปรารถนาดีที่จะปกป้องนางจนลมหายใจสุดท้ายความเจ็บปวดจากอดีตชาติแล่นริ้วเข้ามาในหัวใจราวกับคมมีดกรีดลึก ความรู้สึกผิด ท่วมท้นจนนางแทบหายใจไม่ออก ราวกับมีมือที่มองไม่เห็น บีบคั้นหัวใจของนางเสียงหัวเราะแห่งความสุขยังคงดังต่อเนื่อง ท่ามกลางบรรยากาศที่อบอุ่นและเบิกบานราวกับฟ้าหลังฝน นายท่านเจียงและฮูหยินเจียงโอบกอดกัน มองภาพเจียงเหวินที่กำลังอุ้มหลินหลินหมุนไปมาด้วยแววตาเปี่ยมสุข"ฮือ...ฮือ ไม่เอาแล้วนะเจ้าคะ ถ้าทำอีกข้าโกรธจริงๆ ด้วย " น้ำตาของหลินหลินไหลอาบแก้ม ไม่ใช่เพราะความกลัว แต่เป็นเพราะความเสียใจจากภาพความทรงจำอันเจ็บปวดในอดีตชาตินางเกิดมาพร้อมกับความรักความอบอุ่นของพวกเขา เป็นความรู้สึกที่นางโหยหามาตลอ

  • หลินหลินกับระบบมิติผันผวน   บทที่20

    "ขอรับ จริงขอรับ""ถ้าอย่างนั้น...เจ้ามีสตรีในดวงใจหรือยัง?""ยังขอรับท่านแม่ แต่หากจะจับคู่ให้ข้า ท่านคงต้องผิดหวังแล้ว""ข้ามองนางเป็นดังน้องสาวขอรับ"ฮูหยินเจียงส่งค้อนให้ลูกชายแล้วหันมาส่งยิ้มให้หญิงสาวตรงหน้า"หลินเอ๋อร์ เจ้าอยากไปดูเรือนพักของเจ้าก่อนไหม? ป้าจะพาเจ้าไปเอง "หลินหลินส่ายหน้า"ท่านลุงกับท่านป้ายังไม่ได้ทานอาหารเช้าเลยเจ้าค่ะ""พวกเรามาทานอาหารกันก่อนดีกว่าไหมเจ้าคะ มื้อนี้ข้ามีของอร่อยอีกเพียบเลยนะเจ้าค่ะ""ดี ดี ลุงอยากกินอาหารของหลินเอ๋อร์ อาหารเจ้าอร่อยยิ่งนัก"ทั้งสามคนลุกขึ้นเดินไปยังห้องอาหาร ท่านป้าเลิกแกล้งพี่เจียงเหวินเถอะเจ้าค่ะ ดูเขาทำหน้าเศร้าสิเจ้าคะ"ฮ่าๆๆๆ"ทั้งสามหัวเราะขึ้นพร้อมกัน เจียงเหวินยิ้มอบอุ่น มองทั้งสามหัวเราะ เขาจะจดจำภาพนี้ฝังไปในใจเขาตลอดไป หากวันหนึ่งเขาไม่ได้อยู่บนโลกนี้แล้ว เขาก็หวังว่านางจะยังคงรักบิดามารดาเขาบ้าง สักเล็กน้อยก็ยังดี ให้พวกท่านได้อยู่บนโลกนี้ต่อไปได้เจียงเหวินหลบสายตามองลงพื้น เขาไม่กล้าบอกบิดามารดา ว่าเขาทำงานพลาด และโทษใหญ่หลวงกำลังรอเขาอยู่ เขาขอเวลาท่านแม่ทัพไว้ 10 วันตอนนี้เขาเหลือเวลาเพียง 5 วันเท่านั้น เ

  • หลินหลินกับระบบมิติผันผวน   บทที่19

    เมื่อแจกทุกอย่างครบแล้ว หลินหลินก็ประกาศเรื่องสำคัญทันทีนายท่านเจียงกับฮูหยินเจียงมายืนประกบข้างหลินหลิน ฮูหยินเจียงมองหลินหลินด้วยแววตาชื่นชม นางก็อยากรู้ว่าหลินเอ๋อร์จะทำสิ่งใดหลินหลินกวาดสายตามองไปยังกลุ่มคนที่เบื้องหน้า นางเห็นความหวังริบหรี่ในแววตาของพวกเขา หลายคนผ่ายผอม อิดโรยจากความยากลำบาก"สิ่งสุดท้ายที่พวกท่านจะได้วันนี้ คือทางเลือก " หลินหลินเอ่ยเสียงดังฟังชัด"สวรรค์จะมอบทางเลือกให้พวกท่าน ขอให้พวกท่านตัดสินใจให้ดีเสียงของหลินหลินก้องกังวานไปทั่วบริเวณ เหมือนเสียงสวรรค์ที่หยาดลงมาปลุกความหวังในใจคนสิ้นหวัง"เย็นนี้จะมีคนของข้า ทั้งสามคนมาให้พวกท่านลงนามแจ้งความประสงค์ หากพวกท่านต้องการเดินทางไปเมืองใด ข้าจะเป็นคนจ่ายค่าเดินทางให้พวกท่านทั้งหมดเอง"เสียงฮือฮาดังขึ้น คนเหล่านั้นมองหน้ากันด้วยความประหลาดใจ"โดยค่าเดินทางนี้ข้าจะจ่ายให้กับกองคาราวานหรือรถเทียมวัวที่ข้าจ้างวานโดยตรง แม้การเดินทางมันไม่ได้สบายนัก แต่ก็คงไม่ลำบากจนพวกท่านทนไม่ได้" หลินหลินเว้นวรรคเล็กน้อย ก่อนจะพูดต่อด้วยน้ำเสียงที่เด็ดขาด"และอีกหนึ่งเรื่องคือ พวกเจ้า เจ้าเจ้า"หลินหลินชี้นิ้วไปยังคนที่ดวง

  • หลินหลินกับระบบมิติผันผวน   บทที่18

    เมื่อคนเร่รอนเริ่มเห็นข้าวของจำนวนมาก ก็ค่อยๆ ขยับเข้ามาสอบถามด้วยความสงสัยว่านำของพวกนี้มาทำอะไรปู่หลิวเห็นเช่นนั้น จึงได้โอกาสบอกกับคนเร่รอนคนนั้นว่า "อีก1เค่อ คุณหนูของข้าจะทำการแจกจ่ายอาหารและของยังชีพ รบกวนเจ้าไปประกาศให้ทุกคนทราบด้วย จะได้ไม่เสียเวลาให้มาต่อแถวรอ อย่าลืมเอาชามช้อนของพวกเจ้ามาด้วย""ได้ ได้ ขอรับ ขอบคุณขอรับ ขอบคุณขอรับ""เอ้ย...พวกเรามีคนใจดีมากแจกอาหาร เตรียมชามช้อนมารอรับเร็วเข้า!"เสียงตะโกนดังก้องไปในความมืดนั้น สามารถปลุกพลังแห่งความวุ่นวายได้ในทันที ดีที่หลินหลินมีท่านลุงท่านป้า ทั้งสองมีประสบการณ์มาก่อน จึงให้คนของตนเองกันไม่ให้คนเร่ร่อนเบียดเข้ามาใกล้โต๊ะ เพราะอาจจะชนหม้อข้าวต้มเสียหายได้แต่ความหิวนั้นไม่เข้าใครออกใคร เริ่มมีการทะเลาะแย่งแถวกันเด็กๆ ถูกผลักออกจากแถว เด็กน้อยคนหนึ่งร้องไห้จ้าเมื่อถูกคนตัวใหญ่ผลักล้มลง ผู้คนล้วนไม่สนใจ นางเห็นดังนั้นจึงตะโกนออกไปว่า"หากพวกเจ้ายังทะเลาะกันอีกแม้แต่ครั้งเดียว...ข้าจะเก็บของทั้งหมดกลับไป!"แค่เพียงเสียงเดียวก็ทำให้ทุกอย่างสงบลงในพริบตา ทุกสายตาย้ายไปมองที่นางเป็นตาเดียว พร้อมกับเบิกตากว้างด้วยความตกใจสิ

  • หลินหลินกับระบบมิติผันผวน   บทที่17

    เอาล่ะ....นางผิดเอง " ระบบจากนี้ไปต้องคอยเตือนข้าทุกเรื่อง เข้าใจไหม? ""ระบบจะเตือนผู้ถูกเลือกขอรับ"หลินหลินจัดการข้าวของที่จะแจกจ่ายพวกคนเร่ร่อนเสร็จ พอมีเวลาว่าง นางก็มานั่งพักที่ชานเรือน พร้อมกับถ้วยชาและขนมคุกกี้ บรรยากาศยามเย็นช่างเงียบสงบ เหมาะแก่การพักผ่อนหย่อนใจเสียจริงแต่แล้ว หลินหลินก็นึกขึ้นได้ว่า นางลืมหินเวทที่เก็บไว้ในมิติเสียสนิท! นางรีบเรียกหินเวทลมออกมา ก้อนหินสีฟ้าใสเปล่งประกายระยิบระยับอยู่ในมือ หลินหลินหลับตา เพ่งสมาธิ สัมผัสได้ถึงพลังเวทที่ไหลเวียนเข้าสู่ลูกแก้วเวทลมในร่างกายทันใดนั้น ก็รู้สึกเหมือนมีลมปราณปั่นป่วนในท้อง คล้ายกับ...จะเรอ!"เอิ๊กกกกกกก!"เสียงเรอของหลินหลินดังกึกก้องหลินหลินลืมตาขึ้น มองไปรอบๆ ด้วยความตกตะลึง ถ้วยชา จานคุกกี้ หายไปไหนหมด! นางกวาดสายตามองหา จนไปสะดุดกับแสงสะท้อนของแก้วกระเบื้องที่พุ่มดอกไม้ ห่างออกไป 10 เมตร!"หา! 10 เมตร?" หลินหลินอ้าปากค้าง"แค่เรอเองนะ แรงขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย!"นางหัวเราะออกมาเสียงดัง ทั้งขำทั้งตกใจ ไม่คิดว่าพลังเวทจะทำให้เรอได้แรงขนาดนี้หลินหลินลุกขึ้น เดินไปเก็บถ้วยชาและจานคุกกี้ที่กระเด็นไป

DMCA.com Protection Status