Share

บทที่5

หลินหลินมองห้องพักที่นางจ่ายไปถึง 5 ตำลึง ทุกอย่างดูเหมาะสมกับราคา เพราะห้องนี้กว้างขวางมาก ไม่มีกลิ่นอับ ภายในห้องจุดกำยานหอมอ่อน ๆ ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย ที่สำคัญมีพื้นที่ให้ใช้สอยเยอะไม่อึดอัด ห้องนี้น่าจะสามารถพักได้ถึง 4 คนสบาย ๆ เลย

ด้านในทางซ้ายมือ มีเตียงไม้ขนาดใหญ่ 1 หลัง ตรงกลางห้องมีโต๊ะกินอาหารทรงกลมแกะสลักลวดลายสวยงาม พร้อมเก้าอี้เข้าชุด 4 ตัว วางล้อมรอบโต๊ะ ถัดไปทางขวาจะมีฉากกั้นลายดอกเหมยขนาดใหญ่ น่าจะเป็นห้องอาบน้ำ

หลินหลินเดินไปเปิดหน้าต่างเป็นอย่างแรก บนห้องพักนี้มีหน้าต่างขนาดใหญ่พร้อมตั่งยาวไว้ให้นั่งมองออกไปชมวิวสวนทางด้านหลังของโรงเตี๊ยมด้วย

มองออกไปภายนอกดูร่มรื่นเพราะภายในสวนมีการตกแต่งต้นไม้ใหญ่ไว้หลายจุด เจ้าของที่นี่ช่างร่ำรวยเสียจริง แต่หากให้นางเดา ต้องเป็นบุรุษไม่ใช่สตรีแน่นอน เพราะการตกแต่งออกไปทางดุดัน ซื่อตรง

หลินหลินปิดหน้าต่างลงก่อนจะเดินไปดูส่วนของห้องอาบน้ำ เห็นอ่างไม้ขนาดใหญ่ และมีโถไม้ขับถ่ายวางไว้ใกล้กัน

เมื่อสำรวจจนพอใจแล้ว หลินหลินจึงเดินมาที่โต๊ะหนังสือ ที่นี่ใจปล้ำเหมือนกันนะเนี่ย ถึงกับมีกระดาษและหมึกไว้ให้อย่างละ 1 ชุด แม้กระดาษที่ให้จะไม่ใช่กระดาษแบบแพง แต่ก็ถือว่าได้ใจผู้เข้าพักระดับหนึ่งเลย

เสี่ยวเอ้อยืนรอคำสั่งอยู่นาน หลินหลินเลยสั่งอาหารขึ้นชื่อมาทานบนห้องสัก 2 อย่าง เสี่ยวเอ้อรับคำก่อนปิดประตูด้วยความนอบน้อม

เมื่อได้อยู่คนเดียวแล้ว หลินหลินไปที่ตั่งนั่งเปิดหน้าต่างอีกครั้ง นางมองเลยออกไปนอกสวนของโรงเตี๊ยม ด้านหลังจะติดถนนอีกสาย ที่น่าสนใจคือมีของวางขายเรียงรายเต็มไปหมด

แต่น่าเสียดายที่นางไม่คิดจะอยู่เมืองนี้  แต่ก็ขอชื่นชมบรรยากาศความคึกคักของยุคนี้สักหน่อย จากที่มองด้วยสายตา แผงร้านค้าเพิ่งจะตั้ง คาดว่าคงเปิดขายยามเย็นและยามราตรีเป็นแน่

หลินหลินนั่งมองผู้คนใช้ชีวิต .....ก็เผลอคิดถึงตอนที่นางเป็นเด็กกำพร้าตัวเล็ก ๆ ตอนนั้นนาง 3 ขวบ นางอยากกินขนมมาก แต่นางไม่แม้แต่จะกล้าหยิบกิน...เพราะหากไม่ได้รับอนุญาต ก็จะถูกตีถูกลงโทษอย่างหนัก

ที่นั่นสอนอะไรนางมากมาย ลูกที่มีพ่อมีแม่คอยสนับสนุน ปกป้อง ไม่มีทางรู้หรอกว่า....เด็กที่ไม่มีพ่อแม่ หรือญาติพี่น้อง ต้องหวาดกลัวต่อทุกสิ่ง

และต้องเผชิญกับความรู้สึกแบบนี้วันแล้ววันเล่า จนเป็นเด็กที่มองว่าโลกใบนี้ไม่มีอะไรที่เป็นของตนเองเลย มันเป็นยังไง

ก๊อก ก๊อก ก๊อก

"อาหารที่สั่งมาแล้วขอรับ"

หลินหลินปิดหน้าต่างและเดินไปเปิดประตูและเบี่ยงตัวหลบด้านข้าง ให้เสี่ยวเอ้อยกอาหารเข้ามา

 เมื่อเสี่ยวเอ้อวางอาหารบนโต๊ะเสร็จก็หันมาถามว่านางต้องการอะไรอีกไหม ซึ่งนางก็บอกไปว่านางไม่ต้องการอะไร หากต้องการนางจะไปเรียกเอง

นางได้จ่ายค่าอาหารไปถึง 1 ตำลึง ก่อนเสี่ยวเอ้อออกไปนางได้ให้เงินไปอีก 1 ตำลึง เสี่ยวเอ้อมือไม้สั่น โค้งขอบคุณหลายต่อหลายครั้ง เพราะ 1 ตำลึงนี่เท่ากับค่าแรงเขา 3 วันเชียวนะ!

ส่วนมากเขาจะได้แค่ไม่กี่อีแปะเท่านั้น นี่คือลูกค้ารายแรกที่เขาพาขึ้นมายังห้องพิเศษชั้น 3 โชคดีจริงๆ ที่ตอนนั้นเสี่ยวเอ้อคนอื่นรู้ว่าห้องชั้น 2 เต็มจึงไม่มีใครอยากมาดูแลคุณหนู

เขาเลยรีบเสนอตัวมาดูแลคุณหนูเอง ขอบคุณสวรรค์เมตตาเขาแล้ว ขอบคุณคุณหนูขอรับ เสี่ยวเอ้อถอยหลังและปิดประตูอย่างเบามือ

หลินหลินเดินไปลงกลอนประตูห้อง พร้อมทั้งเดินมาเก็บอาหารเข้ามิติ ในใจคิดว่าจะไปดูช่องแลกเปลี่ยนซะหน่อย มองซ้ายขวาเมื่อไม่มีอะไรที่ลืมแล้วนางก็เข้ามิติทันที

ตี๊ดิง!

"คุณต้องการประมูลเป็ดย่างพร้อมจานโบราณใช่หรือไม่ กดยืนยันระบบจะเริ่มประมูลทันที ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 1 เหรียญทอง"

ตี๊ดิง!

" คุณต้องการประมูล หมูตุ๋นทรงเครื่องพร้อมหม้อดินโบราณใช่หรือไม่ กดยืนยันระบบจะเริ่มประมูลทันที ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 1 เหรียญทอง"

ตี๊ดิง!

"คุณต้องการประมูล ข้าวขาวทรงพร้อมถ้วยกระเบื้องโบราณใช่หรือไม่ กดยืนยันระบบจะเริ่มประมูลทันที ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 5 ตำลึงเงิน"

ตี๊ดิง!

"คุณต้องการประมูล ถาดไม้โบราณใช่หรือไม่ กดยืนยันระบบจะเริ่มประมูลทันที ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 5 ตำลึงเงิน"

หลินหลินแทบกรี๊ด นางแค่คิดว่าจะเข้ามาดูช่องแลกเปลี่ยนตอนที่เอาอาหารเข้าเพียงเท่านั้น แต่อาหารทั้งหมดกลับไปอยู่ในช่องแลกเปลี่ยนแบบประมูลของระบบ

"ดู ดู ราคาพวกนั้นสิ นางจ่ายไปแค่ 1 ตำลึง แต่เงินขั้นต่ำที่จะได้รับคือ 2 เหรียญทอง 6 ตำลึงเงิน กดยืนยันสิจ๊ะ รออะไร”

ระบบ : "เริ่มการประมูล การประมูลจะสิ้นสุดใน 5 นาที"

ระหว่างรอหลินหลิน ออกจากมิติเพื่อไปเคลียร์เรื่องจานที่หายไปกับทางโรงเตี๊ยม นางให้พวกเขาคิดค่าใช้จ่ายมาได้เลย

ทางโรงเตี๊ยมคิดมา 5 ตำลึง ราคาค่อนข้างหน้าเลือดอยู่นะเนี่ย เพราะจากที่เธอดู เธอคิดว่าราคาจาน หม้อดินพวกนี้รวมกันไม่น่าเกิน 3 ตำลึงแน่นอน แต่ไม่เป็นไรเธอกำไรเห็น ๆ

 "เสี่ยวเอ้อ มีร้านขายจานชาม หม้อดิน แถวนี้ไหม"

"มีขอรับ คุณหนูเดินตรงไปตรงแยกแล้วเลี้ยวขวา ก็จะเจอร้านขายพวกนี้อยู่ติดกัน 2-3 ร้านขอรับ แต่ถ้าต้องการชามที่เหมือนที่ร้าน ต้องเข้าเมืองหลวงขอรับ"

"อ่อ รู้แล้ว ทำไมถึงแพง" (หลินหลินคิดในใจ)

 "ขอบคุณเสี่ยวเอ้อมาก"

นางไม่รอช้า นี่จะเข้ายามโหย่วแล้ว (17:00) ร้านค้าใกล้จะปิดแล้วนางต้องรีบไปให้ทัน

หลินหลินรีบเดินออกจากโรงเตี๊ยมทันที ไม่นานก็พบทางแยก นางเลี้ยวขวาตามที่เสี่ยวเอ้อบอกก็เจอร้านหัวมุม ขายพวกแจกันก่อนเป็นร้านแรก.... นางไม่รอช้า รีบเข้าไปภายในร้าน

เถ้าแก่ที่วันนี้เงียบเหงาก็เด้งตัวลุกจากเก้าอี้เพื่อต้อนรับลูกค้า "คุณหนูท่านนี้ หาอะไรหรือขอรับ"

"เถ้าแก่ ข้าอยากได้แจกันสักเล็กน้อย ขอเดินดูได้หรือไม่เจ้าคะ"

"เชิญ เชิญ ขอรับ ตามสบายเลยขอรับคุณหนู"

โอ้วสวรรค์...นี่มันคลังแจกันโบราณจีนที่ประเมินค่าไม่ได้ มีเงินร้อยล้านยังไม่กล้าร่วมประมูลเลย

นี่ถ้านางส่งไปให้เคลูกชายอาริชได้ นางจะส่งไปเป็นของขวัญให้เขาสัก 10 ใบให้เขาหัวใจวายตายเล่น แต่ขานั้นคงไม่ยอมตายเพราะเสียดายของพวกนี้แน่นอน

เอ๊ะเดี๋ยวนะ ถ้านางส่งผ่าน อเล็กซ์ล่ะ น่าจะได้นะ เดี๋ยวลองดูล่ะกัน หลินหลินหาใบที่เล็กที่สุดในร้าน

ไม่มีเลย ขนาดที่เล็กที่สุดของทางร้าน  ความสูงปาไปประมาณครึ่งตัวของนางแล้ว

 "เถ้าแก่ ใบนี้ราคาเท่าไรเจ้าคะ"

"ฮ่ะฮ่ะๆ คุณหนูสายตาแหลมคมยิ่งนัก แจกันใบนี้ข้านำมาจากทางใต้ เป็นของหายาก กว่าจะมาถึงเมืองนี้ลำบากยากเข็น...."

หลินหลินกรอกตามองบน

 "บอกราคาเลยเจ้าคะ ข้ารีบ"

หลินหลินใช้ความสงบเยือกเย็นเข้าข่ม เพราะไม่งั้นนางคงโดนโกงราคาเป็นแน่

"ฮ่าๆๆ อย่าใจร้อน อย่าใจร้อนขอรับ! แจกันใบนี้ราคา 1 เหรียญทองเท่านั้นขอรับ"

หลินหลินขมวดคิ้วทันที แม้นางจะยังไม่รู้ว่าข้าวของที่นี่ราคาเท่าไร แต่ 1 เหรียญทองนางคิดว่าไม่น่าใช่ หลินหลินพยักหน้า

 "ขอบคุณเถ้าแก่มาก"

พร้อมทั้งหันหลังเตรียมจะออกจากร้าน

เถ้าแก่เห็นอย่างนั้นก็รีบร้องเรียกทันที

"อาหย๊า... คุณหนู ข้ายังบอกท่านไม่ครบเลยว่า ตอนนี้มันลดราคาอยู่ หากคุณหนูซื้อตอนนี้จะคุ้มมาก"

หลินหลินเอียงคอเล็กน้อยพร้อมถามเถ้าแก่ว่า

"วันนี้ร้านท่านลดราคาทุกใบไหมเจ้าคะ"

"เอ่อ... ใช่ ๆ ๆ ขอรับ วันนี้ลดราคา วันนี้ลดราคา"

"ถ้าอย่างนั้นข้าขอเลือกดูรอบ ๆ สักครู่นะเจ้าคะ"

เถ้าแก่รีบกลับไปนั่งที่โต๊ะ ใช้ผ้าเช็ดหน้าซับเหงื่อตามใบหน้า ทำไมเขาถึงรู้สึกร้อนๆ หนาวๆ แปลกๆ มือก็รีบร้อนรื้อค้นบัญชีต้นทุนขึ้นมาดูอย่างเร่งรีบ

ระหว่างที่เถ้าแก่ไม่ได้สนใจ หลินหลินเดินหามุมอับ เอาแจกันใบเล็กที่สุดของทางร้านอีกใบที่มีขนาดเท่ากับใบแรกเข้าประมูลเพื่อดูราคาต่ำสุดของการประมูล

2 เหรียญทอง!! ใบเล็กสุด 2 เหรียญทอง หลินหลินเห็นระบบขึ้นอักษรนามของผู้สร้าง ทำให้นางรู้ทันที ว่าราคาขึ้นอยู่กับนามผู้สร้างแจกันแน่นอน

นางจึงลองหาใบอื่นที่เป็นนามอื่นเข้าระบบ ปรากฏราคาสูงไม่เท่านามนี้

เฟิง

หลินหลินรีบเอาแจกันกลับออกมาวางที่เดิม และไปมุมที่มีแจกันใบใหญ่สูงเท่าหัวเรียงซ้อนกันอยู่ มุมนี้บดบังตัวนางมิดเลย หลินหลินเข้าไปเลือกโถใบในสุดเก็บเข้ามิติตรวจสอบราคาทันที 10 เหรียญทอง

"คุณพระ!!!รวยแย่แล้วยัยหลิน ฮ่า ฮ่า ฮ่า"

นางอุทานขึ้น

พอเอาโถแจกันกลับออกมาวางที่เดิมแล้ว ก็รีบเดินไปหาเถ้าแก่ทันที สายตาสำรวจแจกันใบแรกที่นางสอบถามไว้ นามผู้สร้างปรากฏว่าเป็นแจกันใบนี้ลงนามไว้ว่า เฟิง ตามที่นางต้องการ

"เถ้าแก่... ที่ท่านบอกว่าลดราคา แจกันใบแรกที่ข้าสนใจนั้นราคาเท่าไรเจ้าคะ ถ้าถูกใจข้าจะซื้อจากท่านไม่ต่ำกว่า สามใบแน่นอน แต่ถ้าราคาไม่ถูกใจข้าต้องขอโทษที่ทำท่านเสียเวลาแล้ว"

 "อะหย๊า.. ทำไมข้าต้องตื่นเต้นขนาดนี้เนี่ย คงบวกเพิ่มราคาจากปกติไม่ได้เสียแล้ว ..เห้อ... 80 ตำลึงเงินขอรับ ราคานี้เป็นราคา..."

 (เถ้าแก่ยังไม่ทันพูดจบ) หลินหลินไม่ปล่อยโอกาส แทรกขึ้นมา

"50 ตำลึง ราคานี้เท่านั้นเจ้าค่ะ"

 "ไม่ไหว ไม่ไหวขอรับ"

(เถ้าแก่รีบคำนวณในใจ 50 ตำลึง หักค่าเดินทางมาเขาได้แค่ 10 ตำลึง)

"คุณหนู 75 ตำลึง ข้าลดได้เท่านี้ขอรับ"

"เสียดายจังเจ้าค่ะ งั้นไม่เป็นไรเจ้าค่ะ ข้าคงต้องตัดใจ"

เถ้าแก่ ถูมือไปมา

 "คุณหนูเพิ่มให้ข้าสักนิด ราคานั้นไม่ไหวจริงๆ ขอรับ"

หลินหลินทำหน้าเศร้า

 "ข้าตั้งใจซื้ออีก 2 ใบเจ้าค่ะ เงินน่าจะไม่พอ ต้องขอโทษเถ้าแก่ที่เสียเวลานะเจ้าคะ"

"อีก 2 ใบ"

 เขาปล่อยนางออกไปไม่ได้ ลูกค้าเข้าร้านแล้วเขาต้องทำให้นางซื้อให้ได้

 "งั้นเอาแบบนี้ขอรับ หากคุณหนูซื้ออีก 2 ใบ ข้าจะลดใบนี้ให้ 50 ตำลึง"

หลินหลินพยักหน้าเข้าใจ แต่ในใจนี่แทบกรี๊ด...

"ท่านแนะนำใบที่ราคาไม่เกิน 50 ตำลึงให้ข้าสัก 2 ใบเจ้าคะ"

เถ้าแก่  (ยิ้มการค้า) เขามองหาใบที่เขาจะได้กำไรมากขึ้น แต่หาเท่าไหร่กำไรก็น้อยอยู่ดี

 เพราะราคาที่นางต่อแทบจะเป็นราคาทุนเขาแล้ว สายตาสอดส่องมองด้วยความเร่งรีบ อยากหาใบเล็กกว่าใบนี้... แต่กลับไม่มี เพราะใบที่นางเลือกเป็นใบที่เล็กที่สุดในร้าน!!!

 "เอ่อออ...."

 เถ้าแก่ตัดใจเลือกหยิบ 2 ใบใกล้ตัวเขามา ขนาดใกล้เคียงกับใบแรกที่ขายให้นาง หลินหลินพลิกดู 2 ใบนี้ไม่มีลงนาม แต่ไม่เป็นไร นางจะซื้อไว้......

“ได้เจ้าค่ะ ข้าเอา 2 ใบนี้ ตามที่ท่านแนะนำเจ้าค่ะ"

เถ้าแก่ถอนหายใจโล่งอก ดีที่นางไม่ต่อ ....แต่ยังไม่ทันหายใจหายคอก็มีเสียงหวานน่าขนลุกดังขึ้นมาอีกครั้ง

 "ใบนั้นราคาเท่าไรเจ้าคะ"

เถ้าแก่หันไปมองตามมือที่นางชี้ก็ต้องปาดเหงื่อทันที

"ใบนี้ใบใหญ่สุดของร้านขอรับ ปกติข้าขายอยู่ใบละ 2-5 เหรียญทอง เพราะมันทำยาก เป็นงานละเอียด ใช้เวลาทำนาน และขนส่งยากขอรับ"

ครั้งนี้เถ้าแก่พูดความจริงไม่โกงราคาแต่อย่างใด

 "หากข้าซื้อทั้งหมด เหมาราคาใบละ 3 เหรียญทองได้ไหมเจ้าคะ"  

นางอยากรีบปิดจบทำกำไร เพราะเวลานี้เย็นมากแล้ว เดี๋ยวร้านอื่น ๆ จะปิดเสียก่อน

เถ้าแก่รีบคำนวณราคาในใจ เขาเหมาซื้อมา 12 ใบ ถ้ารวมค่าส่งจะอยู่ที่ 25 เหรียญทอง แต่เพราะมันใหญ่ไม่ค่อยมีใครซื้อ อาจจะเพราะราคาที่สูง ตั้งแต่วางขายมีเพียงคนจากเมืองหลวงที่ซื้อไป 2 ใบ 7 เหรียญทอง ตั้งแต่นั้นมาก็ได้แต่ปัดฝุ่นรอ หากเขาขายให้นาง 10 ใบนี้ 30 เหรียญทองก็กำไรแล้ว เถ้าแก่ยิ้มกว้างรับทันที

 "ได้ ได้ ขอรับ ไม่ทราบคุณหนูให้ไปจัดส่งที่ใดขอรับ"

ตายล่ะงานนี้... นางลืมคิดเรื่องนี้ไปเลย!

Related chapters

  • หลินหลินกับระบบมิติผันผวน   บทที่6

    “เถ้าแก่ ข้าจะจ่ายเงินให้ท่านครึ่งหนึ่งของราคาสินค้าทั้งหมด ท่านออกใบลงนามรับรองการจ่ายเงินให้ข้า ส่วนวันที่จะมารับข้าจะแจ้งท่านอีกที"เถ้าแก่มองสำรวจที่อาภรณ์ของคุณหนูตรงหน้า นางไม่พกถุงหอม ไม่มีเครื่องประดับสักชิ้น เมื่อแน่ใจแล้วว่านางไม่มีถุงมิติ จึงเอ่ยปากแนะนำ"คุณหนูขอรับ ข้าขอแนะนำท่านสักเรื่อง หากคุณหนูจะขนของพวกนี้ไปไกลจากเมืองนี้ ข้าแนะนำให้คุณหนูเช่าถุงมิติจากหอเซียงซิน ที่นั่นมีให้เช่าของวิเศษหลายอย่าง แม้ถุงมิติราคาสูงหน่อย แต่มันสามารถใส่สิ่งของได้เยอะ ปลอดภัยจากโจร หรือความเสียหายของการเดินทางขอรับ”“ดูจากของที่คุณหนูซื้อแล้ว ต้องใช้เกวียนขนหลายคัน เสี่ยงต่อการเสียหายและถูกปล้นกลางทาง อีกอย่าง เมื่อครบกำหนดวันสัญญาเช่าถุงมิติ เราไม่ต้องเสียเวลาไปคืน ถุงมิติทุกใบจะลงเวทไว้ มันจะกลับคืนสู่หอเซียงซินโดยที่ผู้เช่าไม่ต้องนำไปคืนเลยขอรับ"เถ้าแก่ตัดสินใจแนะนำวิธีนี้ไป เพราะดูจากการที่นางซื้อของแล้วนางมีเงินพอที่จะจ่ายค่าเช่าถุงมิติแน่นอน และคุณหนูหลายๆคนไม่ทราบว่ามีวิธีนี้"หืม... ถุงมิติ งั้นหรอ ข้ารอดแล้ว"หลินหลินพยักหน้ายกยิ้มบาง "เถ้าแก่ อีกครึ่งชั่วยามข้าจะมารับสินค้า

    Last Updated : 2024-12-12
  • หลินหลินกับระบบมิติผันผวน   บทที่7

    "กรี๊ดดดด........นี่มัน!!!" นางลอกคราบ...นางเป็นงูหรอ...เอ้ย..นางเป็นคนสินางเป็นคน หลินหลินเธอต้องตั้งสติ.....ความเจ็บปวดที่เพิ่งผ่านพ้นไปยังคงทิ้งร่องรอยไว้บนร่างกาย ผิวหนังที่หลุดลอกเป็นแผ่น ๆ ทำให้หลินหลินอดคิดถึงงูที่ลอกคราบไม่ได้ ความรู้สึกแสบร้อนยังคงติดตรึงอยู่บนผิวหนังทุกตารางนิ้ว เหมือนถูกไฟลนแผดเผาจนแทบสลายหลินหลินค่อย ๆ ลูบไล้ไปตามแขนเรียวอย่างระมัดระวัง ผิวหนังเก่าที่แห้งกร้านและหมองคล้ำกำลังถูกผลัดออกไปทีละน้อย เผยให้เห็นผิวใหม่ที่ขาวเนียนสวยราวกับไข่มุกเบื้องล่าง ความเจ็บปวดเริ่มจางหายไป แทนที่ด้วยความรู้สึกตื่นเต้นและประหลาดใจ"กระจก" หลินหลินพึมพำเรียกหาสิ่งที่จะสะท้อนภาพของเธอในตอนนี้พรึบ! กระจกขนาดไม่ใหญ่มากปรากฏขึ้นเบื้องหน้า หลินหลินมองภาพสะท้อนของตัวเองด้วยความตกตะลึง นางงดงามกว่าดาราจีนในยุคของนางเสียอีก งามแบบไม่น่ามีอยู่จริงบนโลก "งานพอ ๆ กับเล่อปาเลยอิอิ"หลินหลินเหม่อมองภาพที่ปรากฏอยู่ เหมือนนางมองสาวงามล่มเมือง ร่างกายสวยงามที่สมส่วนรับกัน เครื่องหน้าทั้งห้า งดงามไร้ที่ติ ทุกอย่างลงตัวเหมือนสวรรค์สร้าง ผิวเนียนขาวใส ใบหน้าเรียวรีรูปไ

    Last Updated : 2024-12-12
  • หลินหลินกับระบบมิติผันผวน   บทที่8

    หลินหลินนั่งเอนหลังบนเก้าอี้ม้าโยก มองระบบเก็บเกี่ยวผลผลิตและขายออกแบบอัตโนมัติ ผลผลิตนางตั้งระบบไว้ เก็บ 50% ขายออก 50% แต่ผลผลิตก็ออกไวมาก ทำให้นางต้องอัปเดตโกดังอยู่ตลอด ตอนนี้นางมีเงินในระบบจากการขายแจกันและของจากระบบเยอะมาก เรียกได้ว่าโจรปล้น 100 ครั้งก็ยังไม่หมดตัว ฮ่าๆๆ เมื่อมองดูแล้วนี่คงใกล้รุ่งเช้าแล้ว หลินหลินจึงออกจากมิติไปยังห้องพักพรึ่บ..หลินหลินมองห้องที่มืดสนิท ข้างนอกคงยังไม่สว่าง แต่มีแสงของพระอาทิตย์โผล่พ้นขึ้นมาบ้างแล้ว นางลองเปิดประตูออกไปข้างนอก ไม่คิดว่าจะเจอใคร แต่กลับพบเสี่ยวเอ้อนั่งอยู่ตรงริมสุดทาง หรือว่าที่นี่เสี่ยวเอ้อรอให้บริการแขกตั้งแต่รุ่งเช้า.... เสี่ยวเอ้อไม่รอช้ารีบเข้ามาสอบถามนางทันที แต่ก็ต้องชะงักกับความงามของสตรีตรงหน้า เพราะคุณหนูท่านนี้ไม่ใช่คุณหนูคนเมื่อวาน แต่เป็นห้องนี้แน่ เพราะเมื่อวานเป็นเขาเองที่พานางมาส่ง คุณหนูท่านนี้งดงามมาก.. มากกว่าทุกคนที่เขาเคยพบเห็นมา เสี่ยวเอ้อเรียกสติตนเอง โค้งตัวก้มหน้าลง และสอบถามทันที "คุณหนูต้องการสิ่งใดหรือไม่ขอรับ"หลินหลินยืนนิ่ง.... คิดในใจว่าเสี่ยวเอ้อต้องจำนางไม่ได้แน่ ถ

    Last Updated : 2024-12-12
  • หลินหลินกับระบบมิติผันผวน   บทที่9

    ทางฝั่งหลินหลิน... ย้อนกลับไปตอนที่หลังเสี่ยวเอ้อรับถุงเงินและออกไป นางก็เข้ามิติไปเช็คราคาเครื่องประดับทั้งหมด เป็นอย่างที่นางคิดไม่มีผิด ของพวกนี้ทำกำไรให้นางเยอะมากหลินหลินไม่รอช้า นางออกจากห้องพักมุ่งหน้าสู่ร้านเครื่องประดับต่างๆ นางใส่ผ้าคลุมแปลงโฉม ตอนนี้ผู้คนจึงเห็นว่านางเป็นหญิงสาวอายุ 27-28 ปีก่อนหน้านี้ หลินหลินจ้างปู่หลิวกับสือหย่ง (ชายชราและเด็กน้อยที่รับจ้างตรวจเช็คแจกันให้นาง) ให้พวกเขาไปเช่ารถม้าพร้อมคนขับมา 1 คัน ปู่หลิวรับคำและไปจ้างคนที่รู้จักกันในหมู่บ้านคนนี้มีนามว่า หานเซียว เขาเคยเป็นทหารแต่ได้รับบาดเจ็บจึงออกจากการเป็นทหารมารับจ้างขับรถม้าแทนหลินหลินนั่งรอที่ร้านน้ำชาเล็ก ๆ ริมถนน ถัดไปอีก 2 ซอย นางวางแผนว่า นางจะนั่งรถม้าชมรอบเมืองสักหน่อยนางอยากดูวิธีชีวิตของคนที่นี่... เมื่อทุกอย่างพร้อมแล้ว ทั้ง 3 คนก็มายืนรอรับคำสั่งจากนาง หลินหลินส่งชุดให้ทุกคนเปลี่ยน พวกเขาไปหลบหลังรถม้าที่เป็นมุมอับ.. ลับตาคน และรีบเปลี่ยนชุดออกมาทันที...ชุดมีลักษณะเหมือนกันทั้ง 3 ตัว เป็นผ้าเนื้อดี ราคาแพง สีเทาเข้ม มีแค่ของปู่หลิวที่จะตัดขอบดำไม่เหมือนอีก 2 คน นางสั่งทุกคนว่า"ห

    Last Updated : 2024-12-12
  • หลินหลินกับระบบมิติผันผวน   บทที่10

    ผู้ดูแลสั่งให้คนเชิญหลินหลินขึ้นไปชั้นสอง ห้องที่ 3 ชั้นนี้เป็นห้องส่วนตัว มีไว้ต้อนรับแขกคนสำคัญ คู่ค้า หรือเชื้อพระวงศ์เท่านั้นระหว่างที่หลินหลินและปู่หลิวเดินตามคนนำทางไป ผู้ดูแลก็รีบไปเรียนนายท่านใหญ่ทันทีก๊อก ก๊อก ก๊อก ผู้ดูแลรอสัญญาณเสียงจากคนด้านในก่อน รอไม่นานเสียงนายท่านใหญ่ก็ดังขึ้น "ว่ามา..." ผู้ดูแลไม่ชินกับเสียงดุดันนี้เลยจริงๆ ... "เรียนนายท่านใหญ่ขอรับ มีคุณหนูท่านหนึ่งต้องการซื้อเครื่องประดับจำนวนมาก ข้าน้อยเลยมาแจ้งนายท่านใหญ่ก่อนขอรับ"เย่วเทียนชุนขมวดคิ้วเป็นปม ร้านเขาเป็นร้านอันดับ 1 ของเมืองนี้ คนที่ต้องการซื้อของส่วนใหญ่ผู้ดูแลจะเป็นคนดูเอง ไม่เคยต้องให้เขาไปดูแล "ซื้อจำนวนมาก? ... มากแค่ไหน ถึงกับต้องมาตามเขา"มุมปากหนายกยิ้ม เขาเองก็อยากจะรู้เช่นกันว่าใครมาเล่นตลกกับเขากันเทียนชุนวางสมุดบัญชีลง เขาตรวจบัญชีเสร็จพอดี มีอะไรอย่างอื่นให้ทำบ้างก็ดี ร่างสูงลุกขึ้นจากโต๊ะทำงาน เมื่อด้านในมีเสียงความเคลื่อนไหว ผู้ติดตามหน้าห้องทั้ง 2 ก็เปิดประตูรอนายของตนเองทันทีผู้ดูแลเดินนำเทียนชุนไปยังห้องพิเศษห้องที่ 3 เขารู้สึกถึงรังสีกดดันจากทางข้างหลัง ความจริงเขาแค่จ

    Last Updated : 2024-12-12
  • หลินหลินกับระบบมิติผันผวน   บทที่11

    "500 เหรียญทองก็ย่อมได้... แต่มีข้อแม้หนึ่งข้อ ข้าจะมั่นใจได้อย่างไรว่าเจ้าจะซื้อขายกับข้าอีกครั้ง" เทียนชุนเอ่ยเสียงเรียบ แต่แววตาคมกริบจับจ้องหลินหลินไม่คลาดสายตาราวกับจะมองทะลุผ่านใบหน้าของนางผู้ดูแลแทบเป็นลม... กำไรหายไปอีก 57 เหรียญทอง ทำไมนายท่านยิ่งเจรจามันกลับยิ่งน้อยลง หรือคนโง่ ๆ อย่างเขาจะไม่เข้าใจการค้ากันนะ.....หลินหลินครุ่นคิด ตอนแรกนางแค่จะมาเหมาสินค้าเข้าระบบ ไม่คิดผูกขาดกับใคร..."เรียนคุณชายตามตรง พรุ่งนี้.. ข้ากำลังจะออกเดินทางไปทางใต้ ไม่ได้อยู่เมืองนี้ ไม่ทราบว่าท่านมีร้านอยู่ทางใต้บ้างไหมเจ้าคะ"เทียนชุนชะงักไปเล็กน้อย น่าเสียดายที่นางจะไม่ได้อยู่ที่เมืองนี้แล้ว และอีก 2 วัน ตัวเขาเองก็ต้องออกเดินทางขึ้นเหนือ"ร้านค้าตระกูลเย่วมีหลายสาขาทั่วทั้งแคว้น"เสียงเข้มเอ่ยขึ้น เหมือนมีความไม่พอใจเจืออยู่เล็กน้อย"เจ้าจะลงใต้ไปเมื่อใด""ข้าจะไปเหมาสินค้าอีก 2-3 ร้านเจ้าค่ะ และจะออกเดินทางพรุ่งนี้เลยเจ้าค่ะ"" ต้องการสินค้ามากมายขนาดนั้น ...เจ้าจะเปิดร้านขาย? ""ข้าไม่ได้จะเปิดร้านเจ้าค่ะ ข้าแค่โชคดีที่มีลูกค้าเป็นพวกพ่อค้าต่างแคว้น ของทั้งหมดมีคนต้องการซื้ออยู่แล้วเ

    Last Updated : 2024-12-12
  • หลินหลินกับระบบมิติผันผวน   บทที่12

    หลินหลินเข้ามิติมาเพื่อดูว่าตัวนางจะหายไปจากตรงนั้นไหม นางดูนาฬิกา ตอนนี้ 10 วิแล้วที่นางอยู่ในมิตินางลุ้นมาก สิ่งที่นางคิดไม่น่ามีอะไรผิดพลาด มันเป็นทฤษฎีของแมลง นักวิทยาศาสตร์มีการวิจัยเกี่ยวกับความสามารถอันน่าทึ่งของแมลงไว้ว่า แมลงบางชนิดสามารถบินหลบสายฝนได้โดยที่ตัวมันไม่เปียกด้วยซ้ำ!ซึ่งแมลงพวกนี้มีสายตาที่ไวมากเป็นพิเศษ แถมยังมีปฏิกิริยาตอบสนองแบบฉับพลันอีกด้วย ซึ่งการตอบสนองของมันไวกว่ามนุษย์ถึง 10 เท่า!แมลงบางชนิดจะมีดวงตาที่ขาและมีดวงตาขนาดใหญ่ ซึ่งประกอบด้วยเลนส์ขนาดเล็กจำนวนมากมายเรียงกัน เลนส์เหล่านี้ทำหน้าที่รับภาพและประมวลผลออกมา ซึ่งมีความไวมากกว่ามนุษย์มากถึง 4 เท่า บวกกับมันสามารถทำความเร็วในการบินได้ 8 กม. ต่อชม. นั้นทำให้มันมองเห็นภาพเป็นแบบสโลว์โมชั่น ความสามารถการมองเห็นแบบสโลว์โมชั่นของมัน ทำให้การตบจากมนุษย์เป็นแค่การตบแบบสโลว์โมชั่นของมันเท่านั้นเมื่อหลินหลินลองเทียบเวลา 1 เดือนในมิติกับ 1 วันภายนอก มันมีความต่างที่เหลื่อมล้ำกับการรับภาพผ่านดวงตาของมนุษย์ทั่วไป นางเลือกทั้ง 3 คนนี้เป็นกลุ่มแรกที่นางจะทดลอง เพราะพวกเขาบางคนไม่มีพลังเวท หานเซียวมีแค่เวทระด

    Last Updated : 2024-12-12
  • หลินหลินกับระบบมิติผันผวน   บทที่13

    "ท่านปู่ขายอะไรเจ้าคะ"หลินหลินเอ่ยถามชายชราด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนผู้เฒ่าเฉียวค่อย ๆ เงยหัวขึ้นมองคนตรงหน้า ดวงตาที่แสนเศร้าหมองและเหนื่อยล้า แต่กลับมอบรอยยิ้มอบอุ่นให้หลินหลินภาพของชายชราผู้โดดเดี่ยว ทรุดโทรม และสิ้นหวัง สะท้อนเข้ามาในใจหลินหลินอย่างไม่อาจห้ามได้ นางเห็นถึงความอ่อนล้าในทุกอิริยาบถของเขา ร่างกายที่ผ่ายผอม เสื้อผ้าที่ขาดวิ่น และแผ่นผ้าเก่า ๆ ที่ปูรองหนังสือเพียงไม่กี่เล่ม บอกเล่าเรื่องราวของชีวิตที่ยากลำบาก"คุณหนู..."เสียงแหบพร่าของชายชราทำให้หลินหลินรู้สึกสะท้านในใจ มันเป็นเสียงที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดและความสิ้นหวัง"ข้าขายตำราขอรับ คุณหนูสนใจตำราหรือขอรับ... ตำราพวกนี้ข้าน้อยสะสมมันมาทั้งชีวิต ตอนนี้ชราแล้ว บุตรชายก็มาบาดเจ็บ จึงต้องนำมันมาขาย เชิญคุณหนูเลือกดูก่อนขอรับ"หลินหลินหยิบขึ้นมาเปิดผ่าน ๆ "ท่านปู่ ตำราท่านขายยังไงเจ้าคะ"ปู่เฉียวกลัวว่าวันนี้เขาจะไม่มีเงินไปจ่ายค่าหมอให้ลูกชาย จึงตัดใจลดราคาตำราลง"เรียนคุณหนูตามตรง ตำราพวกนี้ปกติข้าขายอยู่เล่มละ 2 ตำลึงขอรับ แต่บัดนี้จนใจต่อโชคชะตาแล้ว.... ข้าน้อยหวังเพียงเงินไปจ่ายค่าหมอค่ายาให้บุตรชาย คุณหนูให้เท่าไร

    Last Updated : 2024-12-12

Latest chapter

  • หลินหลินกับระบบมิติผันผวน   บทพิเศษ

    บทพิเศษเสี่ยวเฮย และ เสี่ยวหมี(หมีหิมะ)ภายในมิติ ทันทีที่หลินหลินจากไป เสี่ยวเฮยทรุดตัวลงกับพื้น น้ำตาไหลอาบแก้ม"ฮือๆ นายหญิง... ทำไม... ทำไมถึงทิ้งข้า"เสี่ยวเฮยคร่ำครวญด้วยความเสียใจเสี่ยวหมีเดินเข้ามาใกล้ "เสี่ยวเฮย เจ้าอย่าเสียใจไปเลย นายหญิงคงมีเหตุผลของนาง""เหตุผลอะไรกัน ข้าไม่เข้าใจ!" เสี่ยวเฮยร้องไห้โฮ "ข้ารักนายหญิง ข้าอยากอยู่กับนายหญิงตลอดไป"เสี่ยวหมีมองเสี่ยวเฮยด้วยความสงสาร "เสี่ยวเฮย... " เสี่ยวหมีลังเล "ข้า.. ข้าอ่านตำราโบราณออก""แล้วอย่าไร" เสี่ยวเฮยเงยหน้ามองเสี่ยวหมี"ตำราโบราณกล่าวไว้ว่า หากต้องกำจัดอสูรหิมะ ต้องระเบิดพลังจากภายในด้วยพลังระดับ 8 สองสาย และระดับ 9 หนึ่งสาย"เสี่ยวหมีอธิบายเสี่ยวเฮยขมวดคิ้ว "แล้วมันเกี่ยวอะไรกับนายหญิง""นายหญิงเป็นมนุษย์ นางมีพลังระดับ 9 ที่นายหญิงยกเลิกพันธะสัญญา ก็เพราะ... นางต้องการปกป้องเจ้า"เสี่ยวเฮยนิ่งอึ้ง "ปกป้องข้า?""ใช่ นางรู้ว่า หากเจ้ายังมีพันธะสัญญาอยู่ หากนางระเบิดพลังเจ้าจะตายไปด้วย "เสี่ยวหมีพูดด้วยน้ำเสียงเศร้า "นางรักเจ้ามาก เสี่ยวเฮย"เสี่ยวเฮยเบิกตากว้าง หัวใจของมันรู้สึกอบอุ่น ใน

  • หลินหลินกับระบบมิติผันผวน   บทที่90

    ภายในจวนท่านแม่ทัพ บรรยากาศเต็มไปด้วยความตึงเครียดและความคาดหวัง เสียงร้องโอดโอยของหลินหลินดังเล็ดลอดออกมาจากห้องคลอดเป็นระยะๆ ทำให้เทียนชุนที่ยืนรออยู่ด้านนอกร้อนใจเป็นอย่างยิ่ง เขากำมือแน่น พยายามสะกดกลั้นความกังวลเอาไว้ แต่ก็ไม่อาจหยุดความคิดที่วนเวียนอยู่ในหัวได้"หลินเอ๋อร์ เจ้าต้องปลอดภัยนะ"เขาพึมพำกับตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่าบิดามารดาของทั้งสองฝ่ายก็อยู่ในอาการไม่ต่างกัน พวกเขานั่งรออยู่ที่ห้องโถงใหญ่ ใบหน้าเต็มไปด้วยความวิตกกังวล เสียงร้องของหลินหลินแต่ละครั้งทำให้หัวใจของพวกเขาแทบจะหยุดเต้น"ลูกต้องปลอดภัยนะ"มารดาของหลินหลินพึมพำภาวนา ทันใดนั้นเสียงร้องของทารกก็ดังขึ้น ทำลายความเงียบสงัดในจวน ทุกคนต่างเงยหน้าขึ้นมองประตูห้องคลอดด้วยความตื่นเต้นไม่นาน หมอตำแยก็เปิดประตูออกมาพร้อมกับรอยยิ้มกว้าง "ยินดีด้วยเจ้าค่ะ ฮูหยินคลอดลูกแฝดชายหญิง เป็นเด็กที่แข็งแรงมาก"เทียนชุนรีบพุ่งเข้าไปในห้องคลอดทันที เขาเห็นหลินหลินนอนอยู่บนเตียง ใบหน้าซีดเซียวแต่ก็เปื้อนไปด้วยรอยยิ้มแห่งความสุข ข้างกายนางมีทารกน้อยสองคนนอนอยู่เทียนชุนทรุดตัวลงข้างเตียง จับมือภรรยาไว้แน่น"หลินเอ๋อร์ เจ้าเก่งมาก"

  • หลินหลินกับระบบมิติผันผวน   บทที่89

    หลินหลินค่อยๆ ลืมตาตื่นขึ้นมา พบว่าตัวเองอยู่ในอ้อมกอดที่คุ้นเคยของเทียนชุน ทันทีที่สติกลับคืนมา ภาพเหตุการณ์สุดท้ายก่อนหมดสติก็ฉายชัดขึ้นในห้วงความคิด เสียงระเบิดดังสนั่น ภาพดวงตาที่ทั้งสองมองมาที่นาง…น้ำตาไหลอาบแก้มหลินหลินอีกครั้ง ความเจ็บปวดของความสูญเสียกัดกินหัวใจของนางอย่างรุนแรง นางพยายามสะกดกลั้นเสียงสะอื้น แต่ก็ไม่สามารถหยุดยั้งมันได้"เสี่ยวเฮย... เสี่ยวหมี..."นางพึมพำชื่อของพวกมันซ้ำๆ ราวกับต้องการเรียกพวกเขากลับมาเทียนชุนตื่นขึ้นมาเมื่อรู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนจากร่างกายของภรรยา เขามองหลินหลินที่กำลังร้องไห้อย่างหนัก หัวใจของเขาเจ็บปวดไม่ต่างกัน เขาโอบกอดนางไว้แน่น พยายามปลอบโยน" หลินเอ๋อร์"เขาพูดเสียงแผ่วเบา "ทุกอย่างจบแล้ว"หลินหลินเงยหน้ามองสามี น้ำตาไหลอาบแก้ม "ข้า... ข้าทำไม่สำเร็จ"นางพูดเสียงสั่นเครือ "ข้าไม่สามารถปกป้องพวกเขาได้"เทียนชุนส่ายหน้า "ไม่ใช่ความผิดของเจ้า พวกเขาเลือกที่จะเสียสละตัวเองเช่นเจ้าเลือกที่จะสละตัวเองเพื่อพวกเรา""แต่..."หลินหลินยังคงร้องไห้ไม่หยุดเทียนชุนเช็ดน้ำตาให้ภรรยาอย่างอ่อนโยน "เสี่ยวเฮยและเสี่ยวหมีคงภูมิใจในตัวเอง ที่พวกเขา

  • หลินหลินกับระบบมิติผันผวน   บทที่88

    หลินหลินรีบร้อนเข้าสู่มิติเพื่อเตรียมตัวรับมือกับภัยคุกคามครั้งใหญ่ แม้จะมีเวลาจำกัดเพียงสองชั่วยาม (สี่ชั่วโมง) แต่นางก็ไม่รอช้า มุ่งตรงไปยังหอตำราเวททันทีภายในหอตำรา บรรยากาศเงียบสงบและเคร่งขรึม อักษรโบราณสีทองเรียงรายอยู่บนผนังถ้ำสูงตระหง่าน หลินหลิน ค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับอสูรหิมะ สัตว์ในตำนานที่กำลังคุกคามพวกเขา ครั้งนี้อักษรไม่ได้พุงเข้ามาที่ตัวของนางแต่ปรากฏหนังสือโบราณเก่าแก่อสูรหิมะ... สัตว์ในตำนานที่ถือกำเนิดจากพายุหิมะอันรุนแรง ดูดกลืนพลังจากความหนาวเย็นจนกลายเป็นอสูรร้ายทรงพลัง มันออกตามล่านักเวทระดับ 9 เพื่อดูดกลืนพลังขั้นสุดท้ายของพวกเขาหลินหลินสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ตัวอักษรในตำราเต้นระริกราวกับจะตอกย้ำความจริงที่ว่า มีเพียงนางและสามีเท่านั้นที่อยู่ในระดับ 9 มือของนางเริ่มสั่นไหว ความกลัวกัดกินหัวใจนางพลิกหน้าตำราต่อไปอย่างรวดเร็ว ค้นหาวิธีที่จะหยุดยั้งอสูรตนนี้มีเพียงสายฟ้าฟาดลงกลางหัวใจ 9 ครั้งเท่านั้นที่จะสังหารมันได้ หรือ... การระเบิดพลังจากภายใน ต้องใช้พลังเวทระดับ9 หนึ่งขุม หรือระดับ 8 สองขุม ถึงจะจัดการกับอสูรหิมะตนนี้ได้หลินหลินหน้าซีดเผือด มือบางสั่นเทาจนเสี่ยวเ

  • หลินหลินกับระบบมิติผันผวน   บทที่87

    "เราจะพักที่นี่เอาแรงก่อน" หลินหลินหันไปบอกกับทั้งสามคน ก่อนจะมอบน้ำทิพย์ให้พวกเขาคนละกระบอกนางใช้เวลาพูดคุยกับครอบครัวอีกหนึ่งเค่อ (30 นาที) ก่อนจะขอตัวกลับไปทำภารกิจต่อระบบแจ้งเตือนว่ายังมีผู้รอดชีวิตอีก 2 คน แต่ดวงตาตรวจสอบของนางกลับใช้การไม่ได้ในพายุหิมะที่รุนแรงเช่นนี้ นางต้องพึ่งดวงล้วนๆในการค้นหาพวกเขาหลินหลินและเหล่าทหารกลับมายังจวนแม่ทัพอีกครั้งครั้งนี้นางร่ายโล่เวทขึ้นมาเพื่อต้านทานพายุ นางจะเป็นผู้นำทัพหน้า ส่วนหลิวเคออยู่ซ้าย โหลกังอยู่ขวา และอิงหานคอยระวังหลัง ทุกคนต่างดึงพลังเวทของตนเองออกมาใช้อย่างเต็มที่เพื่อต่อสู้กับพายุที่โหมกระหน่ำพวกเขาเดินฝ่าพายุหิมะไปอย่างยากลำบาก หิมะหนาแน่นจนแทบมองไม่เห็นทางข้างหน้า ลมพัดกระหน่ำจนแทบจะปลิวไปตามลม หลายครั้งที่พวกเขาเกือบจะล้มลง แต่ก็ยังคงประคองกันและกันไว้ได้ตอนนี้พวกเขาพบกับภาพที่น่าสลดใจที่สุด...เท่าที่เคยพบเจอ สองตายายนอนกอดกัน ร่างกายของพวกเขาถูกปกคลุมไปด้วยหิมะหนา ราวกับกำลังหลับใหลอย่างสงบ แต่หลินหลินรู้ดีว่าพวกเขาจากไปแล้วหลินหลินทรุดตัวลงข้างๆ ร่างของสองตายาย น้ำตาไหลอาบแก้มของนางอย่างไม่อาจควบคุมได้ น

  • หลินหลินกับระบบมิติผันผวน   บทที่86

    เวลาผ่านไปอย่างเชื่องช้า เทียนชุนยังคงโอบกอดหลินหลินไว้แนบอก ความรู้สึกภายในของเขาลึกล้ำเกินกว่าจะบรรยายออกมาเป็นคำพูดในฐานะสามี เขาอยากปกป้องภรรยาสุดที่รักจากอันตรายข้างนอก แต่ในฐานะแม่ทัพ เขาก็ไม่อาจละทิ้งประชาชนในแดนเหนือได้เช่นกัน เขาติดอยู่ในวังวนของความขัดแย้งภายในใจ ปล่อยนางไปก็ห่วง กักตัวนางไว้ก็ผิดต่อหน้าที่หลินหลินที่จมอยู่ในห้วงความคิดของตนเอง เริ่มตั้งสติและรวบรวมความกล้า นางไม่ใช่คนที่จะยอมแพ้อะไรง่ายๆ และการเดิมพันครั้งนี้ถือว่าคุ้มค่าที่จะเสี่ยงเพื่อคนที่นางรักหลินหลินค่อยๆ ผละออกจากอ้อมกอดที่อบอุ่นของสามี เงยหน้าขึ้นสบตาเขาอย่างแน่วแน่"ท่านพี่" นางเอ่ยเสียงหนักแน่น"สำหรับข้า ท่านคือโลกทั้งใบ ดังนั้นข้าจะทำภารกิจนี้ให้สำเร็จ กลับมาเคียงข้างท่านให้ได้ ข้าสัญญา"แววตาของหลินหลินเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นและความรักที่ล้นปรี่ เทียนชุนมองลึกลงไปในดวงตาคู่นั้น เขาเห็นถึงความแข็งแกร่งและความเสียสละที่ซ่อนอยู่ภายใน แม้ใจจะแหลกสลายที่ต้องปล่อยนางไป แต่เขาก็รู้ดีว่าไม่มีสิ่งใดหยุดยั้งภรรยาของเขาได้เขาพยักหน้ารับอย่างเชื่องช้า รู้สึกถึงก้อนสะอื้นที่จุกอยู่ในลำคอ "พี่จะรอเจ้า...

  • หลินหลินกับระบบมิติผันผวน   บทที่85

    ยามจื่อ (00.00 น.) ความมืดมิดปกคลุมราตรีไร้เสียง มองเห็นเพียงแสงเทียนริบหรี่จากบ้านเรือนบางหลัง ทว่าในเงามืดนั้น มีกลุ่มเงาเคลื่อนไหวอย่างว่องไวและเงียบเชียบ นำโดยหลิวเคอ และทหารฝีมือดีของหลินหลินอีกหลายสิบนาย ด้วยวรยุทธ์และพลังเวทที่สูงส่งถึงระดับ 7 พวกเขาเคลื่อนไหวราวกับภูตพราย ไร้ร่องรอย ไม่มีใครแม้แต่จะรู้สึกถึงการมีอยู่ของพวกเขา แต่ละคนล้วนมีถุงมิติขนาดเล็กที่หลินหลินกว้านซื้อมาจากระบบมากถึง 500 ใบบ้านเรือนทุกหลังในเมืองถูกเยี่ยมเยือนโดยกลุ่มเงาเหล่านี้ พวกเขาเข้าออกอย่างรวดเร็วและเงียบเชียบ ของมีค่าทุกชิ้นถูกกวาดลงถุงมิติอย่างรวดเร็วและแม่นยำ ไม่ว่าจะเป็นทองคำ เงิน เครื่องประดับ หรือของสำคัญอื่นๆ ล้วนถูกเก็บลงถุงมิติข้างตัวยามหยิน (03.00น.)ไม่มีบ้านเรือนหลังไหนที่พวกเขาไม่ไปเยือน ทุกอย่างดำเนินไปอย่างเป็นระบบและรวดเร็ว ราวกับปฏิบัติการลับที่ได้รับการวางแผนมาอย่างดีรุ่งเช้าวันใหม่มาเยือนพร้อมกับความโกลาหล เมื่อชาวเมืองทุกหลังคาเรือนตื่นขึ้นมาพบว่าของมีค่าภายในบ้านหายไปอย่างไร้ร่องรอย! แม้แต่โต๊ะรับแขกไม้เนื้อดีก็ยังอันตรธานไป สร้างความตื่นตระหนกและหวาดกลัวไปทั่วหลินหลินคาดกา

  • หลินหลินกับระบบมิติผันผวน   บทที่84

    ขณะที่หลินหลินกำลังมุ่งหน้าไปยังถ้ำแห่งต่อไป นางก็สำลักเลือดออกมาจนเปรอะเปื้อนอาภรณ์ ทหารที่เห็นเหตุการณ์ต่างตกใจ"นายหญิง!!"หลินหลินยกมือขึ้นเช็ดคราบเลือดอย่างไม่ใส่ใจ "ไม่เป็นไร ข้าไม่เป็นอะไร"นางฝืนยิ้มให้พวกเขา แต่ในใจกลับรู้สึกหนักอึ้ง พลังเวทในตัวนางเหลือน้อยเต็มที การสร้างปราการครั้งใหญ่เมื่อครู่นี้ดูดพลังของนางไปมากมาย หลินหลินกัดฟันข่มความเจ็บปวดที่แล่นขึ้นมาในอก พยายามรักษาท่าทีให้นิ่งสงบที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่นางรู้ดีว่าร่างกายของนางกำลังส่งสัญญาณเตือน"ไม่เป็นไรหลินหลิน เจ้าจะไม่เป็นอะไร"หลินหลินพูดเสียงแผ่วเบา เพื่อส่งกำลังใจให้ตัวเองข้าจะต้องเข้มแข็ง ข้าต้องทำได้ นางบอกตัวเองในใจภาพความฝันที่สองเมื่อคืนยังคงตามหลอกหลอนนาง ความรู้สึกผิดที่ไม่อาจปกป้องทุกคนได้ยังคงกัดกินหัวใจของนาง นางไม่อาจปล่อยให้เหตุการณ์เช่นนั้นเกิดขึ้นอีกในความฝันนั้น นางเห็นตัวเองเลือกสร้างปราการคุ้มกันเมืองแดนเหนือเอาไว้ เพราะคิดว่าเพียงแค่พายุผ่านไปทุกอย่างจะกลับมาเป็นปกติ ค่ายทหารถูกพายุถล่มจนพังพินาศ และเมื่อพายุสงบลง กองกำลังศัตรูก็บุกเข้าโจมตีทันที แม้ว่าในท้ายที่สุด นางแล

  • หลินหลินกับระบบมิติผันผวน   บทที่83

    เทียนชุนแทบไม่ได้ฟังที่หลินหลินพูด เขาจดจ้องอยู่แต่กับเรือนร่างตรงหน้า เทียนชุนประกบจูบหญิงสาวอย่างโหยหา หลายวันมานี้เขาคิดถึงนางแทบขาดใจ เมื่อคืนที่เห็นนางเหนื่อยจึงไม่อยากรบกวนนาง อยากให้นางได้พักผ่อน แต่ไม่คิดว่าเช้ามาเขาจะได้อาหารเช้าที่แสนวิเศษ "ท่านพี่...อ้า.. "นิ้วสากลูบไล้เนื้ออวบอูมอย่างช่ำชอง นิ้วหนาชำแหละกลีบชมพูเข้าไปในช่องทางรักอย่างโหยหา..เขาชักนิ้วเข้าออกระรัวจนร่างบางหวีดร้อง....."อะๆๆๆ..อ้า! " ร่างบางบิดเร้าด้วยความเสียว เทียนชุนดึงนิ้วที่เปียกย้อมด้วยน้ำรักของสตรีตรงหน้าออกมา เขาชูให้นางดูก่อนใช้ลิ้นเลียนิ้วหนา หลินหลินมองภาพนั้นด้วยหัวใจที่สั่นไหว เขาดูเซ็กซี่ขยี้ใจนางมาก..."อ้า... "ร่างกายเริ่มร้อนรุ่มหนัก เทียนชุนควักท่อนเอ็นที่พองโตออกมาชักรูดสองสามทีก่อนเสียบอัดเข้าไปจนมิดด้าม"อ้า..หลินเอ๋อร์... "ร่างหนาครางต่ำ..."อืมมมม!!! "พั่บ..พั่บ..พั่บ..พั่บ..เสียงเนื้อกระทบกันดังกึกก้องห้องนอน หลินหลินตัวโยกไปตามแรงกระแทกของสามี"อ๊ะ!อ๊ะ!อ๊ะ!อ๊ะ! งื้อ... ""ใหญ่มากท่านพี่ของท่านใหญ่มาก..." เทียนชุนที่ได้ยินภรรยา

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status