"เฮือก"...
หลินลดา รับรู้ได้ถึงการหายใจของร่างกายอีกครั้ง...หายใจ เธอต้องหายใจ...... หลินลดา รู้แค่เธอต้องหายใจ
โกยเข้าไปอีก โกยเข้าไปอีก.... เสียงในหัวมันดังแบบนั้นอยู่เนิ่นนานหลายนาที สายตาที่พร่าเบลอก็ถูกปรับให้มองได้ชัดเจนขึ้น หลินลดากวาดสายตาสำรวจรอบตัวโดยสัญชาตญาณ สิ่งที่เธอมองเห็นอยู่เบื้องหน้าตอนนี้คือ..
ป่า! ใช่ ป่า ต้นไม้ที่มีลำต้นสูงใหญ่เป็นอย่างมาก ถ้าเทียบจากโลกที่นางจากมา คงเป็นป่าลึก
"โอ้ย!".... "ฮึก"
ความทรงจำมากมายหลั่งไหลเข้ามาในหัวไม่หยุด หลินลดาต้องเอามือขึ้นมากุมหัว ความเจ็บนี้ทำให้เธอเผลอกัดปากจนเลือดโดยไม่รู้ตัว ภาพต่างๆ ความรู้สึกต่างๆ ของร่างนี้ทยอยเข้ามาในหัวไม่หยุด
หลินลดาได้แต่ทนรับข้อมูลต่างๆ จนในที่สุดความเจ็บก็เบาบางลงไป ความทรงจำทุกอย่างของร่างนี้เธอได้รับมาหมดแล้ว เธอสะบัดหัวไล่ความมึนงงออกไป หลินลดาทบทวนความจำที่ได้มา
"ฉัน..ไม่สิต้องพูดว่า"
"ข้า ข้าย้อนมาเป็นเด็กสาว 15 ปี ไม่ๆ .. ต้องบอกว่า 15 หนาว"
ยุคจีนโบราณ หน้าตาน่าเอ็นดู ใบหน้ารูปไข่ ดวงตากลมโต ปากนิดจมูกหน่อย แต่เพราะผิวที่คล้ำแดด แตกแห้ง และผอมกะหร่อง ทำให้ความงามลดหายไปในทันตา
จากความทรงจำของหลินหลินคนก่อน นางเป็นเด็กสาวที่ถูกเลี้ยงโดยป้า บิดามารดาป่วยเป็นไข้ป่าตายจากไปแล้ว
อย่างตอนนี้...ร่างนี้ต้องขึ้นเขาเพื่อมาหาของป่ากลับไปให้ครอบครัวท่านป้าที่เลี้ยงนางมา หากหาได้ของดีนางต้องนำไปขายเพื่อนำตำลึงมาให้ท่านป้า แต่หากเจอเพียงแค่ผักป่า ร่างนี้ต้องนำกลับไปทำอาหารให้ครอบครัวนั้นกิน
ครอบครัวป้าก็เอาเปรียบนางทุกอย่าง ให้กินแต่ของเหลือ หรือน้ำต้มผักอยู่ทุกวัน ร่างนี้จึงป่วยไข้ แต่แม้จะป่วยก็ยังต้องทำงาน ซักผ้า กวาดบ้าน และหาของป่า
ก่อนที่นางจะตายจากโลกนี้ไป หลินหลินนางโดนทุบตีอย่างหนักเพราะผู้เป็นป้าอารมณ์ไม่ดี ร่างนี้ไม่รู้ด้วยซ้ำว่านางต้องทำอย่างไร ให้ป้าพอใจ .....ป้องกันตัวเองไม่ได้ เพียงได้แต่จำยอมเป็นที่ระบายอารมณ์ให้ผู้เป็นป้าตีจนเหนื่อยและหมดแรงไปเอง
รุ่งเช้ามา...ผู้เป็นป้าก็สั่งให้หลินหลินขึ้นเขามาหาของป่าไปให้คนที่บ้านกิน หากหาไม่ได้ไม่ต้องลงมา ครั้งนี้หลินหลินตั้งใจเข้าป่าให้ลึกหน่อยเพื่อจะได้มีของกลับไปเยอะๆ แต่ดวงชะตาไม่เข้าข้างนาง ร่างนี้หลงป่า และหมดสติจากพิษไข้ ตกตายจากไป -จนหลินหลินคนใหม่ได้เข้ามาแทน
"เห้อ...ชีวิตรันทด น่าสงสารจริงๆ ระบบข้าไม่อาจใช้ชีวิตในร่างของนางต่อได้ หากไม่ขอนางก่อน ข้ารู้สึกเหมือนมาขโมยร่างคนอื่นใช้..... ข้าสามารถติดต่อกับเจ้าของร่างเดิมได้หรือไม่"
ระบบ: "ขอทำการตรวจสอบให้สักครู่"
.....
ผ่านไปหลายอึดใจ ก็มีเสียงระบบดังขึ้นมาอีกครั้ง..... 5 นาทีเท่านั้น
แสงสีฟ้าของหน้าจอปรากฏขึ้น พร้อมกับรูปหลินหลินคนเดิมในหน้าจอ หลินลดามองผ่านหน้าจอ มุมบนขวามือมีตัวเลขนับถอยหลัง 04.59
หลินลดารีบเข้าเรื่องทันที
"สวัสดี ข้าชื่อหลินลดา เป็นคนที่เบื้องบนเลือกให้มาใช้ร่างของเจ้า หลังเจ้าหมดอายุไขกับร่างนี้ไปแล้ว"
"ข้าไม่ได้มาขออนุญาตเพราะเราทั้งสองคนไม่สามารถตัดสินใจเลือกที่จะอยู่หรือไปจากร่างนี้ได้ ดังนั้นสิ่งที่ข้าจะบอกคือ...ไม่ต้องเป็นห่วง ข้าจะไม่ใช้ร่างของเจ้าในทางที่ไม่ดี และข้ามีคำถาม"
"เจ้าต้องการให้ข้าแก้แค้นแทนหรือไม่ ไหนๆ ก็มาแทนเจ้าแล้ว ข้าสามารถแก้แค้นแทนเจ้าได้"
หลินหลินร่างเดิมกลับส่ายหน้าปฏิเสธ ความเศร้าตีรวนขึ้นในใจของนางทำให้น้ำตาที่เอ่อล้นไหลออกมาจากดวงตาคู่นั้น
หลินลดามอง นางเป็นเพียงแค่เด็กสาวชาวบ้านใช้ชีวิตธรรมดาๆ คนหนึ่งเท่านั้น ในดวงตาไม่ได้มีอะไรมากไปกว่าคำว่าใช้ชีวิตต่อไปในทุกๆ วัน
หลินลดามองภาพนี้ช่างเป็นความรู้สึกที่ยากจะบรรยาย ร่างนี้ตกตายเพราะคนพวกนั้นกลับไม่แค้นใครเลยสักคน
"ถ้าอย่างนั้นอยากให้ข้าทำอะไรให้ไหม"
หลินหลินคนเก่า: ร่างบางส่ายหน้าอีกครั้ง รอยยิ้มน้อยๆ ปรากฏเบาบาง
"ข้าพอใจแล้วเจ้าค่ะ"
"พอใจ? เจ้าพอใจสิ่งใดกัน"
คิ้วสวยขมวดเป็นปม
หลินหลินคนเก่า: "สิ่งที่ข้าปรารถนาคือการได้ไปพบท่านพ่อ ท่านแม่เจ้าค่ะ ตอนมีชีวิตอยู่ข้าทำทุกอย่างด้วยความตั้งใจ อยากจะชดเชยให้ท่านป้า ดังนั้นแม้จะเป็นความตาย ข้าก็ปรารถนามัน.... "
"หากเส้นทางนี้เป็นเส้นทางที่ทำให้ข้าได้มีโอกาส ได้พบท่านพ่อท่านแม่เพื่อกล่าวขออภัยสักครั้งเจ้าค่ะ"
"และข้าไม่ได้อยากเป็นตัวโชคร้ายของใคร ที่พวกเขาเกลียดชังข้า เป็นเพราะท่านพ่อไปยืมเงินมารักษาข้าตอนข้าป่วย ยังไม่ทันได้ใช้คืนท่านพ่อท่านแม่ก็จากไปเสียก่อน เป็นพวกเขาที่ต้องใช้แทน ไม่แปลกที่พวกเขาจะเกลียดชังข้าเจ้าค่ะ"
ระบบ: "01.10 เวลากำลังจะหมด 1.00 น. สุดท้าย"
หลินลดา: "ข้าเข้าใจแล้ว"
หลินหลินคนเก่า: "ขอบคุณท่านมากเจ้าค่ะ และท่านใช้ร่างกายนี้ได้เลยเจ้าค่ะ ข้าไม่ใช่เจ้าของมันอีกต่อไปแล้วเจ้าค่ะ"
หลินลดา: "ขอให้เจ้าสมหวัง พบเจอกับครอบครัวอันเป็นที่รัก"
00.00 ตื้ด... สัญญาณถูกตัดกับภาพสุดท้าย คือรอยยิ้มแห่งความหวัง
นางคงมีความหวังที่จะได้พบบิดามารดาอีกครั้ง เธอเข้าใจความรู้สึกนี้ดี..... ถ้าอย่างนั้นข้าก็ขอเอาใจช่วยให้เจ้าสมปรารถนานะ สายลมวูบหนึ่งพัดผ่าน คล้ายรับรู้สิ่งที่นางพูด
"เห้อ..เริ่มต้นใหม่กัน คนก็ตายไปแล้ว ข้าไม่คิดแก้แค้นเพราะร่างเดิมก็ไม่ได้ต้องการ หรือหากให้ตอบแทนยิ่งไม่มีวันเพราะนางไม่ใช่เจ้าของร่างเดิม ไม่ใช่คนใจดีขนาดนั้น ต่างคนต่างอยู่อย่ามาทำร้ายนาง นางก็จะปล่อยไป"
ระบบ: "ระบบเลือกคนไม่ผิด กรรมดีไม่มี กรรมชั่วไม่ปรากฏ"
หลินลดารู้สึกเหมือนถูกด่า แต่ช่างเถอะ เธอขี้เกียจจะใส่ใจเพราะต้องใช้ชีวิตในโลกที่ไม่คุ้นเคยนี้ เธอต้องหาข้อมูลและศึกษาอะไรอีกเยอะ ร่างเดิมไม่ค่อยมีความทรงจำอะไรมากมาย แทบไม่มีความรู้เลย ดีนะที่ความรู้ในชาติก่อนตามติดนางมาด้วย ไม่เช่นนั้นนางคงแย่แน่ๆ
"หลินลดา เธอต้องทำได้ มาเรียนรู้โลกใบใหม่นี้กัน สู้ๆ"
****หลังจากนี้จะเรียกนางเอกว่าหลินหลินนะคะ*****
ระบบ: "ของขวัญต้อนรับผู้ถูกเลือกหลินหลิน กดดูได้ที่มิติ"
หลินหลินหันไปสนใจหน้าจอตรงหน้าอีกครั้ง ปรากฏข้อความให้รับของขวัญแลกเข้า นางกดตกลงทันที มุมขวามีแสงแวบผ่านและขึ้นตัวเลข
**10 เหรียญทอง** นางมีเงินในระบบ 10 เหรียญทอง! นางรวยใช่หรือไม่นะ?
"ระบบ ข้าจะเข้าไปในมิติได้อย่างไร"
"แค่ท่านกำหนดคำว่า 'เข้า' ผ่านจิตที่นึกถึงมิติ ท่านก็จะเข้าไปได้เลย"
"ขอบคุณ 'เข้ามิติ'"
วูบบบบ
หลินหลินมองภาพตรงหน้า อ้าปากค้าง !
มืด...มันมืดมาก มองอะไรไม่เห็นเลย ไม่เหมือนที่คุยกันไว้
"ระบบบบบบบบ!!! เรียกไม่ตอบหูดับเลยนะ "
หลินหลินใช้ความคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ปรากฏออกมา
"เปิดมิติ"
แสงสว่างเกิดขึ้นจากใต้เท้าของนาง....จากวงกลมเล็กๆ ค่อยๆ ขยายใหญ่ขึ้นและวิ่งขยายตัวออกไปเหมือนแสงแรกของวันใหม่ มันเป็นภาพที่สุดยอดมาก
"ขอบคุณพระเจ้าที่ทำให้ชีวิตข้าได้พบสิ่งมหัศจรรย์เช่นนี้"
เบื้องหน้าของหลินหลินมีจอสีฟ้าติดตามไปด้วยทุกแห่ง นางจะสำรวจมิติที่ได้รับมาสักหน่อย
ตอนนี้นางอยู่หน้าประตูทางเข้าฟาร์มเหมือนในเกมอย่างไงอย่างนั้น มือบางเอื้อมไปเปิดประตูรั้วไม้ที่สูงแค่เอว นางมองทุ่งหญ้าที่กว้างใหญ่สุดสายตา ที่น่าแปลกใจทางขวามือ มีเรือนไม้ของนางมาอยู่ที่นี่ด้วย นางมองเก้าอี้ไม้โยกเบาะรองที่นางสั่งทำมาพิเศษก็ติดตามมาด้วย วิเศษ วิเศษมาก
"ขอบคุณระบบ"
หลินหลินเดินเข้าไปนั่งที่เก้าอี้ตัวโปรดอย่างคุ้นเคย แค่คิดเล่นๆ ว่ามันจะโยกอัตโนมัติได้ไหมนะ เจ้าเก้าอี้รู้ใจก็โยกให้นางเบาๆ
"ฮ่าๆ ช่างรู้ใจเสียจริง"
นางเหม่อมองออกไปในทุ่งหญ้า และกำลังวางแผนว่าจะเอาอย่างไรต่อดี
คงต้องศึกษามิตินี้ก่อน หลังจากนั้นค่อยออกไปดูวิถีชีวิตคนที่นี่ ไหนจะธรรมเนียม ค่าเงิน กฎต่างๆ อีก เรียนรู้กันใหม่หมดเลยสินะ สู้ๆ หลินหลิน คงไม่มีอะไรยากไปกว่าชาติที่แล้วหรอกน่า
ในชาติก่อนหากคนนอกมองเข้ามาจะพูดว่าเธอนั้นโชคดีที่ได้รับเงินมากมายมหาศาล มีกินมีใช้ตลอดชีวิต เป็นหนูตกถังข้าวสาร แต่ใครไหนเลยจะรู้ว่าเธอต้องพบเจออะไรบ้าง
การถูกตามฆ่าไม่เว้นวัน ถูกทรยศจากคนใกล้ตัว ไม่ว่าจะเป็นการใส่ร้ายต่างๆ เธอเจอมาทุกรูปแบบ แต่ในความโชคร้าย เธอก็พบความโชคดีเช่นกัน
ในวันที่เธอถูกตามฆ่า เธอเสียท่าเพราะคนสนิทหักหลัง แต่ดวงเธอคงยังไม่ถึงฆาต จึงเกิดเรื่องที่พลิกชีวิตเธอไปตลอดกาล
ในวันนั้นเธอบังเอิญหนีเข้าไปในถิ่นของคุณอาริชาร์ด เพื่อนสนิทของพ่อบุญธรรม อาริชช่วยชีวิตเธอไว้...แต่เธอไม่สามารถซ่อนตัวได้ไปตลอด
และในตอนนั้นเอง อาริชถามเธอว่าหลังจากนี้จะเอาอย่างไร วงการนี้มันมีแค่ 2 ทางเลือก คือ 1 หนีไปจนตาย หรือ 2 จะสู้จนตาย ตอนนั้นเธอตัดสินใจเลือกที่จะสู้จนตาย เพราะอย่างไรก็ต้องตาย ถ้าอย่างนั้นก็ขอสู้ให้สุดไปเลย
เธอได้รับการฝึกจากอาริช ไม่ว่าจะเป็นการต่อสู้ด้วยมือเปล่าหรือ ปืน มีด ธนู ดาบ ทุกอย่างถูกใช้ให้เป็นอาวุธได้หมด ไม่เว้นแม้แต่แหวนที่เธอใส่ ของเครื่องประดับทุกชิ้นถูกสั่งทำพิเศษ มันจะมีกลไกเพื่อเป็นอาวุธ รวมถึงการใช้สารพิษ เพียงเพื่อให้เธอได้มีคำว่า …โอกาส โอกาสมีชีวิตต่อไป
ประสบการณ์ในชาติก่อน เรียกว่าเธอใช้สิ่งที่เรียนมาอย่างคุ้มค่าเลยทีเดียว
หลินหลินนึกอยากรู้ว่าภายในเรือนไม้ของเธอยังคงเดิมหรือไม่ สองขาก้าวลุกจากเก้าอี้ไปทางประตู มือเรียวใช้มือทาบกับประตูที่ไม่มีลูกบิดเพราะมันใช้การสแกนลายนิ้วมือทั้ง 5 ของเธอเท่านั้น รอไม่นานประตูก็เปิดออก
หลินหลินหลุดยิ้มออกมาทันที ด้านในยังเหมือนเดิม ของที่เธอสะสมไว้อยู่ครบ ภาพถ่ายครอบครัวที่เธอหวงแหนติดตามมาด้วย ต้องขอบคุณระบบ สิ่งที่ระบบมอบให้มามันมีคุณค่าทางจิตใจมากจริงๆ
ภายในห้องไม่ได้มีอะไรมาก ด้านซ้ายมือมีเพียงเตียงนอนที่เป็นเตียงไม้โบราณถูกปูทับด้วยเบาะที่หนานุ่มมากเป็นพิเศษ แค่มองดูด้วยตาก็รู้ว่ามันนุ่มมากเพียงใด ความหนานุ่มนี้หากใครได้สัมผัสคงไม่อยากลุกออกจากมันแน่นอน
หลินหลินกวาดสายตามองรอบห้อง ทุกอย่างยังเหมือนเดิม บนผนังตรงกลางเป็นรูปครอบครัวของเธอ หลินหลินยิ้มให้รูปตรงหน้า
"สวัสดีค่ะคุณพ่อ สวัสดีค่ะคุณแม่ หลินคิดถึงพ่อกับแม่มากเลยค่ะ คิดถึงอ้อมกอดของแม่ และเสียงดุของพ่อ "
หลินหลินพูดไปพลางหัวเราะน้อยๆไป
"ตอนนี้พระเจ้าให้โอกาสหลินมาพักผ่อนท่องเที่ยวในโลกที่ไม่มีใครรู้จักเรา ไม่มีใครตามฆ่าเรา เหมือนได้ชีวิตใหม่ตามคำขอเลยค่ะ พ่อกับแม่อยู่ทางโน้นสบายดีกันไหมคะ อย่าลืมคิดถึงหลินบ้างนะคะ... และเอาใจช่วยหลินด้วยนะคะ"
รอยยิ้มบางเบาถูกส่งไปยังภาพอย่างเคยชินอีกครั้ง เธอทำแบบนี้มาจนนับครั้งไม่ถ้วน ภาพนี้เป็นภาพที่มีความหมายต่อเธอที่สุด
หลินหลินตัดใจละสายตาออกจากภาพ มองไปมุมขวามือที่มีเพียงโต๊ะหนังสือที่เป็นโต๊ะไม้เก่าๆ เธอมองหนังสือเก่าๆ ที่กองทับกัน แต่ใครไหนเลยจะรู้ว่านี่คือทางเข้าห้องลับ
หลินหลินบิดหนังสือเล่มที่ 3 ไปทางขวา บิดเล่มที่ 4 ไปทางซ้าย รอไม่นานพื้นตรงกลางห้องด้านล่างก็เปิดออก หลินหลินเดินลงไปด้านล่างทันที
พื้นที่ด้านล่างนั้นกว้างมาก ตอนสร้างหลินหลินสั่งให้สร้างเป็นห้องโล่งๆ กินพื้นที่ถึง 30 เมตร ทุกอย่างที่ใช้เป็นสีขาวทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นพื้นหรือผนังของห้องนี้ ถูกปูด้วยหินอ่อนสีขาว หลอดไฟแบบฝังผนังแต่ขอบนั้นเป็นคริสตัลส่องแสงระยิบระยับ ทุกอย่างดูหรูหราต่างจากข้างบนลิบลับ
หลินหลินกวาดตามองทรัพย์สิน เงินสดเต็มตู้เซฟ ทองคำ เพชร พลอย เครื่องประดับ อาวุธต่างๆ อยู่ครบ
แต่ที่เธองงคือ ทำไมเงินถึงตามมาด้วย เพราะที่นี่ไม่ใช่ยุคปัจจุบัน เรียกได้ว่าเป็นมิติคู่ขนานจะดีกว่า ตามประวัติศาสตร์โลกของเธอไม่มีพลังเวท ไม่มีของวิเศษพวกมิติ ดังนั้นต้องคนละโลกกันแน่นอน
เมื่อสำรวจจนพอใจแล้วหลินหลินก็กลับขึ้นมาด้านบน เธอเดินออกมานั่งมองทุ่งหญ้าที่กว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา
"ระบบ มิตินี้ใช้งานยังไง"
ระบบ: "ใช้การสั่งการผ่านหน้าจอ คล้ายกับการเล่นเกมในยุคก่อนของท่านขอรับ"
หลินหลินเปิดหน้าจอขึ้นมาก็พบกับข้อความต้อนรับ และต้องเบิกตากว้างขึ้นเมื่อมันคือ มิติฟาร์มเวอร์ชั่นล่าสุด ที่เด็กบุญธรรมของเธอเขียนมันขึ้นมาและเคยเอามาให้เธอเล่น
"พระเจ้าขอบคุณพระองค์ แค่นี้ก็ไม่มีทางอดตายแล้ว"
หลินหลินเริ่มกดเริ่มสร้างทันที
อย่างแรกที่เธอลองเลือกคือ แปลงข้าว และข้าวโพด ในหน้าจอพื้นที่มันเริ่มให้ที่ 10 แปลงเธอจึงแบ่งให้เป็น ข้าว 5 แปลง ข้าวโพด 5 แปลง
เมื่อเธอเลือกเสร็จก็ต้องตกใจอีกครั้ง เพราะมิติเธอเปลี่ยนแปลงทันที มันไวมาก มองตามแทบไม่ทัน แปลงข้าว และแปลงข้าวโพดที่ถูกไถและหว่าน ปรากฏตรงหน้าเธออย่างรวดเร็ว
หลินหลินกลับไปสนใจที่หน้าจออีกครั้งและทำการเริ่มซื้อทันที เธอมี 10 เหรียญทอง ดังนั้นสิ่งที่ควรซื้ออย่างแรกคือ เพิ่มแปลงที่นาก่อน หลินหลินซื้อที่นาไปอีก 10 แปลง มันถูกจำกัดซื้อได้สูงสุดเพียงเท่านี้ ตามด้วยเล้าไก่ 5 เล้า เล้าเป็ด 5 เล้า คอกหมู 3 คอก และโรงงานแปรรูปอาหารสัตว์ทั้ง 3
กดซื้อเสร็จเธอต้องปวดใจเพราะเงินของเธอเหลือเพียง 1 เหรียญทอง นี่ขนาดเธอใช้ส่วนลด 50% ของการเข้าใช้มิติวันแรกนะเนี่ย ถ้าไม่มีส่วนลดเธอคงไม่อยากจะคิดเลย
"ระบบ เหรียญจะเพิ่มจากการขายของในระบบใช่ไหม"
"ใช่ ท่านสามารถขายของที่ท่านปลูก เช่น ข้าว ข้าวโพด หรือสัตว์ที่ท่านเลี้ยง แต่หากมีภารกิจแล้วท่านทำสำเร็จ ช่องแลกเปลี่ยนข้ามมิติจะถูกเปิดใช้งาน"
"ภารกิจ? แล้วตอนนี้มีภารกิจให้ทำไหม"
"ตอนนี้ไม่มีภารกิจ แต่มีสารขอความช่วยเหลือจากผู้ถูกเลือกหมายเลข 8798451444765 ท่านต้องการเปิดดูหรือไม่"
"ข้าต้องการ"
พรึบ! "นี่มัน............ "
ระบบ: "ตอนนี้ไม่มีภารกิจ แต่มีสารขอความช่วยเหลือจากผู้ถูกเลือกหมายเลข 8798451444765 ท่านต้องการเปิดดูหรือไม่""ข้าต้องการ"พรึบ! นี่มัน.....เด็กที่เธอเคยอุปถัมภ์นี่ เธอจำชื่อนี้ได้เพราะเด็กคนนี้เป็นลูกครึ่ง แม่นำมาทิ้งที่สถานเด็กกำพร้าตั้งแต่เกิด เด็กไม่มีใบแจ้งเกิด เธอจึงให้สถานเลี้ยงเด็กกำพร้ารับของเด็กคนนี้ และรับรองการแจ้งเกิดให้.....ชื่อนี้เธอเป็นคนตั้งให้เอง ส่วนนามสกุลใช้เป็นของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า สุรกิจพลสารขอความช่วยเหลือ: เร่งด่วนจากผู้ถูกเลือกหมายเลข 8798451444765 อเล็กซ์ สุรกิจพลต้องการแลกเปลี่ยน: ทองคำ (จำนวนมาก)ของตอบแทน: หินเวททุกธาตุ (กรุณาระบุธาตุที่ต้องการรับมาด้วย)อัตราแลกเปลี่ยน: 1:1เวลาคงเหลือของสาร: 1:35:02 วินาที"ระบบ ทองคำที่ข้ามีในตู้เซฟสามารถแลกเปลี่ยนไปได้ไหม และข้าสามารถติดต่อกับผู้ถูกเลือกคนนี้ได้ไหม""ท่านสามารถทำได้ เพียงแค่ตั้งจิตนึกถึงสิ่งนั้น และระบุจำนวนที่จะแลกเปลี่ยน สิ่งนั้นจะถูกนำเข้าระบบแลกเปลี่ยนทันที ส่วนการติดต่อ ท่านสามารถส่งสารไปทางกล่องข้อความได้ขอรับ"หลินหลินมองหน้าจอที่ มีกล่องสี่เหลี่ยมให้เราระบุข้อความไป คล้ายกา
หลินหลินหันไปมองหญิงอ้วนตรงหน้า แต่ยังไม่ทันทำอะไร ข้อมือบางก็ถูกกระชากดึงไปทันที"แกรีบมากับข้าเดี๋ยวนี้ จะให้ใครเห็นนางหลานสาวตัวซวยคนนี้ไม่ได้เด็ดขาด"หลินหลินปล่อยให้ยัยป้าของร่างเดิมนี่ดึงเข้าไปในบ้าน เพราะนี่คือสิ่งที่เธอต้องการ นึกว่าจะต้องปืนเข้ามาซะอีก หลินหลินมองสำรวจบ้านหลังนี้ ไม่ต่างจากความทรงจำของร่างเดิม บ้านหลังนี้เป็นบ้านดิน แต่ค่อนข้างคับแคบ ตัวบ้านไม่ใหญ่มาก แต่กลิ่นเหม็นที่โชยมาน่าจะมาจากห้องส้วมหลังบ้าน จากความทรงจำที่นี่ยังเป็นส้วมหลุมดิน โดยใช้หญ้าแฝกมาปิดปากหลุมคลุมไว้เท่านั้น เธอขมวดคิ้วเป็นปมแรงกดที่ข้อมือไม่น้อยเลย แต่เธอก็อยากรู้ว่ายัยป้านี่ จะทำอะไร ท่าทางรุรี้รุรน ไม่อยากให้ใครเห็นว่าเป็นเธอมันเพราะอะไรกันปึก.. ร่างของหลินหลินถูกเหวี่ยงไปตรงห้องเก็บฟืน นางชุน ย่าซิน รีบเอามือเช็ดกับกระโปรงอย่างรีบร้อนด้วยท่าทางรังเกียจ"แกกลับมาทำไม ไม่ตายไปซะ ไสหัวออกไป ที่นี่ไม่มีที่ให้แกอีกแล้ว"หลินหลินจับข้อมือมานวด นั่งก้มหน้า ไม่โต้ตอบอะไร เพราะยังไง ยัยป้านี่ก็คงบอกจุดประสงค์ของนางออกมาแน่"แก....นังตัวซวย แกได้ยินที่ข้าบอกไหม? แกน
หลินหลินมองห้องพักที่นางจ่ายไปถึง 5 ตำลึง ทุกอย่างดูเหมาะสมกับราคา เพราะห้องนี้กว้างขวางมาก ไม่มีกลิ่นอับ ภายในห้องจุดกำยานหอมอ่อน ๆ ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย ที่สำคัญมีพื้นที่ให้ใช้สอยเยอะไม่อึดอัด ห้องนี้น่าจะสามารถพักได้ถึง 4 คนสบาย ๆ เลยด้านในทางซ้ายมือ มีเตียงไม้ขนาดใหญ่ 1 หลัง ตรงกลางห้องมีโต๊ะกินอาหารทรงกลมแกะสลักลวดลายสวยงาม พร้อมเก้าอี้เข้าชุด 4 ตัว วางล้อมรอบโต๊ะ ถัดไปทางขวาจะมีฉากกั้นลายดอกเหมยขนาดใหญ่ น่าจะเป็นห้องอาบน้ำหลินหลินเดินไปเปิดหน้าต่างเป็นอย่างแรก บนห้องพักนี้มีหน้าต่างขนาดใหญ่พร้อมตั่งยาวไว้ให้นั่งมองออกไปชมวิวสวนทางด้านหลังของโรงเตี๊ยมด้วยมองออกไปภายนอกดูร่มรื่นเพราะภายในสวนมีการตกแต่งต้นไม้ใหญ่ไว้หลายจุด เจ้าของที่นี่ช่างร่ำรวยเสียจริง แต่หากให้นางเดา ต้องเป็นบุรุษไม่ใช่สตรีแน่นอน เพราะการตกแต่งออกไปทางดุดัน ซื่อตรงหลินหลินปิดหน้าต่างลงก่อนจะเดินไปดูส่วนของห้องอาบน้ำ เห็นอ่างไม้ขนาดใหญ่ และมีโถไม้ขับถ่ายวางไว้ใกล้กันเมื่อสำรวจจนพอใจแล้ว หลินหลินจึงเดินมาที่โต๊ะหนังสือ ที่นี่ใจปล้ำเหมือนกันนะเนี่ย ถึงกับมีกระดาษและหมึกไว้ให้อย่างละ 1 ชุด แม้กระดาษที่ให้จะไม่ใ
“เถ้าแก่ ข้าจะจ่ายเงินให้ท่านครึ่งหนึ่งของราคาสินค้าทั้งหมด ท่านออกใบลงนามรับรองการจ่ายเงินให้ข้า ส่วนวันที่จะมารับข้าจะแจ้งท่านอีกที"เถ้าแก่มองสำรวจที่อาภรณ์ของคุณหนูตรงหน้า นางไม่พกถุงหอม ไม่มีเครื่องประดับสักชิ้น เมื่อแน่ใจแล้วว่านางไม่มีถุงมิติ จึงเอ่ยปากแนะนำ"คุณหนูขอรับ ข้าขอแนะนำท่านสักเรื่อง หากคุณหนูจะขนของพวกนี้ไปไกลจากเมืองนี้ ข้าแนะนำให้คุณหนูเช่าถุงมิติจากหอเซียงซิน ที่นั่นมีให้เช่าของวิเศษหลายอย่าง แม้ถุงมิติราคาสูงหน่อย แต่มันสามารถใส่สิ่งของได้เยอะ ปลอดภัยจากโจร หรือความเสียหายของการเดินทางขอรับ”“ดูจากของที่คุณหนูซื้อแล้ว ต้องใช้เกวียนขนหลายคัน เสี่ยงต่อการเสียหายและถูกปล้นกลางทาง อีกอย่าง เมื่อครบกำหนดวันสัญญาเช่าถุงมิติ เราไม่ต้องเสียเวลาไปคืน ถุงมิติทุกใบจะลงเวทไว้ มันจะกลับคืนสู่หอเซียงซินโดยที่ผู้เช่าไม่ต้องนำไปคืนเลยขอรับ"เถ้าแก่ตัดสินใจแนะนำวิธีนี้ไป เพราะดูจากการที่นางซื้อของแล้วนางมีเงินพอที่จะจ่ายค่าเช่าถุงมิติแน่นอน และคุณหนูหลายๆคนไม่ทราบว่ามีวิธีนี้"หืม... ถุงมิติ งั้นหรอ ข้ารอดแล้ว"หลินหลินพยักหน้ายกยิ้มบาง "เถ้าแก่ อีกครึ่งชั่วยามข้าจะมารับสินค้า
"กรี๊ดดดด........นี่มัน!!!" นางลอกคราบ...นางเป็นงูหรอ...เอ้ย..นางเป็นคนสินางเป็นคน หลินหลินเธอต้องตั้งสติ.....ความเจ็บปวดที่เพิ่งผ่านพ้นไปยังคงทิ้งร่องรอยไว้บนร่างกาย ผิวหนังที่หลุดลอกเป็นแผ่น ๆ ทำให้หลินหลินอดคิดถึงงูที่ลอกคราบไม่ได้ ความรู้สึกแสบร้อนยังคงติดตรึงอยู่บนผิวหนังทุกตารางนิ้ว เหมือนถูกไฟลนแผดเผาจนแทบสลายหลินหลินค่อย ๆ ลูบไล้ไปตามแขนเรียวอย่างระมัดระวัง ผิวหนังเก่าที่แห้งกร้านและหมองคล้ำกำลังถูกผลัดออกไปทีละน้อย เผยให้เห็นผิวใหม่ที่ขาวเนียนสวยราวกับไข่มุกเบื้องล่าง ความเจ็บปวดเริ่มจางหายไป แทนที่ด้วยความรู้สึกตื่นเต้นและประหลาดใจ"กระจก" หลินหลินพึมพำเรียกหาสิ่งที่จะสะท้อนภาพของเธอในตอนนี้พรึบ! กระจกขนาดไม่ใหญ่มากปรากฏขึ้นเบื้องหน้า หลินหลินมองภาพสะท้อนของตัวเองด้วยความตกตะลึง นางงดงามกว่าดาราจีนในยุคของนางเสียอีก งามแบบไม่น่ามีอยู่จริงบนโลก "งานพอ ๆ กับเล่อปาเลยอิอิ"หลินหลินเหม่อมองภาพที่ปรากฏอยู่ เหมือนนางมองสาวงามล่มเมือง ร่างกายสวยงามที่สมส่วนรับกัน เครื่องหน้าทั้งห้า งดงามไร้ที่ติ ทุกอย่างลงตัวเหมือนสวรรค์สร้าง ผิวเนียนขาวใส ใบหน้าเรียวรีรูปไ
หลินหลินนั่งเอนหลังบนเก้าอี้ม้าโยก มองระบบเก็บเกี่ยวผลผลิตและขายออกแบบอัตโนมัติ ผลผลิตนางตั้งระบบไว้ เก็บ 50% ขายออก 50% แต่ผลผลิตก็ออกไวมาก ทำให้นางต้องอัปเดตโกดังอยู่ตลอด ตอนนี้นางมีเงินในระบบจากการขายแจกันและของจากระบบเยอะมาก เรียกได้ว่าโจรปล้น 100 ครั้งก็ยังไม่หมดตัว ฮ่าๆๆ เมื่อมองดูแล้วนี่คงใกล้รุ่งเช้าแล้ว หลินหลินจึงออกจากมิติไปยังห้องพักพรึ่บ..หลินหลินมองห้องที่มืดสนิท ข้างนอกคงยังไม่สว่าง แต่มีแสงของพระอาทิตย์โผล่พ้นขึ้นมาบ้างแล้ว นางลองเปิดประตูออกไปข้างนอก ไม่คิดว่าจะเจอใคร แต่กลับพบเสี่ยวเอ้อนั่งอยู่ตรงริมสุดทาง หรือว่าที่นี่เสี่ยวเอ้อรอให้บริการแขกตั้งแต่รุ่งเช้า.... เสี่ยวเอ้อไม่รอช้ารีบเข้ามาสอบถามนางทันที แต่ก็ต้องชะงักกับความงามของสตรีตรงหน้า เพราะคุณหนูท่านนี้ไม่ใช่คุณหนูคนเมื่อวาน แต่เป็นห้องนี้แน่ เพราะเมื่อวานเป็นเขาเองที่พานางมาส่ง คุณหนูท่านนี้งดงามมาก.. มากกว่าทุกคนที่เขาเคยพบเห็นมา เสี่ยวเอ้อเรียกสติตนเอง โค้งตัวก้มหน้าลง และสอบถามทันที "คุณหนูต้องการสิ่งใดหรือไม่ขอรับ"หลินหลินยืนนิ่ง.... คิดในใจว่าเสี่ยวเอ้อต้องจำนางไม่ได้แน่ ถ
ทางฝั่งหลินหลิน... ย้อนกลับไปตอนที่หลังเสี่ยวเอ้อรับถุงเงินและออกไป นางก็เข้ามิติไปเช็คราคาเครื่องประดับทั้งหมด เป็นอย่างที่นางคิดไม่มีผิด ของพวกนี้ทำกำไรให้นางเยอะมากหลินหลินไม่รอช้า นางออกจากห้องพักมุ่งหน้าสู่ร้านเครื่องประดับต่างๆ นางใส่ผ้าคลุมแปลงโฉม ตอนนี้ผู้คนจึงเห็นว่านางเป็นหญิงสาวอายุ 27-28 ปีก่อนหน้านี้ หลินหลินจ้างปู่หลิวกับสือหย่ง (ชายชราและเด็กน้อยที่รับจ้างตรวจเช็คแจกันให้นาง) ให้พวกเขาไปเช่ารถม้าพร้อมคนขับมา 1 คัน ปู่หลิวรับคำและไปจ้างคนที่รู้จักกันในหมู่บ้านคนนี้มีนามว่า หานเซียว เขาเคยเป็นทหารแต่ได้รับบาดเจ็บจึงออกจากการเป็นทหารมารับจ้างขับรถม้าแทนหลินหลินนั่งรอที่ร้านน้ำชาเล็ก ๆ ริมถนน ถัดไปอีก 2 ซอย นางวางแผนว่า นางจะนั่งรถม้าชมรอบเมืองสักหน่อยนางอยากดูวิธีชีวิตของคนที่นี่... เมื่อทุกอย่างพร้อมแล้ว ทั้ง 3 คนก็มายืนรอรับคำสั่งจากนาง หลินหลินส่งชุดให้ทุกคนเปลี่ยน พวกเขาไปหลบหลังรถม้าที่เป็นมุมอับ.. ลับตาคน และรีบเปลี่ยนชุดออกมาทันที...ชุดมีลักษณะเหมือนกันทั้ง 3 ตัว เป็นผ้าเนื้อดี ราคาแพง สีเทาเข้ม มีแค่ของปู่หลิวที่จะตัดขอบดำไม่เหมือนอีก 2 คน นางสั่งทุกคนว่า"ห
ผู้ดูแลสั่งให้คนเชิญหลินหลินขึ้นไปชั้นสอง ห้องที่ 3 ชั้นนี้เป็นห้องส่วนตัว มีไว้ต้อนรับแขกคนสำคัญ คู่ค้า หรือเชื้อพระวงศ์เท่านั้นระหว่างที่หลินหลินและปู่หลิวเดินตามคนนำทางไป ผู้ดูแลก็รีบไปเรียนนายท่านใหญ่ทันทีก๊อก ก๊อก ก๊อก ผู้ดูแลรอสัญญาณเสียงจากคนด้านในก่อน รอไม่นานเสียงนายท่านใหญ่ก็ดังขึ้น "ว่ามา..." ผู้ดูแลไม่ชินกับเสียงดุดันนี้เลยจริงๆ ... "เรียนนายท่านใหญ่ขอรับ มีคุณหนูท่านหนึ่งต้องการซื้อเครื่องประดับจำนวนมาก ข้าน้อยเลยมาแจ้งนายท่านใหญ่ก่อนขอรับ"เย่วเทียนชุนขมวดคิ้วเป็นปม ร้านเขาเป็นร้านอันดับ 1 ของเมืองนี้ คนที่ต้องการซื้อของส่วนใหญ่ผู้ดูแลจะเป็นคนดูเอง ไม่เคยต้องให้เขาไปดูแล "ซื้อจำนวนมาก? ... มากแค่ไหน ถึงกับต้องมาตามเขา"มุมปากหนายกยิ้ม เขาเองก็อยากจะรู้เช่นกันว่าใครมาเล่นตลกกับเขากันเทียนชุนวางสมุดบัญชีลง เขาตรวจบัญชีเสร็จพอดี มีอะไรอย่างอื่นให้ทำบ้างก็ดี ร่างสูงลุกขึ้นจากโต๊ะทำงาน เมื่อด้านในมีเสียงความเคลื่อนไหว ผู้ติดตามหน้าห้องทั้ง 2 ก็เปิดประตูรอนายของตนเองทันทีผู้ดูแลเดินนำเทียนชุนไปยังห้องพิเศษห้องที่ 3 เขารู้สึกถึงรังสีกดดันจากทางข้างหลัง ความจริงเขาแค่จ
และแล้ววันเดินทางก็มาถึงที่หน้าจวนตระกูลเจียง ขบวนของท่านแม่ทัพหยางเทียนชุนมาถึงแล้วหลินหลินรู้สึกตกใจเล็กน้อย ที่เห็นขบวนของเขายิ่งใหญ่อลังการกว่าที่คิด ธงทิวสีดำปักลายพยัคฆ์คำรามสีทองโบกสะบัดท้าทายสายลม ทหารองครักษ์กว่าสามสิบนายอยู่ในชุดเกราะสีดำขลับ พวกเขาขี่ม้าศึกสง่าผ่าเผย อาวุธและเครื่องแบบล้วนประณีต บ่งบอกถึงยศศักดิ์หลินหลินรู้ดีว่า หยางเทียนชุนต้องการประกาศให้ทุกคนรู้ว่านางเป็นคู่หมั้นของเขา แม้จะมีข่าวลือออกไปบ้างแล้ว แต่การปรากฏตัวพร้อมขบวนที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้ ยิ่งตอกย้ำความสัมพันธ์ให้ชัดเจนยิ่งขึ้น นางก็อดคิดไม่ได้ว่า .... ท่านแม่ทัพทำเรื่องใหญ่โตเกินไปแล้วหัวใจของหลินหลินเต้นแรง ด้วยความตื่นเต้นและประหม่านี่เป็นครั้งแรกที่นางจะได้ออกเดินทางไกลในโลกใบนี้ชาวบ้านต่างพากันมามุงดู ส่งเสียงฮือฮาเมื่อเห็นขบวนของท่านแม่ทัพ วันนี้หลินหลินเลือกสวมชุดสีดำ ที่ดูทะมัดทะแมงคล้ายกับชุดของเหล่ายอดฝีมือ ผมยาวของนางถูกรวบเป็นหางม้าง่ายๆ ท่านแม่ทัพไม่ได้ให้นางปลอมตัวเป็นบุรุษเพราะยังไม่มีเครื่องรางหรือของวิเศษใดๆ ที่สามารถเปลี่ยนจากสตรีเป็นบุรุษได้ เขาบอก
"ท่านแม่... ข้ากลับมาแล้วเจ้าค่ะ อ๊ะ! ท่านพ่อยังไม่ไปร้านหรือเจ้าคะ?” "พ่อเจ้าอยู่จัดการเรื่องส่งคนเร่ร่อนไปหัวเมืองต่างๆ พร้อมกับขบวนคาราวานพ่อค้าที่พ่อของเจ้ารู้จักแทนลูกน่ะสิ...นี่ก็เพิ่งจะสั่งคนของเจ้าไป พวกเขาคงไปทำตามที่พ่อเจ้าสั่งอยู่""ข้าฝากเรื่องนี้กับท่านพ่อด้วยนะเจ้าคะ"หลินหลินหันไปส่งสายตาออดอ้อน "จะกอดแค่เพียงแม่เจ้าคนเดียวพ่อก็น้อยใจแย่...""โอ๋ๆลูกผิดไปแล้วเจ้าค่ะ" หลินหลินสลับกอดท่านพ่อท่านแม่จนทั้งสองคนต้องบอกให้นางหยุดเพราะกลัวนางจะเหนื่อย... เจียงเหวินไม่อยากจะแจ้งบิดากับมารดาว่าอีกสองวันพวกเขาต้องออกเดินทางขึ้นแดนเหนือ อยากให้ท่านแม่มีความสุขมากกว่านี้อีกหน่อย แต่คงจะไม่ได้ เพราะท่านแม่ชวนหลินเอ๋อร์ออกจากจวนไปซื้อของในวันพรุ่งนี้ ยังไม่ทันที่หลินหลินจะรับปาก พี่ใหญ่ก็ขัดขึ้นมาก่อน "ท่านพ่อ ท่านแม่ขอรับ ข้ามีเรื่องต้องแจ้งขอรับ" หลินหลินกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก.....ทำไมสายตาพี่ใหญ่ถึงมองนางแบบนั้น "ข้าและน้องต้องเดินทางขึ้นแดนเหนือวันมะรืนนี้ขอรับ และท่านแม่ทัพ มีคำสั่งห้ามหลินเอ๋อร์ออกจ
"นายกองลี่ เข้ามา"ไม่ถึง 2 ลมหายใจก็มีบุรุษอีกคนเข้ามาภายในห้อง เขาคือหนึ่งในผู้คุ้มกันฝีมือดี"หากเจ้าหนีเขาได้ภายใน 1 จิบชา ข้าจะให้เจ้าร่วมขบวน"1 จิบชา เขาดูถูกนางเกินไปแล้ว.....บรรยากาศในห้องตึงเครียดขึ้นทันที "ท่านแม่ทัพ!"เจียงเหวินที่กำลังจะกล่าวบางอย่าง...ต้องเงียบเสียงลงด้วยเสียงของน้องสาว "พี่ใหญ่ไม่เชื่อใจข้าหรือเจ้าคะ"ลี่เฟยได้ยินคำสั่งผู้เป็นนายก็คิดจะลงมือทันที แต่เขาขยับตัวไม่ได้ เหมือนมีลมมายึดตัวเขาไว้ ลมในห้องพลันหมุนวนรอบตัวเขา ราวกับกรงขังที่มองไม่เห็น"แม่นาง เจ้าทำอะไร ทำไมข้าขยับตัวไม่ได้...""ข้าแค่ใช้เวทลมเล็กน้อยเจ้าค่ะ" รอยยิ้มหวานกล่าว..แต่แววตากลับเฉียบคมไม่มีแววล้อเล่นแม้แต่น้อยหลินหลินมองไปที่ผู้สั่งการ เห็นเขาค่อยละเมียดจิบชาช้าๆ ก็นึกหมั่นไส้ เขาไม่ยอมให้นางใช้วิธีนี้... ถ้านางไม่ทำอะไรสักอย่างเขาคงไม่ให้นางไปสินะหลินหลินถอนหายใจ เรียกดาบที่ห้องใต้ดินออกมา ดาบเล่มนั้นปรากฏขึ้นในมือ นางปลดเวทลมให้นายกองลี่ แล้วกระโดดออกจากทางหน้าต่าง ร่างของนางพุ่งทะยานออกไปดุจพญาเหยี่ยวนายกองลี่ไม่รอช้า เขาเรียกดาบยาวออกมา และตามนางออกไปทันที เสียงฝีเท้าหนัก
"พวกเราสามคนนอนไม่หลับ ใจพี่รอให้ถึงรุ่งเช้าเพื่อสะสางปัญหา หากเจ้ามาช้ากว่านี้อีกนิดพี่คงไปอุ้มเจ้าที่เรือนแล้ว " "ฮ่าๆๆๆ"หลินหลินส่ายหน้ากับความขี้เล่นของพี่ชาย วันนี้นางไม่ได้เอาอาหารออกจากมิตินางแจ้งท่านแม่ไปแล้วว่าอยากลองทานอาหารฝีมือแม่ครัวที่จวน ทุกคนทานอาหารเช้ากันอย่างอารมณ์ดี มีแต่เจียงเหวินเท่านั้นที่เติมข้าวไป 3 ถ้วยแล้ว แต่หลินหลินก็ยังกินไปแค่ครึ่งถ้วย เขาไม่กล้าเร่งน้อง แต่ตอนนี้ใจเขามันร้อนรุ่มเหลือเกินหลินหลินเห็นสายตาที่พี่ใหญ่มองมาเป็นระยะ ก็รู้ว่าเขาร้อนใจ นางจึงเร่งการกินให้หมดถ้วยแค่เพียงหลินหลินวางถ้วยน้ำชา เจียงเหวินก็อุ้มน้องวิ่งขึ้นรถม้าออกไปเลย ฮูหยินเจียงส่ายหน้ากับลูกชาย แต่นางก็เข้าใจว่ารีบไว้ดีกว่าไม่ทันการ เขาย่อมต้องรู้สถานการณ์ว่าต้องรีบหรือไม่รีบ ยังดีที่รอน้องกินข้าวหมดก่อน ทางด้านหลินหลินก็กรอกตามองบน"พี่ใหญ่ ท่านรีบขนาดนี้ไม่ไปปลุกข้าตอนยามโฉ่วแทนเล่า (01.00 น.) "หลินหลินกล่าวประชดประชันแต่แววตามีแต่ความขบขัน"หลินเอ๋อร์ เข้าใจพี่หน่อยเถิด เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ กว่าเราจะจัดเสบียงและเดินทางถึงแดนเหนือใช้เวลานานนัก เราต้องรีบแล้ว"หลินห
ทันใดนั้น เสียงแจ้งเตือนจากระบบก็ดังขึ้น "พรสัมฤทธิ์ผล"ภาพความทรงจำเก่าๆ พรั่งพรูเข้ามาในห้วงคำนึงหลินหลินเห็นภาพของครอบครัวที่อบอุ่น ภาพของพวกเขารักและดูแลนางเหมือนไข่ในหิน แต่แล้วความสุขก็พังทลายลง เมื่อนางทำผิดพลาดครั้งใหญ่หลวง นางหลงเชื่อคนรักจนนำภัยมาสู่ครอบครัว สุดท้าย พวกเขาก็ต้องตายอย่างน่าอนาถแต่แม้ถึงวาระสุดท้าย พวกเขาก็ไม่เคยกล่าวโทษนางเลยสักคำ มีเพียงความรักและความปรารถนาดีที่จะปกป้องนางจนลมหายใจสุดท้ายความเจ็บปวดจากอดีตชาติแล่นริ้วเข้ามาในหัวใจราวกับคมมีดกรีดลึก ความรู้สึกผิด ท่วมท้นจนนางแทบหายใจไม่ออก ราวกับมีมือที่มองไม่เห็น บีบคั้นหัวใจของนางเสียงหัวเราะแห่งความสุขยังคงดังต่อเนื่อง ท่ามกลางบรรยากาศที่อบอุ่นและเบิกบานราวกับฟ้าหลังฝน นายท่านเจียงและฮูหยินเจียงโอบกอดกัน มองภาพเจียงเหวินที่กำลังอุ้มหลินหลินหมุนไปมาด้วยแววตาเปี่ยมสุข"ฮือ...ฮือ ไม่เอาแล้วนะเจ้าคะ ถ้าทำอีกข้าโกรธจริงๆ ด้วย " น้ำตาของหลินหลินไหลอาบแก้ม ไม่ใช่เพราะความกลัว แต่เป็นเพราะความเสียใจจากภาพความทรงจำอันเจ็บปวดในอดีตชาตินางเกิดมาพร้อมกับความรักความอบอุ่นของพวกเขา เป็นความรู้สึกที่นางโหยหามาตลอ
"ขอรับ จริงขอรับ""ถ้าอย่างนั้น...เจ้ามีสตรีในดวงใจหรือยัง?""ยังขอรับท่านแม่ แต่หากจะจับคู่ให้ข้า ท่านคงต้องผิดหวังแล้ว""ข้ามองนางเป็นดังน้องสาวขอรับ"ฮูหยินเจียงส่งค้อนให้ลูกชายแล้วหันมาส่งยิ้มให้หญิงสาวตรงหน้า"หลินเอ๋อร์ เจ้าอยากไปดูเรือนพักของเจ้าก่อนไหม? ป้าจะพาเจ้าไปเอง "หลินหลินส่ายหน้า"ท่านลุงกับท่านป้ายังไม่ได้ทานอาหารเช้าเลยเจ้าค่ะ""พวกเรามาทานอาหารกันก่อนดีกว่าไหมเจ้าคะ มื้อนี้ข้ามีของอร่อยอีกเพียบเลยนะเจ้าค่ะ""ดี ดี ลุงอยากกินอาหารของหลินเอ๋อร์ อาหารเจ้าอร่อยยิ่งนัก"ทั้งสามคนลุกขึ้นเดินไปยังห้องอาหาร ท่านป้าเลิกแกล้งพี่เจียงเหวินเถอะเจ้าค่ะ ดูเขาทำหน้าเศร้าสิเจ้าคะ"ฮ่าๆๆๆ"ทั้งสามหัวเราะขึ้นพร้อมกัน เจียงเหวินยิ้มอบอุ่น มองทั้งสามหัวเราะ เขาจะจดจำภาพนี้ฝังไปในใจเขาตลอดไป หากวันหนึ่งเขาไม่ได้อยู่บนโลกนี้แล้ว เขาก็หวังว่านางจะยังคงรักบิดามารดาเขาบ้าง สักเล็กน้อยก็ยังดี ให้พวกท่านได้อยู่บนโลกนี้ต่อไปได้เจียงเหวินหลบสายตามองลงพื้น เขาไม่กล้าบอกบิดามารดา ว่าเขาทำงานพลาด และโทษใหญ่หลวงกำลังรอเขาอยู่ เขาขอเวลาท่านแม่ทัพไว้ 10 วันตอนนี้เขาเหลือเวลาเพียง 5 วันเท่านั้น เ
เมื่อแจกทุกอย่างครบแล้ว หลินหลินก็ประกาศเรื่องสำคัญทันทีนายท่านเจียงกับฮูหยินเจียงมายืนประกบข้างหลินหลิน ฮูหยินเจียงมองหลินหลินด้วยแววตาชื่นชม นางก็อยากรู้ว่าหลินเอ๋อร์จะทำสิ่งใดหลินหลินกวาดสายตามองไปยังกลุ่มคนที่เบื้องหน้า นางเห็นความหวังริบหรี่ในแววตาของพวกเขา หลายคนผ่ายผอม อิดโรยจากความยากลำบาก"สิ่งสุดท้ายที่พวกท่านจะได้วันนี้ คือทางเลือก " หลินหลินเอ่ยเสียงดังฟังชัด"สวรรค์จะมอบทางเลือกให้พวกท่าน ขอให้พวกท่านตัดสินใจให้ดีเสียงของหลินหลินก้องกังวานไปทั่วบริเวณ เหมือนเสียงสวรรค์ที่หยาดลงมาปลุกความหวังในใจคนสิ้นหวัง"เย็นนี้จะมีคนของข้า ทั้งสามคนมาให้พวกท่านลงนามแจ้งความประสงค์ หากพวกท่านต้องการเดินทางไปเมืองใด ข้าจะเป็นคนจ่ายค่าเดินทางให้พวกท่านทั้งหมดเอง"เสียงฮือฮาดังขึ้น คนเหล่านั้นมองหน้ากันด้วยความประหลาดใจ"โดยค่าเดินทางนี้ข้าจะจ่ายให้กับกองคาราวานหรือรถเทียมวัวที่ข้าจ้างวานโดยตรง แม้การเดินทางมันไม่ได้สบายนัก แต่ก็คงไม่ลำบากจนพวกท่านทนไม่ได้" หลินหลินเว้นวรรคเล็กน้อย ก่อนจะพูดต่อด้วยน้ำเสียงที่เด็ดขาด"และอีกหนึ่งเรื่องคือ พวกเจ้า เจ้าเจ้า"หลินหลินชี้นิ้วไปยังคนที่ดวง
เมื่อคนเร่รอนเริ่มเห็นข้าวของจำนวนมาก ก็ค่อยๆ ขยับเข้ามาสอบถามด้วยความสงสัยว่านำของพวกนี้มาทำอะไรปู่หลิวเห็นเช่นนั้น จึงได้โอกาสบอกกับคนเร่รอนคนนั้นว่า "อีก1เค่อ คุณหนูของข้าจะทำการแจกจ่ายอาหารและของยังชีพ รบกวนเจ้าไปประกาศให้ทุกคนทราบด้วย จะได้ไม่เสียเวลาให้มาต่อแถวรอ อย่าลืมเอาชามช้อนของพวกเจ้ามาด้วย""ได้ ได้ ขอรับ ขอบคุณขอรับ ขอบคุณขอรับ""เอ้ย...พวกเรามีคนใจดีมากแจกอาหาร เตรียมชามช้อนมารอรับเร็วเข้า!"เสียงตะโกนดังก้องไปในความมืดนั้น สามารถปลุกพลังแห่งความวุ่นวายได้ในทันที ดีที่หลินหลินมีท่านลุงท่านป้า ทั้งสองมีประสบการณ์มาก่อน จึงให้คนของตนเองกันไม่ให้คนเร่ร่อนเบียดเข้ามาใกล้โต๊ะ เพราะอาจจะชนหม้อข้าวต้มเสียหายได้แต่ความหิวนั้นไม่เข้าใครออกใคร เริ่มมีการทะเลาะแย่งแถวกันเด็กๆ ถูกผลักออกจากแถว เด็กน้อยคนหนึ่งร้องไห้จ้าเมื่อถูกคนตัวใหญ่ผลักล้มลง ผู้คนล้วนไม่สนใจ นางเห็นดังนั้นจึงตะโกนออกไปว่า"หากพวกเจ้ายังทะเลาะกันอีกแม้แต่ครั้งเดียว...ข้าจะเก็บของทั้งหมดกลับไป!"แค่เพียงเสียงเดียวก็ทำให้ทุกอย่างสงบลงในพริบตา ทุกสายตาย้ายไปมองที่นางเป็นตาเดียว พร้อมกับเบิกตากว้างด้วยความตกใจสิ
เอาล่ะ....นางผิดเอง " ระบบจากนี้ไปต้องคอยเตือนข้าทุกเรื่อง เข้าใจไหม? ""ระบบจะเตือนผู้ถูกเลือกขอรับ"หลินหลินจัดการข้าวของที่จะแจกจ่ายพวกคนเร่ร่อนเสร็จ พอมีเวลาว่าง นางก็มานั่งพักที่ชานเรือน พร้อมกับถ้วยชาและขนมคุกกี้ บรรยากาศยามเย็นช่างเงียบสงบ เหมาะแก่การพักผ่อนหย่อนใจเสียจริงแต่แล้ว หลินหลินก็นึกขึ้นได้ว่า นางลืมหินเวทที่เก็บไว้ในมิติเสียสนิท! นางรีบเรียกหินเวทลมออกมา ก้อนหินสีฟ้าใสเปล่งประกายระยิบระยับอยู่ในมือ หลินหลินหลับตา เพ่งสมาธิ สัมผัสได้ถึงพลังเวทที่ไหลเวียนเข้าสู่ลูกแก้วเวทลมในร่างกายทันใดนั้น ก็รู้สึกเหมือนมีลมปราณปั่นป่วนในท้อง คล้ายกับ...จะเรอ!"เอิ๊กกกกกกก!"เสียงเรอของหลินหลินดังกึกก้องหลินหลินลืมตาขึ้น มองไปรอบๆ ด้วยความตกตะลึง ถ้วยชา จานคุกกี้ หายไปไหนหมด! นางกวาดสายตามองหา จนไปสะดุดกับแสงสะท้อนของแก้วกระเบื้องที่พุ่มดอกไม้ ห่างออกไป 10 เมตร!"หา! 10 เมตร?" หลินหลินอ้าปากค้าง"แค่เรอเองนะ แรงขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย!"นางหัวเราะออกมาเสียงดัง ทั้งขำทั้งตกใจ ไม่คิดว่าพลังเวทจะทำให้เรอได้แรงขนาดนี้หลินหลินลุกขึ้น เดินไปเก็บถ้วยชาและจานคุกกี้ที่กระเด็นไป