“ปึง!”อาซีส่งเสียงร้องดังลั่น พร้อมกับสียงกระดูกหักที่ชันเจน แขนทั้งสองข้างของเขาราวกับบะหมี่ที่ห้อยไปมา“ออกไปไกล ๆ ฉันหน่อย!”ฟ่านหลิงเยว่ถอยหลังไปสองสามก้าว ภายใต้สีหน้าที่ตกตะลึงของพวกผู้หญิงมากมายจากนั้นเธอก็พุ่งไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว แล้วเตะไปที่คางของอาซี ทำให้ชายร่างสูงสองเมตรถึงกับลอยออกไปทันทีอาซีที่ตามหลังอาตงไป ก็ส่งเสียงร้องออกมาอย่างน่าเวทนา ก่อนจะลอยออกจากประตูไปแล้วไปกระแทกกับพื้นโดยที่ไม่รู้ว่าตายหรือยังมีชีวิตอยู่“นี่.....”ฝีมือของฟ่านหลิงเยว่ทำให้พวกผู้หญิงมากมายถึงกับตกตะลึงหลินเสวี่ยฮุ่ยยังดี เพราะเธอเคยเห็นฟ่านหลิงเยว่ลงมือมาแล้ว แต่อิ่นนั่วเจียกับจ้าวเฉียวอวิ๋นนั้นยังไม่เคยเห็นมาก่อนสายตาที่พวกเขามองฟ่านหลิงเยว่ก็เปลี่ยนไปทันที...... ตระกูลหลี่เจียงหนานสุดท้ายหลินเฟิงและคนอื่น ๆก็ใช้เวลาไปมากกว่าหนึ่งชั่วโมงกว่าจนถึงที่หมายยังไม่ทันเข้าประตู หลินเฟิงก็มองเห็นชุดบอดี้การ์ดสีขาวที่คุ้นเคย และดูเหมือนจะเป็นชุดบอดี้การ์ดของตระกูลหม่าอีกด้วยเป็นอย่างที่คิดไว้ว่า ในคืนนั้นที่โอวหยางเหวินหนีออกจากคฤหาสน์ของอิ่นนั่วเจีย ในเวลานี้กำลังนั่งอยู่ในห
แน่นอนว่า ไม่ว่าจะมัดแน่นหนาแค่ไหนก็ไม่มีประโยชน์สำหรับหลินเฟิง ถ้าเขาอยากจะสลัดทิ้ง มันก็เป็นแค่เรื่องง่าย ๆเท่านั้นที่เขาประนีประนอม ก็เป็นเพราะไม่อยากให้หลี่ฟางตายด้วยน้ำมือของโจวก้งเฟิ่งไปแบบนั้น“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า....”เมื่อเห็นว่าหลินเฟิงโดนมัด ซือหม่าเหวินก็ไม่เกรงใจกลัวอะไรอีกต่อไปเขาเดินลงบันไดมา ก่อนจะชี้ไปที่หลินเฟิงอย่างเย่อหยิ่งแล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “เป็นอย่างไรบ้างล่ะไอ้หนุ่ม? ทุกเรื่องราวมีการเปลี่ยนแปลง ตอนนี้นายยังจะกล้าอวดดีอีกไหม?”“ฉันจะนับถึงห้า....ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า....”ซือหม่าเหวินเลียนแบบน้ำเสียงของหลินเฟิง ก่อนจะเหยียดนิ้วทั้งห้าออก เพื่อใช้วิธีนี้เหยียดหยามหลินเฟิงแต่ทว่าหลินเฟิงกลับยังคงนิ่งเฉย และพูดอย่างสงบว่า “ไม่ใช่ว่าพวกคุณอยากจะรู้ว่าซือหม่าหาวตายยังไงหรอกเหรอ?”“ผมจะบอกความจริงกับพวกคุณก็ได้”หลินเฟิงก้าวไปข้างหน้า และมองไปที่ซือหม่าเหวินที่ดูลังเลเล็กน้อย ก่อนจะพูดว่า “ซือหม่าหาวก็ตายด้วยน้ำมือของผมนี่ละ”“และก่อนที่เขาจะตาย เขาก็อวดดีเหมือนกับคุณในตอนนี้เลยด้วย”“สามหาว!”ทันทีที่หลินเฟิงพูดคำเหล่านี้ออกมา คนของตระกูลซือหม่าก็ไม่มีท่าทีโกรธ แต
แต่ทว่าหลิ่วเยว่ฟางก็ไม่มีท่าทางจะประนีประนอมแม้แต่น้อย และยังดูเย็นชาอย่างมาก เมื่อเผชิญหน้ากับการร้องขอความเมตตาจากจางกุ้ยหลาน เธอก็ยิ่งเย็นชามากขึ้น“หลินเฟิง ในนี้มีอะไรเข้าใจผิดหรือเปล่า...”หลี่ฮุ่ยหรานก็รู้สึกหวาดกลัวแล้วต่อให้หลินเฟิงแข็งแกร่งแค่ไหน ก็ไม่สามารถเผชิญหน้ากับยอดฝีมือมากมายในเวลาเดียวกันได้ขนาดนี้ และโจวก้งเฟิ่งที่อยู่บนขั้นบันได ก็ดูจะไม่ใช่คนหาเรื่องกันได้ง่าย ๆหรือว่าวันนี้พวกเขาจะต้องตายอยู่ที่นี่จริง ๆ งั้นเหรอ?คิดมาถึงตรงนี้ หลี่ฮุ่ยหรานก็อดไม่ได้ที่จะเริ่มรู้สึกเสียใจถ้าตัวเองรู้ตำแหน่งของตัวเองได้เร็วกว่านี้ และไม่ยอมรับคุณสมบัติของผู้ที่จะได้รับเลือกเป็นผู้นำตระกูลที่หลี่กงเฉิงมอบให้ตัวเองก็คงดีแบบนี้ก็คงไม่ทำให้แม่ของตัวเองและหลินเฟิงต้องเดือดร้อนไปด้วยมันชัดเจนแล้วหลิ่วเยว่ฟางพุ่งมายังตัวเธอหลิ่วเยว่ฟางไม่อยากเห็นเธอสืบทอดตำแหน่งผู้นำตระกูลหลี่“วางใจเถอะ มีผมอยู่ จะไม่มีใครทำอะไรพวกเราได้”ขณะที่หลี่ฮุ่ยหรานกำลังคิดฟุ้งซ่าน เสียงของหลินเฟิงที่ให้ความรู้สึกปลอดภัยก็ดังขึ้นในหูของเธอ“อืม”ไม่รู้ว่าเพราะอะไร คำพูดของหลินเฟิงเป็นเหมื
“ผู้นำตระกูล?”“คุณปู่?”เมื่อได้ยินเสียงตะโกนด้วยความโกรธทุกคนในตระกูลหลี่ต่างก็ตกตะลึง โดยเฉพาะหลิ่วเยว่ฟาง เธอโกรธมากจนด่าออกมาว่า “ฉันแค่พยายามจะช่วยชีวิตของคุณนะ ตาเฒ่า คุณไม่ต้องพูดเลย!”“ฉันจะพูดให้ได้!”หลี่ไห่หงพูดเสียงดังมาจากชั้นบนด้วยโกรธว่า “ตายอย่างน่าหดหู่แบบนี้ ฉันยอมถูกฆ่าตรง ๆดีกว่า!”“ฉันก็อยากจะดูว่าเด็กกลุ่มนี้จะมีสักกี่คนที่กล้าลุกขึ้นมา!”“หมิงจิ้วกับหย่งอานไอ้สารเลวสองคนนั้น ตอนที่พวกเขาได้ยินว่าตระกูลซือหม่ามาถึงที่หน้าประตูก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย มีเพียงแค่กงเฉิงกับฮุ่ยหรานที่ยืนขึ้นเท่านั้น!”“ฉันจะประกาศในตอนนี้เลยว่า ผู้นำคนต่อไปของตระกูลหลี่ จะเลือกระหว่างกงเฉิงกับฮุ่ยหรานเท่านั้น!”ทันทีที่คุณปู่ที่อยู่ชั้นบนพูดคำนี้จบ ก็คร่ำครวญราวกับถูกทุบตี“คุณปู่!”หลี่ฮุ่ยหรานตกใจหลินเฟิงก็ลุกขึ้นยืนเช่นกัน ก่อนจะมองไปที่ซือหม่าเหวินอย่างเย็นชา แล้วพูดว่า “หากมีอะไรเกิดขึ้นก็เข้ามาหาฉัน รังแกคนชราถือว่าไม่มีความสามารถอะไร!”“คนชราอะไร?”หลี่ไห่หงที่อยู่บนชั้นบนหัวเราะออกมาเสียงดัง ก่อนจะพูดว่า “ไอ้สารเลว ฉันยังไม่แก่เว้ย!”“แน่จริงแกก็ชกฉันอีกสักหมั
“แต่ไม่รู้จักความเป็ฯความตาย ถึงได้กล้าฆ่าซือหม่าจัว ผู้บริหารใหญ่ของตระกูลซือหม่าของฉัน สิ่งนี้ทำให้ตระกูลซือหม่าโกรธเคือง และในวันนี้นายจะต้องตายแน่นอน”หลังจากได้ยินคำพูดของโจวก้งเฟิ่ง ท่าทางของหลินเฟิงก็ดูลังเลเล็กน้อย“ซือหม่าจัว? คุณกำลังพูดถึงชายชราที่บุกเข้าไปในบ้านของอิ่นนั่วเจียกับซือหม่าเหวินในคืนนั้นหรือเปล่า?”“ถูกต้องแล้ว”โจวก้งเฟิ่งที่ยืนเอามือไว้ด้านหลัง ก็พยักหน้าเล็กน้อย“ไม่ถูกต้อง”หลินเฟิงส่ายหน้าแล้วเอ่ยว่า “ผมฆ่าซือหม่าหาว เรื่องนี้ผมยอมรับ แต่เพราะซือหม่าหาวเพิกเฉยต่อคำเตือนของผมและจัดการผมโดยที่ไม่รู้จักความเป็นความตาย”“แต่ซือหม่าจัว ผมกลับไม่ได้ฆ่าเขา”“หืม?”คำพูดของหลินเฟิงทำให้โจวก้งเฟิ่งสงสัยเล็กน้อย เขาเลิกคิ้วและพูดว่า “ซือหม่าหาวไม่ใช่ทายาทสายตรงของตระกูลซือหม่าของผม หากเป็นเขาก็ไม่คู่ควรให้ผมต้องลงมือหรอก”เขาก็มองออกว่า ระดับของหลินเฟิงไม่ได้ต่ำเลยภายใต้สถานการณ์อย่างนี้ เขาโกหกไปก็ไม่มีประโยชน์อะไร“หุบปาก หลินเฟิง!”ซือหม่าเหวินที่อยู่ด้านข้างกลัวว่าเรื่องจะถูกเปิดเผย ก็รีบตะโกนออกมาว่า “นายไร้เดียงสาเกินไปแล้ว คิดว่าจะเถียงแบบไม่มีเ
โจวก้งเฟิ่งใช้กำลังทั้งหมด โดยที่ไม่ได้หยั่งเชิงเลยแม้แต่น้อย อีกทั้งหลินเฟิงก็ยังไม่ได้เตรียมตัวที่จะหลบหลีกวิธีการที่ทั้งสองคนใช้ในเวลานี้อยู่เหนือความเข้าใจของคนทั่วไป การเคลื่อนไหวที่รุนแรงและรวดเร็วราวกับภาพลวงตา ในเวลาอันสั้นก็ประมือกันไปสามสิบกว่ารอบแล้ว“อะไรกัน?”ซือหม่าเหวินที่มองดูความแข็งแกร่งของหลินเฟิง ก็คิดไม่ถึงว่าจะสามารถต่อสู้ได้เสมอกับโจวก้งเฟิ่งจริง ๆ เขาตกใจอย่างมาก แม้แต่ในใจก็มีลางสังหรณ์ที่ไม่ดีอยู่ สุดท้าย หลังจากการต่อสู้ที่มากกว่าห้าสิบรอบ โจวก้งเฟิ่งก็เป็นฝ่ายที่เริ่มล่าถอยและตีตัวออกห่างจากหลินเฟิง“คิดไม่ถึงว่าที่เจียงโจวเล็ก ๆ ยังจะมียอดฝีมือแบบนี้อยู่ด้วย”โจวก้งเฟิ่งควบคุมลมปราณที่ยุ่งเหยิงของตัวเองลงเล็กน้อย ก่อนจะจ้อมไปทางหลินเฟิงและพูดว่า “ยังไม่ทะลวงแดนแปรภาพแท้ ๆ แต่สามารถแข็งแกร่งได้ขนาดนี้ ฉันรู้แล้วว่าคุณไม่จำเป็นต้องใช้วิธีการลอบโจมตีเพื่อฆ่าอาจารย์ของฉันอย่างแน่นอน”“แต่ทว่าอาจารย์ของผมกลับถูกมีดกริชฆ่าตาย....”โจวก้งเฟิ่งที่หยุดไปไม่นาน ก
โจวก้งเฟิ่งมองไปทางหลินเฟิง ด้วยสายตาที่ค่อนข้างมีความหมาย“ในเมื่อเป็นแบบนี้ โจวก้งเฟิ่งไว้หน้าผม ผมจะไม่รับก็ไม่ได้”หลินเฟิงพยักหน้า จากนั้นก็หันไปมองซือหม่าเหวิน ก่อนจะพูดว่า “คุณชายซือหม่า ต้องขอโทษต่อเรื่องราวก่อนหน้านี้ด้วย ขอโทษ”คำขอโทษตรงนี้ไม่ได้มีความจริงใจแม้แต่ครึ่งเดียว และดูเหมือนจะเป็นการสบประมาทด้วยซ้ำใบหน้าของซือหม่าเหวินเปลี่ยนเป็นสีแดงเลือดหมู“โจวก้งเฟิ่ง เรื่องนี้ฉันจะไปรายงานให้พ่อรู้”ซือหม่าเหวินไม่กล้าอาละวาด ทำได้เพียงยกพ่อของเขาออกมา“ได้สิ”โจวก้งเฟิ่งพยักหน้าด้วยท่าทางไร้อารมณ์“แต่ทางที่ดีที่สุดคือหาคำตอบให้ได้ก่อนว่าอาจารย์ของฉันตายด้วยน้ำมือของใคร”เมื่อได้ยินประโยคของโจวก้งเฟิ่ง ซือหม่าเหวินก็ตัวแข็งทื่อจากนั้น เขาก็ตะคอกอย่างเย็นชาแล้วสะบัดแขนเดินหนีไป“ขอลา”ต่างจากซือหม่าเหวินที่ไม่พอใจ โจวก้งเฟิ่งถึงขั้นที่ประสานกำปั้นคารวะหลินเฟิง ก่อนจะเรียกผู้คุ้มกันของตระกูลซือหม่าออกไปพร้อมกัน“หลินเฟิง จริง ๆแล้วเรื่องมันเป็นยังไงกันแน่?”หลี่ฮุ่ยหรานที่ตั้งตัวไม่ทันเล็กน้อยกับท่าทางที่เปลี่ยนไปของโจวก้งเฟิ่งจากตระกูลซือหม่าหรือจะเป็นเพรา
“แม้ว่าภัยครั้งนี้จะเป็นเพราะฮุ่ยหราน แต่สุดท้ายเธอก็ไม่ได้กลัวตระกูลซือหม่า และยังตำหนิทุกคน ถือว่าเป็นการสร้างเกียรติให้ตระกูลหลี่ของพวกเรา”“ตระกูลหลี่ของฉันต้องการผู้นำแบบนี้”เมื่อได้ยินคำพูดของคุณปู่ หลิ่วเยว่ฟางก็ร้อนใจ ถ้าหากหลี่ฮุ่ยหรานได้เป็นผู้นำแล้ว มันจะดีกับเธอหรือเปล่า?เธอรีบพูดแทรกขึ้นมาว่า “ตาเฒ่า คุณเลอะเลือนแล้วใช่ไหม? ภัยในวันนี้สาเหตุมาจากหลี่ฮุ่ยหรานนะ หากไม่มีเธอ คุณกับกงเฉิงและเยว่หรูก็คงจะไม่โดนการทุบตีแบบไร้เหตุผลหรอก”“ยังไงซะ ทั้งหมดก็เป็นความผิดของเธอ!”“ใช่แล้วคุณปู่ คุณปู่ต้องคิดให้ดี ๆนะ!”หลี่เยว่หรูก็ร้อนใจเช่นกัน“เงียบให้หมด!”คุณปู่หลี่ตำหนิด้วยน้ำเสียงเด็ดขาด ก่อนจะมองคนไปรอบ ๆที่เงียบงัน เขาก็เอ่ยขึ้นมาเบา ๆว่า “ฉันรู้ว่าพวกคุณจะขออะไร แต่ฉันก็สนุกกับท่าทางของหลี่ฮุ่ยหราน”“แบบนี้สิ”หลี่ไห่หงก้าวถอยหลังไป แล้วพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า “ฉันรู้ว่าพวกคุณไม่ยอมรับ และฉันก็ไม่มีเจตนาที่จะทำลายกฎล่วงหน้าด้วยเช่นกัน”“การเดิมพันก่อนหน้านี้ก็ยังมีผลอยู่”หลี่ไห่หงมองไปรอบ ๆ แล้วพูดขึ้นว่า “ ยังเหลือเวลาอีกประมาณหนึ่งเดือนครึ่งที่หลี่ฮุ่นหรา