ในเมื่อเรื่องมันมาถึงตอนนี้แล้วโอวหยางชิ่งจะเสียใจภายหลังก็ไม่มีประโยชน์อะไรสิ่งเดียวที่เธอต้องคิด ณ จุดนี้ คือการหนีออกไปจากตระกูลเซี่ยง เอาเรื่องตระกูลเซี่ยงฆ่าพ่อของเธอไปบอกกับสำนักเสินฉือไม่ให้เจ้าสำนักนั้นไปแก้แค้นหลินเฟิงแต่มาเอาเรื่องที่ตระกูลเซี่ยงสุดท้ายโอวหยางชิ่งใช้กำลังทั้งหมดที่มี ปีนกำแพงหนีออกจากคฤหาสน์ตระกูลเซี่ยงแต่ร่างกายภายนอกของเธอเองก็ได้รับบาดเจ็บไม่น้อย เนื่องจากจุดตันเถียนแตกสลายจนทำให้บาดเจ็บภายใน สติของเธอเริ่มพร่ามัวเล็กน้อยในตอนนี้คฤหาสน์ของตระกูลเซี่ยงนี้ไม่ได้อยู่ในเมือง แต่อยู่บนเนินเขาในเขตชานเมืองหยางเฉิงเขาทั้งลูกต่างเป็นทรัพย์สินของตระกูลเซี่ยงโอวหยางชิ่งทั้งวิ่งและต่อสู้ ถูกไล่ล่าโดยผู้คุ้มครองของตระกูลเซี่ยง ในที่สุดก็วิ่งไปถึงขอบหน้าผา และไม่มีทางที่จะถอยได้แล้ว“โอวหยางชิ่ง คุณควรที่จะยอมจำนนและหยุดต่อต้านซะ!”“โอวหยางชิ่ง ว่าง่ายจะได้ไม่ต้องเจ็บตัวมันดีต่อคุณและผม!”กับการยั่วยุของผู้คุ้มกันตระกูลเซี่ยง ทำให้ใบหน้าของโอวหยางชิ่งนั้นแสดงท่าทีที่ดุร้าย เธอมองไปที่หน้าผาที่อยู่ข้างหลัง จุดต่ำสุดด้านล่างเป็นแม่น้ำเล็ก ๆ“เชอะ พว
“อ้อ……ที่โรงแรมจิ่วโจวแล้วกัน ตอนเย็นมีเพื่อนสมัยเรียนสองสามคนมาหาฉันพอดี คุณก็มาช่วยสมทบฉันด้วย”พูดจบประโยคนี้ ถังหว่านก็เอานิ้วพันรอบสายโทรศัพท์อีกครั้ง และพูดเสริมไปอีกว่า:“อ่อใช่ เพื่อนร่วมชั้นของฉันมีแต่สาวสวยนะ”“ชิ งั้นผมก็ไม่ไปแล้ว”“โอ๊ยคุณเนี่ยนะ”ถังหว่านหัวเราะด้วยท่าทีของหลินเฟิง และถามด้วยน้ำเสียงแปลก ๆ ว่า: “เกิดอะไรขึ้นเหรอกิ๊กของฉัน? คุณกลัวว่าความงามของฉันไม่สามารถควบคุมเหตุการณ์เอาไว้ได้เหรอ และคุณจะไปตกหลุมรักคนอื่นอย่างอดไม่ได้งั้นเหรอ?”“กิ๊กคืออะไร……”หลินเฟิงพูดอย่างจนใจ: “งานเลี้ยงของเพื่อนร่วมชั้นพวกคุณ ผมไม่ไปดีกว่า”“ฉันเคยพูดไปแล้วว่า ให้คุณไปเป็นหน้าเป็นตา เพื่อนร่วมชั้นของฉันมีสามีกันหมดแล้ว มีฉันที่ไปตัวคนเดียว ดูอึดอัดเกินไปหน่อย”ถังหว่านเบะปากพูด“เป็นยังไง ตกลงว่าคุณจะไปไหม”“ก็ได้”หลินเฟิงพยักหน้าด้วยความจนใจ: “ดูเหมือนว่าวันนี้ที่คุณโทรมาหาผม ก็เพื่อเรื่องนี้โดยเฉพาะสิน่ะ!”“ฉลาด”ริมฝีปากสีแดงของถังหว่านยกขึ้น และทำการวางโทรศัพท์ตั้งโต๊ะไป“ถังหว่าน ฉันไม่เตือนเธอไม่ได้หรอกนะ เธอเป็นคนที่มีคู่หมั้นแล้ว ทางที่ดีควรไปมาหาสู่กับไอ้ส
ภายใต้การนำทางของพนักงานเสิร์ฟ หลินเฟิงกับถังหว่านเข้าไปในห้องส่วนตัวที่ตกแต่งหรูหรา“อุ๊ยถังหว่านคุณหนูตระกูลถังของฉัน คุณเป็นคนที่งานยุ่งมากจริง ๆ เลยนะ พวกเรารอพวกคุณอยู่ตั้งนานแล้ว”โต๊ะขนาดใหญ่ที่อยู่ในห้องส่วนตัวมีคนนั่งอยู่เต็มตั้งนานแล้ว มีผู้ชายมีผู้หญิง ดูแล้วคุ้นเคยกับถังหว่านเป็นอย่างมาก ถึงขั้นที่มีคนเอ่ยปากพูดหยอกล้อถังหว่านโดยตรง“พูดซี้ซั้วอะไรน่ะ? พวกเธอก็เพิ่งมาถึงกันชัด ๆ เลย”ถังหว่านยิ้มตาหยีแล้วคล้องแขนหลินเฟิงเข้าประจำที่นั่งเพื่อนนักเรียนหญิงที่อยู่รอบ ๆ หลังจากที่เห็นหลินเฟิงที่อยู่ข้างกายถังหว่าน ดวงตาก็เป็นประกายพูดขึ้น: “อุ๊ยถังหว่าน ไม่ได้เจอกันหลายปี เธอก็มีหนุ่มหล่อแล้วเหรอ?”“พูดอะไรน่ะ ถังหว่านมีหมั้นหมายกับคุณชายหลงเมืองจิงตั้งนานแล้ว”“ท่านนี้เกรงว่าจะเป็นคุณชายหลงยวนจากเมืองจิงสินะ ผมคือเว่ยเฉินของตระกูลเว่ยเมืองหนิงโจว ได้ยินชื่อเสียงไม่สู้ได้เจอหน้าจริง ๆ นะครับ ตระกูลหลงชื่อเสียงโด่งดังกึกก้องเชียวนะครับ”เพื่อนนักเรียนชายของถังหว่านสองคนยืนขึ้นทันที และพยักหน้าไปทางหลินเฟิง ใบหน้ามีรอยยิ้มที่ประจบสอพลอเล็กน้อย“อุ๊ย ท่านนี้ก็คือคุณชายหล
เมื่อเห็นว่าบรรยากาศกลับมา ถังหว่านสีหน้าจึงดีขึ้นเล็กน้อย และนั่งกลับลงไปยังที่นั่งของตัวเอง“อ่อใช่คุณหนูถังหว่านของฉัน เรื่องที่เธอแอบมีกิ๊กข้างนอก คุณชายหลงรู้เรื่องไหม?”เว่ยเชินกำลังจะดื่มน้ำ จู่ ๆ ชุยหยวนที่อยู่ข้าง ๆ เอ่ยถามขึ้น นี่ทำให้น้ำที่อยู่ในปากของเว่ยเชินเกือบพุ่งออกมาชุยหยวนพูดอย่างไร้เดียงสา: “พวกเธอคิดดูสิ บอดี้การ์ดส่วนตัวนะ! จะต้องอย่างว่า ใช่ไหมล่ะ?”ชุยหยวนยังเลิกคิ้ว เผยสีหน้าที่บอกว่าคุณก็คงเข้าใจ“ชุยหยวน เธอพูดจาซี้ซั้วอะไร?”เว่ยเชินกระแทกแก้วน้ำลงบนโต๊ะแล้วขมวดคิ้ว: “ถังหว่านไม่ใช่คนแบบที่เธอพูด!”“ฮิฮิ ร้อนใจแล้วร้อนใจล้วน พวกเธอรีบดูเว่ยเชินสิ!”ชุยหยวนกลัวว่าเรื่องราวจะใหญ่โตไม่พอ และปรบมือยิ้มพูด: “โอ๊ย พวกเราต่างรู้ว่าเว่ยเชินชบคุณหนูตระกูลถัง เพื่อเธอแล้ว จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่แต่งงานเลยนะ”ผู้หญิงชุดราตรีสีแดงที่เหน็บแนมหลินเฟิงเมื่อครู่นี้กลับเบะปาก แล้วพูดเสียงเบา: “มีคู่หมั้นแล้วยังจะแอบมีกิ๊กข้างนอก หน้าด้านจริง ๆ”“เผิงหย่าฟาง เธอพูดจาซี้ซั้วอะไร”ถังหว่านพูดเสียงดัง: “อะไรเรียกว่าคู่หมั้น อะไรเรียกว่าแอบมีกิ๊ก? ฉันไม่เคยรับปากการจัดการ
ถังหว่านยังไม่ทันได้ตอบกลับหมิงอิ่งอิ่งเว่ยเฉินลุกขึ้นยืนในทันทีสายตาของเขามองไปทางหลินเฟิงอย่างเย็นชา ก่อนจะพูดอย่างเรียบเฉยว่า “อิ่งอิ่ง ไม่ต้องห่วง มีฉันอยู่ก็ไม่ต้องไปรบกวนคนอื่นหรอก”“ยิ่งไปกว่านั้น คนบางคนแข็งแกร่งแค่ไหนก็ยังไม่รู้ เป็นไปได้อาจจะเป็นเพียงพวกขี้เมาที่รู้แค่ท่ามวยฉาบฉวยก็ได้”“คนพวกนี้ฉันเห็นมาเยอะแล้ว”เห็นได้ชัดว่าคำพูดพวกนี้พุ่งตรงไปที่หลินเฟิงโดยเฉพาะหลินเฟิงหัวเราะเยาะ แล้วกินอาหารของตัวเองต่อไป โดยที่ไม่ได้สนใจเว่ยเฉินอีกถังหว่านกลัวว่าหลินเฟิงจะโกรธ จึงเข้าไปขวางกั้นการจ้องมองหลินเฟิงอย่างเหยียดหยามของเว่ยเฉิน ก่อนจะพูดอย่างเย็นชาว่า “คนที่ฉันเลือกด้วยตัวเอง ย่อมแข็งแกร่งอยู่แล้ว คนอื่นไม่จำเป็นต้องตั้งคำถาม”“เอาล่ะ เอาล่ะ ทำไมบรรยากาศมันเริ่มรุนแรงขึ้นอีกแล้วล่ะ?” ชุยหยวนรีบไกล่เกลี่ย“ฮึ่ม ถ้าไม่ใช่บางคนพาคนแปลกหน้าเข้ามา เรื่องแบบนี้มันจะเกิดขึ้นไหมล่ะ?”เผิงหย่าฟางที่สวมชุดสีแดงกอดอกด้วยสีหน้าที่ประชดประชัน“เผิงหย่าฟาง คุณพูดให้น้อยลงหน่อย มันจะตายไหม?”ชุยหยวนรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อยต้องรู้ไว้ว่า โดยพื้นฐานแล้วเพื่อนร่วมชั้นพวกนี้ต่า
แต่ทั้งสองก็คิดไม่ถึงว่าคนพวกนี้จะมาหากันถึงที่ได้รวดเร็ว“อ้าว นี่ไม่ใช่คุณถังหว่านจากตระกูลถังหรอกเหรอ!”เด็กหนุ่มผิวปาก มองถังหว่านขึ้น ๆลง ๆ ก่อนจะยิ้มแล้วพูดว่า “เป็นผู้หญิงที่สวยและหุ่นเย้ายวนจริง ๆ ถ้าให้คุณมาเข้าร่วมกับบริษัทเรา...ช่างเถอะช่างเถอะ ผมไม่บาดหมางกับคุณชายหลง”หลังจากพูดจบ เด็กหนุ่มก็มองไปทางคนที่อยู่บนโต๊ะอาหาร ก่อนจะแนะนำตัวเอง “สวัสดี นี่เป็นครั้งแรกที่เจอกัน ผมชื่อซือหม่าหาว มาจากเมืองจิง”“ซือหม่าหาว?!”เผิงหย่าฟางปิดปากตัวเองอย่างไม่อยากจะเชื่อ ก่อนจะยืนขึ้นแล้วพูดว่า “หรือว่าจะเป็นคุณชายสามจากตระกูลซือหม่า เมืองจิง.....”“หืม? คิดไม่ถึงว่าจะมีคนรู้จักผมด้วย? ไม่เลว ไม่เลว”ซือหม่าหาวปรบมือก่อนจะหัวเราะเสียงดังและพูดว่า “ในเมื่อคุณรู้จักผม งั้นผมก็จะไม่พูดเรื่องไร้สาระอีก หมิงอิ่งอิ่งเป็นผู้ประกาศข่าวหญิงภายใต้ ซือหม่าเอนเตอร์เทนเม้นของเรา ผมจะพาเธอไป พวกคุณไม่ว่าอะไรใช่ไหม?”“แน่นอน ถ้าหากมีความคิดเห็นก็ต้องเก็บมันไว้”ซือหม่าหาวผิวปากราวกับเรียกสุนัข และทำเสียงเรียกสุนัขไปทางหมิงอิ่งอิ่ง ก่อนจะพูดว่า “ไป ไป ถ้าคุณไม่ไป งั้นผมก็จะไม่เกรงใจแล้วนะ?”
“ถังหว่าน ทำไมคุณถึงชอบไปยุ่งเรื่องของชาวบ้านมากมายขนาดนั้นนะ?”เผิงหย่าฟางที่อยู่ด้านข้างไม่สามารถที่จะนิ่งเฉยได้ “คุณชายซือหม่าต้องการจะพาพนักงานของบริษัทบันเทิงของตัวเองไป เธอจะมาเข้าแทรกทำอะไร?”“หรือว่าเธอจะลากพวกเราไปลงน้ำด้วยกัน และผิดใจกับตระกูลซือหม่าในเมืองจิง?”“เอ่อ...”สีหน้าของชุยหยวนและคนอื่น ๆก็กระอักกระอ่วนเช่นกัน ใช่แล้ว พวกเขาไม่กล้ายั่วยุตระกูลซือหม่าจริง ๆดังนั้นทั้งที่เพิ่งจะเริ่ม ก็ไม่มีใครกล้าที่จะพูด“ฮ่าฮ่า สาวงามคนนี้ยังรู้จักเอาตัวรอดนะ ขอถามสาวงามคนนี้หน่อย ว่าคุณชื่ออะไร?”ซือหม่าหาวมองไปทางเผิงหย่าฟาง แล้วเผิงหย่าฟางก็พูดด้วยสีหน้าตื่นเต้นว่า “คุณชายซือหม่า ฉันชื่อเผิงหย่าฟาง”“ฮ่าฮ่า โอเค เห็นว่าคุณมีออร่า ไม่สู้มาเข้าร่วมซือหม่าเอนเตอร์เทนเม้นของพวกเราล่ะ วางใจเถอะ วีเจดังคนถัดไปต้องเป็นคุณ!”“ขอบคุณคุณชายซือหม่า!”เผิงหย่าฟางได้ยินก็ดีใจมาก“นี่คือนามบัตรของผม มาหาผมคืนนี้ที่ห้อง 1008 ที่โรงแรมจิ่วโจว ทำให้ผมดูว่าคุณมีคุณสมบัติหรือเปล่า”ซือหม่าหาวจับคางก่อนจะยิ้มออกมาเขาโยนนามบัตรให้เผิงหย่าฟาง ซึ่งเผิงหย่าฟางก็รับมันไว้ด้วยความตื
เขาเป็นคนเดียวในเหตุการณ์ที่ดูจะไม่กังวลเลยแม้แต่น้อยในเวลานี้เมื่อคิดถึงคำพูดที่เขาพูดกับตัวเอง ในที่สุดเว่ยเชินก็อดไม่ได้ที่จะลงมือ“ฮึ่ม ถือว่ายังมีความกล้าอยู่บ้าง”หลิงเฟิงยิ้มอยู่ในใจดูเหมือนว่าเขากำลังกินข้าวอยู่ แต่ก็ไม่ได้นิ่งเฉยไม่ใช่ว่าไม่สนใจถังหว่านเขาได้ใช้หยวนชี่ทั้งห้าที่ออกมาจากชี่แท้ เพื่อสร้างตาข่ายป้องกันล้อมร่างกายของถังหว่านไว้ถ้าหากมือของบอดี้การ์ดแตะต้องถังหว่านในตอนนี้ จุดจบของบอดี้การ์ดคนนั้นก็คงจะน่าเศร้ามากแน่นอนสุดท้ายแล้วก็ถูกถังหว่านประกาศอย่างเอิกเกริกอย่างยิ่งใหญ่เพื่อให้เป็นบอดี้การ์ดส่วนตัว ถ้าหลินเฟิงไม่ทำอะไรเลย มันจะเป็นการสูญเสียตำแหน่งเกินไปแต่ในเรื่องนี้ ไม่ใช่ว่าเว่ยเชินจะสามารถสังเกตเห็นสิ่งเหล่านี้ได้ เขายังคิดว่าหลินเฟิงไม่ได้สนใจความเป็นความตายของถังหว่านอยู่“ฮึ่ม ดูแบบนี้แล้ว ไอ้หมอนี่คงจะถูกซือหม่าหาวทำให้ตกใจจนขวัญหนีดีฟ่อแล้ว ก็เลยกินอาหารเพื่อปกปิดความสับสนวุ่นวายของในใจของตัวเองสินะ”ถึงแม้ว่าเว่ยเชินจะเกรงกลัวเบื้องหลังของซือหม่าหาว แต่ในจุดนี้ เขาจำเป็นต้องแสดงความรับผิดชอบออกมาให้มากกว่าหนุ่มน้อยที่หน้าตาดีคนนี
ผู้คนที่อยู่รอบๆ ก็ไม่สามารถสัมผัสได้ถึงพลังที่ระเบิดออกมาจากตัวหลินเฟิง รู้สึกแค่ว่าหลินเฟิงกำลังถามคำถามที่เย็นชากับเขาและในสายตาของหลูข่ายหยวนกลับกลายเป็นสัตว์ร้ายยุคก่อนประวัติศาสตร์ที่น่าสะพรึงกลัว ซึ่งปกคลุมไปด้วยเลือดและมีความสูงหลายร้อยฟุต กำลังคำรามใส่เขาด้วยความโกรธเกรี้ยวในขณะนี้หลูข่ายหยวนหน้าซีดด้วยความตกใจ"เชี่ย นี่...ไอ้หมอนี่เป็นใครกันแน่?!"“ทำไมบนตัวเขา...ทำไมมีความกดดันเหมือนกับเจ้าสำนักจิ่วเซียวของเรา!”“ยอดฝีมือขอบเขตเทพ? หรือจะเป็นปีศาจที่ชุบชีวิตให้เป็นหนุ่ม?”หลูข่ายหยวนในตอนนี้รู้สึกกลัวมากจนมึนงงเล็กน้อยในขณะเดียวกันหลูอวี่ต๋าน้องชายของหลูข่ายหยวน ยังไม่ได้สังเกตเห็นความผิดปกติของพี่ชายตัวเอง ตะโกนด้วยความตื่นเต้น:“พี่ลุยสิ สับมันให้เลยไปเลย!”“ไอ้หมอนี่รนหาที่ตาย รอให้พี่เล่นผู้หญิงของเขาเสร็จแล้ว อย่าลืมให้ฉันเล่นด้วย ฉัน...”"ปัง!"ไม่รอให้น้องชายของหลูข่ายหยวนจะพูดจบ ศีรษะของเขาก็ระเบิดเละเหมือนกับแตงโมเมื่อเห็นสีแดงและสีขาวกระจายไปทั่ว หลูข่ายหยวนก็จ้องมองหลินเฟิงด้วยความเหม่อลอย เขาไม่รู้เลยว่าหลินเฟิงลงมือตอนไหนน้องชายของเขาเหมือนต
“หลินเฟิง ระวัง!”ไท่สื่อทงรู้สึกตกตะลึงเมื่อพบว่าหลูข่ายหยวนลอบโจมตีได้อย่างหน้าไม่อายแบบนี้สิ่งแรกที่เขาทำคือไม่ได้ก้าวไปข้างหน้าเพื่อสกัดดาบให้หลินเฟิง แต่กลับกระโดดหนีเองเขามีความคิดอันมืดมนอย่างยิ่งอยู่ในใจของเขาหากหลูข่ายหยวนฆ่าหลินเฟิง งั้นคุคณถังหว่าน เขาก็มีโอกาสแล้วไม่ใช่เหรอ?ดังนั้น แม้ว่าไท่สื่อทงจะเตือนหลินเฟิง แต่เขาก็ไม่ได้ลงมือเพื่อสกัดการโจมตีให้หลินเฟิงพูดตรงๆ ว่าไท่สื่อทงไม่มีความมั่นใจเลยว่าเขาจะสามารถป้องกันการโจมตีที่รุนแรงเช่นนี้ได้แต่ทว่าหลินเฟิงไม่ได้ตื่นตระหนกเขาจ้องดูไท่สื่อทงที่กระโดดหนีอย่างใจเย็น เพียงแวบเดียว เขาก็มองความคิดของไท่สื่อทงได้อย่างชัดเจนหากหลูข่ายหยวนถูกมองว่าเป็นคนต่ำช้าถ้าเช่นนั้นไท่สื่อทงก็อาจถูกมองว่าเป็นคนหน้าซื่อใจคดได้ถ้าไม่ได้เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ส่วนตัว เกรงว่าเขาคงไม่ลงมือเมื่อครู่เขาขวางอยู่หน้าหลูข่ายหยวน เพื่ออยากจะออกหน้าให้ถังหว่านเมื่อเห็นการเคลื่อนไหวอันทรงพลังของหลูข่ายหยวน เขาก็ถอยออก“มันน่าผิดหวังจริงๆ”หลินเฟิงส่ายหัวมันเกิดขึ้นในชั่วพริบตาในขณะที่มีดสปาต้าของหลูข่ายหยวนเกือบจะสัมผัสหนัง
หลูข่ายหยวนเป็นหมาบ้าที่เจอใครก็กัดไปทั่วจริงๆเขาไม่สนใจใครหน้าไหนทั้งนั้น“ผู้นำตระกูลถัง คุณถอยไปเถอะ”เมื่อเห็นเช่นนี้ หลินเฟิงรู้ว่าวันนี้ไม่มีโอกาสที่จะเจรจาหลูข่ายหยวนได้แล้วเขาขวางอยู่ตรงหน้าของถังเจี้ยนหยวน จ้องมองตรงไปที่หลูข่ายหยวนที่ร่างกายสูงใหญ่และพูดว่า:“กำเริบเสิบสานที่ตระกูลถังถึงขนาดนี้ แถมยังเหยียดหยามผู้หญิงของฉันซ้ำแล้วซ้ำเล่า ดูเหมือนว่าวันนี้นายคงไม่อยากมีชีวิตตออกไปจากที่นี่แล้ว”คำพูดของหลินเฟิงทำให้หลูข่ายหยวนตกตะลึง จากนั้นเขาก็หัวเราะออกมา“ไอ้หนุ่ม แกคุยโวอย่างหน้าไม่อายจริงๆ แกคิดว่าแผนตบตาศัตรูของแกสามารถทำให้ฉันกลัวได้งั้นเหรอ!”หลูข่ายหยวนแสยะยิ้มและพูดว่า:"แกก็แค่คนทั่วไปที่ไม่มีพลังความสามารถ!"“พวกเราที่ฝึกศิลปะการต่อสู้มองออกได้ในพริบตา ว่าแกทำเป็นข่มขู่อยู่ตรงนี้ เหมือนกับตัวตลก”“ดูเหมือนว่าตระกูลถังไม่มีผู้ที่มีความสามารถจริงๆ ด้วย”เมื่อได้ยินเช่นนี้ ผู้คนรอบข้างก็เริ่มวิพากษ์วิจารณ์กันหลายๆ คนเห็นด้วยกับมุมมองของหลูข่ายหยวน ในเมื่อจากที่พวกเขาดู หลินเฟิงไม่มีวิทยายุทธใดๆ เลยด้วยซ้ำแค่เสแสร้งแกล้งทำเท่านั้น“หลินเฟิง อย่าเอาไ
“เมื่อกี้แกพูดว่าอะไรนะ?”หลูข่ายหยวนนิ่งอึ้งทันที เขาไม่ได้ฟังที่หลินเฟิงพูดเมื่อครู่ ได้ยินเพียงแค่ว่าชายคนนี้กำลังดูหมิ่นน้องชายของเขาเท่านั้น“เมื่อคุณได้ยินไม่ชัดเจน งั้นผมก็พูดอีกเป็นครั้งสุดท้ายด้วยความหวังดี”หลินเฟิงกวาดตามองทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ แล้วพูดอย่างเย็นชา:“พวกเราทุกคนได้รับคำเชิญจากตระกูลถัง เพื่ออีกาแห่งหนานไห่ ผม่ไม่ต้องการฆ่าใครที่นี่ ส่งผลกระทบต่อขวัญกำลังใจของทุกคน”“นายพูดว่าอะไรนะ?”เมื่อได้ยินหลินเฟิงพูดคำเหล่านี้ หลูข่ายหยวนก็ตกตะลึงเล็กน้อย จากนั้นก็หัวเราะเสียงดังลั่น"ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า......"เมื่อผู้คนรอบๆ เห็นหลูข่ายหยวนหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง พวกเขาทั้งหมดก็เม้มริมฝีปากและมองหลินเฟิงด้วยความกระอักกระอ่วนถูกต้องแล้วผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ล้วนเป็นผู้มีความสามารถที่ได้รับคำเชิญจากตระกูลย่อยของตระกูลถังจากสถานที่ต่างๆมีนักบู๊ระดับเซียนเทียนอยู่ไม่น้อยไม่ว่าจะเป็นพวกเขา ไท่สื่อทง หรือหลูข่ายหยวน ต่างก็สัมผัสถึงร่องรอยของพลังชี่แท้ที่พุ่งพล่านอยู่ในร่างของหลินเฟิงไม่ได้แบบนี้หมายความว่ายังไง?นั่นหมายความว่าหลินเฟิงเป็นเพียงคนทั่วไปที่ไม่มีทักษะก
ถ้าพูดตามเหตุผลแล้ว คนที่ออกหน้าไม่ควรจะเป็นเขา แต่เป็นหลินเฟิงถึงจะถูก แต่ท่าทางของหลินเฟิงทำให้เขาผิดหวังมากจริงๆจะมีผู้ชายทนเห็นคนอื่นพูดจาเหยียดหยามผู้หญิงของตัวเองโดยไม่แสดงอารมณ์ใดๆ ได้อย่างไร?พูดได้ดีขนาดนั้น บอกว่าสถานการณ์โดยรวมสำคัญกว่าแต่ความจริงก็คือไม่กล้าสินะ! ไม่กล้าที่จะสู้กับหลูข่ายหยวนไม่รู้จริงๆ ว่าคุณถังหว่านชอบผู้ชายคนนี้ตรงไหนทำให้คนผิดหวังอย่างถึงที่สุดจริงๆในตอนนี้เอง น้องชายของหลูข่ายหยวนดูเหมือนจะนึกอะไรได้ และชี้ไปที่หลินเฟิงด้วยความเหลือเชื่อ:“นายเองเหรอ?! คนที่ชนรถฉันเมื่อวานนี้!”“ชนรถนายเหรอ?”หลินเฟิงนิ่งอึ้งเล็กน้อยหลังจากสังเกตใบหน้าของน้องชายของหลูข่ายหยวนอย่างละเอียด เขาก็รู้ทันทีว่าผู้ชายคนนี้คือหนุ่มเจ้าชู้ที่เมาแล้วขับชนท้ายเขาเมื่อวานนี้ ตอนที่เขาและอวี๋จื่อเสวียนออกจากมาจากกองถ่ายทั้งๆ ที่เขาชนท้าย แต่จากตรงนี้มันกลายเป็นว่าหลินเฟิงชนเขา มันน่าขันเกินไปจริงๆ“หือ? อวี่ต๋า เกิดอะไรขึ้น นายรู้จักคนนั้นเหรอ”หลูข่ายหยวนหันกลับมามองน้องชายของเขาด้วยความสับสน“พี่ เขานี่แหละ เมื่อวานขับรถชนรถฉัน แถมยังไม่ขอโทษฉันด้วย เขาถึงขั้น
“ไท่สื่อทง อย่าคิดว่าผมจะกลัวคุณ”หลูข่ายหยวนกล่าวอย่างเย็นชา:“ถ้าคุณทำให้ผมโมโห พวกคุณทุกคนที่อยู่ที่นี่ก็ไม่มีทางหนีรอดไปได้ ไม่ต้องพูดถึงอาจารย์อะไรของคุณ แม้แต่บรรพบุรุษของคุณมาผมก็ไม่กลัว!”“ยังมีคุณ ผู้นำตระกูลถัง”หลูข่ายหยวนมองไปที่ถังเจี้ยนหยวนและพูดอย่างเย่อหยิ่ง:"ครั้งนี้ผมมาที่นี่ภายใต้คำสั่งของสำนักจิ่วเซียว เพื่อมาช่วยคุณฆ่าอีกาแห่งหนานไห่ แต่ถ้าคนบางคนบีบคั้นให้ผมโมโห ผมจะย้อนกลับมาช่วยอีกาแห่งหนานไห่ฆ่าพวกคุณแทน"“มันไม่ใช่ว่าเป็นไปไม่ได้”“พวกคุณลองคิดถึงผลที่จะตามมาอย่างรอบคอบ”คำพูดของหลูข่ายหยวนทำให้ถังเจี้ยนหยวนโกรธมากจนตัวสั่นไปทั้งตัวเขาถึงขั้นต้องการเรียกหน่วยลับของตระกูลถังออกมา เพื่อจับคนบ้าคลั่งเย่อหยิ่งและชอบข่มเหงผู้อื่นคนนี้ทันที“ผู้นำตระกูลถังอย่าโมโหขนาดนี้ ผมบอกแล้วว่าตราบใดที่คุณมอบคุณหนูถังให้ผม ให้ผมได้เล่นกับเธอครึ่งวัน”“ผมจะช่วยคุณจัดการกับนางอีกาแห่งหนานไห่แน่นอน พวกคุณไม่ได้ขาดทุนสักหน่อย ไม่แน่อีกสิบเดือน อาจมีลูกเพิ่มก็ได้ ฮ่าๆๆๆ...”หลูข่ายหยวนหัวเราะอย่างไร้ยางอาย“พอแล้ว!”ไท่สื่อทงตะโกนเสียงดัง ชี้ไปที่ถังหว่านแล้วพูดว่า:
“ฮ่าฮ่าฮ่า ผู้นำตระกูลถัง”เห็นไท่สื่อทงพูดไม่ออก หลูข่ายหยวนก็มองไปทางถังเจี้ยนหยวนด้วยความลำพองใจและพูดว่า:“ถ้าหากคุณให้นังหนูถังหว่าน...อ่อไม่สิครับ คุณหนูถังหว่านแต่งงานกับผม งั้นต่อไปพวกเราก็เป็นครอบครัวเดียวกันแล้วไม่ใช่เหรอ!”“เรื่องของตระกูลถังของพวกคุณก็ต้องเป็นเรื่องของผม”“งั้นเรื่องของผม ก็เป็นเรื่องของสำนักจิ่วสำนักจิ่วเซียว! พวกคุณคิดดู บัญชีนี้พวกคุณไม่ได้ขาดทุนนะ”ได้ยินคำพูดล่อลวงต่างๆ นานาของหลูข่ายหยวน ถังเจี้ยนหยวนยังไม่ทันได้พูด ถังหว่านก็ออกหน้าก่อนคำพูดกระชับรัดกุมของเธอ พูดออกมาแค่คำเดียว“ไสหัวไป!”คำว่าไสหัวไป ทำให้บรรยากาศที่รอบๆ แข็งทื่อทันที“เอ่อ..”หลูข่ายหยวนยิ้มอย่างเก้ๆ กังๆ จากนั้นจึงเอามือใหญ่ของเขาแนบข้างหูของตัวเอง แสร้งทำท่าทางเป็นฟังอย่างตั้งใจ“คุณถังหว่าน เมื่อครู่เหมือนว่าผมจะได้ยินสิ่งที่คุณพูดได้ไม่ชัดเจนนัก คุณพูดอีกครั้งสิครับ”“ฉันบอกว่าไสหัวไป!”ถังหว่านพูดซ้ำโดยไม่มีความเกรงใจสักนิด จากนั้นกอดอกด้วยท่าทางหยิ่งทะนงพูดอีกว่า:“นายคิดว่านายเป็นใครกัน สัตว์เดรัจฉานไร้การศึกษา ให้ฉันแต่งงานกับนาย นายก็คู่ควรด้วยเหรอ?!”ทันที
“เรื่องของอีกาแห่งเมืองหนานไห่ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น อีกไม่กี่วันอาจารย์กับอาจารย์อาจะเดินทางมาตามนัด”“ถ้าหากสหายหลูยังคงกู่ไม่กลับดังเดิม งั้นก็อย่าโทษที่ผมไม่เกรงใจคุณ!”คำพูดของไท่สื่อทงน้ำเสียงดุดันอย่างมากตอนที่เขาเอ่ยถึงอาจารย์กับอาจารย์อาของเขาขึ้นมา สีหน้าของหลูข่ายหยวนก็แย่ลงเล็กน้อยพูดตามตรงวันนี้ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ รวมทั้งไท่สื่อทงเขาไม่ได้กลัวใครเลยสักคนแต่มีเพียงอาจารย์กับอาจารย์อาที่ไท่สื่อทงเอ่ยถึง ทำให้เขาเกิดความหวาดลกัวเล็กน้อยในเมื่อสำนักที่อยู่ในเมืองหนานไห่ ยังไงก็ต้องมียอดฝีมือสองสามคนควบคุมสถานการณ์ถ้าหากเขามีเรื่องกับไท่สื่อทงที่นี่ งั้นไม่แน่รอให้อาจารย์กับอาจารย์ของไท่สื่อทงมา ก็จะเกิดปัญหาที่ไม่จำเป็นขึ้นมาคิดไปคิดมา หลู่ข่ายหยวนก็เข้าใจแล้วว่า จะบาดหมางกับไท่สื่อทงไมได้ดังนั้นเขาจึงโบกมือ เปลี่ยนสีหน้าเหมือนพลิกหนังสือ เผยเขี้ยวใหญ่ออกมาและยิ้มพูดว่า:“หึหึ สหายไท่สื่อทงพูดอะไรกัน?”“ผมหลูข่ายหยวนได้รับคำสั่งจากสำนักจิ่วเซียว ให้เดินทางมาตระกูลถังเพื่อจัดการอีกาแห่งเมืองหนานไห่ ไม่ได้มาเพื่อจัดการสหาย”เมื่อพูดจบ เขาก็มองไปทางถังเจี้ยน
ไอ้นี่มันชอบทำอะไรไร้ยางอายตลอดหากวันนี้เกิดความวุ่นวายที่นี่เพราะถังหว่าน แล้วหลินเฟิงจะนิ่งดูดายได้อย่างไร?เกรงว่าก่อนที่อีกาแห่งเมืองหนานไห่จะปรากฏตัวนั้น ตระกูลถังของเขาคงจะต้อนรับพายุเลือดซะก่อนสุดท้ายถ้อยคำที่แสนดีของถังเจี้ยนหยวนนั้นก็ไม่ได้รับการเคารพสักเท่าไหร่หลูข่ายหยวนทุบโต๊ะ พร้อมกับจ้องมองถังเจี้ยนหยวนอย่างดุดัน แล้วคำรามออกมาว่า :“ผู้นำตระกูลถัง ฉันมาที่นี่ด้วยความหวังดีที่จะช่วยตระกูลถังของพวกคุณจัดการกับเคราะห์ร้าย แล้วพวกคุณปฏิบัติกับแขกแบบนี้งั้นเหรอ?”“พวกคุณดูถูกสำนักจิ่วเซียวของฉัน หรือดูถูกฉันหลูข่ายหยวน?!”ขณะที่พูด เขาก็กระทืบเท้าอย่างแรงเก้าอี้ที่อยู่ห่างจากหลูข่ายหยวนสิบเมตรก็ระเบิดขึ้นทันที จนเศษชิ้นส่วนนั้นพุ่งออกมาจำนวนมาก ส่งผลให้คนอื่น ๆที่อยู่ในที่นั้นรู้สึกไม่ปลอดภัย“เชี่ย หลูข่ายหยวนนี่มันบ้าไปแล้วจริง ๆ กล้ามาอวดดีในอาณาเขตของตระกูลถังได้ขนาดนี้!”“หึหึ คุณก็ไม่รู้ใช่ไหม? ไอ้นั่นคงรู้ว่าตอนนี้ในตระกูลถังไม่มีคนที่แข็งแกร่งแล้ว เลยมาเพื่อที่จะข่มขู่ผู้นำตระกูลถัง”“น่ารังเกียจจริง ๆ”เสียงกระซิบที่ดังขึ้นโดยรอบ ไม่อาจรบกวนความตั้ง