เมื่อเห็นว่าจะต้านทานไม่ไหว หนิงเวยก็ลงมือทันทีแส้ยาวที่ราวกับงูพิษฟาดไปทางหวงเฮ่อต้อนเขาจนใช้ได้เพียงแค่ยกมีดมาขวางเอาไว้หนิงข่ายคว้าโอกาสไว้ทันทีแล้วเข้าไปหนุนกำลังใบหน้าที่ดุร้ายพูดขึ้น “แม่ง ฉันกับน้องสาวบำเพ็ญวิทยายุทธจนสำเร็จเป็นเทพ เป็นพวกนายกลุ่มนี้ที่ใส่ร้ายพวกเราจนถูกไล่ออกจากตระกูล”“ไม่เคารพต่อพระเจ้า สมควรถูกฆ่า”เมื่อเห็นท่าทางที่บ้าคลั่งของเขา หวงเฮ่อก็ว่าปัญญาอ่อนในใจทันใดนั้นเขากลับทิ้งมีดแล้วถอยหลังทันทีแต่การโจมตีของสองพี่น้องกลับไม่ลดลงเลยในมือของหวงเฮ่อไม่มีมีดแล้ว การต่อสู้แบบหนึ่งต่อสองจึงยากขึ้นไม่นานก็พลาดท่า ถูกทั้งสองคนเตะกลับมาทันที“หึ”สองพี่น้องหัวเราะเยาะและพูดอย่างเหยียดหยาม “ความสามารถแค่นี้ ก็กล้ามาอวดต่อหน้าพวกเราสองพี่น้องแล้วงั้นเหรอ?”ใบหน้าของหวงเฮ่อเปลี่ยนเป็นสีแดงเพราะเลือดลมสูบฉีด ตัวเองไม่สามารถสู้กับอีกฝ่ายตัวเดียวได้ เขาคิดไม่ถึงว่าตระกูลเซี่ยงจะมีปรมาจารย์ที่มากมายขนาดนี้ดูท่าว่าเพื่อล้างแค้นให้ลูกชายจะยากขึ้นไปอีกขั้นเมื่อคิดมาถึงตรงนี้เขาไม่เพียงแต่ตำหนิตัวเองเท่านั้นถังหว่านที่อยู่ข้าง ๆ คิดว่าปรมาจารย์ที่หล
“อ๊าก...” หนิงข่ายส่งเสียงออกมาอย่างน่าเวทนาพร้อมกับกริชที่หลุดออกจากมืออวัยวะภายในราวกับถูกรถบรรทุกชนอย่างแรง หน้าอกก็ยุบจนเป็นหลุม และกระเด็นออกไปเหมือนว่าวที่สายขาด“ตึง” เสียงดังขึ้น พร้อมกับร่างที่ล้มลงกับพื้นอย่างแรงเลือดไหลออกมาเต็มปาก“พี่ใหญ่” หนิงเวยที่เห็นพี่ชายของตันเองได้รับบาดเจ็บ ก็ตะโกนออกมาด้วยความโกรธ ก่อนจะจับแส้ที่เหลืออยู่อีกครึ่งไว้แน่นแล้วฟาดใส่เข้าที่หัวของหลินเฟิงหลินเฟิงไม่ได้มองเธอเลยสักนิด กลับยกมือขวาขึ้นและคว้าแส้ของหนิงเวยไว้ในทันทีหนิงเวยมองเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นก็ตกใจจนหน้าถอดสี ก่อนจะพยายามดึงแส้ยาวด้วยมือทั้งสองข้างแต่หลินเฟิงก็มั่นคงราวกับเป็นภูเขา ไม่ขยับเขยื่อน“คุณก็มีแรงแค่นี้งั้นเหรอ?”หลินเฟิงเยาะเย้ยด้วยความดูถูกเหยียดหยาม เมื่อพูดจบก็ออกแรงดึง พื้นที่ใต้เท้าของหนิงเวยรองรับน้ำหนักพละกำลังนี้ไม่ไหวจึงแตกออกเป็นเสี่ยง ๆทันที ทำให้เธอลืนไหลออกไปหลายเมตรและยิ่งเข้าใกล้หลินเฟิงมากขึ้นเรื่อย ๆ“นาย...ฉันจะสู้กับนายเอง” หนิงเวยมองเห็นพละกำลังที่ไม่สามารถเทียบกับหลินเฟิงได้ก็ไม่ดึงกับหลินเฟิงอีกต่อไป แล้วจะเหยียบใต้เท้าอย่างแรงคน
“ดี ดี ดี คุณไม่ทำให้ผมผิดหวังจริง ๆ”เซี่ยงหลงพูดคำว่าดีสามครั้ง ชื่นชมหลินเฟิงอย่างเกินความเป็นจริง: “ถ้าคุณตายเร็วเกินไปงั้นก็น่าเบื่อแย่”หลินเฟิงหันหน้ามาช้า ๆ จากนั้นมองไปทางเซี่ยงหลง ในฐานะปรมาจารย์ เขารู้ตั้งนานแล้วว่าเซี่ยงหลงต่างหากที่เป็นคนที่ความสามารถแข็งแกร่งที่สุดในห้องทำงานแห่งนี้แต่หลินเฟิงยังคงไม่เห็นเข้าอยู่ในสายตาจากนั้นชี้ไปที่เท้าของตัวเองช้า ๆ: “เห็นแก่ที่คุณลำบากบำเพ็ญตน คุกเข่าขอโทษถังหว่าน ผมจะพิจารณาไว้ชีวิตคุณไม่ให้ตาย”“ฮ่าฮ่าฮ่า...”เซี่ยงหลงกลับหัวเราะเสียงดัง: “ไอ้หนุ่ม นายกล้าใช้ให้ฉันคุกเข่าให้นายงั้นเหรอ?”โอวหยางชิ่งที่อยู่ด้านข้างหัวเราะเยาะ: “ครั้งที่แล้วคนที่กล้าพูดกับอาหลงแบบนี้ ถูกหั่นเป็นแปดชิ้นใหญ่ ๆ แล้ว”เซี่ยงหลงดึงเสื้อคลุมที่อยู่บนตัวออกทันที: “ไอ้หนุ่ม วันนี้ฉันจะให้นายได้เปิดโลกว่าอะไรที่เรียกว่าความสามารถของขั้นเทพ”“อะไรนะ? ความสามารถขั้นเทพ?” ฉินเซี่ยวเทียนได้ยินแบบนี้ก็ตกตะลึงอย่างมากเซี่ยงหลงคนนี้อายุยังไม่ถึงสามสิบหรอกมั้ง? แต่กลับถึงระดับขั้นเทพแล้ว?นี่มันอัจฉริยะระดับไหนกันนะ?เซี่ยงหลงตวาดด้วยความโมโห แล้วรวบรวม
วินาทีต่อมาหลินเฟิงปล่อยชี่แท้ออกมา ชี่แท้สีขาวบริสุทธิ์ไม่มีสิ่งปนเปื้อนใด ๆ แทบจะใกล้เคียงกับสีโปร่งใส อีกทั้งชี่แท้เกาะกลุ่มกันอยู่บนตัวของหลินเฟิง เหมือนกับเป็นเสื้อเกราะล่องหนเมื่อย้อนกลับมาดูชี่แท้ของเซี่ยงหลง ยุ่งเหยิงไม่เป็นระเบียบเทียบกับหลินเฟิงแล้วต่างกันเหมือนฟ้ากับดิน“นายก็อยู่ในขั้นเทพเหรอ?” เซี่ยงหลงตกตะลึงอย่างมาก ไม่กล้าเชื่อสายตาของตัวเองด้วยซ้ำหวงเฮ่อเห็นแบบนี้ก็ไม่อยากจะเชื่อ: “นี่...ชี่แท้ของหลินเฟิงบริสุทธิ์ถึงขั้นนี้เลยเหรอ?”“นี่เป็นไปไม่ได้ ฉันไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยว่ามีคนที่จะทำให้ชี่แท้บริสุทธิ์ได้ถึงขั้นนี้” ฉินเซี่ยวเทียนส่ายหน้าติดต่อกันแล้วคิดว่านี่มันเป็นไปไม่ได้คนทั่วไปทำไมได้จริง ๆ นั่นแหละ แต่หลินเฟิงเหยียบเข้าขั้นเทพสองครั้ง ชี่แท้บริสุทธิ์ทั้งสองครั้ง ก็ไม่ใช่ว่าเป็นไปไม่ได้มองดูหลินเฟิงควบคุมชี่แท้ได้อย่างดีเลิศ และชี่แท้ที่บริสุทธิ์ถึงขั้นนี้ เซี่ยงหลงเดือดเป็นฟืนเป็นไฟตั้งแต่เล็กเขาถูกเรียกว่าเป็นอัจฉริยะ เขาไม่เชื่อและไม่สามารถยอมรับได้ว่ามีคนแข็งแกร่งกว่าเขา“แม่ง วันนี้ฉันจะฆ่าแกให้ได้”เซี่ยงหลงในตอนนี้ไม่มีความใจเย็นเหมือนเมื
มองดูพี่ชายที่สุดยอดของเธอ กำลังวังชาของเธอที่ถูกหลินเฟิงทำลายก็ถูกโจมตีอีกครั้ง เธอไม่อยากที่จะเชื่อกับสถานการณ์ที่อยู่ตรงหน้าจริง ๆจากนั้นก็หนีออกไปอย่างบ้าคลั่งโอวหยางชิ่งมาขวางหน้าหลินเฟิงทันที และพูดตวาดออกมาอย่างดุดัน: “หยุดเดี๋ยวนี้” พอหลินเฟิงได้ยิน ก็ค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นมองคนผู้นี้: “คุณเป็นใครกันอีก?” “ฉันคือคู่หมั้นของเซี่ยงหลง คุณจะฆ่าเขาไม่ได้” โอวหยางชิ่งกล่าวด้วยโกรธออกมา“น่าขัน”หลินเฟิงหัวเราะอย่างเย็นชา: “เขามัดตัวเพื่อนของผม และยังจะให้ผมคุกเข่าขอโทษ ตอนนี้ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของผม ยังที่ฆ่าเขาไม่ได้?” “คุณคิดว่ากำลังเล่นเกมอยู่งั้นเหรอ?”โอวหยางชิ่งขมวดคิ้ว: “เซี่ยงหลงเป็นศิษย์เอกของสำนักเสินฉือ ถ้าคุณกล้าที่จะฆ่าเขา สำนักเสินฉือไม่ปล่อยคุณไว้แน่นอน” “ฮ่าฮ่าฮ่า……”หลินเฟิงหัวเราะออกมาเสียงดัง: “ก็แค่สำนักเสินฉือยังกล้าที่จะทำการอวดดีต่อหน้าผม ถึงแม้ว่าผู้นำของสำนักเสินฉือมาเองผมก็จะลงมือฆ่าอยู่ดี”“คุณ……”โอวหยางชิ่งคาดไม่ถึงว่าหลินเฟิงนั้นจะไม่เห็นสำนักเสินฉืออยู่ในสายตา“ไอ้สกุลหลิน วันนี้ฉันจะพูดไว้ตรงนี้ ถ้าคุณกล้าที่แตะต้องเซี่ยงหลง สำนักเสินฉือของ
“ทุกคนที่นี่ก็มีส่วนร่วม ทำไมถึงเอาคุณงามความดีไปวางไว้ที่บนหัวของเขา?” หลินเสวี่ยเยี่ยนดูถูกเหยียดหยามีกำพืดของหลินเฟิงท่านผู้นำตระกูลของครอบครัวตัวเองก็เอาแต่พูดว่าโชคดีเอาแต่พูดว่าผู้มีพระคุณอย่างมาก ไม่มีอะไรมากไปกว่าการพยายามจับคู่ให้ถังหว่านกับหลินเฟิงแล้วแต่นี้เป็นสิ่งที่เธอไม่อยากเห็นมากที่สุดได้ฟังคำพูดของหลินเสวี่ยเยี่ยน ถังว่านหลี่ก็หยุดไปชั่วครู่หวงเฮ่อ ฉินเซี่ยวเทียนและหลานเฟย กลับมีสีหน้าเก้กังสำหรับเรื่องในวันนี้ พวกเขาทั้งสามคนจะมีหรือไม่มีอยู่ก็ได้ ถ้าหากว่าไม่มีหลินเฟิง พวกเขาจะสามารถกลับมาได้ไหมก็ไม่แน่ถังอวิ๋นเฟิงพยักหน้าพูด: “อาสะใภ้รองพูดไม่ผิด คุณงามความดีนี้ไม่สามารถที่จะยกมอบให้กับหลินเฟิงได้”เขาหันหน้ากลับไปหาหลานเฟยแล้วพูดขึ้น: “หลานเฟย ลูกน้องของคุณละ?”หลานเฟยเม้มริมฝีปาก แล้วพูดด้วยความเจ็บปวด: “ตะ…ตายหมดแล้ว”ถังอวิ๋นเฟิงนั้นไม่ได้รู้สึกสงสารอะไรเลยกับพวกบอดี้การ์ดเหล่านั้นที่ตายไป จากนั้นพูดขึ้น: “คุณดูสิ ตระกูลถังของพวกเราได้เสียสละชีวิตไปตั้งกี่คน ถึงสามารถที่จะช่วยถังหว่านกลับมาได้”ฉินเซี่ยวเทียนและหวงเฮ่อได้ยินแบบนี้สีหน้าดูมีความอึ
ถังหว่านพยักหน้าติดต่อกันในตอนนี้หลินเสวี่ยเยี่ยนเอ่ยปากพูด: “ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นคุณก็พักที่นี่เถอะ เพื่อไม่ให้คนอื่นพูดว่าเราตระกูลถังไม่รู้จักรับแขก”“อิ๋งอิ๋ง วันนี้หนูก็นอนค้างที่นี่เถอะ”ฉินอิ๋งอึ้งชะงักงัน คิดไม่ถึงว่าตัวเองก็ถูกเชิญเช่นกัน: “ฮะ?”“อิ๋งอิ๋ง หนูไม่ได้นอนที่บ้านเรามานานแล้ว พอดีเลยคืนนี้หนูก็นอนห้องเดียวกับหว่านเอ๋อ หนูสองคนก็คุยพูดคุยกันเต็มที่” หลินเสวี่ยเยี่ยนยิ้มแล้วพูดขึ้นถังหว่านหมดคำจะพูด เธอยอมจริง ๆ กับคุณแม่ของเธอ กลัวตัวเองกับหลินเฟิงอยู่ใกล้กันขนาดนั้นเลยเหรอ?เผชิญหน้ากับการชักเชิญด้วยความเมตตาของตระกูลถัง หลินเฟิงและฉินอิ๋งไม่กล้าที่จะปฏิเสธเท่าไหร่ฉินอิ๋งกับถังหว่านนอนห้องเดียวกันหลินเฟิงถูกสองคนจัดแจงให้อยู่ชั้นล่างของทั้งสองคน อยู่ตรงข้างห้องของถังว่านหลี่และหลินเสวี่ยเยี่ยนแต่ได้ถูกป้องกันอย่างเข้มงวดจริง ๆตกช่วงเวลากลางคืนในช่วงกลางคืนนั้นถังหว่านเริ่มที่จะคลานลงจากเตียง สวมเพียงชุดนอนผ้าลินินเพียงตัวเดียวฉินอิ๋งที่อยู่ข้าง ๆ ก็ตกใจกับเธอเช่นกัน“พี่หว่านเอ๋อ จะไปไหน?”ถังหว่านหัวเราะ: “แน่นอนว่าไปหาหลินเฟิงน่ะสิ”“ฮะ?”
ถังหว่านกลอกตาไปมา: “ชิ”“แต่งงานกับคุณชายใหญ่ตระกูลหลงก็เป็นหน้าเป็นตาให้แม่แล้วเหรอ?”หลินเสวี่ยเยี่ยนพูดด้วยความเย็นชา: “ฉันไม่อยากที่จะสนทนาเรื่องนี้กับเธอ ไสหัวกลับไปนอนซะ”“รู้แล้ว” ถังหว่างพูดกลบเกลื่อนด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดจากนั้นก็หันหลังกลับขึ้นไปหลินเฟิงที่อยู่ภายในห้องหลับตาพักผ่อน นั่งขัดสมาธิอยู่ เขาได้ยินเสียงที่มาจากนอกห้องอย่างชัดเจนถังหว่านนี้คนนี้น่าตลกจริง ๆ......ในขณะเดียวกัน คฤหาสน์ของตระกูลเซี่ยงเซี่ยงตงเซิงคิดว่าวันนี้ตัวเองก็สามารถที่จะเอาตำรับยาปรับประสานพลังมาได้แล้วในเมื่อลูกชายของเขาออกโรง จะไม่ใช่เรื่องง่ายดายหรอกเหรอขณะที่เขานั่งอยู่ในห้องหนังสือเพื่อวางแผนอนาคตของตระกูล เซี่ยงจื่อหลานก็วิ่งโซซัดโซเซเข้าไป“จื่อหลาน? เรื่องเรียบร้อยแล้วเหรอ?” เซี่ยงตงเซิงเห็นลูกสาวของตัวเองกลับมาแล้ว จึงรีบถามขึ้นทเซี่ยงจื่อหลานกล่าวด้วยสีหน้าหวาดกลัว: “พ่อ เกิดเรื่องใหญ่แล้ว”เมื่อเห็นท่าทางหวาดกลัวของลูกสาวฉัน หัวใจของเซี่ยงตงเซิงก็กระตุกเล็กน้อย หรือว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นกับลูกชายของเขา?“ลูก มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น?”เซี่ยงจื่อหลานตัวสั่นไปทั้งตัว