ถังหว่านพยักหน้าติดต่อกันในตอนนี้หลินเสวี่ยเยี่ยนเอ่ยปากพูด: “ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นคุณก็พักที่นี่เถอะ เพื่อไม่ให้คนอื่นพูดว่าเราตระกูลถังไม่รู้จักรับแขก”“อิ๋งอิ๋ง วันนี้หนูก็นอนค้างที่นี่เถอะ”ฉินอิ๋งอึ้งชะงักงัน คิดไม่ถึงว่าตัวเองก็ถูกเชิญเช่นกัน: “ฮะ?”“อิ๋งอิ๋ง หนูไม่ได้นอนที่บ้านเรามานานแล้ว พอดีเลยคืนนี้หนูก็นอนห้องเดียวกับหว่านเอ๋อ หนูสองคนก็คุยพูดคุยกันเต็มที่” หลินเสวี่ยเยี่ยนยิ้มแล้วพูดขึ้นถังหว่านหมดคำจะพูด เธอยอมจริง ๆ กับคุณแม่ของเธอ กลัวตัวเองกับหลินเฟิงอยู่ใกล้กันขนาดนั้นเลยเหรอ?เผชิญหน้ากับการชักเชิญด้วยความเมตตาของตระกูลถัง หลินเฟิงและฉินอิ๋งไม่กล้าที่จะปฏิเสธเท่าไหร่ฉินอิ๋งกับถังหว่านนอนห้องเดียวกันหลินเฟิงถูกสองคนจัดแจงให้อยู่ชั้นล่างของทั้งสองคน อยู่ตรงข้างห้องของถังว่านหลี่และหลินเสวี่ยเยี่ยนแต่ได้ถูกป้องกันอย่างเข้มงวดจริง ๆตกช่วงเวลากลางคืนในช่วงกลางคืนนั้นถังหว่านเริ่มที่จะคลานลงจากเตียง สวมเพียงชุดนอนผ้าลินินเพียงตัวเดียวฉินอิ๋งที่อยู่ข้าง ๆ ก็ตกใจกับเธอเช่นกัน“พี่หว่านเอ๋อ จะไปไหน?”ถังหว่านหัวเราะ: “แน่นอนว่าไปหาหลินเฟิงน่ะสิ”“ฮะ?”
ถังหว่านกลอกตาไปมา: “ชิ”“แต่งงานกับคุณชายใหญ่ตระกูลหลงก็เป็นหน้าเป็นตาให้แม่แล้วเหรอ?”หลินเสวี่ยเยี่ยนพูดด้วยความเย็นชา: “ฉันไม่อยากที่จะสนทนาเรื่องนี้กับเธอ ไสหัวกลับไปนอนซะ”“รู้แล้ว” ถังหว่างพูดกลบเกลื่อนด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดจากนั้นก็หันหลังกลับขึ้นไปหลินเฟิงที่อยู่ภายในห้องหลับตาพักผ่อน นั่งขัดสมาธิอยู่ เขาได้ยินเสียงที่มาจากนอกห้องอย่างชัดเจนถังหว่านนี้คนนี้น่าตลกจริง ๆ......ในขณะเดียวกัน คฤหาสน์ของตระกูลเซี่ยงเซี่ยงตงเซิงคิดว่าวันนี้ตัวเองก็สามารถที่จะเอาตำรับยาปรับประสานพลังมาได้แล้วในเมื่อลูกชายของเขาออกโรง จะไม่ใช่เรื่องง่ายดายหรอกเหรอขณะที่เขานั่งอยู่ในห้องหนังสือเพื่อวางแผนอนาคตของตระกูล เซี่ยงจื่อหลานก็วิ่งโซซัดโซเซเข้าไป“จื่อหลาน? เรื่องเรียบร้อยแล้วเหรอ?” เซี่ยงตงเซิงเห็นลูกสาวของตัวเองกลับมาแล้ว จึงรีบถามขึ้นทเซี่ยงจื่อหลานกล่าวด้วยสีหน้าหวาดกลัว: “พ่อ เกิดเรื่องใหญ่แล้ว”เมื่อเห็นท่าทางหวาดกลัวของลูกสาวฉัน หัวใจของเซี่ยงตงเซิงก็กระตุกเล็กน้อย หรือว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นกับลูกชายของเขา?“ลูก มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น?”เซี่ยงจื่อหลานตัวสั่นไปทั้งตัว
ในตอนนี้เซี่ยงตงเซิงพูดว่า: “คุณหนูโอวหยาง หลงเอ๋อก็ถือได้ว่าเป็นคู่หมั้นของคุณ หรือว่าคุณจะมองดูอยู่เฉย ๆ ไม่แก้แค้นให้เขา”“ฉันพูดเมื่อไหร่ว่าจะไม่ให้คุณแก้แค้น แค้นของเซี่ยงหลงแน่นอนว่าจะฉันจะต้องแก้แค้น รอฉันรายงานคุณพ่อก่อน แล้วค่อยวางแผน”โอวหยางชิ่งพูดด้วยความเย็นชา: “ไม่ว่าจะยังไงเซี่ยงหลงก็เป็นสมาชิกของสำนักเสินฉือ ฉันจะไม่มีทางนั่งดูเฉย ๆ ไม่สนใจไม่ได้อยู่แล้ว”เซี่ยงตงเซิงได้ยินคำนี้ ถึงจะรู้สึกโล่งใจ หากมีความช่วยเหลือจากสำนักเสินฉือ โอกาสในการล้างแค้นให้ลูกชายก็เพิ่มขึ้นอย่างมากเช่นกัน“ดี ตระกูลเซี่ยงทั้งหมดจะคอยฟังคำสั่งจากคุณหนูโอวหยาง เพียงสามารถที่จะล้างแค้นให้กับลูกชายของผมได้ จะให้ผมทำอะไรก็ยอมทุกอย่าง”......เช้าวันรุ่งขึ้น หลินเฟิงก็บอกลาแต่เช้า ในเมื่อในตอนที่รับประทานอาหารเช้าก็ต้องดูสีหน้าของหลินเสวี่ยเยี่ยน เขาไม่สนใจที่จะอยู่ต่อจริง ๆถังว่านหลี่ถึงกับส่งหลินเฟิงเป็นการส่วนตัวถังหว่านยังนอนไม่ตื่นหลังจากกลิ้งไปกลิ้งมาค่อนคืนเมื่อวานนี้“สหายน้อยหลิน คุณอย่าใส่ใจกับภรรยาของผมเด็ดขาดนะ เธอเป็นคนหัวสูงนิดหน่อย แต่สหายน้อยหลิน คุณเป็นผู้มีพระคุณของผมถั
ในตอนนี้หลินเฟิงก้าวไปข้างหน้า เหลือบมองไปที่ผู้หญิงขายผักที่ศีรษะมีเลือดไหลโจวอวี้เฟิ่งหยุดชะงักแล้วด่าทอเสียงดังว่า: “นายกำลังจะทำอะไร?”หลินเฟิงจ้องมองเธออย่างเย็นชาและกล่าวว่า: “ผมเป็นหมอ”จากนั้นก็หันหน้ากลับไปหาผู้หญิงขายผักคนนั้น: “คุณนั่งลงอย่าขยับ ผมจะทำการหยุดเลือดให้กับคุณก่อน”โจวอวี้เฟิ่งเห็นแบบนี้ก็คว้าแขนของหลินเฟิงแล้วพูดขึ้น: “ในเมื่อคุณเป็นหมอ งั้นก็รีบมาดูอาการลูกสาวของฉัน”หลินเฟิงเหลือบมองไปเยว่หรูที่อยู่ตรงตำแหน่งข้างคนขับรถหลี่ ถึงแม้ว่าจะไม่ชอบแม่ลูกสองคนที่หยิ่งผยอง แต่เขาก็ยังใจเย็นและพูดว่า: “ลูกสาวคุณแค่แขนหลุด ไม่ได้เป็นอะไรมาก”คิดไม่ถึงว่าคำพูดนี้ของหลินเฟิงจะทำให้สองแม่ลูกหยุดและโมโหขึ้นมาทันที“อะไรที่เรียกว่าไม่ได้เป็นอะไรมาก ลูกสาวของฉันแขนหลุดน่ะ ยังไม่สาหัสอีกเหรอ?” โจวอวี้เฟิ่งตะคอกออกมาหลี่เยว่หรูที่ฝั่งตำแหน่งข้างคนขับก็ร้องไห้ไม่หยุด: “จริงด้วย แขนฉันหลุดแล้ว ปวดจะตายอยู่แล้ว คุณรีบที่จะรักษาให้ฉันสิ”หลินเฟิงความขมวดคิ้วพูด: “งั้นก็คุณคิดว่าอาการของลูกสาวของคุณ กับอาการของคุณผู้หญิงคนนี้ใครที่ดูสาหัสกว่า?”“เธอก็เป็นแค่ผู้หญิงขายผัก
ขยับเพียงเล็กน้อย หลี่เยว่หรูก็ทำหน้าบูดบึ้งด้วยความเจ็บปวดจากนั้นส่งเสียงออกมาอย่างทรมาน: “อ๊ะ……มือของฉัน มือของฉันอ๊ะ……”โจวอวี้เฟิ่งเห็นว่าลูกสาวของเธอนั้นร้องอย่างทรมาน ก็รีบมาดูทันที ก็รีบที่จะผลักจางเจียหนิงออกไปจางเจียหนิงล้มลงกับพื้นโจวอวี้เฟิ่งมองลูกสาวของตัวเองด้วยสีหน้ากังวล: “เยว่หรู ลูกไม่เป็นอะไรนะ?”“แม่ เจ็บจะตายอยู่แล้ว” หลี่เยว่หรูร้องไห้และตะโกนด้วยน้ำตาคลอเบ้าโจวอวี้เฟิ่งเห็นสภาพลูกสาวของตัวเองที่ดูน่าสงสาร ก็โมโหเป็นฟืนเป็นไฟขึ้นมาทันที จากนั้นก็ด่าทอจางเจียหนิงชุดใหญ่: “พวกแกนี่กินอะไรเป็นอาหารกัน?”“เธอเป็นหมอไม่ใช่เหรอ? ทำไมถึงมาทำให้ลูกสาวฉันเจ็บ?”จางเจียหนิงทําหน้าน้อยใจพูดว่า: “ฉันเพียงแค่จะต่อกระดูก การเจ็บปวดนั้นป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว”หลี่เยว่หรูร้องไห้ไม่หยุด: “แม่ หนูไม่ให้เธอรักษาแล้ว เจ็บจะตายอยู่แล้ว เจ็บจะตายอยู่แล้ว……”โจวอวี้เฟิ่งจ้องมองจางเจียหนิงด้วยความโมโหและพูดด่าทอ: “แกจะยืนโง่อยู่ทำไม? รีบมาขอโทษลูกของฉันสิ”“ฉัน……ฉันทำไมต้องขอโทษด้วย?”จางเจียหนิงตาแดงก่ำเล็กน้อย อีกนิดเดียวก็จะร้องไห้ออกมาโจวอวี้เฟิ่งตะโกนด่า: “แกนังสารเล
เห็นว่าตัวเองถูกฝูงชนโกรธ โจวอวี้เฟิ่งก็รีบที่ขึ้นรถหนีไปและก็ไม่กล้าเรียกร้องค่าชดเชยค่าซ่อมรถอะไรอีกจางเจียหนิงถอนหายใจยาวด้วยความโล่งอก และมองดูหลินเฟิง: “ต้องขอบคุณคุณหลินเฟิงจริง ๆ ”“ขอบคุณอะไรกันครับ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพวกเขานั้นมาจากไหน ทำให้ทุกคนโมโหก็สมควรแล้ว” หลินเฟิงหัวเราะและพูดออกมาผู้หญิงที่ขายผักก็เดินเข้ามาหาหลินเฟิงโค้งคํานับอย่างลึกซึ้ง: “พ่อหนุ่มน้อย วันนี้ขอบคุณมากจริง ๆ ถ้าหากว่าไม่ใช่คุณ ฉันก็ไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไรแล้ว”“คุณป้า ไม่เป็นไรครับ เป็นเรื่องเล็กน้อยเท่านั้น” หลินเฟิงพูดปลอบใจจางเจียหนิงที่อยู่ข้าง ๆ อารมณ์ก็ดีขึ้นเยอะ และยิ้มพูด: “คุณป้า คุณเข้าไปพักผ่อนที่สำนักไป๋เกาก่อนเถอะ”“ไม่ต้องแล้วไม่ต้องแล้ว……”คุณป้าโบกมือกล่าวว่า: “ฉันไม่ได้เป็นอะไรมากแล้ว อีกสักพักก็จะขายผักที่ตลาด”“พวกคุณนี้เป็นคนที่จิตใจดีงามจริง ๆ ขอให้พวกคุณคงอยู่ดีนานร้อยปี สุขภาพร่างกายแข็งแรง……”คุณป้าคิดว่าพวกเขาสองคนเป็นคู่รักกัน ในเมื่อชายหล่อสาวสวยดูเหมาะสมกัน“เอ่อ……”จางเจียหนิงพูดอะไรไม่ออกอยู่ครู่หนึ่ง เธอไปเป็นคู่รักกับหลินเฟิงตอนไหนอีกเมื่อส่งคุณป้ากลับไ
หลี่เยว่หรูที่นั่งอยู่ข้าง ๆ พูดว่า “แม่ แม่ต้องหาไอ้หมอนั่นให้เจอ กล้าที่จะดูถูกตระกูลหลี่ของเรา ฉันจะจัดการเขาอย่างงามเลย”จางกุ้ยหลานพอได้ยินก็รีบพูดว่า: “เยว่หรูวางใจ กล้าที่จะรังแกพวกคุณ ก็แปลว่าไม่ได้เห็นตระกูลหลี่ไว้ในสายตา ป้าจะล้างแค้นให้แน่นอน”โจวอวี้เฟิ่งมองไปที่จางกุ้ยหลานพูดว่า: “ตระกูลหลี่เจียงเป่ยของพวกคุณ มีอำนาจขนาดนั้นเลยเหรอ? ฉันคิดว่าผู้ชายคนนั้นค่อนข้างอวดดี คาดว่าน่าจะมีเส้นสายเล็กน้อย”จางกุ้ยหลานก็ไม่อยากที่จะโดนดูหมิ่น และหัวเราะพูดว่า : “ตระกูลหลี่ของเราก็มีสถานะที่แน่นอนในเจียงโจวเช่นกัน ฉันลืมบอกไป ตอนนี้ฮุ่ยหรานเริ่มร่วมมือกับตระกูลถังแล้ว”“ตระกูลถังในเมืองหลวง”“อ้อ? ดูเหมือนว่าพวกคุณก็ดูมีความสามารถเหมือนกันน่ะ”โจวอวี้เฟิ่งทําหน้าหยิ่งผยอง ไม่เคยเห็นตระกูลหลี่เจียงเป่ยอยู่ในสายตา“อ่อใช่ ฉันได้ยินมาว่ามีโสมมังกรอายุร้อยปีในตระกูลเถียนที่เจียงโจว เรื่องนี้พวกคุณรู้ไหม?”“ฉันเคยได้ยินเรื่องนี้แน่นอน” จางกุ้ยหลานพยักหน้าแต่สิ่งนี่มันเหมือนเป็นสมบัติล่ำค่าของตระกูลเก่าเถียนโจวอวี้เฟิ่งพูดออกมาว่า: “ฉันมาเจียงเป่ยครั้งนี้เพื่อรักษาเยว่หรูเป็นหลั
หลินเฟิงได้ยินแบบนี้มุมปากก็กระตุกเล็กน้อย: “ตระกูลถังเป็นบ้าไปแล้ว นี่ถือเป็นการเสียสละเพื่อการทำงานด้วย เสียแขนข้างหนึ่งก็ถูกปลดออกจากตำแหน่ง ยังต้องการที่จะฆ่าอีกเหรอ?”หลานเฟยได้ยินแบบนี้ก็กัดฟัน: “นั่นไม่ใช่ทั้งหมด แต่ถังอวิ๋นเฟิงบังคับให้ฉันทําตามเขา แต่ฉันไม่ยอม……จึงลงมือตีเขา……เขาจึงต้องการฆ่าฉัน”หลินเฟิงโกรธมากเมื่อได้ยินสิ่งนี้: “ถังอวิ๋นเฟิงเขาเป็นอะไรกันแน่”“ถังหว่านรู้เรื่องนี้ไหม?”“คุณถังยังไม่รู้เรื่องนี้ ฉันหนีมาที่นี่ ยังไม่ทันได้ติดต่อคุณถัง” หลานเฟยกล่าวหลินเฟิงพยักหน้า: “ผมรู้แล้ว คุณพักผ่อนให้ดีก่อน ต่อจากนี้ผมจะเป็นคนจัดการเอง”เขาอุ้มหลานเฟยไปที่โซฟาในตอนนี้ ลูกน้องของถังอวิ๋นเฟิงก็ตามมาทันแล้วพังประตูเข้ามาโดยตรงเมื่อเห็นหลานเฟย ทั้งสองคนก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก ในเมื่อคุณชายถังได้สั่งให้เอาตัวหลานเฟยกลับมาอย่างมีชีวิต ไม่งั้นตายก็ต้องมีศพให้เห็น“หลานเฟย กลับไปกับพวกเราตอนนี้ คุณชายถังอาจจะไว้ชีวิตคุณได้ หากคุณดื้อรั้นไม่ยอมเชื่อฟัง สุดท้ายก็มีแต่ทางเลือกที่จะต้องตายเท่านั้น”หลานเฟยอดทนต่อความเจ็บปวดสาหัสในช่องท้องอลัพูดว่า: “ฝันไปเถอะ แม้ว่าฉั