ในตอนนี้หลินเฟิงก้าวไปข้างหน้า เหลือบมองไปที่ผู้หญิงขายผักที่ศีรษะมีเลือดไหลโจวอวี้เฟิ่งหยุดชะงักแล้วด่าทอเสียงดังว่า: “นายกำลังจะทำอะไร?”หลินเฟิงจ้องมองเธออย่างเย็นชาและกล่าวว่า: “ผมเป็นหมอ”จากนั้นก็หันหน้ากลับไปหาผู้หญิงขายผักคนนั้น: “คุณนั่งลงอย่าขยับ ผมจะทำการหยุดเลือดให้กับคุณก่อน”โจวอวี้เฟิ่งเห็นแบบนี้ก็คว้าแขนของหลินเฟิงแล้วพูดขึ้น: “ในเมื่อคุณเป็นหมอ งั้นก็รีบมาดูอาการลูกสาวของฉัน”หลินเฟิงเหลือบมองไปเยว่หรูที่อยู่ตรงตำแหน่งข้างคนขับรถหลี่ ถึงแม้ว่าจะไม่ชอบแม่ลูกสองคนที่หยิ่งผยอง แต่เขาก็ยังใจเย็นและพูดว่า: “ลูกสาวคุณแค่แขนหลุด ไม่ได้เป็นอะไรมาก”คิดไม่ถึงว่าคำพูดนี้ของหลินเฟิงจะทำให้สองแม่ลูกหยุดและโมโหขึ้นมาทันที“อะไรที่เรียกว่าไม่ได้เป็นอะไรมาก ลูกสาวของฉันแขนหลุดน่ะ ยังไม่สาหัสอีกเหรอ?” โจวอวี้เฟิ่งตะคอกออกมาหลี่เยว่หรูที่ฝั่งตำแหน่งข้างคนขับก็ร้องไห้ไม่หยุด: “จริงด้วย แขนฉันหลุดแล้ว ปวดจะตายอยู่แล้ว คุณรีบที่จะรักษาให้ฉันสิ”หลินเฟิงความขมวดคิ้วพูด: “งั้นก็คุณคิดว่าอาการของลูกสาวของคุณ กับอาการของคุณผู้หญิงคนนี้ใครที่ดูสาหัสกว่า?”“เธอก็เป็นแค่ผู้หญิงขายผัก
ขยับเพียงเล็กน้อย หลี่เยว่หรูก็ทำหน้าบูดบึ้งด้วยความเจ็บปวดจากนั้นส่งเสียงออกมาอย่างทรมาน: “อ๊ะ……มือของฉัน มือของฉันอ๊ะ……”โจวอวี้เฟิ่งเห็นว่าลูกสาวของเธอนั้นร้องอย่างทรมาน ก็รีบมาดูทันที ก็รีบที่จะผลักจางเจียหนิงออกไปจางเจียหนิงล้มลงกับพื้นโจวอวี้เฟิ่งมองลูกสาวของตัวเองด้วยสีหน้ากังวล: “เยว่หรู ลูกไม่เป็นอะไรนะ?”“แม่ เจ็บจะตายอยู่แล้ว” หลี่เยว่หรูร้องไห้และตะโกนด้วยน้ำตาคลอเบ้าโจวอวี้เฟิ่งเห็นสภาพลูกสาวของตัวเองที่ดูน่าสงสาร ก็โมโหเป็นฟืนเป็นไฟขึ้นมาทันที จากนั้นก็ด่าทอจางเจียหนิงชุดใหญ่: “พวกแกนี่กินอะไรเป็นอาหารกัน?”“เธอเป็นหมอไม่ใช่เหรอ? ทำไมถึงมาทำให้ลูกสาวฉันเจ็บ?”จางเจียหนิงทําหน้าน้อยใจพูดว่า: “ฉันเพียงแค่จะต่อกระดูก การเจ็บปวดนั้นป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว”หลี่เยว่หรูร้องไห้ไม่หยุด: “แม่ หนูไม่ให้เธอรักษาแล้ว เจ็บจะตายอยู่แล้ว เจ็บจะตายอยู่แล้ว……”โจวอวี้เฟิ่งจ้องมองจางเจียหนิงด้วยความโมโหและพูดด่าทอ: “แกจะยืนโง่อยู่ทำไม? รีบมาขอโทษลูกของฉันสิ”“ฉัน……ฉันทำไมต้องขอโทษด้วย?”จางเจียหนิงตาแดงก่ำเล็กน้อย อีกนิดเดียวก็จะร้องไห้ออกมาโจวอวี้เฟิ่งตะโกนด่า: “แกนังสารเล
เห็นว่าตัวเองถูกฝูงชนโกรธ โจวอวี้เฟิ่งก็รีบที่ขึ้นรถหนีไปและก็ไม่กล้าเรียกร้องค่าชดเชยค่าซ่อมรถอะไรอีกจางเจียหนิงถอนหายใจยาวด้วยความโล่งอก และมองดูหลินเฟิง: “ต้องขอบคุณคุณหลินเฟิงจริง ๆ ”“ขอบคุณอะไรกันครับ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพวกเขานั้นมาจากไหน ทำให้ทุกคนโมโหก็สมควรแล้ว” หลินเฟิงหัวเราะและพูดออกมาผู้หญิงที่ขายผักก็เดินเข้ามาหาหลินเฟิงโค้งคํานับอย่างลึกซึ้ง: “พ่อหนุ่มน้อย วันนี้ขอบคุณมากจริง ๆ ถ้าหากว่าไม่ใช่คุณ ฉันก็ไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไรแล้ว”“คุณป้า ไม่เป็นไรครับ เป็นเรื่องเล็กน้อยเท่านั้น” หลินเฟิงพูดปลอบใจจางเจียหนิงที่อยู่ข้าง ๆ อารมณ์ก็ดีขึ้นเยอะ และยิ้มพูด: “คุณป้า คุณเข้าไปพักผ่อนที่สำนักไป๋เกาก่อนเถอะ”“ไม่ต้องแล้วไม่ต้องแล้ว……”คุณป้าโบกมือกล่าวว่า: “ฉันไม่ได้เป็นอะไรมากแล้ว อีกสักพักก็จะขายผักที่ตลาด”“พวกคุณนี้เป็นคนที่จิตใจดีงามจริง ๆ ขอให้พวกคุณคงอยู่ดีนานร้อยปี สุขภาพร่างกายแข็งแรง……”คุณป้าคิดว่าพวกเขาสองคนเป็นคู่รักกัน ในเมื่อชายหล่อสาวสวยดูเหมาะสมกัน“เอ่อ……”จางเจียหนิงพูดอะไรไม่ออกอยู่ครู่หนึ่ง เธอไปเป็นคู่รักกับหลินเฟิงตอนไหนอีกเมื่อส่งคุณป้ากลับไ
หลี่เยว่หรูที่นั่งอยู่ข้าง ๆ พูดว่า “แม่ แม่ต้องหาไอ้หมอนั่นให้เจอ กล้าที่จะดูถูกตระกูลหลี่ของเรา ฉันจะจัดการเขาอย่างงามเลย”จางกุ้ยหลานพอได้ยินก็รีบพูดว่า: “เยว่หรูวางใจ กล้าที่จะรังแกพวกคุณ ก็แปลว่าไม่ได้เห็นตระกูลหลี่ไว้ในสายตา ป้าจะล้างแค้นให้แน่นอน”โจวอวี้เฟิ่งมองไปที่จางกุ้ยหลานพูดว่า: “ตระกูลหลี่เจียงเป่ยของพวกคุณ มีอำนาจขนาดนั้นเลยเหรอ? ฉันคิดว่าผู้ชายคนนั้นค่อนข้างอวดดี คาดว่าน่าจะมีเส้นสายเล็กน้อย”จางกุ้ยหลานก็ไม่อยากที่จะโดนดูหมิ่น และหัวเราะพูดว่า : “ตระกูลหลี่ของเราก็มีสถานะที่แน่นอนในเจียงโจวเช่นกัน ฉันลืมบอกไป ตอนนี้ฮุ่ยหรานเริ่มร่วมมือกับตระกูลถังแล้ว”“ตระกูลถังในเมืองหลวง”“อ้อ? ดูเหมือนว่าพวกคุณก็ดูมีความสามารถเหมือนกันน่ะ”โจวอวี้เฟิ่งทําหน้าหยิ่งผยอง ไม่เคยเห็นตระกูลหลี่เจียงเป่ยอยู่ในสายตา“อ่อใช่ ฉันได้ยินมาว่ามีโสมมังกรอายุร้อยปีในตระกูลเถียนที่เจียงโจว เรื่องนี้พวกคุณรู้ไหม?”“ฉันเคยได้ยินเรื่องนี้แน่นอน” จางกุ้ยหลานพยักหน้าแต่สิ่งนี่มันเหมือนเป็นสมบัติล่ำค่าของตระกูลเก่าเถียนโจวอวี้เฟิ่งพูดออกมาว่า: “ฉันมาเจียงเป่ยครั้งนี้เพื่อรักษาเยว่หรูเป็นหลั
หลินเฟิงได้ยินแบบนี้มุมปากก็กระตุกเล็กน้อย: “ตระกูลถังเป็นบ้าไปแล้ว นี่ถือเป็นการเสียสละเพื่อการทำงานด้วย เสียแขนข้างหนึ่งก็ถูกปลดออกจากตำแหน่ง ยังต้องการที่จะฆ่าอีกเหรอ?”หลานเฟยได้ยินแบบนี้ก็กัดฟัน: “นั่นไม่ใช่ทั้งหมด แต่ถังอวิ๋นเฟิงบังคับให้ฉันทําตามเขา แต่ฉันไม่ยอม……จึงลงมือตีเขา……เขาจึงต้องการฆ่าฉัน”หลินเฟิงโกรธมากเมื่อได้ยินสิ่งนี้: “ถังอวิ๋นเฟิงเขาเป็นอะไรกันแน่”“ถังหว่านรู้เรื่องนี้ไหม?”“คุณถังยังไม่รู้เรื่องนี้ ฉันหนีมาที่นี่ ยังไม่ทันได้ติดต่อคุณถัง” หลานเฟยกล่าวหลินเฟิงพยักหน้า: “ผมรู้แล้ว คุณพักผ่อนให้ดีก่อน ต่อจากนี้ผมจะเป็นคนจัดการเอง”เขาอุ้มหลานเฟยไปที่โซฟาในตอนนี้ ลูกน้องของถังอวิ๋นเฟิงก็ตามมาทันแล้วพังประตูเข้ามาโดยตรงเมื่อเห็นหลานเฟย ทั้งสองคนก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก ในเมื่อคุณชายถังได้สั่งให้เอาตัวหลานเฟยกลับมาอย่างมีชีวิต ไม่งั้นตายก็ต้องมีศพให้เห็น“หลานเฟย กลับไปกับพวกเราตอนนี้ คุณชายถังอาจจะไว้ชีวิตคุณได้ หากคุณดื้อรั้นไม่ยอมเชื่อฟัง สุดท้ายก็มีแต่ทางเลือกที่จะต้องตายเท่านั้น”หลานเฟยอดทนต่อความเจ็บปวดสาหัสในช่องท้องอลัพูดว่า: “ฝันไปเถอะ แม้ว่าฉั
“คุณหลี่ ขอบคุณมาก คุณช่วยชีวิตฉันไว้อีกแล้ว” หลานเฟยกล่าวอย่างจริงใจหลินเฟิงในตอนนี้ได้พูดว่า: “คุณอย่าเพิ่งขยับ ผมจะโทรหาถังหว่าน ให้เธอมาจัดการกับปัญหา”“รบกวนด้วยค่ะ...”......ถังหว่านได้รับโทรศัพท์จากหลินเฟิง เมื่อได้ยินว่าถังอวิ๋นเฟิงทำเรื่องแบบนี้ก็ยิ่งโกรธหนักเข้าไปอีกเธอรีบขับรถไปที่คฤหาสน์อ่าวเทียนสุ่ยเมื่อได้เห็นถังหว่าน หลานเฟยยังคงประพฤติตนเหมือนเจ้านายและคนรับใช้อยู่: “คุณถัง”“ไม่ต้องทำแบบนี้ รีบลุกขึ้นมา” ถังหว่านก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วและช่วยพยุงหลานเฟยขึ้นมา“หัวหน้าหลาน คุณไม่ต้องกังวล เรื่องของวันนี้ ฉันจะต้องจัดการให้คุณแน่นอน”เธอจำเป็นต้องจัดการกับเรื่องนี้ให้ดี ไม่เช่นนั้นก็จะทำให้สูญเสียความเชื่อมั่นจากผู้อื่น ต่อไปใครจะกล้าทำงานให้ตระกูลถังอีก ที่สำคัญที่สุด เธอสามารถใช้เรื่องนี้ข่มถังอวิ๋นเฟิงไดอีก“ขอบคุณคุณหนู ฉันรู้ว่าตระกูลถังนั้นไม่มีทางที่จะละทิ้งฉัน” หลานเฟยกล่าวด้วยความซึ้งใจถังหว่านทำหน้าจริงจังพูดว่า: “มันก็ต้องแน่อยู่แล้ว อาการบาดเจ็บของคุณได้รับความเดือดร้อนจากการช่วยเหลือฉัน ทำไมฉันจะไม่สนใจล่ะ?”ถังหว่านพูดด้วยความรู้สึกที่แท
หลินเฟิงพยักหน้า เขาเปลี่ยนเสื้อคลุมเดินไปที่รถกับถังหว่านและเดินทางไปหาตระกูลเถียนตระกูลเถียนไม่ใช่ตระกูลใหญ่ในเจียงโจว เถียนอวี่คือผู้นำตระกูล ดำเนินกิจการบริษัทลงทุนถังหว่านได้มีการร่วมมือบุคคลเหล่านี้อยู่ก่อนแล้วด้วยในปีแรก ๆแม้ว่าคนของตระกูลเถียนจะมีจำนวนน้อยจนตอนนี้ตกต่ำ แต่อย่างไรเสียบรรพบุรุษก็ถือได้ว่าเป็นตระกูลใหญ่เช่นกันของล้ำค่าในตระกูลก็มีไม่น้อย โสมมังกรหัวก็ถือเป็นหนึ่งในนั้นเช่นกันถังหว่านที่อยู่ตำแหน่งข้างคนขับก็ได้มีการโทรหาเถียนอวี่โดยตรง“สวัสดี คุณเถียน ฉันถังหว่านเอง……ฮ่าฮ่า”ถังหว่านพูดไปด้วยหัวเราะไปด้วย ได้มีการทักทายเถียนอวี่ก่อนหนึ่งรอบ ถึงจะเริ่มเข้าหัวข้อที่จะพูด“คุณเถียน ไม่ทราบว่าคุณอยู่ที่บ้านไหม? วันนี้ฉันจะเข้าไปเยี่ยมเยียนคุณที่บ้านสักหน่อย”เถียนอวี่ที่อยู่อีกฝ่ายของโทรศัพท์ก็ตกตะลึงเมื่อได้ยินเสียงนี้ ตระกูลถังอยู่ที่เจียงโจวกำลังเป็นที่นิยมและเจริญรุ่งเรืองมากในตอนนี้ อยู่ ๆ ทำไมคุณหนูจากตระกูลถังนั้นถึงได้เป็ฯฝ่ายเชื้อเชิญเขาด้วยตัวเองละ?ถึงแม้จะเดาได้ว่าถังหว่านอาจจะมีเป้าหมายอะไรบางอย่าง แต่เขาก็ไม่สามารถที่จะปฏิเสธได้หลังจากค
หลินเฟิงขมวดคิ้ว และคิดว่าคุณนายเถียนนี่ช่างไม่มีมารยาทเอาซะเลยถังหว่านก็ยิ่งโกรธมากขึ้นไปอีก: “ผู้หญิงคนนี้ทำบ้าอะไรกัน? แบบนี้ก็ทำเหมือนว่าไม่ได้มองพวกเราสองคนอยู่ในสายตาสินะ?”หลินเฟิงสูดหายใจ แต่ก็ช่วยไม่ได้ ทั้งสองได้แต่ยืนรออยู่ที่ประตูอย่างโง่เขลาโชคดีในเวลานี้ เถียนอวี่ก็ได้ขับรถกลับมาประตูรถเปิดออกอย่างช้า ๆ เถียนอวี่สวมชุดสูทได้ลงมาจากรถเขาไม่รู้จักหลินเฟิง แต่รู้จักถังหว่านเขาทักทายเขาด้วยรอยยิ้มทันทีและพูดว่า: “คุณถัง พวกเราไม่เจอกันตั้งนานเลยนะครับ วันนี้ผมดีใจนะที่คุณมาหาตระกูลเถียนในวันนี้”“คุณเถียนก็พูดเกินไปแล้ว”เถียนอวี่ก็ได้สังเกตหลินเฟิงที่ยืนข้าง ๆ เขาพูดด้วยความอยากรู้อยากเห็นว่า: “ท่านนี้คือ?”ถังหว่านรีบที่จะแนะนำ: “ท่านนี้คือหลินเฟิง ตอนนี้รับหน้าที่เป็นที่ปรึกษาบริษัทเภสัชกรรมเชิงถัง และก็เป็นผู้ถือหุ้นส่วนบริษัทเภสัชกรรมเชิงถัง”เถียนอวี่รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยในช่วงแรกที่ถังหว่านนั้นป่วย สองคนนี้ก็ได้มีการร่วมมือกัน เถียนอวี่ได้มีการยอมรับความสามารถของถังหว่านเป็นอย่างมากคนที่ถังหว่านชื่นชอบ แน่นอนว่าจะต้องมีความสามารถ“เป็นเกียรติที่ได