“เอาเป็นว่าฉันไม่ค่อยเข้าใจ บอกว่าภายในสำนักร้อยพิษสร้างทักษะการเร่งสุกอะไรสักอย่าง ผลปรากฏว่าแม่ของฉันก็คือหนึ่งในผลงานทดลองของพวกเธอ”“ส่วนเลือดของฉัน ก็คือสมบัติที่แม่ของฉันทิ้งไว้ให้ฉัน มีผลในการเร่งสุกวัตถุดิบยา”พูดถึงตรงนี้ อวี๋จื่อเสวียนน้ำเสียงผ่อนคลายพูดว่า:“พูดตามตรงนะ อาจารย์หลิน ตั้งแต่เล็กพ่อของฉันปกป้องฉันได้ดีมากๆ ฉันกลับไม่เคยรู้มาก่อนว่าเลือดของฉันจะมีผลลัพธ์แบบนี้“แน่นอนว่า ฉันก็ไม่แน่ใจว่ามีผลจริงหรือเปล่า นี่คือเรื่องที่พ่อบอกกับฉัน”“......”ได้ยินอวี๋จื่อเสวียนพูดเยอะขนาดนี้ในครั้งเดียวหลินเฟิงถึงได้เข้าใจแล้วว่าทำไมตอนนั้นอาอวี๋ถึงได้ปกป้องอวี๋จื่อเสวียนได้ใส่ใจขนาดนี้ ส่วนภายในของอวี๋จื่อเสวียมีตราสัญลักาณ์บู๊ได้อย่างไรแต่เมื่อคิดดูแล้ว หลินเฟิงก็ยังส่ายหน้าปฏิเสธ“จื่อเสวียน ฉันเข้าใจความหมายของเธอ แต่ตอนนี้ฉันมีสมุนไพรที่ได้รับมาเพียงพอแล้ว เธอไม่ต้อง ไม่ต้องเป็นห่วง“ดังนั้น...”ไม่รอให้หลินเฟิงพูดจบ อวี๋จื่อเสวียนก็หยิบมีดด้ามเล็กขึ้นมา ทิ่มไปที่นิ้วมือของตัวเอง หยุดเลือดแดงสดไหลออกมาจากปลายนิ้วมือของเธอทันที“เธอ...”ดูสีหน้าฝืนใจของเด็กค
แต่หลังจากที่หลินเฟิงผสมเลือดของอวี๋จื่อเสวียนเข้าไปหนึ่งหยดน้ำยาที่ผสมกันออกมาแล้วถึงแม้ไม่มีความเปลี่ยนแปลงอย่างอื่น แต่อายุที่ตกตะกอนกลับเพิ่มมากขึ้นจนน่าหวาดกลัวน้ำยาที่ผสมกันออกมาเหมือนกับหลินเฟิงใช้ยาสมุนไพรห้าร้อยปีกลั่นออกมา ประสิทธิภาพดีกว่ายาที่หลินเฟิงกลั่นออกมาเมื่อครั้งที่แล้วอีก สามารถพูดได้ว่ามีแต่เพิ่งไม่มีลดน้อยลง!ต่อให้หลินเฟิงดื่มเข้าไปเอง ก็ทำให้พลังชี่แท้ภายในร่างกายแข็งแกร่งขึ้น ความสามารถเพิ่มขึ้นเป็นกอง!“นี่มัน...”หลินเฟิงนิ่งอึ้งอยู่ที่เดิม ไม่สามารถสงบจิตใจได้เป็นเวลานานประสิทธิภาพของเลือดอวี๋จื่อเสวียนนั้นน่ากลัวเกินไปแล้ว ตัวเธอเป็นเหมือนกับยาอายุวัฒนะทที่เดินได้เชียวนะไม่น่าแปลกใจที่อาอวี๋ปกป้องอวี๋จื่อเสวียนจนถึงขั้นนี้ถึงขั้นที่แม้แต่เขาก็ยังต้องป้องกันเอาไว้นี่ถ้าหากถูกสำนักร้อยพิษรู้จัก อวี๋จื่อเสวียนก็จบเห่แล้ว!จุดจบของเธอเกรงว่าคงต้องถูกขับตลอดชีวิต กลายเป็นทาสเลือดของสำนักร้อยพิษคิดถึงตรงนี้ ในที่สุดหัวใจที่บีบรัดจากความเครียดก็ผ่อนคลายลงมีเลือดขวดเล็กนี้ที่อวี๋จื่อเสวียนให้มา ไม่เพียงเขาสามารถนำยาทั้งหมดกลั่นออกมาได้สำเร็จ
หลิ่วเยว่ฟางก็อดทนไม่ไหวแล้ว จึงบ่นพึมพำกับสามีอย่างไม่พอใจ“หึ ฉันให้พวกเขาสองคนเลี้ยงดูฉันจนแก่ตายงั้นเหรอ? งั้นฉันไม่สู้ไปหาหมาข้างถนนเลี้ยงดูฉันจนแก่ตายซะดีกว่าอีก!”นายท่านอารมณ์ฉุนเฉียว ด่าทอขึ้นมาโดยตรง:“คุณดูสวะสองตัวนี้ ตอนนั้นที่จากไปฉันให้เงินพวกเขาไปเท่าไหร่? บอกว่าจะดิ้นรนจนได้ดิบได้ดี“คุณดูสิ ตอนนี้ไม่ได้ใช้ชีวิตเป็นผู้เป็นคน กลับกันนั้นยิ่งอยู่ยิ่งเลวขึ้น!”“พ่อ พ่อพูดแบบนี้ก็เกินไปหน่อยแล้ว”หลี่อิงเฉิงขมวดคิ้วเถียงกลับ“ฉันพูดเกินเหตุไป?”นายท่านหลี่ไห่หงถูกทำให้โมโหจนหัวเราะออกมา เขาตบโต๊ะ พูดเสียงดัง:“ได้ งั้นฉันถามพวกนายสิ ตอนนั้นพวกนายบอกว่าจะออกไปพัฒนาตัวเอง ฉันให้เงินทุนพวกนายไปคนละสองพันห้าร้อยล้านบาท ตอนนี้ล่ะ?”“พวกนายบอกสิ่งที่พวกนายทำในหลายปีมานี้ รายงานให้ฉันฟังสิ”“ถ้าหากพวกนายทำให้ฉันพอใจได้ ฉันก็จะด่าตัวเองว่าเป็นสวะ เป็นคนตาบอด พอใจไหม?”ได้ยินพ่อของตัวเองพูดแบบนี้ หลี่ก่วงเฉิงกับหลี่อิงเฉิงต่างก็ก้มหน้าลง ตกอยู่ในความเก้กัง ไม่กล้าตอบกลับเพราะว่าเงินทุนยี่สิบห้าล้านบาทที่พ่อให้พวกเขา ถูกพวกเขาล้างผลาญไปหมดแล้วครั้งนี้กลับมา ก็เป็นเพร
งานเลี้ยงอาหารค่ำสุดแสนวิเศษกลายเป็นแบบนี้ตอนที่นายท่านหลี่ไห่เจียงกำลังจะด่าคน แต่ทว่าหลี่ฮุ่ยหรานกลับลุกขึ้นยืนโดยตรงเธอหยิบแก้วไวน์ขึ้นมา ก่อนจะพูดด้วยแววตาที่ภาคภูมิใจว่า:“อาอิงเฉิง อาก่วงเฉิง ฉันเข้าใจที่พวกคุณไม่เชื่อในความสามารถที่แข็งแกร่งของคนอื่น ในเมื่อพวกคุณไม่มีความสามารถ เพราะงั้นจึงรู้สึกว่าคนอื่นไม่มีความสามารถเช่นเดียวกับพวกคุณ”“ฉันยอมรับว่าที่ฉันมีทุกอย่างในวันนี้ ทั้งหมดล้วนยืมชื่อเสียงของหลินเฟิง สามีของฉันมาไม่น้อย แต่ต่อให้ไม่มีหลินเฟิง ฉันหลี่ฮุ่ยหรานก็ไม่อาจเป็นเหมือนกับพวกคุณได้ ที่เต็มใจใช้ชีวิตอย่างไร้สาระและไม่มีความสำเร็จอะไร”“ผลาญเงินที่ปู่ให้ จากนั้นก็กลับมาด้วยความสิ้นหวัง”เมื่อได้ยินคำพูดดูถูกที่วิจารณ์พวกเขาของหลี่ฮุ่ยหราน ท่าทางของชายวัยกลางคนทั้งสองก็ดูแย่มากในทันที“ถึงแม้ว่าฉันจะเป็นผู้หญิง แต่ความละอายในใจของฉันก็ยังมีมากกว่าของพวกคุณ อย่างน้อยฉันดีไม่พอ ก็ไม่สามารถพูดประเมินค่าคนอื่นต่ำๆ ได้”“ถึงขั้นการกล่าวหาเรื่องส่วนตัว”จากนั้นหลี่ฮุ่ยหรานก็มองไปที่หลี่เยว่หรูที่อยู่ไกล ๆก่อนจะพูดอย่างใจเย็นว่า“เยว่หรู ก่อนหน้านี้พวกเราไปดูง
“เยว่หรู เธอก็ไม่ถูกชะตากับหลี่ฮุ่ยหรานใช่ไหม?”เมื่อหลี่ก่วงเฉิงกับหลี่อิงเฉิงเห็นหลี่เยว่หรู ไม่เพียงแต่จะไม่หลีกเลี่ยงเท่านั้น แต่หลี่ก่วงเฉิงยังเข้ามาถามใกล้ ๆอย่างตรงไปตรงมา“ใช่แล้ว”หลังจากตะลึงงันไปชั่วครู่หลี่เยว่หรูก็แสดงท่าทางการกัดฟันออกมาเธอถูกหลี่ฉุ่ยหรานข่มมาโดยตลอด เมื่อนึกถึงรูปลักษณ์ที่เย่อหยิ่งของหลี่ฮุ่ยหรานในคืนนี้ ความไม่พอใจต่อหลี่ฮุ่ยหรานในใจของเธอก็ถึงระดับวิกฤติซะแล้วขาดแค่โอกาศที่จะระเบิดออกมาหลี่อิงเฉิงกับหลี่ก่วงเฉิงมองหน้ากัน พวกเขาทั้งคู่มองเห็นความยินดีในแววตาของกันและกันคิดแบบไหนก็ได้แบบนั้นจริงๆ พวกเขาที่เพิ่งจะพูดคุยถึงวิธีจัดการหลี่ฮุ่ยหราน แต่ก็ยังขาดจุดสำคัญที่สุดอยู่ นั่นก็คือจะทำยังไงถึงจะนัดให้หลี่ฮุ่ยหรานออกมาตราบใดที่หลี่ฮุ่ยหราน “หายไป” ฟาร์มแห่งนี้ก็จะตกเป็นพวกเขาสองพี่น้องในที่สุดจริง ๆแล้วพวกเขาอยากได้ที่ดินนี้มาตั้งนานแล้วอันที่จริงพวกเขาก็แอบไม่พอใจพ่อของตัวเองมาตลอด ถ้าหากหลี่ไห่เจียงยอมอ่อนข้อให้เร็วกว่านี้ แล้วมอบที่ดินนี้กับพวกเขาพวกเขาจะใช้เงินที่หลี่ไห่เจียงมอบให้ไปเปิดโรงงานไม่ว่าจะพูดยังไงก็คงไม่มีทางมี
“แม้ว่าพวกเราจะไม่สามารถเป็นผู้นำได้ ให้เยว่หรูมาเป็น ก็ดีกว่าหลี่ฮุ่ยหรานตั้งเยอะ!”หลี่ก่วงเฉิงพูดส่งเสริม“ใช่ ๆเยว่หรู เธอก็เป็นหนึ่งในตัวเลือกผู้นำตระกูล แถมยังได้รับการสนับสนุนจากย่ารองของเธอด้วย ไม่ด้อยไปกว่าหลี่ฮุ่ยหราน ถ้าหากหลี่ฮุ่ยหรานหายไปแบบนี้แล้วละก็....”หลี่อิงเฉิงหรี่ตา และแสดงท่าทางที่รู้กันออกมา“งั้นฉันก็จะได้เป็นผู้นำแล้ว....”หลี่เยว่หรูพึมพำกับตัวเอง จากนั้นดวงตาก็เปล่งประกายอย่างมาก ก่อนที่จะยิ้มออกมาอย่างภาคภูมิใจ“ใช่แล้ว เยว่หรู เธอก็จะได้เป็นผู้นำตระกูลหลี่เมืองเจียงหนานของพวกเราแล้ว!”หลี่ก่วงเฉิงพยักหน้าอย่างเด็ดเดี่ยว“ฉัน ยังมีอาอิงเฉิงของเธอที่ต่างก็สนับสนุนเธอด้วย!”“ใช่แล้วเยว่หรู ตราบใดที่กำจัดหลี่ฮุ่ยหรานได้ ตระกูลหลี่ก็จะสามารถคืนกลับมาอยู่ในมือของตระกูลหลี่เมืองเจียงหนานของพวกเราอีกครั้ง!”หลี่อิงเฉิงเอาแต่พูดหลอกให้หลี่เยว่หรูลุ่มหลงมัวเมาแต่จริง ๆแล้วทั้งสองคนคิดมากเกินไปแล้วหลี่เยว่หรูที่อยากจะจัดการกับหลี่ฮุ่ยหรานที่ไม่ใช่หนึ่งหรือสองวัน เพียงแต่เธอไม่ได้หาโอกาส เพราะอย่างนั้นจึงอยู่เฉย ๆ มาโดยตลอดในเวลานี้คุณอาทั้งสองได้ให้โอ
หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง หลี่เยว่หรูโทรศัพท์ไปหาอารองกับอาสามของตัวเอง“ฉันเรียกเธอมาแล้ว พวกคุณรออยู่ระหว่างทางก็ได้แล้ว”“ไม่ได้หรอก”หลี่ก่วงเฉิงที่อยู่ในโทรศัพท์ยิ้มพูด: “เยว่หรู งานสกปรกแบบนี้เธอจะให้พวกเราทำ ส่วนเธอกลับไม่ทำอะไรสักนิดไม่ได้หรอกนะ?”ได้ยินคำพูดของหลี่ก่วงเฉิง หลี่เยว่หรูขมวดคิ้ว“อาสาม คุณหมายความว่ายังไง?”“ไม่ได้หมายความว่ายังไง”หลี่ก่วงเฉิงหัวเราะร่าอยู่ในโทรศัพท์และพูดว่า:“วางใจได้ เพียงแค่ให้เธอมาด้วยกันกับพวกเรา ไม่จำเป็นต้องให้เธอทำอะไร เธอเพียงแค่ไปด้วยกันกับพวกเราก็พอแล้ว”“ในเมื่อพวกเราก็กลัวเธอหักหลัง นำเรื่องนี้ไปบอกปู่ของเธอ เธอว่าใช่ไหมล่ะ?”หลี่เยว่หรูนิ่งอึ้งครู่หนึ่งเธอเข้าใจความหมายของอาสามในทันทีความหมายก็คือให้เธอไปเปิดเผยโฉมหน้าเช่นกันทุกคนทำเรื่องนี้ด้วยกัน ถึงเวลาหลี่เยว่หรูก็คือมดบนเชือกเส้นเดียวกับพวกเขาแบบนี้หลี่ฮุ่ยหรานก็หักหลังไม่ได้แล้วคิดถึงตรงนี้ หลี่เยว่หรูรู้สึกโล่งใจเธอยังคิดว่าอาสามจะให้เธอลงมือกำจัดหลี่ฮุ่ยหรานซะอีกแต่ว่าได้เห็นหลี่ฮุ่ยหรานตายไปต่อหน้าตัวเอง หรือว่าเห็นเธอขอความเมตตาต่อตัวเอง เรื่องแบบ
“พวกคุณจะทำอะไร?!”หลี่ฮุ่ยหรานถอยหลังไปหนึ่งก้าว พิงประตูรถของตัวเอง มองสมุนกับอาทั้งสองคนที่อยู่โดยรอบด้วยความระแวดระวัง“เธอว่าพวกเราจะทำอะไรล่ะ?”หลี่อิงเฉิงขยับเข้ามา เคาะกระบองเหล็กที่อยู่ในมือ ส่ายหน้าด้วยท่าทางค่อนข้างเสียดายและพูดว่า:“ไม่เลวไม่เลว หลี่ฮุ่หยราน ดูแบบนี้แล้ว เธอเป็นคนสวยระดับประเทศเลยก็ว่าได้ ต้องฆ่าเธอไปทั้งแบบนี้ เหมือนว่าจะสิ้นเปลืองไปหน่อย”“พี่อิง ไม่สู้ให้สหายทั้งหลายได้ฟินกันก่อนไหม?”พวกสมุนที่อยู่รอบๆ ส่งเสียงหัวเราะที่หยาบคายออกมา“หึหึหึ...”หลี่อิงเฉิงมองไปทางหลี่ฮุ่ยหราน และฉีกยิ้มพูดว่า:“หลี่ฮุ่ยหราน คำพูดที่เธอด่าฉันเมื่อตอนค่ำ ฉันจำได้ทุกคำพูดทุกประโยคเชียวนะ!”“ตอนนี้ เธอควรจะขอโทษฉันแล้วไหม? หือ?”หลี่อิงเฉิงขยับเข้ามาใกล้ กระบองเหล็กในมือชี้ไปทางใบหน้าของหลี่ฮุ่ยหราน จากนั้นแสยะยิ้มและพูดข่มขู่ค่ำคืนไร้จันทร์มีลมพัดแรง สถานที่ไร้ผู้คน โอกาสดีที่จะฆ่าคนฝังศพแต่ใครก็คิดไม่ถึงว่าหลี่ฮุ่ยหรานไม่ได้หวาดกลัวด้วยซ้ำ กลับพูดด้วยเสียงเย็นชาว่า:“ขอโทษงั้นเหรอ? ต้องขออภัยด้วย การกระทำของพวกคุณคู่ควรกับคำว่าสัตว์เดียรัจฉานทั้งสองตัวการป
ได้ยินการวิเคราะห์ของหลินเฟิง เฝิงเอ้อกับเฝิงชางถลึงตาโตทันที“เฝิงหลี?!”หรือว่าเมื่อครู่เฝิงหลีถือโอกาสตอนที่พวกเขาไม่ได้สังเกต วางยาพิษเฝิงอวี้อู่เป็นครั้งที่สองงั้นเหรอ?!ดังนั้นหลังจากที่หมอเทวดาเลี่ยวเพิ่งรักษาจนดีขึ้นเล็กน้อย ก็ได้อาการหนักขึ้นทันที ?“ไอ้สารเลว ผมจะไปจับตัวเขามาถามเดี๋ยวนี้!”เฝิงเอ้ออารมณ์ร้อน ตะโกนเสียงดังด้วยความโมโหทันที“หยุดก่อน!”เฝิงชางกลับตะโกนเสียงดัง จ้องมองเฝิงเอ้อแล้วพูดว่า:“หรือว่านายอยากให้ตระกูลเฝิงของเราตายงั้นเหรอ?”“ไม่พูดก่อนว่านี่เป็นคำพูดของไอ้หมอนี่ฝ่ายเดียว ต่อให้ไอ้หนุ่มคนนี้พูดจริง หรือว่าพวกเราจะแตกหักกับเฝิงหลีจริงๆ งั้นเหรอ?!”“ถ้าหากไอ้หมอนี่รักษาไม่หาย งั้นพวกเราตระกูลเฝิงจะทำยังไง?!”เผชิญหน้ากับการสอบถามของเฝิงชาง เฝิงเอ้อนิ่งอึ้งอยู่เป็นเวลานาน สุดท้ายก็โมโหจนทรุดนั่งลงกับพื้น“แม่งเอ๊ย แบนี้ก็ไม่ได้ แบบนั้นก็ไม่ได้ ทำให้ผมโมโหตายไปเลยเถอะ!”เมื่อเห็นว่าน้องรองของตัวเองโมโหขนาดนี้ เฝิงชางก็รู้สึกเชื่อความสามารถของหลินเฟิงขึ้นมาเล็กน้อย เขาจึงรีบถามว่า:“หลินเฟิง ถ้าหากคุณสามารถรักษาอวี้อู่กับหมอเทวดาเลี่ยวจนหายได
เลี่ยวจื้อหมิงอายุเยอะขนาดนี้ ถูกพวกเขาทำแบบนี้ ยังไงก็ต้องอายุสั้นลงสองปี“หลินเฟิง ผมเตือนคุณว่าทางที่ดีอย่างวู่วาม”“ยาพิษนี้แม้แต่หมอเทวดาเลี่ยวก็โดนโดยที่ไม่ระวัง ทางที่ดีนายช่างใจให้ดีเฝิงชางสีหน้าเย็นชา“หึ ไม่ฟังคำเตือนของผม ตอนนี้เสนอตัวออกมาแสร้งเป็นคนดีงั้นเหรอ?”หลินเฟิงไม่ได้มีความรู้สึกดีๆ อะไรต่อผู้นำตระกูลเฝิง เขาสามารถอยู่ที่นี่ได้ เป็นเพราะผลประโยชน์ล้วนๆ“เพียงแค่ผมช่วยเฝิงอวี้อู่ให้รอดได้ คุณก็จะบอกข่าวของหยินหลิงให้กับผมใช่ไหม?”“หยินหลิง?”ผู้นำตระกูลเฝิงนิ่งอึ้ง“ผู้นำตระกูล หยินหลิงก็คือชื่อของผู้นำตระกูลกลุ่มพันธมิตรบู๊”เฝิงเอ้อที่อยู่ข้างๆ รีบพูดขึ้น“......”สีหน้าของเฝิงชางอึดอัดเล็กน้อย ในเมื่อเมื่อครู่เขาบอกตำแหน่งของหัวหน้ากลุ่มพันธมิตรบู๊ไปแล้ว อยู่ที่เรือนด้านหลังของตระกูลเฝิงของพวกเขาคราวนี้ หัวหน้ากลุ่มพันธมิตรบู๊น่าจะถูกเขาพาตัวไปแล้วเป้าหมายก็เพื่อมอบให้กับผู้อาวุโสของสำนักร้อยพิษต่อให้เป็นแบบนี้ เฝิงชางพยักหน้าพูดว่า:“แต่ตอนนี้บวกกับหมอเทวดาเลี่ยว ในเมื่อคุณสามารถช่วยลูกชายของผมให้รอดได้ งั้นก็ช่วยหมอเทวดาเลี่ยวด้วยคงไม่ยากใช่
“เร็ว! น้องรอง อย่ามัวแต่ยืนอยู่ รีบไปเชิญอาจารย์ของหมอเทวดาเลี่ยว!”“พี่ใหญ่ อาจารย์ของหมอเทวดาเลี่ยวเป็นยอดฝีมือคนไหนกัน เขาไม่ได้พูด พวกเราจะรู้ได้ยังไง?!”เฝิงเอ้อที่ยืนอยู่ตรงประตูก็งุนงงเช่นเดียวกันหมอเทวดาลั่วตายอยู่ที่ตระกูลเฝิงของพวกเขา เรื่องนี้ก็เป็นเรื่องใหญ่แล้วเฝิงเอ้อรู้ดีเช่นกัน“พี่ใหญ่ เรื่องมาจนถึงตอนนี้แล้ว พี่มอบตัวหัวหน้ากลุ่มพันธมิตรออกมาอย่างว่าง่ายดีกว่า แบบนี้ผมยังสามารถขอร้องให้ผู้อาวุโสของสำนักร้อยพิษถอนพิษให้ได้ ไม่อย่างนั้น จะไม่ทันการณ์แล้วจริงๆ!”เฝิงหลีใช้โอกาสให้เป็นประโยชน์“ได้...ฉันมอบตัวให้! ฉันมอบให้!”เฝิงชางร้อนใจแล้ว ถ้าหากแค่ลูกชายของเขา งั้นเขายังสามารถสงบสติเลือกที่จะรับหรือไม่รับได้ และคิดถึงอนาคตของตระกูลแต่ชีวิตของหมอเทวดาเลี่ยงกลับไม่สามารถผิดพลาดได้หากเมื่อหมอเทวดาเลี่ยวเสียชีวิต พวกเขาตระกูลเฝิงก็จบสิ้นแล้ว“หึหึ วางใจเถอะพี่ใหญ่ มีผมอยู่ หมอเทวดาเลี่ยวกับหลานอวี้อู่ ไม่มีทางเป็นอันตรายอย่างแน่นอน”เฝิงหลียิ้มอย่างลำพองใจมากที่สุดแผนการของเขาในที่สุดก็สำเร็จแล้วต่อไป ผู้นำตระกูลของตระกูลเฝิงก็จะกลายเป็นเขาเฝิงหลีต
เฝิงอวี้อู่สงบลงแล้วแต่ตอนนี้สีหน้าของเขากลับดูแย่ลงกว่าเดิม ลมหายใจก็เปลี่ยนไปอ่อนแรง ถึงขั้นมีแต่ถอนหายใจ ไม่มีหายใจเข้าผิวทั่วตัวเริ่มคล้ำขึ้น“หมอเทวดาเลี่ยว นี่มันเกิดอะไรขึ้น?!”เฟิงชางวิตกกังวลมากจนไม่รู้จะทำอย่างไร เมื่อครู่ลูกชายของเขาเพิ่งดีขึ้น มันแย่ลงอีกแล้วเหรอ?“ผมดูหน่อย!”หมอเทวดาเลี่ยวถอดเข็มเงินที่เจาะเข้าไปในเส้นลมปราณหลักของเฝิงอวี้อู่ออกโดยตรง ใส่ไว้ในมือแล้วหมุน สีหน้าก็เปลี่ยนไป“หมอเทวดาเลี่ยวเป็นอะไรเหรอครับ?”เฝิงชางขยับเข้ามาถามใกล้ๆ ส่วนเฝิงเอ้อที่อยู่ไกลออกไปกลับเหม่อลอยเล็กน้อยเพราะว่าในตอนนี้จู่ๆ เขาก็นึกถึงคำพูดก่อนหน้านี้ของหลินเฟิงขึ้นมาได้“อย่าลืมบอกหมอเทวาดาเลี่ยว ห้ามใช้มือสัมผัสเข็มเงินโดยตรง พิษนี้ต่อให้โดนแค่ผิวหนัง ก็ติดเชื้อได้อย่างรวดเร็ว”“หมอเทวดาเลี่ยว!”เฟิงเอ้ออดไม่ได้ที่จะตะโกนออกมา“หือ?”หมอเทวดาเลี่ยวกับเฝิงชางหันหน้ามาส่วนเฟิงเอ้อยังคงยื่นมือออกไป เขาต้องการพูดสิ่งที่หลินเฟิงเตือนไว้ก่อนหน้านี้ แต่ก็ดูไม่เหมาะสมนักหมอเทวดาเลี่ยวไม่รู้ว่ามันมีพิษเหรอ ต้องให้นายเตือนด้วย?สุดท้ายเฝิงเอ้ออ้าปาก แต่สุดท้ายก็ส่ายหน
เขาฝังเข็มโดนใช้ใจอย่างมาก แต่ละเข็มฝังลงไปได้อย่างแม่นยำในที่สุดหลังจากที่หมอเทวดาเลี่ยวฝังเข็มสุดท้ายลงบนหน้าอกของเฝิงอวี้อู่ ความมืดบนใบหน้าของเฝิงอวี้อู่ก็ลดลงอย่างน่าอัศจรรย์แม้แต่ลมหายใจก็มั่นคงขึ้นไม่น้อย“เอ๊ะ?”เมื่อเห็นภาพนี้ เฝิงหลีที่อยู่ไกลออกไปดูตกใจ“นี่คือยาล้างพิษ แม้จะไม่ได้ผลเท่ากับยาของอาจารย์ของผม แต่ก็เป็นแบบจำลองที่วิจัยออกมาโดยศูนย์การแพทย์ตระกูลเลี่ยวของผม”ขณะพูด หมอเทวดาเลี่ยวยัดยาเม็ดสีเหลืองขนาดเท่าลำไยเข้าไปในปากของเฝิงอวี้อู่ยาเม็ดนี้ทานเข้าไปแล้วจะน้ำลายไหล ในสายตาของทุกคน ยาเม็ดนั้นกลายเป็นลูกบอลสีเหลืองไหลลงคอของเฝิงอวี้อู่ทันทีส่วนเฝิงอวี้อู่กลับไอสองครั้งในขณะที่หมดสติใบหน้าก็แดงก่ำอย่างผิดปกติ“ได้ผลจริงๆ ด้วย!”เห็นลูกชายของตัวเองดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เฝิงชางตื่นเต้นมากจนเขาคุกเข่าให้หมอเทวดาเลี่ยวทันที“ไม่เสียแรงที่เป็นหมอเทวดาเลี่ยว ก่อนหน้านี้คุณถ่อมตัวเกินไปแล้วจริงๆ!”เฝิงชางเห็นภาพนี้ คิดว่าลูกชายของตัวเองรอดแล้ว เมื่อครู่เป็นแค่คำถ่อมตัวของหมอเทวดาเลี่ยวและในตอนนี้หมอเทวดาเลี่ยวก็รู้สึกประหลาดใจเช่นกันเพราะวิธีการที่
เมื่อดูแบบนี้ เป็นที่น่าตื่นตะลึงหัวใจของหมอเทวดาเลี่ยวก็กระตุกมองแค่ใบหน้า ก็รู้ว่าคุณชายเฝิงอยู่ได้ไม่นานแล้ว หน้าผากเต็มไปด้วยอากาศสีดำ ใบหน้าดูเหมือนตายแล้ว นี่มันถูกพิษที่ไหนกันนี่เป็นการยื้อลมหายใจสุดท้ายด้วยซ้ำ!หากปล่อยลมหายใจสุดท้ายนี้ออกมา คุณชายตระกูลเฝิงคงจะตายไปนานแล้ว“เป็นยังไงบ้าง? หมอเทวดาเลี่ยว?”เฝิงชางและคนอื่นๆ ที่อยู่ข้างๆ รีบถามด้วยความกังวลนี่คือลูกชายของเขา ยังเป็นความหวังสำหรับอนาคตของตระกูลเฝิงของพวกเขาอีกด้วย ตอนนี้เห็นลูกชายกลายเป็นแบบนี้ หัวใจของเฝิงชางแทบจะแตกสลาย“ผู้นำตระกูลเฝิงไม่ต้องร้อนใจ”หน้าผากของหมอเทวดาเลี่ยวเต็มไปด้วยเหงื่อถ้าหากพูดว่าเมื่อครู่เขายังรู้สึกว่าตัวเองมีความหวัง สามารถใช้ความคิดส่วนตัวของตัวเองได้ แต่ตอนนี้ หัวใจของเขาจมลงสู่ก้นบึ้งแค่มองรูปลักษณ์ภายนอกของคุณชายเฝิง อย่าว่าแต่เขาเลย ต่อให้อาจารย์ของเขามา เขาก็ไม่มั่นใจว่าจะสามารถช่วยกลับมาได้“เฮ้อ…”หมอเทวดาเลี่ยวถอนหายใจ ภายใต้การจ้องมองของทุกคน“พิษที่คุณชายเฝิงโดนได้แทรกซึมเข้าอวัยวะภายในแล้ว เกรงว่ากระเพาะทะลุลำไส้เน่าไปแล้ว เหลือเพียงลมหายใจสุดท้าย”“ผมทำ
ไม่ต้องพูดถึงหมอเทวดาเลี่ยวที่มีสถานะอันสูงส่งเลยพูดไร้สาระมากกว่านี้ นั่นก็เป็นการหาเรื่องใส่ตัวถ้าอีกฝ่ายโกรธและปฏิเสธที่จะทำการรักษา ตระกูลเฝิงจะหันไปพึ่งใครได้?หรือว่าจะไปหาหลินเฟิงคนนั้นงั้นเหรอ?“เมืองเจิ้งเต๋อ?”หมอเทวดาเลี่ยวตกตะลึงเล็กน้อย เขารู้อยู่แล้วว่าช่วงนี้หลินเฟิงอยู่ที่เมืองเจิ้งเต๋อ แต่เมื่อเห็นท่าทางของตระกูลเฝิงในเวลานี้ เขาก็ไม่สามารถยืนยันได้จึงทำได้แค่พยักหน้า ความสงสัยนี้วางเอาไว้ก่อนในเมื่อเมืองเจิ้งเต๋อมีคนมากมาย แต่คนที่สามารถกำเริบเสิบสานที่ตระกูลเฝิงได้กลับมีไม่เยอะหมอเทวดาเลี่ยวก็รู้สึกสงสัยเป็นธรรมดา“หึหึ หมอเทวดาเลี่ยว เชิญทางด้านนี้ครับ”เฝิงชางนำทางอยู่ข้างหน้า พาหมอเทวดาเลี่ยวไปที่ชั้นลอยโบราณ ทุกคนเพิ่งผลักประตูเขาไปก็ได้รับกลิ่นหอมที่รุนแรงของยา“อืม? เทียนหลงเสียน เจิ้นเฟิงจือ…”ยังไม่ได้เข้าห้อง หมอเทวดาเลี่ยวก็ย่นปลายจมูก ได้กลิ่นหอมอันล้ำค่าของสมุนไพรสมบัติล้ำค่าจำนวนมากได้ยินหมอเทวดาเลี่ยวพูดชื่อยาสมุนไพรมากกว่าสิบชนิดที่ไม่ขาดไปแม้แต่น้อย รอยยิ้มบนใบหน้าของเฟิงชางและเฟิงเอ้อค่อยๆ ลึกซึ้งขึ้นรีบพยักหน้าพูดว่า:“หมอเทวดา
“เดี๋ยวนะไอ้หนุ่ม สมองของนายไม่ได้มีปัญหาอะไรจริงๆ ใช่ไหม?”“ชู่วชู่วชู่ว อย่าเพิ่งพูด ให้ไอ้หมอนี่พูดพร่ำเพ้อไปเถอะ ให้หมอเทวดาเลี่ยวกราบเขา พรวด...”ทั้งสองคนพากันหัวเราะจนปวดท้องเนื่องด้วยคำพูดโอ้อวดของหลินเฟิงหมอเทวดาเลี่ยวมีสถานะอะไร?ทำไมจะต้องคุกเข่ากราบให้นายเด็กหนุ่มที่ไม่มีชื่อเสียง และอวดดีอย่างบ้าระห่ำแบบนี้ด้วย?เขายิ้มบางพูดว่า:“ถ้าหากผมพูดได้ไม่ถูกต้อง เช่นนั้นผมจะคุกเข่ากราบทั้งสองท่าน ชีวิตน้อยๆ ของผมก็จะปล่อยให้พวกคุณสองคนจัดการ”“แต่ถ้าหากผมพูดถูกต้อง...”หลินเฟิงมองไปทางทั้งสองคนและพูดอย่างนิ่งเฉยว่า:“พวกคุณคุกเข่าลง และคลานจากตรงนี้ไปที่หน้าประตูจวนตระกูลเฝิง อีกทั้งขณะที่คลาน จะต้องเลียนแบบหมาเห่าด้วย เป็นยังไง?”เห็นหลินเฟิงเล่นจริง ผู้คุ้มกันทั้งสองนิ่งอึ้งเล็กน้อยพวกเขาเห็นสีหน้าที่จะยิ้มแต่ก็ไม่ยิ้มของหลินเฟิง ในใจก็รู้สึกกังวลใจเล็กน้อยดูยังไง ไอ้หมอนี่ก็ตั้งใจล่อให้พวกเขาติดกับชัดๆแต่ว่าการเดิมพันเกินเหตุไปหน่อยไหมให้หมอเทวดาเลี่ยว หมอเทวดาเมืองจิงที่มีชื่อเสียงโด่งดังกราบตรงหน้าเขา อีกทั้งขอร้องให้เขาลงมือรักษา?เรื่องแบบนี้พูดออกไปใคร
“คุณท่านรอง ไอ้หมอนี่พาลเกเรที่ตระกูลเฝิงของเราครับ!”“ใช่ครับคุณท่านรอง ไอ้หมอนี่กำเริบเสิบสานเกินไปแล้ว!””วันนี้พวกเราจะปิดประตูตีสุนัข สั่งสอนเขาอย่างดีสักหน่อย!”“หุบปาก”ฟังถึงตรงนี้ เฝิงเอ้อจะไม่รู้ได้อย่างไรว่าเกิดอะไรขึ้นเขาเหลือบมองหลินเฟิง ไม่ได้พูดขอโทษอะไร แต่กลับมองไปทางลูกศิษย์ของตระกูลเฝิงและพูดอย่างเย็นชาว่า:“ผู้ที่มาเยือนคือแขก ตระกูลเฝิงของเราจะให้คนนอกหัวเราะเยาะไม่ได้”“แยกย้ายไปให้หมด!”“แต่ว่าคุณท่านรอง...”“ทำไม?”เฝิงเอ้อถลึงตาใส่ และพูดด้วยความโมโห:“ไม่ฟังคำสั่งของฉันงั้นเหรอ?”“......”เห็นเฝิงเอ้อแสดงอำนาจ ลูกศิษย์ตระกูลเฝิงที่อยู่ในเหตุการณ์ทำได้แค่ส่งเสียงไม่พอใจในลำคอ และพากันแยกย้าย ก่อนจะเดินออกไป ก็ไม่ลืมที่จะถลึงตาใส่หลินเฟิง“คุณหลินเฟิง ไม่ว่าคุณจะมองตระกูลเฝิงของเรายังไง ลูกศิษย์ของตระกูลเฝิงไม่จำเป็นต้องให้คนนอกมาอบรมสั่งสอน”“หวังว่าคุณจะเข้าใจ”หลังจากพูดคำเหล่านี้จบ เฝิงเอ้อก็สะบัดแขนเสื้อเดินจากไปหลินเฟิงได้ยินแบบนี้ ก็รู้ว่าเฝิงเอ้อคนนี้ไม่ได้รู้สึกคาดหวังอะไรต่อเขาเลยสักนิด สำหรับเรื่องที่หลินเฟิงพูดว่าสามารถแก้พิษให้อวี