เพื่อประหยัดเวลาในการกลั่นน้ำยา หลินเฟิงติดต่อถังเจี้ยนหยวนใหม่อีกครั้งตอนนี้ถังเจี้ยนหยวนมองดูสถานการณ์ชัดเจนแล้วความสัมพันธ์ของตระกูลถังกับตระกูลหลงแทบจะไม่มีทางฟื้นฟูความสัมพันธ์กันได้อีกแล้วดังนั้นสำหรับเรื่องแต่งงานของถังหว่าน โอนเอนไปทางหลินเฟิงเรียบร้อยแล้ว แต่ไม่ใช่หลงยวนได้ยินความต้องการของหลินเฟิงถังเจี้ยนหนวนไม่มีความลังเลใดๆ ตอบรับได้อย่างถึงใจเขานำสมุนไพรสมบัติล้ำค่าจำนวนมหาศาลในคลังสมบัติของตัวเองออกมา ในนั้นมีสมบัติอายุหนึ่งร้อยปีอยู่หลายชิ้นนี่จึงทำให้หลินเฟิงทอดถอนใจไม่ได้ ไม่เสียแรงที่เป็นตระกูลถังของเมืองจิง มีเงินก็สามารถใช้ทำอะไรก็ได้จริงๆ ก่อนหน้านี้ตัวเองตามหาสมุนไพรสมบัติล้ำค่าอายุร้อยปีด้วยเวลาที่นานขนาดนี้ที่เมืองเจียงโจว คิดไม่ถึงว่าในมือของถังเจี้ยนหยวนไม่นับประสาอะไรกันแม้แต่ทางด้านศูนย์การแพทย์ตระกูลเลี่ยวก็นำสมุนไพรสมบัติล้ำค่าออกมาช่วยเหลือหลินเฟิงถึงแม้สมุนไพรสมบัติล้ำค่าที่สองตระกูลนี้ให้มา ต่างก็สู้แก่นสารจวี้คังที่หลินเฟิงพบเจอที่งานประมูลโดยบังเอิญไม่ได้แต่ใช้แก้ขัดก็เพียงพอแล้วคืนนั้น หลินเฟิงนั่งเครื่องบินส่วนตัวที่ถังเจี้ย
“เอาเป็นว่าฉันไม่ค่อยเข้าใจ บอกว่าภายในสำนักร้อยพิษสร้างทักษะการเร่งสุกอะไรสักอย่าง ผลปรากฏว่าแม่ของฉันก็คือหนึ่งในผลงานทดลองของพวกเธอ”“ส่วนเลือดของฉัน ก็คือสมบัติที่แม่ของฉันทิ้งไว้ให้ฉัน มีผลในการเร่งสุกวัตถุดิบยา”พูดถึงตรงนี้ อวี๋จื่อเสวียนน้ำเสียงผ่อนคลายพูดว่า:“พูดตามตรงนะ อาจารย์หลิน ตั้งแต่เล็กพ่อของฉันปกป้องฉันได้ดีมากๆ ฉันกลับไม่เคยรู้มาก่อนว่าเลือดของฉันจะมีผลลัพธ์แบบนี้“แน่นอนว่า ฉันก็ไม่แน่ใจว่ามีผลจริงหรือเปล่า นี่คือเรื่องที่พ่อบอกกับฉัน”“......”ได้ยินอวี๋จื่อเสวียนพูดเยอะขนาดนี้ในครั้งเดียวหลินเฟิงถึงได้เข้าใจแล้วว่าทำไมตอนนั้นอาอวี๋ถึงได้ปกป้องอวี๋จื่อเสวียนได้ใส่ใจขนาดนี้ ส่วนภายในของอวี๋จื่อเสวียมีตราสัญลักาณ์บู๊ได้อย่างไรแต่เมื่อคิดดูแล้ว หลินเฟิงก็ยังส่ายหน้าปฏิเสธ“จื่อเสวียน ฉันเข้าใจความหมายของเธอ แต่ตอนนี้ฉันมีสมุนไพรที่ได้รับมาเพียงพอแล้ว เธอไม่ต้อง ไม่ต้องเป็นห่วง“ดังนั้น...”ไม่รอให้หลินเฟิงพูดจบ อวี๋จื่อเสวียนก็หยิบมีดด้ามเล็กขึ้นมา ทิ่มไปที่นิ้วมือของตัวเอง หยุดเลือดแดงสดไหลออกมาจากปลายนิ้วมือของเธอทันที“เธอ...”ดูสีหน้าฝืนใจของเด็กค
แต่หลังจากที่หลินเฟิงผสมเลือดของอวี๋จื่อเสวียนเข้าไปหนึ่งหยดน้ำยาที่ผสมกันออกมาแล้วถึงแม้ไม่มีความเปลี่ยนแปลงอย่างอื่น แต่อายุที่ตกตะกอนกลับเพิ่มมากขึ้นจนน่าหวาดกลัวน้ำยาที่ผสมกันออกมาเหมือนกับหลินเฟิงใช้ยาสมุนไพรห้าร้อยปีกลั่นออกมา ประสิทธิภาพดีกว่ายาที่หลินเฟิงกลั่นออกมาเมื่อครั้งที่แล้วอีก สามารถพูดได้ว่ามีแต่เพิ่งไม่มีลดน้อยลง!ต่อให้หลินเฟิงดื่มเข้าไปเอง ก็ทำให้พลังชี่แท้ภายในร่างกายแข็งแกร่งขึ้น ความสามารถเพิ่มขึ้นเป็นกอง!“นี่มัน...”หลินเฟิงนิ่งอึ้งอยู่ที่เดิม ไม่สามารถสงบจิตใจได้เป็นเวลานานประสิทธิภาพของเลือดอวี๋จื่อเสวียนนั้นน่ากลัวเกินไปแล้ว ตัวเธอเป็นเหมือนกับยาอายุวัฒนะทที่เดินได้เชียวนะไม่น่าแปลกใจที่อาอวี๋ปกป้องอวี๋จื่อเสวียนจนถึงขั้นนี้ถึงขั้นที่แม้แต่เขาก็ยังต้องป้องกันเอาไว้นี่ถ้าหากถูกสำนักร้อยพิษรู้จัก อวี๋จื่อเสวียนก็จบเห่แล้ว!จุดจบของเธอเกรงว่าคงต้องถูกขับตลอดชีวิต กลายเป็นทาสเลือดของสำนักร้อยพิษคิดถึงตรงนี้ ในที่สุดหัวใจที่บีบรัดจากความเครียดก็ผ่อนคลายลงมีเลือดขวดเล็กนี้ที่อวี๋จื่อเสวียนให้มา ไม่เพียงเขาสามารถนำยาทั้งหมดกลั่นออกมาได้สำเร็จ
หลิ่วเยว่ฟางก็อดทนไม่ไหวแล้ว จึงบ่นพึมพำกับสามีอย่างไม่พอใจ“หึ ฉันให้พวกเขาสองคนเลี้ยงดูฉันจนแก่ตายงั้นเหรอ? งั้นฉันไม่สู้ไปหาหมาข้างถนนเลี้ยงดูฉันจนแก่ตายซะดีกว่าอีก!”นายท่านอารมณ์ฉุนเฉียว ด่าทอขึ้นมาโดยตรง:“คุณดูสวะสองตัวนี้ ตอนนั้นที่จากไปฉันให้เงินพวกเขาไปเท่าไหร่? บอกว่าจะดิ้นรนจนได้ดิบได้ดี“คุณดูสิ ตอนนี้ไม่ได้ใช้ชีวิตเป็นผู้เป็นคน กลับกันนั้นยิ่งอยู่ยิ่งเลวขึ้น!”“พ่อ พ่อพูดแบบนี้ก็เกินไปหน่อยแล้ว”หลี่อิงเฉิงขมวดคิ้วเถียงกลับ“ฉันพูดเกินเหตุไป?”นายท่านหลี่ไห่หงถูกทำให้โมโหจนหัวเราะออกมา เขาตบโต๊ะ พูดเสียงดัง:“ได้ งั้นฉันถามพวกนายสิ ตอนนั้นพวกนายบอกว่าจะออกไปพัฒนาตัวเอง ฉันให้เงินทุนพวกนายไปคนละสองพันห้าร้อยล้านบาท ตอนนี้ล่ะ?”“พวกนายบอกสิ่งที่พวกนายทำในหลายปีมานี้ รายงานให้ฉันฟังสิ”“ถ้าหากพวกนายทำให้ฉันพอใจได้ ฉันก็จะด่าตัวเองว่าเป็นสวะ เป็นคนตาบอด พอใจไหม?”ได้ยินพ่อของตัวเองพูดแบบนี้ หลี่ก่วงเฉิงกับหลี่อิงเฉิงต่างก็ก้มหน้าลง ตกอยู่ในความเก้กัง ไม่กล้าตอบกลับเพราะว่าเงินทุนยี่สิบห้าล้านบาทที่พ่อให้พวกเขา ถูกพวกเขาล้างผลาญไปหมดแล้วครั้งนี้กลับมา ก็เป็นเพร
งานเลี้ยงอาหารค่ำสุดแสนวิเศษกลายเป็นแบบนี้ตอนที่นายท่านหลี่ไห่เจียงกำลังจะด่าคน แต่ทว่าหลี่ฮุ่ยหรานกลับลุกขึ้นยืนโดยตรงเธอหยิบแก้วไวน์ขึ้นมา ก่อนจะพูดด้วยแววตาที่ภาคภูมิใจว่า:“อาอิงเฉิง อาก่วงเฉิง ฉันเข้าใจที่พวกคุณไม่เชื่อในความสามารถที่แข็งแกร่งของคนอื่น ในเมื่อพวกคุณไม่มีความสามารถ เพราะงั้นจึงรู้สึกว่าคนอื่นไม่มีความสามารถเช่นเดียวกับพวกคุณ”“ฉันยอมรับว่าที่ฉันมีทุกอย่างในวันนี้ ทั้งหมดล้วนยืมชื่อเสียงของหลินเฟิง สามีของฉันมาไม่น้อย แต่ต่อให้ไม่มีหลินเฟิง ฉันหลี่ฮุ่ยหรานก็ไม่อาจเป็นเหมือนกับพวกคุณได้ ที่เต็มใจใช้ชีวิตอย่างไร้สาระและไม่มีความสำเร็จอะไร”“ผลาญเงินที่ปู่ให้ จากนั้นก็กลับมาด้วยความสิ้นหวัง”เมื่อได้ยินคำพูดดูถูกที่วิจารณ์พวกเขาของหลี่ฮุ่ยหราน ท่าทางของชายวัยกลางคนทั้งสองก็ดูแย่มากในทันที“ถึงแม้ว่าฉันจะเป็นผู้หญิง แต่ความละอายในใจของฉันก็ยังมีมากกว่าของพวกคุณ อย่างน้อยฉันดีไม่พอ ก็ไม่สามารถพูดประเมินค่าคนอื่นต่ำๆ ได้”“ถึงขั้นการกล่าวหาเรื่องส่วนตัว”จากนั้นหลี่ฮุ่ยหรานก็มองไปที่หลี่เยว่หรูที่อยู่ไกล ๆก่อนจะพูดอย่างใจเย็นว่า“เยว่หรู ก่อนหน้านี้พวกเราไปดูง
“เยว่หรู เธอก็ไม่ถูกชะตากับหลี่ฮุ่ยหรานใช่ไหม?”เมื่อหลี่ก่วงเฉิงกับหลี่อิงเฉิงเห็นหลี่เยว่หรู ไม่เพียงแต่จะไม่หลีกเลี่ยงเท่านั้น แต่หลี่ก่วงเฉิงยังเข้ามาถามใกล้ ๆอย่างตรงไปตรงมา“ใช่แล้ว”หลังจากตะลึงงันไปชั่วครู่หลี่เยว่หรูก็แสดงท่าทางการกัดฟันออกมาเธอถูกหลี่ฉุ่ยหรานข่มมาโดยตลอด เมื่อนึกถึงรูปลักษณ์ที่เย่อหยิ่งของหลี่ฮุ่ยหรานในคืนนี้ ความไม่พอใจต่อหลี่ฮุ่ยหรานในใจของเธอก็ถึงระดับวิกฤติซะแล้วขาดแค่โอกาศที่จะระเบิดออกมาหลี่อิงเฉิงกับหลี่ก่วงเฉิงมองหน้ากัน พวกเขาทั้งคู่มองเห็นความยินดีในแววตาของกันและกันคิดแบบไหนก็ได้แบบนั้นจริงๆ พวกเขาที่เพิ่งจะพูดคุยถึงวิธีจัดการหลี่ฮุ่ยหราน แต่ก็ยังขาดจุดสำคัญที่สุดอยู่ นั่นก็คือจะทำยังไงถึงจะนัดให้หลี่ฮุ่ยหรานออกมาตราบใดที่หลี่ฮุ่ยหราน “หายไป” ฟาร์มแห่งนี้ก็จะตกเป็นพวกเขาสองพี่น้องในที่สุดจริง ๆแล้วพวกเขาอยากได้ที่ดินนี้มาตั้งนานแล้วอันที่จริงพวกเขาก็แอบไม่พอใจพ่อของตัวเองมาตลอด ถ้าหากหลี่ไห่เจียงยอมอ่อนข้อให้เร็วกว่านี้ แล้วมอบที่ดินนี้กับพวกเขาพวกเขาจะใช้เงินที่หลี่ไห่เจียงมอบให้ไปเปิดโรงงานไม่ว่าจะพูดยังไงก็คงไม่มีทางมี
“แม้ว่าพวกเราจะไม่สามารถเป็นผู้นำได้ ให้เยว่หรูมาเป็น ก็ดีกว่าหลี่ฮุ่ยหรานตั้งเยอะ!”หลี่ก่วงเฉิงพูดส่งเสริม“ใช่ ๆเยว่หรู เธอก็เป็นหนึ่งในตัวเลือกผู้นำตระกูล แถมยังได้รับการสนับสนุนจากย่ารองของเธอด้วย ไม่ด้อยไปกว่าหลี่ฮุ่ยหราน ถ้าหากหลี่ฮุ่ยหรานหายไปแบบนี้แล้วละก็....”หลี่อิงเฉิงหรี่ตา และแสดงท่าทางที่รู้กันออกมา“งั้นฉันก็จะได้เป็นผู้นำแล้ว....”หลี่เยว่หรูพึมพำกับตัวเอง จากนั้นดวงตาก็เปล่งประกายอย่างมาก ก่อนที่จะยิ้มออกมาอย่างภาคภูมิใจ“ใช่แล้ว เยว่หรู เธอก็จะได้เป็นผู้นำตระกูลหลี่เมืองเจียงหนานของพวกเราแล้ว!”หลี่ก่วงเฉิงพยักหน้าอย่างเด็ดเดี่ยว“ฉัน ยังมีอาอิงเฉิงของเธอที่ต่างก็สนับสนุนเธอด้วย!”“ใช่แล้วเยว่หรู ตราบใดที่กำจัดหลี่ฮุ่ยหรานได้ ตระกูลหลี่ก็จะสามารถคืนกลับมาอยู่ในมือของตระกูลหลี่เมืองเจียงหนานของพวกเราอีกครั้ง!”หลี่อิงเฉิงเอาแต่พูดหลอกให้หลี่เยว่หรูลุ่มหลงมัวเมาแต่จริง ๆแล้วทั้งสองคนคิดมากเกินไปแล้วหลี่เยว่หรูที่อยากจะจัดการกับหลี่ฮุ่ยหรานที่ไม่ใช่หนึ่งหรือสองวัน เพียงแต่เธอไม่ได้หาโอกาส เพราะอย่างนั้นจึงอยู่เฉย ๆ มาโดยตลอดในเวลานี้คุณอาทั้งสองได้ให้โอ
หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง หลี่เยว่หรูโทรศัพท์ไปหาอารองกับอาสามของตัวเอง“ฉันเรียกเธอมาแล้ว พวกคุณรออยู่ระหว่างทางก็ได้แล้ว”“ไม่ได้หรอก”หลี่ก่วงเฉิงที่อยู่ในโทรศัพท์ยิ้มพูด: “เยว่หรู งานสกปรกแบบนี้เธอจะให้พวกเราทำ ส่วนเธอกลับไม่ทำอะไรสักนิดไม่ได้หรอกนะ?”ได้ยินคำพูดของหลี่ก่วงเฉิง หลี่เยว่หรูขมวดคิ้ว“อาสาม คุณหมายความว่ายังไง?”“ไม่ได้หมายความว่ายังไง”หลี่ก่วงเฉิงหัวเราะร่าอยู่ในโทรศัพท์และพูดว่า:“วางใจได้ เพียงแค่ให้เธอมาด้วยกันกับพวกเรา ไม่จำเป็นต้องให้เธอทำอะไร เธอเพียงแค่ไปด้วยกันกับพวกเราก็พอแล้ว”“ในเมื่อพวกเราก็กลัวเธอหักหลัง นำเรื่องนี้ไปบอกปู่ของเธอ เธอว่าใช่ไหมล่ะ?”หลี่เยว่หรูนิ่งอึ้งครู่หนึ่งเธอเข้าใจความหมายของอาสามในทันทีความหมายก็คือให้เธอไปเปิดเผยโฉมหน้าเช่นกันทุกคนทำเรื่องนี้ด้วยกัน ถึงเวลาหลี่เยว่หรูก็คือมดบนเชือกเส้นเดียวกับพวกเขาแบบนี้หลี่ฮุ่ยหรานก็หักหลังไม่ได้แล้วคิดถึงตรงนี้ หลี่เยว่หรูรู้สึกโล่งใจเธอยังคิดว่าอาสามจะให้เธอลงมือกำจัดหลี่ฮุ่ยหรานซะอีกแต่ว่าได้เห็นหลี่ฮุ่ยหรานตายไปต่อหน้าตัวเอง หรือว่าเห็นเธอขอความเมตตาต่อตัวเอง เรื่องแบบ
“บ้าเอ๊ย ฉันไม่สามารถทนได้จริงๆ ติดต่อน้องหลินให้ฉัน ฉันจะเข้าแทรกแซงเรื่องนี้ด้วย!”...วันต่อมาในบาร์ใต้ดินแห่งหนึ่งทางตอนใต้ของเมืองจิงจวงฉุนและอิ่นนั่วเจียที่สวมหมวกและหน้ากากไว้ และดูเรียบง่ายมากรีบเดินทางมาที่นี่ ที่นี่คือ “สถานที่นัดพบ” ที่หลงซิ่วพูดถึงควบคู่ด้วยเสียงดนตรีอันไพเราะและฝูงชนที่เต้นรำจวงฉุนและอิ่นนั่วเจียเดินผ่านทางเดินและมองเห็นหลงซิ่วกำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะ พร้อมคาบบุหรี่อยู่ในปากเมื่อเห็นว่าอิ่นนั่วเจียมาจริง ๆ ดวงตาของหลงซิ่วก็เป็นประกายบุหรี่ในปากของเขาหล่นลงพื้นโดยไม่รู้ตัวแม้ว่าอิ่นนั่วเจียจะสวมเพียงชุดเดรสยีนส์ซึ่งทำให้เธอดูเป็นเด็กสาวมากในวันนี้ แต่หุ่นที่น่าสะพรึงกลัวของเธอก็ยังทำให้ หลงซิ่วที่กำลังนั่งอยู่ตรงโต๊อย่างไม่ใส่ใจก็ต้องกลืนน้ำลายลงคอ"เชี่ย ไม่เสียแรงที่เป็นซูเปอร์สตาร์ประเทศมังกรจริงๆ นะ!"หลงซิ่วอดไม่ได้ที่จะเปรียบเทียบเธอกับถานหง หลังจากคิดดู นี่มันไม่ใช่คนระดับเดียวกันด้วยซ้ำ!แม้ว่าถานหงจะเป็นราชินีเพลงประเทศมังกร หน้าตาก็คล้ายๆกันแต่เมื่อเทียบกับอิ่นนั่วเจียสาวสวยที่อยู่แต่ในจอ ถานหงยังด้อยกว่าเยอะมากเพียงแค่ออร่าอันส
สำนักงานใหญ่กลุ่มเผิงกวง เมืองจิงขณะนั้นเผิงกวงฉี่กำลังคาบซิการ์ไว้ในปากอย่างเรื่อยเปื่ยอ ฟังการโต้เถียงขัดแย้งระหว่างตัวแทนจากทั่วทุกแห่งในการประชุมแม้ว่าเผิงกวงฉี่จะดูเป็นปกติ แต่ในใจเขากลับโกรธมากพวกขยะพวกนี้ได้แต่โทษกันไปมา และต่างคนต่างหาผลประโยชน์แม้แต่เผิงกวงฉี่ก็ยังคิดว่า ควรจะกำจัดคนไร้ประโยชน์เหล่านี้ และส่งเสริมให้คนอื่นขึ้นมาเป็นผู้นำภูมิภาคดีไหมขณะที่กำลังคิดแบบนี้ โทรศัพท์มือถือของเผิงกวงฉี่ก็ดังขึ้นกะทันหันเสียงโทรศัพท์ทำให้ห้องประชุมเงียบลงทันที“คุณหลินโทรมาครับ คุณเผิงกวงฉี่”ผู้ช่วยที่อยู่ข้างๆ ยื่นโทรศัพท์ให้ด้วยความเคารพเมื่อคิดว่าเป็นหลินเฟิง เผิงกวงฉี่ก็รู้สึกอารมณ์ดีขึ้นมากไม่พูดไม่ได้ว่ายาหยกโมราของหลินเฟิงมีประสิทธิภาพมากจริงๆ ควบคู่กับน้ำพุร้อนที่เจียงโจว ทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองดูหนุ่มลงเรื่อย ๆ และร่างกายก็เต็มไปด้วยกำลังวังชาแม้แต่ผู้หญิงคนใหม่ที่หามาช่วงนี้ ก็ไม่สามารถทำให้เขาพึงพอใจได้ช่วงนี้เขากำลังคิดว่าควรจะหาเพิ่มอีกสักหน่อย เพื่อสร้างทายาทให้กับตระกูลเผิงของเขาสองเดือนที่แล้ว นี่เป็นสิ่งที่เขาไม่กล้าคิดมาก่อนด้วยซ้ำ“ฮัลโหล
“ฉันจะโอนเงินสองหมื่นห้าพันล้านบาทเข้าบัญชีของคุณทันที ทางที่ดีคุณให้อิ่นนั่วเจียออกจากหลี่ซื่อกรุ๊ปโดยเร็วที่สุด ให้เธอมาพบฉันที่เมืองจิง”"ฮ่าฮ่าฮ่า......"ถานหงที่อยู่ปลายสายหัวเราะอย่างโอเวอร์“ฉันต้องการให้อิ่นนั่วเจียคุกเข่าอยู่แทบเท้าฉัน! ยังมีหลินเฟิง ฉันจะทำให้หลินเฟิงและหลี่ซื่อกรุ๊ปบ้าบออะไรนั่นได้ชำระในสิ่งที่ควรจ่าย!”หลังจากพูดจบโทรศัพท์ก็วางสายไปและภายในเวลาไม่กี่นาที ข้อความเงินสดเข้าบัญชีจำนวนสองหมื่นห้าพันล้านบาทก็ปรากฏบนโทรศัพท์มือถือของจวงฉุนทันทีเมื่อมองดูข้อความบนโทรศัพท์ ลมหายใจของจวงฉุนก็เร็วขึ้นอย่างมาก เขาไม่เคยเห็นเงินมากขนาดนี้ในชีวิตของเขามาก่อนแต่เมื่อเขาเงยหน้ามองไปทางหลินเฟิง ก็รู้สึกเหี่ยวเฉาทันทีเขารู้ว่าเงินจำนวนนี้จะไม่มีวันมาถึงเขาด้วยซ้ำ อีกทั้งเรื่องที่อิ่นนั่วเจียเข้าร่วมตระกูลหลงเป็นเรื่องโกหกทั้งหมดเขาแค่อยากหลอกเอาเงินก้อนนี้มาจากหลงซิ่ว เพื่อใช้รักษาชีวิตของตัวเองเอาไว้ก็เท่านั้นเอง“ตอนนี้โอนเงินก้อนนี้เข้าบัญชีของหลี่ซื่อกรุ๊ปเถอะ”หลินเฟิงไม่พูดมาก บังคับจวงฉุนให้ดำเนินการบนโทรศัพท์มือถือของเขาโดยตรงหลังจากนั้นไม่นาน เงิน
“ดูเหมือนว่าคุณจะได้เจอกับอิ่นนั่วเจียจริงๆ นะ”หลงซิ่วที่อยู่ปลายสายพูดอย่างใจเย็นว่า:“ผมลืมบอกคุณไปว่าตอนนี้อิ่นนั่วเจียเป็นสมาชิกของหลี่ซื่อกรุ๊ปแล้ว เธอเต็มใจที่จะออกจากหลี่ซื่อกรุ๊ป และร่วมมือกับตระกูลหลงของเราจริงๆ เหรอ?”เมื่อได้ยินสิ่งที่หลงซิ่วพูดจวงฉุนสั่นสะเทือนไปทั้งตัวเกือบหัวใจวายเพราะความโมโหในที่สุดเขาก็ได้ลิ้มรสว่าการถูกหลอกเป็นอย่างไรหากหลงซิ่วเล่าเบื้องหลังของอิ่นนั่วเจียให้เขาฟังก่อนหน้านี้เขาจะพาผู้คนมาที่นี่เพื่อมาหาอิ่นนั่วเจีย และตกหลุมพรางได้ยังไง?ตอนนี้มันสายเกินไปที่จะพูดอะไรอีกแล้วร่องรอยแห่งความโกรธเริ่มผุดขึ้นในใจของจวงฉุนหากพูดว่าเมื่อครู่เพียงแค่โกหกหลงซิ่ว เขาก็มีความกดดันอยู่ไม่น้อยเมื่อเขาได้ยินว่าหลงซิ่วปกปิดเรื่องของอิ่นนั่วเจียกับเขา เขาก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมาทันทีหากคุณไม่ได้บอกผมให้ชัดเจนก่อนที่คุณจะจากไปผมจำเป็นต้องตกไปอยู่ในมือของหลินเฟิงงั้นเหรอ?จวงฉุนตัดสินใจ คำพูดก็ราบรื่นมากขึ้น“ใช่ครับ คุณอิ่นนั่วเจียบอกผมเอง แต่ว่า...”"แต่ว่าอะไร?"หลงซิ่วที่ปลายสายโทรศัพท์ขมวดคิ้วเล็กน้อย“แต่คุณอิ่นนั่วเจียบอกว่าเธอได้เซ็น
จวงฉุนคิดว่าคำพูดนี้สมบูรณ์แบบไร้ที่ติขณะที่จวงฉุนกำลังจมอยู่กับจินตนาการของเขา หลินเฟิงก็ยื่นมือออกไปและโบกไปมาตรงหน้าจวงฉุน“การปล้นทำลายของพวกนายในครั้งนี้ ได้ทำลายสินค้าของหลี่ซื่อกรุ๊ปของฉันมูลค่าสองหมื่นห้าพันล้านบาทเต็มๆ เพียงแค่นายสามารถชดเชยเงินสินค้าเหล่านี้ให้เราได้ ฉันก็จะไม่ถือสาเอาความ”"สองหมื่นห้าพันล้านบาท?"เมื่อได้ยินตัวเลขนี้ อิ่นนั่วเจียที่อยู่ข้างๆ ก็เปิดริมฝีปากสีแดงของเธอออกครู่หนึ่ง เธอก็ส่ายหัวอย่างจนปัญญาหลินเฟิงกำลังพยายามกรรโชกเงินอยู่เหรอ!"เป็นไปไม่ได้!"เห็นได้ชัดว่าจวงฉุนก็ตกใจกับจำนวนเงินมหาศาลนี้อย่าว่าแต่ยี่สิบห้าล้านบาทเลย แม้แต่ห้าพันล้านบาทเขาก็ยังไม่มี จะอุดรูโบ๋นี้ได้อย่างไรหลินเฟิงรีดไถมากเกินไปจริงๆ“แน่นอนว่าหลี่ซื่อกรุ๊ปของฉันไม่สนใจเงินจำนวนน้อยๆ นี้ แต่ฉันแค่อยากเห็นท่าทางของคุณ”“เป็นไงบ้าง?”หลินเฟิงจ้องมองจวงฉุนด้วยความสนใจอย่างยิ่ง ต้องการดูว่าคนๆ นี้จะหาเงินได้มากเท่าไหร่เพื่อเอาชีวิตรอดได้ในเมื่อเสียหายหนึ่งหมื่นล้านบาท หลินเฟิงต้องหาชดเชยมาจากที่อื่น"ดี...ดีครับ!"จวงฉุนรู้ดีว่าวันนี้เขาไม่มีสิทธิ์ต่อรองกับหลิ
“ตอนนี้ ฉันถามพวกนายตอบ”หลินเฟิงค่อยๆ เดินเข้าไปหาจวงฉุน เหยียดมองลงที่ชายผู้ล้มอยู่บนพื้น และตกใจจนหน้าซีดเผือด“คุณ...คุณว่ามาครับ คุณว่า...ผม...ผมจะบอกคุณทุกอย่าง”จวงฉุนในตอนนี้รู้สึกกลัวจนสติแตก ไม่รู้ว่าตัวเองกำลังพูดอะไรอยู่“เมื่อวาน อุปกรณ์ไฮเอนด์ล็อตหนึ่งของหลี่ซื่อกรุ๊ป ถูกคนขโมยและทำลายระหว่างทาง...”“เป็นฝีมือพวกผม!”เมื่อจวงฉุนได้ยินเช่นนี้ น้ำตาก็เริ่มไหลออกมา รีบยอมรับทันทีเขากราบหลินเฟิงไม่หยุดและพูดว่า:“ขอโทษครับคุณหลิน เรื่องนี้พวกเราเป็นคนทำจริงๆ แต่เราแค่ถูกใช้เป็นปืนเท่านั้น! หลงซิ่วจากตระกูลหลงสั่งให้พวกเราทำ เขาสั่งให้พวกเราทำ พวกเราก็ไม่กล้าขัดคำสั่งนะครับ!”การได้ยินคำวิงวอนของจวงฉุนซึ่งแทบจะเป็นเหมือนการขอความเมตตาเริ่นโหย่วไฉที่อยู่ข้างๆ ส่งเสียงไม่พอใจในลำคอต้องรู้ไว้ว่า ผู้ชายคนนี้เคยคุยโม้กับเขามาก่อนว่า เขาทำได้ดีแค่ไหนและเผาผลาญมันได้คล่องแคล่วแค่ไหนท่าทางหยิ่งยโส มีท่าทางเหมือน “ถูกบังคับ” ที่ไหนกัน?แต่ตอนนี้เริ่นโหย่วไฉไม่กล้าที่จะพูดอะไรเกรงว่าจะเดินตามรอยของสวีโจวการตายแบบนี้ มันน่าหวาดกลัวมากเกินไป ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยด้วยซ
“พวกเราไม่จำเป็นต้องซ่อนตัวอยู่ในเมืองเจิ้งเต๋ออีกต่อไป!”“ทุกคนฟังคำสั่งของฉัน ลุย!”คำสั่งของจวงฉุนมีน้ำหนักมากกว่าคำสั่งของสวีโจวอย่างเห็นได้ชัดไม่ใช่แค่เพราะเงื่อนไขที่จวงฉุนเสนอมาดึงดูดพวกเขามากเท่านั้น แต่ยังเป็นเพราะพวกเขาไม่เคยรู้ถึงความสามารถของหลินเฟิงว่าเป็นอย่างไรกันแน่คนธรรมดาหลายคนรวมกันอาจเปรียบเป็นขงเบ้งได้ในความคิดของพวกเขา ความสามารถของหลินเฟิงเป็นอย่างไรกันแน่ พวกเขาก็มองไม่เห็นแต่สิ่งที่เป็นความจริงคือพวกเขากลับสามารถมองเห็นข้อได้เปรียบของพวกเขาจากจำนวนคนบวกกับพลังอำนาจของหลงซิ่วด้วยหลังจากครุ่นคิดซ้ำแล้วซ้ำเล่าอยู่ที่เดิม นักบู๊ตระกูลหลงประมาณสิบกว่าคนในที่สุดก็ตัดสินใจได้แล้ว และล้อมรอบหลินเฟิงเอาไว้ทีละคนวันนี้สู้ดูสักตั้งถ้าไม่สำเร็จก็ต้องตาย!"แม่งเอ๊ย จวงฉุนไอ้สารเลวตัวน้อย!"ในที่เกิดเหตุมีเพียงสวีโจวเท่านั้น ที่รู้ว่าการปิดล้อมครั้งนี้เป็นการไปตายโดยที่ไม่ต้องคิดด้วยซ้ำเขาเกลียดจวงฉุนมาก จนถึงขั้นมีความคิดอยากฆ่าเขาด้วยซ้ำแต่ทว่าจวงฉุนกลับแสยะยิ้มมองดูสวีโจว และพูดอย่างเย็นชา:“สวีโจว อย่าทำเป็นเสแสร้งอยู่ตรงนี้ รอให้ภารกิจในครั้งน
"อะ......"จางฉุนไม่เข้าใจว่าหลินเฟิงกำลังพูดอะไร เขาพาคนเหล่านี้มาที่นี่ เป้าหมายเพียงเพื่อจับตัวอิ่นนั่วเจียไปเขารู้ว่าหลินเฟิงเป็นนักบู๊และจัดการยากสักหน่อยเพราะงั้นถึงเรียกคนของตัวเองมาแต่อะไรที่เรียกว่า “พาผู้กระทำความผิดมาตรงหน้าเขาโดยตรง” ?ในตอนนี้เอง สวีโจวที่อยู่ไกลออกไปก็คำรามออกมาอย่างกะทันหัน“นาย... ฉันจำได้ นายคือหลินเฟิง! นายคือ... นายคือคนของหลี่ซื่อกรุ๊ป! หลินเฟิงหัวหน้าแผนกรักษาความปลอดภัยของหลี่ซื่อกรุ๊ป!”"อะไรนะ?"เมื่อได้ยินชื่อนี้ จางฉุนก็หันหน้ามองไปที่หลินเฟิงด้วยสีหน้าที่น่าเหลือเชื่อเพราะเขาเคยได้ยินชื่อหลินเฟิงเขาได้ยินมาจากหลงซิ่วว่า ข้อห้ามประการเดียวในการปฏิบัติการครั้งนี้คือการปะทะกับหลินเฟิงตัวซวยคนนี้หลงซิ่วเตือนจางฉุนซ้ำแล้วซ้ำเล่าให้ระวังหลินเฟิงแต่เขาคิดไม่ถึงว่าเรื่องราวจะพัฒนาไปเกินความคาดหมายของเขา“โอ้? ดูท่าพวกคุณจะรู้จักผม”หลินเฟิงเดินออกมาพร้อมกับรอยยิ้มจากนั้นรัศมีแห่งความหวาดกลัวก็ค่อยๆ แผ่ออกมาจากร่างกายของเขา อุณหภูมิทั่วทั้งห้องทำงานก็ลดลงมากกว่าสิบองศาในพริบตาเดียวแม้แต่ชาที่มีไอร้อนลอยออกมาเมื่อครู่นี้บนโต๊ะ
“บ้าเอ๊ย ทนไม่ไหวแล้ว!”จวงฉุนรีบถีบประตูห้องทำงานของหัวหน้าโรงงานทันทีสิ่งแรกที่เขาเห็นคือเริ่นโหย่วไฉที่เหงื่อไหลท่วมตัวและยืนอยู่ตรงนั้นอย่างโง่เขลาและอิ่นนั่วเจียผู้มีเสน่ห์กำลังนั่งอยู่บนโซฟา“อิอิอิ…”จวงฉุนเลียริมฝีปากและเผยรอยยิ้มหื่นกามออกมาทันทีตอนนี้เขาโยนคำพูดของเริ่นโหย่วไฉไปไกลโพ้นทันที เพียงแค่จ้องมองไปที่หุบเขาที่คอเสื้อของอิ่นนั่วเจียแล้วแสยะยิ้มพูดว่า:“คุณอิ่นนั่วเจีย ผมมารับคุณแล้ว”"โอ้?"ใครจะไปรู้ว่ารอยยิ้มของจวงฉุนไม่ได้ทำให้อิ่นนั่วเจียตกใจหรืองุนงง เธอยิ้มให้จวงฉุนแล้วพูดว่า:"ฉันรอคุณมานานแล้ว""รอผม?"จวงฉุนตกใจเล็กน้อย จากนั้นก็หัวเราะออกมา“ที่แท้คุณหญิงอิ่นนั่วเจียก็สนใจผมด้วย ดังนั้นการเตรียมการทั้งหมดนี้เกินความจำเป็นไปแล้ว!”ขณะที่จวงฉุนกำลังหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง สวีโจวที่เดินเข้ามาเห็นอิ่นนั่วเจียและหลินเฟิงกำลังนั่งอยู่ที่เก้าอี้เถ้าแก่ในห้องทำงาน สีหน้าของเขาดูตกตะลึงเล็กน้อย“พี่สวี มีอะไรหรือเปล่า?”นักบู๊ตระกูลหลงที่อยู่ด้านหลังเขาเห็นท่าทางแปลกๆ ของสวีโจว จึงรีบถามแต่สวีโจวกลับไม่สนใจคนข้างหลังเขา กลับก้าวไปข้างหน้าและคว้าแขน