หลี่ฮุ่ยหรานขมวดคิ้ว“งั้นลุงพูดแล้วนะ ฮุ่ยหราน ถ้าหนูได้ฟังแล้ว อย่าเพิ่งรีบร้อนก่อนนะ ตกลงไหม?”“อืม”หลี่ฮุ่ยหรานตอบรับหลี่กงเฉิงพูดจริงจังที่ในโทรศัพท์:“อาทั้งสองคนของหนูช่วงนี้กลับมาแล้ว พวกเขารู้เรื่องฟาร์ม จึงเอะอะโวยวายกับลุง และยังมีปู่รอง”หลี่กงเฉิงหยุดชะงักและพูดต่อ:“เมื่อคืน นักเลงกลุ่มใหญ่จู่ๆ บุกเข้าไปในฟาร์ม ทำลายข้าวของ สร้างความเสียหายให้ฟาร์มเป็นอย่างมาก”“อะไรนะ?!”ได้ยินข่าวนี้ ไม่เพียงหลี่ฮุ่ยหรานกับถังหว่าน ต่อให้เป็นหลินเฟิงก็เผยสีหน้าโมโหออกมา“เรื่องนี้ลุงบอกกับปู่รองของหนูในทันที พวกเราคาดเดาว่าเป็นอาทั้งสองของหนูส่งคนไปทำ”“ปู่รองของหนูให้คนไปจับอาทั้งสองคนของหนุแล้ว แต่ตอนนี้พวกเขาไม่ยอมรับ พวกเราก็ทำอะไรไม่ได้”ได้ยินคำพูดจนปัญญาของหลี่กงเฉิง หลินเฟิงแย่งชิงโทรศัพท์ของหลี่ฮุ่ยหรานไปทันที และถามอย่างรีบร้อน:“ลุงหลี่ น้ำยาที่ผมใส่ไว้ในห้องเก็บของที่ฟาร์มล่ะครับ? ยังอยู่ไหม?”“อ๊ะ คุณหลินเฟิงเหรอครับ...”หลี่กงเฉิงที่อยู่ในโทรศัพท์พูดด้วยความรู้สึกผิด:“ถ้าหากยาสีเขียวที่อยู่ในถังใหญ่ที่คุณพูดถึง ทั้งหมด...ทั้งหมดถูกเททิ้งแล้ว ไม่เหลือเหล
เพื่อประหยัดเวลาในการกลั่นน้ำยา หลินเฟิงติดต่อถังเจี้ยนหยวนใหม่อีกครั้งตอนนี้ถังเจี้ยนหยวนมองดูสถานการณ์ชัดเจนแล้วความสัมพันธ์ของตระกูลถังกับตระกูลหลงแทบจะไม่มีทางฟื้นฟูความสัมพันธ์กันได้อีกแล้วดังนั้นสำหรับเรื่องแต่งงานของถังหว่าน โอนเอนไปทางหลินเฟิงเรียบร้อยแล้ว แต่ไม่ใช่หลงยวนได้ยินความต้องการของหลินเฟิงถังเจี้ยนหนวนไม่มีความลังเลใดๆ ตอบรับได้อย่างถึงใจเขานำสมุนไพรสมบัติล้ำค่าจำนวนมหาศาลในคลังสมบัติของตัวเองออกมา ในนั้นมีสมบัติอายุหนึ่งร้อยปีอยู่หลายชิ้นนี่จึงทำให้หลินเฟิงทอดถอนใจไม่ได้ ไม่เสียแรงที่เป็นตระกูลถังของเมืองจิง มีเงินก็สามารถใช้ทำอะไรก็ได้จริงๆ ก่อนหน้านี้ตัวเองตามหาสมุนไพรสมบัติล้ำค่าอายุร้อยปีด้วยเวลาที่นานขนาดนี้ที่เมืองเจียงโจว คิดไม่ถึงว่าในมือของถังเจี้ยนหยวนไม่นับประสาอะไรกันแม้แต่ทางด้านศูนย์การแพทย์ตระกูลเลี่ยวก็นำสมุนไพรสมบัติล้ำค่าออกมาช่วยเหลือหลินเฟิงถึงแม้สมุนไพรสมบัติล้ำค่าที่สองตระกูลนี้ให้มา ต่างก็สู้แก่นสารจวี้คังที่หลินเฟิงพบเจอที่งานประมูลโดยบังเอิญไม่ได้แต่ใช้แก้ขัดก็เพียงพอแล้วคืนนั้น หลินเฟิงนั่งเครื่องบินส่วนตัวที่ถังเจี้ย
“เอาเป็นว่าฉันไม่ค่อยเข้าใจ บอกว่าภายในสำนักร้อยพิษสร้างทักษะการเร่งสุกอะไรสักอย่าง ผลปรากฏว่าแม่ของฉันก็คือหนึ่งในผลงานทดลองของพวกเธอ”“ส่วนเลือดของฉัน ก็คือสมบัติที่แม่ของฉันทิ้งไว้ให้ฉัน มีผลในการเร่งสุกวัตถุดิบยา”พูดถึงตรงนี้ อวี๋จื่อเสวียนน้ำเสียงผ่อนคลายพูดว่า:“พูดตามตรงนะ อาจารย์หลิน ตั้งแต่เล็กพ่อของฉันปกป้องฉันได้ดีมากๆ ฉันกลับไม่เคยรู้มาก่อนว่าเลือดของฉันจะมีผลลัพธ์แบบนี้“แน่นอนว่า ฉันก็ไม่แน่ใจว่ามีผลจริงหรือเปล่า นี่คือเรื่องที่พ่อบอกกับฉัน”“......”ได้ยินอวี๋จื่อเสวียนพูดเยอะขนาดนี้ในครั้งเดียวหลินเฟิงถึงได้เข้าใจแล้วว่าทำไมตอนนั้นอาอวี๋ถึงได้ปกป้องอวี๋จื่อเสวียนได้ใส่ใจขนาดนี้ ส่วนภายในของอวี๋จื่อเสวียมีตราสัญลักาณ์บู๊ได้อย่างไรแต่เมื่อคิดดูแล้ว หลินเฟิงก็ยังส่ายหน้าปฏิเสธ“จื่อเสวียน ฉันเข้าใจความหมายของเธอ แต่ตอนนี้ฉันมีสมุนไพรที่ได้รับมาเพียงพอแล้ว เธอไม่ต้อง ไม่ต้องเป็นห่วง“ดังนั้น...”ไม่รอให้หลินเฟิงพูดจบ อวี๋จื่อเสวียนก็หยิบมีดด้ามเล็กขึ้นมา ทิ่มไปที่นิ้วมือของตัวเอง หยุดเลือดแดงสดไหลออกมาจากปลายนิ้วมือของเธอทันที“เธอ...”ดูสีหน้าฝืนใจของเด็กค
แต่หลังจากที่หลินเฟิงผสมเลือดของอวี๋จื่อเสวียนเข้าไปหนึ่งหยดน้ำยาที่ผสมกันออกมาแล้วถึงแม้ไม่มีความเปลี่ยนแปลงอย่างอื่น แต่อายุที่ตกตะกอนกลับเพิ่มมากขึ้นจนน่าหวาดกลัวน้ำยาที่ผสมกันออกมาเหมือนกับหลินเฟิงใช้ยาสมุนไพรห้าร้อยปีกลั่นออกมา ประสิทธิภาพดีกว่ายาที่หลินเฟิงกลั่นออกมาเมื่อครั้งที่แล้วอีก สามารถพูดได้ว่ามีแต่เพิ่งไม่มีลดน้อยลง!ต่อให้หลินเฟิงดื่มเข้าไปเอง ก็ทำให้พลังชี่แท้ภายในร่างกายแข็งแกร่งขึ้น ความสามารถเพิ่มขึ้นเป็นกอง!“นี่มัน...”หลินเฟิงนิ่งอึ้งอยู่ที่เดิม ไม่สามารถสงบจิตใจได้เป็นเวลานานประสิทธิภาพของเลือดอวี๋จื่อเสวียนนั้นน่ากลัวเกินไปแล้ว ตัวเธอเป็นเหมือนกับยาอายุวัฒนะทที่เดินได้เชียวนะไม่น่าแปลกใจที่อาอวี๋ปกป้องอวี๋จื่อเสวียนจนถึงขั้นนี้ถึงขั้นที่แม้แต่เขาก็ยังต้องป้องกันเอาไว้นี่ถ้าหากถูกสำนักร้อยพิษรู้จัก อวี๋จื่อเสวียนก็จบเห่แล้ว!จุดจบของเธอเกรงว่าคงต้องถูกขับตลอดชีวิต กลายเป็นทาสเลือดของสำนักร้อยพิษคิดถึงตรงนี้ ในที่สุดหัวใจที่บีบรัดจากความเครียดก็ผ่อนคลายลงมีเลือดขวดเล็กนี้ที่อวี๋จื่อเสวียนให้มา ไม่เพียงเขาสามารถนำยาทั้งหมดกลั่นออกมาได้สำเร็จ
หลิ่วเยว่ฟางก็อดทนไม่ไหวแล้ว จึงบ่นพึมพำกับสามีอย่างไม่พอใจ“หึ ฉันให้พวกเขาสองคนเลี้ยงดูฉันจนแก่ตายงั้นเหรอ? งั้นฉันไม่สู้ไปหาหมาข้างถนนเลี้ยงดูฉันจนแก่ตายซะดีกว่าอีก!”นายท่านอารมณ์ฉุนเฉียว ด่าทอขึ้นมาโดยตรง:“คุณดูสวะสองตัวนี้ ตอนนั้นที่จากไปฉันให้เงินพวกเขาไปเท่าไหร่? บอกว่าจะดิ้นรนจนได้ดิบได้ดี“คุณดูสิ ตอนนี้ไม่ได้ใช้ชีวิตเป็นผู้เป็นคน กลับกันนั้นยิ่งอยู่ยิ่งเลวขึ้น!”“พ่อ พ่อพูดแบบนี้ก็เกินไปหน่อยแล้ว”หลี่อิงเฉิงขมวดคิ้วเถียงกลับ“ฉันพูดเกินเหตุไป?”นายท่านหลี่ไห่หงถูกทำให้โมโหจนหัวเราะออกมา เขาตบโต๊ะ พูดเสียงดัง:“ได้ งั้นฉันถามพวกนายสิ ตอนนั้นพวกนายบอกว่าจะออกไปพัฒนาตัวเอง ฉันให้เงินทุนพวกนายไปคนละสองพันห้าร้อยล้านบาท ตอนนี้ล่ะ?”“พวกนายบอกสิ่งที่พวกนายทำในหลายปีมานี้ รายงานให้ฉันฟังสิ”“ถ้าหากพวกนายทำให้ฉันพอใจได้ ฉันก็จะด่าตัวเองว่าเป็นสวะ เป็นคนตาบอด พอใจไหม?”ได้ยินพ่อของตัวเองพูดแบบนี้ หลี่ก่วงเฉิงกับหลี่อิงเฉิงต่างก็ก้มหน้าลง ตกอยู่ในความเก้กัง ไม่กล้าตอบกลับเพราะว่าเงินทุนยี่สิบห้าล้านบาทที่พ่อให้พวกเขา ถูกพวกเขาล้างผลาญไปหมดแล้วครั้งนี้กลับมา ก็เป็นเพร
งานเลี้ยงอาหารค่ำสุดแสนวิเศษกลายเป็นแบบนี้ตอนที่นายท่านหลี่ไห่เจียงกำลังจะด่าคน แต่ทว่าหลี่ฮุ่ยหรานกลับลุกขึ้นยืนโดยตรงเธอหยิบแก้วไวน์ขึ้นมา ก่อนจะพูดด้วยแววตาที่ภาคภูมิใจว่า:“อาอิงเฉิง อาก่วงเฉิง ฉันเข้าใจที่พวกคุณไม่เชื่อในความสามารถที่แข็งแกร่งของคนอื่น ในเมื่อพวกคุณไม่มีความสามารถ เพราะงั้นจึงรู้สึกว่าคนอื่นไม่มีความสามารถเช่นเดียวกับพวกคุณ”“ฉันยอมรับว่าที่ฉันมีทุกอย่างในวันนี้ ทั้งหมดล้วนยืมชื่อเสียงของหลินเฟิง สามีของฉันมาไม่น้อย แต่ต่อให้ไม่มีหลินเฟิง ฉันหลี่ฮุ่ยหรานก็ไม่อาจเป็นเหมือนกับพวกคุณได้ ที่เต็มใจใช้ชีวิตอย่างไร้สาระและไม่มีความสำเร็จอะไร”“ผลาญเงินที่ปู่ให้ จากนั้นก็กลับมาด้วยความสิ้นหวัง”เมื่อได้ยินคำพูดดูถูกที่วิจารณ์พวกเขาของหลี่ฮุ่ยหราน ท่าทางของชายวัยกลางคนทั้งสองก็ดูแย่มากในทันที“ถึงแม้ว่าฉันจะเป็นผู้หญิง แต่ความละอายในใจของฉันก็ยังมีมากกว่าของพวกคุณ อย่างน้อยฉันดีไม่พอ ก็ไม่สามารถพูดประเมินค่าคนอื่นต่ำๆ ได้”“ถึงขั้นการกล่าวหาเรื่องส่วนตัว”จากนั้นหลี่ฮุ่ยหรานก็มองไปที่หลี่เยว่หรูที่อยู่ไกล ๆก่อนจะพูดอย่างใจเย็นว่า“เยว่หรู ก่อนหน้านี้พวกเราไปดูง
“เยว่หรู เธอก็ไม่ถูกชะตากับหลี่ฮุ่ยหรานใช่ไหม?”เมื่อหลี่ก่วงเฉิงกับหลี่อิงเฉิงเห็นหลี่เยว่หรู ไม่เพียงแต่จะไม่หลีกเลี่ยงเท่านั้น แต่หลี่ก่วงเฉิงยังเข้ามาถามใกล้ ๆอย่างตรงไปตรงมา“ใช่แล้ว”หลังจากตะลึงงันไปชั่วครู่หลี่เยว่หรูก็แสดงท่าทางการกัดฟันออกมาเธอถูกหลี่ฉุ่ยหรานข่มมาโดยตลอด เมื่อนึกถึงรูปลักษณ์ที่เย่อหยิ่งของหลี่ฮุ่ยหรานในคืนนี้ ความไม่พอใจต่อหลี่ฮุ่ยหรานในใจของเธอก็ถึงระดับวิกฤติซะแล้วขาดแค่โอกาศที่จะระเบิดออกมาหลี่อิงเฉิงกับหลี่ก่วงเฉิงมองหน้ากัน พวกเขาทั้งคู่มองเห็นความยินดีในแววตาของกันและกันคิดแบบไหนก็ได้แบบนั้นจริงๆ พวกเขาที่เพิ่งจะพูดคุยถึงวิธีจัดการหลี่ฮุ่ยหราน แต่ก็ยังขาดจุดสำคัญที่สุดอยู่ นั่นก็คือจะทำยังไงถึงจะนัดให้หลี่ฮุ่ยหรานออกมาตราบใดที่หลี่ฮุ่ยหราน “หายไป” ฟาร์มแห่งนี้ก็จะตกเป็นพวกเขาสองพี่น้องในที่สุดจริง ๆแล้วพวกเขาอยากได้ที่ดินนี้มาตั้งนานแล้วอันที่จริงพวกเขาก็แอบไม่พอใจพ่อของตัวเองมาตลอด ถ้าหากหลี่ไห่เจียงยอมอ่อนข้อให้เร็วกว่านี้ แล้วมอบที่ดินนี้กับพวกเขาพวกเขาจะใช้เงินที่หลี่ไห่เจียงมอบให้ไปเปิดโรงงานไม่ว่าจะพูดยังไงก็คงไม่มีทางมี
“แม้ว่าพวกเราจะไม่สามารถเป็นผู้นำได้ ให้เยว่หรูมาเป็น ก็ดีกว่าหลี่ฮุ่ยหรานตั้งเยอะ!”หลี่ก่วงเฉิงพูดส่งเสริม“ใช่ ๆเยว่หรู เธอก็เป็นหนึ่งในตัวเลือกผู้นำตระกูล แถมยังได้รับการสนับสนุนจากย่ารองของเธอด้วย ไม่ด้อยไปกว่าหลี่ฮุ่ยหราน ถ้าหากหลี่ฮุ่ยหรานหายไปแบบนี้แล้วละก็....”หลี่อิงเฉิงหรี่ตา และแสดงท่าทางที่รู้กันออกมา“งั้นฉันก็จะได้เป็นผู้นำแล้ว....”หลี่เยว่หรูพึมพำกับตัวเอง จากนั้นดวงตาก็เปล่งประกายอย่างมาก ก่อนที่จะยิ้มออกมาอย่างภาคภูมิใจ“ใช่แล้ว เยว่หรู เธอก็จะได้เป็นผู้นำตระกูลหลี่เมืองเจียงหนานของพวกเราแล้ว!”หลี่ก่วงเฉิงพยักหน้าอย่างเด็ดเดี่ยว“ฉัน ยังมีอาอิงเฉิงของเธอที่ต่างก็สนับสนุนเธอด้วย!”“ใช่แล้วเยว่หรู ตราบใดที่กำจัดหลี่ฮุ่ยหรานได้ ตระกูลหลี่ก็จะสามารถคืนกลับมาอยู่ในมือของตระกูลหลี่เมืองเจียงหนานของพวกเราอีกครั้ง!”หลี่อิงเฉิงเอาแต่พูดหลอกให้หลี่เยว่หรูลุ่มหลงมัวเมาแต่จริง ๆแล้วทั้งสองคนคิดมากเกินไปแล้วหลี่เยว่หรูที่อยากจะจัดการกับหลี่ฮุ่ยหรานที่ไม่ใช่หนึ่งหรือสองวัน เพียงแต่เธอไม่ได้หาโอกาส เพราะอย่างนั้นจึงอยู่เฉย ๆ มาโดยตลอดในเวลานี้คุณอาทั้งสองได้ให้โอ
จางกุ้ยหลานถูกหลอกให้ซื้อที่ดินแห่งนี้เอาไว้ นั่นก็คือที่ดินที่ฉู่ฮวาจิ่นบอกหลินเฟิงก่อนหน้านี้ว่า มูลค่าจะเพิ่มขึ้นไม่ใช่แค่สิบเท่าอย่ามองว่าหลินเฟิงตอนนี้ใช้เงินสองพันห้าร้อยล้านบาทซื้อที่ดินเอาไว้ผ่านไปอีกสองเดือน เกรงว่ามูลค่าของที่ดินแห่งนี้จะพุ่งขึ้นสูงด้วยความเร็วจรวด ไม่ใช่แค่เพียงสองหมื่นห้าพันล้านบาท!จางกุ้ยหลานกับจางซินและคนอื่นๆ ยังหัวเราะเยาะหลินเฟิงว่าเป็นคนโง่ที่ถูกหลอกให้ใช้จ่ายเงินเมื่อดูแบบนี้แล้ว อันที่จริงพวกเธอต่างหากที่เป็นคนโง่มากที่สุด ถ้าหากพวกเธอได้รับรู้ข่าวสารนี้ภายหลัง จะต้องโมโหจนโรคหัวใจกำเริบหลินเฟิงบอกเรื่องนี้กับหลี่ฮุ่ยหรานช้าๆหลี่ฮุ่ยหรานอ้าปากกว้างในทันที และมีใบหน้าตกตะลึง“นี่มันเรื่องจริงเหรอ?!”“น่าจะผิดพลาดไม่ได้”หลินเฟิงพยักหน้า เพื่อเป็นการยืนยัน แถมยังโทรศัพท์ไปหาจ้าวเว่ย ต่อหน้าหลี่ฮุ่ยหรานจ้าวเว่ยถึงแม้จะเป็นเพียงแค่ผู้จัดการที่ควบคุมงานประมูล แต่ในฐานะพนักงานภายในหน่วยงานพัฒนาเมืองเจิ้งเต๋อ ก็ยังสามารถได้ยินข่าวคราวนโยบายอยู่บ้างเขาได้ยินการสอบถามของหลินเฟิง พูดขึ้นด้วยสีหน้าสงสัย:“คุณหลิน เรื่องพื้นที่พักอาศัยผมไม่ท
รับสมัครพวกแก๊งเขี้ยวเขียวเหล่านี้ หลังจากที่หลินเฟิงจัดแจงพวกเขาให้พักอาศัยอยู่ในที่แห่งนี้เพิ่งขึ้นรถ บนใบหน้าก็เผยความดิ้นรนที่แปลกประหลาดออกมา“เป็นอะไรไปหลินเฟิง มีตรงไหนผิดปกติงั้นเหรอ?”หลี่ฮุ่ยหรานรีบถามขึ้นมา“ไม่ใช่”หลินเฟิงมองหลี่ฮุ่ยหรานด้วยความประหลาดใจ สุดท้ายก็ทำการตัดสินใจ ทอดถอนใจพูดว่า:“ฉันพูดความจริงกับนายแล้วกัน วันนั้นลูกค้าที่ชื่อคุณฉู่คนนั้นของคุณ อันที่จริงคือมือสังหารหญิงอันดับหนึ่งของลำดับมืด”“อะไรนะ?!”หลี่ฮุ่ยหรานงุนงง ถึงแม้เธอคิดว่าคุณฉู่คนนั้นจะท่าทางไม่ธรรมดา อีกทั้งดูก็รู้ว่าเป็นคนที่มีเบื้องหลัง แต่พูดว่าเป็นมือสังหารหญิงอันดับหนึ่งของลำดับมืดความแตกต่างของสถานะนี้มันมากเกินไปหน่อยแล้วหลี่ฮุ่ยหรานตกตะลึงจนพูดไม่ออกอยู่ครู่หนึ่งผ่านไปครู่ใหญ่ เธอถึงได้รู้สึกคอแห้งผาก มองไปทางหลินเฟิง และพูดขึ้นอย่างยากลำบาก: “ความหมายของคุณก็คือ...หลี่ซื่อกรุ๊ปล้มเลิกการร่วมมือกับเธองั้นเหรอ?”“ไม่ ผมไม่ได้หมายความแบบนี้”หลินเฟิงส่ายหน้าแล้วพูดเสียงเคร่งขรึมว่า:“เธอไม่ได้ตั้งใจปิดบังสถานะของเธอต่อหน้าผม แต่กลับบอกผมโดยตรงผ่านวิธีบางอย่าง“งั้นเธอ
หลินเฟิงโบกมือพูดว่า: “ฉันไม่มีความคิดที่จะเป็นหัวหน้าแก๊งอะไรหรอกนะ เพียงแคร ต่อไปพวกนายห้ามทำความชั่วอีก”หลินเฟิงจับทรงผมโมฮอร์กของจิ่วเทา และสะบัดไปมาจากนั้นพูดว่า:“ตัดผมให้เรียบร้อย ฉันจะส่งคนมารับช่วงต่อ ส่งชุดฟอร์มที่เหมือนกันมาให้พวกนาย นับตั้งแต่วันนี้ พวกนายก็คือสมาชิกหน่วยใต้ดินของหน่วยรักษาความปลอดภัยของหลี่ซื่อกรุ๊ปแล้ว!”“ฮะ?”จิ่งเทาตั้งตัวไม่ทัน“ฮะอะไรกันล่ะ? หรือว่าพวกนายไม่เต็มใจ?”หลินเฟิงกวาดตามองพวกอันธพาลเหล่านี้ พวกอันธพาลส่วนหนึ่งในนั้นคุกเข่าให้หลินเฟิงด้วยความซาบซึ้งทันทีในเมื่อการเป็นอันธพาล บางครั้งไม่ใช่ว่าพวกเขาอยากเป็นจริงๆแต่เป็นเพราะเกิดมาฐานะไม่ดี ไม่มีความรู้อะไร และก็ไม่มีความสามารถ ดังนั้นทำได้เพียงใช้ชีวิตไปวันๆแบบนี้สู้รบฆ่าฟันแต่ได้ยินข่าวที่พวกเขาถูกบริษัทใหญ่รับจ้าง คนจำนวนไม่น้อยมีสีหน้าต่อต้าน แต่ก็มีคนเผยความหวังออกมาเช่นกัน“คือว่า…หัวหน้าหลิน มี…มีเงินเดินไหม?”อันธพาลคนหนึ่งถามขึ้นกล้าๆ กลัวๆ“พูดไร้สาระ ประกันสังคม 5 รายการ และกองทุนที่อยู่อาศัย 1 รายการ แล้วยังมีเงินเบี้ยเลี้ยง เงินค่าอาหาร หรือถ้าพวกนายอยากคลอดลูกข ก
หลินเฟิงคิดไปชั่วครู่ ก่อนจะเอ่ยว่า : ในเมื่อเป็นแบบนี้ ฉันมีเงื่อนไขในการ่วมมืออย่างหนึ่ง ไม่รู้ว่านายจะยอมฟังหรือเปล่า?” “ เงื่อนไขอะไร?”ท่านจิ่วตกตะลึงไปชั่วครู่ ก่อนที่เขาจะมองไปทางหลินเฟิงด้วยแสงแห่งความหวังที่ผุดขึ้นในใจหากไม่ต้องออกจากเมืองเจิ้งเต๋อ พวกเขาก็คงไม่อยากออกไปอย่างแน่นอน“ฉันจะจัดการแก๊งอีกสองแก๊งให้พวกนาย ทำให้พวกนายยังอยู่ในเมืองเจิ้งเต๋อต่อไปได้”“แน่นอน เงื่อนไขก็คือพวกนายจะต้องยอมเชื่อฟังหลี่ซื่อกรุ๊ป ซึ่งก็คือ....”หลินเฟิงชี้ไปที่หลี่ฮุ่ยหราน ก่อนจะพูดอย่างยิ้ม ๆว่า :“คนนี้ ประธานของหลี่ซื่อกรุ๊ป ประธานหลี่”“อ่ะ?!”หลี่ฮุ่ยหรานรู้สึกสับสนอันธพาลที่อยู่โยรอบ รวมถึงท่านจิ่วต่างก็รู้สึกสับสน“ทำไม? พวกนายไม่ยอมรับงั้นเหรอ?”หลินเฟิงขมวดคิ้วอย่างจงใจ“ยอมสิ ยอมแน่นอน เพื่อนและครอบครัวของพวกพี่น้องหลายๆ คนของพวกเราต่างก็อยู่ในเมืองเจิ้งเต๋อ เว้นแต่ไม่มีทางเลือก พวกเราก็ไม่ยอมออกไปจากเมืองเจิ้งเต๋อหรอก เพียงแต่...”ท่านจิ่วรู้สึกลำบากใจ“เพียงแต่อะไร?”“เพียงแต่....”ท่านจิ่วจ้องมองไปที่หลินเฟิง แต่ก็ไม่สามารถพูดออกไปได้จริง ๆเขาก็อยากจะพูดว
ดูเหมือนว่าอันธพาลแก๊งหมาป่าสีเลือดพวกนี้ต้องการที่จะหนีหลินเฟิงก้าวไปข้างหน้าขัดขวางทางหลบหนีของท่านจิ่วก็เลยได้แต่บอกว่าหลินเฟิงชื่นชมท่านจิ่วอย่างมากเขายอมรับว่า หมัดที่ตัวเขาเองเพิ่งจะปล่อยออกไปนั้นเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น แต่เพราะหมดนี้ท่านจิ่วกลับสามารถรับรู้ถึงความแข็งแกร่งของตัวเขาเองได้ในทันที และตัดสินว่าพวกเขานั้นไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหลินเฟิงการยอมรับความพ่ายแพ้อย่างไม่มีขอบเขตหากพูดจากมุมมองนี้ ท่านจิ่วก็เป็นคนที่ตรงไปตรงมาคนหนึ่ง“คิดจะหนี? จบแล้ว”หลินเฟิงพูดซ้ำกับสิ่งที่ท่านจิ่วเคยพูดไว้เหมือนเดิมทุกประการกลับคืนไป จากนั้นเขาก็ยิ้มพร้อมกับพูดขึ้นว่า :“ท่านจิ่ว...ที่นี่น่าจะไม่ใช่สมาชิกของแก๊งหมาป่าสีเลือดทั้งหมดหรอกใช่ไหม?”“อ่ะ?!”เมื่อได้ยินคำถามของหลินเฟิง ท่านจิ่วก็ถูกทำให้ตกใจจนเหงื่อแตกพลั่กหรือว่ายอดฝีมือคนนี้ต้องการจะจัดการกับแก๊งหมาป่าสีเลือด?เขากลืนน้ำลายอย่างยากลำบากพร้อมกับกัดฟันและพูดขึ้นว่า:“ท่านยอดฝีมือพูดถูก ที่นี่....ที่นี่เป็นเพียงส่วนเล็ก ๆของแก๊งหมาป่าสีเลือดของพวกเราเท่านั้น”“จริง ๆแล้ว....เมื่อเร็ว ๆนี้แก๊งหมาป่าของพวกเ
เมื่อท่านจิ่วออกคำสั่ง อันธพาลพวกนี้ก็รีบพุ่งเข้าไปเพื่อที่จะฉีกหลินเฟิงเป็นชิ้น ๆ โดยตรง“ไอ้หนู ฉันชื่นชมความกล้าหาญของนายมากนะ ไม่รู้ว่านายเป็นใครมาจากไหนงั้นเหรอ?”ท่านจิ่วหรี่ตาลง เมื่อต้องเผชิญหน้ากับผู้ชายที่ดูอวดดีและมั่นใจอย่างมากคนนี้ ในใจของเขาก็รู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาเล็กน้อยหรือว่าเขาจะเป็นลูกชายของตระกูลที่มีอิทธิพลหรือเปล่า?หรือว่าเป็นลูกศิษย์ของสำนักหนานไห่?“ฉันคือ หลินเฟิง เป็นหัวหน้าฝ่ายรักษาความปลอดภัยของหลี่ซื่อกรุ๊ป”เมื่อหลินเฟิงตะโกนชื่อนี้ออกมาด้วยความมั่นใจ แม้แต่ท่านจิ่วก็เกิดภาพลวงตาบางอย่างขึ้นมาชั่วขณะหนึ่งหลี่ซื่อกรุ๊ป? หลี่ซื่อกรุ๊ปอะไร?หรือว่าที่เขาถึงก็คือหลี่ซื่อกรุ๊ปของเมืองเจิ้งเต๋อ? อ่ะ? หัวหน้าฝ่ายความปลอดภัย?ท่านจิ่วตั้งสติอยู่นาน ถึงได้เข้าใจหลังจากเข้าใจถึงตัวตนของหลินเฟิงแล้ว ความรู้สึกอับอาบขายหน้าก็ผูดขึ้นมาในใจเป็นมอันดับแรก ไอ้หัวหน้าฝ่ายรักษาความปลอดภัยของหลี่ซื่อกรุ๊ปบ้าอะไรนั้น ก็เป็นแค่ยามเฝ้าประตูไม่ใช่เหรอ? แค่งยามคนเดียวก็กล้าข่มขู่ฉันงั้นเหรอ?ทันใดนั้นท่านจิ่วก็โกรธขึ้นมาทันที ก่อนจะตะโกนไปทางหลินเฟิงว่า:“ไปเลย
พวกเขาทั้งหมดต่างก็ถือไม้เบสบอลและมีดสปาต้า พร้อมกับปิดกั้นทางของหลินเฟิงและหลี่ฮุ่ยหรานไว้ในชั่วพริบตา อาคารที่พักอาศัยทั้งตึกก็เปลี่ยนจากอาคารร้างเป็นครึกครื้นทันที“ฮึ่ม ฮึ่ม ฮึ่ม!”พร้อมกับเสียงเครื่องยนต์รถจักรยานยนต์และเสียงร้องไม่กี่ครั้ง ก็มีอันธพาลขี่รถจักรยานต์นับสิบคนพุ่งเข้ามาจากด้านนอกของเขตที่พักอาศัยยางล้อรถเสียดสีกับพื้น ก่อนที่สพวกเขาจะหยุดลงที่ข้าง ๆหลินเฟิงและหลี่ฮุ่ยหรานในตอนนี้ทั้งสองคนไม่มีที่ให้ถอยกลับอีกแล้ว ทั้งสี่ทิศทางก็ถูกล้อมไว้อย่างแน่นหนา“ติดจะไปตอนนี้ ก็สายเกินไปแล้ว!”แล้วอันธพาลที่มีทรงผมโมฮอร์กก็หัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง“ฮ่าฮ่าฮ่า....”อันธพาลที่อยู่โดยรอบต่างก็หัวเราะกันอย่างสนุกสนาน เสียงหัวเราะของผู้คนนับร้อย ดังมากจนทำให้อาคารที่พักอาศัยโดยรอบถึงกับสั่นสะเทือน“พวกคุณคิดจะทำอะไร?!”หลี่ฮุ่ยหรานเข้าใจว่า พวกเขาได้เข้ามาในถ้ำของพวกโจรแล้วถึงแม้ในใจจะมั่นใจในความแข็งแกร่งของหลินเฟิง แต่เมื่อต้องเผชิญหน้ากับคนจำนวนมากขนาดนี้ในเวลาเดียว ก็ทำให้หลี่ฮุ่ยหรานอดไม่ได้ที่จะรู้สึกประหม่า
“ฮ่าฮ่าฮ่า....”แต่คิดไม่ถึงว่า หลังจากที่หลินเฟิงสำรวจทั้งกลุ่มเสร็จแล้ว จู่ ๆก็หัวเราะออกมาเสียงดังรอยยิ้มนี้ กลับทำให้พวกอันธพาลที่เข้ามาใกล้ ๆตกใจแทน“หลินเฟิง คุณเป็นอะไร?”หลี่ฮุ่ยหรานมองไปทางหลินเฟิงด้วยความกังวล หรือเป็นเพราะว่าจ่ายเงินสองพันห้าร้อยล้านบาทเพื่อซื้อที่ดินแย่ ๆแบบนี้ ก็เลยโกรธจนสติมีปัญหางั้นเหรอ?หลี่ฮุ่ยหรานที่คาดเดาความเป็นไปได้ต่าง ๆอยู่ในใจแต่เธอเห็นหลินเฟิงหัวกลับมา พร้อมกับยิ้มและกระพริบตาให้เธอและพูดว่า :“ถ้าหากผมเดาไม่ผิดละก็ ครั้งนี้แม่ของคุณจะต้องขาดทุนครั้งใหญ่”“อะไรนะ?”หลี่ฮุ่ยหรานเบิกตากว้างอย่างไม่เข้าใจในตอนนี้เธอรู้สึกหวาดกลัวอยู่เล็กน้อยจริง ๆว่าหลินเฟิงอาจจะมีปัญหาทางจิต“ที่ดินนี้ ไม่ถึงครึ่งเดือนก็ต้องถูกรื้อแล้ว เมืองเจิ้งเต๋อจะสร้างทางหลวงพิเศษที่ต้องผ่านทางจากตรงนี้พอดี!”หลินเฟิงหันหน้าไปมองหลี่ฮุ่ยหรานด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะพูดขึ้นว่า :“คุณรู้ไหมว่ามันหมายถึงอะไร?”ไม่รอให้หลี่ฮุ่ยหรานตอบกลับ หลินเฟิงก็พูดขึ้นกับตัวเองว่า :“นี่หมายความว่า ราคาของที่ดินนี้จะต้องเพิ่มขึ้นมากว่าสิบเท่าอย่างแน่นอน! หึหึ ฮุ่ยหราน ครั้งนี้พวก
เมื่อเห็นที่อยู่ที่นี่ ใจของหลี่ฮุ่ยหรานก็จมดิ่งลงไปกว่าครึ่งการจราจรที่นี่ไม่ค่อยจะสะดวกสบายเท่าไหร่ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงอาคารสำนักงานหรือโรงงานเลย มันไม่มีทางที่จะเปิดได้เช่นกันยิ่งไม่ต้องพูดว่า....หลี่ฮุ่ยหรานยืนอยู่หน้าที่ดินที่อยู่ห่างออกไปจากตัวเมืองแห่งนี้ และภายในต่างก็เต็มไปด้วยอาคารที่พักอาศัยเก่า ๆที่ทรุดโทรมอาคารที่พักอาศัยจำนวนไม่น้อยที่มีอายุการใช้งานที่เกินกำหนดแล้วแม้แต่กำแพงก็ยังมีรอยแตกร้าวขนาดใหญ่ และมีบางรอยที่ยังเอียงไปด้านใดด้านหนึ่งอีกด้วย ซึ่งแสดงให้เห็นว่ามันทรุดโทรมมาหลายปีโดยไร้การซ่อมแซม“หลินเฟิง ที่อยู่นี่ สองพันห้าร้อยล้านบาทนะ! และตอนนี้มันก็อยู่ในมือของพวกเราแล้ว”หลี่ฮุ่ยหรานถอนหายใจด้วยความหดหู่มองจากมุมของเธอ เดิมทีที่ดินนี่ก็ไม่ได้มีค่าอะไรเลยจนกระทั่งผู้อาศัยภายในอาคารพักอาศัยต่างก็อพยพออกไปมากกว่าครึ่งแล้ว ทำให้บ้านมากมายกลายเป็นบ้านผีสิงไป“หึหึ มันก็ไม่แน่นอนหรอก”หลินเฟิงยิ้มเล็กน้อย ก่อนจะเดินเข้าไปเขตที่อยู่อาศัยแห่งนี้“รีบวางไพ่เร็วเข้าสิ นายแม่งมองอะไรอยู่ได้?”“เฮยจื่อ นายเห็นผีหรือไง?”ทั้งสองคนยังเดินไปไม่เท่าไหร่ ก็เห