เซี่ยเชียนฮวันก็ได้ยินเช่นกันแพขนตางอนยาวของนางสั่นระริกเล็กน้อย นางยืนขึ้นโดยจับผนังแล้วเดินไปที่ขั้นบันได“ครืน…”เสียงก้องกังวานอย่างชัดเจน ดังมาจากด้านนอกประตูหิน!อย่างไรก็ตาม ทันทีที่นางไปถึงหน้าขั้นบันได นางก็สูญเสียพละกำลังทั้งหมด ไม่สามารถก้าวต่อไปได้ และทรุดตัวลงอย่างอ่อนแรงเปาอิ๋งหันที่ยังมีกำลังเหลืออยู่ พยายามดิ้นรนปีนขึ้นบันได“เป็นอย่างไรบ้าง มีคนมาช่วยพวกเราหรือไม่?” เซี่ยเชียนฮวันถามด้วยริมฝีปากที่สั่นเทา“เป็นเสียงฟ้าร้อง...”เปาอิ๋งหันไม่สามารถซ่อนความผิดหวังในน้ำเสียงของนางเดิมทีคิดว่าเสียงนี้เป็นเสียงของคนจากข้างนอกที่กำลังขยับประตูหิน แต่กลับกลายเป็นว่า เป็นเพียงเสียงฟ้าร้องเท่านั้น ซึ่งแตกต่างจากที่พวกนางคาดไว้อย่างสิ้นเชิงไม่นานนัก สีหน้าประหลาดใจก็ปรากฏบนใบหน้าของเปาอิ๋งหัน “ฝนมาแล้ว พระชายา พวกเรามีน้ำให้ดื่มแล้ว!”นางนอนหมอบอยู่บนขอบประตูหิน ดื่มน้ำฝนที่ผสมตะกอนจากข้างนอกอย่างตะกละตะกลาม หลังจากดื่มไปสองสามอึก นางก็รู้สึกว่าจิตใจชัดเจนขึ้นมากนางรีบใช้ใบไม้รองน้ำที่สะอาดกว่าอย่างระมัดระวัง แล้วนำกลับมาให้เซี่ยเชียนฮวันดื่ม“ดูสิ ข้าบอกแล้วว่า
เซี่ยเชียนฮวันรู้สึกเหมือนปลาที่สูญเสียทิศทาง จมอยู่ในความมืดเป็นเวลานาน และในที่สุดก็ฟื้นคืนสติอย่างช้าๆ“พระชายา ในที่สุดท่านก็ตื่นแล้ว”หลังจากที่นางลืมตา สิ่งแรกที่นางเห็นคือนางเว่ยที่ดูซีดเซียวนั่งอยู่ข้างเตียงแม่ของเสี่ยงตงกับเย่ซิ่น“ป้าเว่ย” เซี่ยเชียนฮวันพยายามลุกขึ้นจากเตียง “นางเปาเป็นอย่างไรบ้าง?”“พระชายาโปรดวางใจ หญิงผู้นั้นยังมีชีวิตอยู่”นางเว่ยรีบเอื้อมมือไปช่วยเซี่ยเชียนฮวันเซี่ยเชียนฮวันเลียริมฝีปากที่แตกเพราะขาดน้ำ และพูดด้วยเสียงที่แหบแห้งว่า “นำน้ำมา”นางเว่ยตอบรับ แล้วรีบไปรินชา จากนั้นก็นำผลไม้สดจำนวนหนึ่งเข้ามาด้วยเมื่อจิตใจค่อยๆ ชัดเจนขึ้น เซี่ยเชียนฮวันก็จับชีพจรของตัวเอง เพื่อยืนยันว่าอาการของทารกในครรภ์คงที่ จากนั้นก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมาในสถานการณ์ที่ไม่มีการเติมพลังงาน ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่ทารกจะอยู่กับนางได้นานขนาดนี้เซี่ยเชียนฮวันดื่มชาไปหนึ่งถ้วยใหญ่แล้วถามว่า “เสี่ยวตงล่ะ?”นางไม่คาดคิดว่า คำถามของตัวเองนั้นจะทำให้นางเว่ยนิ่งงัน และดวงตาก็เปลี่ยนเป็นสีแดงทันที!“เสี่ยวตงนาง...นาง...ตายแล้วเจ้าค่ะ...”นางเว่ยตอบเสียงสะอื้นเซี่ยเชียนฮ
“ผู้หญิงคนนั้นกำลังตั้งท้อง แล้วฮวันฮวันไม่ท้องหรือ? ท้องของนางใหญ่กว่าผู้หญิงคนนั้นซะอีก ตอนนี้นางนอนหมดสติอยู่ด้านใน แต่ท่านกลับไม่แม้แต่จะมองนางเลย!”เซี่ยเหยียนโกรธจัดเซียวเย่หลันกลับพูดว่า “หมอหลวงบอกว่านางพ้นขีดอันตรายแล้ว”“ไม่ว่าจะพ้นขีดอันตรายหรือไม่ นางก็ต้องมีท่านอยู่ข้างๆ !!”หลังจากที่เซี่ยเหยียนตะโกนจบ ก็ไม่ได้ยินเสียงของเซียวเย่หลัน บางทีคงขี้เกียจเกินกว่าจะสนใจเขา และเดินจากไป แต่เซี่ยเหยียนก็ไล่ตามไปแล้วต่อว่าต่อ“เดี๋ยวก่อน ท่านไม่ได้รับอนุญาตให้ไป! เซียวเย่หลัน ท่านอย่าบังคับให้ข้าลงมือนะ!”เห็นได้ชัดว่าทัศนคติที่เย็นชาของเซียวเย่หลัน ทำให้เซี่ยเหยียน พี่ภรรยาของเขาโกรธมากเขาพับแขนเสื้อขึ้น จะเห็นได้ว่าชายทั้งสองกำลังจะต่อสู้กันทันใดนั้น ประตูก็ถูกผลักเปิด!เซี่ยเชียนฮวันเดินออกมาจากด้านใน เมื่อเห็นดวงอาทิตย์ แม้ว่าจะเป็นดวงอาทิตย์ที่อบอุ่นในฤดูหนาว แต่ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกแสบตา จึงยกมือขึ้นเล็กน้อยเพื่อปิดกั้น ใบหน้าซีดเซียวใต้แขนเสื้อของนางดูป่วยและอ่อนล้าอย่างเห็นได้ชัด“ฮวันฮวัน!”เมื่อเซี่ยเหยียนเห็นเซี่ยเชียนฮวัน เขาก็เพิกเฉยต่อการต่อสู้ และรีบวิ่
“รอเดี๋ยวก่อน”ในครั้งนี้ กลับเปลี่ยนเป็นเซียวเย่หลันดึงเซี่ยเชียนฮวันเอาไว้แน่นเขากล่าวถามเสียงเบาๆออกมาว่า: “ร่างกายของเจ้ายังไม่แข็งแรง ตอนนี้คิดที่จะไปที่ไหนอีก?”“ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับท่านอ๋อง”“เซี่ยเชียนฮวัน ด้านนอกมีคนมากมายที่จะรังแกข่มเหงเจ้า เจ้าอย่าไม่เรียนรู้บทเรียน”“ยังไงก็ไม่ต้องถึงขั้นให้ท่านอ๋องมาอบรมข้าหรอก”เซี่ยเชียนฮวันคิดถึงการตายของเสี่ยวตงขึ้นมา และตัวเองพอลืมตาขึ้นมา ข้างกายก็มีเพียงนางเว่ยเท่านั้น และก็ไม่มีใครแล้ว ในใจก็เลี่ยงไม่ได้ที่จะเกิดความเศร้าโศกเจ็บปวดขึ้นมาอย่างยิ่งนางเดินไปด้านหน้า แต่เดินไปไม่กี่ก้าวก้าวทั้งสองข้างก็อ่อนแรงลง ล้มลงไปในทันใดเซียวเย่หลันตกใจเล็กน้อย กำลังจะยื่นมือไปอุ้มเอาไว้ ทว่าเซี่ยเหยียนกลับมาแย่งอุ้มเซี่ยเชียนฮวันขึ้นมาก่อน แล้วพุ่งไปในห้องมือของเขาเพียงแค่ค้างอยู่กลางอากาศในตอนนี้ด้านหลังของเขาก็มีเสียงเร่งเร้าของอวิ๋นซีดังขึ้นมา “ท่านอ๋อง พระชายารองเริ่มอาเจียนไม่หยุดอีกแล้ว นางทรมานมาก ท่านอ๋องรีบไปดูนางหน่อยเถอะเพคะ!”สุดท้ายเซียวเย่หลันก็ไม่ได้ตามเข้าไปในห้องอยู่ดี แต่จากไปอย่างเงียบๆเซี่ยเชียนฮวันถูกเซ
“พระชายารองซูเพียงแค่มีความเห็นใจเท่านั้นเอง จึงให้บ่าวมาส่งยา ใครจะไปคิดว่าพระชายากลับไม่รู้จักความดีของคน....”ความสามารถพิเศษพของอวิ๋นซีก็สืบทอดจากรุ่นสู่รุ่นมาจากซูอวี้เออร์สามารถกล่าวได้ว่าได้รับการสืบทอดอย่างแท้จริงมาจากเจ้านายอย่างซูอวี้เออร์ท่าทางร้องไห้สะอึกสะอื้นของนาง ราวกับว่าตนเองถูกรังแกอย่างโหดร้ายก็ไม่ปาน สาบานจะให้เซี่ยเชียนฮวันมีภาพลักษณ์พระชายาที่โหดเหี้ยมไร้ความเมตตาไร้คุณธรรมให้ได้“หุบปาก” เซี่ยเชียนฮวันกล่าวออกมาอย่างไม่ทน “จะว่าไปครั้งที่แล้วเจ้าก็โดนโบยไปยังไม่พอหรอกหรือ หากยังไม่ไปให้พ้นอีก ข้าจะเอาชีวิตสุนัขรับใช้ของเจ้าเดี๋ยวนี้แหละ!”เซี่ยเชียนฮวันขี้เกียจจะยื้อยุดกับบ่าวรับใช้ผู้นี้ ก็เลยทำให้นางตกใจหนีไปเลยนางปิดประตูเข้ามา เดินกลับมาตรวจดูน้ำยาที่สาดกระจายอยู่บนพื้น ใช้มือแตะเล็กน้อยแล้วเอามาดม มีพิษจริงๆด้วยพิษของมันไม่นับว่าชัดเจนนัก เพียงแค่อาจจะนำมาซึ่งผลในทางกลับกัน หากดื่มบำรุงเยอะเกินไปสำหรับเปาอิ๋งหันซึ่งเป็นผู้ที่เพิ่งจะได้รับบาดเจ็บหนักมาก่อนเช่นนี้ถึงตอนนั้นแม้ว่าเปาอิ๋งหันจะตายไป แต่ซูอวี้เออร์ก็สามารถผลักความผิดไปให้หมอที่มีวิชา
“พระสนมกุ้ยเฟย ท่านมีอะไรก็พูดมาเลยตรงๆ”สีหน้าของเซี่ยเชียนฮวันเคร่งเครียดขึ้นมา!ท่านแม่ของนางไปที่จวนไท่เว่ย แล้วมันเกี่ยวอะไรกับเฉิงกุ้ยเฟยด้วย?ฟังน้ำเสียงของเฉิงกุ้ยเฟยเห็นได้ชัดว่าแอบข่มขู่!เฉิงกุ้ยเฟยหัวเราะเยือกเย็นออกมา “ข้าเพียงแค่เป็นห่วงฮูหยินอันติ้งโหวสักหน่อยก็เท่านั้นเอง ได้ยินว่าช่วงนี้มีพวกผู้ร้ายหลบหนีการจับกุมมาที่เมืองหลวง ตอนนี้ยังจับไม่ได้ ตอนที่ฮูหยินอันติ้งโหวออกไปข้างนอกก็ต้องเพิ่มความระมัดระวังให้มากหน่อยจะดีกว่า เพื่อเลี่ยงไม่ให้เกิดเรื่องไม่คาดคิดขึ้น พระชายาจ้านอ๋องท่านว่าถูกหรือเปล่าล่ะ”“ไม่รบกวนกุ้ยเฟยให้เป็นพะวง ประเทศชาติก็มีกฎหมาย หากมีคนกล้าลงมือกับฮูหยินระดับสูงคนหนึ่งจริงๆ ไม่ว่าเขาจะเป็นใครมาจากไหน ก็ต้องได้รับการลงโทษอย่างแสนสาหัสแน่นอน”เซี่ยเชียนฮวันกล่าวออกมาด้วยเสียงเคร่งขรึมนางเข้าใจดีว่าตอนนี้เฉิงกุ้ยเฟยไม้อ่อนใช้ไม่ได้ก็เลยใช้ไม้แข็งคิดไม่ถึงว่าจะกล้าเอาชีวิตของฮูหยินอันติ้งโหวมาข่มขู่นางได้สายตาของเฉิงกุ้ยเฟยไม่ได้รู้สึกรู้สาอะไรเลย “พระชายาจ้านอ๋อง เจ้าเยาว์วัยเกินไปแล้ว แม้ว่าประเทศชาติจะมีกฏหมายของมันเอง แต่ความผิดถูกของท
“เฉิงกุ้ยเฟยโหดเหี้ยมอำมหิตมาโดยตลอด บัดนี้นางลักพาตัวท่านแม่ของพระชายาไปเป็นตัวประกัน เกรงว่าจะทำเรื่องชีวิตแลกด้วยชีวิตออกมา พระชายาไม่งั้นก็ช่างมันเถอะ”เย่ซิ่นเกลี้ยกล่อมเขาทราบดีว่าซืออวี้สวี่เป็นคนร้ายที่ฆ่าน้องสาวของเขาความแค้นนี้เขาจะต้องล้างแค้นด้วยตัวเองไม่ควรเอาชีวิตของฮูหยินอันติ้งโหวมาวางเป็นเดิมพันด้วยเซี่ยเชียนฮวันกลับส่ายหน้า “ต่อกรกับคนเลวพวกนี้ การล่าถอยเพียงครั้งเดียว ก็มีแต่จะทำให้พวกเขาได้คืบเอาศอกได้!”“แต่......”“เจ้าวางใจ ข้าหาวิธีได้แน่”หลังเข้าวัง เซี่ยเชียนฮวันก็ไม่ได้มายังตําหนักจินหลวนเลยทันที แต่ไปยังสถานที่อื่นก่อนในที่สุดนางก็มาอยู่ต่อหน้าฝ่าบาทแล้ว เห็นเพียงเฉิงกุ้ยเฟยนั่งอยู่ข้างกายฝ่าบาทด้วยใบหน้าเย่อหยิ่ง ด้านหลังมีเซียวหมิงเซียนยืนอยู่ด้วย และแสดงสีหน้าหยิ่งยโสเช่นเดียวกัน ยังมีขุนนางฝ่ายบุ๋นสองแถวที่อยู่ในฝ่ายจดบันทึกประวัติศาสตร์ฟังอยู่ด้านข้างด้วย และซืออวี้สวี่กำลังคุกเข่าอยู่บนพื้น เล่าอย่างละเอียดอย่างกระตือรือร้นและกล้าหาญอยู่“กระหม่อมไม่ได้มีใจที่จะปกปิดฮ่องเต้เลย เพียงแค่นางเปาผู้นั้นไม่สนใจเรื่องชื่อเสียงความบริสุทธิ์ ตื๊
“เรียกนางเปา”ขันทีวิ่งออกไปประกาศเซี่ยเชียนฮวันมองไปที่ซืออวี้สวี่ แล้วส่ายหน้าพลางถอนหายใจ “เจ้ามีความสามารถมากจริงๆ สามารถเขียนดำเป็นขาวได้ด้วยพู่กัน น่าเสียดายที่เจ้าไม่เดินบนเส้นทางที่ถูกต้อง และใช้สติปัญญาในการทำสิ่งเลวร้าย”“หึๆ คำพูดของพระชายาจ้าน เกรงว่าข้าจะคืนทั้งหมดให้กับท่าน!”ซืออวี้สวี่ดวงตาเฉียบคม บางทีเขาอาจจะอยู่กับเซียวหมิงเซียนมาเป็นเวลานานแล้ว จึงติดนิสัยเย่อหยิ่งมาด้วย “ท่านอาจจะเป็นสาวงามแห่งยุค แต่เนื่องจากความบาดหมางส่วนตัวกับองค์หญิงแปด จึงสมรู้ร่วมคิดกับนางเปาเพื่อใส่ร้ายข้า เพราะความเกลียดชังส่วนตัว ช่างไม่เห็นกฎหมายอยู่ในสายตาเลยจริงๆ”ได้ฟังวาจาคารมคมคายของเขา ที่กลับดำเป็นขาวไม่หยุด ดวงตาของเซี่ยเชียนฮวันก็ยิ่งเย็นชาขึ้นเรื่อยๆแต่อย่างไรก็ตาม ในขณะที่นางจะเปิดปากพูด ก็รู้สึกถึงการจ้องมองอันแหลมคมของเฉิงกุ้ยเฟย!เป็นการคุกคามที่ไม่ปิดบังหากไม่ได้รับการยืนยันเรื่องความปลอดภัยของฮูหยินอันติ้งโหว ก็เป็นเรื่องยากสำหรับนางที่จะโต้เถียงกับซืออวี้สวี่!โชคดีที่เปาอิ๋งหันมาถึงแล้ว“หม่อมฉันขอเข้าเฝ้าฝ่าบาท”เปาอิ๋งหันปฏิบัติตามมารยาทที่เซี่ยเชียนฮวัน