“เจ้าต้องการมอบสถานะให้นางเปา?”คำพูดเหล่านี้ ทำให้เซี่ยเชียนฮวันประหลาดใจซืออวี้สวี่พยักหน้าอย่างเคร่งขรึม“องค์หญิงแปดทรงเห็นด้วย?” นางหันไปมองเซียวหมิงเซียนเซียวหมิงเซียนแสดงสีหน้าไม่อดทน “ก็แค่อนุภรรยาคนหนึ่งจะเป็นไรไป!”“แล้วลูกสองคนของนางเปาล่ะ?”“ข้าจะรับไว้ดูแล และเป็นแม่ใหญ่ของพวกเขา!”“พูดเช่นนี้แล้ว องค์หญิงทรงพระทัยกว้างขวางมาก”“ไร้สาระ”เซียวหมิงเซียนพ่นจมูกอย่างไรก็ตาม การแสดงออกของเซี่ยเชียนฮวันดูละเอียดอ่อนเล็กน้อยองค์หญิงเกเรคนนี้ซึ่งทุบตีและด่าเด็กสองคนไปเมื่อวาน มาวันนี้กลับมีทัศนคติที่แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง ไม่เพียงแต่จะตกลงรับพวกเขาเข้ามาเท่านั้น แต่ยังขอให้พวกเขายอมรับนางเป็นแม่ใหญ่อีกด้วยซืออวี้สวี่ใช้อะไรโน้มน้าวนาง?ด้วยนิสัยใจแคบของเซียวหมิงเซียน แค่ไม่ตัดสินใจจะฆ่าผู้หญิงคนนั้นก็นับว่าดีมากแล้ว แต่จะรับพวกเขาเข้าไปอยู่ในจวนองค์หญิงนั้นเป็นไปได้หรือเซี่ยเชียนฮวันรู้สึกทะแม่งๆ!“เรื่องก็เป็นเช่นนี้แล รบกวนพระชายาเรียกนางเปามา เพื่อให้พวกข้าได้พูดคุยสักหน่อย ถือว่าเห็นแก่เด็กสองคน” น้ำเสียงของซืออวี้สวี่ดูจริงใจมากเซี่ยเชียนฮวันหรี
เซียวหมิงเซียนยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกว่าคำพูดของเซี่ยเชียนฮวันน่าขบขันสิ้นดี คิดไม่ถึงว่าจะหัวเราะจนไม่อาจหยุดลงได้!นางชี้ไปที่ใบหน้าของเปาอิ๋งหันที่เหมือนหลุมตะโกก็ไม่ปาน แล้วกล่าวออกมาอย่างเยาะเย้ยว่า: “ข้าไม่เคยเห็นผู้หญิงที่อัปลักษณ์เช่นนี้มาก่อนเลย! หากนางอยากจะสวยขึ้น เว้นเสียแต่ว่าไปเกิดใหม่!”ซืออวี้สวี่กล่าวออกมาอย่างเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้มว่า: “องค์หญิงเหมือนดั่งแสงจันทร์บนท้องฟ้า ท่ามกลางแสงระยิบระยับของท่าน แน่นอนว่านางเปาย่อมเหมือนดั่งมดปลวกก็ไม่ปาน”เปาอิ๋งหันชะงักไปชายหนุ่มผู้นี้ก็เคยประคบประหงมนางไปจนถึงบนท้องนภา บัดนี้กลับถีบนางเข้าไปจมกองโคลนตมต่อหน้าของเมียน้อย เปรียบเปรยเป็นมดปลวก......“ท่านแม่ไม่อัปลักษณ์! ผู้หญิงเลว อย่ามารังแกแม่ข้า!”บุตรีของเปาอิ๋งหันจู่ๆก็ร้องไห้และพุ่งถลาเข้าไป สะบัดกำปั้นเล็กๆขึ้นจะไปทำร้ายเซียวหมิงเซียน!“ถิงเอ๋อร์!” เปาอิ๋งหันรีบห้ามปรามทันใดแต่ว่าไม่ทันแล้วเซียวหมิงเซียนเปล่งเสียงหัวเราะเย็นชาออกมาหนึ่งที ใช้มือข้างหนึ่งบีบใบหน้าของเด็กผู้หญิงตัวน้อยเอาไว้แน่น เผยอปากกล่าวออกมาว่า: “แม่หน้าตาอัปลักษณ์ ลูกสาวก็อัปลักษณ์เช่นกัน ดูใบหน
“อวี้เออร์ เจ้าเป็นอะไรไป?!”ในตอนนี้พอดี เซียวเย่หลันก็ปรากฏตัวอยู่นอกประตูโถง!เขาเพิ่งจะกลับมาจากสนามฝึก ได้ยินว่าเซียวหมิงเซียนมา ก็เลยเดินมาดูหน่อยคิดไม่ถึงว่าพอเข้าเข้ามาก็เห็นท่าทางซูอวี้เออร์ที่ล้มอยู่บนพื้นเลือดไหลอยู่!เซียวเย่หลันรีบพุ่งเข้ามาด้านหน้าทันที ประคองซูอวี้เออร์ขึ้นมาโอบอยู่ในอ้อมอกของตนเอง กล่าวออกมาอย่างตื่นเต้นว่า: “เกิดเรื่องอะไรขึ้น?”“ท่านอ๋อง ท่านอย่าโทษพี่หญิงเลย......พี่หญิงนางไม่ได้เจตนา ล้วนเป็นข้าเองที่ไม่ดี......”ซูอวี้เออร์เจ็บจนปากก็สั่นเทาไปหมด ขดตัวอยู่ในอ้อมอกของชายหนุ่มอย่างน่าสงสารจับใจเซี่ยเชียนฮวันหัวเราะอย่างเย็นชาออกมา “ชอบแสดงขนาดนี้ มิน่าถึงได้สามารถเป็นเพื่อนซี้เซียวหมิงเซียนได้! เมื่อครู่เห็นชัดๆว่าเจ้าจะลงมือกับข้าให้ได้เลย สุดท้ายล้มลงไปเอง ยังจะมาโทษว่าเป็นความผิดข้าอีกงั้นหรือ?”“พี่หญิง ข้าทราบดีว่าเป็นความผิดของข้า......”คำพูดของซูอวี้เออร์ดูอ่อนแรงมาก อ่อนปวกเปียกอย่างยิ่งเซียวเย่หลันเงยศีรษะขึ้นมา กล่าวตำหนิอย่างโมโหว่า: “เซี่ยเชียนฮวัน หรือว่าเจ้าหูหนวก ฟังไม่ออกว่าอวี้เออร์กำลังแก้ต่างให้เจ้าน่ะ?”“เหอะ หากนาง
หากกล่าวอย่างจริงจังแล้วน่าจะน่าจะอาศัยบารมีของเซี่ยเชียนฮวัน......ตั้งแต่เข้ามาในจวนจ้านอ๋อง ซูอวี้เออร์ก็ไม่ได้เข้าห้องหอกับเซียวเย่หลันอย่างสำเร็จหากไม่ใช่เซี่ยเชียนฮวันร่วมห้องเดียวกันทั้งคืนกับเซียวเย่หลันที่หมู่บ้านรกร้าง อีกทั้งยังถูกนางแอบอ้างฐานะอีก วันนี้นางยังไม่รู้ว่าควรจะอธิบายยังไงจริงๆ!“ท่านอ๋อง ข้าเจ็บมากเลยน่ะ ลูกของข้าใกล้จะไม่มีแล้วหรือเปล่า......”ซูอวี้เออร์อาศัยโอกาสนี้ แสดงออกมาได้น่าเวทนามากแค่ไหนก็แค่นั้นเลยเป็นอย่างที่คิดจริงๆ การแสดงนี้ของนางดึงความน่าสงสารของเซียวเย่หลันขึ้นมา “อย่ากลัว มีข้าอยู่ เจ้าจะไม่เป็นอะไรอย่างแน่นอน”กล่าวจบเขาก็หันหน้าไปมองเซี่ยเชียนฮวัน กล่าวออกมาด้วยเสียงโหดๆว่า: “มานี่ ข้าต้องการให้เจ้ารักษาลูกในท้องของอวี้เออร์เอาไว้ หากรักษาไว้ไม่ได้ ข้าจะไต่สวนเจ้า!”เซี่ยเชียนฮวันเม้มปากขึ้นมาในที่สุดนางก็เดินมาด้านหน้าอยู่ดี นั่งลงที่ข้างเตียง ใช้มือที่สั่นเทาหยิบเข็มหยกดําออกมา“พวกเจ้าออกไปให้หมด”เซี่ยเชียนฮวันไม่ได้พบว่าตนเองแม้แต่น้ำเสียงก็เริ่มสั่นเครือออกมาเซียวเย่หลันทราบดีว่าตอนที่นางใช้เข็มไม่ชอบให้มีคนนอกมาล้อมดู
“นางไม่เป็นไรแล้ว”สีหน้าของเซี่ยเชียนฮวันซีดขาว พิงอยู่บนวงกบประตูอยู่ เพื่อให้ตนเองได้พักสักหน่อยเซียวเย่หลันกลับยังจะไล่ถามอีกว่า: “เด็กรักษาเอาไว้ได้หรือเปล่า?”“ยินดีกับท่านอ๋องด้วยที่เป็นพ่อคน”เซี่ยเชียนฮวันไม่อยากจะพูดกับเขาให้มากความ จับผนังประตูเอาไว้ ค่อยๆก้าวเดินออกไปเซียวเย่หลันไม่มีเวลาที่จะเจาะลึกความหมายคำพูดประโยคนี้ของนาง พุ่งเข้าไปในห้องอย่างรีบร้อน เห็นซูอวี้เออร์ถูกผ้ายัดอยู่ในปากเอาไว้แน่นอย่างคาดไม่ถึง ใบหน้าหล่อเหลาก็เกิดแสดงอารมณ์ไม่พอใจออกมาผู้หญิงคนนั้นไม่รังแกอวี้เออร์ ดูเหมือนว่าจะไม่สบายไปทั้งตัว!เขาหยิบผ้าที่อยู่ในปากของซูอวี้เออร์ทิ้งไป กล่าวออกมาด้วยเสียงอบอุ่นว่า: “ตอนนี้เจ้ารู้สึกเป็นยังไงบ้าง”“หลังจากท่านอ๋องไปแล้ว พี่หญิงทั้งตีทั้งด่าข้า ยังใช้ผ้ายัดใส่ปากของข้าไว้แน่น ไม่อนุญาตให้ข้าพูด......”ซูอวี้เออร์จ้องไปที่เซียวเย่หลันนิ่งๆด้วยน้ำตา ราวกับว่าถูกรังแกจนไม่อาจจะทนได้แต่นางจิตใจดีเช่นนี้ จะต้องให้อภัยและเข้าใจในพฤติกรรมอันเลวร้ายแต่ละอย่างของเซี่ยเชียนฮวันแน่นอน “ข้าก็สามารถเข้าใจได้ถึงอารมณ์ในตอนนี้ของพี่หญิง ท่านอ๋อง ท่านอย่า
“พระชายาหมอเทวดา ขอให้ท่านช่วยแม่ข้าด้วย!”เด็กผู้หญิงตัวน้อยก็ดึงชายเสื้อของเซี่ยเชียนฮวันเอาไว้ คุกเข่าลงมาทางนางเด็กผู้ชายที่อยู่ด้านข้างก็เรียนรู้จากพี่หญิงคุกเข่าลงและคำนับศีรษะลงไปเซี่ยเชียนฮวันรีบประคองพวกเขาให้ขึ้นมา แล้วกล่าวปลอบใจว่า: “แม่ของพวกเจ้าจะไม่เป็นอะไรแน่นอน ข้าจะไปหานางเดี๋ยวนี้”โชคดีที่สองสามีภรรยาเซียวหมิงเซียนไม่ได้พาเด็กสองคนนี้ไปแม้แต่เสือร้ายก็ไม่ทำร้ายลูกของตนไม่รู้ว่าเป็นเพราะว่าซืออวี้สวี่ยังพอมีความรู้ผิดชอบชั่วดีอยู่บ้าง หรือว่าพวกเขารีบร้อนไปหน่อย แค่มาทันนำตัวเปาอิ๋งหันไปเท่านั้นแต่เด็กสองคนนี้จะจัดการอย่างไร ก็เป็นอีกปัญหาหนึ่งในใจของเซี่ยเชียนฮวันครุ่นคิดหาหนทางอยู่ ตอนนี้รับรองว่าจะไม่ส่งพวกเขากลับไปยังโรงเตี๊ยมเดิมเป็นแน่ ที่นั่นไม่ปลอดภัยแล้ว แต่แม้ว่าจะอยู่ที่จวนจ้านอ๋อง ก็ไม่ใช่วิธ๊การที่ปลอดภัยที่สุดเมื่อครู่ซูอวี้เออร์และเซียวหมิงเซียนค่อยๆปล่อยวางอารมณ์ได้หากเด็กอยู่ในจวนจ้านอ๋อง ไม่แน่ว่ามนทางตรงกันข้ามอาจจะถูกซูอวี้เออร์หากโอกาสทำร้ายก็เป็นได้“หลินซวี่” เซี่ยเชียนฮวันคิดทบทวนไปมา ได้เพียงเรียกหลินซวี่ออกมา “เจ้าพาพวกเด็
“ไม่นึกว่าพวกเขาจะลงมือเร็วขนาดนี้ ข้าประเมินจิตใจอันชั่วร้ายของเซียวหมิงเซียนต่ำเกินไป!”เซี่ยเชียนฮวันใจสั่นเมื่อครู่ ถ้าข้าเพียงแต่เมินเฉยต่อเซียวเย่หลันแล้วมาเร็วกว่านี้!“พระชายา ไม่แน่ว่าคนอาจจะยังไม่ตาย ยังมีลมหายใจอยู่ หลังจากที่พวกเขาออกไปแล้ว พวกเราค่อยลงจากรถแล้วไปดูกัน” เสี่ยวตงกล่าว“อืม”เซี่ยเชียนฮวันพยักหน้าพวกนางเฝ้าดูอยู่ห่างๆ และเห็นกลุ่มคนรับใช้นำ “ศพ” ในเปลหามเข้าไปในสุสานที่ประตูเปิดกว้าง จากนั้นก็รีบเดินจากไป“ไป พวกเราลงไปดูกันเถอะ”หลังจากที่ทุกคนจากไปแล้ว เซี่ยเชียนฮวันก็พาเสี่ยวตงไปที่หลุมศพไร้ญาติสีท้องฟ้าค่อยๆ เข้มขึ้นเมื่อยืนอยู่ด้านนอก จะมองเห็นได้ไม่ชัดเจนนักว่าเกิดอะไรขึ้นในสุสาน“เสี่ยวตง เจ้าอยู่ข้างนอกคอยดูต้นทางไว้ ข้าจะไปหาเปาอิ๋งหัน” เซี่ยเชียนฮวันพูด“ไม่ได้ๆ ถ้าหากมีอันตรายอยู่ข้างในจะเป็นเช่นไร? ให้บ่าวเข้าไป แล้วพระชายาก็รออยู่ข้างนอกเถอะ”เสี่ยวตงรู้สึกหวาดกลัวเมื่อมองดูสุสานที่มืดมิด นางจะวางใจปล่อยให้เซี่ยเชียนฮวันเข้าไปข้างในคนเดียวได้อย่างไร เซี่ยเชียนฮวันตบไหล่นาง “เจ้าไม่รู้ทักษะทางการแพทย์ ถ้าหากเปาอิ๋งหันยังหายใจอยู
“อาเฉิง อาเฉิง”เสี่ยวตงคุกเข่า เขย่าร่างของคนขับรถม้าอย่างสิ้นหวังใบหน้าของนางซีดเผือดไม่ดีแล้วนี่คือกับดัก!เสี่ยวตงลุกขึ้นยืนแล้ววิ่งหนีไปในไม่ช้า ทหารองค์ของเซียวหมิงเซียนก็ไล่ตามมา และตีวงล้อมเสี่ยวตงอย่างแน่นหนา จะไปข้างหน้าก็ไม่ได้ จะถอยกลับก็ไม่ดีบนมีดของทหารองค์ยังคงมีเลือดไหลหยดลงบนพื้น คนที่ฆ่าอาเฉิงคนขับรถม้าเมื่อครู่คงเป็นเขาเสี่ยวตงจำชายที่ยืนอยู่ข้างๆ ทหารองค์รักษ์คนนั้นได้!“ราชบุตรเขยซือ” นางกัดฟันแน่น “ท่านรู้หรือไม่ ใครก็ตามที่คิดจะลอบสังหารพระชายา จะต้องโทษประหารชีวิต”ซืออวี้สวี่ยิ้มน้อยๆ “พระชายาหายสาบสูญไปแล้ว จะเป็นการลอบสังหารไปได้เยี่ยงไร? ส่วนกระดูกขาวสองศพในสุสานนั่น ผ่านไปหลายร้อยปีก็ไม่มีใครรู้ว่าพวกนางเป็นใคร”“ท่านเป็นนักศึกษาคนหนึ่ง แต่กลับมีหัวใจที่ชั่วร้ายเพียงนี้ ไม่กลัวผลกรรมตามสนองเลยหรือ?!” เสี่ยวตงถลึงตาด้วยความโกรธ“ดังสุภาษิตโบราณที่ว่า ไม่โหดเหี้ยมไม่นับเป็นชายชาตรี ข้าแซ่ซือเพียงแต่เชื่อว่าโชคชะตาอยู่ในมือของตัวเอง และไม่เชื่อในการลงโทษ”ซืออวี้สวี่ยกยิ้มมุมปาก ทันใดนั้นดวงก็ตาเย็นชาขึ้นมา “จัดการ”ทหารก็ขยับมือทันทีเสี่
“มันมาจากไหน?”เซียวเย่หลันถามเซี่ยเชียนฮวันขมวดคิ้ว “ตงไหล!”“ตงไหล...”พอได้ยินชื่อสถานที่นี้ สีหน้าของเซียวเย่หลันก็ขรึมลงเล็กน้อย เขานึกถึงคนๆ หนึ่งเซี่ยเชียนฮวันเอ่ยชื่อของคนที่อยู่ในความคิดของเขาทันที “รู้สึกว่าบังเอิญมากใช่หรือไม่? ยาที่พวกฆาตกรให้เหยื่อกินเป็นผลผลิตพิเศษจากตงไหล ประจวบเหมาะกับตอนที่พวกเขาจับคนร้ายแถบชานเมืองนั้น ฉินจีที่มีสมญานามว่าเป็นหญิงงามอันดับหนึ่งแห่งตงไหลถูกส่งตัวไปที่วังหลัง” “ช่างบังเอิญมากจริงๆ”เซียวเย่หลันจ้องไปที่หญ้าที่ส่งกลิ่นคาวปลาตายบนโต๊ะ นิ้ววางอยู่เหนือริมฝีปากแล้วบีบจมูกเบาๆเรื่องราวมากมายจริงๆเขาไม่รู้สึกว่าพวกนี้เป็นเรื่องบังเอิญทั้งสองเรื่องนี้ อย่างไรเสียก็ต้องเกี่ยวข้องกันเซี่ยเชียนฮวันพูดว่า “แล้วก็ ข้าให้เพื่อนไปสืบดูแล้ว เป็นเพราะหญ้าโช่วผิงถูกคนเข้าใจว่าเป็นยายืดอายุขัย มีจอมยุทธ์มากมายที่จะใช้มันกลั่นเป็นยาเพื่อใช้บำรุงสำหรับการฝึกยุทธ์”“เพื่อนเจ้าคนไหน? ผู้ชายหรือผู้หญิง?”จุดสนใจของเซียวเย่หลันอยู่ตรงนี้เซี่ยเชียนฮวันกลอกตามองบนอย่างไม่สบอารมณ์ “เถ้าแก่เนี้ยที่หอฮัวเยว่!”“อืม”ผู้หญิง เช่นนั้นเซียวเย่ห
ซูอวี้เออร์สีหน้าแข็งค้างสมควรตายคิดไม่ถึงเลยว่าพวกโจรโฉดพวกนี้จะได้รับข่าวสารว่องไวเพียงนี้!นางยังนึกว่า พวกเขาควรจะเป็นพวกโจรกระจอกในยุทธภพ ไม่ค่อยมีความเข้าใจเกี่ยวกับราชวงศ์นัก และนางเพิ่งตั้งครรภ์ไม่นาน จากภายนอกแล้วก็ดูไม่ออกหากเป็นเช่นนี้ นางในตอนนี้ก็กลายเป็นแกะน้อยเข้าถ้ำเสือแล้วสิ??ในขณะที่ซูอวี้เออร์เหงื่อเปียกชุ่มไปทั้งตัวและกำลังคิดว่าจะรับมือต่ออย่างไรนั้น หัวหน้าชุดขาวก็เงยหน้าขึ้นแล้วหัวเราะเสียงดัง “ฮ่าๆๆ ไม่ต้องเป็นกังวลไป!”“เป้าหมายของพวกเราคือหญิงตั้งครรภ์ท้องโต เจ้าที่เพิ่งท้องแบบนี้ ทารกในครรภ์ยังไม่เป็นรูปเป็นร่างเลย ไม่มีประโยชน์อะไรกับเราสักนิด” อีกคนหนึ่งพูดเสียงเย็น หัวหน้าชุดขาวตบไปที่บ่าของพรรคพวกตัวเอง “เอาล่ะ อย่าทำให้นางตกใจไปเลย พวกเรากำลังต้องการเลือดเนื้อเชื้อไขของราชวงศ์ต้าเซี่ยพอดี นางยังช่วยพวกเราได้อีกมาก”สีหน้าของพรรคพวกคนนั้นแสดงออกถึงความแปลกใจเล็กน้อยแต่ ที่แห่งนี้ คำพูดของหัวหน้าคนเดียวที่ถือเป็นคำตัดสินสูงสุดเขาได้ตัดสินใจจะร่วมมือกับซูอวี้เออร์แล้วซูอวี้เออร์เผยรอยยิ้มที่พึงพอใจออกมา “ตอนนี้ท่านอ๋องจะออกลาดตระเวนทุกคืน
ก่อนหน้านี้ เซียวจ้านได้พูดคุยกับนางหลายครั้งได้แสดงออกให้เห็นถึงความในใจอยู่บ้างแต่นางกลับไม่รู้เลยว่า เซียวจ้านนั้นแท้จริงแล้วไม่ได้เป็นคนเอาแต่เล่นไม่เอาอ่าวอย่างที่เผยให้เห็นในรูปลักษณ์ภายนอก ตอนเด็กเขาก็ผ่านความเจ็บปวดมาไม่น้อยแต่พวกนั้นต่างก็เป็นการพูดคุยเปิดใจทั่วไปเซี่ยเชียนฮวันยืนยันได้ว่าระว่างนางกับเซียวจ้านนั้นไม่มีการข้ามเส้น มากที่สุดก็เรียกได้ว่าเป็นเพื่อน ไม่ได้เป็นเหมือนที่เซียวเย่หลันคิดนางแค่นเสียงเหอะ “เซียวเย่หลัน ข้าว่านะ เพราะเจ้าเคยแอบขโมย พอมองใครก็รู้สึกว่าเป็นโจรเสียหมด”“ข้าไม่เคยขโมยของใคร” เซียวเย่หลันถูกทำให้โกรธจนขำแล้วเซี่ยเชียนฮวันยกมุมปาก “ตัวเจ้ามีหญิงสาวมากมาย ซูอวี้เออร์นั้นข้าไม่นับแล้ว ยังมีหลี่จิ้งหย่าที่ชอบพอกันมาตั้งแต่เด็ก ผู้อื่นแต่งงานกับองค์ชายสองแล้ว เจ้ายังไปติดพันนางยากจะอธิบายได้ชัดเจนอยู่เลย”“เป็นเพราะว่าจิตใจของท่านอ๋องเองไม่บริสุทธิ์ ดังนั้น ถึงได้รู้สึกว่าระหว่างข้ากับองค์ชายห้านั้นพิเศษอย่างไรล่ะ”เซียวเย่หลันน้ำเสียงเย็นเยียบ “ตัวข้าไม่เคยติดพันกับหลี่จิ้งหย่าจนอธิบายไม่ได้”“งั้นหรือ? เช่นนั้นวันนั้นที่ข้าเห็น
“ข้าเป็นหมอผู้เชี่ยวชาญ ไม่กลัวหรอก”เซี่ยเชียนฮวันปากแข็ง ดึงฝ่ามือออกจากมือของเซียวเย่หลันแล้วเริ่มชันสูตรศพทีละร่างหญิงสาวพวกนี้ตายเพราะเสียเลือดมากเกินไปพวกนางถูกกรีดร่างทั้งเป็น วิธีการทารุณมากแต่ที่แปลกคือ ภายในร่างของพวกนางกลับมีร่องรอยของยาอยู่ แต่ไม่ได้ถูกพิษอย่างที่เจ้าหน้าที่ชันสูตรศพพูดพอเจ้าเมืองเห็นเซี่ยเชียนฮวันขมวดคิ้ว ดวงตาเต็มไปด้วยความไม่เข้าใจ เขาจึงบีบจมูกแล้วเดินไปด้านหน้าถามขึ้นว่า “พระชายาอ๋อง ท่านสังเกตพบสิ่งใดหรือไม่?”“จากที่ข้าสังเกต แทนที่จะพูดว่าพวกนางถูกพิษ ควรพูดว่าก่อนตาย พวกนางถูกคนกรอกยาชนิดหนึ่งให้กิน ไม่ถึงกับขั้นส่งผลร้ายต่อร่างกายมากนัก แต่ในเมื่อฆาตกรจะฆ่าพวกนางอยู่แล้ว เหตุใดต้องมากเรื่อง กรอกยาพวกนางด้วยเล่า”จุดที่เซี่ยเชียนฮวันคิดไม่ตกก็คือจุดนี้ในกระเพาะของทุกร่างล้วนมีเศษซากยาชนิดนี้เท่ากับว่า เรื่องนี้สำหรับฆาตกรแล้วเป็นขั้นตอนที่ขาดไม่ได้สำหรับฆาตกร ขั้นตอนนี้มีประโยชน์ต่อพวกเขาสูงสุดเซียวเย่หลันขมวดคิ้วเล็กน้อย “ยาชนิดนี้ทำขึ้นมาจากอะไรหรือ?”“น่าจะมีประโยชน์เพียงช่วยให้ร่างกายแข็งแรง แต่รายละเอียดต่างๆ ต้องรอให้ข้านำตั
“ใครน่ะ?!”เซี่ยเชียนฮวันตกใจเดินไม่ให้ซุ่มไม่ให้เสียงมาอยู่ด้านหลังของนาง!พอนึกถึงเรื่องที่สตรีมีครรภ์หายตัวไปในช่วงนี้ ใจของเซี่ยเชียนฮวันก็เต้นตึกๆๆ รัวเป็นกลอง นางหันตัวขวับกลับมา นางก็ราดน้ำที่อยู่ในมือออกไปจนหมดจากนั้น...นางได้ทำให้ผมดกดำและเสื้อผ้าของเซียวเย่หลับเปียกไปหมดเซียวเย่หลันถูกน้ำราดทั้งหน้า หมดคำจะพูด ใช้มือเช็ดถูกแล้วพูดเสียงเย็น “การระมัดระวังตัวตลอดเวลานั้นเป็นเรื่องดี แต่ก็ไม่ต้องกลัวเป็นกระต่ายตื่นตูมไป”“ใครให้เจ้ามาไม่ให้เสียงสักนิดล่ะ มาอย่างกับผี ตกใจหมดเลย” เซี่ยเชียนฮวันเองก็อารมณ์ไม่ดี “แต่ก่อนเจ้าไม่มาโรงหมอไม่ใช่หรือ วันนี้วิ่งแจ้นมาที่นี่ทำไม?”“หากไม่ใช่เพราะเจ้าเมืองซุ่นเทียนมาขอแล้วขออีก ข้าเองก็คร้านจะมา”เซียวเย่หลันแสดงท่าทางรังเกียจเต็มที่ หยิบเอาผ้าออกมาเช็ดหน้าเซี่ยเชียนฮวันไม่เข้าใจ “เจ้าเมืองซุ่นเทียนขอร้องเจ้า? เขาเองก็อยากซื้อครีมบำรุงให้ฮูหยินของตนหรือ?”“พบศพเหยื่อสาวแถวชานเมืองหลวง ฝ่ายชันสูตรบอกว่าพวกนางถูกพิษ แต่ไม่สามารถตรวจสอบได้แน่ชัดว่าเป็นพิษจากอะไร เจ้าเมืองซุ่นเทียนก็เลยอยากขอให้เจ้าช่วย”เซียวเย่หลันพูดอธิบายส
“รู้สิ ทำไมหรือ?”เซี่ยเชียนฮวันตะลึงตอนที่อยู่โรงหมอ นางได้ยินพวกชาวบ้านถกเถียงกันราวกับว่ามีหญิงสาวมากมายที่ถูกจับตัวหรือว่า ที่ฮ่องเต้เรียกตัวเซียวเย่หลันไปห้องทรงพระอักษรก็เพราะจะให้เขาตรวจสอบเรื่องนี้เซียวเย่หลันพูดเสียงทุ้มว่า “สตรีที่ถูกพวกเขาจับตัวไปล้วนเป็นสตรีมีครรภ์” “อะไรนะ???”เซี่ยเชียนฮวันอดตกใจไม่ได้!ตามหลักแล้ว สตรีที่ถูกจับตัวไปควรเป็นหญิงสาวอายุน้อย เหตุใดจึงเป็นสตรีมีครรภ์ล่ะ?“ตอนนี้ คนในเมืองหลวงในใจกระวนกระวาย เสด็จพ่อได้ออกประกาศห้ามออกจากเคหะสถานยามค่ำคืนแล้ว นับจากวันนี้เป็นต้นไป ข้าต้องนำทหารออกไปลาดตระเวนทุกคืน จนกว่าจะจับตัวพวกผู้ร้ายพวกนั้นได้”เซียวเย่หลันมองไปทางเซี่ยเชียนฮวันปราดหนึ่ง ยื่นมือไปบีบแก้มนาง “เจ้าดูแลเด็กน้อยในท้องของเจ้าให้ดี ช่วงนี้อย่าออกไปวิ่งพล่านที่ไหน ได้ยินไหม”“อื้อ”เซี่ยเชียนฮวันตอบอย่างว่าง่ายไม่แปลกที่เซียวเย่หลันไม่ยอมให้นางช่วยที่แท้ก็เพราะแค่มีครรภ์ก็ตกอยู่ในอันตรายแล้ว เพื่อปกป้องเด็กน้อยในท้อง นางต้องไม่เอาตัวเข้าไปเสี่ยงเซี่ยเชียนฮวันไม่ได้พูดเรื่องไปช่วยอีกนางติดตามเซียวเย่หลันกลับจวนอ๋อง แล้ว
หลังจากที่ได้เห็นฉากพยานแมวในเหตุการณ์กับตาตัวเองแล้ว สุดท้ายฉินจีก็ยอมรับด้วยตัวเองแล้ว นางคุกเข่าต่อหน้าฮ่องเต้ ตัวสั่นเทิ้มสีพระพักตร์ของฮ่องเต้เคร่งขึมดูแล้ว เป็นเหมือนดั่งที่เจ้าห้าพูดจริงๆ ด้วย ฉินจีตั้งใจปล่อยแมวไปทำให้เซี่ยเชียนฮวันตกใจไม่ว่าตอนนี้เขาจะลำเอียงรักและเอ็นดูฉินจีมากเพียงใด เรื่องนี้ข้องเกี่ยวกับลูกหลานของราชวงศ์ ไม่สามารถทำตัวเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ได้เหมือนเรื่องที่พวกนางสนมทั้งหลายแก่งแย่งความรักกัน เซียวเย่หลันเดินออกมา จ้องไปที่ฉินจีอย่างเย็นชา “ขอเสด็จพ่อลงโทษอย่างสาหัสด้วยพ่ะย่ะค่ะ”“ถ่ายทอดคำสั่ง ลำดับศักดิ์ของฉินจีลดขั้นลงเหลือเพียงไฉหนี่ว์ ถูกกักบริเวณในหอหลิวอินเป็นเวลาสามวัน ห้ามออกจากประตู”ฮ่องเต้กุมขมับ ไม่ได้มองไปทางฉินจีที่มีท่าทีน่าสงสารอีกทั้งลดลำดับศักดิ์ ทั้งถูกกักบริเวณ ถือว่าเป็นการให้เกียรติเซียวเย่หลันกับเซี่ยเชียนฮวันมากแล้ว เซี่ยเชียนฮวันยิ้มตาหยี “ขอบพระทัยเสด็จพ่อที่ทรงให้ความยุติธรรมเพคะ”จากนั้น นางก็หันไปทางเซียวจ้าน ในดวงตาเรียวเล็กมีประกายแสงแสดงถึงความจริงจัง “และต้องขอบคุณน้องห้าด้วยที่พูดผดุงความยุติธรรมแก่ข้า”“น้
“ฝ่าบาท พระชายาจ้านอ๋องคงไม่ได้มีปัญหาที่ตรงนี้หรอกนะเพคะ”ฉินจีชี้ไปที่หัวของตัวเองฮ่องเต้โบกพระหัตถ์ “เอาล่ะ อย่าได้พูดเช่นนี้เลย”ฮ่องเต้ไม่ได้เอาความกับคำพูดส่งเดชของฉินจีอย่างไรเสีย การพูดตรงๆ เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของฉินจี ก็เหมือนหมิงเฟยอย่างนั้นหากไม่ใช่เพราะชอบนิสัยเช่นนี้ของนาง ฮ่องเต้ก็คงไม่ลำเอียงชอบนางมากกว่าทว่า ฮ่องเต้เองก็รู้สึกว่าเซี่ยเชียนฮวันราวกับว่าสมองถูกกระทบกระเทือน กลับมาตั้งคำถามกับแมวอย่างเอาจริงเอาจัง ไม่รู้ว่านางจะมาไม้ไหนอีก“หากแมวตัวนั้นตอบคำถามของพระชายาจ้านอ๋องจริงๆ หม่อมฉันยอมรับโทษเพคะ” ฉินจีหัวเราะเยาะเย้ยเบาๆ“เจ้าเป็นคนพูดเองนะ” เซี่ยเชียนฮวันนั่งปัดมืออยู่ที่พื้น “เอาล่ะ เป็นแมวที่สัตย์ซื่อหน่อยซิ”“เหมียว เหมียว เหมียว?” เจ้าแมวขาวเอียงหัวเล็กน้อยเซียวเย่หลันเองก็ทนดูไม่ค่อยไหวแล้ว อยากจะลากตัวนางออกไปทันใดนั้น ขณะที่ทุกคนกำลังคิดว่าเซี่ยเชียนฮวันกำลังก่อเรื่องนั้น เจ้าแมวขาวกลับยื่นอุ้งมือออกมา!มันทำเหมือนที่เซี่ยเชียนฮวันพูดจริงๆ ด้วย ข่วนไปที่หยกห้อยเอวที่อยู่ด้านขวาผู้คนต่างสีหน้าเปลี่ยนสี“เป็นไปไม่ได้!” ฉินจีโพล่งออก
“ฝ่าบาททรงรอบรู้ หม่อมฉันเพียงแต่พูดความจริงเท่านั้น”ฉินจีหลุบตาลงฮ่องเต้มองไปที่เซียวจ้านแล้วพูดว่า “เจ้าห้า เจ้าเป็นคนมีมารยาทดีมาโดยตลอด ทำไมวันนี้ต้องมีปัญหากับฉินเออร์ด้วย”“ทูลเสด็จพ่อ ลูกไม่ได้ตั้งใจจะมุ่งเป้าไปที่ผู้ใด เพียงแต่เห็นฉินเจี๋ยอวี๋กับพระชายาจ้านอ๋องโต้เถียงกัน จากนั้นพระชายาจ้านอ๋องเกือบจะล้ม ซึ่งเลี่ยงไม่ได้ที่คนจะรู้สึกสงสัย”เซียวจ้านประกบมือคำนับแล้วกล่าวขึ้นในเวลานี้ ในที่สุดเซียวเย่หลันก็เอ่ยปากถามเซี่ยเชียนฮวันที่ยืนอยู่ข้างๆ ด้วยเสียงแผ่วเบาว่า “ล้มหรือเปล่า”“ไม่เป็นไร ไม่ตายหรอก”เซี่ยเชียนฮวันตอบอย่างไม่สบอารมณ์เซียวเย่หลันพูดไม่ออกสตรีที่ดูอ่อนแอกันคนภายนอกแต่กับคนในบ้านกลับหยาบคายใส่คนนี้นี่เขากำลังแสดงความเป็นห่วงนางชัดๆ แต่กลับพูดจายอกย้อนกับเขา“ฉินเอ๋อเพิ่งเข้าวังไม่เข้าใจกฎเกณฑ์ หากมีตรงไหนล่วงเกินสะใภ้เจ็ด พวกเจ้าก็แค่ให้อภัยก็จบแล้ว ไม่จำเป็นต้องทำให้ตึงเครียดขนาดนี้”ฮ่องเต้พูดเช่นนี้ เห็นได้ชัดว่าต้องการให้เรื่องนี้สงบลง ไม่ถือสาหาความผิดของฉินจีอย่างไรก็ตาม พอได้ยินเช่นนี้ฉินจีกลับตกใจเล็กน้อยเดิมทีนางคิดว่าฮ่องเต้จะไม่เพียงแต่ปกป้องนา