เซียวหมิงเซียนยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกว่าคำพูดของเซี่ยเชียนฮวันน่าขบขันสิ้นดี คิดไม่ถึงว่าจะหัวเราะจนไม่อาจหยุดลงได้!นางชี้ไปที่ใบหน้าของเปาอิ๋งหันที่เหมือนหลุมตะโกก็ไม่ปาน แล้วกล่าวออกมาอย่างเยาะเย้ยว่า: “ข้าไม่เคยเห็นผู้หญิงที่อัปลักษณ์เช่นนี้มาก่อนเลย! หากนางอยากจะสวยขึ้น เว้นเสียแต่ว่าไปเกิดใหม่!”ซืออวี้สวี่กล่าวออกมาอย่างเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้มว่า: “องค์หญิงเหมือนดั่งแสงจันทร์บนท้องฟ้า ท่ามกลางแสงระยิบระยับของท่าน แน่นอนว่านางเปาย่อมเหมือนดั่งมดปลวกก็ไม่ปาน”เปาอิ๋งหันชะงักไปชายหนุ่มผู้นี้ก็เคยประคบประหงมนางไปจนถึงบนท้องนภา บัดนี้กลับถีบนางเข้าไปจมกองโคลนตมต่อหน้าของเมียน้อย เปรียบเปรยเป็นมดปลวก......“ท่านแม่ไม่อัปลักษณ์! ผู้หญิงเลว อย่ามารังแกแม่ข้า!”บุตรีของเปาอิ๋งหันจู่ๆก็ร้องไห้และพุ่งถลาเข้าไป สะบัดกำปั้นเล็กๆขึ้นจะไปทำร้ายเซียวหมิงเซียน!“ถิงเอ๋อร์!” เปาอิ๋งหันรีบห้ามปรามทันใดแต่ว่าไม่ทันแล้วเซียวหมิงเซียนเปล่งเสียงหัวเราะเย็นชาออกมาหนึ่งที ใช้มือข้างหนึ่งบีบใบหน้าของเด็กผู้หญิงตัวน้อยเอาไว้แน่น เผยอปากกล่าวออกมาว่า: “แม่หน้าตาอัปลักษณ์ ลูกสาวก็อัปลักษณ์เช่นกัน ดูใบหน
“อวี้เออร์ เจ้าเป็นอะไรไป?!”ในตอนนี้พอดี เซียวเย่หลันก็ปรากฏตัวอยู่นอกประตูโถง!เขาเพิ่งจะกลับมาจากสนามฝึก ได้ยินว่าเซียวหมิงเซียนมา ก็เลยเดินมาดูหน่อยคิดไม่ถึงว่าพอเข้าเข้ามาก็เห็นท่าทางซูอวี้เออร์ที่ล้มอยู่บนพื้นเลือดไหลอยู่!เซียวเย่หลันรีบพุ่งเข้ามาด้านหน้าทันที ประคองซูอวี้เออร์ขึ้นมาโอบอยู่ในอ้อมอกของตนเอง กล่าวออกมาอย่างตื่นเต้นว่า: “เกิดเรื่องอะไรขึ้น?”“ท่านอ๋อง ท่านอย่าโทษพี่หญิงเลย......พี่หญิงนางไม่ได้เจตนา ล้วนเป็นข้าเองที่ไม่ดี......”ซูอวี้เออร์เจ็บจนปากก็สั่นเทาไปหมด ขดตัวอยู่ในอ้อมอกของชายหนุ่มอย่างน่าสงสารจับใจเซี่ยเชียนฮวันหัวเราะอย่างเย็นชาออกมา “ชอบแสดงขนาดนี้ มิน่าถึงได้สามารถเป็นเพื่อนซี้เซียวหมิงเซียนได้! เมื่อครู่เห็นชัดๆว่าเจ้าจะลงมือกับข้าให้ได้เลย สุดท้ายล้มลงไปเอง ยังจะมาโทษว่าเป็นความผิดข้าอีกงั้นหรือ?”“พี่หญิง ข้าทราบดีว่าเป็นความผิดของข้า......”คำพูดของซูอวี้เออร์ดูอ่อนแรงมาก อ่อนปวกเปียกอย่างยิ่งเซียวเย่หลันเงยศีรษะขึ้นมา กล่าวตำหนิอย่างโมโหว่า: “เซี่ยเชียนฮวัน หรือว่าเจ้าหูหนวก ฟังไม่ออกว่าอวี้เออร์กำลังแก้ต่างให้เจ้าน่ะ?”“เหอะ หากนาง
หากกล่าวอย่างจริงจังแล้วน่าจะน่าจะอาศัยบารมีของเซี่ยเชียนฮวัน......ตั้งแต่เข้ามาในจวนจ้านอ๋อง ซูอวี้เออร์ก็ไม่ได้เข้าห้องหอกับเซียวเย่หลันอย่างสำเร็จหากไม่ใช่เซี่ยเชียนฮวันร่วมห้องเดียวกันทั้งคืนกับเซียวเย่หลันที่หมู่บ้านรกร้าง อีกทั้งยังถูกนางแอบอ้างฐานะอีก วันนี้นางยังไม่รู้ว่าควรจะอธิบายยังไงจริงๆ!“ท่านอ๋อง ข้าเจ็บมากเลยน่ะ ลูกของข้าใกล้จะไม่มีแล้วหรือเปล่า......”ซูอวี้เออร์อาศัยโอกาสนี้ แสดงออกมาได้น่าเวทนามากแค่ไหนก็แค่นั้นเลยเป็นอย่างที่คิดจริงๆ การแสดงนี้ของนางดึงความน่าสงสารของเซียวเย่หลันขึ้นมา “อย่ากลัว มีข้าอยู่ เจ้าจะไม่เป็นอะไรอย่างแน่นอน”กล่าวจบเขาก็หันหน้าไปมองเซี่ยเชียนฮวัน กล่าวออกมาด้วยเสียงโหดๆว่า: “มานี่ ข้าต้องการให้เจ้ารักษาลูกในท้องของอวี้เออร์เอาไว้ หากรักษาไว้ไม่ได้ ข้าจะไต่สวนเจ้า!”เซี่ยเชียนฮวันเม้มปากขึ้นมาในที่สุดนางก็เดินมาด้านหน้าอยู่ดี นั่งลงที่ข้างเตียง ใช้มือที่สั่นเทาหยิบเข็มหยกดําออกมา“พวกเจ้าออกไปให้หมด”เซี่ยเชียนฮวันไม่ได้พบว่าตนเองแม้แต่น้ำเสียงก็เริ่มสั่นเครือออกมาเซียวเย่หลันทราบดีว่าตอนที่นางใช้เข็มไม่ชอบให้มีคนนอกมาล้อมดู
“นางไม่เป็นไรแล้ว”สีหน้าของเซี่ยเชียนฮวันซีดขาว พิงอยู่บนวงกบประตูอยู่ เพื่อให้ตนเองได้พักสักหน่อยเซียวเย่หลันกลับยังจะไล่ถามอีกว่า: “เด็กรักษาเอาไว้ได้หรือเปล่า?”“ยินดีกับท่านอ๋องด้วยที่เป็นพ่อคน”เซี่ยเชียนฮวันไม่อยากจะพูดกับเขาให้มากความ จับผนังประตูเอาไว้ ค่อยๆก้าวเดินออกไปเซียวเย่หลันไม่มีเวลาที่จะเจาะลึกความหมายคำพูดประโยคนี้ของนาง พุ่งเข้าไปในห้องอย่างรีบร้อน เห็นซูอวี้เออร์ถูกผ้ายัดอยู่ในปากเอาไว้แน่นอย่างคาดไม่ถึง ใบหน้าหล่อเหลาก็เกิดแสดงอารมณ์ไม่พอใจออกมาผู้หญิงคนนั้นไม่รังแกอวี้เออร์ ดูเหมือนว่าจะไม่สบายไปทั้งตัว!เขาหยิบผ้าที่อยู่ในปากของซูอวี้เออร์ทิ้งไป กล่าวออกมาด้วยเสียงอบอุ่นว่า: “ตอนนี้เจ้ารู้สึกเป็นยังไงบ้าง”“หลังจากท่านอ๋องไปแล้ว พี่หญิงทั้งตีทั้งด่าข้า ยังใช้ผ้ายัดใส่ปากของข้าไว้แน่น ไม่อนุญาตให้ข้าพูด......”ซูอวี้เออร์จ้องไปที่เซียวเย่หลันนิ่งๆด้วยน้ำตา ราวกับว่าถูกรังแกจนไม่อาจจะทนได้แต่นางจิตใจดีเช่นนี้ จะต้องให้อภัยและเข้าใจในพฤติกรรมอันเลวร้ายแต่ละอย่างของเซี่ยเชียนฮวันแน่นอน “ข้าก็สามารถเข้าใจได้ถึงอารมณ์ในตอนนี้ของพี่หญิง ท่านอ๋อง ท่านอย่า
“พระชายาหมอเทวดา ขอให้ท่านช่วยแม่ข้าด้วย!”เด็กผู้หญิงตัวน้อยก็ดึงชายเสื้อของเซี่ยเชียนฮวันเอาไว้ คุกเข่าลงมาทางนางเด็กผู้ชายที่อยู่ด้านข้างก็เรียนรู้จากพี่หญิงคุกเข่าลงและคำนับศีรษะลงไปเซี่ยเชียนฮวันรีบประคองพวกเขาให้ขึ้นมา แล้วกล่าวปลอบใจว่า: “แม่ของพวกเจ้าจะไม่เป็นอะไรแน่นอน ข้าจะไปหานางเดี๋ยวนี้”โชคดีที่สองสามีภรรยาเซียวหมิงเซียนไม่ได้พาเด็กสองคนนี้ไปแม้แต่เสือร้ายก็ไม่ทำร้ายลูกของตนไม่รู้ว่าเป็นเพราะว่าซืออวี้สวี่ยังพอมีความรู้ผิดชอบชั่วดีอยู่บ้าง หรือว่าพวกเขารีบร้อนไปหน่อย แค่มาทันนำตัวเปาอิ๋งหันไปเท่านั้นแต่เด็กสองคนนี้จะจัดการอย่างไร ก็เป็นอีกปัญหาหนึ่งในใจของเซี่ยเชียนฮวันครุ่นคิดหาหนทางอยู่ ตอนนี้รับรองว่าจะไม่ส่งพวกเขากลับไปยังโรงเตี๊ยมเดิมเป็นแน่ ที่นั่นไม่ปลอดภัยแล้ว แต่แม้ว่าจะอยู่ที่จวนจ้านอ๋อง ก็ไม่ใช่วิธ๊การที่ปลอดภัยที่สุดเมื่อครู่ซูอวี้เออร์และเซียวหมิงเซียนค่อยๆปล่อยวางอารมณ์ได้หากเด็กอยู่ในจวนจ้านอ๋อง ไม่แน่ว่ามนทางตรงกันข้ามอาจจะถูกซูอวี้เออร์หากโอกาสทำร้ายก็เป็นได้“หลินซวี่” เซี่ยเชียนฮวันคิดทบทวนไปมา ได้เพียงเรียกหลินซวี่ออกมา “เจ้าพาพวกเด็
“ไม่นึกว่าพวกเขาจะลงมือเร็วขนาดนี้ ข้าประเมินจิตใจอันชั่วร้ายของเซียวหมิงเซียนต่ำเกินไป!”เซี่ยเชียนฮวันใจสั่นเมื่อครู่ ถ้าข้าเพียงแต่เมินเฉยต่อเซียวเย่หลันแล้วมาเร็วกว่านี้!“พระชายา ไม่แน่ว่าคนอาจจะยังไม่ตาย ยังมีลมหายใจอยู่ หลังจากที่พวกเขาออกไปแล้ว พวกเราค่อยลงจากรถแล้วไปดูกัน” เสี่ยวตงกล่าว“อืม”เซี่ยเชียนฮวันพยักหน้าพวกนางเฝ้าดูอยู่ห่างๆ และเห็นกลุ่มคนรับใช้นำ “ศพ” ในเปลหามเข้าไปในสุสานที่ประตูเปิดกว้าง จากนั้นก็รีบเดินจากไป“ไป พวกเราลงไปดูกันเถอะ”หลังจากที่ทุกคนจากไปแล้ว เซี่ยเชียนฮวันก็พาเสี่ยวตงไปที่หลุมศพไร้ญาติสีท้องฟ้าค่อยๆ เข้มขึ้นเมื่อยืนอยู่ด้านนอก จะมองเห็นได้ไม่ชัดเจนนักว่าเกิดอะไรขึ้นในสุสาน“เสี่ยวตง เจ้าอยู่ข้างนอกคอยดูต้นทางไว้ ข้าจะไปหาเปาอิ๋งหัน” เซี่ยเชียนฮวันพูด“ไม่ได้ๆ ถ้าหากมีอันตรายอยู่ข้างในจะเป็นเช่นไร? ให้บ่าวเข้าไป แล้วพระชายาก็รออยู่ข้างนอกเถอะ”เสี่ยวตงรู้สึกหวาดกลัวเมื่อมองดูสุสานที่มืดมิด นางจะวางใจปล่อยให้เซี่ยเชียนฮวันเข้าไปข้างในคนเดียวได้อย่างไร เซี่ยเชียนฮวันตบไหล่นาง “เจ้าไม่รู้ทักษะทางการแพทย์ ถ้าหากเปาอิ๋งหันยังหายใจอยู
“อาเฉิง อาเฉิง”เสี่ยวตงคุกเข่า เขย่าร่างของคนขับรถม้าอย่างสิ้นหวังใบหน้าของนางซีดเผือดไม่ดีแล้วนี่คือกับดัก!เสี่ยวตงลุกขึ้นยืนแล้ววิ่งหนีไปในไม่ช้า ทหารองค์ของเซียวหมิงเซียนก็ไล่ตามมา และตีวงล้อมเสี่ยวตงอย่างแน่นหนา จะไปข้างหน้าก็ไม่ได้ จะถอยกลับก็ไม่ดีบนมีดของทหารองค์ยังคงมีเลือดไหลหยดลงบนพื้น คนที่ฆ่าอาเฉิงคนขับรถม้าเมื่อครู่คงเป็นเขาเสี่ยวตงจำชายที่ยืนอยู่ข้างๆ ทหารองค์รักษ์คนนั้นได้!“ราชบุตรเขยซือ” นางกัดฟันแน่น “ท่านรู้หรือไม่ ใครก็ตามที่คิดจะลอบสังหารพระชายา จะต้องโทษประหารชีวิต”ซืออวี้สวี่ยิ้มน้อยๆ “พระชายาหายสาบสูญไปแล้ว จะเป็นการลอบสังหารไปได้เยี่ยงไร? ส่วนกระดูกขาวสองศพในสุสานนั่น ผ่านไปหลายร้อยปีก็ไม่มีใครรู้ว่าพวกนางเป็นใคร”“ท่านเป็นนักศึกษาคนหนึ่ง แต่กลับมีหัวใจที่ชั่วร้ายเพียงนี้ ไม่กลัวผลกรรมตามสนองเลยหรือ?!” เสี่ยวตงถลึงตาด้วยความโกรธ“ดังสุภาษิตโบราณที่ว่า ไม่โหดเหี้ยมไม่นับเป็นชายชาตรี ข้าแซ่ซือเพียงแต่เชื่อว่าโชคชะตาอยู่ในมือของตัวเอง และไม่เชื่อในการลงโทษ”ซืออวี้สวี่ยกยิ้มมุมปาก ทันใดนั้นดวงก็ตาเย็นชาขึ้นมา “จัดการ”ทหารก็ขยับมือทันทีเสี่
เซี่ยเชียนฮวันไม่เห็นเสี่ยวตงแต่เป็นเปาอิ๋งหันที่นอนอยู่ข้างๆ ซึ่งตื่นขึ้นมา และเรียกหานางอย่างอ่อนแรงด้วยแสงสลัวๆ เซี่ยเชียนฮวันก็จับชีพจรของเปาอิ๋งหัน “ตอนนี้เจ้ารู้สึกอย่างไรบ้าง?”“ขอบพระทัยพระชายาที่ช่วยชีวิตข้า”เปาอิ๋งหันเต็มไปด้วยความละอายใจหากไม่ใช่เพราะนางเจ็บปวดมากจนขยับตัวไม่ได้ นางก็อยากจะลุกขึ้นและโขกหัวให้กับเซี่ยเชียนฮวันจริงๆ “เป็นเพราะข้า ที่สร้างปัญหาให้กับพระชายา...”“ไม่โทษเจ้าหรอก พวกเขาโหดร้ายเกินไป และใช้เจ้าเป็นเหยื่อล่อเพื่อล่อข้า”เซี่ยเชียนฮวันขมวดคิ้วเล็กน้อยซืออวี้สวี่ผู้นั้น สมแล้วที่ฮ่องเต้แต่งตั้งให้เป็นจอหงวน หัวสมองของเขานั้นฉลาดจริงๆแต่น่าเสียดายที่ใช้ในทางที่ผิดในใจเต็มไปด้วยความคิดอันเลวทราม“พระชายา ตอนนี้พวกเราจะทำเช่นไรดี?” เปาอิ๋งหันถามอย่างกังวล“ไม่ต้องกลัว เสี่ยวตงสาวใช้ของข้ากำลังไปหาคนมาช่วย อีกไม่นานจะมีคนมาช่วยพวกเราออกไปจากที่นี่”เมื่อพูดถึงเสี่ยวตง ในใจของเซี่ยเชียนฮวันก็รู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อยเปาอิ๋งหันแสดงความไม่สบายใจของนางออกมาอย่างระมัดระวัง “ดูเหมือนว่าเราจะถูกขังอยู่ที่นี่ทั้งคืน หากมีคนมาช่วยจริงๆ พวกเขาก็