“ข้าบอกแล้วว่าอย่ามาแตะต้องตัวข้า!”ดวงตาของเซี่ยเชียนฮวันแดงก่ำสั่นไหวเล็กน้อย สีหน้าไม่สงบเหมือนเมื่อครู่ แต่เต็มไปด้วยความตื่นตระหนก ราวกับว่าต้องการแยกเขาให้ห่างออกไปหลายพันลี้เซียวเย่หลันสังเกตเห็นสิ่งผิดปกติจึงถามด้วยน้ำเสียงเข้มว่า “เจ้าเป็นอะไรกันแน่?”“ไม่มีอะไรหรอก ข้าแค่รู้สึกไม่สบายเล็กน้อย”เซี่ยเชียนฮวันกอดแขน หันหลังกลับไม่มองหน้าเขาเมื่อถูกชายคนนี้สัมผัสนางได้ นางก็อดไม่ได้ที่จะนึกถึงคืนนั้นในหมู่บ้านร้างเขานำประสบการณ์ที่ไม่เคยมีมาก่อนมา ทำให้นางรู้ว่าระหว่างชายและหญิงนั้นมีความสุขเหมือนปลาเล่นน้ำจริงๆแต่เพียงพริบตาเดียวเขาก็กลับนึกว่าซูอวี้เออร์คือนางในใจของเขา สตรีที่ได้มีความสุขเช่นนั้นกับเขาคือซูอวี้เออร์เซี่ยเชียนฮวันคิดเรื่องนี้ทีไรก็รู้สึกไม่สบายแทบอยากอาเจียน!ดังนั้น นางเลยไม่อยากให้เซียวเย่หลันโดนตัวอีก!“หากเจ้ารู้สึกไม่สบายก็นอนพักผ่อน กินยา อย่ากระโดดขึ้นลงทั้งวัน และดูแลครรภ์ให้ดี” เซียวเย่หลันพูดอย่างเย็นชา“ข้าไม่ต้องการให้เจ้าสอนข้า”เซี่ยเชียนฮวันรีบเดินไปที่ตู้ เปิดลิ้นชัก หยิบขวดยาผ่อนคลายออกมาแล้วโยนลงในกาน้ำชาในที่สุดนางก็กลับ
"ท่านต้องตรวจสอบให้แน่ใจนะขอรับ อย่าให้เรื่องไร้สาระอย่างการตายแล้วฟื้นคืนชีพนั้นเกิดขึ้นได้ล่ะ"ขันทีเฒ่าโน้มตัวลง ท่าทีไม่ถ่อมแต่ก็ไม่ถ่อยเขารับใช้อยู่ข้างกายไทเฮามานานหลายปีไม่มีลมฝนใดที่เขาไม่เคยพานพบดังนั้น เขาจึงระมัดระวังในทุกเรื่องที่ทำ เป็นคนน่าเชื่อถือเป็นอย่างมากเชี่ยเหยียนพูดอย่างอดไม่ได้ “ถึงแม้นางจะยังไม่ตายทันทีในตอนแรก แต่ตอนนี้นางถูกฝังอยู่ในดินและขาดอากาศหายใจตายไปนานแล้ว หรือเจ้ายังกังวลว่านางจะเปิดโลงศพแล้วคลานออกไปด้วยตัวนางเอง?”“การระมัดระวังรอบคอบย่อมทำให้มีชีวิตยืนยาว”“พวกเจ้าไม่เชื่อใจข้าเกินไปแล้ว แม้ว่าปกติข้าจะเป็นคนเสเพลเล็กน้อย แต่หากมีภารกิจใดข้าก็ไม่เคยทำผิดพลาดเลย” เซี่ยยเหยียนตะคอกขันทีเฒ่ายิ้มแล้วถามอีกครั้งว่า “ก่อนตาย หญิงแก่นั่นได้พูดอะไรหรือไม่?”"ไม่มี"เซี่ยเหยียนจิบชาขันทีเฒ่าพยักหน้า ทำท่าครุ่นคิด “แต่นางคงพูดอะไรกับน้องสาวของท่านโหวน้อยแน่ๆ”“เจ้าหมายถึง ฮวันฮวัน...”เซี่ยเหยียนขมวดคิ้วมุ่นไม่น่าล่ะ จู่ๆ ไทเฮาก็มาวานให้เขาทำภารกิจที่แท้หลิวไท่เฟยนั่นพูดในสิ่งที่ไม่ควรพูดนั่นเอง แถมยังลากเซี่ยเชียนฮวันเข้ามาเกี่ยวข้องด
“ปังปังปัง!”นอกลานบ้านของเซี่ยเชียนฮวัน มีเสียงประทัดดังสนั่น เสี่ยวตงโกรธมาก “เกินไปแล้ว พระชายา ซูอวี้เออร์จงใจแสดงอำนาจกับท่านอย่างชัดเจน!”“ช่างเถอะ ปล่อยพวกเขาไป”เซี่ยเชียนฮวันกําพู่กันแน่นเล็กน้อยนางกําลังฝึกคัดลายมือเดิมที นางเป็นที่รู้จักกันในฐานะคุณหนูถุงฟาง ดังนั้นจึงไม่สำคัญว่าตัวอักษรจะสวยงามพอหรือไม่แต่ตอนนี้นางต้องเขียนใบสั่งยาเป็นประจำ ลายมือบูดๆ เบี้ยวๆ น่าเกลียดเช่นนั้น คงกลายเป็นที่หัวเราะดังนั้นเซี่ยเชียนฮวันจึงใช้เวลาฝึกคัดลายมืออย่างไรก็ตาม มีเสียงรบกวนจากข้างนอกตลอดเวลา เสียงนั่นทำให้สมาธิของนางไม่สงบ จนนางอยากจะถือไม้กวาดออกไปไล่ผู้คนซึ่งนั่นคงเป็นสิ่งที่ซูอวี้เออร์ต้องการซูอวี้เออร์แค่อยากเห็นนางทำตัวหยาบคายนางแค่ต้องอดทนกับมันอย่างเงียบๆ และแสร้งทําเป็นว่าทุกอย่างปกติดีในที่สุด เสียงปะทัดก็หยุดลงด้านนอกมีคนมาเคาะประตู “พระชายา นายหญิงของข้าต้องการเชิญท่าน”เสี่ยวตงได้ยินเสียงอวิ๋นซี ก็ยิ่งรู้สึกไม่พอใจ “ไสหัวไป!ถึงแม้นายหญิงเจ้าจะมาเชิญสักร้อยครั้ง พระชายาก็ไม่ให้หน้าหรอก!”“นายหญิงมีเรื่องสำคัญอยากปรึกษาพระชายา เกี่ยวกับพระชายารองเ
“แค่คำพูดของเซียวเย่หลันคำเดียว ยังมีมงกุฎหงส์แบบไหนที่ทำไม่ได้? แทนที่จะเปลืองแรงของเจ้ามาบ่นกับข้า ทำไมไม่ไปออเซาะเซียวเย่หลันเล่า บางทีเขาอาจจะหาชุดที่สวยกว่านี้ให้เจ้าได้”เซี่ยเชียนฮวันเผชิญหน้ากับซูอวี้เออร์ แล้วค่อยๆ ถอยไปทางประตูนางรู้สึกว่าซูอวี้เออร์ไม่ควรคลั่งเวลานี้ และทำร้ายนางแต่ว่า แค่เผื่อไว้ซูอวี้เออร์จะไม่เชิญนางมาที่นี่โดยไม่มีเหตุผลแน่นอนในเมื่อไม่ใช่เรื่องของเซวี่ยจวิ้น เช่นนั้นคงมีความคิดแย่ๆ ในเรื่องอื่นไม่ช้า เซี่ยเชียนฮวันก็ถอยไปถึงหน้าประตูนางแตะประตู แล้วกล่าวเสียงเย็นว่า “ข้าไม่มีเวลาอยู่เป็นเพื่อนเล่นเจ้า”“เดี๋ยวก่อน”ซูอวี้เออร์พูดนางไม่ได้ไล่ตามเซี่ยเชียนฮวัน แต่แสยะยิ้มอย่างร้ายกาจขึ้นมา ยกกรรไกรขึ้น “พี่สาว ข้ามีวิธีที่กว่านี้ในการเปลี่ยนชุดแต่งงาน”พูดจบ ซูอวี้เออร์ก็กระหนำแทงกรรไกรลงไป!ได้ยินแต่เสียงดัง “แควก” ปลายมีดตัดผ่านชุดแต่งงานสีแดงเพลิง ตัดลวดลายดอกโบตั๋นที่บานสะพรั่งเป็นชิ้นๆ เปลี่ยนเสื้อผ้าที่งดงามเป็นขาดรุ่งริ่งในพริบตา จนดูไม่ได้“กรี๊ด!!!”ซูอวี้เออร์โยนกรรไกรลงพื้น จากนั้นก็ยกมือกุมหน้าแล้วร้องเสียงแหลมออกมาทันใด
ซูอวี้เออร์ตาแดงก่ำ ขณะเดินตามหลังเซียวเย่หลัน ด้วยท่าทางราวกับกำลังกล้ำกลืนความอยุติธรรมใหญ่หลวงตอนนี้เอง แม้แต่อู่อันโหวก็ใช้สายตาตกตะลึงมองมาทางเซี่ยเชียนฮวันพวกเขาทั้งหมดเชื่อซูอวี้เออร์“สาวน้อย นี่ดูไม่เหมือนสิ่งที่เจ้าทำเลย!” อู่อันโหวกล่าวด้วยเสียงไม่อยากจะเชื่อเซี่ยเชียนฮวันในสายตาของเขา ควรจะเป็นสตรีที่ฉลาดและแข็งแกร่งนางกลายเป็นสตรีขี้หึงเหมือนคนบ้าเช่นนี้ได้อย่างไร?เซี่ยเชียนฮวันยิ้มน้อยๆ “แม้แต่ท่านโหวยังไม่คิดว่า นี่เป็นสิ่งที่ข้าทำ”“เจ้าพูดแบบนี้หมายความว่าอย่างไร?”อู่อันโหวถามต่อแต่ซูอวี้เออร์กลับขัดจังหวะด้วยน้ำตา “วันนี้พระชายาตั้งใจมาทำให้ข้าอับอาย บอกข้าว่าเป็นสนมหนึ่งวัน ก็เป็นสนมไปชั่วชีวิต ข้าทนคำพูดเหล่านี้ได้ แต่ไม่ว่าอย่างไรท่านไม่ควรทำลายชุดแต่งงานของข้า แล้วพรุ่งนี้ข้าจะไปพบปะผู้คนได้อย่างไร...”ท่าทางของนางดูเจ็บปวดมากเซียวเย่หลันกล่าวปลอบโยน “อย่าร้องไห้เลยนะ ข้าจะส่งคนไปหาชุดที่ดีกว่าเดิมกลับมาทันที พรุ่งนี้เจ้าจะงดงามกว่าใคร”“ขอบคุณท่านอ๋อง”ซูอวี้เออร์พุ่งเข้าไปในอ้อมแขนเซียวเย่หลัน ซ่อนรอยยิ้มเย็นชาที่มุมปากตอนนี้นางไม่เพียงแต่
“ปรากฏว่าการได้ยินของท่านอ๋องยังไม่หายดีหรอกหรือ? งั้นข้าจะพูดอีกครั้ง ในอนาคตไม่ว่าท่านจะถูกคนอื่นเอามีดแทงคอ หรือนอนตายในห้องใต้ดินเหมือนคนไร้ประโยชน์ ข้าก็จะไม่สนใจท่าน ตอนนี้ได้ยินชัดไหม?”เซี่ยเชียนฮวันสะบัดแขนออกจากมือของเซียวเย่หลัน หันหน้าไปอีกด้าน ไม่อยากเงยหน้ามองผู้ชายคนนี้แล้ว!บรรยากาศพลันหนาวเย็นขึ้นมา อู่อันโหวกับเสี่ยวตงต่างยืนตัวแข็งทื่ออยู่สองฝั่ง สีหน้าดูตกใจมาก มีเพียงลูกตาเท่านั้นที่สามารถขยับได้ มองไปทางเซียวเย่หลัน แล้วมองไปที่เซี่ยเชียนฮวันอีกครั้งสองคนนี้ เห็นได้ชัดว่าเป็นสามีภรรยากัน แต่กลับทำตัวขิงก็รา ข่าก็แรงเซียวเย่หลันกำหมัดแน่น จนมีเสียงกระดูกลั่นดัง “กร๊อบ”ในที่สุดเขาก็ระงับความโกรธที่พุ่งพล่านในใจได้ เขาดึงเซี่ยเชียนฮวันกลับมา “เจ้าขอโทษอวี้เออร์ก่อน”ตอนนั้นเอง ซูอวี้เออร์ก็ควักผ้าเช็ดหน้าขึ้นมา แสร้งซับน้ำตาของตัวเองรอเซียวเย่หลันดึงเซี่ยเชียนฮวันแรงๆ นางก็ค่อยกล่าวเสียงอ่อนโยนว่า “ท่านอ๋อง ความจริงในใจของพระชายาคงโกรธมาก ข้าเข้าใจทั้งหมด ไม่มีผู้หญิงคนไหนอยากแบ่งปันสามีกับใครอีก ตราบใดที่พระชายารู้ความผิดของนาง ข้าก็ไม่อยากไล่ตาม”“ยัง
“คืนนี้ข้าจะดื่มกับอู่อันโหว”เซียวเย่หลันตอบแบบจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวซูอวี้เออร์จึงกล่าวว่า “งั้นอวี้เออร์จะทำอาหารที่ท่านโหวอาวุโสชอบสักสองสามอย่าง หลังจากครั้งสุดท้ายที่ท่านโหวอาวุโสมา ข้าได้ไปเรียนวิธีทำอาหารหนานจ้าวมาโดยเฉพาะ และยังหมักสุราหนานจ้าวรสชาติพิเศษไว้หลายถังอีกด้วย”“ใช่”เซียวเย่หลันตอบส่งๆคล้ายกับจิตใจไม่อยู่ที่นี่แม้ว่าอู่อันโหวจะไม่ชอบซูอวี้เออร์ แต่พอได้ยินว่ามีสุราหนานจ้าว ก็ตกลงที่จะทานอาหารที่เรือนจิ่นซิ่วตกเย็นซูอวี้เออร์กำลังจัดโต๊ะในลานบ้าน ตั้งใจปรนนิบัติเซียวเย่หลันกับอู่อันโหวอย่างเต็มที่อย่างไรก็ตาม พวกเขาไม่ได้อยู่ในอารมณ์ที่จะเพลิดเพลินไปกับอาหารหลังจากเหตุการณ์ในวันนี้ เพียงแค่พูดคุยเกี่ยวกิจธุระทางทหารสองสามคำ จากนั้นก็จิบไว้ท่านแก้วหนึ่งข้าแก้วหนึ่ง“สุราเย็นแล้ว ให้ข้าอุ่นสุราให้พวกท่านเถอะ”ซูอวี้เออร์ยิ้มน้อยๆ อย่างอบอุ่น ก่อนจะถือกาสุราไว้ในมือ แล้วเดินเข้าไปในบ้านที่โต๊ะจึงเหลือเซียวเย่หลันกับอู่อันโหวแค่สองคนเท่านั้น“เฮ้อ...”จู่ๆ อู่อันโหวก็ถอนหายใจเซียวเย่หลันเงยหน้าขึ้นมอง “เหตุใดท่านโหวอาวุโสจึงถอนหายใจ?”ตอนนี้
“ที่...อ่า ข้าหานางเจอที่ไหนนะ...”อู่อันโหวเมาหนักมาก จนหัวไม่แล่นครู่หนึ่งเซียวเย่หลันถามอย่างอดทน “ท่านบอกว่านางยืนกรานที่จะกลับไปหมู่บ้านฉางหยวน งั้นท่านก็ต้องพบนางใกล้ๆ หมู่บ้านฉางหยวนใช่ไหม”“ใช่ๆ อยู่แถวๆ หมู่บ้านฉางหยวน”อู่อันโหวพยักหน้าเซียวเย่หลันถาม “แล้วมันที่ไหน?”“ดู...”ดูเหมือนจะเป็น ทางเข้าหมู่บ้าน?อู่อันโหวยิ่งคิดยิ่งสับสนความง่วงงุนเข้าโจมตี สุดท้ายเขาก็ล้มหน้าคว่ำไปบนโต๊ะแล้วผล็อยหลับ ส่งเสียงกรนดังสนั่นอีกคำรบตอนนั้นเอง ซูอวี้เออร์ก็ยกสุราที่อุ่นเรียบร้อยแล้วเข้ามา นางกล่าวยิ้มๆ ว่า “เหตุใดท่านโหวอาวุโสถึงเมาเร็วเช่นนี้เล่า?”“อืม เจ้าไปเรียกคนมาประคองเขาไปพักผ่อนที่ห้องข้างเถอะ”สุดท้ายเซียวเย่หลันก็ไม่ได้คําตอบ แต่เขาคิดว่า บางทีเขาอาจจะกังวลมากเกินไปตอนที่เขาได้รับบาดเจ็บขณะนั้น เขาไม่เห็นเซี่ยเชียนฮวันเลยเป็นอวี้เออร์ที่ช่วยเขา“ท่านอ๋อง คืนนี้ท่านจะพักที่นี่หรือไม่?”ซูอวี้เออร์รินสุราให้เซียวเย่หลัน จากนั้นก็ค่อยๆ จับหลังมือของเขา ความรักลึกซึ้งล้วนอยู่ในคำพูดอย่างไรก็ตาม เซียวเย่หลันกลับค่อยๆ ดึงมือออก “ไม่ ข้าจะไปที่ห้องตำรา”“งั้
“มันมาจากไหน?”เซียวเย่หลันถามเซี่ยเชียนฮวันขมวดคิ้ว “ตงไหล!”“ตงไหล...”พอได้ยินชื่อสถานที่นี้ สีหน้าของเซียวเย่หลันก็ขรึมลงเล็กน้อย เขานึกถึงคนๆ หนึ่งเซี่ยเชียนฮวันเอ่ยชื่อของคนที่อยู่ในความคิดของเขาทันที “รู้สึกว่าบังเอิญมากใช่หรือไม่? ยาที่พวกฆาตกรให้เหยื่อกินเป็นผลผลิตพิเศษจากตงไหล ประจวบเหมาะกับตอนที่พวกเขาจับคนร้ายแถบชานเมืองนั้น ฉินจีที่มีสมญานามว่าเป็นหญิงงามอันดับหนึ่งแห่งตงไหลถูกส่งตัวไปที่วังหลัง” “ช่างบังเอิญมากจริงๆ”เซียวเย่หลันจ้องไปที่หญ้าที่ส่งกลิ่นคาวปลาตายบนโต๊ะ นิ้ววางอยู่เหนือริมฝีปากแล้วบีบจมูกเบาๆเรื่องราวมากมายจริงๆเขาไม่รู้สึกว่าพวกนี้เป็นเรื่องบังเอิญทั้งสองเรื่องนี้ อย่างไรเสียก็ต้องเกี่ยวข้องกันเซี่ยเชียนฮวันพูดว่า “แล้วก็ ข้าให้เพื่อนไปสืบดูแล้ว เป็นเพราะหญ้าโช่วผิงถูกคนเข้าใจว่าเป็นยายืดอายุขัย มีจอมยุทธ์มากมายที่จะใช้มันกลั่นเป็นยาเพื่อใช้บำรุงสำหรับการฝึกยุทธ์”“เพื่อนเจ้าคนไหน? ผู้ชายหรือผู้หญิง?”จุดสนใจของเซียวเย่หลันอยู่ตรงนี้เซี่ยเชียนฮวันกลอกตามองบนอย่างไม่สบอารมณ์ “เถ้าแก่เนี้ยที่หอฮัวเยว่!”“อืม”ผู้หญิง เช่นนั้นเซียวเย่ห
ซูอวี้เออร์สีหน้าแข็งค้างสมควรตายคิดไม่ถึงเลยว่าพวกโจรโฉดพวกนี้จะได้รับข่าวสารว่องไวเพียงนี้!นางยังนึกว่า พวกเขาควรจะเป็นพวกโจรกระจอกในยุทธภพ ไม่ค่อยมีความเข้าใจเกี่ยวกับราชวงศ์นัก และนางเพิ่งตั้งครรภ์ไม่นาน จากภายนอกแล้วก็ดูไม่ออกหากเป็นเช่นนี้ นางในตอนนี้ก็กลายเป็นแกะน้อยเข้าถ้ำเสือแล้วสิ??ในขณะที่ซูอวี้เออร์เหงื่อเปียกชุ่มไปทั้งตัวและกำลังคิดว่าจะรับมือต่ออย่างไรนั้น หัวหน้าชุดขาวก็เงยหน้าขึ้นแล้วหัวเราะเสียงดัง “ฮ่าๆๆ ไม่ต้องเป็นกังวลไป!”“เป้าหมายของพวกเราคือหญิงตั้งครรภ์ท้องโต เจ้าที่เพิ่งท้องแบบนี้ ทารกในครรภ์ยังไม่เป็นรูปเป็นร่างเลย ไม่มีประโยชน์อะไรกับเราสักนิด” อีกคนหนึ่งพูดเสียงเย็น หัวหน้าชุดขาวตบไปที่บ่าของพรรคพวกตัวเอง “เอาล่ะ อย่าทำให้นางตกใจไปเลย พวกเรากำลังต้องการเลือดเนื้อเชื้อไขของราชวงศ์ต้าเซี่ยพอดี นางยังช่วยพวกเราได้อีกมาก”สีหน้าของพรรคพวกคนนั้นแสดงออกถึงความแปลกใจเล็กน้อยแต่ ที่แห่งนี้ คำพูดของหัวหน้าคนเดียวที่ถือเป็นคำตัดสินสูงสุดเขาได้ตัดสินใจจะร่วมมือกับซูอวี้เออร์แล้วซูอวี้เออร์เผยรอยยิ้มที่พึงพอใจออกมา “ตอนนี้ท่านอ๋องจะออกลาดตระเวนทุกคืน
ก่อนหน้านี้ เซียวจ้านได้พูดคุยกับนางหลายครั้งได้แสดงออกให้เห็นถึงความในใจอยู่บ้างแต่นางกลับไม่รู้เลยว่า เซียวจ้านนั้นแท้จริงแล้วไม่ได้เป็นคนเอาแต่เล่นไม่เอาอ่าวอย่างที่เผยให้เห็นในรูปลักษณ์ภายนอก ตอนเด็กเขาก็ผ่านความเจ็บปวดมาไม่น้อยแต่พวกนั้นต่างก็เป็นการพูดคุยเปิดใจทั่วไปเซี่ยเชียนฮวันยืนยันได้ว่าระว่างนางกับเซียวจ้านนั้นไม่มีการข้ามเส้น มากที่สุดก็เรียกได้ว่าเป็นเพื่อน ไม่ได้เป็นเหมือนที่เซียวเย่หลันคิดนางแค่นเสียงเหอะ “เซียวเย่หลัน ข้าว่านะ เพราะเจ้าเคยแอบขโมย พอมองใครก็รู้สึกว่าเป็นโจรเสียหมด”“ข้าไม่เคยขโมยของใคร” เซียวเย่หลันถูกทำให้โกรธจนขำแล้วเซี่ยเชียนฮวันยกมุมปาก “ตัวเจ้ามีหญิงสาวมากมาย ซูอวี้เออร์นั้นข้าไม่นับแล้ว ยังมีหลี่จิ้งหย่าที่ชอบพอกันมาตั้งแต่เด็ก ผู้อื่นแต่งงานกับองค์ชายสองแล้ว เจ้ายังไปติดพันนางยากจะอธิบายได้ชัดเจนอยู่เลย”“เป็นเพราะว่าจิตใจของท่านอ๋องเองไม่บริสุทธิ์ ดังนั้น ถึงได้รู้สึกว่าระหว่างข้ากับองค์ชายห้านั้นพิเศษอย่างไรล่ะ”เซียวเย่หลันน้ำเสียงเย็นเยียบ “ตัวข้าไม่เคยติดพันกับหลี่จิ้งหย่าจนอธิบายไม่ได้”“งั้นหรือ? เช่นนั้นวันนั้นที่ข้าเห็น
“ข้าเป็นหมอผู้เชี่ยวชาญ ไม่กลัวหรอก”เซี่ยเชียนฮวันปากแข็ง ดึงฝ่ามือออกจากมือของเซียวเย่หลันแล้วเริ่มชันสูตรศพทีละร่างหญิงสาวพวกนี้ตายเพราะเสียเลือดมากเกินไปพวกนางถูกกรีดร่างทั้งเป็น วิธีการทารุณมากแต่ที่แปลกคือ ภายในร่างของพวกนางกลับมีร่องรอยของยาอยู่ แต่ไม่ได้ถูกพิษอย่างที่เจ้าหน้าที่ชันสูตรศพพูดพอเจ้าเมืองเห็นเซี่ยเชียนฮวันขมวดคิ้ว ดวงตาเต็มไปด้วยความไม่เข้าใจ เขาจึงบีบจมูกแล้วเดินไปด้านหน้าถามขึ้นว่า “พระชายาอ๋อง ท่านสังเกตพบสิ่งใดหรือไม่?”“จากที่ข้าสังเกต แทนที่จะพูดว่าพวกนางถูกพิษ ควรพูดว่าก่อนตาย พวกนางถูกคนกรอกยาชนิดหนึ่งให้กิน ไม่ถึงกับขั้นส่งผลร้ายต่อร่างกายมากนัก แต่ในเมื่อฆาตกรจะฆ่าพวกนางอยู่แล้ว เหตุใดต้องมากเรื่อง กรอกยาพวกนางด้วยเล่า”จุดที่เซี่ยเชียนฮวันคิดไม่ตกก็คือจุดนี้ในกระเพาะของทุกร่างล้วนมีเศษซากยาชนิดนี้เท่ากับว่า เรื่องนี้สำหรับฆาตกรแล้วเป็นขั้นตอนที่ขาดไม่ได้สำหรับฆาตกร ขั้นตอนนี้มีประโยชน์ต่อพวกเขาสูงสุดเซียวเย่หลันขมวดคิ้วเล็กน้อย “ยาชนิดนี้ทำขึ้นมาจากอะไรหรือ?”“น่าจะมีประโยชน์เพียงช่วยให้ร่างกายแข็งแรง แต่รายละเอียดต่างๆ ต้องรอให้ข้านำตั
“ใครน่ะ?!”เซี่ยเชียนฮวันตกใจเดินไม่ให้ซุ่มไม่ให้เสียงมาอยู่ด้านหลังของนาง!พอนึกถึงเรื่องที่สตรีมีครรภ์หายตัวไปในช่วงนี้ ใจของเซี่ยเชียนฮวันก็เต้นตึกๆๆ รัวเป็นกลอง นางหันตัวขวับกลับมา นางก็ราดน้ำที่อยู่ในมือออกไปจนหมดจากนั้น...นางได้ทำให้ผมดกดำและเสื้อผ้าของเซียวเย่หลับเปียกไปหมดเซียวเย่หลันถูกน้ำราดทั้งหน้า หมดคำจะพูด ใช้มือเช็ดถูกแล้วพูดเสียงเย็น “การระมัดระวังตัวตลอดเวลานั้นเป็นเรื่องดี แต่ก็ไม่ต้องกลัวเป็นกระต่ายตื่นตูมไป”“ใครให้เจ้ามาไม่ให้เสียงสักนิดล่ะ มาอย่างกับผี ตกใจหมดเลย” เซี่ยเชียนฮวันเองก็อารมณ์ไม่ดี “แต่ก่อนเจ้าไม่มาโรงหมอไม่ใช่หรือ วันนี้วิ่งแจ้นมาที่นี่ทำไม?”“หากไม่ใช่เพราะเจ้าเมืองซุ่นเทียนมาขอแล้วขออีก ข้าเองก็คร้านจะมา”เซียวเย่หลันแสดงท่าทางรังเกียจเต็มที่ หยิบเอาผ้าออกมาเช็ดหน้าเซี่ยเชียนฮวันไม่เข้าใจ “เจ้าเมืองซุ่นเทียนขอร้องเจ้า? เขาเองก็อยากซื้อครีมบำรุงให้ฮูหยินของตนหรือ?”“พบศพเหยื่อสาวแถวชานเมืองหลวง ฝ่ายชันสูตรบอกว่าพวกนางถูกพิษ แต่ไม่สามารถตรวจสอบได้แน่ชัดว่าเป็นพิษจากอะไร เจ้าเมืองซุ่นเทียนก็เลยอยากขอให้เจ้าช่วย”เซียวเย่หลันพูดอธิบายส
“รู้สิ ทำไมหรือ?”เซี่ยเชียนฮวันตะลึงตอนที่อยู่โรงหมอ นางได้ยินพวกชาวบ้านถกเถียงกันราวกับว่ามีหญิงสาวมากมายที่ถูกจับตัวหรือว่า ที่ฮ่องเต้เรียกตัวเซียวเย่หลันไปห้องทรงพระอักษรก็เพราะจะให้เขาตรวจสอบเรื่องนี้เซียวเย่หลันพูดเสียงทุ้มว่า “สตรีที่ถูกพวกเขาจับตัวไปล้วนเป็นสตรีมีครรภ์” “อะไรนะ???”เซี่ยเชียนฮวันอดตกใจไม่ได้!ตามหลักแล้ว สตรีที่ถูกจับตัวไปควรเป็นหญิงสาวอายุน้อย เหตุใดจึงเป็นสตรีมีครรภ์ล่ะ?“ตอนนี้ คนในเมืองหลวงในใจกระวนกระวาย เสด็จพ่อได้ออกประกาศห้ามออกจากเคหะสถานยามค่ำคืนแล้ว นับจากวันนี้เป็นต้นไป ข้าต้องนำทหารออกไปลาดตระเวนทุกคืน จนกว่าจะจับตัวพวกผู้ร้ายพวกนั้นได้”เซียวเย่หลันมองไปทางเซี่ยเชียนฮวันปราดหนึ่ง ยื่นมือไปบีบแก้มนาง “เจ้าดูแลเด็กน้อยในท้องของเจ้าให้ดี ช่วงนี้อย่าออกไปวิ่งพล่านที่ไหน ได้ยินไหม”“อื้อ”เซี่ยเชียนฮวันตอบอย่างว่าง่ายไม่แปลกที่เซียวเย่หลันไม่ยอมให้นางช่วยที่แท้ก็เพราะแค่มีครรภ์ก็ตกอยู่ในอันตรายแล้ว เพื่อปกป้องเด็กน้อยในท้อง นางต้องไม่เอาตัวเข้าไปเสี่ยงเซี่ยเชียนฮวันไม่ได้พูดเรื่องไปช่วยอีกนางติดตามเซียวเย่หลันกลับจวนอ๋อง แล้ว
หลังจากที่ได้เห็นฉากพยานแมวในเหตุการณ์กับตาตัวเองแล้ว สุดท้ายฉินจีก็ยอมรับด้วยตัวเองแล้ว นางคุกเข่าต่อหน้าฮ่องเต้ ตัวสั่นเทิ้มสีพระพักตร์ของฮ่องเต้เคร่งขึมดูแล้ว เป็นเหมือนดั่งที่เจ้าห้าพูดจริงๆ ด้วย ฉินจีตั้งใจปล่อยแมวไปทำให้เซี่ยเชียนฮวันตกใจไม่ว่าตอนนี้เขาจะลำเอียงรักและเอ็นดูฉินจีมากเพียงใด เรื่องนี้ข้องเกี่ยวกับลูกหลานของราชวงศ์ ไม่สามารถทำตัวเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ได้เหมือนเรื่องที่พวกนางสนมทั้งหลายแก่งแย่งความรักกัน เซียวเย่หลันเดินออกมา จ้องไปที่ฉินจีอย่างเย็นชา “ขอเสด็จพ่อลงโทษอย่างสาหัสด้วยพ่ะย่ะค่ะ”“ถ่ายทอดคำสั่ง ลำดับศักดิ์ของฉินจีลดขั้นลงเหลือเพียงไฉหนี่ว์ ถูกกักบริเวณในหอหลิวอินเป็นเวลาสามวัน ห้ามออกจากประตู”ฮ่องเต้กุมขมับ ไม่ได้มองไปทางฉินจีที่มีท่าทีน่าสงสารอีกทั้งลดลำดับศักดิ์ ทั้งถูกกักบริเวณ ถือว่าเป็นการให้เกียรติเซียวเย่หลันกับเซี่ยเชียนฮวันมากแล้ว เซี่ยเชียนฮวันยิ้มตาหยี “ขอบพระทัยเสด็จพ่อที่ทรงให้ความยุติธรรมเพคะ”จากนั้น นางก็หันไปทางเซียวจ้าน ในดวงตาเรียวเล็กมีประกายแสงแสดงถึงความจริงจัง “และต้องขอบคุณน้องห้าด้วยที่พูดผดุงความยุติธรรมแก่ข้า”“น้
“ฝ่าบาท พระชายาจ้านอ๋องคงไม่ได้มีปัญหาที่ตรงนี้หรอกนะเพคะ”ฉินจีชี้ไปที่หัวของตัวเองฮ่องเต้โบกพระหัตถ์ “เอาล่ะ อย่าได้พูดเช่นนี้เลย”ฮ่องเต้ไม่ได้เอาความกับคำพูดส่งเดชของฉินจีอย่างไรเสีย การพูดตรงๆ เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของฉินจี ก็เหมือนหมิงเฟยอย่างนั้นหากไม่ใช่เพราะชอบนิสัยเช่นนี้ของนาง ฮ่องเต้ก็คงไม่ลำเอียงชอบนางมากกว่าทว่า ฮ่องเต้เองก็รู้สึกว่าเซี่ยเชียนฮวันราวกับว่าสมองถูกกระทบกระเทือน กลับมาตั้งคำถามกับแมวอย่างเอาจริงเอาจัง ไม่รู้ว่านางจะมาไม้ไหนอีก“หากแมวตัวนั้นตอบคำถามของพระชายาจ้านอ๋องจริงๆ หม่อมฉันยอมรับโทษเพคะ” ฉินจีหัวเราะเยาะเย้ยเบาๆ“เจ้าเป็นคนพูดเองนะ” เซี่ยเชียนฮวันนั่งปัดมืออยู่ที่พื้น “เอาล่ะ เป็นแมวที่สัตย์ซื่อหน่อยซิ”“เหมียว เหมียว เหมียว?” เจ้าแมวขาวเอียงหัวเล็กน้อยเซียวเย่หลันเองก็ทนดูไม่ค่อยไหวแล้ว อยากจะลากตัวนางออกไปทันใดนั้น ขณะที่ทุกคนกำลังคิดว่าเซี่ยเชียนฮวันกำลังก่อเรื่องนั้น เจ้าแมวขาวกลับยื่นอุ้งมือออกมา!มันทำเหมือนที่เซี่ยเชียนฮวันพูดจริงๆ ด้วย ข่วนไปที่หยกห้อยเอวที่อยู่ด้านขวาผู้คนต่างสีหน้าเปลี่ยนสี“เป็นไปไม่ได้!” ฉินจีโพล่งออก
“ฝ่าบาททรงรอบรู้ หม่อมฉันเพียงแต่พูดความจริงเท่านั้น”ฉินจีหลุบตาลงฮ่องเต้มองไปที่เซียวจ้านแล้วพูดว่า “เจ้าห้า เจ้าเป็นคนมีมารยาทดีมาโดยตลอด ทำไมวันนี้ต้องมีปัญหากับฉินเออร์ด้วย”“ทูลเสด็จพ่อ ลูกไม่ได้ตั้งใจจะมุ่งเป้าไปที่ผู้ใด เพียงแต่เห็นฉินเจี๋ยอวี๋กับพระชายาจ้านอ๋องโต้เถียงกัน จากนั้นพระชายาจ้านอ๋องเกือบจะล้ม ซึ่งเลี่ยงไม่ได้ที่คนจะรู้สึกสงสัย”เซียวจ้านประกบมือคำนับแล้วกล่าวขึ้นในเวลานี้ ในที่สุดเซียวเย่หลันก็เอ่ยปากถามเซี่ยเชียนฮวันที่ยืนอยู่ข้างๆ ด้วยเสียงแผ่วเบาว่า “ล้มหรือเปล่า”“ไม่เป็นไร ไม่ตายหรอก”เซี่ยเชียนฮวันตอบอย่างไม่สบอารมณ์เซียวเย่หลันพูดไม่ออกสตรีที่ดูอ่อนแอกันคนภายนอกแต่กับคนในบ้านกลับหยาบคายใส่คนนี้นี่เขากำลังแสดงความเป็นห่วงนางชัดๆ แต่กลับพูดจายอกย้อนกับเขา“ฉินเอ๋อเพิ่งเข้าวังไม่เข้าใจกฎเกณฑ์ หากมีตรงไหนล่วงเกินสะใภ้เจ็ด พวกเจ้าก็แค่ให้อภัยก็จบแล้ว ไม่จำเป็นต้องทำให้ตึงเครียดขนาดนี้”ฮ่องเต้พูดเช่นนี้ เห็นได้ชัดว่าต้องการให้เรื่องนี้สงบลง ไม่ถือสาหาความผิดของฉินจีอย่างไรก็ตาม พอได้ยินเช่นนี้ฉินจีกลับตกใจเล็กน้อยเดิมทีนางคิดว่าฮ่องเต้จะไม่เพียงแต่ปกป้องนา