"พี่งูเอ๋ยพี่งู คิดไม่ถึงว่าเจ้าจะตามข้ามาถึงที่นี่ ขอบใจเจ้ามากที่ช่วยข้าให้พ้นจากวิกฤตเมื่อครู่ แต่เสื้อผ้าของข้ายังอยู่ที่นั่น อากาศหนาวเหน็บเช่นนี้ข้าเกรงว่าจะหนาวตายเสียก่อน"เซี่ยเชียนฮวันซุกตัวอยู่ในมุมหนึ่งของถ้ำ โดยใช้มือโอบร่างกายของตนเอาไว้ ท่าทีดูน่าสงสารเหลือเกินนางพึมพำออกมาว่า "ต้องโทษชายคนเมื่อครู่ ข้าบอกแล้วว่าเพียงแค่อาบน้ำเท่านั้น แต่เขากลับยืนกรานจะจับข้าในฐานะมือสังหาร คนตาบอดเช่นเขา ในอนาคตหากมีลูก ลูกคงจะตาบอดด้วย"งูใหญ่ขดตัวกลม ไม่รู้ว่ามันเข้าใจคำพูดของนางหรือไม่ แต่เข้ามาใกล้นางมากขึ้นเซี่ยเชียนฮวันยื่นมือออกมาปฏิเสธ "พี่งูคิดอยากเพิ่มความอบอุ่นให้ข้าหรือ? แต่เจ้าเป็นสัตว์เลือดเย็น ยิ่งเข้าใกล้ข้า ข้ายิ่งสัมผัสได้ถึงความหนาวเย็น น้ำใจของเจ้านั้นข้ารับไว้แล้ว"นางฟังไม่ออกว่าเสียงฟ่อๆ ของงูใหญ่หมายถึงสิ่งใด แต่นางรู้ว่างูตัวนี้มีจิตวิญญาณและจะไม่ทำร้ายนางแน่บางทีสักวันหนึ่งนางอาจจะศึกษาตำรากุ่ยอีทั้งเจ็ดเล่มได้สำเร็จ เมื่อถึงเวลานั้นคงสามารถสื่อสารกับสิ่งมีชีวิตทุกชนิดได้เช่นบรรพบุรุษของกุ่ยอีในตำนานงูใหญ่ไม่ได้เข้าใกล้นางอีกมันก้มศีรษะลงนิ่งเงียบ
เซี่ยเชียนฮวันรีบหดศีรษะกลับไปหัวใจดวงน้อยของนางเต้นโครมคราม คิดไม่ถึงว่าชายที่ถูกห้อมล้อมเอาไว้จะเป็นเซียวเย่หลันและนางบังเอิญเจอเข้ากับเขาพอดีนี่มันชะตาอะไรกัน?"ลูกพี่ มีคนอยู่ในถ้ำนั่น""สภาพของจ้านอ๋องตอนนี้ได้รับบาดเจ็บสาหัส เขาคงหนีไปไหนไม่ได้ เราเข้าไปฆ่าปิดปากคนในถ้ำก่อน หากมันไปเรียกกำลังเสริมเราคงจะแย่"มือสังหารอีกคนเริ่มทำการแนะนำด้วยน้ำเสียงเย็นชาผู้ที่เป็นหัวหน้าพยักหน้าเห็นด้วย "ที่เจ้าพูดก็ถูก ไป! ไปดูกัน"พวกเขาทั้งหลายพากันเข้าไปในถ้ำอย่างระมัดระวังทันใดนั้นเองก็มีงูยักษ์พุ่งกายออกมาจากถ้ำ ทำเอาเสียพวกเขาตกใจกลัววิญญาณแทบหลุดจากร่าง!"งะ...งู นั่นมันงู!""รีบไปเร็วเข้า ไปเร็ว!"พวกเขาไม่เคยเห็นงูตัวใหญ่ขนาดนี้มาก่อน จึงไม่มีใครหันไปสนใจเซียวเย่หลันซึ่งกำลังได้รับบาดเจ็บ ต่างพากันวิ่งหนีฉี่ราดงูใหญ่ไล่พวกเขาทั้งหลายจนหายออกไปจากป่าเซี่ยเชียนฮวันยื่นศีรษะน้อยๆ ออกไป นางลังเลอยู่สักพักก่อนจะออกมาจากแอ่งน้ำแห่งนั้นแท้จริงแล้ว ในตอนแรกนางไม่อยากโผล่หน้าไปให้เซียวเย่หลันเห็น แต่เขาบาดเจ็บเลือดออกมาก จะให้นางทิ้งไว้ตามลำพังโดยไม่เหลียวหลังมองได้อย่า
“เจ้าไม่จำเป็นต้องเข้าใจผิด ที่ข้าทำเช่นนี้ เพราะไม่อยากให้จ้านอ๋องและอวี้เออร์ ถูกลากเข้าไปเกี่ยวข้องเพราะความโง่เขลาของเจ้า”น้ำเสียงของเซียวเย่หลันดูแข็งทื่อ เหมือนต้องการปกปิดอะไรบางอย่าง แม้กระทั่งเป็นฝ่ายริเริ่มอธิบายก่อนเซี่ยเชียนฮวันหัวเราะ “ข้าเข้าใจแล้ว ดังนั้นข้าจึงอยู่ในป่าตลอดเวลา ท่านวางใจเถอะ ข้าจะไม่ทำให้พวกท่านเดือดร้อนไปด้วย”นางมีเหตุผลมากเสียจน เซียวเย่หลันไม่รู้จะทำเช่นไร จึงทําได้เพียงแค่เงียบผ่านไปสักพักเซี่ยเชียนฮวันเห็นว่าเขามีเลือดไหลออกมาก จึงหยุดเดินต่อ และเข้าไปประคองเขาให้นั่งอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ “หากท่านรู้สึกเจ็บก็สามารถร้องออกมาได้ มิต้องอดกลั้นเอาไว้”นางนั่งลงข้างๆ เซียวเย่หลัน ฉีกแขนเสื้อแล้วมัดที่แขนของเขา เพื่อช่วยหยุดเลือดให้เขาเซียวเย่หลันเพียงแค่นเสียงอย่างเย็นชา “หากเจ้าไม่ใช้เข็มเงินแทงข้า สายลับวรยุทธ์ดาษๆ สองสามคนนั่น คงไม่อาจทำร้ายข้าได้”“ใช่ๆ ข้าผิดเอง” เซี่ยเชียนฮวันเบะปาก “แต่ท่านแน่ใจหรือว่าพวกเขาเป็นสายลับของซีเหลียง? บางทีอาจจะมีคนในราชสำนักบางคนกำลังทำอะไรบางอย่างอยู่ก็ได้?”“วรยุทธ์และสำเหนียงของพวกเขาล้วนเป็นชาวซีเหลีย
คําพูดของเซียวเย่หลัน ทําให้เซี่ยเชียนฮวันตกตะลึงลูกของเขา?มิใช่ว่า เขาคิดเสมอว่าเด็กคนนี้เป็นลูกชู้ไม่ใช่หรือ?หลังจากเซียวเย่หลันพูดจบ ก็เหมือนจะตระหนักถึงความผิดพลาดของตัวเอง สีหน้าเย็นชาเล็กน้อย “ความหมายของข้าคือ ถึงแม้ว่าเจ้าจะมีความสัมพันธ์กับชายอื่น แต่ก่อนที่เจ้าจะให้กำเนิดเด็ก จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะด่วนตัดสินว่าเด็กคนนั้นไม่ใช่ลูกข้า”เมื่อก่อนเขาไม่รู้ว่าเซี่ยเชียนฮวันจะเฉลียวฉลาดมากเพียงนี้พอลองคิดดูตอนนี้ เนื่องจากนางมีความรู้เรื่องแพทย์ ก็มีความเป็นไปได้ว่าอาจจะแสร้งทำเป็นดื่มน้ำแกงคุมกำเนิด แต่ความจริงกลับแอบเททิ้งเซี่ยเชียนฮวันพลันเหยียดยิ้ม “ข้าคิดว่าท่านควรจะเชื่อสัญชาตญาณของท่านจะดีกว่า ในเมื่อท่านคิดว่าเขาเป็นลูกชู้ เช่นนั้นเขาก็เป็นลูกชู้ หากท่านไม่เชื่อจะลองหยดเลือดพิสูจน์ดูก็ได้ ข้าแน่ใจว่าเลือดของเขาจะไม่หลอมรวมกับท่าน”“เซี่ยเชียนฮวัน เจ้าพูดเช่นนี้แสดงว่าเจ้ามั่นใจแล้วหรือ ว่าใครเป็นบิดาของเด็กนั่น”ดวงตาของเซียวเย่หลันพลันเปลี่ยนเป็นเย็นชาขึ้นเรื่อยๆ ไม่หลงเหลือความอบอุ่นอีกต่อไปเซี่ยเชียนฮวันร้องหึออกมา “ไม่ว่าพ่อของเด็กจะเป็นใคร แต่มิใช่คนใจจืดใ
“มีหลายคนแพร่กระจายเรื่องนี้ นับวันๆ ยิ่งกล่าวเกินจริงขึ้นเรื่อยๆ และเริ่มอุกอาจมากยิ่งขึ้น อวี้เออร์ได้ยินเรื่องนี้จากเซียวหมิงเซียน”เซียวเย่หลันไม่คิดว่าซูอวี้เออร์จะใส่ร้ายเซี่ยเชียนฮวันนี่เป็นเพราะซูอวี้เออร์ฉลาด นางโยนความผิดให้องค์หญิงแปดเซียวหมิงเซียนล่วงหน้าแล้วแต่ทว่า ถ้าหากเซี่ยเชียนฮวันไม่มายังพื้นที่ล่าสัตว์ และไม่บังเอิญเจอเซียวเย่หลัน เกรงว่าเขาคงจะเชื่อข่าวลือระหว่างเซี่ยเชียนฮวันและหลินซวี่ จากนั้นไม่ว่าจะผ่านไปนานแค่ไหน เขาก็คงไม่เป็นฝ่ายริเริ่มไปที่ภูเขาจื่อเสียก่อนกล่าวได้ว่าซูอวี้เออร์วางแผนเป็นอย่างดี เสียแต่ว่ามีหมากตัวหนึ่งเดินผิดก็เท่านั้น“เจ้าบอกว่าตอนที่มาถึงภูเขาจื่อเสียในวันแรกก็โดนคนผลักตกหน้าผา มันเกิดขึ้นได้อย่างไร” เซียวเย่หลันถามน้ำเสียงจริงจัง“เป็นเพียงความแค้นในวังหลังสมัยก่อนที่เอามาลงกับข้า สำหรับผู้ที่ลงมือกับข้า ข้าได้ล้างแค้นคืนไปแล้ว ไม่จำเป็นต้องสืบสวนต่อ”เซี่ยเชียนฮวันปล่อยผ่านเรื่องนี้และโชคดี ที่เซียวเย่หลันไม่ได้ถามอะไรมากเขารู้ว่าเซี่ยเชียนฮวันเป็นหลานสาวของไทเฮา ซี่งในอารามชีนั้นมีนางสนมสมัยก่อนอยู่มากมาย จึงไม่ใช่เรื่อง
“อย่าส่งเสียง”เซียวเย่หลันแทบจะดึงเซี่ยเชียนฮวันเข้ามากอดโดยไม่รู้ตัว เขาปิดปากนางไว้ และกอดนางไว้ในอ้อมแขน“ท่าน...”“ชู่”เซี่ยเชียนฮวันไม่มีทางเลือกนอกจากต้องเงียบนางแค่อยากจะถามว่า เหตุใดเซียวเย่หลันถึงเคลื่อนไหวเช่นนี้ ไม่เจ็บแผลหรือ“งูที่เจ้ารู้จัก มันฆ่าคนเป็นหรือไม่?”ชายคนนั้นโน้มตัวลงมาใกล้ๆ ข้างหูของเซี่ยเชียนฮวัน น้ำเสียงถูกกดให้ต่ำ แทบจะเป็นเพียงลมหายใจอุ่นๆ ที่พ่นอยู่ข้างหูนาง ทำให้รู้สึกราวกับว่ามีมดหลายตัวกำลังไต่ไปมาในหัวใจของนางเซี่ยเชียนฮวันไม่กล้าส่งเสียง ได้แต่เพียงส่ายหน้านางไม่รู้แต่ตั้งแต่ที่รู้จักงูตัวนั้นมา นางก็เห็นมันกินแต่ผลไม้หรือเม็ดยา ไม่เคยเห็นมันกินหนู กระต่ายหรืออะไรเลยบางทีมันอาจจะเชื่องจนเกินไป จึงไม่มีประสบการณ์ในการล่าสัตว์ เช่นนั้นก็ควรที่จะจัดการกับมือสังหารพวกนั้นไม่ได้หรือเปล่า?เซี่ยเชียนฮวันอดรู้สึกกังวลขึ้นมาไม่ได้นางสงบสติอารมณ์ เมื่อเห็นเงาร่างสองเงาวิ่งมาจากทางที่เกิดต้นเสียง ฉับพลันหัวใจดวงน้อยๆ ก็แทบจะเด้งมาจุกที่ต้นคอเป็นมือสังหารซีเหลียงจริงๆ ด้วย!พวกเขาอยู่ที่นี่จริงๆ!“สมควรตาย จู่ๆ หัวหน้าก็ถูกงูตัวนั้นเข
ในค่ายคบเพลิงถูกเผาไหม้ตลอดทั้งคืน บริเวณลานล่าสัตว์จึงมีแสงสว่างทั้งคืนด้วยเช่นกันฮ่องเต้นำทุกคนทานเนื้อสัตว์อย่างมีความสุข ดื่มเหล้าคำโต และชมนางกำนัลเต้นระบำรอบกองไฟ เหล่าข้าราชบริพารบางส่วนถ้าหากถูกฮ่องเต้ขานชื่อ ก็จำเป็นต้องเข้าแถวรอเต้นรำ เพื่อสร้างเสียงหัวเราะให้กับโอรสสวรรค์“ฉงเอ๋อร์ ในอดีตผู้ที่ล่าสัตว์ได้มากที่สุดล้วนเป็นเจ้าเจ็ดทุกครั้ง แต่คาดไม่ถึงว่าครั้งนี้เจ้าจะเป็นผู้ชนะ ไม่เลวเลยทีเดียว ข้ารู้สึกชื่นชมกับความก้าวหน้าของเจ้า!”ฮ่องเต้ทรงพอพระทัยมาก จึงชื่นชมองค์ชายรองต่อหน้าทุกคนองค์รัชทายาทที่นั่งประทับอยู่ข้างๆ กลับขมวดคิ้วมุ่น และกล่าวพึมพำว่า “ครั้งนี้น้องเจ็ดยังคงล่าสัตว์ได้มาก แต่ทว่า จนป่านนี้ก็ยังไม่กลับออกมาเสียที”บอกเพียงแต่ว่าจะเข้าป่าไปตรวจสอบอะไรบางอย่าง แต่มันใช้เวลานานขนาดนี้เชียวหรือ?ตอนนี้การแข่งขันล่าสัตว์ก็จบลงไปแล้ว องค์ชายรองก็ฉวยโอกาสหยิบชิ้นปลามันไปอย่างสบายๆ และคว้าตำแหน่งผู้ชนะ ทำให้มีหน้ามีตาขึ้นมา “ขอบพระทัยเสด็จพ่อที่ประทานรางวัลให้กับลูก ในอนาคตลูกจะพยายามให้มากขึ้นกว่านี้ หากมีข้อผิดพลาดก็แก้เสีย แต่หากไม่มีก็ถือเป็นข้อเตื
“ร่างกายของเจ้ามีส่วนไหนบ้างที่ข้าไม่เคยเห็น”เซียวเย่หลันเหลือบมองนางอย่างเย็นชาเซี่ยเชียนฮวันทำปากจู๋ “มันไม่เหมือนกันสักหน่อย ตอนนั้นมันมืดท่านจะเห็นอะไรมากกัน แต่ตอนนี้มีแสงไฟสว่าง ถ้าหากข้าถอดเสื้อผ้า ไม่ใช่ว่าท่านจะมองเห็นอย่างชัดเจนหรือ?” “จะมืดจะสว่างข้าก็เห็นชัดเจนทั้งนั้น”เซียวเย่หลันส่งเสียงหึไม่เพียงแค่เห็นเท่านั้น แต่ยังได้สัมผัสอีกด้วยเวลานี้นางรู้สึกอึดอัดใจขึ้นมาเซี่ยเชียนฮวันแก้มแดงเล็กน้อย เหตุการณ์บางอย่างที่ไม่ควรจำก็ปรากฏขึ้นในหัวของนาง นางหันหลังให้กับเซียวเย่หลันและกล่าวว่า “ข้าไม่สนเรื่องในอดีต แต่คืนนี้ท่านไม่ได้รับอนุญาตให้มองข้า”“ก็ได้ ข้าก็คร้านจะมองเจ้าเช่นกัน”เซียวเย่หลันนั่งลงโดยหันหลังให้กับเซี่ยเชียนฮวัน ดวงตาเย็นชาคู่นั้นจ้องไปยังสายลับชาวซีเหลียงทั้งสองคนที่ถูกมัดเป็นบ๊ะจ่างเซี่ยเชียนฮวันลอบมองเขา หลังจากที่แน่ใจว่าชายคนนั้นไม่หันกลับมา จึงถอดเสื้อนอกอย่างรวดเร็ว และนำไปแขวนเพื่อตากความจริงแล้ว ชุดชั้นในของนางก็เปียกโชกเช่นกันหลังจากลังเลอยู่สักพัก เซี่ยเชียนฮวันก็ถอดชุดชั้นในของนางอย่างเงียบๆ แล้วนำไปตากให้แห้งเช่นกันตอนนี้นา