“เจ้าไม่จำเป็นต้องเข้าใจผิด ที่ข้าทำเช่นนี้ เพราะไม่อยากให้จ้านอ๋องและอวี้เออร์ ถูกลากเข้าไปเกี่ยวข้องเพราะความโง่เขลาของเจ้า”น้ำเสียงของเซียวเย่หลันดูแข็งทื่อ เหมือนต้องการปกปิดอะไรบางอย่าง แม้กระทั่งเป็นฝ่ายริเริ่มอธิบายก่อนเซี่ยเชียนฮวันหัวเราะ “ข้าเข้าใจแล้ว ดังนั้นข้าจึงอยู่ในป่าตลอดเวลา ท่านวางใจเถอะ ข้าจะไม่ทำให้พวกท่านเดือดร้อนไปด้วย”นางมีเหตุผลมากเสียจน เซียวเย่หลันไม่รู้จะทำเช่นไร จึงทําได้เพียงแค่เงียบผ่านไปสักพักเซี่ยเชียนฮวันเห็นว่าเขามีเลือดไหลออกมาก จึงหยุดเดินต่อ และเข้าไปประคองเขาให้นั่งอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ “หากท่านรู้สึกเจ็บก็สามารถร้องออกมาได้ มิต้องอดกลั้นเอาไว้”นางนั่งลงข้างๆ เซียวเย่หลัน ฉีกแขนเสื้อแล้วมัดที่แขนของเขา เพื่อช่วยหยุดเลือดให้เขาเซียวเย่หลันเพียงแค่นเสียงอย่างเย็นชา “หากเจ้าไม่ใช้เข็มเงินแทงข้า สายลับวรยุทธ์ดาษๆ สองสามคนนั่น คงไม่อาจทำร้ายข้าได้”“ใช่ๆ ข้าผิดเอง” เซี่ยเชียนฮวันเบะปาก “แต่ท่านแน่ใจหรือว่าพวกเขาเป็นสายลับของซีเหลียง? บางทีอาจจะมีคนในราชสำนักบางคนกำลังทำอะไรบางอย่างอยู่ก็ได้?”“วรยุทธ์และสำเหนียงของพวกเขาล้วนเป็นชาวซีเหลีย
คําพูดของเซียวเย่หลัน ทําให้เซี่ยเชียนฮวันตกตะลึงลูกของเขา?มิใช่ว่า เขาคิดเสมอว่าเด็กคนนี้เป็นลูกชู้ไม่ใช่หรือ?หลังจากเซียวเย่หลันพูดจบ ก็เหมือนจะตระหนักถึงความผิดพลาดของตัวเอง สีหน้าเย็นชาเล็กน้อย “ความหมายของข้าคือ ถึงแม้ว่าเจ้าจะมีความสัมพันธ์กับชายอื่น แต่ก่อนที่เจ้าจะให้กำเนิดเด็ก จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะด่วนตัดสินว่าเด็กคนนั้นไม่ใช่ลูกข้า”เมื่อก่อนเขาไม่รู้ว่าเซี่ยเชียนฮวันจะเฉลียวฉลาดมากเพียงนี้พอลองคิดดูตอนนี้ เนื่องจากนางมีความรู้เรื่องแพทย์ ก็มีความเป็นไปได้ว่าอาจจะแสร้งทำเป็นดื่มน้ำแกงคุมกำเนิด แต่ความจริงกลับแอบเททิ้งเซี่ยเชียนฮวันพลันเหยียดยิ้ม “ข้าคิดว่าท่านควรจะเชื่อสัญชาตญาณของท่านจะดีกว่า ในเมื่อท่านคิดว่าเขาเป็นลูกชู้ เช่นนั้นเขาก็เป็นลูกชู้ หากท่านไม่เชื่อจะลองหยดเลือดพิสูจน์ดูก็ได้ ข้าแน่ใจว่าเลือดของเขาจะไม่หลอมรวมกับท่าน”“เซี่ยเชียนฮวัน เจ้าพูดเช่นนี้แสดงว่าเจ้ามั่นใจแล้วหรือ ว่าใครเป็นบิดาของเด็กนั่น”ดวงตาของเซียวเย่หลันพลันเปลี่ยนเป็นเย็นชาขึ้นเรื่อยๆ ไม่หลงเหลือความอบอุ่นอีกต่อไปเซี่ยเชียนฮวันร้องหึออกมา “ไม่ว่าพ่อของเด็กจะเป็นใคร แต่มิใช่คนใจจืดใ
“มีหลายคนแพร่กระจายเรื่องนี้ นับวันๆ ยิ่งกล่าวเกินจริงขึ้นเรื่อยๆ และเริ่มอุกอาจมากยิ่งขึ้น อวี้เออร์ได้ยินเรื่องนี้จากเซียวหมิงเซียน”เซียวเย่หลันไม่คิดว่าซูอวี้เออร์จะใส่ร้ายเซี่ยเชียนฮวันนี่เป็นเพราะซูอวี้เออร์ฉลาด นางโยนความผิดให้องค์หญิงแปดเซียวหมิงเซียนล่วงหน้าแล้วแต่ทว่า ถ้าหากเซี่ยเชียนฮวันไม่มายังพื้นที่ล่าสัตว์ และไม่บังเอิญเจอเซียวเย่หลัน เกรงว่าเขาคงจะเชื่อข่าวลือระหว่างเซี่ยเชียนฮวันและหลินซวี่ จากนั้นไม่ว่าจะผ่านไปนานแค่ไหน เขาก็คงไม่เป็นฝ่ายริเริ่มไปที่ภูเขาจื่อเสียก่อนกล่าวได้ว่าซูอวี้เออร์วางแผนเป็นอย่างดี เสียแต่ว่ามีหมากตัวหนึ่งเดินผิดก็เท่านั้น“เจ้าบอกว่าตอนที่มาถึงภูเขาจื่อเสียในวันแรกก็โดนคนผลักตกหน้าผา มันเกิดขึ้นได้อย่างไร” เซียวเย่หลันถามน้ำเสียงจริงจัง“เป็นเพียงความแค้นในวังหลังสมัยก่อนที่เอามาลงกับข้า สำหรับผู้ที่ลงมือกับข้า ข้าได้ล้างแค้นคืนไปแล้ว ไม่จำเป็นต้องสืบสวนต่อ”เซี่ยเชียนฮวันปล่อยผ่านเรื่องนี้และโชคดี ที่เซียวเย่หลันไม่ได้ถามอะไรมากเขารู้ว่าเซี่ยเชียนฮวันเป็นหลานสาวของไทเฮา ซี่งในอารามชีนั้นมีนางสนมสมัยก่อนอยู่มากมาย จึงไม่ใช่เรื่อง
“อย่าส่งเสียง”เซียวเย่หลันแทบจะดึงเซี่ยเชียนฮวันเข้ามากอดโดยไม่รู้ตัว เขาปิดปากนางไว้ และกอดนางไว้ในอ้อมแขน“ท่าน...”“ชู่”เซี่ยเชียนฮวันไม่มีทางเลือกนอกจากต้องเงียบนางแค่อยากจะถามว่า เหตุใดเซียวเย่หลันถึงเคลื่อนไหวเช่นนี้ ไม่เจ็บแผลหรือ“งูที่เจ้ารู้จัก มันฆ่าคนเป็นหรือไม่?”ชายคนนั้นโน้มตัวลงมาใกล้ๆ ข้างหูของเซี่ยเชียนฮวัน น้ำเสียงถูกกดให้ต่ำ แทบจะเป็นเพียงลมหายใจอุ่นๆ ที่พ่นอยู่ข้างหูนาง ทำให้รู้สึกราวกับว่ามีมดหลายตัวกำลังไต่ไปมาในหัวใจของนางเซี่ยเชียนฮวันไม่กล้าส่งเสียง ได้แต่เพียงส่ายหน้านางไม่รู้แต่ตั้งแต่ที่รู้จักงูตัวนั้นมา นางก็เห็นมันกินแต่ผลไม้หรือเม็ดยา ไม่เคยเห็นมันกินหนู กระต่ายหรืออะไรเลยบางทีมันอาจจะเชื่องจนเกินไป จึงไม่มีประสบการณ์ในการล่าสัตว์ เช่นนั้นก็ควรที่จะจัดการกับมือสังหารพวกนั้นไม่ได้หรือเปล่า?เซี่ยเชียนฮวันอดรู้สึกกังวลขึ้นมาไม่ได้นางสงบสติอารมณ์ เมื่อเห็นเงาร่างสองเงาวิ่งมาจากทางที่เกิดต้นเสียง ฉับพลันหัวใจดวงน้อยๆ ก็แทบจะเด้งมาจุกที่ต้นคอเป็นมือสังหารซีเหลียงจริงๆ ด้วย!พวกเขาอยู่ที่นี่จริงๆ!“สมควรตาย จู่ๆ หัวหน้าก็ถูกงูตัวนั้นเข
ในค่ายคบเพลิงถูกเผาไหม้ตลอดทั้งคืน บริเวณลานล่าสัตว์จึงมีแสงสว่างทั้งคืนด้วยเช่นกันฮ่องเต้นำทุกคนทานเนื้อสัตว์อย่างมีความสุข ดื่มเหล้าคำโต และชมนางกำนัลเต้นระบำรอบกองไฟ เหล่าข้าราชบริพารบางส่วนถ้าหากถูกฮ่องเต้ขานชื่อ ก็จำเป็นต้องเข้าแถวรอเต้นรำ เพื่อสร้างเสียงหัวเราะให้กับโอรสสวรรค์“ฉงเอ๋อร์ ในอดีตผู้ที่ล่าสัตว์ได้มากที่สุดล้วนเป็นเจ้าเจ็ดทุกครั้ง แต่คาดไม่ถึงว่าครั้งนี้เจ้าจะเป็นผู้ชนะ ไม่เลวเลยทีเดียว ข้ารู้สึกชื่นชมกับความก้าวหน้าของเจ้า!”ฮ่องเต้ทรงพอพระทัยมาก จึงชื่นชมองค์ชายรองต่อหน้าทุกคนองค์รัชทายาทที่นั่งประทับอยู่ข้างๆ กลับขมวดคิ้วมุ่น และกล่าวพึมพำว่า “ครั้งนี้น้องเจ็ดยังคงล่าสัตว์ได้มาก แต่ทว่า จนป่านนี้ก็ยังไม่กลับออกมาเสียที”บอกเพียงแต่ว่าจะเข้าป่าไปตรวจสอบอะไรบางอย่าง แต่มันใช้เวลานานขนาดนี้เชียวหรือ?ตอนนี้การแข่งขันล่าสัตว์ก็จบลงไปแล้ว องค์ชายรองก็ฉวยโอกาสหยิบชิ้นปลามันไปอย่างสบายๆ และคว้าตำแหน่งผู้ชนะ ทำให้มีหน้ามีตาขึ้นมา “ขอบพระทัยเสด็จพ่อที่ประทานรางวัลให้กับลูก ในอนาคตลูกจะพยายามให้มากขึ้นกว่านี้ หากมีข้อผิดพลาดก็แก้เสีย แต่หากไม่มีก็ถือเป็นข้อเตื
“ร่างกายของเจ้ามีส่วนไหนบ้างที่ข้าไม่เคยเห็น”เซียวเย่หลันเหลือบมองนางอย่างเย็นชาเซี่ยเชียนฮวันทำปากจู๋ “มันไม่เหมือนกันสักหน่อย ตอนนั้นมันมืดท่านจะเห็นอะไรมากกัน แต่ตอนนี้มีแสงไฟสว่าง ถ้าหากข้าถอดเสื้อผ้า ไม่ใช่ว่าท่านจะมองเห็นอย่างชัดเจนหรือ?” “จะมืดจะสว่างข้าก็เห็นชัดเจนทั้งนั้น”เซียวเย่หลันส่งเสียงหึไม่เพียงแค่เห็นเท่านั้น แต่ยังได้สัมผัสอีกด้วยเวลานี้นางรู้สึกอึดอัดใจขึ้นมาเซี่ยเชียนฮวันแก้มแดงเล็กน้อย เหตุการณ์บางอย่างที่ไม่ควรจำก็ปรากฏขึ้นในหัวของนาง นางหันหลังให้กับเซียวเย่หลันและกล่าวว่า “ข้าไม่สนเรื่องในอดีต แต่คืนนี้ท่านไม่ได้รับอนุญาตให้มองข้า”“ก็ได้ ข้าก็คร้านจะมองเจ้าเช่นกัน”เซียวเย่หลันนั่งลงโดยหันหลังให้กับเซี่ยเชียนฮวัน ดวงตาเย็นชาคู่นั้นจ้องไปยังสายลับชาวซีเหลียงทั้งสองคนที่ถูกมัดเป็นบ๊ะจ่างเซี่ยเชียนฮวันลอบมองเขา หลังจากที่แน่ใจว่าชายคนนั้นไม่หันกลับมา จึงถอดเสื้อนอกอย่างรวดเร็ว และนำไปแขวนเพื่อตากความจริงแล้ว ชุดชั้นในของนางก็เปียกโชกเช่นกันหลังจากลังเลอยู่สักพัก เซี่ยเชียนฮวันก็ถอดชุดชั้นในของนางอย่างเงียบๆ แล้วนำไปตากให้แห้งเช่นกันตอนนี้นา
“ว๊าย!!”เซี่ยเชียนฮวันกรีดร้องด้วยความตกใจนางล้มไปทางกิ่งไม้ที่แขวนเสื้อผ้าไว้เต็มไปหมด“ระวัง” เซียวเย่หลันเอื้อมมือไปรับนางเอาไว้เสียงโครมดังขึ้น แม้กระทั่งกิ่งไม้แขวนเสื้อก็ล้มลงไปกับพื้น ส่วนเซี่ยเชียนฮวันนั้นตกอยู่ในอ้อมกอดของเซียวเย่หลันในสภาพที่แทบจะเปลือยเปล่าทั้งสองต่างก็ใกล้ชิดกันจนถึงขั้นเนื้อแนบเนื้อวินาทีนั้น โลกทั้งใบก็ดูเหมือนจะหยุดนิ่งโดยพลันเซียวเย่หลันยังคงค้างอยู่ในท่ากอดเซี่ยเชียนฮวัน โดยศีรษะของเซี่ยเชียนฮวันยังฝังอยู่ในหน้าอกของเขา ทำให้ไม่กล้าขยับตัว และไม่กล้าจะส่งเสียงสุดท้าย เซียวเย่หลันจึงกระแอมไอออกมา ก่อนจะเปิดปากถามว่า “เจ้าไม่ได้ล้มใช่หรือไม่?”“ไม่...ไม่ได้ล้ม โชคดีที่ท่านรับไว้ทัน...”“แต่ข้าเริ่มเจ็บแผลนิดหน่อย”เขาโดนชาวซีเหลียงพวกนั้นฟันซ้ายฟันขวาไปข้างละที ถึงแม้จะเลี่ยงจุดตายไปได้ แต่ก็ยังคงมีบาดแผลทั่วร่าง ทุกการเคลื่อนไหวจะทำให้บาดแผลของเขาฉีกก่อนหน้านี้เขาเพิ่งทำให้สายลับสองคนหมดสติไป ทำให้แผลที่พันเริ่มมีเลือดไหลออกมาเพียงแต่ว่าเซียวเย่หลันไม่ชอบร้องด้วยความเจ็บปวด ความอดทนของเขาแข็งแกร่งมาก จนกระทั่งถูกเซี่ยเชียนฮวันล้มทั
ถ้าเมื่อครู่ เซี่ยเชียนฮวันรู้สึกราวกับว่าถูกช้อนขึ้นมาจากห้องน้ำแข็ง และหนาวเย็นถึงกระดูกเช่นนั้น ตอนนี้นางก็รู้สึกเหมือนตกลงไปในเตาเผารู้สึกร้อนจนทนไม่ไหวนางอยู่ใกล้เขามากเกินไป จนรู้สึกถึงหน้าท้องของเขา และผมสีเข้มของเขาก็ตกลงมาที่คอของนาง“ท้องเริ่มใหญ่ขึ้นแล้วใช่ไหม?”ทันใดนั้นมือใหญ่ของเซียวเย่หลันก็ยกปิดหน้าท้องของนาง ทำให้นางอดตัวสั่นไม่ได้ และอยากจะโดดหนีโดยไม่ลังเลแต่ในสภาพแวดล้อมเช่นนี้ นางจะหนีไปไหนได้เซี่ยเชียนฮวันตอบเสียงสั่นว่า “มันใหญ่ขึ้นนิดหน่อย ดังนั้น...ท่านอย่าแตะซี้ซั้ว”ดวงตาของชายผู้นั้นพลันเย็นชามือของเขาไม่อยู่นิ่ง ทุกๆ ที่ที่เขาสัมผัส ราวกับมีเปลวไฟเผาไหม้นาง ทำให้นางตัวสั่นเซี่ยเชียนฮวันจับแขนเซียวเย่หลันไว้แน่น พลางคิดในใจอย่างเงียบๆ ว่า “ผู้ชายล้วนเป็นสัตว์ป่า มือไม่มักอยู่ไม่สุข เจ้าไม่ควรเคลิบเคลิ้มไปกับเขา!”ดังนั้น นางจึงหยิกขาของเซียวเย่หลัน“ซี๊ด...”เขาร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดแค่หยิกไม่นับเป็นอะไรได้ ทว่ามันดันกระทบกับบาดแผลส่วนอื่นไปด้วย นี่สิที่ทำให้เซียวเย่หลันรู้สึกทรมานสุดท้ายเขาก็ปล่อยมือ และกดหัวของเซี่ยเชียนฮวัน กัดฟั