คุณชายใหญ่เย่เข้ามาที่ร้าน เขากำชับเอาไว้อย่างชัดเจนว่าเตรียวชุดเดรสไว้เพื่อคุณซูอีกทั้ง ชุดเดรสที่เธอนำมามีแค่ไซส์ของคุณซูหรานทั้งนั้น แต่หลานสาวแท้ ๆ คนนี้กลับต้องการจะเลือก......ผู้จัดการร้านมองไปทางเย่ถิงเซินเพื่อขอความช่วยเหลือแต่เย่ถิงเซินกลับหันท้ายทอยให้เธอ ไม่แม้แต่จะหันมามองเลยด้วยซ้ำสายตาของผู้จัดการร้านจึงทำได้แค่มองไปหาซูหรานที่อยู่ตรงหน้าเย่ถิงเซินเท่านั้นแน่นอนว่าซูหรานเองก็ไม่อยากทำให้ผู้จัดการร้านต้องลำบากใจ“ให้เธอเลือกเถอะค่ะ!”ในสายตาของซูหราน ต่อให้ซูอินจะย้ายชุดเดรสทั้งหมดเข้ามาไว้ในตู้เสื้อผ้าก็ไม่สำคัญ เพราะยังไงซะ เธอก็ไม่ได้ตั้งใจจะเลือกตั้งแต่แรกอยู่แล้วแต่คำพูดนี้ ซูอินกลับยิ่งไม่พอใจเห็น ๆ อยู่ว่าซูอินคือตัวเอก แต่คำว่า “ให้” ของซูหราน กลับทำให้เธอรู้สึกเหมือนถูกช่วยเหลืออย่างไร้ค่าเธอจะกลืนความรู้สึกนี้ลงไปได้อย่างไรแต่จู่ ๆ เธอก็ตระหนักได้ว่าหยางซูมองดูอยู่ข้าง ๆ ซูอินจึงไม่กล้าทำอะไรบุ่มบ่ามเกินไป เพราะกลัวว่าจะทำให้หยางซูรู้สึกไม่ชอบใจซูอินมองไปทางซูหราน และยิ้มอย่างหวานซึ้ง“ขอบคุณค่ะ พี่หรานหราน”เหอะ!รอให้เธอได้เลือกชุดที่สว
พวกเขาทั้งสองคนคนหนึ่งเป็นลูกชายจากลูกสาวที่เป็นบุตรบุญธรรมของตระกูลเย่ คนหนึ่งเป็นหลานที่คุณท่านเย่รับเป็นหลานบุญธรรมต่างก็ไม่มีใครเป็นสายเลือดของตระกูลเย่เลยสักคนทุกคนต่างชื่นชมคุณท่านเย่ว่ามีหลานชายที่ดี เป็นสุภาพบุรุษที่มีความสามารถ และเป็นนักธุรกิจที่เก่งมากแต่เมื่อพูดถึงเขา กลับมักจะนึกถึงลูกคนรวยที่ใช้ชีวิตอย่างฟุ่มเฟือย ชอบเที่ยวกลางคืนเล่นกับผู้หญิงไปทั่วเขาอยู่ภายใต้เงาของเย่ถิงเซินมานานหลายปี แม้ในใจจะรู้สึกไม่ยุติธรรม แต่ก็ไม่เคยกล้าเผชิญหน้ากับความเฉียบคมของเย่ถิงเซินเลยสักครั้งแต่เย่ถิงเซินกลับพูดต่อหน้าซูหรานว่าเขาไม่ใช่คนดี!ฮึ!“เย่ถิงเซิน นายกำลังยุยงความสัมพันธ์ระหว่างฉันกับหรานหรานอยู่งั้นเหรอ?”เสียงของหยางซูดังขึ้นมาอย่างกะทันหันจากด้านหลังของทั้งสองคนซูรานหันกลับไป ก็เห็นหยางซูกำลังซุกมือไว้ในกระเป๋ากางเกง เขายิ้มที่มุมปาก แต่รอยยิ้มของเขากลับเต็มไปด้วยกลิ่นอายของความตึงเครียดซูหรานยิ้มที่มุมปากเล็กน้อยแน่นอนว่าเธอไม่ต้องการให้เกิดข้อขัดแย้งที่ไม่จำเป็นขึ้นเธอเพิ่งจะเปิดปากพูด หวังว่าจะทำให้สถานการณ์ดีขึ้น เสียงของเย่ถิงเซินก็กลับดังขึ้นอย่
เดิมทีไซส์นี้ก็ไม่ใช่ไซส์ของเธอด้วยซ้ำ!ผู้จัดการร้านเกือบจะพูดออกมา แต่เธอก็รู้ว่าหากพูดออกไป คำพูดนั้นจะต้องกระตุ้นให้หลานสาวแท้ ๆ คนนี้โกรธเป็นแน่ดังนั้นเธอจึงแนะนำอย่างสุภาพว่า “คุณหนูเย่คะ ฉันจะรีบแก้ไขให้คุณเดี๋ยวนี้เลยค่ะ เราจะทำให้เร็วที่สุดค่ะ!”เร็วที่สุดงั้นเหรอ?ต่อจะให้เร็วยังไงก็ไม่ได้!เธอเป็นถึงหลานสาวแท้ ๆ เพียงหนึ่งเดียวของตระกูลเย่ ชุดเดรสเดิมจะต้องตัดเย็บมาเพื่อเธอเป็นพิเศษ ถ้าหากมีการแก้ไข แล้วมันจะพอดีตัวเธอได้ยังไง?ในใจซูอินรู้สึกโกรธอย่างมากแต่เมื่อนึกขึ้นได้ว่าหยางซูกำลังรอเธออยู่ที่ชั้นล่างซูอินก็กดความไม่พอใจเอาไว้ แล้วสั่งผู้จัดการร้านด้วยท่าทีที่ดูเย็นชา“ไปเอาชุดเดรสสีขาวที่แพงที่สุดจากชั้นล่างขึ้นมาเดี๋ยวนี้ ส่วนชุดนี้......ฉันไม่เอาแล้ว!”อย่างมาก ก็แค่เปลี่ยนชุดใหม่!ผู้จัดการร้านสูดหายใจเข้าลึก ๆ แล้วรีบส่งสัญญาณให้เพื่อนร่วมงานคนหนึ่งทันทีพนักงานของร้านรีบหยิบชุดเดรสสีขาวมาให้ตัวหนึ่ง ชุดเดรสนี้มีการตัดเย็บที่เข้ารูป สามารถเน้นรูปร่างที่สมบูรณ์แบบที่สุดของผู้สวมใส่ได้สำหรับรูปร่างของตัวเธอเอง ซูอินรู้สึกพอใจอย่างมาก“ดี เอาตัวนี้แห
เธอยิ่งไม่ชอบหน้าตาเสแสร้งแกล้งทำของซูอินมากขึ้นไปอีกซูหรานจิบกาแฟเข้าไปนิดหนึ่ง เผยรอยยิ้มพร้อมกับมองไปยังน้องอินอินที่กำลังร้องไห้เหมือนดอกไม้ที่ถูกฝน“ฉันก็ไม่ได้ทำให้เธอเดือดร้อนนี่!”ซูหรานไม่คิดจะปิดบังความรู้สึกไม่ชอบเธอเลยแม้แต่น้อยซูอินเหมือนถูกทิ่มแทงด้วยความเจ็บปวด เธอรู้ดีว่าการแสดงท่าทางดุร้ายต่อหน้าซูหรานนั้นไม่ใช่ทางออกที่ดีแต่เธอก็ต้องแกล้งทำเป็นน่าสงสาร เพื่อให้หยางซูเห็นใจเธอดังนั้น เธอจึงเริ่มพูดด้วยถ้อยคำที่น่าสงสารออกมา“ฉันคิดว่า ชุดเดรสพวกนี้เตรียมมาให้คุณหนูทุกคนของตระกูลเย่ สามารถเลือกสวมได้เลย แต่คิดไม่ถึง......”“คิดไม่ถึงว่า ตอนที่ฉันลองสวมใส่ กลับไม่ใช่ไซส์ของฉันเลยสักตัว”“ฉันคิดว่า อาจจะแค่หยิบขนาดไปผิดไซส์ เลยให้พนักงานมาหยิบให้ใหม่ แต่......แต่ว่า......”“แต่ผู้จัดการร้านบอกว่า ชุดเดรสเหล่านี้เป็นขนาดของพี่หรานหราน ไม่มีของฉัน บอกว่าฉันไม่คู่ควรที่จะใส่ชุดเดรสของแบรนด์พวกเขา แถมยังทำชุดเดรสเสียหายอีก บอกว่าชุดที่ฉันลองแล้ว จะให้พี่หรานหรานใส่ต่อไม่ได้อีก”เมื่อผู้จัดการร้านและพนักงานร้านจัดการเสื้อผ้าที่ชำรุดในห้องของซูอินเสร็จ ก็พากันเดิ
เมื่อวานนี้พ่อบ้านทำตัวลึกลับมาตลอด ไม่ยอมบอกว่าเป็นวันอะไรกันแน่เมื่อเธอถาม คุณปู่เย่ก็ทำตัวลึกลับเช่นกัน กะพริบตาแล้วพูดว่า "เดี๋ยวก็รู้เองแหละ"พูดจบ เขาก็พึมพำเบา ๆ ด้วยน้ำเสียงเอ็นดู"เจ้าหนูนี่ ถึงกับจำไม่ได้เลยเชียว!"เขาเองก็เกือบจะลืมไปเหมือนกันไม่ใช่หรือ?โชคดีที่มีคนอื่นเตือนความจำทุกคนออกจากวิลล่านอกวิลล่ามีรถหรูหลายคันจอดเตรียมพร้อมอยู่ ไม่นานนักทุกคนก็ทยอยขึ้นรถ รถแล่นไปตามถนนอย่างยิ่งใหญ่อลังการเย่ถิงเซิน และเย่ซือเหยียนต่างคนต่างนั่งรถคนละคันซูอินเดิมทีจะนั่งรถคันเดียวกับหยางซู แต่เธอนึกขึ้นได้ว่ายังมีเรื่องอื่นที่ต้องปิดบังหยางซู จึงนั่งรถคันหนึ่งคนเดียวบนรถซูอินส่งข้อความหาหลินเยว่เยว่เป็นอันดับแรกวันนี้เป็นกับดัก กับดักที่จะดักจับซูหรานและเมื่อไม่กี่วันก่อนซูอินก็ได้ให้หลินเยว่เยว่หาคนไว้เรียบร้อยแล้ว ละครฉากนี้จะต้องทำให้ซูหรานตกต่ำถึงที่สุดอย่างแน่นอน......สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าอยู่บนเส้นทางจากเมืองไห่เฉิงไปยังตำบลหลิวหลังจากลงจากทางด่วน รถหรูหลายคันแล่นเข้าสู่ถนนเล็ก ๆ สายหนึ่ง ถนนคดเคี้ยวขรุขระ ผ่านไปอีกหนึ่งชั่วโมงจึงจอดลงหน้าสถาน
เสี่ยวเหยียนเหยียน...ซูหรานเพิ่งสังเกตชื่อเรียกนี้"เสี่ยวเหยียนเหยียน" ที่คุณแม่นมคนนี้เรียก เป็น "เหยียนเหยียน" ที่คุณปู่พูดถึงหรือเปล่า?ฉินเหยียนเคยมาที่นี่?ซูหรานเหมือนค้นพบบางอย่างเธอรีบถามทันที"คุณย่า คุณเรียกฉินเหยียนใช่ไหมคะ?"เมื่อได้ยินชื่อนี้คุณย่างุนงงไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็จับมือซูหรานพินิจพิเคราะห์อย่างละเอียดตั้งแต่หัวจรดเท้า ในดวงตาราวกับมีความยินดีอย่างล้นพ้น"ฉินเหยียน เธอกลับมาแล้ว กลับมาก็ดีแล้ว กลับมาก็ดีแล้ว""ปีนั้นที่เธอมาหาย่า เป็นครั้งสุดท้ายที่เราได้เจอกัน เธอบอกว่าต่อไปคงไม่ได้เจอกันอีก ของที่เธอให้ย่าเก็บไว้ หลายปีมานี้ย่าก็เก็บซ่อนไว้อย่างดี ไม่มีใครพบ..."จู่ ๆ คุณย่าก็นึกอะไรขึ้นมาได้ มองรอบ ๆ อย่างระแวดระวังเมื่อแน่ใจว่าไม่มีใครเห็น ก็จับมือซูหราน "ไป ย่าจะพาเธอไปเอาของ"ซูหรานไม่ได้ปฏิเสธราวกับมีแรงดึงดูดลึกลับบางอย่างอยู่เบื้องหน้า ทำให้เธออยากไปสำรวจซูหรานพยุงคุณย่า ไม่ได้เข้าไปในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่กลับเดินอ้อมสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เข้าไปในบ้านหลังเล็ก ๆ ที่ทรุดโทรมกว่าภายในบ้านมืดสนิท ซูหรานเข้าไปสักพักจึงค่อย ๆ ปรับสายตา
ซูอินแต่งตัวอย่างสวยงาม เธอไม่เห็นซูหราน แต่กลับเห็นคุณปู่เย่ที่มีรอยยิ้มเต็มใบหน้าวันเกิดเจ้าตัวเล็ก...วันนี้วันเกิดเจ้าตัวเล็กก็คือเธอนั่นเอง!เมื่อคิดว่าคุณปู่เย่เตรียมทุกอย่างไว้สำหรับวันนี้โดยเฉพาะ ซูอินก็รู้สึกภาคภูมิใจอย่างยิ่ง และยังวางแผนที่จะอวดต่อหน้าซูหรานอย่างเต็มที่ให้ซูหรานรู้ว่าสายเลือดสำคัญที่สุดซูหรานเป็นเพียงแค่คนที่ถูกรับเลี้ยง ส่วนตัวเธอเองต่างหากที่เป็นคุณหนูตัวจริงของตระกูลเย่หลังจากการหลอกลวงและแสดงละครมาหลายวัน ตอนนี้ซูอินผู้รู้ความจริงทั้งหมดถึงกับคิดในใจว่าตัวเองเป็นคุณหนูของตระกูลเย่อย่างแท้จริงเป็นเรื่องที่สมควรแล้ว ทุกอย่างเป็นของเธอ รวมถึงความสนใจและความรักจากทุกคนซูอินยิ้มอย่างสมบูรณ์แบบที่มุมปาก เธอจงใจวางมือบนแขนของหยางซู ก้าวเดินอย่างสง่างามทีละก้าวแต่สิ่งแรกที่หยางซูเห็นกลับเป็นซูหรานแม้จะเป็นเพียงใบหน้าด้านข้าง เธอยืนอยู่ตรงนั้น ลมทะเลพัดมา เส้นผมปลิวไสวหยางซูถึงกับอึ้งไปชั่วขณะและในเวลานี้ ซูหรานก็ยังคงอยู่ในความตะลึงงันวันเกิดเจ้าตัวเล็ก?ใคร? เธอหรือ?เธอไม่ได้เป็นผู้มีวันเกิดวันนี้ แต่คุณปู่กำลังโบกมือเรียกเธอใช่ไหม?
แต่เสื้อของชายคนนี้ จะมาเปื้อนกับร่างกายอันทรงเกียรติของหลานสาวตระกูลเย่ได้อย่างไร?โชคดีที่เสียงร้องไห้ของเธอทำให้ชายคนนั้นไม่กล้าเข้ามาใกล้ซูอินรู้สึกไม่พอใจในมุมมองของเธอ ตอนนี้ตัวเธอน่าอับอายมาก จึงทำให้พี่ชายของเธอไม่พอใจหยางซูเป็นคุณชายที่เอาแต่เที่ยวเตร่ของเมืองจิง และได้รับเกียรติจากตระกูลเย่ด้วย การที่เขาเสียอารมณ์บ้างก็เป็นเรื่องปกติแน่นอนว่าเขาต้องโกรธ ถึงได้ไม่มาช่วยเธอซูอินมองหยางซู เธอเชื่อว่าการร้องขอด้วยสีหน้าที่น่าสงสารของเธอ จะทำให้เขาอ่อนโยนลงและจริง ๆ แล้ว หยางซูก็ได้ทำตาปิดลงแม้เพียงครู่เดียวถึงแม้คิ้วยังขมวดอยู่ แต่เขาก็แสดงปฏิกิริยาบ้างแล้วซูอินรู้สึกดีขึ้น และกำลังรอที่จะเห็นหยางซูปลอบเธอและช่วยบรรเทาความอับอายและสับสนในขณะนี้ โดยที่เธอจะได้แสดงบทบาทผู้หญิงที่เปราะบางและน่าสงสารต่อไปหยางซูช่วยดึงเธอให้ลุกขึ้นซูอินทรุดลงอย่างอ่อนแอ เกือบจะพุ่งเข้าไปในอ้อมกอดของหยางซู แต่ถูกเขาจับตัวไว้แล้ว"ขอบคุณพี่ชายค่ะ" ซูอินมองด้วยสายตาเต็มไปด้วยความขอบคุณแต่ในวินาทีถัดมา หยางซูกลับปล่อยมือเธอ และเอาเสื้อของชายคนนั้นมาคลุมรอบเอวเธอซูอินงงงันไปชั่ว