“นาย ๆ ๆ ๆ ......” จี้เยี่ยนโจวเกือบจะเบรกรถกะทันหันฟู่จิ้นหานไม่สนใจความยุ่งเหยิงในตอนนี้ พร้อมกับหันหน้าไปรอจี้เยี่ยนโจวจี้เยี่ยนโจวรีบหาจุดจอดรถทันที แล้วหันไปสบตากับฟู่จิ้นหานด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความสงสัย“ทำไม? ฉันทายถูกงั้นเหรอ? ซูหรานท้องจริง ๆ งั้นเหรอ?”ฟู่จิ้นหาน: “......”ตั้งครรภ์......ภายในสมองที่ว่างเปล่า เหลือเพียงแค่สองคำนี้เท่านั้นภาพของซูรานในวันนั้นที่กอดหนูน้อยเอาไว้ก็ค่อย ๆ ปรากฏขึ้นมาในหัว ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม และมีความรักของแม่แผ่ซ่านออกมาจากตัวของเธอ“เธอจะต้องเป็นแม่ที่ดีแน่”ฟู่จิ้นหานยิ้มมุมปากโดยไม่รู้ตัวจี้เยี่ยนโจวเหมือนเพิ่งจะได้ยินเรื่องตลกเข้ายังไงอย่างงั้นนี่......นี่หมายความว่า เขาทายถูกเข้าแล้วจริง ๆ!“นายนี่ใช้ได้เลยนะ!”จี้เยี่ยนโจวมองฟู่จิ้นหานด้วยความตื่นเต้น เขาคิดไม่ถึงเลยว่า การที่เขาไปทำงานที่กั่งเฉิงระยะหนึ่ง ความสัมพันธ์ของทั้งคู่จะไปเร็วขนาดนี้ไม่แปลกใจเลย ที่บัญชีออฟฟิเชียลของฟู่ซือกรุ๊ปจะโพสต์รูปออกมาบนโลกโซเชียลฟู่จิ้นหานรู้ว่าจี้เยี่ยนโจวคิดมากเกินไปแต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไรมากนัก เพียงแค่เหลือบมองจี้เยี่ยนโจว
คุณชายใหญ่เย่เข้ามาที่ร้าน เขากำชับเอาไว้อย่างชัดเจนว่าเตรียวชุดเดรสไว้เพื่อคุณซูอีกทั้ง ชุดเดรสที่เธอนำมามีแค่ไซส์ของคุณซูหรานทั้งนั้น แต่หลานสาวแท้ ๆ คนนี้กลับต้องการจะเลือก......ผู้จัดการร้านมองไปทางเย่ถิงเซินเพื่อขอความช่วยเหลือแต่เย่ถิงเซินกลับหันท้ายทอยให้เธอ ไม่แม้แต่จะหันมามองเลยด้วยซ้ำสายตาของผู้จัดการร้านจึงทำได้แค่มองไปหาซูหรานที่อยู่ตรงหน้าเย่ถิงเซินเท่านั้นแน่นอนว่าซูหรานเองก็ไม่อยากทำให้ผู้จัดการร้านต้องลำบากใจ“ให้เธอเลือกเถอะค่ะ!”ในสายตาของซูหราน ต่อให้ซูอินจะย้ายชุดเดรสทั้งหมดเข้ามาไว้ในตู้เสื้อผ้าก็ไม่สำคัญ เพราะยังไงซะ เธอก็ไม่ได้ตั้งใจจะเลือกตั้งแต่แรกอยู่แล้วแต่คำพูดนี้ ซูอินกลับยิ่งไม่พอใจเห็น ๆ อยู่ว่าซูอินคือตัวเอก แต่คำว่า “ให้” ของซูหราน กลับทำให้เธอรู้สึกเหมือนถูกช่วยเหลืออย่างไร้ค่าเธอจะกลืนความรู้สึกนี้ลงไปได้อย่างไรแต่จู่ ๆ เธอก็ตระหนักได้ว่าหยางซูมองดูอยู่ข้าง ๆ ซูอินจึงไม่กล้าทำอะไรบุ่มบ่ามเกินไป เพราะกลัวว่าจะทำให้หยางซูรู้สึกไม่ชอบใจซูอินมองไปทางซูหราน และยิ้มอย่างหวานซึ้ง“ขอบคุณค่ะ พี่หรานหราน”เหอะ!รอให้เธอได้เลือกชุดที่สว
พวกเขาทั้งสองคนคนหนึ่งเป็นลูกชายจากลูกสาวที่เป็นบุตรบุญธรรมของตระกูลเย่ คนหนึ่งเป็นหลานที่คุณท่านเย่รับเป็นหลานบุญธรรมต่างก็ไม่มีใครเป็นสายเลือดของตระกูลเย่เลยสักคนทุกคนต่างชื่นชมคุณท่านเย่ว่ามีหลานชายที่ดี เป็นสุภาพบุรุษที่มีความสามารถ และเป็นนักธุรกิจที่เก่งมากแต่เมื่อพูดถึงเขา กลับมักจะนึกถึงลูกคนรวยที่ใช้ชีวิตอย่างฟุ่มเฟือย ชอบเที่ยวกลางคืนเล่นกับผู้หญิงไปทั่วเขาอยู่ภายใต้เงาของเย่ถิงเซินมานานหลายปี แม้ในใจจะรู้สึกไม่ยุติธรรม แต่ก็ไม่เคยกล้าเผชิญหน้ากับความเฉียบคมของเย่ถิงเซินเลยสักครั้งแต่เย่ถิงเซินกลับพูดต่อหน้าซูหรานว่าเขาไม่ใช่คนดี!ฮึ!“เย่ถิงเซิน นายกำลังยุยงความสัมพันธ์ระหว่างฉันกับหรานหรานอยู่งั้นเหรอ?”เสียงของหยางซูดังขึ้นมาอย่างกะทันหันจากด้านหลังของทั้งสองคนซูรานหันกลับไป ก็เห็นหยางซูกำลังซุกมือไว้ในกระเป๋ากางเกง เขายิ้มที่มุมปาก แต่รอยยิ้มของเขากลับเต็มไปด้วยกลิ่นอายของความตึงเครียดซูหรานยิ้มที่มุมปากเล็กน้อยแน่นอนว่าเธอไม่ต้องการให้เกิดข้อขัดแย้งที่ไม่จำเป็นขึ้นเธอเพิ่งจะเปิดปากพูด หวังว่าจะทำให้สถานการณ์ดีขึ้น เสียงของเย่ถิงเซินก็กลับดังขึ้นอย่
เดิมทีไซส์นี้ก็ไม่ใช่ไซส์ของเธอด้วยซ้ำ!ผู้จัดการร้านเกือบจะพูดออกมา แต่เธอก็รู้ว่าหากพูดออกไป คำพูดนั้นจะต้องกระตุ้นให้หลานสาวแท้ ๆ คนนี้โกรธเป็นแน่ดังนั้นเธอจึงแนะนำอย่างสุภาพว่า “คุณหนูเย่คะ ฉันจะรีบแก้ไขให้คุณเดี๋ยวนี้เลยค่ะ เราจะทำให้เร็วที่สุดค่ะ!”เร็วที่สุดงั้นเหรอ?ต่อจะให้เร็วยังไงก็ไม่ได้!เธอเป็นถึงหลานสาวแท้ ๆ เพียงหนึ่งเดียวของตระกูลเย่ ชุดเดรสเดิมจะต้องตัดเย็บมาเพื่อเธอเป็นพิเศษ ถ้าหากมีการแก้ไข แล้วมันจะพอดีตัวเธอได้ยังไง?ในใจซูอินรู้สึกโกรธอย่างมากแต่เมื่อนึกขึ้นได้ว่าหยางซูกำลังรอเธออยู่ที่ชั้นล่างซูอินก็กดความไม่พอใจเอาไว้ แล้วสั่งผู้จัดการร้านด้วยท่าทีที่ดูเย็นชา“ไปเอาชุดเดรสสีขาวที่แพงที่สุดจากชั้นล่างขึ้นมาเดี๋ยวนี้ ส่วนชุดนี้......ฉันไม่เอาแล้ว!”อย่างมาก ก็แค่เปลี่ยนชุดใหม่!ผู้จัดการร้านสูดหายใจเข้าลึก ๆ แล้วรีบส่งสัญญาณให้เพื่อนร่วมงานคนหนึ่งทันทีพนักงานของร้านรีบหยิบชุดเดรสสีขาวมาให้ตัวหนึ่ง ชุดเดรสนี้มีการตัดเย็บที่เข้ารูป สามารถเน้นรูปร่างที่สมบูรณ์แบบที่สุดของผู้สวมใส่ได้สำหรับรูปร่างของตัวเธอเอง ซูอินรู้สึกพอใจอย่างมาก“ดี เอาตัวนี้แห
เธอยิ่งไม่ชอบหน้าตาเสแสร้งแกล้งทำของซูอินมากขึ้นไปอีกซูหรานจิบกาแฟเข้าไปนิดหนึ่ง เผยรอยยิ้มพร้อมกับมองไปยังน้องอินอินที่กำลังร้องไห้เหมือนดอกไม้ที่ถูกฝน“ฉันก็ไม่ได้ทำให้เธอเดือดร้อนนี่!”ซูหรานไม่คิดจะปิดบังความรู้สึกไม่ชอบเธอเลยแม้แต่น้อยซูอินเหมือนถูกทิ่มแทงด้วยความเจ็บปวด เธอรู้ดีว่าการแสดงท่าทางดุร้ายต่อหน้าซูหรานนั้นไม่ใช่ทางออกที่ดีแต่เธอก็ต้องแกล้งทำเป็นน่าสงสาร เพื่อให้หยางซูเห็นใจเธอดังนั้น เธอจึงเริ่มพูดด้วยถ้อยคำที่น่าสงสารออกมา“ฉันคิดว่า ชุดเดรสพวกนี้เตรียมมาให้คุณหนูทุกคนของตระกูลเย่ สามารถเลือกสวมได้เลย แต่คิดไม่ถึง......”“คิดไม่ถึงว่า ตอนที่ฉันลองสวมใส่ กลับไม่ใช่ไซส์ของฉันเลยสักตัว”“ฉันคิดว่า อาจจะแค่หยิบขนาดไปผิดไซส์ เลยให้พนักงานมาหยิบให้ใหม่ แต่......แต่ว่า......”“แต่ผู้จัดการร้านบอกว่า ชุดเดรสเหล่านี้เป็นขนาดของพี่หรานหราน ไม่มีของฉัน บอกว่าฉันไม่คู่ควรที่จะใส่ชุดเดรสของแบรนด์พวกเขา แถมยังทำชุดเดรสเสียหายอีก บอกว่าชุดที่ฉันลองแล้ว จะให้พี่หรานหรานใส่ต่อไม่ได้อีก”เมื่อผู้จัดการร้านและพนักงานร้านจัดการเสื้อผ้าที่ชำรุดในห้องของซูอินเสร็จ ก็พากันเดิ
เมื่อวานนี้พ่อบ้านทำตัวลึกลับมาตลอด ไม่ยอมบอกว่าเป็นวันอะไรกันแน่เมื่อเธอถาม คุณปู่เย่ก็ทำตัวลึกลับเช่นกัน กะพริบตาแล้วพูดว่า "เดี๋ยวก็รู้เองแหละ"พูดจบ เขาก็พึมพำเบา ๆ ด้วยน้ำเสียงเอ็นดู"เจ้าหนูนี่ ถึงกับจำไม่ได้เลยเชียว!"เขาเองก็เกือบจะลืมไปเหมือนกันไม่ใช่หรือ?โชคดีที่มีคนอื่นเตือนความจำทุกคนออกจากวิลล่านอกวิลล่ามีรถหรูหลายคันจอดเตรียมพร้อมอยู่ ไม่นานนักทุกคนก็ทยอยขึ้นรถ รถแล่นไปตามถนนอย่างยิ่งใหญ่อลังการเย่ถิงเซิน และเย่ซือเหยียนต่างคนต่างนั่งรถคนละคันซูอินเดิมทีจะนั่งรถคันเดียวกับหยางซู แต่เธอนึกขึ้นได้ว่ายังมีเรื่องอื่นที่ต้องปิดบังหยางซู จึงนั่งรถคันหนึ่งคนเดียวบนรถซูอินส่งข้อความหาหลินเยว่เยว่เป็นอันดับแรกวันนี้เป็นกับดัก กับดักที่จะดักจับซูหรานและเมื่อไม่กี่วันก่อนซูอินก็ได้ให้หลินเยว่เยว่หาคนไว้เรียบร้อยแล้ว ละครฉากนี้จะต้องทำให้ซูหรานตกต่ำถึงที่สุดอย่างแน่นอน......สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าอยู่บนเส้นทางจากเมืองไห่เฉิงไปยังตำบลหลิวหลังจากลงจากทางด่วน รถหรูหลายคันแล่นเข้าสู่ถนนเล็ก ๆ สายหนึ่ง ถนนคดเคี้ยวขรุขระ ผ่านไปอีกหนึ่งชั่วโมงจึงจอดลงหน้าสถาน
เสี่ยวเหยียนเหยียน...ซูหรานเพิ่งสังเกตชื่อเรียกนี้"เสี่ยวเหยียนเหยียน" ที่คุณแม่นมคนนี้เรียก เป็น "เหยียนเหยียน" ที่คุณปู่พูดถึงหรือเปล่า?ฉินเหยียนเคยมาที่นี่?ซูหรานเหมือนค้นพบบางอย่างเธอรีบถามทันที"คุณย่า คุณเรียกฉินเหยียนใช่ไหมคะ?"เมื่อได้ยินชื่อนี้คุณย่างุนงงไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็จับมือซูหรานพินิจพิเคราะห์อย่างละเอียดตั้งแต่หัวจรดเท้า ในดวงตาราวกับมีความยินดีอย่างล้นพ้น"ฉินเหยียน เธอกลับมาแล้ว กลับมาก็ดีแล้ว กลับมาก็ดีแล้ว""ปีนั้นที่เธอมาหาย่า เป็นครั้งสุดท้ายที่เราได้เจอกัน เธอบอกว่าต่อไปคงไม่ได้เจอกันอีก ของที่เธอให้ย่าเก็บไว้ หลายปีมานี้ย่าก็เก็บซ่อนไว้อย่างดี ไม่มีใครพบ..."จู่ ๆ คุณย่าก็นึกอะไรขึ้นมาได้ มองรอบ ๆ อย่างระแวดระวังเมื่อแน่ใจว่าไม่มีใครเห็น ก็จับมือซูหราน "ไป ย่าจะพาเธอไปเอาของ"ซูหรานไม่ได้ปฏิเสธราวกับมีแรงดึงดูดลึกลับบางอย่างอยู่เบื้องหน้า ทำให้เธออยากไปสำรวจซูหรานพยุงคุณย่า ไม่ได้เข้าไปในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่กลับเดินอ้อมสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เข้าไปในบ้านหลังเล็ก ๆ ที่ทรุดโทรมกว่าภายในบ้านมืดสนิท ซูหรานเข้าไปสักพักจึงค่อย ๆ ปรับสายตา
ซูอินแต่งตัวอย่างสวยงาม เธอไม่เห็นซูหราน แต่กลับเห็นคุณปู่เย่ที่มีรอยยิ้มเต็มใบหน้าวันเกิดเจ้าตัวเล็ก...วันนี้วันเกิดเจ้าตัวเล็กก็คือเธอนั่นเอง!เมื่อคิดว่าคุณปู่เย่เตรียมทุกอย่างไว้สำหรับวันนี้โดยเฉพาะ ซูอินก็รู้สึกภาคภูมิใจอย่างยิ่ง และยังวางแผนที่จะอวดต่อหน้าซูหรานอย่างเต็มที่ให้ซูหรานรู้ว่าสายเลือดสำคัญที่สุดซูหรานเป็นเพียงแค่คนที่ถูกรับเลี้ยง ส่วนตัวเธอเองต่างหากที่เป็นคุณหนูตัวจริงของตระกูลเย่หลังจากการหลอกลวงและแสดงละครมาหลายวัน ตอนนี้ซูอินผู้รู้ความจริงทั้งหมดถึงกับคิดในใจว่าตัวเองเป็นคุณหนูของตระกูลเย่อย่างแท้จริงเป็นเรื่องที่สมควรแล้ว ทุกอย่างเป็นของเธอ รวมถึงความสนใจและความรักจากทุกคนซูอินยิ้มอย่างสมบูรณ์แบบที่มุมปาก เธอจงใจวางมือบนแขนของหยางซู ก้าวเดินอย่างสง่างามทีละก้าวแต่สิ่งแรกที่หยางซูเห็นกลับเป็นซูหรานแม้จะเป็นเพียงใบหน้าด้านข้าง เธอยืนอยู่ตรงนั้น ลมทะเลพัดมา เส้นผมปลิวไสวหยางซูถึงกับอึ้งไปชั่วขณะและในเวลานี้ ซูหรานก็ยังคงอยู่ในความตะลึงงันวันเกิดเจ้าตัวเล็ก?ใคร? เธอหรือ?เธอไม่ได้เป็นผู้มีวันเกิดวันนี้ แต่คุณปู่กำลังโบกมือเรียกเธอใช่ไหม?
คิดจะใช้มุกนี้อีกแล้วเหรอ?ตีเธอหรือด่าเธองั้นเหรอ?ในเมื่อเธอขอมาแบบนี้ เช่นนั้นเธอก็จะสนองความต้องการให้เธอได้สมใจเอง!“เธอ......” มานี่ซูหรานยังพูดไม่ทันจบ ฟู่จิ้นหานก็ได้ส่งสัญญาณให้ฉินฟั่งเสียก่อนเรื่องทำร้ายคนแบบนี้ ทำไมต้องให้ซูหรานเป็นคนลงมือด้วยตัวกันล่ะ?ฉินฟั่งก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว ในช่วงเวลาอันรวดเร็วนั้น เขาก็ได้ตบหน้าซูอินไปหนึ่งทีเสียงเพี๊ยะดังขึ้น ไม่มีความปรานีใด ๆ ซูอินเดินเซจนแทบล้ม ยากที่จะทรงตัวเอาไว้ได้ ในหัวขาวโพลนไปหมด เหลือเพียงเสียงหึ่ง ๆ เท่านั้นใครกัน......ที่กล้าทำร้ายเธอได้ถึงขนาดนี้? !ทันทีที่ซูอินได้สติกลับมา เธอจึงมองไปที่ฉินฟั่งด้วยความโกรธฉินฟั่งได้รับการฝึกฝนมา เขาได้ฝึกฝนร่างกายจนแข็งแกร่งที่บริษัทชิงอวิ๋น แถมยังได้รับอิทธิพลจากฟูจิ้นหานที่มีความเด็ดขาดในการต่อสู้อีกด้วย เพียงแค่สายตาเดียว ความกดดันของซูอินก็ถูกลดทอนลงไปทันทีแต่จะให้ซูอินยอมได้อย่างไร?เธอเป็นถึงหลานสาวแท้ ๆ ของตระกูลเย่ ฉินฟั่งคนนี้......ก็เป็นแค่สุนัขรับใช้ข้างกายฟู่จิ้นหานเท่านั้นต่อให้การตบเธอจะเป็นความต้องการของฟู่จิ้นหาน แต่มีคนมากมายอยู่ด้วยขนาดนี้ ห
ไม่จำเป็นต้องแก้ไขพินัยกรรมงั้นเหรอ?ซูอินดีใจมาก รู้สึกเหมือนได้รับความมั่นใจมากขึ้นแน่นอนว่าขอแค่เธอยังเป็นลูกสาวของฉินเหยียนอยู่ คุณท่านเย่ก็จะเห็นแก่หน้าฉินเหยียน และยอมรับทุกอย่างที่เป็นเธอครั้งนี้ ไม่ว่าคุณท่านเย่จะรอดมาด้วยเหตุผลใดก็ตาม แต่ไม่ว่ายังไงพินัยกรรมของคุณท่าน เมื่อกี้ทุกคนต่างก็ได้ยินอย่างชัดเจนกันหมดแล้วคุณท่านเย่ได้มอบทุกอย่างของตระกูลเย่ให้กับเธอ แม้ว่าวันนี้เธอจะยังไม่ได้รับช่วงต่อจากตระกูลเย่ แต่เธอก็ยังเป็นผู้สืบทอดเพียงคนเดียวอยู่ส่วนคนพวกนี้......ซูอินรู้สึกไม่ค่อยพอใจสักเท่าไหร่เมื่อนึกถึงวิดีโอเมื่อกี้แล้ว ซูอินจึงหันไปมองซูหรานที่อยู่ข้าง ๆ คุณท่านเย่ทันทีในตอนนี้ เธอไม่มีเวลามามัวคิดว่าคลิปวิดีโอนั้นเกิดขึ้นได้อย่างไร แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้ คือการใช้ประโยชน์จากอำนาจเสียงของคุณท่าน เพื่อช่วยลบข้อครหาและปฏิเสธว่าคนในคลิปไม่ใช่เธอน้ำสกปรกนี้ ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ต้องสาดไปที่ซูหรานให้ได้เมื่อคิดได้เช่นนั้น ซูอินก็ขมวดคิ้วทันที “หนูไม่สนใจของนอกกายพวกนั้นหรอกค่ะ แต่ถ้าหากแม่ของหนูที่อยู่บนสวรรค์รู้ว่าหนูถูกใส่ร้ายด้วยคลิปวิดีโอนั้น จนทำ
น้ำเสียงนั้นดูทุ้มต่ำ แต่ก็มีความโกรธที่ไม่สามารถปิดบังเอาไว้ได้ปนอยู่ซูอินเงียบและไม่มีการตอบสนองอยู่นาน ส่วนคนอื่น ๆ ที่อยู่ตรงนั้น ก็กลับมีสีหน้าที่ดูต่างกันออกไปพวกเขาเพิ่งจะได้ยินอะไรกันแน่?เย่ซินกลืนน้ำลายลงคออึกหนึ่ง ก่อนจะกอดแขนตัวเองแน่น ราวกับพยายามขับไล่ความหนาวของเมื่อครู่นี้ที่แผ่ซ่านเข้ามาในร่างกายออกไปเธอหูฝาดไปรึเปล่านะ?เสียงนั้นน่ะ คือเสียงของคุณท่านจริง ๆ!แต่เห็น ๆ อยู่ว่าคุณท่านเสียชีวิตไปแล้ว แล้วร่างก็กำลังนอนอยู่ในโลงแก้วอีกด้วย จะมีเสียงออกมาได้อย่างไร?แต่เมื่อนึกถึงคำว่า “วิญญาณ” ขึ้นมา เย่ซินก็กลืนน้ำลายลงคอด้วยความตื่นตัวและเสียงที่ดังขึ้นอย่างกะทันหันนั้น ก็กลับยิ่งทำให้เย่ซือเหยียนมั่นใจในข้อสันนิษฐานก่อนหน้านี้ได้ และเข้าใจมากยิ่งขึ้นว่าการแสดงในวันนี้มีซูอินที่เป็นเป้าหมาย!เย่ซือเหยียนรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย เธอสังเกตเห็นว่าทั้งเย่ถิงเซินและหยางซู พวกเขาสองคนไม่ได้มีปฏิกิริยาใด ๆ มากนักต่อเสียงของคุณปู่ในตอนนั้นเธอก็รู้ได้ในทันที ว่าทั้งสองคนเองก็มีส่วนร่วมในแผนการนี้ด้วยเช่นกันส่วนซูอิน......ตอนนี้ ในหัวของซูอินมันขาวโพลนไปหมดเธอเ
หน้าตาที่ดูไร้เดียงสาและอ่อนแอของซูอินแข็งทื่อทันทีชั่วขณะหนึ่ง เหมือนว่าหน้ากากนั้นของเธอจะถูกเจาะจนทะลุ สีหน้าเธอดูไม่ค่อยมั่นใจสักเท่าไหร่ “พี่ซู พี่หมายความว่ายังไง?”“ฮึ หมายความว่ายังไงงั้นเหรอ? น้องอินอิน เธอคงไม่คิดว่าทุกคนจะโง่กันหมดหรอกใช่ไหม? ตั้งแต่ครั้งแรกที่ฉันเจอเธอ ฉันก็เดาได้แล้ว ว่าเธอเป็นคนยังไง ต่อหน้าก็แสร้งทำตัวไร้เดียงสาและอ่อนแอ แต่ในความเป็นจริง ใจกลับดำมืดเต็มไปด้วยแผนการ คุณสนุกกับการใช้หน้ากากที่เธอสร้างขึ้นมาหลอกลวงทุกคน ฉันก็เลยเล่นตามน้ำกับเธอไป แกล้งทำเป็นเชื่อในความดีและความไร้เดียงสาของเธอ”เสียงของหยางซูดังกึกก้องทั่วทั้งศาลาไว้ทุกข์ซูอินฟังแล้วก็รู้สึกบาดหูเป็นพิเศษในตอนนี้ ใบหน้าที่เคยแสดงความไร้เดียงสาของเธอก็เริ่มมีความโกรธปรากฏขึ้นมานิดหน่อยที่อยางซูจะบอกก็คือ ทุกสิ่งที่เขาปฏิบัติต่อเธอ มันเป็นเพียงแค่การแสดงอย่างนั้นน่ะเหรอ?แล้วที่เมื่อวานเขารับปากเธอว่าจะใช้เส้นสายเรียกทนายอู๋มาล่ะ มันเพื่ออะไรกัน?มีคนอื่นอยู่ด้วย ซูอินจึงไม่สะดวกที่จะถามออกมาแต่เมื่อเธอจ้องไปที่ตาของหยางซู กลับทำให้หยางซูเข้าใจในทันทีว่าเธอกำลังคิดอะไร และคิดจะ
ฟู่จิ้นหานก้มหน้าสบตากับซูหรานแววตาของเธอดูมั่นคง มือที่กำเสื้อตรงหน้าอกของเขาก็ยิ่งบีบแน่นขึ้นเรื่อย ๆ ฟู่จิ้นหานรู้สึกกังวลในใจไม่หาย แต่ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง สุดท้ายก็ไม่สามารถขัดขืนซูหรานได้ฟู่จิ้นหานวางเธอลง แต่แขนของเขายังคงโอบเอวเธอเอาไว้อยู่ ท่าทางที่เขาปกป้องเธอนี้ ทำให้ผู้คนรอบข้างเกิดความคิดที่แตกต่างกันออกไปคนที่ตกใจและประหลาดใจที่สุด ก็คือเย่ซินฟู่จิ้นหาน......ผู้นำคนใหม่ของฟู่ซือกรุ๊ปคนนี้ เย่ซินเคยเห็นมาก่อนเขาจัดการกับฟู่ซือกรุ๊ปด้วยวิธีการที่โหดเหี้ยม ซึ่งเป็นที่พูดถึงกันในจิงเฉิง แค่เธอได้ยินก็รู้สึกขนลุกทุกคนต่างก็พูดกันว่าฟู่จิ้นหานเป็นคนเย็นชาไร้ความรู้สึก แต่ชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าเธอในตอนนี้ สีหน้ากลับเต็มไปด้วยความอ่อนโยน แววตาของเขาจ้องมองไปยังหญิงสาวที่อยู่ข้าง ๆ บ้างก็เหลือบมองไปยังอีกด้าน แต่แววตากลับเปลี่ยนเป็นเฉียบขาดในทันทีท่าทีที่ฟู่จิ้นหานปฏิบัติต่อผู้หญิงคนนี้พิเศษมากจริง ๆเย่ซินอดไม่ได้ที่จะมองไปยังคนที่อยู่ข้าง ๆ ฟู่จิ้นหาน และนึกถึงชื่อที่พวกเขาเพิ่งจะเรียกเธอขึ้นมาเมื่อกี้หรานหราน......ซูหราน......เธอคือหลานสาวที่คุณท่านรับอุปการะมา
ทุกคนต่างก็ตกตะลึงไปชั่วขณะเสียงของผู้หญิงที่ดังออกมาจากโทรศัพท์มือถือ ได้รับการปรับแต่งมาอย่างละเอียดถึงจะฟังไม่ชัดเจนว่าเป็นของใคร แต่ก็กลับฟังออกว่าบรรยากาศค่อนข้างจะเข้มข้นภายใต้เสียงร้องของหญิงสาว กระทั่งการพูดด้วยคำพูดที่ดูเปิดเผยต่าง ๆ ทำให้คนที่อยู่ ณ ตรงนั้นแค่ได้ยิน สีหน้าของพวกเขาก็เริ่มเปลี่ยนไปบ้างแล้วซูอินรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย และแอบบ่นลินเยว่เยว่ที่ทำการแปลงเสียง แต่ยังไงก็ช่างเถอะ ต่อให้จะฟังไม่ออกว่าเป็นเสียงของซูหราน แต่ภาพที่ทุกคนเห็นก็เป็นซูหราน ยังไงก็มีผลลัพธ์เดียวกัน!ซูอินเหลือบมองไปที่เย่ถิงเซินเธออยากเห็นมากที่สุด ก็คือปฏิกิริยาของเย่ถิงเซินหลังจากที่เขาเห็นว่าคนในคลิปคือซูหราน แต่เย่ถิงเซินเพียงแค่ขมวดคิ้ว และมีสีหน้าที่ดูไม่พอใจเท่านั้น เขากลับไม่หยิบโทรศัพท์ออกมาสักทีดูเหมือนว่าเย่ซินจะตกใจกับภาพที่เธอเห็นมาก เธอจ้องมองที่หน้าจอโทรศัพท์อย่างงงงวยภายในห้องไว้ทุกข์ เสียงของหญิงสาวยังคงดังกึกก้องอยู่ในบรรยากาศที่แปลกประหลาด ก็มีคนที่สองที่หยิบโทรศัพท์ออกมา และเปิดข้อความที่เพิ่งได้รับเมื่อสักครู่นี้อ่า......เสียงที่เหมือนกับก่อนหน้านี้ก็ดัง
“พวกเขาจะทำอะไร?”ในหัวเย่ซือเหยียนยังคงคิดไม่ตก ไม่สามารถคาดเดาภาพรวมของเรื่องราวได้เลยแต่เธอก็พอจะเข้าใจอยู่บ้าง: หากคุณท่านยังไม่ตายจริง ๆ เช่นนั้นทุกอย่างที่เกิดขึ้นในวันนี้มันก็คือกับดักและกับดักนี้ ถูกจัดเตรียมเอาไว้เพื่อใครอย่างนั้นเหรอ?เย่ซิน? ตัวเธอ? หรือว่า......ซูอิน?เย่ซือเหยียนรู้สึกโชคดีที่เธอค้นพบเรื่องนี้ได้ก่อน ไม่เช่นนั้น เธอก็อาจจะตกหลุมพรางไปด้วยส่วนซูอิน......ความเกลียดชังสะสมอยู่ในดวงตาของเย่ซือเหยียนไม่ว่ากับดักนี้จะถูกจัดเตรียมเอาไว้สำหรับใครก็ตาม วันนี้ก็ยังถือว่าเป็นโอกาสที่ดีในตอนนั้นแทบจะในทันที เย่ซือเหยียนโทรหาสายสายหนึ่ง และสั่งการกับคนที่อยู่ปลายสายหนึ่งประโยค หลังจากวางสาย ในใจเย่ซือเหยียนก็เริ่มรู้สึกตื่นเต้นกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อไป......ในขณะเดียวกัน ณ ศาลาไว้ทุกข์ ซูอินยังคงเต็มไปด้วยความคาดหวังกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นอาการเป็นลมของเย่ซือเหยียนทำให้เธอรู้สึกไม่พอใจอย่างมากรอจนกระทั่งพ่อบ้านจัดแจงให้คนพาเย่ซือเหยียนออกไป ซูอินก็อดไม่ได้ที่จะมองไปที่ทนายอู๋ แต่สุดท้ายเธอก็รู้สึกกลัวว่าจะมีคนเห็นความลนลานของเธอ เธอจึงไม่กล้าพู
ดูเหมือนว่า ผู้ที่อยู่ในที่นั้นนอกจากท่านท่านเย่แล้ว ก็มีเพียงเย่ถิงเซินเท่านั้นที่สามารถตัดสินใจได้การกระทำนี้ ทำให้ซูอินรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อยต้องทำความเข้าใจก่อนว่า เธอคือผู้สืบทอดที่ถูกต้องตามกฎหมายของตระกูลเย่ และนอกจากนี้ ทนายความอู๋คนนี้เองก็เป็นพยานในการทำพินัยกรรมของคุณท่านเย่อีกด้วย เขาก็ควรจะรู้ว่าผู้ที่ได้รับผลประโยชน์จากพินัยกรรมของคุณท่านคือใครเขาควรถามเธอ และให้เธอเป็นผู้ตัดสินใจสิถึงจะถูกเขากลับถือหางให้เย่ถิงเซินเป็นตัวหลักแต่ไม่นาน ซูอินก็ไม่ได้ใส่ใจมากนัก ที่ทนายอู๋คนนี้เป็นคนที่มีตาแต่ไร้แวว รอให้ประกาศพินัยกรรมออกมาก่อน ว่าเธอคือผู้สืบทอดทรัพย์สินของตระกูลเย่ จะทำให้คนเหล่านี้ต้องตื่นตระหนกอีกครั้งแน่นอน“เชิญทนายประกาศได้เลยครับ”คำพูดของเย่ถิงเซินแต่ละคำ ทั้งหนักแน่นและชัดเจนทนายความอู๋เปิดถุงเอกสารที่ปิดผนึกเอาไว้ท่ามกลางสายตาของทุกคน และนำพินัยกรรมที่อยู่ข้างในออกมา“ฉัน เย่ชิงเหอ ทรัพย์สินทั้งหมดที่อยู่ภายใต้ชื่อของฉัน จะถูกสืบทอดโดย......”ทนายความอู๋กำลังอ่านเนื้อหาของพินัยกรรม ทุกคนในศาลาไว้ทุกข์ต่างก็ตั้งใจฟัง และเมื่อถึงจุดนี้ สีหน้าของทุกค
“มันแน่นอนอยู่แล้ว”หยางซูจ้องมองไปที่ซูอิน เขาจะไม่บอกกับเธอ ว่าทนายคนนั้นได้อยู่ที่ไห่เฉิงเรียบร้อยแล้วทันทีที่คุณท่านกลับมาที่ไห่เฉิง ก็ได้ให้ทนายรีบมาที่นี่อย่างลับ ๆและการกระทำของซูอินในคืนนี้ ดูท่าแล้ว คุณท่านเองก็น่าจะมองสถานการณ์ออกตั้งแต่แรกแล้วเมื่อได้รับคำตอบที่แน่นอนจากหยางซู ซูอินก็ยิ่งมีความสุขมากกว่าเดิมเธอไม่กล้าที่จะลำพองตัวมากเกินไป เหมือนว่าเธอจะรู้สึกพอใจมาก จึงถอนหายใจออกมา “การที่สามารถทำตามความปรารถนาของคุณปู่ได้ ก็ถือเป็นสิ่งเดียวที่ฉันสามารถทำเพื่อคุณปู่ได้แล้วล่ะค่ะ”ซูอินลดสายตาลง ให้ดูเหมือนว่าเธอไม่มีความต้องการอะไรเลยจริง ๆแต่หยางซูกลับรู้จักธาตุแท้ของผู้หญิงคนนี้แล้วในที่สุดหยางซูก็ไม่สามารถอดทนต่อความเกลียดชังในใจได้ เขาจึงอ้างว่าตนรู้สึกเหนื่อย และต้องการพักผ่อน จึงขอให้ซูอินออกไปก่อนเมื่อกลับมาถึงห้อง ซูอินก็รีบวางแผนทุกอย่างที่เหลือทันทีเช้าวันถัดมา ทั้งวิลล่าก็เริ่มวุ่นวายตั้งแต่เช้าแล้วเมื่อวานได้มีการกำหนดให้เผาศพวันนี้ก่อนเริ่มการเผาศพ ก็ควรไปสักการะร่างของผู้เสียชีวิตเสียก่อนภายในโลงแก้วคุณท่านนอนอยู่ข้างใน ใบหน้าดูมีชีว