ซูหรานรู้สึกสับสน พร้อมกับเกิดความรู้สึกที่ว่าโลกนี้มันช่างน่าขันเสียจริงเมื่อก่อนต่อให้เธอจะหมั้นหมายกับลู่ซิวหนิง คุณหญิงย่าลู่ก็คงแค่เรียกเธอว่า “ซูหราน” เท่านั้น พร้อมกับท่าทีการวางตัวที่ดูเย่อหยิ่งความรู้สึกอบอุ่นและสนิทสนมอย่างวันนี้ กลับไม่เคยเห็นจากตัวของเธอมาก่อน“คุณหญิงย่าลู่คะ ฉันยังมีธุระค่ะ ขอตัวนะคะ” ซูหรานปัดมือของคุณหญิงย่าเบา ๆคุณหญิงย่าลู่ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งแต่แล้ว ราวกับว่าเธอจะมองเห็นอะไรบางอย่าง สีหน้าของเธอก็เปลี่ยนไปเล็กน้อยซูหรานที่เห็นแบบนั้น ก็มองตามสายตาของคุณหญิงย่าลู่ทันที และได้พบกับลู่ซิวหนิงที่กำลังจับมือซูอินเดินเข้ามาพร้อมกันเข้าพอดี ดูเหมือนว่าก่อนหน้าที่พวกเธอจะมองไปยังทั้งสองคน ลู่ซิวหนิงก็ได้พูดคำหวานหรืออะไรสักอย่างที่ข้างหูของซูอิน จนทำให้ซูอินต้องรู้สึกเขินอาย“แค่ก ๆ ......”เสียงไอของคุณหญิงย่าลู่ก็ดังขึ้น ในที่สุดก็ดึงความสนใจของลู่ซิวหนิงและซูอินได้ทั้งสองเงยหน้าขึ้นมอง และได้พบเข้ากับซูหรานและคุณหญิงย่าลู่ทั้งสองตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นจึงรีบปล่อยมือทันทีลู่ซิวหนิงถึงขั้นผลักซูอินออกไปเลยด้วยซ้ำ เดิมทีร่างกายซูอินก็
ซูหรานจากไปพร้อมกับรอยยิ้ม และลู่ซิวหนิงเองก็เห็นคำว่า “สามี” ที่ปรากฏอยู่บนหน้าจอโทรศัพท์ของเธอได้อย่างชัดเจนจากนั้นก็ได้ยินเสียงซูหรานรับสายตามมา.......“ที่รักคะ......” น้ำเสียงที่ซูหรานเรียกนั้นทั้งหวานทั้งเลี่ยนราวกับเธอต้องการจะบอกกับลู่ซิวหนิงและคนที่อยู่ข้าง ๆ เขา ว่าตอนนี้เธอได้แต่งงานมีชีวิตที่ดีไปแล้ว ให้พวกเขาเลิกมายุ่งวุ่นวายกับเธอสักทีลู่ซิวหนิงขมวดคิ้ว และมองไปทางคุณหญิงย่าลู่เพื่อขอความช่วยเหลือคุณหญิงย่าลู่เองก็มีใบหน้าที่ดูบูดบึ้ง ไม่พูดอะไรเลยสักคำ แต่สายตาของเธอกลับจับจ้องไปทางซูอินด้วยความรังเกียจ ราวกับเอาความขุ่นเคืองทั้งหมดไปลงกับซูอินรอจนซูหรานเดินจากไปไกลแล้ว คุณหญิงย่าลู่ถึงได้เริ่มชี้นิ้วด่าด้วยท่าทีที่ดูเย็นชา “ในตอนแรกถ้าไม่ใช่เพราะผู้หญิงบางคน ป่านนี้ลู่ซิวหนิงคงได้แต่งงานกับซูหรานไปนานแล้ว ถ้าคนคนนั้นมีสมองสักหน่อย ก็ควรไสหัวไปไกล ๆ ได้แล้ว อย่ามาให้คนตระกูลลู่เห็นหน้าอีก”คุณหญิงย่าลู่ดูเหมือนจะลืมไปแล้ว ว่าเดิมทีเธอต้องการมอบซูหรานให้กับคุณชายสามฟู่เพื่อแลกกับความช่วยเหลือจากเขาในอนาคตในใจของซูอินรู้สึกเหมือนกำลังถูกหนามทิ่มแทงอย่างแรงเ
“เหอะๆ......ไม่จำเป็นหรอกมั้ง”ซูหรานเผยยิ้ม เสียดายที่ไม่ได้ปิดปากเขาตั้งแต่แรกความต้องการแบบนี้เขาเอ่ยมันออกมาได้ยังไง?ซูหรานมองไปรอบๆ ตั้งใจจะเตือนเขาว่านี่คือที่สาธารณะ การป้อนอาหารในที่สาธารณะแบบนี้ เธอไม่อายที่จะป้อน แล้วเขาไม่อายที่จะกินเหรอ?แต่เธอกลับไม่เข้าใจความคิดของฟู่จิ้นหานเลยสักนิดที่สาธารณะแล้วจะทำไม?เขากินอาหารที่ภรรยาเขาป้อน ไม่ได้กินของที่คนอื่นป้อนสักหน่อย!ฟู่จิ้นหานหลบตาลงอย่างเศร้าหมอง “ผมหวังดีช่วยคุณ เงินห้าพันล้านผมไม่ได้เก็บดอกเบี้ยจากคุณด้วยซ้ำ......”“......”ซูหรานแทบจะโพล่งออกมา: รบกวนคิดดอกเบี้ยด้วย เรื่องป้อนข้าวน่ะไม่มีทางหรอก!แต่เมื่อนึกขึ้นได้ว่า ดอกเบี้ยเงินห้าพันล้านหากคำนวณออกมามันต้องมากขนาดไหน อยู่ ๆ ซูหรานก็รู้สึกว่าความจริงการป้อนข้าวก็ไม่ได้ยากอะไรสูดหายใจเข้าลึก ๆ ซูหรานรีบหั่นสเต๊กเนื้อหนึ่งชิ้นแล้วรีบยัดเข้าไปในปากของสามีตัวพ่อของเธออย่างรวดเร็วในขณะที่ทำท่าทางเหล่านี้ สายตาของซูหรานก็มองไปรอบ ๆ อย่างระมัดระวัง เมื่อแน่ใจว่าไม่มีใครเธอถึงจะสบายใจ แต่ถึงกระนั้น เธอก็ไม่กล้ารอช้าแม้แต่ครู่เดียว หลังจากที่ยัดสเต๊กเข้าไปในป
เมื่อซูหรานกลับมาถึงบริษัท ฟู่จิ้นหานก็ยังคงทำตัวล่อยลองราวกับคนว่างงานและอยู่ที่ห้องรับรองของซิงหลานจิวเวลรี่ทั้งช่วงบ่ายเย่ซือเหยียนตามไปจนถึงล่างตึกไป๋ลี่ แล้วจ้องทางออกของตึกอยู่อย่างนั้นในที่สุดหลังจากที่ทั้งตึกเลิกงาน ซูหรานและฟู่จิ้นหานก็จูงมือกันเดินออกมาสายตาของฟู่จิ้นหานมองอยู่ที่ซูหรานตลอดเวลาพอเห็นทั้งสองคนขึ้นรถ มือของเย่ซือเหยียนที่กำพวงมาลัยรถอยู่ถึงกับสั่นเธอตามทั้งสองคนมาตลอดทางจนมาถึงเจินหลินย่วนสองคนเหมือนกับคู่สามีภรรยาทั่วไปที่กลับบ้านด้วยกัน ถ้าหากไม่เห็นด้วยตาตัวเอง ทำยังไงเย่ซือเหยียนก็คงจะไม่เชื่อ ฟู่จิ้นหานคนที่เมื่อผู้หญิงคนอื่นเข้าใกล้ก็จะมองด้วยสายตาอาฆาตคนนั้น กลับดูเหมือนว่าจะเป็นคนติดกับซูหรานมากเย่ซือเหยียนกลับมาถึงวิลล่าที่คุณปู่อาศัยอยู่พอคุณปู่เย่เห็นเย่ซือเหยียนก็ถึงกับขมวดคิ้ว “หรานหรานล่ะ? ทำไมหรานหรานยังไม่กลับมา?”เย่ซือเหยียนกำหมัดแน่นแต่ก็ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วแล้วเผยยิ้มออกมา “คุณปู่ลืมแล้วเหรอคะ? หรานหรานเธอไม่ได้อาศัยอยู่ที่นี่สักหน่อย”“หลานสาวตระกูลเย่ แน่นอนว่าต้องอาศัยอยู่ที่บ้านตระกูลเย่” คุณปู่เย่อย
ฟู่จิ้นหานกำลังจะเค้นถาม ซูหรานก็รีบวางสายในทันที“......”ฟู่จิ้นหานจ้องมองโทรศัพท์ ในหัวเต็มไปด้วยคำถามดึกขนาดนี้แล้ว เธอทักทายใครอยู่กันแน่?ทันใดนั้นเขาก็นึกถึงคนคนนึงขึ้นมา ในใจแทบอยากจะรู้ความจริงเดี๋ยวนี้ ฟู่จิ้นหานจึงโทรศัพท์หาเย่ถิงเซินเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นเพียงสองครั้งก็รับสาย“ฮัลโหล?” เย่ถิงเซินรับสายด้วยน้ำเสียงเหนื่อยหน่ายต่อให้มีโทรศัพท์คั่นอยู่ รอยยิ้มผยองบนใบหน้าของเขาก็ถูกส่งมาราวกับว่ายืนอยู่ต่อหน้าฟู่จิ้นหาน“ซูหรานล่ะ?” ฟู่จิ้นหานถามอย่างร้อนรนแต่เย็นชาเย่ถิงเซินเหลือบมองซูหราน เขานึกว่าเมื่อสักครู่ซูหรานกำลังโทรศัพท์อยู่กับสามีของเธอ กลับนึกไม่ถึงว่าเป็นฟู่จิ้นหานดึกขนาดนี้ยังจะโทรหาซูหราน ไม่เอาสามีของซูหรานไว้ในสายตาบ้างเลยจริง ๆ สินะ!“เธอเป็นหลานสาวที่คุณปู่เพิ่งจะยอมรับ ซูหรานก็เป็นคนตระกูลเย่ ตอนเย็นกลับมาที่วิลล่าตระกูลเย่ก็สมเหตุสมผลใช่ไหม”รอยยิ้มที่มุมปากของเย่ถิงเซินยิ่งชัดขึ้นแต่สีหน้าของฟู่จิ้นหานกลับยิ่งดูไม่ได้ที่แท้ก็เป็นแบบนี้!แววตาของมืดมนแล้ววางสายไปขณะที่สองคนโทรคุยกัน เสียงของเย่ถิงเซินเบามาก ซูหรานที่มีระเบียงคั่นอยู่จึ
“ฉันมีเพื่อนร่วมชั้นสมัยมหาวิทยาลัยสองสามคนในเมืองไห่เฉิง พอพวกเขารู้ว่าฉันมาที่เมืองไห่เฉิงก็เลยเช่าเรือสําราญมาต้อนรับฉัน เดี๋ยวฉันจะแนะนําพวกเธอให้รู้จัก” หลังจากเย่ซือเหยียนพูดจบ เธอก็ดึงซูหรานขึ้นเรือสําราญ ยังเช้าอยู่และผู้คนบนเรือสําราญก็สนุกสนานกันแล้ว มีคนเห็นเย่ซือเหยียน ก็รีบล้อมรอบเธอทันที “ซือเหยียน นัดเธอมาตั้งหลายวันแล้ว แต่เธอก็ไม่ว่าง ในที่สุดวันนี้ก็นัดหมายคนยุ่งอย่างเธอได้สักที” คนที่เอ่ยปากพูดชื่อจี้หลิน นายน้อยในสาขาของตระกูลจี้แห่งเมืองไห่เฉิงตระกูลจี้ตระกูลเป็นที่ร่ำรวยที่สุดในเมืองไห่เฉิง และสาขาของตระกูลจี้นั้นก็ร่ำรวยไม่แพ้กันจี้หลินรักสนุก เขาเป็นลูกคนรวยที่มีชื่อเสียงในเมืองไห่เฉิง และคนที่เล่นกับเขาเป็นลูกชายลูกสาวของผู้ประกอบการรายใหญ่หลายคนในเมืองไห่เฉิงที่รักสนุกเช่นกัน ปาร์ตี้วันนี้ต่างก็เป็นเพื่อนฝูงพากันมา ในฝูงชน ซูหรานก็เห็นใครบางคนในเพียงพริบตาหวังม่านหลินก็เห็นซูหรานเช่นกัน“โอ้ นี่ไม่ใช่คุณหนูซูของเราเองเหรอ?”หวังม่านหลินครั้งก่อนถูกคุมขังไว้ครึ่งเดือนและเธอเพิ่งออกมาไม่นาน หลังจากออกมา พ่อของเธอก็ระงับบัตรของเธอและตัดเส
ในระยะเวลาเพียงสั้น ๆ เรือสําราญก็ได้ออกจากท่าเรือแล้ว “ทํายังไงดี?” ดวงตาของเย่ซือเหยียนเต็มไปด้วยคําขอโทษ “ฉันแค่อยากพาเธอมาพักผ่อน แต่ฉันนึกไม่ถึงว่าพวกเขาจะเป็นคนแบบนี้ สมัยเรียนมหาวิทยาลัย พวกเขาก็ไม่เป็นแบบนี้......”“หรานหราน เธอรอฉันก่อน ฉันจะให้พวกเขาขับเรือสําราญกลับไป”เย่ซือเหยียนรีบหันหลังกลับ และไม่กี่นาทีต่อมาเมื่อเธอออกมาอีกครั้ง เธอก็คว้ามือของซูหรานด้วยใบหน้าขอโทษ: “หรานหราน เรือสําราญถูกตั้งค่าด้วยการล่องเรืออัตโนมัติ เมื่อมันเริ่มสตาร์ทแล้ว และจะไม่กลับมาจนกว่าจะถึงวันพรุ่งนี้ ดังนั้นจึงไม่มีทางกลับไปได้ในตอนนี้ เธอว่า......” ดูเหมือนว่าเย่ซือเหยียนก็ไม่รู้ว่าจะทําอย่างไร ซูหรานมองไปที่ผิวน้ำที่ไม่มีที่สิ้นสุดรอบตัวเธอ แล้วขมวดคิ้วเป็นปม“หรานหราน เรือสําราญลํานี้ใหญ่มาก ไม่งั้นพวกเราก็อยู่กันก่อนชั่วคราว พวกเราเล่นของเราเอง ไม่ไปเจอพวกเขา”“ฉันสัญญาว่าจะเตือนพวกเขา ถ้าหากทำให้เธออารมณ์เสียอีก ตระกูลเย่จะทำให้ธุรกิจที่อยู่เบื้องหลังพวกเขาหายไปในชั่วข้ามคืน” เย่ซือเหยียนจ้องมองซูหราน รอท่าทีของเธอซูหรานอยู่ในภวังค์ และในเวลานี้เย่ซือเหยียนยังคงท่าทางปกป
คำพูดของวังม่านหลินดูเหมือนจะจุดไฟในใจของจี้หลิน"ฮึ ดี กูจะไปสั่งสอนมันเดี๋ยวนี้แหละ" จี้หลินมองดูคนรอบข้างที่กำลังสนุกสนาน แล้วเดินออกจากบาร์อย่างเงียบๆวังม่านหลินยิ้มอย่างสมใจส่งข้อความไปหาซูอิน "เรียบร้อยแล้ว รอดูละครสนุกได้เลย อ้อ ของที่เธอให้มาน่ะ ได้ผลแค่ไหน?"ตอนที่รินเหล้าเมื่อกี้ วังม่านหลินแอบใส่ของบางอย่างลงไปอย่างแนบเนียนไม่นานเธอก็ได้รับข้อความตอบกลับจากซูอิน「รอดูสิ แล้วจะรู้เอง」วังม่านหลินยิ้มเยาะพลางจิบเหล้า รู้สึกตื่นเต้นมากรอบๆ เต็มไปด้วยเสียงอึกทึกครึกโครม บางคนกำลังดื่ม บางคนกำลังเต้นรำเย่ซือเหยียนถูกคนห้อมล้อมเอาใจ เธอเมาได้ห้าส่วนแล้ว แต่เมื่อครู่ที่วังม่านหลินเข้าไปหาจี้หลิน เรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดเธอเห็นอย่างชัดเจนนึกถึงซูหรานที่อยู่ชั้นบนสุด เย่ซือเหยียนแกล้งทำเป็นกังวลแล้ววางแก้วลง"ฉันไม่ดื่มแล้ว น้องสาวฉันอยู่คนเดียว ถ้าฉันเมา ก็ดูแลเธอไม่ได้"เย่ซือเหยียนลุกขึ้น ก้าวเดินโซเซ พอลุกขึ้นก็เซไปทันทีเพื่อนผู้หญิงคนหนึ่งพอดีเข้ามาพยุงเธอไว้ "ซือเหยียน เธอดูแลน้องสาวดีจัง แต่ไม่ต้องกังวลหรอก เธอโตแล้ว ดูแลตัวเองไม่ได้เหรอ? อีกอย่าง ทั้งเร
คิดจะใช้มุกนี้อีกแล้วเหรอ?ตีเธอหรือด่าเธองั้นเหรอ?ในเมื่อเธอขอมาแบบนี้ เช่นนั้นเธอก็จะสนองความต้องการให้เธอได้สมใจเอง!“เธอ......” มานี่ซูหรานยังพูดไม่ทันจบ ฟู่จิ้นหานก็ได้ส่งสัญญาณให้ฉินฟั่งเสียก่อนเรื่องทำร้ายคนแบบนี้ ทำไมต้องให้ซูหรานเป็นคนลงมือด้วยตัวกันล่ะ?ฉินฟั่งก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว ในช่วงเวลาอันรวดเร็วนั้น เขาก็ได้ตบหน้าซูอินไปหนึ่งทีเสียงเพี๊ยะดังขึ้น ไม่มีความปรานีใด ๆ ซูอินเดินเซจนแทบล้ม ยากที่จะทรงตัวเอาไว้ได้ ในหัวขาวโพลนไปหมด เหลือเพียงเสียงหึ่ง ๆ เท่านั้นใครกัน......ที่กล้าทำร้ายเธอได้ถึงขนาดนี้? !ทันทีที่ซูอินได้สติกลับมา เธอจึงมองไปที่ฉินฟั่งด้วยความโกรธฉินฟั่งได้รับการฝึกฝนมา เขาได้ฝึกฝนร่างกายจนแข็งแกร่งที่บริษัทชิงอวิ๋น แถมยังได้รับอิทธิพลจากฟูจิ้นหานที่มีความเด็ดขาดในการต่อสู้อีกด้วย เพียงแค่สายตาเดียว ความกดดันของซูอินก็ถูกลดทอนลงไปทันทีแต่จะให้ซูอินยอมได้อย่างไร?เธอเป็นถึงหลานสาวแท้ ๆ ของตระกูลเย่ ฉินฟั่งคนนี้......ก็เป็นแค่สุนัขรับใช้ข้างกายฟู่จิ้นหานเท่านั้นต่อให้การตบเธอจะเป็นความต้องการของฟู่จิ้นหาน แต่มีคนมากมายอยู่ด้วยขนาดนี้ ห
ไม่จำเป็นต้องแก้ไขพินัยกรรมงั้นเหรอ?ซูอินดีใจมาก รู้สึกเหมือนได้รับความมั่นใจมากขึ้นแน่นอนว่าขอแค่เธอยังเป็นลูกสาวของฉินเหยียนอยู่ คุณท่านเย่ก็จะเห็นแก่หน้าฉินเหยียน และยอมรับทุกอย่างที่เป็นเธอครั้งนี้ ไม่ว่าคุณท่านเย่จะรอดมาด้วยเหตุผลใดก็ตาม แต่ไม่ว่ายังไงพินัยกรรมของคุณท่าน เมื่อกี้ทุกคนต่างก็ได้ยินอย่างชัดเจนกันหมดแล้วคุณท่านเย่ได้มอบทุกอย่างของตระกูลเย่ให้กับเธอ แม้ว่าวันนี้เธอจะยังไม่ได้รับช่วงต่อจากตระกูลเย่ แต่เธอก็ยังเป็นผู้สืบทอดเพียงคนเดียวอยู่ส่วนคนพวกนี้......ซูอินรู้สึกไม่ค่อยพอใจสักเท่าไหร่เมื่อนึกถึงวิดีโอเมื่อกี้แล้ว ซูอินจึงหันไปมองซูหรานที่อยู่ข้าง ๆ คุณท่านเย่ทันทีในตอนนี้ เธอไม่มีเวลามามัวคิดว่าคลิปวิดีโอนั้นเกิดขึ้นได้อย่างไร แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้ คือการใช้ประโยชน์จากอำนาจเสียงของคุณท่าน เพื่อช่วยลบข้อครหาและปฏิเสธว่าคนในคลิปไม่ใช่เธอน้ำสกปรกนี้ ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ต้องสาดไปที่ซูหรานให้ได้เมื่อคิดได้เช่นนั้น ซูอินก็ขมวดคิ้วทันที “หนูไม่สนใจของนอกกายพวกนั้นหรอกค่ะ แต่ถ้าหากแม่ของหนูที่อยู่บนสวรรค์รู้ว่าหนูถูกใส่ร้ายด้วยคลิปวิดีโอนั้น จนทำ
น้ำเสียงนั้นดูทุ้มต่ำ แต่ก็มีความโกรธที่ไม่สามารถปิดบังเอาไว้ได้ปนอยู่ซูอินเงียบและไม่มีการตอบสนองอยู่นาน ส่วนคนอื่น ๆ ที่อยู่ตรงนั้น ก็กลับมีสีหน้าที่ดูต่างกันออกไปพวกเขาเพิ่งจะได้ยินอะไรกันแน่?เย่ซินกลืนน้ำลายลงคออึกหนึ่ง ก่อนจะกอดแขนตัวเองแน่น ราวกับพยายามขับไล่ความหนาวของเมื่อครู่นี้ที่แผ่ซ่านเข้ามาในร่างกายออกไปเธอหูฝาดไปรึเปล่านะ?เสียงนั้นน่ะ คือเสียงของคุณท่านจริง ๆ!แต่เห็น ๆ อยู่ว่าคุณท่านเสียชีวิตไปแล้ว แล้วร่างก็กำลังนอนอยู่ในโลงแก้วอีกด้วย จะมีเสียงออกมาได้อย่างไร?แต่เมื่อนึกถึงคำว่า “วิญญาณ” ขึ้นมา เย่ซินก็กลืนน้ำลายลงคอด้วยความตื่นตัวและเสียงที่ดังขึ้นอย่างกะทันหันนั้น ก็กลับยิ่งทำให้เย่ซือเหยียนมั่นใจในข้อสันนิษฐานก่อนหน้านี้ได้ และเข้าใจมากยิ่งขึ้นว่าการแสดงในวันนี้มีซูอินที่เป็นเป้าหมาย!เย่ซือเหยียนรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย เธอสังเกตเห็นว่าทั้งเย่ถิงเซินและหยางซู พวกเขาสองคนไม่ได้มีปฏิกิริยาใด ๆ มากนักต่อเสียงของคุณปู่ในตอนนั้นเธอก็รู้ได้ในทันที ว่าทั้งสองคนเองก็มีส่วนร่วมในแผนการนี้ด้วยเช่นกันส่วนซูอิน......ตอนนี้ ในหัวของซูอินมันขาวโพลนไปหมดเธอเ
หน้าตาที่ดูไร้เดียงสาและอ่อนแอของซูอินแข็งทื่อทันทีชั่วขณะหนึ่ง เหมือนว่าหน้ากากนั้นของเธอจะถูกเจาะจนทะลุ สีหน้าเธอดูไม่ค่อยมั่นใจสักเท่าไหร่ “พี่ซู พี่หมายความว่ายังไง?”“ฮึ หมายความว่ายังไงงั้นเหรอ? น้องอินอิน เธอคงไม่คิดว่าทุกคนจะโง่กันหมดหรอกใช่ไหม? ตั้งแต่ครั้งแรกที่ฉันเจอเธอ ฉันก็เดาได้แล้ว ว่าเธอเป็นคนยังไง ต่อหน้าก็แสร้งทำตัวไร้เดียงสาและอ่อนแอ แต่ในความเป็นจริง ใจกลับดำมืดเต็มไปด้วยแผนการ คุณสนุกกับการใช้หน้ากากที่เธอสร้างขึ้นมาหลอกลวงทุกคน ฉันก็เลยเล่นตามน้ำกับเธอไป แกล้งทำเป็นเชื่อในความดีและความไร้เดียงสาของเธอ”เสียงของหยางซูดังกึกก้องทั่วทั้งศาลาไว้ทุกข์ซูอินฟังแล้วก็รู้สึกบาดหูเป็นพิเศษในตอนนี้ ใบหน้าที่เคยแสดงความไร้เดียงสาของเธอก็เริ่มมีความโกรธปรากฏขึ้นมานิดหน่อยที่อยางซูจะบอกก็คือ ทุกสิ่งที่เขาปฏิบัติต่อเธอ มันเป็นเพียงแค่การแสดงอย่างนั้นน่ะเหรอ?แล้วที่เมื่อวานเขารับปากเธอว่าจะใช้เส้นสายเรียกทนายอู๋มาล่ะ มันเพื่ออะไรกัน?มีคนอื่นอยู่ด้วย ซูอินจึงไม่สะดวกที่จะถามออกมาแต่เมื่อเธอจ้องไปที่ตาของหยางซู กลับทำให้หยางซูเข้าใจในทันทีว่าเธอกำลังคิดอะไร และคิดจะ
ฟู่จิ้นหานก้มหน้าสบตากับซูหรานแววตาของเธอดูมั่นคง มือที่กำเสื้อตรงหน้าอกของเขาก็ยิ่งบีบแน่นขึ้นเรื่อย ๆ ฟู่จิ้นหานรู้สึกกังวลในใจไม่หาย แต่ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง สุดท้ายก็ไม่สามารถขัดขืนซูหรานได้ฟู่จิ้นหานวางเธอลง แต่แขนของเขายังคงโอบเอวเธอเอาไว้อยู่ ท่าทางที่เขาปกป้องเธอนี้ ทำให้ผู้คนรอบข้างเกิดความคิดที่แตกต่างกันออกไปคนที่ตกใจและประหลาดใจที่สุด ก็คือเย่ซินฟู่จิ้นหาน......ผู้นำคนใหม่ของฟู่ซือกรุ๊ปคนนี้ เย่ซินเคยเห็นมาก่อนเขาจัดการกับฟู่ซือกรุ๊ปด้วยวิธีการที่โหดเหี้ยม ซึ่งเป็นที่พูดถึงกันในจิงเฉิง แค่เธอได้ยินก็รู้สึกขนลุกทุกคนต่างก็พูดกันว่าฟู่จิ้นหานเป็นคนเย็นชาไร้ความรู้สึก แต่ชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าเธอในตอนนี้ สีหน้ากลับเต็มไปด้วยความอ่อนโยน แววตาของเขาจ้องมองไปยังหญิงสาวที่อยู่ข้าง ๆ บ้างก็เหลือบมองไปยังอีกด้าน แต่แววตากลับเปลี่ยนเป็นเฉียบขาดในทันทีท่าทีที่ฟู่จิ้นหานปฏิบัติต่อผู้หญิงคนนี้พิเศษมากจริง ๆเย่ซินอดไม่ได้ที่จะมองไปยังคนที่อยู่ข้าง ๆ ฟู่จิ้นหาน และนึกถึงชื่อที่พวกเขาเพิ่งจะเรียกเธอขึ้นมาเมื่อกี้หรานหราน......ซูหราน......เธอคือหลานสาวที่คุณท่านรับอุปการะมา
ทุกคนต่างก็ตกตะลึงไปชั่วขณะเสียงของผู้หญิงที่ดังออกมาจากโทรศัพท์มือถือ ได้รับการปรับแต่งมาอย่างละเอียดถึงจะฟังไม่ชัดเจนว่าเป็นของใคร แต่ก็กลับฟังออกว่าบรรยากาศค่อนข้างจะเข้มข้นภายใต้เสียงร้องของหญิงสาว กระทั่งการพูดด้วยคำพูดที่ดูเปิดเผยต่าง ๆ ทำให้คนที่อยู่ ณ ตรงนั้นแค่ได้ยิน สีหน้าของพวกเขาก็เริ่มเปลี่ยนไปบ้างแล้วซูอินรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย และแอบบ่นลินเยว่เยว่ที่ทำการแปลงเสียง แต่ยังไงก็ช่างเถอะ ต่อให้จะฟังไม่ออกว่าเป็นเสียงของซูหราน แต่ภาพที่ทุกคนเห็นก็เป็นซูหราน ยังไงก็มีผลลัพธ์เดียวกัน!ซูอินเหลือบมองไปที่เย่ถิงเซินเธออยากเห็นมากที่สุด ก็คือปฏิกิริยาของเย่ถิงเซินหลังจากที่เขาเห็นว่าคนในคลิปคือซูหราน แต่เย่ถิงเซินเพียงแค่ขมวดคิ้ว และมีสีหน้าที่ดูไม่พอใจเท่านั้น เขากลับไม่หยิบโทรศัพท์ออกมาสักทีดูเหมือนว่าเย่ซินจะตกใจกับภาพที่เธอเห็นมาก เธอจ้องมองที่หน้าจอโทรศัพท์อย่างงงงวยภายในห้องไว้ทุกข์ เสียงของหญิงสาวยังคงดังกึกก้องอยู่ในบรรยากาศที่แปลกประหลาด ก็มีคนที่สองที่หยิบโทรศัพท์ออกมา และเปิดข้อความที่เพิ่งได้รับเมื่อสักครู่นี้อ่า......เสียงที่เหมือนกับก่อนหน้านี้ก็ดัง
“พวกเขาจะทำอะไร?”ในหัวเย่ซือเหยียนยังคงคิดไม่ตก ไม่สามารถคาดเดาภาพรวมของเรื่องราวได้เลยแต่เธอก็พอจะเข้าใจอยู่บ้าง: หากคุณท่านยังไม่ตายจริง ๆ เช่นนั้นทุกอย่างที่เกิดขึ้นในวันนี้มันก็คือกับดักและกับดักนี้ ถูกจัดเตรียมเอาไว้เพื่อใครอย่างนั้นเหรอ?เย่ซิน? ตัวเธอ? หรือว่า......ซูอิน?เย่ซือเหยียนรู้สึกโชคดีที่เธอค้นพบเรื่องนี้ได้ก่อน ไม่เช่นนั้น เธอก็อาจจะตกหลุมพรางไปด้วยส่วนซูอิน......ความเกลียดชังสะสมอยู่ในดวงตาของเย่ซือเหยียนไม่ว่ากับดักนี้จะถูกจัดเตรียมเอาไว้สำหรับใครก็ตาม วันนี้ก็ยังถือว่าเป็นโอกาสที่ดีในตอนนั้นแทบจะในทันที เย่ซือเหยียนโทรหาสายสายหนึ่ง และสั่งการกับคนที่อยู่ปลายสายหนึ่งประโยค หลังจากวางสาย ในใจเย่ซือเหยียนก็เริ่มรู้สึกตื่นเต้นกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อไป......ในขณะเดียวกัน ณ ศาลาไว้ทุกข์ ซูอินยังคงเต็มไปด้วยความคาดหวังกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นอาการเป็นลมของเย่ซือเหยียนทำให้เธอรู้สึกไม่พอใจอย่างมากรอจนกระทั่งพ่อบ้านจัดแจงให้คนพาเย่ซือเหยียนออกไป ซูอินก็อดไม่ได้ที่จะมองไปที่ทนายอู๋ แต่สุดท้ายเธอก็รู้สึกกลัวว่าจะมีคนเห็นความลนลานของเธอ เธอจึงไม่กล้าพู
ดูเหมือนว่า ผู้ที่อยู่ในที่นั้นนอกจากท่านท่านเย่แล้ว ก็มีเพียงเย่ถิงเซินเท่านั้นที่สามารถตัดสินใจได้การกระทำนี้ ทำให้ซูอินรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อยต้องทำความเข้าใจก่อนว่า เธอคือผู้สืบทอดที่ถูกต้องตามกฎหมายของตระกูลเย่ และนอกจากนี้ ทนายความอู๋คนนี้เองก็เป็นพยานในการทำพินัยกรรมของคุณท่านเย่อีกด้วย เขาก็ควรจะรู้ว่าผู้ที่ได้รับผลประโยชน์จากพินัยกรรมของคุณท่านคือใครเขาควรถามเธอ และให้เธอเป็นผู้ตัดสินใจสิถึงจะถูกเขากลับถือหางให้เย่ถิงเซินเป็นตัวหลักแต่ไม่นาน ซูอินก็ไม่ได้ใส่ใจมากนัก ที่ทนายอู๋คนนี้เป็นคนที่มีตาแต่ไร้แวว รอให้ประกาศพินัยกรรมออกมาก่อน ว่าเธอคือผู้สืบทอดทรัพย์สินของตระกูลเย่ จะทำให้คนเหล่านี้ต้องตื่นตระหนกอีกครั้งแน่นอน“เชิญทนายประกาศได้เลยครับ”คำพูดของเย่ถิงเซินแต่ละคำ ทั้งหนักแน่นและชัดเจนทนายความอู๋เปิดถุงเอกสารที่ปิดผนึกเอาไว้ท่ามกลางสายตาของทุกคน และนำพินัยกรรมที่อยู่ข้างในออกมา“ฉัน เย่ชิงเหอ ทรัพย์สินทั้งหมดที่อยู่ภายใต้ชื่อของฉัน จะถูกสืบทอดโดย......”ทนายความอู๋กำลังอ่านเนื้อหาของพินัยกรรม ทุกคนในศาลาไว้ทุกข์ต่างก็ตั้งใจฟัง และเมื่อถึงจุดนี้ สีหน้าของทุกค
“มันแน่นอนอยู่แล้ว”หยางซูจ้องมองไปที่ซูอิน เขาจะไม่บอกกับเธอ ว่าทนายคนนั้นได้อยู่ที่ไห่เฉิงเรียบร้อยแล้วทันทีที่คุณท่านกลับมาที่ไห่เฉิง ก็ได้ให้ทนายรีบมาที่นี่อย่างลับ ๆและการกระทำของซูอินในคืนนี้ ดูท่าแล้ว คุณท่านเองก็น่าจะมองสถานการณ์ออกตั้งแต่แรกแล้วเมื่อได้รับคำตอบที่แน่นอนจากหยางซู ซูอินก็ยิ่งมีความสุขมากกว่าเดิมเธอไม่กล้าที่จะลำพองตัวมากเกินไป เหมือนว่าเธอจะรู้สึกพอใจมาก จึงถอนหายใจออกมา “การที่สามารถทำตามความปรารถนาของคุณปู่ได้ ก็ถือเป็นสิ่งเดียวที่ฉันสามารถทำเพื่อคุณปู่ได้แล้วล่ะค่ะ”ซูอินลดสายตาลง ให้ดูเหมือนว่าเธอไม่มีความต้องการอะไรเลยจริง ๆแต่หยางซูกลับรู้จักธาตุแท้ของผู้หญิงคนนี้แล้วในที่สุดหยางซูก็ไม่สามารถอดทนต่อความเกลียดชังในใจได้ เขาจึงอ้างว่าตนรู้สึกเหนื่อย และต้องการพักผ่อน จึงขอให้ซูอินออกไปก่อนเมื่อกลับมาถึงห้อง ซูอินก็รีบวางแผนทุกอย่างที่เหลือทันทีเช้าวันถัดมา ทั้งวิลล่าก็เริ่มวุ่นวายตั้งแต่เช้าแล้วเมื่อวานได้มีการกำหนดให้เผาศพวันนี้ก่อนเริ่มการเผาศพ ก็ควรไปสักการะร่างของผู้เสียชีวิตเสียก่อนภายในโลงแก้วคุณท่านนอนอยู่ข้างใน ใบหน้าดูมีชีว