ในระยะเวลาเพียงสั้น ๆ เรือสําราญก็ได้ออกจากท่าเรือแล้ว “ทํายังไงดี?” ดวงตาของเย่ซือเหยียนเต็มไปด้วยคําขอโทษ “ฉันแค่อยากพาเธอมาพักผ่อน แต่ฉันนึกไม่ถึงว่าพวกเขาจะเป็นคนแบบนี้ สมัยเรียนมหาวิทยาลัย พวกเขาก็ไม่เป็นแบบนี้......”“หรานหราน เธอรอฉันก่อน ฉันจะให้พวกเขาขับเรือสําราญกลับไป”เย่ซือเหยียนรีบหันหลังกลับ และไม่กี่นาทีต่อมาเมื่อเธอออกมาอีกครั้ง เธอก็คว้ามือของซูหรานด้วยใบหน้าขอโทษ: “หรานหราน เรือสําราญถูกตั้งค่าด้วยการล่องเรืออัตโนมัติ เมื่อมันเริ่มสตาร์ทแล้ว และจะไม่กลับมาจนกว่าจะถึงวันพรุ่งนี้ ดังนั้นจึงไม่มีทางกลับไปได้ในตอนนี้ เธอว่า......” ดูเหมือนว่าเย่ซือเหยียนก็ไม่รู้ว่าจะทําอย่างไร ซูหรานมองไปที่ผิวน้ำที่ไม่มีที่สิ้นสุดรอบตัวเธอ แล้วขมวดคิ้วเป็นปม“หรานหราน เรือสําราญลํานี้ใหญ่มาก ไม่งั้นพวกเราก็อยู่กันก่อนชั่วคราว พวกเราเล่นของเราเอง ไม่ไปเจอพวกเขา”“ฉันสัญญาว่าจะเตือนพวกเขา ถ้าหากทำให้เธออารมณ์เสียอีก ตระกูลเย่จะทำให้ธุรกิจที่อยู่เบื้องหลังพวกเขาหายไปในชั่วข้ามคืน” เย่ซือเหยียนจ้องมองซูหราน รอท่าทีของเธอซูหรานอยู่ในภวังค์ และในเวลานี้เย่ซือเหยียนยังคงท่าทางปกป
คำพูดของวังม่านหลินดูเหมือนจะจุดไฟในใจของจี้หลิน"ฮึ ดี กูจะไปสั่งสอนมันเดี๋ยวนี้แหละ" จี้หลินมองดูคนรอบข้างที่กำลังสนุกสนาน แล้วเดินออกจากบาร์อย่างเงียบๆวังม่านหลินยิ้มอย่างสมใจส่งข้อความไปหาซูอิน "เรียบร้อยแล้ว รอดูละครสนุกได้เลย อ้อ ของที่เธอให้มาน่ะ ได้ผลแค่ไหน?"ตอนที่รินเหล้าเมื่อกี้ วังม่านหลินแอบใส่ของบางอย่างลงไปอย่างแนบเนียนไม่นานเธอก็ได้รับข้อความตอบกลับจากซูอิน「รอดูสิ แล้วจะรู้เอง」วังม่านหลินยิ้มเยาะพลางจิบเหล้า รู้สึกตื่นเต้นมากรอบๆ เต็มไปด้วยเสียงอึกทึกครึกโครม บางคนกำลังดื่ม บางคนกำลังเต้นรำเย่ซือเหยียนถูกคนห้อมล้อมเอาใจ เธอเมาได้ห้าส่วนแล้ว แต่เมื่อครู่ที่วังม่านหลินเข้าไปหาจี้หลิน เรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดเธอเห็นอย่างชัดเจนนึกถึงซูหรานที่อยู่ชั้นบนสุด เย่ซือเหยียนแกล้งทำเป็นกังวลแล้ววางแก้วลง"ฉันไม่ดื่มแล้ว น้องสาวฉันอยู่คนเดียว ถ้าฉันเมา ก็ดูแลเธอไม่ได้"เย่ซือเหยียนลุกขึ้น ก้าวเดินโซเซ พอลุกขึ้นก็เซไปทันทีเพื่อนผู้หญิงคนหนึ่งพอดีเข้ามาพยุงเธอไว้ "ซือเหยียน เธอดูแลน้องสาวดีจัง แต่ไม่ต้องกังวลหรอก เธอโตแล้ว ดูแลตัวเองไม่ได้เหรอ? อีกอย่าง ทั้งเร
ร่างของซูหรานกระแทกราวกั้น แต่ก็ยังไม่สามารถทรงตัวได้ขณะที่พลิกข้ามราวกั้น ซูหรานคิดว่าตัวเองคงต้องตายแล้วซูหรานร่วงลงน้ำ ทำให้เกิดละอองน้ำขนาดใหญ่ น้ำทะเลเย็นเฉียบโถมเข้าใส่ ในสมองของซูหรานมีภาพมากมายแวบผ่าน...แม่... เสิ่นยวน...เธอยังไม่ได้ค้นหาสาเหตุการตายของแม่ และไม่ได้พบเสิ่นยวนมานานแล้วยังมีคุณปู่เย่อีกถ้าเธอตาย คุณปู่เย่คงไม่สามารถหาความปลอบประโลมจากความคิดถึงลูกสาวผ่านตัวเธอได้อีกแล้วสินะ?แล้วก็พี่ชายเย่...สุดท้าย ในสมองของเธอปรากฏใบหน้าหล่อเหลาราวกับเทพบุตรสัญญากับสามีคนดังของเธอยังมีผลอยู่ เธอยังเป็นหนี้เขาห้าพันล้านบาท ถ้าเธอตาย สามีคนดังคงจะขาดทุนแย่เลย!จู่ๆ เธอก็อยากรู้ว่าตอนนี้สามีคนดังกำลังทำอะไรอยู่แต่ดูเหมือนว่าเธอคงไม่มีโอกาสได้เห็นใบหน้าหล่อเหลานั้นอีกแล้วความรู้สึกหมดเรี่ยวแรงเข้าครอบงำ ซูหรานค่อยๆ หลับตาลง...ขณะนั้น ในบาร์ เย่ซือเหยียนก็ "เห็น" สายเรียกเข้าจากเย่ถิงเซินในที่สุดเธอแกล้งทำเป็นรีบร้อนโทรกลับ "ฮัลโหล พี่? มีอะไรรีบร้อนขนาดนั้น..."ปลายสาย เย่ถิงเซินขมวดคิ้ว มองเรือสำราญลำหนึ่งด้านหน้า กำลังจะถามถึงซูหรานจู่ๆ คนขับเรือก็
บริษัทชิงอวิ๋นของฟู่ซือ!ทำไมพวกเขาถึงมาที่นี่?การปรากฏตัวของหลายสิบคนจากบริษัทชิงอวิ๋นของฟู่ซือพร้อมกัน เป็นฉากที่ยิ่งใหญ่ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนฟู่จิ้นหาน...เย่ซือเหยียนนึกอะไรขึ้นได้ รีบมองไปรอบๆ เห็นเรือสีขาวลำหนึ่งอยู่ไม่ไกลเขามาเร็วขนาดนี้ และยังส่งบริษัทชิงอวิ๋นมาด้วยเย่ซือเหยียนกัดริมฝีปาก แต่ไม่นานก็มีรอยยิ้มเยาะในดวงตาซูหรานถูกเย่ถิงเซินพาไปแล้ว เขามาหาก็ไม่มีประโยชน์แม้แต่การมาช่วยเหลือแบบวีรบุรุษก็สายไปแล้ว!แต่เธอไม่รู้ว่า ฟู่จิ้นหานไม่ได้มาหาซูหราน แต่มาหาคนที่ทำร้ายซูหราน"จับมัดทั้งหมด"ฉินฟั่งออกคำสั่ง คนด้านหลังรีบพุ่งเข้าหาคนที่อยู่ในที่นี้ ไม่นานทุกคนก็ถูกมัดรวมทั้งเย่ซือเหยียนเย่ซือเหยียนรู้จักฉินฟั่ง จึงโกรธทันที "ฉินฟั่ง แกไม่รู้หรือว่าฉันเป็นใคร?""คุณหนูเยี่ย ขอโทษครับ ผมแค่ทำตามคำสั่ง คุณและเพื่อนๆ ของคุณ แค่บอกว่าใครทำร้ายคุณซูเมื่อคืน พอจับตัวคนนั้นได้ ผมจะสั่งให้คนปล่อยทันที"ฉินฟั่งเพียงแค่มองเย่ซือเหยียนเย่ซือเหยียนได้ยินแบบนั้น ดูเหมือนจะตกใจ แล้วถามอย่างเป็นห่วง"หรานหราน? หรานหรานบาดเจ็บเหรอ? ฉันหาทั้งคืน ไม่เจอหรานหรานเลย เกิดอะไ
ซูหรานจับมือเย่ถิงเซินแน่นมากเย่ถิงเซินโน้มตัวลงเล็กน้อย แรงนั้นทำให้เขาเสียหลักอย่างไม่ทันตั้งตัว เกือบจะล้มทับซูหรานแต่ในจังหวะสำคัญ เขาใช้มืออีกข้างยันขอบเตียงไว้ ทำให้ทรงตัวได้ถึงอย่างนั้น ใบหน้าของซูหรานก็อยู่ใกล้แค่เอื้อมขนตาของเย่ถิงเซินสั่นไหว หัวใจเต้นเร็วขึ้น เขาถึงกับไม่ได้สนใจว่าซูหรานพูดอะไรตอนคว้ามือเขาจนกระทั่งซูหรานละเมออีกครั้ง"ที่รัก ช่วยฉันด้วย!"ครั้งนี้สีหน้าซูหรานดูสงบขึ้น แต่ยังขมวดคิ้วอยู่ มือที่จับเขาก็ยังออกแรงไม่หยุดที่รัก...เย่ถิงเซินก้มหน้า แววตาหม่นหมองวูบหนึ่งไม่นาน เขาเม้มปาก ยกมือลูบคิ้วซูหรานเบาๆ หวังจะคลายความกังวลของเธอ"หรานหราน ไม่เป็นไรแล้ว ไม่เป็นไรแล้ว"เย่ถิงเซินปลอบเสียงนุ่มนวลค่อยๆ คิ้วของซูหรานคลายลง ราวกับในฝันเธอพ้นจากอันตรายแล้ว แต่มือที่จับเย่ถิงเซินก็ยังไม่ปล่อยเย่ถิงเซินปล่อยให้เธอจับมือเขาแบบนั้นจนกระทั่งได้ยินเสียงพอบ้านจากชั้นล่าง"คุณชายสามฟู่ มาแล้วหรือครับ ท่านมาหาคุณหนูหรือคุณชายใหญ่...""ฉันมาหาซูหราน!"พอบ้านชะงัก ดูเหมือนไม่คิดว่าคุณชายสามฟู่จะรู้จักคุณหนูหรานเขามองไปที่ชั้นสองโดยไม
"คุณหนูใหญ่เย่หรือครับ?"ฉินฟั่งงงเล็กน้อยเขาเห็นสายตาของนายตนเคร่งขรึมขึ้น จึงรายงานทันที"ในวิดีโอที่พวกเขาบันทึกไว้ คุณหนูใหญ่เย่กำลังจะไปดูคุณหนูซูระหว่างที่ดื่มเหล้า แต่ถูกพวกนั้นรั้งให้ดื่มต่อ""ต่อมาดูเหมือนคุณหนูใหญ่เย่จะเมาด้วย ในกล้องวงจรปิดบนดาดฟ้า หลังเที่ยงคืน คุณหนูใหญ่เย่รีบขึ้นไปอย่างเร่งรีบ ดูกังวลมาก ราวกับกำลังตามหาคุณหนูซู"ฟู่จิ้นหานจ้องเย่ถิงเซินด้วยสายตาลึกล้ำ"คุณสงสัยเธอหรือ?"ฟู่จิ้นหานเพิ่งถามออกไป จู่ๆ ก็มีเสียงดังมาจากนอกประตู"ใครน่ะ?" ฉินฟั่งรีบออกไปดู เห็นคนที่มีสีหน้าตกใจ "คุณหนูใหญ่เย่..."เย่ซือเหยียนมองฟู่จิ้นหานและเย่ถิงเซินในห้องแวบหนึ่ง แล้วเดินเข้ามาในห้องอย่างไม่ลังเลเธอรีบอธิบายทันทีที่เข้ามา "ไม่ใช่ฉัน ฉันไม่ได้ทำอะไรทั้งนั้น ฉันแค่อยากพาหรานหรานออกทะเลไปเปลี่ยนบรรยากาศ ฉันไม่คิดว่าเธอจะมีปัญหากับจี้หลิน ยิ่งไม่คิดว่าจี้หลินจะพยายามทำร้ายหรานหราน ทำให้หรานหรานตกน้ำ..."เธอแสดงสีหน้าตื่นเต้น ดวงตาจริงใจ ราวกับต้องการพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเอง จู่ๆ เธอก็ยกมือสาบาน"ถ้าฉันจะทำร้ายหรานหราน ขอให้ฟ้าผ่า ตายไม่ดีเลย!"เย่ซือเหยียนมอ
การเคลื่อนไหวของเย่ถิงเซินหยุดชะงักฟู่จิ้นหานเลิกคิ้วพร้อมกับเผยรอยยิ้ม เหลือบมองไปทางเย่ถิงเซินด้วยสายตาแห่งชัยชนะ จากนั้นจึงขับรถจากไป“คุณชายใหญ่เย่ครับ......” คนขับรถตระกูลเย่เปิดประตูรถเย่ถิงเซินก็ได้สติ หลังจากที่ขึ้นรถแล้ว คำพูดของฟู่จิ้นหานกลับยังคงวนเวียนอยู่ในใจของเขาคนที่สำคัญที่สุดงั้นเหรอ?ฟู่จิ้นหานถึงขั้นยกให้ซูหรานเป็นคนที่สำคัญที่สุด!หากเป็นคืนนั้นในเมื่อก่อน เขาคงจะโกรธ โกรธที่ฟู่จิ้นหานไม่รักษาสัญญาที่ให้ไว้กับอาเหยียน แต่ในเวลานี้เขาเข้าใจทุกสิ่งได้อย่างชัดเจน ในใจตัวเองยิ่งรู้สึกถึงวิกฤติมากขึ้นกว่าเดิมเขาไม่อยากให้ซูหรานและฟู่จิ้นหานคบกันเมื่อเขามาถึงบริษัท สิ่งแรกที่เย่ถิงเซินทำก็คือให้คนส่งข้อมูลเกี่ยวกับ “วังม่านหลิน” มาให้เขาและทางฝั่งของตึกฟู่ซือกรุ๊ปฟู่จิ้นหานเองก็กำลังดูข้อมูลของ “วังม่านหลิน” ด้วยเช่นกันตระกูลวังเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ประจำท้องถิ่นของไห่เฉิง การเติบโตในช่วงไม่กี่มีที่ผ่านมาค่อนข้างไปได้สวยวังม่านหลิน ลูกสาวคนเดียวของตระกูลวัง เธอเป็นเพื่อนร่วมชั้นตอนมัธยมปลายของซูหรานทั้งคืนนั้นที่บาร์และครั้งล่าสุดที่พิพิธภัณฑ์ ว
เย่ซือเหยียนจงใจทำให้คำพูดของเธอฟังดูคลุมเครือซูหรานที่เพิ่งรับโทรศัพท์มา สีหน้าก็ดูไม่เป็นธรรมชาตินิดหน่อยเย่ถิงเซินที่อยู่ปลายสายเองก็ดูไม่เป็นธรรมชาติพอ ๆ กัน เขาอยากที่จะอธิบาย แต่จู่ ๆ เขาก็นึกอะไรออก จากนั้นก็ล้มเลิกความคิดที่จะอธิบายไปทันที“คุณตื่นแล้วเหรอ ผมจะให้ผู้ช่วยไปรับคุณนะ” เย่ถิงเซินไม่ค่อยว่างใจเท่าไหร่ที่จะให้ซูหรานอยู่ที่วิลล่าตระกูลเย่ต่อแม้ว่าจะมีหลักฐานอยู่ในมือแล้ว แต่ก็ไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าเย่ซือเหยียนจะเคยทำอะไรซูหรานแต่เขาก็ยังคงไม่ไว้ใจเย่ซือเหยียนอยู่ดีทันทีที่เย่ถิงเซินพูดจบ เขาก็วางสายทันทีซูหรานจ้องมองโทรศัพท์อยู่นานท่าทางของเย่ซือเหยียนเองก็ดูอยากรู้อยากเห็น “หรานหราน พี่พูดว่าอะไรเหรอ?”“เขาบอกว่าจะให้ผู้ช่วยมารับฉัน......”ซูหรานคิดในใจ พี่ชายเย่คงจะมีเรื่องที่ต้องการคุยกับเธอ เพราะงั้นเธอจึงไม่ได้คิดอะไรมากแต่ในใจเย่ซือเหยียนก็รู้ดี ว่าเย่ถิงเซินกำลังปกป้องเธออยู่อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เธอต้องการให้ซูหรานรู้ เมื่อกี้เธอก็ได้พูดไปหมดแล้วเมื่อนึกถึงฟู่จิ้นหาน สีหน้าที่ดูซับซ้อนของเย่ซือเหยียนก็เหลือบมองไปทางซูหราน “เธอเคยเจอกับคุณช
คิดจะใช้มุกนี้อีกแล้วเหรอ?ตีเธอหรือด่าเธองั้นเหรอ?ในเมื่อเธอขอมาแบบนี้ เช่นนั้นเธอก็จะสนองความต้องการให้เธอได้สมใจเอง!“เธอ......” มานี่ซูหรานยังพูดไม่ทันจบ ฟู่จิ้นหานก็ได้ส่งสัญญาณให้ฉินฟั่งเสียก่อนเรื่องทำร้ายคนแบบนี้ ทำไมต้องให้ซูหรานเป็นคนลงมือด้วยตัวกันล่ะ?ฉินฟั่งก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว ในช่วงเวลาอันรวดเร็วนั้น เขาก็ได้ตบหน้าซูอินไปหนึ่งทีเสียงเพี๊ยะดังขึ้น ไม่มีความปรานีใด ๆ ซูอินเดินเซจนแทบล้ม ยากที่จะทรงตัวเอาไว้ได้ ในหัวขาวโพลนไปหมด เหลือเพียงเสียงหึ่ง ๆ เท่านั้นใครกัน......ที่กล้าทำร้ายเธอได้ถึงขนาดนี้? !ทันทีที่ซูอินได้สติกลับมา เธอจึงมองไปที่ฉินฟั่งด้วยความโกรธฉินฟั่งได้รับการฝึกฝนมา เขาได้ฝึกฝนร่างกายจนแข็งแกร่งที่บริษัทชิงอวิ๋น แถมยังได้รับอิทธิพลจากฟูจิ้นหานที่มีความเด็ดขาดในการต่อสู้อีกด้วย เพียงแค่สายตาเดียว ความกดดันของซูอินก็ถูกลดทอนลงไปทันทีแต่จะให้ซูอินยอมได้อย่างไร?เธอเป็นถึงหลานสาวแท้ ๆ ของตระกูลเย่ ฉินฟั่งคนนี้......ก็เป็นแค่สุนัขรับใช้ข้างกายฟู่จิ้นหานเท่านั้นต่อให้การตบเธอจะเป็นความต้องการของฟู่จิ้นหาน แต่มีคนมากมายอยู่ด้วยขนาดนี้ ห
ไม่จำเป็นต้องแก้ไขพินัยกรรมงั้นเหรอ?ซูอินดีใจมาก รู้สึกเหมือนได้รับความมั่นใจมากขึ้นแน่นอนว่าขอแค่เธอยังเป็นลูกสาวของฉินเหยียนอยู่ คุณท่านเย่ก็จะเห็นแก่หน้าฉินเหยียน และยอมรับทุกอย่างที่เป็นเธอครั้งนี้ ไม่ว่าคุณท่านเย่จะรอดมาด้วยเหตุผลใดก็ตาม แต่ไม่ว่ายังไงพินัยกรรมของคุณท่าน เมื่อกี้ทุกคนต่างก็ได้ยินอย่างชัดเจนกันหมดแล้วคุณท่านเย่ได้มอบทุกอย่างของตระกูลเย่ให้กับเธอ แม้ว่าวันนี้เธอจะยังไม่ได้รับช่วงต่อจากตระกูลเย่ แต่เธอก็ยังเป็นผู้สืบทอดเพียงคนเดียวอยู่ส่วนคนพวกนี้......ซูอินรู้สึกไม่ค่อยพอใจสักเท่าไหร่เมื่อนึกถึงวิดีโอเมื่อกี้แล้ว ซูอินจึงหันไปมองซูหรานที่อยู่ข้าง ๆ คุณท่านเย่ทันทีในตอนนี้ เธอไม่มีเวลามามัวคิดว่าคลิปวิดีโอนั้นเกิดขึ้นได้อย่างไร แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้ คือการใช้ประโยชน์จากอำนาจเสียงของคุณท่าน เพื่อช่วยลบข้อครหาและปฏิเสธว่าคนในคลิปไม่ใช่เธอน้ำสกปรกนี้ ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ต้องสาดไปที่ซูหรานให้ได้เมื่อคิดได้เช่นนั้น ซูอินก็ขมวดคิ้วทันที “หนูไม่สนใจของนอกกายพวกนั้นหรอกค่ะ แต่ถ้าหากแม่ของหนูที่อยู่บนสวรรค์รู้ว่าหนูถูกใส่ร้ายด้วยคลิปวิดีโอนั้น จนทำ
น้ำเสียงนั้นดูทุ้มต่ำ แต่ก็มีความโกรธที่ไม่สามารถปิดบังเอาไว้ได้ปนอยู่ซูอินเงียบและไม่มีการตอบสนองอยู่นาน ส่วนคนอื่น ๆ ที่อยู่ตรงนั้น ก็กลับมีสีหน้าที่ดูต่างกันออกไปพวกเขาเพิ่งจะได้ยินอะไรกันแน่?เย่ซินกลืนน้ำลายลงคออึกหนึ่ง ก่อนจะกอดแขนตัวเองแน่น ราวกับพยายามขับไล่ความหนาวของเมื่อครู่นี้ที่แผ่ซ่านเข้ามาในร่างกายออกไปเธอหูฝาดไปรึเปล่านะ?เสียงนั้นน่ะ คือเสียงของคุณท่านจริง ๆ!แต่เห็น ๆ อยู่ว่าคุณท่านเสียชีวิตไปแล้ว แล้วร่างก็กำลังนอนอยู่ในโลงแก้วอีกด้วย จะมีเสียงออกมาได้อย่างไร?แต่เมื่อนึกถึงคำว่า “วิญญาณ” ขึ้นมา เย่ซินก็กลืนน้ำลายลงคอด้วยความตื่นตัวและเสียงที่ดังขึ้นอย่างกะทันหันนั้น ก็กลับยิ่งทำให้เย่ซือเหยียนมั่นใจในข้อสันนิษฐานก่อนหน้านี้ได้ และเข้าใจมากยิ่งขึ้นว่าการแสดงในวันนี้มีซูอินที่เป็นเป้าหมาย!เย่ซือเหยียนรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย เธอสังเกตเห็นว่าทั้งเย่ถิงเซินและหยางซู พวกเขาสองคนไม่ได้มีปฏิกิริยาใด ๆ มากนักต่อเสียงของคุณปู่ในตอนนั้นเธอก็รู้ได้ในทันที ว่าทั้งสองคนเองก็มีส่วนร่วมในแผนการนี้ด้วยเช่นกันส่วนซูอิน......ตอนนี้ ในหัวของซูอินมันขาวโพลนไปหมดเธอเ
หน้าตาที่ดูไร้เดียงสาและอ่อนแอของซูอินแข็งทื่อทันทีชั่วขณะหนึ่ง เหมือนว่าหน้ากากนั้นของเธอจะถูกเจาะจนทะลุ สีหน้าเธอดูไม่ค่อยมั่นใจสักเท่าไหร่ “พี่ซู พี่หมายความว่ายังไง?”“ฮึ หมายความว่ายังไงงั้นเหรอ? น้องอินอิน เธอคงไม่คิดว่าทุกคนจะโง่กันหมดหรอกใช่ไหม? ตั้งแต่ครั้งแรกที่ฉันเจอเธอ ฉันก็เดาได้แล้ว ว่าเธอเป็นคนยังไง ต่อหน้าก็แสร้งทำตัวไร้เดียงสาและอ่อนแอ แต่ในความเป็นจริง ใจกลับดำมืดเต็มไปด้วยแผนการ คุณสนุกกับการใช้หน้ากากที่เธอสร้างขึ้นมาหลอกลวงทุกคน ฉันก็เลยเล่นตามน้ำกับเธอไป แกล้งทำเป็นเชื่อในความดีและความไร้เดียงสาของเธอ”เสียงของหยางซูดังกึกก้องทั่วทั้งศาลาไว้ทุกข์ซูอินฟังแล้วก็รู้สึกบาดหูเป็นพิเศษในตอนนี้ ใบหน้าที่เคยแสดงความไร้เดียงสาของเธอก็เริ่มมีความโกรธปรากฏขึ้นมานิดหน่อยที่อยางซูจะบอกก็คือ ทุกสิ่งที่เขาปฏิบัติต่อเธอ มันเป็นเพียงแค่การแสดงอย่างนั้นน่ะเหรอ?แล้วที่เมื่อวานเขารับปากเธอว่าจะใช้เส้นสายเรียกทนายอู๋มาล่ะ มันเพื่ออะไรกัน?มีคนอื่นอยู่ด้วย ซูอินจึงไม่สะดวกที่จะถามออกมาแต่เมื่อเธอจ้องไปที่ตาของหยางซู กลับทำให้หยางซูเข้าใจในทันทีว่าเธอกำลังคิดอะไร และคิดจะ
ฟู่จิ้นหานก้มหน้าสบตากับซูหรานแววตาของเธอดูมั่นคง มือที่กำเสื้อตรงหน้าอกของเขาก็ยิ่งบีบแน่นขึ้นเรื่อย ๆ ฟู่จิ้นหานรู้สึกกังวลในใจไม่หาย แต่ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง สุดท้ายก็ไม่สามารถขัดขืนซูหรานได้ฟู่จิ้นหานวางเธอลง แต่แขนของเขายังคงโอบเอวเธอเอาไว้อยู่ ท่าทางที่เขาปกป้องเธอนี้ ทำให้ผู้คนรอบข้างเกิดความคิดที่แตกต่างกันออกไปคนที่ตกใจและประหลาดใจที่สุด ก็คือเย่ซินฟู่จิ้นหาน......ผู้นำคนใหม่ของฟู่ซือกรุ๊ปคนนี้ เย่ซินเคยเห็นมาก่อนเขาจัดการกับฟู่ซือกรุ๊ปด้วยวิธีการที่โหดเหี้ยม ซึ่งเป็นที่พูดถึงกันในจิงเฉิง แค่เธอได้ยินก็รู้สึกขนลุกทุกคนต่างก็พูดกันว่าฟู่จิ้นหานเป็นคนเย็นชาไร้ความรู้สึก แต่ชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าเธอในตอนนี้ สีหน้ากลับเต็มไปด้วยความอ่อนโยน แววตาของเขาจ้องมองไปยังหญิงสาวที่อยู่ข้าง ๆ บ้างก็เหลือบมองไปยังอีกด้าน แต่แววตากลับเปลี่ยนเป็นเฉียบขาดในทันทีท่าทีที่ฟู่จิ้นหานปฏิบัติต่อผู้หญิงคนนี้พิเศษมากจริง ๆเย่ซินอดไม่ได้ที่จะมองไปยังคนที่อยู่ข้าง ๆ ฟู่จิ้นหาน และนึกถึงชื่อที่พวกเขาเพิ่งจะเรียกเธอขึ้นมาเมื่อกี้หรานหราน......ซูหราน......เธอคือหลานสาวที่คุณท่านรับอุปการะมา
ทุกคนต่างก็ตกตะลึงไปชั่วขณะเสียงของผู้หญิงที่ดังออกมาจากโทรศัพท์มือถือ ได้รับการปรับแต่งมาอย่างละเอียดถึงจะฟังไม่ชัดเจนว่าเป็นของใคร แต่ก็กลับฟังออกว่าบรรยากาศค่อนข้างจะเข้มข้นภายใต้เสียงร้องของหญิงสาว กระทั่งการพูดด้วยคำพูดที่ดูเปิดเผยต่าง ๆ ทำให้คนที่อยู่ ณ ตรงนั้นแค่ได้ยิน สีหน้าของพวกเขาก็เริ่มเปลี่ยนไปบ้างแล้วซูอินรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย และแอบบ่นลินเยว่เยว่ที่ทำการแปลงเสียง แต่ยังไงก็ช่างเถอะ ต่อให้จะฟังไม่ออกว่าเป็นเสียงของซูหราน แต่ภาพที่ทุกคนเห็นก็เป็นซูหราน ยังไงก็มีผลลัพธ์เดียวกัน!ซูอินเหลือบมองไปที่เย่ถิงเซินเธออยากเห็นมากที่สุด ก็คือปฏิกิริยาของเย่ถิงเซินหลังจากที่เขาเห็นว่าคนในคลิปคือซูหราน แต่เย่ถิงเซินเพียงแค่ขมวดคิ้ว และมีสีหน้าที่ดูไม่พอใจเท่านั้น เขากลับไม่หยิบโทรศัพท์ออกมาสักทีดูเหมือนว่าเย่ซินจะตกใจกับภาพที่เธอเห็นมาก เธอจ้องมองที่หน้าจอโทรศัพท์อย่างงงงวยภายในห้องไว้ทุกข์ เสียงของหญิงสาวยังคงดังกึกก้องอยู่ในบรรยากาศที่แปลกประหลาด ก็มีคนที่สองที่หยิบโทรศัพท์ออกมา และเปิดข้อความที่เพิ่งได้รับเมื่อสักครู่นี้อ่า......เสียงที่เหมือนกับก่อนหน้านี้ก็ดัง
“พวกเขาจะทำอะไร?”ในหัวเย่ซือเหยียนยังคงคิดไม่ตก ไม่สามารถคาดเดาภาพรวมของเรื่องราวได้เลยแต่เธอก็พอจะเข้าใจอยู่บ้าง: หากคุณท่านยังไม่ตายจริง ๆ เช่นนั้นทุกอย่างที่เกิดขึ้นในวันนี้มันก็คือกับดักและกับดักนี้ ถูกจัดเตรียมเอาไว้เพื่อใครอย่างนั้นเหรอ?เย่ซิน? ตัวเธอ? หรือว่า......ซูอิน?เย่ซือเหยียนรู้สึกโชคดีที่เธอค้นพบเรื่องนี้ได้ก่อน ไม่เช่นนั้น เธอก็อาจจะตกหลุมพรางไปด้วยส่วนซูอิน......ความเกลียดชังสะสมอยู่ในดวงตาของเย่ซือเหยียนไม่ว่ากับดักนี้จะถูกจัดเตรียมเอาไว้สำหรับใครก็ตาม วันนี้ก็ยังถือว่าเป็นโอกาสที่ดีในตอนนั้นแทบจะในทันที เย่ซือเหยียนโทรหาสายสายหนึ่ง และสั่งการกับคนที่อยู่ปลายสายหนึ่งประโยค หลังจากวางสาย ในใจเย่ซือเหยียนก็เริ่มรู้สึกตื่นเต้นกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อไป......ในขณะเดียวกัน ณ ศาลาไว้ทุกข์ ซูอินยังคงเต็มไปด้วยความคาดหวังกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นอาการเป็นลมของเย่ซือเหยียนทำให้เธอรู้สึกไม่พอใจอย่างมากรอจนกระทั่งพ่อบ้านจัดแจงให้คนพาเย่ซือเหยียนออกไป ซูอินก็อดไม่ได้ที่จะมองไปที่ทนายอู๋ แต่สุดท้ายเธอก็รู้สึกกลัวว่าจะมีคนเห็นความลนลานของเธอ เธอจึงไม่กล้าพู
ดูเหมือนว่า ผู้ที่อยู่ในที่นั้นนอกจากท่านท่านเย่แล้ว ก็มีเพียงเย่ถิงเซินเท่านั้นที่สามารถตัดสินใจได้การกระทำนี้ ทำให้ซูอินรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อยต้องทำความเข้าใจก่อนว่า เธอคือผู้สืบทอดที่ถูกต้องตามกฎหมายของตระกูลเย่ และนอกจากนี้ ทนายความอู๋คนนี้เองก็เป็นพยานในการทำพินัยกรรมของคุณท่านเย่อีกด้วย เขาก็ควรจะรู้ว่าผู้ที่ได้รับผลประโยชน์จากพินัยกรรมของคุณท่านคือใครเขาควรถามเธอ และให้เธอเป็นผู้ตัดสินใจสิถึงจะถูกเขากลับถือหางให้เย่ถิงเซินเป็นตัวหลักแต่ไม่นาน ซูอินก็ไม่ได้ใส่ใจมากนัก ที่ทนายอู๋คนนี้เป็นคนที่มีตาแต่ไร้แวว รอให้ประกาศพินัยกรรมออกมาก่อน ว่าเธอคือผู้สืบทอดทรัพย์สินของตระกูลเย่ จะทำให้คนเหล่านี้ต้องตื่นตระหนกอีกครั้งแน่นอน“เชิญทนายประกาศได้เลยครับ”คำพูดของเย่ถิงเซินแต่ละคำ ทั้งหนักแน่นและชัดเจนทนายความอู๋เปิดถุงเอกสารที่ปิดผนึกเอาไว้ท่ามกลางสายตาของทุกคน และนำพินัยกรรมที่อยู่ข้างในออกมา“ฉัน เย่ชิงเหอ ทรัพย์สินทั้งหมดที่อยู่ภายใต้ชื่อของฉัน จะถูกสืบทอดโดย......”ทนายความอู๋กำลังอ่านเนื้อหาของพินัยกรรม ทุกคนในศาลาไว้ทุกข์ต่างก็ตั้งใจฟัง และเมื่อถึงจุดนี้ สีหน้าของทุกค
“มันแน่นอนอยู่แล้ว”หยางซูจ้องมองไปที่ซูอิน เขาจะไม่บอกกับเธอ ว่าทนายคนนั้นได้อยู่ที่ไห่เฉิงเรียบร้อยแล้วทันทีที่คุณท่านกลับมาที่ไห่เฉิง ก็ได้ให้ทนายรีบมาที่นี่อย่างลับ ๆและการกระทำของซูอินในคืนนี้ ดูท่าแล้ว คุณท่านเองก็น่าจะมองสถานการณ์ออกตั้งแต่แรกแล้วเมื่อได้รับคำตอบที่แน่นอนจากหยางซู ซูอินก็ยิ่งมีความสุขมากกว่าเดิมเธอไม่กล้าที่จะลำพองตัวมากเกินไป เหมือนว่าเธอจะรู้สึกพอใจมาก จึงถอนหายใจออกมา “การที่สามารถทำตามความปรารถนาของคุณปู่ได้ ก็ถือเป็นสิ่งเดียวที่ฉันสามารถทำเพื่อคุณปู่ได้แล้วล่ะค่ะ”ซูอินลดสายตาลง ให้ดูเหมือนว่าเธอไม่มีความต้องการอะไรเลยจริง ๆแต่หยางซูกลับรู้จักธาตุแท้ของผู้หญิงคนนี้แล้วในที่สุดหยางซูก็ไม่สามารถอดทนต่อความเกลียดชังในใจได้ เขาจึงอ้างว่าตนรู้สึกเหนื่อย และต้องการพักผ่อน จึงขอให้ซูอินออกไปก่อนเมื่อกลับมาถึงห้อง ซูอินก็รีบวางแผนทุกอย่างที่เหลือทันทีเช้าวันถัดมา ทั้งวิลล่าก็เริ่มวุ่นวายตั้งแต่เช้าแล้วเมื่อวานได้มีการกำหนดให้เผาศพวันนี้ก่อนเริ่มการเผาศพ ก็ควรไปสักการะร่างของผู้เสียชีวิตเสียก่อนภายในโลงแก้วคุณท่านนอนอยู่ข้างใน ใบหน้าดูมีชีว