บริษัทชิงอวิ๋นของฟู่ซือ!ทำไมพวกเขาถึงมาที่นี่?การปรากฏตัวของหลายสิบคนจากบริษัทชิงอวิ๋นของฟู่ซือพร้อมกัน เป็นฉากที่ยิ่งใหญ่ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนฟู่จิ้นหาน...เย่ซือเหยียนนึกอะไรขึ้นได้ รีบมองไปรอบๆ เห็นเรือสีขาวลำหนึ่งอยู่ไม่ไกลเขามาเร็วขนาดนี้ และยังส่งบริษัทชิงอวิ๋นมาด้วยเย่ซือเหยียนกัดริมฝีปาก แต่ไม่นานก็มีรอยยิ้มเยาะในดวงตาซูหรานถูกเย่ถิงเซินพาไปแล้ว เขามาหาก็ไม่มีประโยชน์แม้แต่การมาช่วยเหลือแบบวีรบุรุษก็สายไปแล้ว!แต่เธอไม่รู้ว่า ฟู่จิ้นหานไม่ได้มาหาซูหราน แต่มาหาคนที่ทำร้ายซูหราน"จับมัดทั้งหมด"ฉินฟั่งออกคำสั่ง คนด้านหลังรีบพุ่งเข้าหาคนที่อยู่ในที่นี้ ไม่นานทุกคนก็ถูกมัดรวมทั้งเย่ซือเหยียนเย่ซือเหยียนรู้จักฉินฟั่ง จึงโกรธทันที "ฉินฟั่ง แกไม่รู้หรือว่าฉันเป็นใคร?""คุณหนูเยี่ย ขอโทษครับ ผมแค่ทำตามคำสั่ง คุณและเพื่อนๆ ของคุณ แค่บอกว่าใครทำร้ายคุณซูเมื่อคืน พอจับตัวคนนั้นได้ ผมจะสั่งให้คนปล่อยทันที"ฉินฟั่งเพียงแค่มองเย่ซือเหยียนเย่ซือเหยียนได้ยินแบบนั้น ดูเหมือนจะตกใจ แล้วถามอย่างเป็นห่วง"หรานหราน? หรานหรานบาดเจ็บเหรอ? ฉันหาทั้งคืน ไม่เจอหรานหรานเลย เกิดอะไ
ซูหรานจับมือเย่ถิงเซินแน่นมากเย่ถิงเซินโน้มตัวลงเล็กน้อย แรงนั้นทำให้เขาเสียหลักอย่างไม่ทันตั้งตัว เกือบจะล้มทับซูหรานแต่ในจังหวะสำคัญ เขาใช้มืออีกข้างยันขอบเตียงไว้ ทำให้ทรงตัวได้ถึงอย่างนั้น ใบหน้าของซูหรานก็อยู่ใกล้แค่เอื้อมขนตาของเย่ถิงเซินสั่นไหว หัวใจเต้นเร็วขึ้น เขาถึงกับไม่ได้สนใจว่าซูหรานพูดอะไรตอนคว้ามือเขาจนกระทั่งซูหรานละเมออีกครั้ง"ที่รัก ช่วยฉันด้วย!"ครั้งนี้สีหน้าซูหรานดูสงบขึ้น แต่ยังขมวดคิ้วอยู่ มือที่จับเขาก็ยังออกแรงไม่หยุดที่รัก...เย่ถิงเซินก้มหน้า แววตาหม่นหมองวูบหนึ่งไม่นาน เขาเม้มปาก ยกมือลูบคิ้วซูหรานเบาๆ หวังจะคลายความกังวลของเธอ"หรานหราน ไม่เป็นไรแล้ว ไม่เป็นไรแล้ว"เย่ถิงเซินปลอบเสียงนุ่มนวลค่อยๆ คิ้วของซูหรานคลายลง ราวกับในฝันเธอพ้นจากอันตรายแล้ว แต่มือที่จับเย่ถิงเซินก็ยังไม่ปล่อยเย่ถิงเซินปล่อยให้เธอจับมือเขาแบบนั้นจนกระทั่งได้ยินเสียงพอบ้านจากชั้นล่าง"คุณชายสามฟู่ มาแล้วหรือครับ ท่านมาหาคุณหนูหรือคุณชายใหญ่...""ฉันมาหาซูหราน!"พอบ้านชะงัก ดูเหมือนไม่คิดว่าคุณชายสามฟู่จะรู้จักคุณหนูหรานเขามองไปที่ชั้นสองโดยไม
"คุณหนูใหญ่เย่หรือครับ?"ฉินฟั่งงงเล็กน้อยเขาเห็นสายตาของนายตนเคร่งขรึมขึ้น จึงรายงานทันที"ในวิดีโอที่พวกเขาบันทึกไว้ คุณหนูใหญ่เย่กำลังจะไปดูคุณหนูซูระหว่างที่ดื่มเหล้า แต่ถูกพวกนั้นรั้งให้ดื่มต่อ""ต่อมาดูเหมือนคุณหนูใหญ่เย่จะเมาด้วย ในกล้องวงจรปิดบนดาดฟ้า หลังเที่ยงคืน คุณหนูใหญ่เย่รีบขึ้นไปอย่างเร่งรีบ ดูกังวลมาก ราวกับกำลังตามหาคุณหนูซู"ฟู่จิ้นหานจ้องเย่ถิงเซินด้วยสายตาลึกล้ำ"คุณสงสัยเธอหรือ?"ฟู่จิ้นหานเพิ่งถามออกไป จู่ๆ ก็มีเสียงดังมาจากนอกประตู"ใครน่ะ?" ฉินฟั่งรีบออกไปดู เห็นคนที่มีสีหน้าตกใจ "คุณหนูใหญ่เย่..."เย่ซือเหยียนมองฟู่จิ้นหานและเย่ถิงเซินในห้องแวบหนึ่ง แล้วเดินเข้ามาในห้องอย่างไม่ลังเลเธอรีบอธิบายทันทีที่เข้ามา "ไม่ใช่ฉัน ฉันไม่ได้ทำอะไรทั้งนั้น ฉันแค่อยากพาหรานหรานออกทะเลไปเปลี่ยนบรรยากาศ ฉันไม่คิดว่าเธอจะมีปัญหากับจี้หลิน ยิ่งไม่คิดว่าจี้หลินจะพยายามทำร้ายหรานหราน ทำให้หรานหรานตกน้ำ..."เธอแสดงสีหน้าตื่นเต้น ดวงตาจริงใจ ราวกับต้องการพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเอง จู่ๆ เธอก็ยกมือสาบาน"ถ้าฉันจะทำร้ายหรานหราน ขอให้ฟ้าผ่า ตายไม่ดีเลย!"เย่ซือเหยียนมอ
การเคลื่อนไหวของเย่ถิงเซินหยุดชะงักฟู่จิ้นหานเลิกคิ้วพร้อมกับเผยรอยยิ้ม เหลือบมองไปทางเย่ถิงเซินด้วยสายตาแห่งชัยชนะ จากนั้นจึงขับรถจากไป“คุณชายใหญ่เย่ครับ......” คนขับรถตระกูลเย่เปิดประตูรถเย่ถิงเซินก็ได้สติ หลังจากที่ขึ้นรถแล้ว คำพูดของฟู่จิ้นหานกลับยังคงวนเวียนอยู่ในใจของเขาคนที่สำคัญที่สุดงั้นเหรอ?ฟู่จิ้นหานถึงขั้นยกให้ซูหรานเป็นคนที่สำคัญที่สุด!หากเป็นคืนนั้นในเมื่อก่อน เขาคงจะโกรธ โกรธที่ฟู่จิ้นหานไม่รักษาสัญญาที่ให้ไว้กับอาเหยียน แต่ในเวลานี้เขาเข้าใจทุกสิ่งได้อย่างชัดเจน ในใจตัวเองยิ่งรู้สึกถึงวิกฤติมากขึ้นกว่าเดิมเขาไม่อยากให้ซูหรานและฟู่จิ้นหานคบกันเมื่อเขามาถึงบริษัท สิ่งแรกที่เย่ถิงเซินทำก็คือให้คนส่งข้อมูลเกี่ยวกับ “วังม่านหลิน” มาให้เขาและทางฝั่งของตึกฟู่ซือกรุ๊ปฟู่จิ้นหานเองก็กำลังดูข้อมูลของ “วังม่านหลิน” ด้วยเช่นกันตระกูลวังเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ประจำท้องถิ่นของไห่เฉิง การเติบโตในช่วงไม่กี่มีที่ผ่านมาค่อนข้างไปได้สวยวังม่านหลิน ลูกสาวคนเดียวของตระกูลวัง เธอเป็นเพื่อนร่วมชั้นตอนมัธยมปลายของซูหรานทั้งคืนนั้นที่บาร์และครั้งล่าสุดที่พิพิธภัณฑ์ ว
เย่ซือเหยียนจงใจทำให้คำพูดของเธอฟังดูคลุมเครือซูหรานที่เพิ่งรับโทรศัพท์มา สีหน้าก็ดูไม่เป็นธรรมชาตินิดหน่อยเย่ถิงเซินที่อยู่ปลายสายเองก็ดูไม่เป็นธรรมชาติพอ ๆ กัน เขาอยากที่จะอธิบาย แต่จู่ ๆ เขาก็นึกอะไรออก จากนั้นก็ล้มเลิกความคิดที่จะอธิบายไปทันที“คุณตื่นแล้วเหรอ ผมจะให้ผู้ช่วยไปรับคุณนะ” เย่ถิงเซินไม่ค่อยว่างใจเท่าไหร่ที่จะให้ซูหรานอยู่ที่วิลล่าตระกูลเย่ต่อแม้ว่าจะมีหลักฐานอยู่ในมือแล้ว แต่ก็ไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าเย่ซือเหยียนจะเคยทำอะไรซูหรานแต่เขาก็ยังคงไม่ไว้ใจเย่ซือเหยียนอยู่ดีทันทีที่เย่ถิงเซินพูดจบ เขาก็วางสายทันทีซูหรานจ้องมองโทรศัพท์อยู่นานท่าทางของเย่ซือเหยียนเองก็ดูอยากรู้อยากเห็น “หรานหราน พี่พูดว่าอะไรเหรอ?”“เขาบอกว่าจะให้ผู้ช่วยมารับฉัน......”ซูหรานคิดในใจ พี่ชายเย่คงจะมีเรื่องที่ต้องการคุยกับเธอ เพราะงั้นเธอจึงไม่ได้คิดอะไรมากแต่ในใจเย่ซือเหยียนก็รู้ดี ว่าเย่ถิงเซินกำลังปกป้องเธออยู่อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เธอต้องการให้ซูหรานรู้ เมื่อกี้เธอก็ได้พูดไปหมดแล้วเมื่อนึกถึงฟู่จิ้นหาน สีหน้าที่ดูซับซ้อนของเย่ซือเหยียนก็เหลือบมองไปทางซูหราน “เธอเคยเจอกับคุณช
ทันทีที่ถามออกไปแบบนั้น ร่างกายของวังม่านหลินก็แข็งทื่อทันที“เรื่องอะไรที่ไม่เกี่ยวกับเธอ?” ซูหรานถามออกไปอีกครั้งดวงตาของวังม่านหลินเป็นประกาย จากนั้นก็เปลี่ยนความตื่นตระหนกทันที “ฉันพูดอะไร? ฉันไม่ได้พูดอะไรทั้งนั้น!”“วันนั้นบนเรือสำราญ ฉันจำได้ว่าเธอเองก็อยู่ด้วย!” ซูหรานพูดอย่างใจเย็น “จะบอกว่าเธอกับจี้หลิน ไม่เคยติดต่อกันเลยงั้นเหรอ?”ราวกับว่าเธอถูกจับได้คาหนังคาเขา วังม่านหลินไม่รู้เลยจริง ๆ ว่าจะมีพลังที่ไหนที่พอจะช่วยดึงซูหรานออกไปได้บ้าง“ติดต่ออะไร? ถึงแม้ว่าฉันจะอยู่ด้วย แต่ว่าฉันกับคุณชายจี้อะไรนั่นก็ไม่เคยไปมาหาสู่กันมาก่อน!”“งั้นเหรอ?”ซูหรานไม่เชื่อการตอบสนองที่รุนแรงขนาดนี้ เห็นได้ชัดเจนว่ากำลังรู้สึกผิดอยู่แต่ถ้าต้องการที่จะเค้นถามอะไรจากปากของเธอ เกรงว่าคงจะเสียแรงเปล่าซูหรานเลิกคิ้วเล็กน้อย “ได้ ในเมื่อเธอบอกว่าไม่เคยไปมาหาสู่กัน งั้นฉันจะเชื่อก็ได้ ลาก่อนนะ!”ซูหรานโบกมือให้เธอ พร้อมกับรอยยิ้ม แล้วเดินจากไปวังม่านหลินยังคงตกตะลึงอยู่เดิมเธอคิดว่าซูหรานน่าจะเค้นถามคำถามจากเธอมากกว่านี้ แต่นี่เธอกลับเดินจากไปเฉย ๆเมื่อเธอนึกอะไรออก วังม่านหลิน
แต่หลังจากที่เขามองหารอบ ๆ แล้ว ก็ยังมองไม่เห็นซูหรานอยู่ดี“ฟู่จิ้นหาน!”เย่ถิงเซินกัดฟันด้วยความโกรธพร้อมกับคำสาปแช่ง เขาพยายามโทรกลับหาฟู่จิ้นหาน แต่ก็ไม่มีใครรับสายและฟู่จิ้นหานที่ตอนนี้ได้ขับรถพาซูหรานไป ก็มุ่งหน้าไปยังเจินหลิงย่วนด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความพึงพอใจเสียงเรียกเข้าที่ดังขึ้นไม่หยุด ซูหรานก็อดไม่ได้ที่จะเอ่ยขึ้นมา “ไม่รับสายหน่อยเหรอ?”ฟู่จิ้นหานไม่จำเป็นต้องดูก็รู้ว่าใครโทรมา“คนที่ไม่สำคัญ กับเรื่องที่ไม่สำคัญ ไม่จำเป็นต้องสนใจ”ฟู่จิ้นหานไม่แม้แต่จะดูโทรศัพท์เลยด้วยซ้ำ เขาแค่ลดเสียงโทรศัพท์ให้ต่ำลง แล้วปล่อยให้อีกฝ่ายโทรเข้ามาตามที่ต้องการหลังจากกลับไปที่เจินหลินย่วน และรอจนกระทั่งซูหรานหลับไปแล้ว ฟู่จิ้นหานถึงได้ออกไปข้างนอกอีกครั้งภายในโรงพยาบาลกระดูกขาของวังม่านหลินทั้งสองข้างหัก และเธอก็ได้รับการผ่าตัดเรียบร้อยแล้ว เพิ่งจะถูกพาตัวเข้าไปในห้องพักผู้ป่วยได้ไม่นาน เธอก็ถูกคนพาตัวออกมาฤทธ์ยาชาเพิ่งจะหมดลงวังม่านหลินลืมตาขึ้น รอบข้างเต็มไปด้วยความมืดมิดความเจ็บปวดที่เท้าของเธอทำให้เธอต้องกรีดร้องออกมาโดยไม่รู้ตัวทันทีที่เธอส่งเสียงออกมา ก็มีเส
วังม่านหลินแทบไม่อยากเชื่อ แต่ในเวลานี้ไม่อยากเชื่อก็ต้องเชื่อสามีของซูหรานคือคุณชายสามฟู่จริง ๆ เรื่องที่ตัวเองได้ทำลงไปบนเรือสำราญ......ดวงตาของวังม่านหลินเป็นประกายด้วยความรู้สึกผิด “ฉันไม่ได้ทำอะไรเลยนะ”แต่คำพูดที่เธอพ่นออกมา ไม่ใช่แค่ไม่มีความมั้นใจเท่านั้น แต่ยังเผยพิรุธออกมาได้อย่างชัดเจนอีกด้วยฟู่จิ้นหานเหลือบมองไปทางฉินฟั่ง ฉินฟั่งก็กดโทรออกทันที แล้วเขาก็พูดขึ้นว่า “ต่อไป” อย่างเย็นชาออกมา ไม่กี่นาทีต่อมา บนหน้าจอก็มีเส้นแทบโผล่ขึ้นมาเป็นแม่ของวังม่านหลินที่โทรมา“จบแล้ว จบเห่แล้ว บ้านของเราไม่เหลืออะไรแล้ว”“พ่อของแกทนรับไม่ได้ หัวใจวายกะทันหัน ตอนนี้ถูกส่งตัวไปที่โรงพยาบาลแล้ว ม่านหลิน แกได้ทำลายตระกูลวังไปแล้ว”น้ำเสียงเต็มไปด้วยคำพูดกล่าวหาวังม่านหลินตกตะลึง ใบหน้าของเธอซีดเผือดความดื้อรั้นปากแข็งที่มีเมื่อกี้ ในเวลานี้มันได้ทลายลงหมดแล้วทันใดนั้นเธอก็มองไปยังชายที่นั่งอยู่บนโซฟาด้วยความตื่นตระหนก“คะ......คุณชายสามฟู่ ฉันพูด ฉันพูดแล้ว ฉันเห็นคุณชายจี้ดื่มเหล้าอยู่ที่นั่นคนเดียวอย่างหดหู่ ทั้งที่เขามาฉลองกับซูหราน เพราะงั้นฉันจึงตั้งใจเดินตรงไปพูดยุยง