แต่หลังจากที่เขามองหารอบ ๆ แล้ว ก็ยังมองไม่เห็นซูหรานอยู่ดี“ฟู่จิ้นหาน!”เย่ถิงเซินกัดฟันด้วยความโกรธพร้อมกับคำสาปแช่ง เขาพยายามโทรกลับหาฟู่จิ้นหาน แต่ก็ไม่มีใครรับสายและฟู่จิ้นหานที่ตอนนี้ได้ขับรถพาซูหรานไป ก็มุ่งหน้าไปยังเจินหลิงย่วนด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความพึงพอใจเสียงเรียกเข้าที่ดังขึ้นไม่หยุด ซูหรานก็อดไม่ได้ที่จะเอ่ยขึ้นมา “ไม่รับสายหน่อยเหรอ?”ฟู่จิ้นหานไม่จำเป็นต้องดูก็รู้ว่าใครโทรมา“คนที่ไม่สำคัญ กับเรื่องที่ไม่สำคัญ ไม่จำเป็นต้องสนใจ”ฟู่จิ้นหานไม่แม้แต่จะดูโทรศัพท์เลยด้วยซ้ำ เขาแค่ลดเสียงโทรศัพท์ให้ต่ำลง แล้วปล่อยให้อีกฝ่ายโทรเข้ามาตามที่ต้องการหลังจากกลับไปที่เจินหลินย่วน และรอจนกระทั่งซูหรานหลับไปแล้ว ฟู่จิ้นหานถึงได้ออกไปข้างนอกอีกครั้งภายในโรงพยาบาลกระดูกขาของวังม่านหลินทั้งสองข้างหัก และเธอก็ได้รับการผ่าตัดเรียบร้อยแล้ว เพิ่งจะถูกพาตัวเข้าไปในห้องพักผู้ป่วยได้ไม่นาน เธอก็ถูกคนพาตัวออกมาฤทธ์ยาชาเพิ่งจะหมดลงวังม่านหลินลืมตาขึ้น รอบข้างเต็มไปด้วยความมืดมิดความเจ็บปวดที่เท้าของเธอทำให้เธอต้องกรีดร้องออกมาโดยไม่รู้ตัวทันทีที่เธอส่งเสียงออกมา ก็มีเส
วังม่านหลินแทบไม่อยากเชื่อ แต่ในเวลานี้ไม่อยากเชื่อก็ต้องเชื่อสามีของซูหรานคือคุณชายสามฟู่จริง ๆ เรื่องที่ตัวเองได้ทำลงไปบนเรือสำราญ......ดวงตาของวังม่านหลินเป็นประกายด้วยความรู้สึกผิด “ฉันไม่ได้ทำอะไรเลยนะ”แต่คำพูดที่เธอพ่นออกมา ไม่ใช่แค่ไม่มีความมั้นใจเท่านั้น แต่ยังเผยพิรุธออกมาได้อย่างชัดเจนอีกด้วยฟู่จิ้นหานเหลือบมองไปทางฉินฟั่ง ฉินฟั่งก็กดโทรออกทันที แล้วเขาก็พูดขึ้นว่า “ต่อไป” อย่างเย็นชาออกมา ไม่กี่นาทีต่อมา บนหน้าจอก็มีเส้นแทบโผล่ขึ้นมาเป็นแม่ของวังม่านหลินที่โทรมา“จบแล้ว จบเห่แล้ว บ้านของเราไม่เหลืออะไรแล้ว”“พ่อของแกทนรับไม่ได้ หัวใจวายกะทันหัน ตอนนี้ถูกส่งตัวไปที่โรงพยาบาลแล้ว ม่านหลิน แกได้ทำลายตระกูลวังไปแล้ว”น้ำเสียงเต็มไปด้วยคำพูดกล่าวหาวังม่านหลินตกตะลึง ใบหน้าของเธอซีดเผือดความดื้อรั้นปากแข็งที่มีเมื่อกี้ ในเวลานี้มันได้ทลายลงหมดแล้วทันใดนั้นเธอก็มองไปยังชายที่นั่งอยู่บนโซฟาด้วยความตื่นตระหนก“คะ......คุณชายสามฟู่ ฉันพูด ฉันพูดแล้ว ฉันเห็นคุณชายจี้ดื่มเหล้าอยู่ที่นั่นคนเดียวอย่างหดหู่ ทั้งที่เขามาฉลองกับซูหราน เพราะงั้นฉันจึงตั้งใจเดินตรงไปพูดยุยง
จนกระทั่งเธอและสามีตัวพ่อเข้ามานั่นในร้อนอาหารแล้ว ความรู้สึกแปลก ๆ ในใจของซูหรานเมื่อกี้ก็ยังไม่หายไปซูหรานจ้องมองเขาอยู่นาน และทันใดนั้นเธอก็พูดขึ้นว่า “นี่คุณตั้งใจพาฉันออกมางั้นเหรอ?”ขนตายาว ๆ ของฟู่จิ้นหานสั่นไหวเขาตั้งใจ เขากลัวว่าวังม่านหลินจะพูดในสิ่งที่ไม่ควรพูดออกมา เพราะงั้นเขาถึงได้รีบมาแต่เขาไม่สามารถให้เธอรู้ว่าเขาตั้งใจได้“ตั้งใจอะไรเหรอ?” น้อยมากที่ฟู่จิ้นหานจะแกล้งโง่สักครั้ง แทบไม่ได้เหลือบมองซูหรานเลยด้วยซ้ำ แต่กลับตั้งใจหั่นสเต็กตรงหน้าอย่างจริงจัง “แล้วอีกอย่าง ทำไมผมต้องตั้งใจทำอะไรแบบนั้นด้วย?”นี่แหละคือสิ่งที่ซูหรานไม่สามารถเข้าใจได้พอนึกถึงคำพูดที่วังม่านหลินเพิ่งพูดเมื่อกี้ ซูหรานก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกขำ“วังม่านหลินไม่รู้ว่าไปโดนตัวไหนมา ถึงได้มาขอให้ฉันช่วยขอร้องคุณชายสามฟู่ให้ละเว้นตระกูลวัง คุณชายสามฟู่จัดการกับตระกูลวัง แล้วมันเกี่ยวอะไรกับฉันกัน คิดว่าคำพูดของฉันมันมีน้ำหนักมากขนาดนั้นเลยรึไง”ซูหรานเล่าเรื่องนี้ให้สามีตัวพ่อของเธอฟังราวกับเป็นเรื่องตลกความรู้สึกผิดก็แวบขึ้นมาในดวงตาของฟู่จิ้นหานภาพลักษณ์ของเขาในใจซูหรานไม่เคยดีขึ้นเลย
รูปถ่ายของเย่ซิงหลาน......ซุนฉินรีบวิ่งออกจากห้องของซูอิน หลังจากนั้นไม่กี่นาที เธอก็เดินกลับเข้ามา“หาเจอไหมคะ?” ซูอินแทบรอไม่ไหวที่จะถามออกไปสีหน้าซุนฉินดูเคร่งขรึม “ไม่มี หลังจากที่เย่ซิงหลานเสียชีวิตในปีนั้น แม่ก็หาข้ออ้างให้พ่อของแกเผารูปพวกนั้นทิ้งไป เดิมแม่คิดว่าพ่อแกน่าจะแอบเก็บเอาไว้สักรูปสองรูป แต่เมื่อกี้แม่ก็ไปดูมาแล้ว คิดไม่ถึงเลยว่าจะไม่เหลือเลยสักใบ”ดวงตาของซูอินมืดลงเล็กน้อยถ้าแค่ซูหรานมีดวงตาที่คล้ายกับลูกสาวของคุณท่านเย่เท่านั้น เช่นนั้นก็ดีไป แต่ถ้าหากลูกสาวของคุณท่านเย่คือเย่ซิงหลานจริง ๆ เช่นนั้นซูหรานก็ถือว่าเป็นสายเลือดที่เหลืออยู่เพียงคนเดียวของตระกูลเย่ เมื่อถึงตอนนั้น......ผลลัพธ์แบบนี้ ซูอินไม่อยากที่จะคิดเลยจริง ๆเธอสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ซูอินกัดฟันอย่างไม่เต็มใจทันใดนั้น ซุนฉินก็ดูเหมือนจะนึกอะไรออก แววตาก็เป็นประกายขึ้นมาทันที“มีคนคนหนึ่ง......มีคนคนหนึ่งที่น่าจะรู้ว่าเย่ซิงหลานคือคนของตระกูลเย่จริง ๆ รึเปล่า”“ใครคะ?”“ฉินอวี่เหลียน!”แม้ว่าซุนฉินจะไม่รู้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างฉินอวี่เหลียนและเย่ซิงหลานเป็นอย่างไร แต่เธอก็เคยได้ยินซูจี้ไห
หลังจากที่ฝูงชนแยกย้ายกันไป เขาถึงได้เห็นใบหน้าด้านข้างของซูหรานเดิมทีเขาก็กะว่าจะรีบไปหาเธอในตอนเที่ยง แต่ก็กลับคิดไม่ถึง ว่าเธอจะมาถึงที่นี่ได้เธอสวมชุดเดรสสีม่วงอ่อน ผมยาวปกคลุมไหล่ มือทั้งสองข้างประสานกันไว้ที่หน้าอก ราวกับว่าเธอเพิ่งจะได้รับชัยชนะจากการต่อสู้มา แววตาที่มองลู่ซิวหนิงเต็มไปด้วยความรู้สึกเหยียดหยาม จู่ ๆ เธอก็หมุดตัว......รอยยิ้มบนใบหน้าของฟู่จิ้นหานแข็งทื่อ เขาแทบจะหันหลังกลับโดยไม่รู้ตัวหลังจากแน่ใจแล้วว่าซูหรานไม่เห็นเขา ฟู่จิ้นหานก็สั่งฉินฟั่ง “ให้คนเชิญคุณผู้หญิงขึ้นตึก”หลังพูดจบ ฟู่จิ้นหานก็หมุนตัวแล้วเดินขึ้นลิฟต์ไปก่อนลู่ซิวหนิงที่กำลังจะระเบิดเพราะความโกรธ พอเห็นว่าซูหรานกำลังจะจากไป เขาก็ไล่ตามเธอไปอย่างไม่พอใจ“ซูหราน เธอ......”“คุณซูครับ คุณชายสามเชิญให้คุณขึ้นไปครับ”ในขณะที่ลู่ซิวหนิงกำลังจะตะโกน ก็มีใครบางคนเดินเข้าไปหาซูหรานลู่ซิวหนิงต้องยอมรับว่า คนผู้นี้คือผู้บริหารระดับสูงของฟู่ซือกรุ๊ปแต่นี่เขาถึงขั้นลงมารับซูหรานด้วยตัวเองเลยอย่างงั้นน่ะเหรอ?ลู่ซิวหนิงเหลือบมองซูหราน โดยที่เขาไม่กล้าทำอะไรอีก......นี่เป็นครั้งที่สองที่เธ
“หายใจเข้า!” ฟู่จิ้นหานเตือนด้วยความหวังดีในน้ำเสียงของเขามาพร้อมกับความรู้สึกตลกขบขันซูหรานหายใจเข้ายาว ๆ แต่เมื่อเธอรู้ว่าตัวเองเพิ่งจะถูกจับได้ ใบหน้าของซูหรานก็แดงขึ้นทันทีซูหรานผลักสามีตัวพ่อออกไปอย่างดุเดือด พร้อมกับเบี่ยงสายตาไปทางอื่น เธออยากทำเป็นไม่สนใจ แต่เห็นได้ชัดว่าฟู่จิ้นหานก็เอาแต่จ้องมองการกระทำของเธอไม่หยุด แถมยังหัวเราะออกมาอีกเขาก็แค่หัวเราะออกมาเท่านั้น กลับถูกซูหรานมองกลับมาด้วยสายตาที่ดุร้ายแม้ว่าเธอจะไม่ได้พูดอะไรสักคำ แต่แววตาของเธอก็เต็มไปด้วยคำเตือน ราวกับเธอกำลังพูดว่า: หัวเราะอีกสิ หัวเราะออกมาเลย ฉันจะทำให้หน้าของคุณไม่เหลือเค้าเดิมเลยล่ะ!“ได้ ๆ ๆ ผมไม่เห็นอะไรทั้งนั้น” ฟู่จิ้นหานพูดราวกับว่าเขายอมจำนนต่อเธอ“......” ซูหรานรู้สึกไม่พอใจอะไรที่บอกว่าไม่เห็นอะไรทั้งนั้น?นี่เขาเห็นอะไรกันแน่เนี่ย? !ขณะที่เธอกำลังจะโจมตีอีกครั้ง ฟู่จิ้นหานก็กลับกุมมือเธอเอาไว้ก่อนความอบอุ่นจากฝ่ามือใหญ่ ทำให้ซูหรานสะดุ้งเล็กน้อย จากนั้นฟู่จิ้นหานก็มองดูเธออย่างจริงจัง “ที่ที่พวกเราจะไปอาจจะไกลสักหน่อย เพราะงั้น คุณจะหลับสักตื่นก่อนก็ได้นะ”ซูหราน “......”
ฟู่จิ้นหานจ้องมองใบหน้าที่กำลังหลับใหลของซูหราน พร้อมกับเผยรอยยิ้มเอ็นดูออกมาเขากังวลว่าเมื่อเธอตื่นขึ้นมาแล้วจะปฏิเสธ ดังนั้นเขาจึงหยิบแหวนออกมา แล้วรีบสวมให้เธอทันทีในขณะที่เธอหลับในตอนที่ซูหรานตื่นขึ้นมา ดวงอาทิตย์ก็เพิ่งจะขึ้นพ้นขอบฟ้าทันทีที่เธอลืมตา เธอก็ตกตะลึงกับทิวทัศน์ที่อยู่ตรงหน้าทันทีเหมือนเวลากำลังหยุดนิ่ง หลังจากนั้นไม่นาน ซูหรานก็มองไปที่สามีตัวพ่อของเธอที่อยู่ข้าง ๆ ท่ามกลางแสงรำไร มุมด้านข้างของเขาดูหล่อเหลา ราวกับกำลังถูกทิวทัศน์ที่สวยงามกลืนเข้าไปจนกลายเป็นภาพเดียวกันหัวใจของซูหรานเต้นแรงราวกับว่าเธอกลัวว่าสามีตัวพ่อของเธอจะสังเกตเห็นว่าเธอแอบมองเขาอยู่ ซูหรานหันหน้าหนีด้วยความรู้สึกผิด แต่ถึงอย่างนั้น หัวใจของเธอก็กลับยังคงเต้นแรงไม่หยุดทันใดนั้นเธอก็ดูเหมือนจะสัมผัสโดนอะไรบางอย่าง เธอชะงักไม่ครู่หนึ่ง แล้วจึงก้มศีรษะลงเมื่อเธอเห็นแหวนที่อยู่บนนิ้วนาง ซูหรานก็จำมันได้ในทันที“เอ่อ......” ดวงตาของซูหรานเบิกกว้างด้วยความประหลาดใจเธอตรวจสอบแหวนซ้ำแล้วซ้ำอีก เพื่อให้แน่ใจว่านี่คือแหวนที่เธอเคยออกแบบสำหรับใช้ในการแข่งขันจริง ๆ แต่ว่าแหวนคู่นั้นได้ถูกค
ด้านในรถหรู เย่ซือเหยียนโบกมือให้เธอ “หรานหราน ขึ้นมาเร็ว”ซูหรานตอบสนองต่อความกระตือรือร้นของเธอด้วยรอยยิ้ม หลังจากขึ้นรถแล้ว เย่ซือเหยียนก็เห็นแหวนที่อยู่บนมือของเธอมองแค่แวบเดียว เย่ซือเหยียนก็เบี่ยงสายตาไปทางอื่น โดยที่ไม่รู้สึกอยากที่จะหาคำตอบอะไรเพิ่มเติมอีก เพราะเธอรู้ดี ว่าจะต้องเป็นฟู่จิ้นหานที่มอบแหวนวงนั้นให้เธอแน่นอนเมื่อคุณท่านเย่เห็นซูหราน ใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มก็ซ่อนเอาไว้ไม่อยู่หลังรับประทานอาหารเสร็จ ซูหรานและเย่ถิงเซินก็ช่วยกันวัดตัวให้คุณท่านเย่แล้วเย่ถิงเซินก็ได้สังเกตเห็นแหวนที่อยู่บนนิ้วของซูหรานเขามองแค่แวบเดียวก็จำได้ทันที นั่นคือเครื่องประดับที่ใช้เข้าร่วมการแข่งขัน แล้วก็เป็นเครื่องประดับชิ้นเดียวกันกับที่ถูกฟู่จิ้นหานประมูลไปด้วยความรู้สึกแปลก ๆ ก็แวบขึ้นมาในดวงตาของเย่ถิงเซินและในขณะที่พวกเขากำลังช่วยคุณท่านเย่วัดตัวอยู่นั้น เย่ซือเหยียนเองก็ได้ค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับแหวนที่อยู่ในมือของซูหราน“สองพันห้าร้อยล้าน......”เธอพอจะเคยได้ยินมาบ้าง ว่าฟู่จิ้นหานทุ่มเงินกว่าสองพันห้าร้อยล้านเพื่อประมูลแหวนคู่เซ็ตหนึ่งที่ซูหรานเป็นคนออกแบบ แต่กลับคิด
คิดจะใช้มุกนี้อีกแล้วเหรอ?ตีเธอหรือด่าเธองั้นเหรอ?ในเมื่อเธอขอมาแบบนี้ เช่นนั้นเธอก็จะสนองความต้องการให้เธอได้สมใจเอง!“เธอ......” มานี่ซูหรานยังพูดไม่ทันจบ ฟู่จิ้นหานก็ได้ส่งสัญญาณให้ฉินฟั่งเสียก่อนเรื่องทำร้ายคนแบบนี้ ทำไมต้องให้ซูหรานเป็นคนลงมือด้วยตัวกันล่ะ?ฉินฟั่งก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว ในช่วงเวลาอันรวดเร็วนั้น เขาก็ได้ตบหน้าซูอินไปหนึ่งทีเสียงเพี๊ยะดังขึ้น ไม่มีความปรานีใด ๆ ซูอินเดินเซจนแทบล้ม ยากที่จะทรงตัวเอาไว้ได้ ในหัวขาวโพลนไปหมด เหลือเพียงเสียงหึ่ง ๆ เท่านั้นใครกัน......ที่กล้าทำร้ายเธอได้ถึงขนาดนี้? !ทันทีที่ซูอินได้สติกลับมา เธอจึงมองไปที่ฉินฟั่งด้วยความโกรธฉินฟั่งได้รับการฝึกฝนมา เขาได้ฝึกฝนร่างกายจนแข็งแกร่งที่บริษัทชิงอวิ๋น แถมยังได้รับอิทธิพลจากฟูจิ้นหานที่มีความเด็ดขาดในการต่อสู้อีกด้วย เพียงแค่สายตาเดียว ความกดดันของซูอินก็ถูกลดทอนลงไปทันทีแต่จะให้ซูอินยอมได้อย่างไร?เธอเป็นถึงหลานสาวแท้ ๆ ของตระกูลเย่ ฉินฟั่งคนนี้......ก็เป็นแค่สุนัขรับใช้ข้างกายฟู่จิ้นหานเท่านั้นต่อให้การตบเธอจะเป็นความต้องการของฟู่จิ้นหาน แต่มีคนมากมายอยู่ด้วยขนาดนี้ ห
ไม่จำเป็นต้องแก้ไขพินัยกรรมงั้นเหรอ?ซูอินดีใจมาก รู้สึกเหมือนได้รับความมั่นใจมากขึ้นแน่นอนว่าขอแค่เธอยังเป็นลูกสาวของฉินเหยียนอยู่ คุณท่านเย่ก็จะเห็นแก่หน้าฉินเหยียน และยอมรับทุกอย่างที่เป็นเธอครั้งนี้ ไม่ว่าคุณท่านเย่จะรอดมาด้วยเหตุผลใดก็ตาม แต่ไม่ว่ายังไงพินัยกรรมของคุณท่าน เมื่อกี้ทุกคนต่างก็ได้ยินอย่างชัดเจนกันหมดแล้วคุณท่านเย่ได้มอบทุกอย่างของตระกูลเย่ให้กับเธอ แม้ว่าวันนี้เธอจะยังไม่ได้รับช่วงต่อจากตระกูลเย่ แต่เธอก็ยังเป็นผู้สืบทอดเพียงคนเดียวอยู่ส่วนคนพวกนี้......ซูอินรู้สึกไม่ค่อยพอใจสักเท่าไหร่เมื่อนึกถึงวิดีโอเมื่อกี้แล้ว ซูอินจึงหันไปมองซูหรานที่อยู่ข้าง ๆ คุณท่านเย่ทันทีในตอนนี้ เธอไม่มีเวลามามัวคิดว่าคลิปวิดีโอนั้นเกิดขึ้นได้อย่างไร แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้ คือการใช้ประโยชน์จากอำนาจเสียงของคุณท่าน เพื่อช่วยลบข้อครหาและปฏิเสธว่าคนในคลิปไม่ใช่เธอน้ำสกปรกนี้ ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ต้องสาดไปที่ซูหรานให้ได้เมื่อคิดได้เช่นนั้น ซูอินก็ขมวดคิ้วทันที “หนูไม่สนใจของนอกกายพวกนั้นหรอกค่ะ แต่ถ้าหากแม่ของหนูที่อยู่บนสวรรค์รู้ว่าหนูถูกใส่ร้ายด้วยคลิปวิดีโอนั้น จนทำ
น้ำเสียงนั้นดูทุ้มต่ำ แต่ก็มีความโกรธที่ไม่สามารถปิดบังเอาไว้ได้ปนอยู่ซูอินเงียบและไม่มีการตอบสนองอยู่นาน ส่วนคนอื่น ๆ ที่อยู่ตรงนั้น ก็กลับมีสีหน้าที่ดูต่างกันออกไปพวกเขาเพิ่งจะได้ยินอะไรกันแน่?เย่ซินกลืนน้ำลายลงคออึกหนึ่ง ก่อนจะกอดแขนตัวเองแน่น ราวกับพยายามขับไล่ความหนาวของเมื่อครู่นี้ที่แผ่ซ่านเข้ามาในร่างกายออกไปเธอหูฝาดไปรึเปล่านะ?เสียงนั้นน่ะ คือเสียงของคุณท่านจริง ๆ!แต่เห็น ๆ อยู่ว่าคุณท่านเสียชีวิตไปแล้ว แล้วร่างก็กำลังนอนอยู่ในโลงแก้วอีกด้วย จะมีเสียงออกมาได้อย่างไร?แต่เมื่อนึกถึงคำว่า “วิญญาณ” ขึ้นมา เย่ซินก็กลืนน้ำลายลงคอด้วยความตื่นตัวและเสียงที่ดังขึ้นอย่างกะทันหันนั้น ก็กลับยิ่งทำให้เย่ซือเหยียนมั่นใจในข้อสันนิษฐานก่อนหน้านี้ได้ และเข้าใจมากยิ่งขึ้นว่าการแสดงในวันนี้มีซูอินที่เป็นเป้าหมาย!เย่ซือเหยียนรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย เธอสังเกตเห็นว่าทั้งเย่ถิงเซินและหยางซู พวกเขาสองคนไม่ได้มีปฏิกิริยาใด ๆ มากนักต่อเสียงของคุณปู่ในตอนนั้นเธอก็รู้ได้ในทันที ว่าทั้งสองคนเองก็มีส่วนร่วมในแผนการนี้ด้วยเช่นกันส่วนซูอิน......ตอนนี้ ในหัวของซูอินมันขาวโพลนไปหมดเธอเ
หน้าตาที่ดูไร้เดียงสาและอ่อนแอของซูอินแข็งทื่อทันทีชั่วขณะหนึ่ง เหมือนว่าหน้ากากนั้นของเธอจะถูกเจาะจนทะลุ สีหน้าเธอดูไม่ค่อยมั่นใจสักเท่าไหร่ “พี่ซู พี่หมายความว่ายังไง?”“ฮึ หมายความว่ายังไงงั้นเหรอ? น้องอินอิน เธอคงไม่คิดว่าทุกคนจะโง่กันหมดหรอกใช่ไหม? ตั้งแต่ครั้งแรกที่ฉันเจอเธอ ฉันก็เดาได้แล้ว ว่าเธอเป็นคนยังไง ต่อหน้าก็แสร้งทำตัวไร้เดียงสาและอ่อนแอ แต่ในความเป็นจริง ใจกลับดำมืดเต็มไปด้วยแผนการ คุณสนุกกับการใช้หน้ากากที่เธอสร้างขึ้นมาหลอกลวงทุกคน ฉันก็เลยเล่นตามน้ำกับเธอไป แกล้งทำเป็นเชื่อในความดีและความไร้เดียงสาของเธอ”เสียงของหยางซูดังกึกก้องทั่วทั้งศาลาไว้ทุกข์ซูอินฟังแล้วก็รู้สึกบาดหูเป็นพิเศษในตอนนี้ ใบหน้าที่เคยแสดงความไร้เดียงสาของเธอก็เริ่มมีความโกรธปรากฏขึ้นมานิดหน่อยที่อยางซูจะบอกก็คือ ทุกสิ่งที่เขาปฏิบัติต่อเธอ มันเป็นเพียงแค่การแสดงอย่างนั้นน่ะเหรอ?แล้วที่เมื่อวานเขารับปากเธอว่าจะใช้เส้นสายเรียกทนายอู๋มาล่ะ มันเพื่ออะไรกัน?มีคนอื่นอยู่ด้วย ซูอินจึงไม่สะดวกที่จะถามออกมาแต่เมื่อเธอจ้องไปที่ตาของหยางซู กลับทำให้หยางซูเข้าใจในทันทีว่าเธอกำลังคิดอะไร และคิดจะ
ฟู่จิ้นหานก้มหน้าสบตากับซูหรานแววตาของเธอดูมั่นคง มือที่กำเสื้อตรงหน้าอกของเขาก็ยิ่งบีบแน่นขึ้นเรื่อย ๆ ฟู่จิ้นหานรู้สึกกังวลในใจไม่หาย แต่ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง สุดท้ายก็ไม่สามารถขัดขืนซูหรานได้ฟู่จิ้นหานวางเธอลง แต่แขนของเขายังคงโอบเอวเธอเอาไว้อยู่ ท่าทางที่เขาปกป้องเธอนี้ ทำให้ผู้คนรอบข้างเกิดความคิดที่แตกต่างกันออกไปคนที่ตกใจและประหลาดใจที่สุด ก็คือเย่ซินฟู่จิ้นหาน......ผู้นำคนใหม่ของฟู่ซือกรุ๊ปคนนี้ เย่ซินเคยเห็นมาก่อนเขาจัดการกับฟู่ซือกรุ๊ปด้วยวิธีการที่โหดเหี้ยม ซึ่งเป็นที่พูดถึงกันในจิงเฉิง แค่เธอได้ยินก็รู้สึกขนลุกทุกคนต่างก็พูดกันว่าฟู่จิ้นหานเป็นคนเย็นชาไร้ความรู้สึก แต่ชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าเธอในตอนนี้ สีหน้ากลับเต็มไปด้วยความอ่อนโยน แววตาของเขาจ้องมองไปยังหญิงสาวที่อยู่ข้าง ๆ บ้างก็เหลือบมองไปยังอีกด้าน แต่แววตากลับเปลี่ยนเป็นเฉียบขาดในทันทีท่าทีที่ฟู่จิ้นหานปฏิบัติต่อผู้หญิงคนนี้พิเศษมากจริง ๆเย่ซินอดไม่ได้ที่จะมองไปยังคนที่อยู่ข้าง ๆ ฟู่จิ้นหาน และนึกถึงชื่อที่พวกเขาเพิ่งจะเรียกเธอขึ้นมาเมื่อกี้หรานหราน......ซูหราน......เธอคือหลานสาวที่คุณท่านรับอุปการะมา
ทุกคนต่างก็ตกตะลึงไปชั่วขณะเสียงของผู้หญิงที่ดังออกมาจากโทรศัพท์มือถือ ได้รับการปรับแต่งมาอย่างละเอียดถึงจะฟังไม่ชัดเจนว่าเป็นของใคร แต่ก็กลับฟังออกว่าบรรยากาศค่อนข้างจะเข้มข้นภายใต้เสียงร้องของหญิงสาว กระทั่งการพูดด้วยคำพูดที่ดูเปิดเผยต่าง ๆ ทำให้คนที่อยู่ ณ ตรงนั้นแค่ได้ยิน สีหน้าของพวกเขาก็เริ่มเปลี่ยนไปบ้างแล้วซูอินรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย และแอบบ่นลินเยว่เยว่ที่ทำการแปลงเสียง แต่ยังไงก็ช่างเถอะ ต่อให้จะฟังไม่ออกว่าเป็นเสียงของซูหราน แต่ภาพที่ทุกคนเห็นก็เป็นซูหราน ยังไงก็มีผลลัพธ์เดียวกัน!ซูอินเหลือบมองไปที่เย่ถิงเซินเธออยากเห็นมากที่สุด ก็คือปฏิกิริยาของเย่ถิงเซินหลังจากที่เขาเห็นว่าคนในคลิปคือซูหราน แต่เย่ถิงเซินเพียงแค่ขมวดคิ้ว และมีสีหน้าที่ดูไม่พอใจเท่านั้น เขากลับไม่หยิบโทรศัพท์ออกมาสักทีดูเหมือนว่าเย่ซินจะตกใจกับภาพที่เธอเห็นมาก เธอจ้องมองที่หน้าจอโทรศัพท์อย่างงงงวยภายในห้องไว้ทุกข์ เสียงของหญิงสาวยังคงดังกึกก้องอยู่ในบรรยากาศที่แปลกประหลาด ก็มีคนที่สองที่หยิบโทรศัพท์ออกมา และเปิดข้อความที่เพิ่งได้รับเมื่อสักครู่นี้อ่า......เสียงที่เหมือนกับก่อนหน้านี้ก็ดัง
“พวกเขาจะทำอะไร?”ในหัวเย่ซือเหยียนยังคงคิดไม่ตก ไม่สามารถคาดเดาภาพรวมของเรื่องราวได้เลยแต่เธอก็พอจะเข้าใจอยู่บ้าง: หากคุณท่านยังไม่ตายจริง ๆ เช่นนั้นทุกอย่างที่เกิดขึ้นในวันนี้มันก็คือกับดักและกับดักนี้ ถูกจัดเตรียมเอาไว้เพื่อใครอย่างนั้นเหรอ?เย่ซิน? ตัวเธอ? หรือว่า......ซูอิน?เย่ซือเหยียนรู้สึกโชคดีที่เธอค้นพบเรื่องนี้ได้ก่อน ไม่เช่นนั้น เธอก็อาจจะตกหลุมพรางไปด้วยส่วนซูอิน......ความเกลียดชังสะสมอยู่ในดวงตาของเย่ซือเหยียนไม่ว่ากับดักนี้จะถูกจัดเตรียมเอาไว้สำหรับใครก็ตาม วันนี้ก็ยังถือว่าเป็นโอกาสที่ดีในตอนนั้นแทบจะในทันที เย่ซือเหยียนโทรหาสายสายหนึ่ง และสั่งการกับคนที่อยู่ปลายสายหนึ่งประโยค หลังจากวางสาย ในใจเย่ซือเหยียนก็เริ่มรู้สึกตื่นเต้นกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อไป......ในขณะเดียวกัน ณ ศาลาไว้ทุกข์ ซูอินยังคงเต็มไปด้วยความคาดหวังกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นอาการเป็นลมของเย่ซือเหยียนทำให้เธอรู้สึกไม่พอใจอย่างมากรอจนกระทั่งพ่อบ้านจัดแจงให้คนพาเย่ซือเหยียนออกไป ซูอินก็อดไม่ได้ที่จะมองไปที่ทนายอู๋ แต่สุดท้ายเธอก็รู้สึกกลัวว่าจะมีคนเห็นความลนลานของเธอ เธอจึงไม่กล้าพู
ดูเหมือนว่า ผู้ที่อยู่ในที่นั้นนอกจากท่านท่านเย่แล้ว ก็มีเพียงเย่ถิงเซินเท่านั้นที่สามารถตัดสินใจได้การกระทำนี้ ทำให้ซูอินรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อยต้องทำความเข้าใจก่อนว่า เธอคือผู้สืบทอดที่ถูกต้องตามกฎหมายของตระกูลเย่ และนอกจากนี้ ทนายความอู๋คนนี้เองก็เป็นพยานในการทำพินัยกรรมของคุณท่านเย่อีกด้วย เขาก็ควรจะรู้ว่าผู้ที่ได้รับผลประโยชน์จากพินัยกรรมของคุณท่านคือใครเขาควรถามเธอ และให้เธอเป็นผู้ตัดสินใจสิถึงจะถูกเขากลับถือหางให้เย่ถิงเซินเป็นตัวหลักแต่ไม่นาน ซูอินก็ไม่ได้ใส่ใจมากนัก ที่ทนายอู๋คนนี้เป็นคนที่มีตาแต่ไร้แวว รอให้ประกาศพินัยกรรมออกมาก่อน ว่าเธอคือผู้สืบทอดทรัพย์สินของตระกูลเย่ จะทำให้คนเหล่านี้ต้องตื่นตระหนกอีกครั้งแน่นอน“เชิญทนายประกาศได้เลยครับ”คำพูดของเย่ถิงเซินแต่ละคำ ทั้งหนักแน่นและชัดเจนทนายความอู๋เปิดถุงเอกสารที่ปิดผนึกเอาไว้ท่ามกลางสายตาของทุกคน และนำพินัยกรรมที่อยู่ข้างในออกมา“ฉัน เย่ชิงเหอ ทรัพย์สินทั้งหมดที่อยู่ภายใต้ชื่อของฉัน จะถูกสืบทอดโดย......”ทนายความอู๋กำลังอ่านเนื้อหาของพินัยกรรม ทุกคนในศาลาไว้ทุกข์ต่างก็ตั้งใจฟัง และเมื่อถึงจุดนี้ สีหน้าของทุกค
“มันแน่นอนอยู่แล้ว”หยางซูจ้องมองไปที่ซูอิน เขาจะไม่บอกกับเธอ ว่าทนายคนนั้นได้อยู่ที่ไห่เฉิงเรียบร้อยแล้วทันทีที่คุณท่านกลับมาที่ไห่เฉิง ก็ได้ให้ทนายรีบมาที่นี่อย่างลับ ๆและการกระทำของซูอินในคืนนี้ ดูท่าแล้ว คุณท่านเองก็น่าจะมองสถานการณ์ออกตั้งแต่แรกแล้วเมื่อได้รับคำตอบที่แน่นอนจากหยางซู ซูอินก็ยิ่งมีความสุขมากกว่าเดิมเธอไม่กล้าที่จะลำพองตัวมากเกินไป เหมือนว่าเธอจะรู้สึกพอใจมาก จึงถอนหายใจออกมา “การที่สามารถทำตามความปรารถนาของคุณปู่ได้ ก็ถือเป็นสิ่งเดียวที่ฉันสามารถทำเพื่อคุณปู่ได้แล้วล่ะค่ะ”ซูอินลดสายตาลง ให้ดูเหมือนว่าเธอไม่มีความต้องการอะไรเลยจริง ๆแต่หยางซูกลับรู้จักธาตุแท้ของผู้หญิงคนนี้แล้วในที่สุดหยางซูก็ไม่สามารถอดทนต่อความเกลียดชังในใจได้ เขาจึงอ้างว่าตนรู้สึกเหนื่อย และต้องการพักผ่อน จึงขอให้ซูอินออกไปก่อนเมื่อกลับมาถึงห้อง ซูอินก็รีบวางแผนทุกอย่างที่เหลือทันทีเช้าวันถัดมา ทั้งวิลล่าก็เริ่มวุ่นวายตั้งแต่เช้าแล้วเมื่อวานได้มีการกำหนดให้เผาศพวันนี้ก่อนเริ่มการเผาศพ ก็ควรไปสักการะร่างของผู้เสียชีวิตเสียก่อนภายในโลงแก้วคุณท่านนอนอยู่ข้างใน ใบหน้าดูมีชีว