“หายใจเข้า!” ฟู่จิ้นหานเตือนด้วยความหวังดีในน้ำเสียงของเขามาพร้อมกับความรู้สึกตลกขบขันซูหรานหายใจเข้ายาว ๆ แต่เมื่อเธอรู้ว่าตัวเองเพิ่งจะถูกจับได้ ใบหน้าของซูหรานก็แดงขึ้นทันทีซูหรานผลักสามีตัวพ่อออกไปอย่างดุเดือด พร้อมกับเบี่ยงสายตาไปทางอื่น เธออยากทำเป็นไม่สนใจ แต่เห็นได้ชัดว่าฟู่จิ้นหานก็เอาแต่จ้องมองการกระทำของเธอไม่หยุด แถมยังหัวเราะออกมาอีกเขาก็แค่หัวเราะออกมาเท่านั้น กลับถูกซูหรานมองกลับมาด้วยสายตาที่ดุร้ายแม้ว่าเธอจะไม่ได้พูดอะไรสักคำ แต่แววตาของเธอก็เต็มไปด้วยคำเตือน ราวกับเธอกำลังพูดว่า: หัวเราะอีกสิ หัวเราะออกมาเลย ฉันจะทำให้หน้าของคุณไม่เหลือเค้าเดิมเลยล่ะ!“ได้ ๆ ๆ ผมไม่เห็นอะไรทั้งนั้น” ฟู่จิ้นหานพูดราวกับว่าเขายอมจำนนต่อเธอ“......” ซูหรานรู้สึกไม่พอใจอะไรที่บอกว่าไม่เห็นอะไรทั้งนั้น?นี่เขาเห็นอะไรกันแน่เนี่ย? !ขณะที่เธอกำลังจะโจมตีอีกครั้ง ฟู่จิ้นหานก็กลับกุมมือเธอเอาไว้ก่อนความอบอุ่นจากฝ่ามือใหญ่ ทำให้ซูหรานสะดุ้งเล็กน้อย จากนั้นฟู่จิ้นหานก็มองดูเธออย่างจริงจัง “ที่ที่พวกเราจะไปอาจจะไกลสักหน่อย เพราะงั้น คุณจะหลับสักตื่นก่อนก็ได้นะ”ซูหราน “......”
ฟู่จิ้นหานจ้องมองใบหน้าที่กำลังหลับใหลของซูหราน พร้อมกับเผยรอยยิ้มเอ็นดูออกมาเขากังวลว่าเมื่อเธอตื่นขึ้นมาแล้วจะปฏิเสธ ดังนั้นเขาจึงหยิบแหวนออกมา แล้วรีบสวมให้เธอทันทีในขณะที่เธอหลับในตอนที่ซูหรานตื่นขึ้นมา ดวงอาทิตย์ก็เพิ่งจะขึ้นพ้นขอบฟ้าทันทีที่เธอลืมตา เธอก็ตกตะลึงกับทิวทัศน์ที่อยู่ตรงหน้าทันทีเหมือนเวลากำลังหยุดนิ่ง หลังจากนั้นไม่นาน ซูหรานก็มองไปที่สามีตัวพ่อของเธอที่อยู่ข้าง ๆ ท่ามกลางแสงรำไร มุมด้านข้างของเขาดูหล่อเหลา ราวกับกำลังถูกทิวทัศน์ที่สวยงามกลืนเข้าไปจนกลายเป็นภาพเดียวกันหัวใจของซูหรานเต้นแรงราวกับว่าเธอกลัวว่าสามีตัวพ่อของเธอจะสังเกตเห็นว่าเธอแอบมองเขาอยู่ ซูหรานหันหน้าหนีด้วยความรู้สึกผิด แต่ถึงอย่างนั้น หัวใจของเธอก็กลับยังคงเต้นแรงไม่หยุดทันใดนั้นเธอก็ดูเหมือนจะสัมผัสโดนอะไรบางอย่าง เธอชะงักไม่ครู่หนึ่ง แล้วจึงก้มศีรษะลงเมื่อเธอเห็นแหวนที่อยู่บนนิ้วนาง ซูหรานก็จำมันได้ในทันที“เอ่อ......” ดวงตาของซูหรานเบิกกว้างด้วยความประหลาดใจเธอตรวจสอบแหวนซ้ำแล้วซ้ำอีก เพื่อให้แน่ใจว่านี่คือแหวนที่เธอเคยออกแบบสำหรับใช้ในการแข่งขันจริง ๆ แต่ว่าแหวนคู่นั้นได้ถูกค
ด้านในรถหรู เย่ซือเหยียนโบกมือให้เธอ “หรานหราน ขึ้นมาเร็ว”ซูหรานตอบสนองต่อความกระตือรือร้นของเธอด้วยรอยยิ้ม หลังจากขึ้นรถแล้ว เย่ซือเหยียนก็เห็นแหวนที่อยู่บนมือของเธอมองแค่แวบเดียว เย่ซือเหยียนก็เบี่ยงสายตาไปทางอื่น โดยที่ไม่รู้สึกอยากที่จะหาคำตอบอะไรเพิ่มเติมอีก เพราะเธอรู้ดี ว่าจะต้องเป็นฟู่จิ้นหานที่มอบแหวนวงนั้นให้เธอแน่นอนเมื่อคุณท่านเย่เห็นซูหราน ใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มก็ซ่อนเอาไว้ไม่อยู่หลังรับประทานอาหารเสร็จ ซูหรานและเย่ถิงเซินก็ช่วยกันวัดตัวให้คุณท่านเย่แล้วเย่ถิงเซินก็ได้สังเกตเห็นแหวนที่อยู่บนนิ้วของซูหรานเขามองแค่แวบเดียวก็จำได้ทันที นั่นคือเครื่องประดับที่ใช้เข้าร่วมการแข่งขัน แล้วก็เป็นเครื่องประดับชิ้นเดียวกันกับที่ถูกฟู่จิ้นหานประมูลไปด้วยความรู้สึกแปลก ๆ ก็แวบขึ้นมาในดวงตาของเย่ถิงเซินและในขณะที่พวกเขากำลังช่วยคุณท่านเย่วัดตัวอยู่นั้น เย่ซือเหยียนเองก็ได้ค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับแหวนที่อยู่ในมือของซูหราน“สองพันห้าร้อยล้าน......”เธอพอจะเคยได้ยินมาบ้าง ว่าฟู่จิ้นหานทุ่มเงินกว่าสองพันห้าร้อยล้านเพื่อประมูลแหวนคู่เซ็ตหนึ่งที่ซูหรานเป็นคนออกแบบ แต่กลับคิด
ซูหรานจ้องมองดูแหวนวงนั้นเพชรสีแดงเม็ดใหญ่นี้ การที่จะเลียนแบบออกมาได้เหมือนจริงขนาดนี้ก็หายากมากพออยู่แล้ว จะทิ้งไปก็เสียดายได้ จะสวมมันไว้ก็ได้!ซูหรานหยิบแหวนขึ้นมา แล้วสวมกลับไปด้วยความโกรธ แต่ก็ไม่ได้สนใจซ่งฉีแต่อย่างใด พร้อมกับเดินหน้าต่อ“......” รอยยิ้มบนใบหน้าของซ่งฉีแข็งทื่อเล็กน้อยเขาเป็นนำแหวนมาคืนเธอเชียวนะ นี่เธอลืมอะไรไปรึเปล่า?แต่ท่าทีโกรธเกรี้ยวของเธอนั้น เหมือนว่าในหัวเธอจะมีแต่เรื่องของคนที่ทำให้เธอโกรธซ่งฉีไล่ตามซูหรานทันที และเดินขนาบข้างไปพร้อมกับเธอ “ในเมื่อเขาทำให้คุณโกรธ แล้วคุณจะยังนึกถึงเขาอยู่ทำไม? ไม่สู้คุณลืม ๆ เขาไปซะ?”“......”ลืมเขาไปงั้นเหรอ?ก่อนที่ซูหรานจะทันได้พูดอะไร เสียงที่อยู่ข้าง ๆ ก็พูดต่อ “เอางี้ไหม คุณลืมเขาไปซะ แล้วเดี๋ยวผมจะแนะนำคนที่ดีกว่าให้?”“? ? ?”นี่เขาพูดพล่ามอะไรอยู่ได้?เมื่อเห็นว่าซูหรานเริ่มขมวดคิ้วพร้อมกับเครื่องหมายคำถามที่ปรากฏบนใบหน้า ซ่งฉีก็ยิ้มอย่างชั่วร้ายออกมา แล้วยืนขวางทางซูหรานเอาไว้“คุณดูอย่างผมสิ เป็นไงบ้าง? เมื่อเทียบกับผู้ชายที่ทำคุณโกรธแล้ว พอจะสู้ได้ไหม?” ซ่งฉีกะพริบตารัว ๆ ให้ซูหรานซูหรา
เมื่อเห็นว่าใบหน้าเริ่มน่าเกลียดมากขึ้นเรื่อย ๆ หลินเยว่เยว่ก็พูดขึ้นทันที“อวี้หมิง วันนี้เป็นวันเกิดของเธอ เดิมฉันไม่ควรพูดอะไรพวกนี้เพื่อให้กระทบจิตใจของเธอ แต่ว่าพวกเราคือเพื่อนกันนะ บางเรื่องฉันก็ไม่อยากที่จะปิดบังเธอ”ในที่สุดปฏิกิริยาของซ่งอวี่หมิงก็อ่อนลงซงอวี่หมิงกระตุกมุมปากทันที แล้วพูดว่า “ไม่เป็นไร ฉันรู้ว่าเธอหวังดีกับฉัน แต่ว่า......”แต่เธอชอบเย่ถิงเซินมาตั้งแต่เด็กแล้ว แม้จะผ่านมานานหลายปี เธอก็กลับไม่เคยเปลี่ยนใจเลยสักครั้ง!เมื่อหญิงสาวคนอื่น ๆ เห็นว่าจู่ ๆ ซ่งอวี่หมิงก็เศร้าขึ้นมากะทันหัน จึงรีบมุ่งเป้าไปที่ลูกพี่ลูกน้องที่หลินเยว่เยว่พูดถึงทันที“ลูกพี่ลูกน้องของเธอคือใคร? ดีกว่าอวี่หมิงของพวกเรานักรึไง? มีภูมิหลังที่ดีกว่าอวี่หมิงอีกงั้นเหรอ?”“นั่นสิ อวี่หมิง เธอไม่ต้องกังวลนะ หลินเยว่เยว่ เธอบอกชื่อลูกพี่ลูกน้องของเธอมาเลยนะ ฉันจะไปสั่งสอนเธอเดี๋ยวนี้ ให้เธอได้รู้ซะบ้าง ว่าจะมาอ่อนผู้ชายมั่วซั่วแบบนี้ไม่ได้”หญิงสาวเหล่านั้นเต็มไปด้วยความขุ่นเคืองซึ่งมันก็เป็นไปตามที่หลินเยว่เยว่ปรารถนาพอดีหลินเยว่เยว่ขมวดคิ้ว “เธอเป็นลูกพี่ลูกน้องของฉัน แม้ว่ารูปร่
คนกลุ่มหนึ่งพุ่งตรงไปทางซูหราน ซูหรานสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ และรีบดำลงน้ำทันทีหลายคนต่างก็คว้าเอาไว้ไม่ทัน เหล่าหญิงสาวที่อยู่บนฝั่งก็เริ่มกังวล ช่วยกันมองหารอบ ๆ ทันใดนั้นก็มีคนชี้นิ้วไปยังที่ที่หนึ่ง “นั่นไง เร็วเข้า เธออยู่ตรงนั้น”ทุกคนในสระว่ายน้ำมองไปยังทิศทางที่หญิงสาวชี้ซูหรานในตอนนี้ได้ว่ายจนไปหยุดอยู่ที่ด้านหลังของคนผู้หนึ่ง ในขณะที่คนกลุ่มนั้นกำลังหันกลับมาดู จู่ ๆ ซูหรานก็โผล่ขึ้นมาจากน้ำ เธอกำหมัดเอาไว้แน่น แล้วเหวี่ยงเข้าไปที่หน้าของคนที่อยู่ใกล้ที่สุด“อ๊าก......”เสียงกรีดร้องดังขึ้นทุกคนต่างก็ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง ซูหรานก็ถือโอกาสดำดิ่งลงไปในน้ำอีกครั้ง“พวกนายทำอะไรกันอยู่ อย่าปล่อยเธอหนีไปสิ!” หญิงสาวที่อยู่บนฝั่งเร่งเร้าทันทีที่พูดจบ ก็มีใครบางคนในสระว่ายน้ำร้องอุทานขึ้นมาอีกครั้ง ในช่วงเวลาต่อมา คนผู้นั้นก็จมลงไปในน้ำทันที พร้อมกับความตื่นตระหนก พยายามแกะมือที่จับข้อเท้าของเขาออก แต่การเตะเท้าในน้ำของเขากลับเตะโดนแค่ฝ่ายของตัวเอง ไม่นาน ในน้ำก็ตกอยู่ในความวุ่นวายพวกหญิงสาวที่อยู่รอบ ๆ โกรธจนแทบจะระเบิดอย่างไรก็ตาม กลับไม่มีใครรู้เลยว่า ซูหรานออกไปจากสระ
กลุ่มชายหญิงที่ตัวเปียกชุ่มเดินไปทางเย่ถิงเซิน ในขณะที่กำลังจะขอโทษ กลับถูกเย่ถิงเซินหยุดเอาไว้“ไม่จำเป็น”น้ำเสียงของเย่ถิงเซินฟังดูเย็นชาตอนแรกคนเหล่านั้นคิดว่าเย่ถิงเซินคงจะเห็นแก่หน้าของคุณลุงซ่ง ถึงได้ไม่ต้องการให้พวกเขาขอโทษ ขณะที่กำลังได้ใจอยู่นั่นเอง ไม่นานเสียงของเย่ถิงเซินก็พูดขึ้นว่า “คนที่พวกเขาควรขอโทษไม่ใช่ผม แต่เป็นเธอ”เย่ถิงเซินแทบไม่หันไปมองคนเหล่านี้ด้วยซ้ำเขากวาดสายตาไปทางซ่งเหลียน สุดท้ายจึงกลับมามองที่ซูหราน“เธอเหรอ?” ใบหน้าของหญิงสาวเหล่านั้นเต็มไปด้วยความรังเกียจก็แค่ผู้หญิงที่คุณชายใหญ่เย่พามาด้วย จะแบกรับคำขอโทษจากพวกเธอไหวได้ยังไง?ซ่งเหลียนเองก็เหลือบมองไปทางซูหราน แต่เขาก็ไม่ได้แสดงเจตนาอยากจะพูดแต่อย่างใดมีความรู้สึกเย็นชาในแววตาของซูหราน ทันใดนั้น เธอก็ดึงความสนใจของเย่ถิงเซิน “พี่คะ ฉันหนาว ถ้าไม่มีเรื่องอะไรแล้ว งั้นฉันขอตัวกลับก่อนนะคะ”หลังพูดจบ ซูหรานก็หมุนตัวกลับ เธอที่เพิ่งจะก้าวเท้าออกไป เย่ถิงเซินก็รีบก้าวตามไปทันที ในขณะเดียวกันนั้นเอง ซ่งฉีก็เดินตามซูหรานไปด้วย“ผมก็จะไปกับคุณด้วย......”“ผมจะไปส่งคุณเอง”พวกเขาทั้งสองแทบจะ
ซูหรานกลับไปที่วิลล่าตระกูลเย่พวกเขาออกมาจากงานเต้นรำก่อนเวลา ในตอนที่กลับมาถึงวิลล่าตระกูลเย่ คุณท่านเย่เองก็ยังไม่ถึงเวลาพักผ่อน เมื่อเห็นว่าซูหรานที่ถูกห่อด้วยผ้าเช็ดตัวกำลังเดินเข้ามา พร้อมกับเสื้อสูทของเย่ถิงเซินที่พาดอยู่บนตัว แถมผมก็เต็มไปด้วยน้ำอีก คุณท่านเย่จึงทักเธอขึ้นมาในทันที “หรานหราน เกิดอะไรขึ้น? ทำไมถึงเป็นแบบนี้ไปได้?”ทันทีที่คุณท่านเย่พูดจบ ซูหรานก็จามออกมาทันทีใบหน้าของคุณท่านเย่ดูน่าเกลียดขึ้นกว่าเดิม เขารีบสั่งพ่อบ้านทันที “รีบไปบอกให้ป้าจางเตรียมน้ำอุ่นเร็วเข้า จะได้ให้หรานหรานลงไปแช่ กำจัดพิษไข้”ซูหรานต้องการอาบน้ำอุ่นจริง ๆ นั่นแหละเธอมองไปทางคุณท่านเย่ด้วยความสบายใจ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร จากนั้นเธอก็เดินขึ้นชั้นบนกลับห้องไปแต่ใบหน้าของคุณท่านเย่นั้นกลับดูน่าเกลียดมากยิ่งขึ้นสายตาจ้องมองไปทางเย่ถิงเซิน เสียงของคุณท่านเย่ก็ถามขึ้นมาอย่างเย็นชา:“ถ้าฉันจำไม่ผิด วันนี้เป็นงานเลี้ยงเต้นรำฉลองวันเกิดของพี่น้องฝาแฝดตระกูลซ่งสินะ เธอพาหรานหรานไปด้วย แต่พาเธอกลับมาในสภาพนี้เนี่ยนะ? เกิดอะไรขึ้นกันแน่?”ดวงตาของเย่ถิงเซินเต็มไปด้วยการตำหนิตนเอง “เป็นผมเ