ด้านในรถหรู เย่ซือเหยียนโบกมือให้เธอ “หรานหราน ขึ้นมาเร็ว”ซูหรานตอบสนองต่อความกระตือรือร้นของเธอด้วยรอยยิ้ม หลังจากขึ้นรถแล้ว เย่ซือเหยียนก็เห็นแหวนที่อยู่บนมือของเธอมองแค่แวบเดียว เย่ซือเหยียนก็เบี่ยงสายตาไปทางอื่น โดยที่ไม่รู้สึกอยากที่จะหาคำตอบอะไรเพิ่มเติมอีก เพราะเธอรู้ดี ว่าจะต้องเป็นฟู่จิ้นหานที่มอบแหวนวงนั้นให้เธอแน่นอนเมื่อคุณท่านเย่เห็นซูหราน ใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มก็ซ่อนเอาไว้ไม่อยู่หลังรับประทานอาหารเสร็จ ซูหรานและเย่ถิงเซินก็ช่วยกันวัดตัวให้คุณท่านเย่แล้วเย่ถิงเซินก็ได้สังเกตเห็นแหวนที่อยู่บนนิ้วของซูหรานเขามองแค่แวบเดียวก็จำได้ทันที นั่นคือเครื่องประดับที่ใช้เข้าร่วมการแข่งขัน แล้วก็เป็นเครื่องประดับชิ้นเดียวกันกับที่ถูกฟู่จิ้นหานประมูลไปด้วยความรู้สึกแปลก ๆ ก็แวบขึ้นมาในดวงตาของเย่ถิงเซินและในขณะที่พวกเขากำลังช่วยคุณท่านเย่วัดตัวอยู่นั้น เย่ซือเหยียนเองก็ได้ค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับแหวนที่อยู่ในมือของซูหราน“สองพันห้าร้อยล้าน......”เธอพอจะเคยได้ยินมาบ้าง ว่าฟู่จิ้นหานทุ่มเงินกว่าสองพันห้าร้อยล้านเพื่อประมูลแหวนคู่เซ็ตหนึ่งที่ซูหรานเป็นคนออกแบบ แต่กลับคิด
ซูหรานจ้องมองดูแหวนวงนั้นเพชรสีแดงเม็ดใหญ่นี้ การที่จะเลียนแบบออกมาได้เหมือนจริงขนาดนี้ก็หายากมากพออยู่แล้ว จะทิ้งไปก็เสียดายได้ จะสวมมันไว้ก็ได้!ซูหรานหยิบแหวนขึ้นมา แล้วสวมกลับไปด้วยความโกรธ แต่ก็ไม่ได้สนใจซ่งฉีแต่อย่างใด พร้อมกับเดินหน้าต่อ“......” รอยยิ้มบนใบหน้าของซ่งฉีแข็งทื่อเล็กน้อยเขาเป็นนำแหวนมาคืนเธอเชียวนะ นี่เธอลืมอะไรไปรึเปล่า?แต่ท่าทีโกรธเกรี้ยวของเธอนั้น เหมือนว่าในหัวเธอจะมีแต่เรื่องของคนที่ทำให้เธอโกรธซ่งฉีไล่ตามซูหรานทันที และเดินขนาบข้างไปพร้อมกับเธอ “ในเมื่อเขาทำให้คุณโกรธ แล้วคุณจะยังนึกถึงเขาอยู่ทำไม? ไม่สู้คุณลืม ๆ เขาไปซะ?”“......”ลืมเขาไปงั้นเหรอ?ก่อนที่ซูหรานจะทันได้พูดอะไร เสียงที่อยู่ข้าง ๆ ก็พูดต่อ “เอางี้ไหม คุณลืมเขาไปซะ แล้วเดี๋ยวผมจะแนะนำคนที่ดีกว่าให้?”“? ? ?”นี่เขาพูดพล่ามอะไรอยู่ได้?เมื่อเห็นว่าซูหรานเริ่มขมวดคิ้วพร้อมกับเครื่องหมายคำถามที่ปรากฏบนใบหน้า ซ่งฉีก็ยิ้มอย่างชั่วร้ายออกมา แล้วยืนขวางทางซูหรานเอาไว้“คุณดูอย่างผมสิ เป็นไงบ้าง? เมื่อเทียบกับผู้ชายที่ทำคุณโกรธแล้ว พอจะสู้ได้ไหม?” ซ่งฉีกะพริบตารัว ๆ ให้ซูหรานซูหรา
เมื่อเห็นว่าใบหน้าเริ่มน่าเกลียดมากขึ้นเรื่อย ๆ หลินเยว่เยว่ก็พูดขึ้นทันที“อวี้หมิง วันนี้เป็นวันเกิดของเธอ เดิมฉันไม่ควรพูดอะไรพวกนี้เพื่อให้กระทบจิตใจของเธอ แต่ว่าพวกเราคือเพื่อนกันนะ บางเรื่องฉันก็ไม่อยากที่จะปิดบังเธอ”ในที่สุดปฏิกิริยาของซ่งอวี่หมิงก็อ่อนลงซงอวี่หมิงกระตุกมุมปากทันที แล้วพูดว่า “ไม่เป็นไร ฉันรู้ว่าเธอหวังดีกับฉัน แต่ว่า......”แต่เธอชอบเย่ถิงเซินมาตั้งแต่เด็กแล้ว แม้จะผ่านมานานหลายปี เธอก็กลับไม่เคยเปลี่ยนใจเลยสักครั้ง!เมื่อหญิงสาวคนอื่น ๆ เห็นว่าจู่ ๆ ซ่งอวี่หมิงก็เศร้าขึ้นมากะทันหัน จึงรีบมุ่งเป้าไปที่ลูกพี่ลูกน้องที่หลินเยว่เยว่พูดถึงทันที“ลูกพี่ลูกน้องของเธอคือใคร? ดีกว่าอวี่หมิงของพวกเรานักรึไง? มีภูมิหลังที่ดีกว่าอวี่หมิงอีกงั้นเหรอ?”“นั่นสิ อวี่หมิง เธอไม่ต้องกังวลนะ หลินเยว่เยว่ เธอบอกชื่อลูกพี่ลูกน้องของเธอมาเลยนะ ฉันจะไปสั่งสอนเธอเดี๋ยวนี้ ให้เธอได้รู้ซะบ้าง ว่าจะมาอ่อนผู้ชายมั่วซั่วแบบนี้ไม่ได้”หญิงสาวเหล่านั้นเต็มไปด้วยความขุ่นเคืองซึ่งมันก็เป็นไปตามที่หลินเยว่เยว่ปรารถนาพอดีหลินเยว่เยว่ขมวดคิ้ว “เธอเป็นลูกพี่ลูกน้องของฉัน แม้ว่ารูปร่
คนกลุ่มหนึ่งพุ่งตรงไปทางซูหราน ซูหรานสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ และรีบดำลงน้ำทันทีหลายคนต่างก็คว้าเอาไว้ไม่ทัน เหล่าหญิงสาวที่อยู่บนฝั่งก็เริ่มกังวล ช่วยกันมองหารอบ ๆ ทันใดนั้นก็มีคนชี้นิ้วไปยังที่ที่หนึ่ง “นั่นไง เร็วเข้า เธออยู่ตรงนั้น”ทุกคนในสระว่ายน้ำมองไปยังทิศทางที่หญิงสาวชี้ซูหรานในตอนนี้ได้ว่ายจนไปหยุดอยู่ที่ด้านหลังของคนผู้หนึ่ง ในขณะที่คนกลุ่มนั้นกำลังหันกลับมาดู จู่ ๆ ซูหรานก็โผล่ขึ้นมาจากน้ำ เธอกำหมัดเอาไว้แน่น แล้วเหวี่ยงเข้าไปที่หน้าของคนที่อยู่ใกล้ที่สุด“อ๊าก......”เสียงกรีดร้องดังขึ้นทุกคนต่างก็ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง ซูหรานก็ถือโอกาสดำดิ่งลงไปในน้ำอีกครั้ง“พวกนายทำอะไรกันอยู่ อย่าปล่อยเธอหนีไปสิ!” หญิงสาวที่อยู่บนฝั่งเร่งเร้าทันทีที่พูดจบ ก็มีใครบางคนในสระว่ายน้ำร้องอุทานขึ้นมาอีกครั้ง ในช่วงเวลาต่อมา คนผู้นั้นก็จมลงไปในน้ำทันที พร้อมกับความตื่นตระหนก พยายามแกะมือที่จับข้อเท้าของเขาออก แต่การเตะเท้าในน้ำของเขากลับเตะโดนแค่ฝ่ายของตัวเอง ไม่นาน ในน้ำก็ตกอยู่ในความวุ่นวายพวกหญิงสาวที่อยู่รอบ ๆ โกรธจนแทบจะระเบิดอย่างไรก็ตาม กลับไม่มีใครรู้เลยว่า ซูหรานออกไปจากสระ
กลุ่มชายหญิงที่ตัวเปียกชุ่มเดินไปทางเย่ถิงเซิน ในขณะที่กำลังจะขอโทษ กลับถูกเย่ถิงเซินหยุดเอาไว้“ไม่จำเป็น”น้ำเสียงของเย่ถิงเซินฟังดูเย็นชาตอนแรกคนเหล่านั้นคิดว่าเย่ถิงเซินคงจะเห็นแก่หน้าของคุณลุงซ่ง ถึงได้ไม่ต้องการให้พวกเขาขอโทษ ขณะที่กำลังได้ใจอยู่นั่นเอง ไม่นานเสียงของเย่ถิงเซินก็พูดขึ้นว่า “คนที่พวกเขาควรขอโทษไม่ใช่ผม แต่เป็นเธอ”เย่ถิงเซินแทบไม่หันไปมองคนเหล่านี้ด้วยซ้ำเขากวาดสายตาไปทางซ่งเหลียน สุดท้ายจึงกลับมามองที่ซูหราน“เธอเหรอ?” ใบหน้าของหญิงสาวเหล่านั้นเต็มไปด้วยความรังเกียจก็แค่ผู้หญิงที่คุณชายใหญ่เย่พามาด้วย จะแบกรับคำขอโทษจากพวกเธอไหวได้ยังไง?ซ่งเหลียนเองก็เหลือบมองไปทางซูหราน แต่เขาก็ไม่ได้แสดงเจตนาอยากจะพูดแต่อย่างใดมีความรู้สึกเย็นชาในแววตาของซูหราน ทันใดนั้น เธอก็ดึงความสนใจของเย่ถิงเซิน “พี่คะ ฉันหนาว ถ้าไม่มีเรื่องอะไรแล้ว งั้นฉันขอตัวกลับก่อนนะคะ”หลังพูดจบ ซูหรานก็หมุนตัวกลับ เธอที่เพิ่งจะก้าวเท้าออกไป เย่ถิงเซินก็รีบก้าวตามไปทันที ในขณะเดียวกันนั้นเอง ซ่งฉีก็เดินตามซูหรานไปด้วย“ผมก็จะไปกับคุณด้วย......”“ผมจะไปส่งคุณเอง”พวกเขาทั้งสองแทบจะ
ซูหรานกลับไปที่วิลล่าตระกูลเย่พวกเขาออกมาจากงานเต้นรำก่อนเวลา ในตอนที่กลับมาถึงวิลล่าตระกูลเย่ คุณท่านเย่เองก็ยังไม่ถึงเวลาพักผ่อน เมื่อเห็นว่าซูหรานที่ถูกห่อด้วยผ้าเช็ดตัวกำลังเดินเข้ามา พร้อมกับเสื้อสูทของเย่ถิงเซินที่พาดอยู่บนตัว แถมผมก็เต็มไปด้วยน้ำอีก คุณท่านเย่จึงทักเธอขึ้นมาในทันที “หรานหราน เกิดอะไรขึ้น? ทำไมถึงเป็นแบบนี้ไปได้?”ทันทีที่คุณท่านเย่พูดจบ ซูหรานก็จามออกมาทันทีใบหน้าของคุณท่านเย่ดูน่าเกลียดขึ้นกว่าเดิม เขารีบสั่งพ่อบ้านทันที “รีบไปบอกให้ป้าจางเตรียมน้ำอุ่นเร็วเข้า จะได้ให้หรานหรานลงไปแช่ กำจัดพิษไข้”ซูหรานต้องการอาบน้ำอุ่นจริง ๆ นั่นแหละเธอมองไปทางคุณท่านเย่ด้วยความสบายใจ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร จากนั้นเธอก็เดินขึ้นชั้นบนกลับห้องไปแต่ใบหน้าของคุณท่านเย่นั้นกลับดูน่าเกลียดมากยิ่งขึ้นสายตาจ้องมองไปทางเย่ถิงเซิน เสียงของคุณท่านเย่ก็ถามขึ้นมาอย่างเย็นชา:“ถ้าฉันจำไม่ผิด วันนี้เป็นงานเลี้ยงเต้นรำฉลองวันเกิดของพี่น้องฝาแฝดตระกูลซ่งสินะ เธอพาหรานหรานไปด้วย แต่พาเธอกลับมาในสภาพนี้เนี่ยนะ? เกิดอะไรขึ้นกันแน่?”ดวงตาของเย่ถิงเซินเต็มไปด้วยการตำหนิตนเอง “เป็นผมเ
รอยยิ้มปรากฏขึ้นมาบนใบหน้าของของฟู่จิ้นหานขณะที่รถกำลังจะขับไปที่ลานจอดรถใต้ดิน ฟู่จิ้นหานก็พูดขึ้นว่า “หยุดรถ”ฉินฟั่งสะดุ้งนิดหน่อย คิดว่าบาดแผลของเขามีบางอย่างผิดปกติ เขาจึงรีบหยุดรถ พร้อมกับถามออกไปด้วยความกังวลว่า “คุณชายครับ หรือว่าบาดแผล......”“ฉันไม่เป็นไร” ดวงตาของฟู่จิ้นหานยังคงจ้องมองไปที่จุดที่มีแสงสว่างอยู่แม้เขาจะบอกว่าไม่เป็นไร แต่หน้าผากของเขากลับยังมีเม็ดเหงื่อไหลออกมาไม่หยุดฉินฟั่งมองตามแนวสายตาของเขา และสังเกตเห็นจุดที่มีแสงสว่าง เขาถึงเข้าใจได้ในทันทีว่าไม่ว่ายังไงคุณชายก็จะไม่กลับบ้านแน่นอน เพียงแต่ต้องแน่ใจก่อนว่าคุณผู้หญิงจะอยู่บ้านรึเปล่า“ไปเถอะ!” ฟู่จิ้นหานกังวลว่าจะยังมีคนติดตามเขาอยู่ จึงไม่กล้าจอดรถอยู่ที่นี่นานเกินไปฉินฟั่งเข้าใจว่าเขาหมายถึงอะไร จึงรับคำสั่ง และขับรถออกไปทันที......ณ โรงแรมไห่เฉิง เย่ซือเหยียนรีบลงจากรถเดิมทีเธออยู่ในโรงพยาบาล แต่ทันทีที่รู้ว่าฟู่จิ้นหานแอบจากไปเงียบ ๆ เธอก็รู้ได้ในทันทีว่าเขาจะต้องกลับไปหาซูหรานเธอโทรกลับไปที่วิลล่าตระกูลเย่ และถามถึงที่อยู่ของซูหราน“เธอน่าจะนอนไปแล้วค่ะ วันนี้คุณหนูหรานหรานตกน้ำ เธ
แก้มของซูหรานแดงยิ่งกว่าเดิม เธอตกใจอย่างเห็นได้ชัดแต่หลังจากนั้น เธอก็รู้สึกเวียนหัวขึ้นมา “สามีงั้นเหรอ? สามีอะไรกัน?”ซูหรานมองดูโทรศัพท์ แต่สายตาของเธอก็ยังคงพร่ามัวเกินกว่าจะมองเห็นได้ชัดเจน ความเหนื่อยล้าทางร่างกายก็มาเยือน ซูหรานทิ้งตัวลงบนโซฟา เธอค่อย ๆ ปรับลมหายใจให้สม่ำเสมอการเชื่อมต่อของโทรศัพท์ยังคงดำเนินต่อไปภายในโรงแรม สีหน้าของฟู่จิ้นหานดูเคร่งขรึม“ซูหราน?” เขาพยายามเรียกเธออยู่หลายครั้ง แต่ก็ไม่มีการตอบกลับจากซูหรานผู้หญิงคนนี้คงเมามากจนเผลอหลับไปแล้วแน่ ๆ!ด้วยความกังวลว่าเธอไม่มีใครดูแล สุดท้ายฟู่จิ้นหายจึงยอมทนพิษบาดแผล แล้วโทรหาฉินฟั่ง“คุณชายครับ?” ฉินฟั่งเดินเข้ามาในห้องนอน และเห็นร่ายกายท่อนบนที่เปลือยเปล่าของฟู่จิ้นหาน จากนั้นก็ได้ยินเสียงคำสั่งจากเขาทันที “เอาชุดของบอดี้การ์ดมาให้ฉันหน่อย”ฉินฟั่ง “......”หลังจากตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง ฉินฟั่งก็ถามขึ้นทันที “คุณชาย คุณจะเอาชุดบอดี้การ์ดไปทำไมครับ?”“ฉันให้นายเอามาก็เอาเถอะ เร็วเข้า พูดไร้สาระมากมายขนาดนั้นเพื่ออะไร?” ฟู่จิ้นหานเอาแต่คิดถึงเรื่องที่ซูหรานเมาแต่กลับไม่มีคนดูแล เขาแทบจะอยากไปอยู่ข้าง