คำพูดของวังม่านหลินดูเหมือนจะจุดไฟในใจของจี้หลิน"ฮึ ดี กูจะไปสั่งสอนมันเดี๋ยวนี้แหละ" จี้หลินมองดูคนรอบข้างที่กำลังสนุกสนาน แล้วเดินออกจากบาร์อย่างเงียบๆวังม่านหลินยิ้มอย่างสมใจส่งข้อความไปหาซูอิน "เรียบร้อยแล้ว รอดูละครสนุกได้เลย อ้อ ของที่เธอให้มาน่ะ ได้ผลแค่ไหน?"ตอนที่รินเหล้าเมื่อกี้ วังม่านหลินแอบใส่ของบางอย่างลงไปอย่างแนบเนียนไม่นานเธอก็ได้รับข้อความตอบกลับจากซูอิน「รอดูสิ แล้วจะรู้เอง」วังม่านหลินยิ้มเยาะพลางจิบเหล้า รู้สึกตื่นเต้นมากรอบๆ เต็มไปด้วยเสียงอึกทึกครึกโครม บางคนกำลังดื่ม บางคนกำลังเต้นรำเย่ซือเหยียนถูกคนห้อมล้อมเอาใจ เธอเมาได้ห้าส่วนแล้ว แต่เมื่อครู่ที่วังม่านหลินเข้าไปหาจี้หลิน เรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดเธอเห็นอย่างชัดเจนนึกถึงซูหรานที่อยู่ชั้นบนสุด เย่ซือเหยียนแกล้งทำเป็นกังวลแล้ววางแก้วลง"ฉันไม่ดื่มแล้ว น้องสาวฉันอยู่คนเดียว ถ้าฉันเมา ก็ดูแลเธอไม่ได้"เย่ซือเหยียนลุกขึ้น ก้าวเดินโซเซ พอลุกขึ้นก็เซไปทันทีเพื่อนผู้หญิงคนหนึ่งพอดีเข้ามาพยุงเธอไว้ "ซือเหยียน เธอดูแลน้องสาวดีจัง แต่ไม่ต้องกังวลหรอก เธอโตแล้ว ดูแลตัวเองไม่ได้เหรอ? อีกอย่าง ทั้งเร
ร่างของซูหรานกระแทกราวกั้น แต่ก็ยังไม่สามารถทรงตัวได้ขณะที่พลิกข้ามราวกั้น ซูหรานคิดว่าตัวเองคงต้องตายแล้วซูหรานร่วงลงน้ำ ทำให้เกิดละอองน้ำขนาดใหญ่ น้ำทะเลเย็นเฉียบโถมเข้าใส่ ในสมองของซูหรานมีภาพมากมายแวบผ่าน...แม่... เสิ่นยวน...เธอยังไม่ได้ค้นหาสาเหตุการตายของแม่ และไม่ได้พบเสิ่นยวนมานานแล้วยังมีคุณปู่เย่อีกถ้าเธอตาย คุณปู่เย่คงไม่สามารถหาความปลอบประโลมจากความคิดถึงลูกสาวผ่านตัวเธอได้อีกแล้วสินะ?แล้วก็พี่ชายเย่...สุดท้าย ในสมองของเธอปรากฏใบหน้าหล่อเหลาราวกับเทพบุตรสัญญากับสามีคนดังของเธอยังมีผลอยู่ เธอยังเป็นหนี้เขาห้าพันล้านบาท ถ้าเธอตาย สามีคนดังคงจะขาดทุนแย่เลย!จู่ๆ เธอก็อยากรู้ว่าตอนนี้สามีคนดังกำลังทำอะไรอยู่แต่ดูเหมือนว่าเธอคงไม่มีโอกาสได้เห็นใบหน้าหล่อเหลานั้นอีกแล้วความรู้สึกหมดเรี่ยวแรงเข้าครอบงำ ซูหรานค่อยๆ หลับตาลง...ขณะนั้น ในบาร์ เย่ซือเหยียนก็ "เห็น" สายเรียกเข้าจากเย่ถิงเซินในที่สุดเธอแกล้งทำเป็นรีบร้อนโทรกลับ "ฮัลโหล พี่? มีอะไรรีบร้อนขนาดนั้น..."ปลายสาย เย่ถิงเซินขมวดคิ้ว มองเรือสำราญลำหนึ่งด้านหน้า กำลังจะถามถึงซูหรานจู่ๆ คนขับเรือก็
บริษัทชิงอวิ๋นของฟู่ซือ!ทำไมพวกเขาถึงมาที่นี่?การปรากฏตัวของหลายสิบคนจากบริษัทชิงอวิ๋นของฟู่ซือพร้อมกัน เป็นฉากที่ยิ่งใหญ่ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนฟู่จิ้นหาน...เย่ซือเหยียนนึกอะไรขึ้นได้ รีบมองไปรอบๆ เห็นเรือสีขาวลำหนึ่งอยู่ไม่ไกลเขามาเร็วขนาดนี้ และยังส่งบริษัทชิงอวิ๋นมาด้วยเย่ซือเหยียนกัดริมฝีปาก แต่ไม่นานก็มีรอยยิ้มเยาะในดวงตาซูหรานถูกเย่ถิงเซินพาไปแล้ว เขามาหาก็ไม่มีประโยชน์แม้แต่การมาช่วยเหลือแบบวีรบุรุษก็สายไปแล้ว!แต่เธอไม่รู้ว่า ฟู่จิ้นหานไม่ได้มาหาซูหราน แต่มาหาคนที่ทำร้ายซูหราน"จับมัดทั้งหมด"ฉินฟั่งออกคำสั่ง คนด้านหลังรีบพุ่งเข้าหาคนที่อยู่ในที่นี้ ไม่นานทุกคนก็ถูกมัดรวมทั้งเย่ซือเหยียนเย่ซือเหยียนรู้จักฉินฟั่ง จึงโกรธทันที "ฉินฟั่ง แกไม่รู้หรือว่าฉันเป็นใคร?""คุณหนูเยี่ย ขอโทษครับ ผมแค่ทำตามคำสั่ง คุณและเพื่อนๆ ของคุณ แค่บอกว่าใครทำร้ายคุณซูเมื่อคืน พอจับตัวคนนั้นได้ ผมจะสั่งให้คนปล่อยทันที"ฉินฟั่งเพียงแค่มองเย่ซือเหยียนเย่ซือเหยียนได้ยินแบบนั้น ดูเหมือนจะตกใจ แล้วถามอย่างเป็นห่วง"หรานหราน? หรานหรานบาดเจ็บเหรอ? ฉันหาทั้งคืน ไม่เจอหรานหรานเลย เกิดอะไ
ซูหรานจับมือเย่ถิงเซินแน่นมากเย่ถิงเซินโน้มตัวลงเล็กน้อย แรงนั้นทำให้เขาเสียหลักอย่างไม่ทันตั้งตัว เกือบจะล้มทับซูหรานแต่ในจังหวะสำคัญ เขาใช้มืออีกข้างยันขอบเตียงไว้ ทำให้ทรงตัวได้ถึงอย่างนั้น ใบหน้าของซูหรานก็อยู่ใกล้แค่เอื้อมขนตาของเย่ถิงเซินสั่นไหว หัวใจเต้นเร็วขึ้น เขาถึงกับไม่ได้สนใจว่าซูหรานพูดอะไรตอนคว้ามือเขาจนกระทั่งซูหรานละเมออีกครั้ง"ที่รัก ช่วยฉันด้วย!"ครั้งนี้สีหน้าซูหรานดูสงบขึ้น แต่ยังขมวดคิ้วอยู่ มือที่จับเขาก็ยังออกแรงไม่หยุดที่รัก...เย่ถิงเซินก้มหน้า แววตาหม่นหมองวูบหนึ่งไม่นาน เขาเม้มปาก ยกมือลูบคิ้วซูหรานเบาๆ หวังจะคลายความกังวลของเธอ"หรานหราน ไม่เป็นไรแล้ว ไม่เป็นไรแล้ว"เย่ถิงเซินปลอบเสียงนุ่มนวลค่อยๆ คิ้วของซูหรานคลายลง ราวกับในฝันเธอพ้นจากอันตรายแล้ว แต่มือที่จับเย่ถิงเซินก็ยังไม่ปล่อยเย่ถิงเซินปล่อยให้เธอจับมือเขาแบบนั้นจนกระทั่งได้ยินเสียงพอบ้านจากชั้นล่าง"คุณชายสามฟู่ มาแล้วหรือครับ ท่านมาหาคุณหนูหรือคุณชายใหญ่...""ฉันมาหาซูหราน!"พอบ้านชะงัก ดูเหมือนไม่คิดว่าคุณชายสามฟู่จะรู้จักคุณหนูหรานเขามองไปที่ชั้นสองโดยไม
"คุณหนูใหญ่เย่หรือครับ?"ฉินฟั่งงงเล็กน้อยเขาเห็นสายตาของนายตนเคร่งขรึมขึ้น จึงรายงานทันที"ในวิดีโอที่พวกเขาบันทึกไว้ คุณหนูใหญ่เย่กำลังจะไปดูคุณหนูซูระหว่างที่ดื่มเหล้า แต่ถูกพวกนั้นรั้งให้ดื่มต่อ""ต่อมาดูเหมือนคุณหนูใหญ่เย่จะเมาด้วย ในกล้องวงจรปิดบนดาดฟ้า หลังเที่ยงคืน คุณหนูใหญ่เย่รีบขึ้นไปอย่างเร่งรีบ ดูกังวลมาก ราวกับกำลังตามหาคุณหนูซู"ฟู่จิ้นหานจ้องเย่ถิงเซินด้วยสายตาลึกล้ำ"คุณสงสัยเธอหรือ?"ฟู่จิ้นหานเพิ่งถามออกไป จู่ๆ ก็มีเสียงดังมาจากนอกประตู"ใครน่ะ?" ฉินฟั่งรีบออกไปดู เห็นคนที่มีสีหน้าตกใจ "คุณหนูใหญ่เย่..."เย่ซือเหยียนมองฟู่จิ้นหานและเย่ถิงเซินในห้องแวบหนึ่ง แล้วเดินเข้ามาในห้องอย่างไม่ลังเลเธอรีบอธิบายทันทีที่เข้ามา "ไม่ใช่ฉัน ฉันไม่ได้ทำอะไรทั้งนั้น ฉันแค่อยากพาหรานหรานออกทะเลไปเปลี่ยนบรรยากาศ ฉันไม่คิดว่าเธอจะมีปัญหากับจี้หลิน ยิ่งไม่คิดว่าจี้หลินจะพยายามทำร้ายหรานหราน ทำให้หรานหรานตกน้ำ..."เธอแสดงสีหน้าตื่นเต้น ดวงตาจริงใจ ราวกับต้องการพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเอง จู่ๆ เธอก็ยกมือสาบาน"ถ้าฉันจะทำร้ายหรานหราน ขอให้ฟ้าผ่า ตายไม่ดีเลย!"เย่ซือเหยียนมอ
การเคลื่อนไหวของเย่ถิงเซินหยุดชะงักฟู่จิ้นหานเลิกคิ้วพร้อมกับเผยรอยยิ้ม เหลือบมองไปทางเย่ถิงเซินด้วยสายตาแห่งชัยชนะ จากนั้นจึงขับรถจากไป“คุณชายใหญ่เย่ครับ......” คนขับรถตระกูลเย่เปิดประตูรถเย่ถิงเซินก็ได้สติ หลังจากที่ขึ้นรถแล้ว คำพูดของฟู่จิ้นหานกลับยังคงวนเวียนอยู่ในใจของเขาคนที่สำคัญที่สุดงั้นเหรอ?ฟู่จิ้นหานถึงขั้นยกให้ซูหรานเป็นคนที่สำคัญที่สุด!หากเป็นคืนนั้นในเมื่อก่อน เขาคงจะโกรธ โกรธที่ฟู่จิ้นหานไม่รักษาสัญญาที่ให้ไว้กับอาเหยียน แต่ในเวลานี้เขาเข้าใจทุกสิ่งได้อย่างชัดเจน ในใจตัวเองยิ่งรู้สึกถึงวิกฤติมากขึ้นกว่าเดิมเขาไม่อยากให้ซูหรานและฟู่จิ้นหานคบกันเมื่อเขามาถึงบริษัท สิ่งแรกที่เย่ถิงเซินทำก็คือให้คนส่งข้อมูลเกี่ยวกับ “วังม่านหลิน” มาให้เขาและทางฝั่งของตึกฟู่ซือกรุ๊ปฟู่จิ้นหานเองก็กำลังดูข้อมูลของ “วังม่านหลิน” ด้วยเช่นกันตระกูลวังเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ประจำท้องถิ่นของไห่เฉิง การเติบโตในช่วงไม่กี่มีที่ผ่านมาค่อนข้างไปได้สวยวังม่านหลิน ลูกสาวคนเดียวของตระกูลวัง เธอเป็นเพื่อนร่วมชั้นตอนมัธยมปลายของซูหรานทั้งคืนนั้นที่บาร์และครั้งล่าสุดที่พิพิธภัณฑ์ ว
เย่ซือเหยียนจงใจทำให้คำพูดของเธอฟังดูคลุมเครือซูหรานที่เพิ่งรับโทรศัพท์มา สีหน้าก็ดูไม่เป็นธรรมชาตินิดหน่อยเย่ถิงเซินที่อยู่ปลายสายเองก็ดูไม่เป็นธรรมชาติพอ ๆ กัน เขาอยากที่จะอธิบาย แต่จู่ ๆ เขาก็นึกอะไรออก จากนั้นก็ล้มเลิกความคิดที่จะอธิบายไปทันที“คุณตื่นแล้วเหรอ ผมจะให้ผู้ช่วยไปรับคุณนะ” เย่ถิงเซินไม่ค่อยว่างใจเท่าไหร่ที่จะให้ซูหรานอยู่ที่วิลล่าตระกูลเย่ต่อแม้ว่าจะมีหลักฐานอยู่ในมือแล้ว แต่ก็ไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าเย่ซือเหยียนจะเคยทำอะไรซูหรานแต่เขาก็ยังคงไม่ไว้ใจเย่ซือเหยียนอยู่ดีทันทีที่เย่ถิงเซินพูดจบ เขาก็วางสายทันทีซูหรานจ้องมองโทรศัพท์อยู่นานท่าทางของเย่ซือเหยียนเองก็ดูอยากรู้อยากเห็น “หรานหราน พี่พูดว่าอะไรเหรอ?”“เขาบอกว่าจะให้ผู้ช่วยมารับฉัน......”ซูหรานคิดในใจ พี่ชายเย่คงจะมีเรื่องที่ต้องการคุยกับเธอ เพราะงั้นเธอจึงไม่ได้คิดอะไรมากแต่ในใจเย่ซือเหยียนก็รู้ดี ว่าเย่ถิงเซินกำลังปกป้องเธออยู่อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เธอต้องการให้ซูหรานรู้ เมื่อกี้เธอก็ได้พูดไปหมดแล้วเมื่อนึกถึงฟู่จิ้นหาน สีหน้าที่ดูซับซ้อนของเย่ซือเหยียนก็เหลือบมองไปทางซูหราน “เธอเคยเจอกับคุณช
ทันทีที่ถามออกไปแบบนั้น ร่างกายของวังม่านหลินก็แข็งทื่อทันที“เรื่องอะไรที่ไม่เกี่ยวกับเธอ?” ซูหรานถามออกไปอีกครั้งดวงตาของวังม่านหลินเป็นประกาย จากนั้นก็เปลี่ยนความตื่นตระหนกทันที “ฉันพูดอะไร? ฉันไม่ได้พูดอะไรทั้งนั้น!”“วันนั้นบนเรือสำราญ ฉันจำได้ว่าเธอเองก็อยู่ด้วย!” ซูหรานพูดอย่างใจเย็น “จะบอกว่าเธอกับจี้หลิน ไม่เคยติดต่อกันเลยงั้นเหรอ?”ราวกับว่าเธอถูกจับได้คาหนังคาเขา วังม่านหลินไม่รู้เลยจริง ๆ ว่าจะมีพลังที่ไหนที่พอจะช่วยดึงซูหรานออกไปได้บ้าง“ติดต่ออะไร? ถึงแม้ว่าฉันจะอยู่ด้วย แต่ว่าฉันกับคุณชายจี้อะไรนั่นก็ไม่เคยไปมาหาสู่กันมาก่อน!”“งั้นเหรอ?”ซูหรานไม่เชื่อการตอบสนองที่รุนแรงขนาดนี้ เห็นได้ชัดเจนว่ากำลังรู้สึกผิดอยู่แต่ถ้าต้องการที่จะเค้นถามอะไรจากปากของเธอ เกรงว่าคงจะเสียแรงเปล่าซูหรานเลิกคิ้วเล็กน้อย “ได้ ในเมื่อเธอบอกว่าไม่เคยไปมาหาสู่กัน งั้นฉันจะเชื่อก็ได้ ลาก่อนนะ!”ซูหรานโบกมือให้เธอ พร้อมกับรอยยิ้ม แล้วเดินจากไปวังม่านหลินยังคงตกตะลึงอยู่เดิมเธอคิดว่าซูหรานน่าจะเค้นถามคำถามจากเธอมากกว่านี้ แต่นี่เธอกลับเดินจากไปเฉย ๆเมื่อเธอนึกอะไรออก วังม่านหลิน