“ลู่ซิวหนิง นี่นายคิดจะทำอะไรกันแน่?”ซูหรานไม่เคยปิดบังความรู้สึกรังเกียจเขาเอาไว้เลยแม้แต่น้อยลู่ซิวหนิงนึกถึงสิ่งที่คุณย่าของเขากำชับ หลังจากที่กลับมาจากบ้านตระกูลซูวันนั้น ก็ไม่รู้ว่าคุณย่าเป็นอะไรไป เธอพยายามเตือนไม่ให้เขาคบหากับอินอินหลายต่อหลายครั้งถ้าไม่ใช่เพราะสิ่งที่ซูหรานพูดขึ้นที่บ้านตระกูลซูในวันนั้น คุณย่าก็คงจะไม่เกลียดอินอินมากขึ้นเรื่อย ๆ แบบนี้ทุกอย่างเป็นความผิดของซูหรานพอคิดแบบนั้น ลู่ซิวหนิงก็มองซูหรานด้วยสายตาที่ดุดันมากยิ่งขึ้น “ฉันก็มาเตือนเธอไงล่ะ อย่าคิดเล่นลูกไม้อะไรทำร้ายอินอินอีก และวันนี้ก็เป็นวันที่คุณท่านเย่จะรับหลานสาวคนใหม่ ส่วนเธอก็เก็บเอามารยาร้อยเล่มเกวียนนั่นของเธอไปซะ” ซูหราน “? ? ?”ถ้าไม่ใช่เพราะว่าสีหน้าของเขาในตอนนี้ไม่ได้น่ารำคาญมากขนาดนั้นเธอคงคิดว่าลู่ซิวหนิงเป็นนักบุญผู้ยิ่งใหญ่หาใครเปรียบไปแล้วห้ามคิดเล่นลูกไม้ทำร้ายซูอินอย่างนั้นสินะ?แล้วก็เลิกยั่วยวนคนอื่นด้วยใช่ไหม?“ไสหัวไปไกล ๆ ส้นเท้าเลยไป จะสาระแนอะไรเบอร์นั้น พ่อแม่รู้เรื่องปะเนี่ย?”ซูหรานสบตากับลู่ซิวหนิง หากที่นี่ไม่ได้กำลังจะจัดงานมงคลอยู่ล่ะก็ เธอคงใช้เท้า
ซูหรานกรีดร้องด้วยความตกใจ แต่ในไม่ช้า ก็มีมือใหญ่อีกข้างปิดปากของเธอเอาไว้เสียงกรีดร้องหยุดลงในทันทีซูหรานได้กลิ่นแอลกอฮอล์ที่ค่อนข้างรุนแรง จากนั้นเสียงทุ้มต่ำของชายคนหนึ่งก็ดังขึ้นเหนือหัวของเธอ “อย่าเสียงดัง ไม่งั้นจะดึงดูดผู้คนมาได้ ถ้าเกิดมาเห็นผมกับคุณเข้า พรุ่งนี้คุณกับผมคงได้ขึ้นข่าวหน้าหนึ่ง” ฟู่จิ้นหานจงใจใช้เสียงทุ้มต่ำแต่เขากลับหวังให้คนมาแอบถ่ายพวกเขามากกว่าเสียอีกแต่พอนึกขึ้นได้ว่าซูหรานเกลียด “คุณชายสามฟู่” มากแค่ไหน ฟู่จิ้นหานจึงทำได้เพียงข่มใจเอาไว้เท่านั้นเขากะว่าคืนนี้จะทำให้ซูหรานกับ “คุณชายสามฟู่” ได้ทำความรู้จักกันดี ๆ ถ้าหากสามารถเปลี่ยนความคิดแง่ลบที่ซูหรานมีต่อเขาได้ก็คงจะดีเป็นอย่างที่คิด คำพูดของเขาทำให้ซูหรานสงบลงมากกลิ่นแอลกอฮอล์ทำให้เธอนึกถึงคืนนั้นในบ้านพักตระกูลลู่โดยไม่รู้ตัวร่างของคุณชายสามฟู่เองก็มีกลิ่นแอลกอฮอล์ที่แรงแบบนี้เหมือนกัน“คะ......คุณคือใคร?”ซูหรานถามออกไปอย่างระมัดระวัง “คุณ......คุณคงไม่ทำร้ายฉันหรอกใช่ไหม?”ไม่มีคำตอบใด ๆ ออกมาจากความมืดนั้นซูหรานกลืนน้ำลายและพูดต่อว่า “คุณ......คุณใจเย็น ๆ นะคะ ที่นี่คือวิลล่าตระ
“คุณไปได้แล้ว!”เสียงของฟู่จิ้นหานดูเหมือนจะกำลังปกปิดบางสิ่งบางอย่างเอาไว้ ไม่นานก็กลับมาเย็นชาทันทีปฏิกิริยาที่เปลี่ยนกะทันหันทำให้ซูหรานรู้สึกแปลกมากยิ่งขึ้น“คุณ......”“หรือคุณไม่อยากไป? ในเมื่อเป็นอย่างนั้น......”ซูหรานยังไม่ทันได้พูดจบ จู่ ๆ ฟู่จิ้นหานก็มองไปทางซูหราน พร้อมกับนัยน์ตาสีดำสนิทของเขา ยิ่งทำให้เขาดูเหมือนเป็นสัตว์นักล่ามากยิ่งขึ้นไปอีกหัวใจของซูหรานสั่นไหว“ไปค่ะ ฉันจะไปแล้ว ฉันจะไปตอนนี้เลยค่ะ”ซูหรานยิ้มแห้ง ๆ ราวกับว่าเธอกลัวว่าคนที่อยู่ตรงหน้าเธอจะเปลี่ยนใจ และไม่ยอมให้เธอจากไปร่างของซูหรานค่อย ๆ หายไปจากสายตา ฟู่จิ้นหานยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว จากนั้นจึงถอดหน้ากากบนใบหน้าของเขาออกซูหรานเดินเข้าไปหาฝูงชนบริเวณทางแยกข้าง ๆ เย่ซือเหยียนก็ค่อย ๆ เดินออกมาเธอได้ยินมาว่าฟู่จิ้นหานอยู่แถวนี้ ดังนั้นเธอจึงมาที่นี่ แต่คิดไม่ถึงว่าเธอจะพบเข้ากับซูหรานเมื่อกี้เธออยู่กับฟู่จิ้นหานงั้นเหรอ?เธอขมวดคิ้วเข้าเล็กน้อย เย่ซือเหยียนยังคงเดินตรงเข้าไปข้างใน ในที่สุดเธอก็เห็นฟู่จิ้นหานที่อยู่ใต้กำแพงดอกไม้ ไม่นานเธอก็สามารถยืนยันการคาดเดาของเธอได้ทันทีแต่เธอก็ก
หลังจากที่เย่ถิงเซินพูดจบ เขาก็มองไปทางซูหรานด้วยรอยยิ้มซูหรานกลับทำอะไรไม่ถูกอย่างสิ้นเชิงคุณปู่งั้นเหรอ?ชายชราคือคุณปู่ของเย่ถิงเซิน? เช่นนั้นเขาก็คือคุณท่านจากตระกูลเย่แห่งจิงเฉิงน่ะสิ?นอกจากนี้......เธอยังเป็นคนที่เขาอยากพามาให้คุณปู่รู้จักงั้นเหรอ?นี่เธอเข้าใจอะไรผิดอยู่รึเปล่านะ?คงไม่ได้หมายถึงจะพาเธอมาพบครอบครัวอะไรแบบนั้นหรอกมั้ง?ซูหรานหายใจเข้าลึก ๆ พยายามเลี่ยงสายตาของเย่ถิงเซิน และบอกกับตัวเองในใจว่า ต้องไม่ใช่การพามาเจอครอบครัวอะไรทำนองนั้นแน่นอนเธอกับพี่ใหญ่เย่เป็นเพื่อนกัน การที่เพื่อนพาเพื่อนมาเจอผู้อาวุโส ก็ถือเป็นเรื่องปกติแต่ในฐานะผู้ชมอย่างจี้เยี่ยนโจว กลับรู้สึกตกใจไม่น้อยในเวลานี้สายตาที่เย่ถิงเซินมองซูหราน ไม่สามารถบอกได้จริง ๆ ว่าเขาบริสุทธิ์ใจกับซูหรานทันใดนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่า ไม่ใช่ว่าเย่ถิงเซินจริงจังกับซูหรานหรอกใช่ไหม?เวรเอ้ย!ปฏิกิริยาแรกของจี้เยี่ยนโจวคือ ความสัมพันธ์ระหว่างฟู่จิ้นหานกับเย่ถิงเซินไม่มีทางกลับมาคืนดีกันได้แน่และครั้งนี้ ซูหรานก็ไม่เหมือนกับอาเหยียนในปีนั้นด้วยความรักของเย่ถิงเซินที่มีต่ออาเหยียนนั้นมีมากว่าค
ความรู้สึกซูอินยิ่งรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อได้ยินเสียงเหล่านั้นไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองกำหมัดเอาไว้แน่นตั้งแต่เมื่อไหร่เป็นซูหรานไปได้ยังไง?ทำไมต้องเป็นเธอด้วย?ห่างไปไม่ไกลนัก ลู่ซิวหนิงก็จ้องมองไปทางซูหรานด้วยสีหน้าไม่อยากจะเชื่อเขาหวังว่าจะเป็นหนึ่งในใครก็ตามที่อยู่ท่ามกลางฝูงชน แต่ต้องไม่ใช่ซูหราน แต่เห็น ๆ อยู่ว่าคุณท่านเย่ให้ความสนใจกับซูหรานเป็นอย่างมาก“ซูหรานผู้นี้มีความสามารถมากจริง ๆ “ไม่ว่ายังไงคุณหญิงย่าลู่ก็นึกไม่ถึง ว่าหลานสาวคนใหม่ของคุณท่านเย่จะเป็นซูหรานโชคใหญ่ก้อนนี้ถูกซูหรานเก็บไปได้แล้วจริง ๆ หากในตอนนั้นซิวหนิงจับซูหรานเอาไว้ได้ เช่นนั้นตอนนี้ตระกูลลู่และตระกูลเย่คงกลายเป็นทองแผ่นเดียวกันไปแล้ว นี่มันความมั่งคั่งที่มาพร้อมกับโอกาสเชียวนะทุกคนต่างก็จ้องมองไปทางซูหรานและในขณะเดียวกันนี้เอง ซูหรานกลับมีสีหน้าที่เหมือนจะทำอะไรไม่ถูกทันใดนั้น คุณท่านเย่ก็ถอนหายใจ แล้วน้ำตาก็ไหลอาบแก้มของเขาพอซูหรานนึกถึงความคิดถึงคนึงหาของชายชราในสวนวันนั้นที่มีต่อลูกสาวของเขา จู่ ๆ เธอก็ใจอ่อน แล้วเอ่ยหนึ่งคำออกมา “ได้ค่ะ”ทันใดนั้นคุณท่านเย่ก็ยิ้มแย้มด้วยควา
ซูหรานหันกลับมาแววตาของเย่ถิงเซินทำให้ซูหรานตกใจนิดหน่อย “พี่ใหญ่เย่มีอะไรจะพูดกับฉันรึเปล่าคะ?”ซูหรานนึกถึงเรื่องการรับหลานสาวเมื่อกี้ เธอก็คิดว่าตัวเองควรจะให้คำอธิบายแก่เย่ถิงเซินด้วยเช่นกัน“พี่ใหญ่เย่คะ ฉันไม่รู้จริง ๆ ว่าเขาคือคุณท่านเย่ วันนั้นพวกเราพบกันโดยบังเอิญ......”ซูรานเล่าสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนั้นให้ฟัง รวมถึงเรื่องที่ส่งคุณท่านเย่ไปที่โรงพยาบาลด้วย“แต่ฉันเองก็ไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงอยากรับฉันมาเป็นหลานสาวของเขา” ซูหรานในตอนนี้ก็ยังรู้สึกงงอยู่เช่นกันหลังจากพูดอย่างนั้นแล้ว ก็ดูเหมือนเธอจะนึกอะไรบางอย่างออก เธอหยิบการ์ดดำที่คุณท่านเย่มอบให้เธอในงานเลี้ยงออกมา“พี่ใหญ่เย่คะ รบกวนพี่ช่วยฉันนำสิ่งนี้ไปคืนผู้อาวุโสหน่อยนะคะ”ของสิ่งนี้มันล้ำค่าเกินไปสำหรับเธอเย่ถิงเซินยังคงจ้องมองซูหราน และไม่ยอมรับการ์ดดำที่เธอยื่นมาให้บรรยากาศโดยรอบตกอยู่ในความเงียบซูหรานที่ถูกเขาจ้องมอง ก็เริ่มไม่เป็นตัวของตัวเอง ขณะที่กำลังจะอธิบายต่อ จู่ ๆ เย่ถิงเซินก็ยิ้มขึ้นมารอยยิ้มของเย่ถิงเซิน ดูเหมือนว่าเขาจะยอมจำนนต่อโชคชะตาที่มาพร้อมกับความสิ้นหวังและความขมขื่นแล้ว“ขืนคุณปู่มาไ
ดวงตาของซูอินเกิดเปลวไฟแห่งความคาดหวังขึ้นมาเธอต้องสืบหาเหตุผลมาให้ได้ ว่าทำไมคุณท่านเย่ถึงเลือกซูหราน ถ้าเกิดทำได้ ขอแค่ทำให้ซูหราน “คุณหนูตระกูลเย่” คนนี้ฝันแตกสลายกลายเป็นผุยผงได้ ไม่ว่าจะต้องเสียเท่าไหร่ เธอก็ยอมจ่ายได้ทั้งนั้นแต่ว่า เธอควรเริ่มจากตรงไหนก่อนดีล่ะ?ทันใดนั้น ซูอินก็นึกถึงผู้หญิงที่เธอเห็นตรงห้องโถงหลักของวิลล่าตระกูลเย่ในวันนี้เธอจำได้ว่า ในตอนที่คุณท่านเย่ประกาศว่าซูหรานเป็นหลานสาวคนใหม่ของเขา หญิงสาวคนนั้นก็ดูไม่เชื่อเช่นกันคุณท่านเย่เรียกเธอว่าซือเหยียน......ทันใดนั้นดวงตาของซูอินก็สว่างขึ้น และเธอก็รีบหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา แล้วค้นหารายชื่อ “เย่ซือเหยียน” ในทันทีเย่ซือเหยียน......คุณหนูใหญ่ตระกูลเย่......ที่แท้ เธอก็คือคุณหนูใหญ่ตระกูลเย่!คุณหนูใหญ่เย่ไม่ชอบซูหราน บางที เธออาจเริ่มต้นจากคุณหนูใหญ่เย่ก่อนก็ได้พอคิดแบบนี้แล้ว ซูอินก็เริ่มรู่สึกตื่นเต้นขึ้นมา และแอบสาบานว่า “แม่คะ หนูรู้แล้วค่ะ ว่าควรทำยังไงต่อ แม่วางใจเถอะค่ะ ตระกูลลู่คิดจะใช้หนูเพื่อซื้อใจซูหราน หนูจะต้องทำให้ตระกูลลู่ต้องเสียใจเข้าในสักวัน”......วันรุ่งขึ้น ซูหรานก็ไปทำงา
ซูหรานรู้สึกสับสน พร้อมกับเกิดความรู้สึกที่ว่าโลกนี้มันช่างน่าขันเสียจริงเมื่อก่อนต่อให้เธอจะหมั้นหมายกับลู่ซิวหนิง คุณหญิงย่าลู่ก็คงแค่เรียกเธอว่า “ซูหราน” เท่านั้น พร้อมกับท่าทีการวางตัวที่ดูเย่อหยิ่งความรู้สึกอบอุ่นและสนิทสนมอย่างวันนี้ กลับไม่เคยเห็นจากตัวของเธอมาก่อน“คุณหญิงย่าลู่คะ ฉันยังมีธุระค่ะ ขอตัวนะคะ” ซูหรานปัดมือของคุณหญิงย่าเบา ๆคุณหญิงย่าลู่ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งแต่แล้ว ราวกับว่าเธอจะมองเห็นอะไรบางอย่าง สีหน้าของเธอก็เปลี่ยนไปเล็กน้อยซูหรานที่เห็นแบบนั้น ก็มองตามสายตาของคุณหญิงย่าลู่ทันที และได้พบกับลู่ซิวหนิงที่กำลังจับมือซูอินเดินเข้ามาพร้อมกันเข้าพอดี ดูเหมือนว่าก่อนหน้าที่พวกเธอจะมองไปยังทั้งสองคน ลู่ซิวหนิงก็ได้พูดคำหวานหรืออะไรสักอย่างที่ข้างหูของซูอิน จนทำให้ซูอินต้องรู้สึกเขินอาย“แค่ก ๆ ......”เสียงไอของคุณหญิงย่าลู่ก็ดังขึ้น ในที่สุดก็ดึงความสนใจของลู่ซิวหนิงและซูอินได้ทั้งสองเงยหน้าขึ้นมอง และได้พบเข้ากับซูหรานและคุณหญิงย่าลู่ทั้งสองตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นจึงรีบปล่อยมือทันทีลู่ซิวหนิงถึงขั้นผลักซูอินออกไปเลยด้วยซ้ำ เดิมทีร่างกายซูอินก็
คิดจะใช้มุกนี้อีกแล้วเหรอ?ตีเธอหรือด่าเธองั้นเหรอ?ในเมื่อเธอขอมาแบบนี้ เช่นนั้นเธอก็จะสนองความต้องการให้เธอได้สมใจเอง!“เธอ......” มานี่ซูหรานยังพูดไม่ทันจบ ฟู่จิ้นหานก็ได้ส่งสัญญาณให้ฉินฟั่งเสียก่อนเรื่องทำร้ายคนแบบนี้ ทำไมต้องให้ซูหรานเป็นคนลงมือด้วยตัวกันล่ะ?ฉินฟั่งก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว ในช่วงเวลาอันรวดเร็วนั้น เขาก็ได้ตบหน้าซูอินไปหนึ่งทีเสียงเพี๊ยะดังขึ้น ไม่มีความปรานีใด ๆ ซูอินเดินเซจนแทบล้ม ยากที่จะทรงตัวเอาไว้ได้ ในหัวขาวโพลนไปหมด เหลือเพียงเสียงหึ่ง ๆ เท่านั้นใครกัน......ที่กล้าทำร้ายเธอได้ถึงขนาดนี้? !ทันทีที่ซูอินได้สติกลับมา เธอจึงมองไปที่ฉินฟั่งด้วยความโกรธฉินฟั่งได้รับการฝึกฝนมา เขาได้ฝึกฝนร่างกายจนแข็งแกร่งที่บริษัทชิงอวิ๋น แถมยังได้รับอิทธิพลจากฟูจิ้นหานที่มีความเด็ดขาดในการต่อสู้อีกด้วย เพียงแค่สายตาเดียว ความกดดันของซูอินก็ถูกลดทอนลงไปทันทีแต่จะให้ซูอินยอมได้อย่างไร?เธอเป็นถึงหลานสาวแท้ ๆ ของตระกูลเย่ ฉินฟั่งคนนี้......ก็เป็นแค่สุนัขรับใช้ข้างกายฟู่จิ้นหานเท่านั้นต่อให้การตบเธอจะเป็นความต้องการของฟู่จิ้นหาน แต่มีคนมากมายอยู่ด้วยขนาดนี้ ห
ไม่จำเป็นต้องแก้ไขพินัยกรรมงั้นเหรอ?ซูอินดีใจมาก รู้สึกเหมือนได้รับความมั่นใจมากขึ้นแน่นอนว่าขอแค่เธอยังเป็นลูกสาวของฉินเหยียนอยู่ คุณท่านเย่ก็จะเห็นแก่หน้าฉินเหยียน และยอมรับทุกอย่างที่เป็นเธอครั้งนี้ ไม่ว่าคุณท่านเย่จะรอดมาด้วยเหตุผลใดก็ตาม แต่ไม่ว่ายังไงพินัยกรรมของคุณท่าน เมื่อกี้ทุกคนต่างก็ได้ยินอย่างชัดเจนกันหมดแล้วคุณท่านเย่ได้มอบทุกอย่างของตระกูลเย่ให้กับเธอ แม้ว่าวันนี้เธอจะยังไม่ได้รับช่วงต่อจากตระกูลเย่ แต่เธอก็ยังเป็นผู้สืบทอดเพียงคนเดียวอยู่ส่วนคนพวกนี้......ซูอินรู้สึกไม่ค่อยพอใจสักเท่าไหร่เมื่อนึกถึงวิดีโอเมื่อกี้แล้ว ซูอินจึงหันไปมองซูหรานที่อยู่ข้าง ๆ คุณท่านเย่ทันทีในตอนนี้ เธอไม่มีเวลามามัวคิดว่าคลิปวิดีโอนั้นเกิดขึ้นได้อย่างไร แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้ คือการใช้ประโยชน์จากอำนาจเสียงของคุณท่าน เพื่อช่วยลบข้อครหาและปฏิเสธว่าคนในคลิปไม่ใช่เธอน้ำสกปรกนี้ ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ต้องสาดไปที่ซูหรานให้ได้เมื่อคิดได้เช่นนั้น ซูอินก็ขมวดคิ้วทันที “หนูไม่สนใจของนอกกายพวกนั้นหรอกค่ะ แต่ถ้าหากแม่ของหนูที่อยู่บนสวรรค์รู้ว่าหนูถูกใส่ร้ายด้วยคลิปวิดีโอนั้น จนทำ
น้ำเสียงนั้นดูทุ้มต่ำ แต่ก็มีความโกรธที่ไม่สามารถปิดบังเอาไว้ได้ปนอยู่ซูอินเงียบและไม่มีการตอบสนองอยู่นาน ส่วนคนอื่น ๆ ที่อยู่ตรงนั้น ก็กลับมีสีหน้าที่ดูต่างกันออกไปพวกเขาเพิ่งจะได้ยินอะไรกันแน่?เย่ซินกลืนน้ำลายลงคออึกหนึ่ง ก่อนจะกอดแขนตัวเองแน่น ราวกับพยายามขับไล่ความหนาวของเมื่อครู่นี้ที่แผ่ซ่านเข้ามาในร่างกายออกไปเธอหูฝาดไปรึเปล่านะ?เสียงนั้นน่ะ คือเสียงของคุณท่านจริง ๆ!แต่เห็น ๆ อยู่ว่าคุณท่านเสียชีวิตไปแล้ว แล้วร่างก็กำลังนอนอยู่ในโลงแก้วอีกด้วย จะมีเสียงออกมาได้อย่างไร?แต่เมื่อนึกถึงคำว่า “วิญญาณ” ขึ้นมา เย่ซินก็กลืนน้ำลายลงคอด้วยความตื่นตัวและเสียงที่ดังขึ้นอย่างกะทันหันนั้น ก็กลับยิ่งทำให้เย่ซือเหยียนมั่นใจในข้อสันนิษฐานก่อนหน้านี้ได้ และเข้าใจมากยิ่งขึ้นว่าการแสดงในวันนี้มีซูอินที่เป็นเป้าหมาย!เย่ซือเหยียนรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย เธอสังเกตเห็นว่าทั้งเย่ถิงเซินและหยางซู พวกเขาสองคนไม่ได้มีปฏิกิริยาใด ๆ มากนักต่อเสียงของคุณปู่ในตอนนั้นเธอก็รู้ได้ในทันที ว่าทั้งสองคนเองก็มีส่วนร่วมในแผนการนี้ด้วยเช่นกันส่วนซูอิน......ตอนนี้ ในหัวของซูอินมันขาวโพลนไปหมดเธอเ
หน้าตาที่ดูไร้เดียงสาและอ่อนแอของซูอินแข็งทื่อทันทีชั่วขณะหนึ่ง เหมือนว่าหน้ากากนั้นของเธอจะถูกเจาะจนทะลุ สีหน้าเธอดูไม่ค่อยมั่นใจสักเท่าไหร่ “พี่ซู พี่หมายความว่ายังไง?”“ฮึ หมายความว่ายังไงงั้นเหรอ? น้องอินอิน เธอคงไม่คิดว่าทุกคนจะโง่กันหมดหรอกใช่ไหม? ตั้งแต่ครั้งแรกที่ฉันเจอเธอ ฉันก็เดาได้แล้ว ว่าเธอเป็นคนยังไง ต่อหน้าก็แสร้งทำตัวไร้เดียงสาและอ่อนแอ แต่ในความเป็นจริง ใจกลับดำมืดเต็มไปด้วยแผนการ คุณสนุกกับการใช้หน้ากากที่เธอสร้างขึ้นมาหลอกลวงทุกคน ฉันก็เลยเล่นตามน้ำกับเธอไป แกล้งทำเป็นเชื่อในความดีและความไร้เดียงสาของเธอ”เสียงของหยางซูดังกึกก้องทั่วทั้งศาลาไว้ทุกข์ซูอินฟังแล้วก็รู้สึกบาดหูเป็นพิเศษในตอนนี้ ใบหน้าที่เคยแสดงความไร้เดียงสาของเธอก็เริ่มมีความโกรธปรากฏขึ้นมานิดหน่อยที่อยางซูจะบอกก็คือ ทุกสิ่งที่เขาปฏิบัติต่อเธอ มันเป็นเพียงแค่การแสดงอย่างนั้นน่ะเหรอ?แล้วที่เมื่อวานเขารับปากเธอว่าจะใช้เส้นสายเรียกทนายอู๋มาล่ะ มันเพื่ออะไรกัน?มีคนอื่นอยู่ด้วย ซูอินจึงไม่สะดวกที่จะถามออกมาแต่เมื่อเธอจ้องไปที่ตาของหยางซู กลับทำให้หยางซูเข้าใจในทันทีว่าเธอกำลังคิดอะไร และคิดจะ
ฟู่จิ้นหานก้มหน้าสบตากับซูหรานแววตาของเธอดูมั่นคง มือที่กำเสื้อตรงหน้าอกของเขาก็ยิ่งบีบแน่นขึ้นเรื่อย ๆ ฟู่จิ้นหานรู้สึกกังวลในใจไม่หาย แต่ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง สุดท้ายก็ไม่สามารถขัดขืนซูหรานได้ฟู่จิ้นหานวางเธอลง แต่แขนของเขายังคงโอบเอวเธอเอาไว้อยู่ ท่าทางที่เขาปกป้องเธอนี้ ทำให้ผู้คนรอบข้างเกิดความคิดที่แตกต่างกันออกไปคนที่ตกใจและประหลาดใจที่สุด ก็คือเย่ซินฟู่จิ้นหาน......ผู้นำคนใหม่ของฟู่ซือกรุ๊ปคนนี้ เย่ซินเคยเห็นมาก่อนเขาจัดการกับฟู่ซือกรุ๊ปด้วยวิธีการที่โหดเหี้ยม ซึ่งเป็นที่พูดถึงกันในจิงเฉิง แค่เธอได้ยินก็รู้สึกขนลุกทุกคนต่างก็พูดกันว่าฟู่จิ้นหานเป็นคนเย็นชาไร้ความรู้สึก แต่ชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าเธอในตอนนี้ สีหน้ากลับเต็มไปด้วยความอ่อนโยน แววตาของเขาจ้องมองไปยังหญิงสาวที่อยู่ข้าง ๆ บ้างก็เหลือบมองไปยังอีกด้าน แต่แววตากลับเปลี่ยนเป็นเฉียบขาดในทันทีท่าทีที่ฟู่จิ้นหานปฏิบัติต่อผู้หญิงคนนี้พิเศษมากจริง ๆเย่ซินอดไม่ได้ที่จะมองไปยังคนที่อยู่ข้าง ๆ ฟู่จิ้นหาน และนึกถึงชื่อที่พวกเขาเพิ่งจะเรียกเธอขึ้นมาเมื่อกี้หรานหราน......ซูหราน......เธอคือหลานสาวที่คุณท่านรับอุปการะมา
ทุกคนต่างก็ตกตะลึงไปชั่วขณะเสียงของผู้หญิงที่ดังออกมาจากโทรศัพท์มือถือ ได้รับการปรับแต่งมาอย่างละเอียดถึงจะฟังไม่ชัดเจนว่าเป็นของใคร แต่ก็กลับฟังออกว่าบรรยากาศค่อนข้างจะเข้มข้นภายใต้เสียงร้องของหญิงสาว กระทั่งการพูดด้วยคำพูดที่ดูเปิดเผยต่าง ๆ ทำให้คนที่อยู่ ณ ตรงนั้นแค่ได้ยิน สีหน้าของพวกเขาก็เริ่มเปลี่ยนไปบ้างแล้วซูอินรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย และแอบบ่นลินเยว่เยว่ที่ทำการแปลงเสียง แต่ยังไงก็ช่างเถอะ ต่อให้จะฟังไม่ออกว่าเป็นเสียงของซูหราน แต่ภาพที่ทุกคนเห็นก็เป็นซูหราน ยังไงก็มีผลลัพธ์เดียวกัน!ซูอินเหลือบมองไปที่เย่ถิงเซินเธออยากเห็นมากที่สุด ก็คือปฏิกิริยาของเย่ถิงเซินหลังจากที่เขาเห็นว่าคนในคลิปคือซูหราน แต่เย่ถิงเซินเพียงแค่ขมวดคิ้ว และมีสีหน้าที่ดูไม่พอใจเท่านั้น เขากลับไม่หยิบโทรศัพท์ออกมาสักทีดูเหมือนว่าเย่ซินจะตกใจกับภาพที่เธอเห็นมาก เธอจ้องมองที่หน้าจอโทรศัพท์อย่างงงงวยภายในห้องไว้ทุกข์ เสียงของหญิงสาวยังคงดังกึกก้องอยู่ในบรรยากาศที่แปลกประหลาด ก็มีคนที่สองที่หยิบโทรศัพท์ออกมา และเปิดข้อความที่เพิ่งได้รับเมื่อสักครู่นี้อ่า......เสียงที่เหมือนกับก่อนหน้านี้ก็ดัง
“พวกเขาจะทำอะไร?”ในหัวเย่ซือเหยียนยังคงคิดไม่ตก ไม่สามารถคาดเดาภาพรวมของเรื่องราวได้เลยแต่เธอก็พอจะเข้าใจอยู่บ้าง: หากคุณท่านยังไม่ตายจริง ๆ เช่นนั้นทุกอย่างที่เกิดขึ้นในวันนี้มันก็คือกับดักและกับดักนี้ ถูกจัดเตรียมเอาไว้เพื่อใครอย่างนั้นเหรอ?เย่ซิน? ตัวเธอ? หรือว่า......ซูอิน?เย่ซือเหยียนรู้สึกโชคดีที่เธอค้นพบเรื่องนี้ได้ก่อน ไม่เช่นนั้น เธอก็อาจจะตกหลุมพรางไปด้วยส่วนซูอิน......ความเกลียดชังสะสมอยู่ในดวงตาของเย่ซือเหยียนไม่ว่ากับดักนี้จะถูกจัดเตรียมเอาไว้สำหรับใครก็ตาม วันนี้ก็ยังถือว่าเป็นโอกาสที่ดีในตอนนั้นแทบจะในทันที เย่ซือเหยียนโทรหาสายสายหนึ่ง และสั่งการกับคนที่อยู่ปลายสายหนึ่งประโยค หลังจากวางสาย ในใจเย่ซือเหยียนก็เริ่มรู้สึกตื่นเต้นกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อไป......ในขณะเดียวกัน ณ ศาลาไว้ทุกข์ ซูอินยังคงเต็มไปด้วยความคาดหวังกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นอาการเป็นลมของเย่ซือเหยียนทำให้เธอรู้สึกไม่พอใจอย่างมากรอจนกระทั่งพ่อบ้านจัดแจงให้คนพาเย่ซือเหยียนออกไป ซูอินก็อดไม่ได้ที่จะมองไปที่ทนายอู๋ แต่สุดท้ายเธอก็รู้สึกกลัวว่าจะมีคนเห็นความลนลานของเธอ เธอจึงไม่กล้าพู
ดูเหมือนว่า ผู้ที่อยู่ในที่นั้นนอกจากท่านท่านเย่แล้ว ก็มีเพียงเย่ถิงเซินเท่านั้นที่สามารถตัดสินใจได้การกระทำนี้ ทำให้ซูอินรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อยต้องทำความเข้าใจก่อนว่า เธอคือผู้สืบทอดที่ถูกต้องตามกฎหมายของตระกูลเย่ และนอกจากนี้ ทนายความอู๋คนนี้เองก็เป็นพยานในการทำพินัยกรรมของคุณท่านเย่อีกด้วย เขาก็ควรจะรู้ว่าผู้ที่ได้รับผลประโยชน์จากพินัยกรรมของคุณท่านคือใครเขาควรถามเธอ และให้เธอเป็นผู้ตัดสินใจสิถึงจะถูกเขากลับถือหางให้เย่ถิงเซินเป็นตัวหลักแต่ไม่นาน ซูอินก็ไม่ได้ใส่ใจมากนัก ที่ทนายอู๋คนนี้เป็นคนที่มีตาแต่ไร้แวว รอให้ประกาศพินัยกรรมออกมาก่อน ว่าเธอคือผู้สืบทอดทรัพย์สินของตระกูลเย่ จะทำให้คนเหล่านี้ต้องตื่นตระหนกอีกครั้งแน่นอน“เชิญทนายประกาศได้เลยครับ”คำพูดของเย่ถิงเซินแต่ละคำ ทั้งหนักแน่นและชัดเจนทนายความอู๋เปิดถุงเอกสารที่ปิดผนึกเอาไว้ท่ามกลางสายตาของทุกคน และนำพินัยกรรมที่อยู่ข้างในออกมา“ฉัน เย่ชิงเหอ ทรัพย์สินทั้งหมดที่อยู่ภายใต้ชื่อของฉัน จะถูกสืบทอดโดย......”ทนายความอู๋กำลังอ่านเนื้อหาของพินัยกรรม ทุกคนในศาลาไว้ทุกข์ต่างก็ตั้งใจฟัง และเมื่อถึงจุดนี้ สีหน้าของทุกค
“มันแน่นอนอยู่แล้ว”หยางซูจ้องมองไปที่ซูอิน เขาจะไม่บอกกับเธอ ว่าทนายคนนั้นได้อยู่ที่ไห่เฉิงเรียบร้อยแล้วทันทีที่คุณท่านกลับมาที่ไห่เฉิง ก็ได้ให้ทนายรีบมาที่นี่อย่างลับ ๆและการกระทำของซูอินในคืนนี้ ดูท่าแล้ว คุณท่านเองก็น่าจะมองสถานการณ์ออกตั้งแต่แรกแล้วเมื่อได้รับคำตอบที่แน่นอนจากหยางซู ซูอินก็ยิ่งมีความสุขมากกว่าเดิมเธอไม่กล้าที่จะลำพองตัวมากเกินไป เหมือนว่าเธอจะรู้สึกพอใจมาก จึงถอนหายใจออกมา “การที่สามารถทำตามความปรารถนาของคุณปู่ได้ ก็ถือเป็นสิ่งเดียวที่ฉันสามารถทำเพื่อคุณปู่ได้แล้วล่ะค่ะ”ซูอินลดสายตาลง ให้ดูเหมือนว่าเธอไม่มีความต้องการอะไรเลยจริง ๆแต่หยางซูกลับรู้จักธาตุแท้ของผู้หญิงคนนี้แล้วในที่สุดหยางซูก็ไม่สามารถอดทนต่อความเกลียดชังในใจได้ เขาจึงอ้างว่าตนรู้สึกเหนื่อย และต้องการพักผ่อน จึงขอให้ซูอินออกไปก่อนเมื่อกลับมาถึงห้อง ซูอินก็รีบวางแผนทุกอย่างที่เหลือทันทีเช้าวันถัดมา ทั้งวิลล่าก็เริ่มวุ่นวายตั้งแต่เช้าแล้วเมื่อวานได้มีการกำหนดให้เผาศพวันนี้ก่อนเริ่มการเผาศพ ก็ควรไปสักการะร่างของผู้เสียชีวิตเสียก่อนภายในโลงแก้วคุณท่านนอนอยู่ข้างใน ใบหน้าดูมีชีว