หลังจากวางสาย เย่ถิงเซินก็ตั้งตารอที่จะได้พบกับสามีของซูหรานในคืนนี้เขารู้จักฟู่จิ้นหานเป็นอย่างดีฟู่จิ้นหานชินกับการเป็นคนเอาแต่ใจ หากเขามีใจให้ซูหรานจริง ๆ ต่อให้ซูหรานจะแต่งงานแล้ว มันก็จะไม่เป็นอุปสรรคสำหรับเขาอยู่ดีเขาจะไม่ลังเลที่จะใช้วิธีต่าง ๆ เพื่อทำให้สิ่งที่ขวางหูขวางตาของเขาหายไปแต่ถึงอย่างนั้น สามีของซูหรานคนนั้นก็ยังพอที่จะสามารถเพิ่มอุปสรรคให้กับฟู่จิ้นหานได้และจะดีกว่านี้อีกถ้าสามารถยุยงเขาให้เคลื่อนไหว และทำให้จิตสำนึกของฟู่จิ้นหานรู้สึกจนมุมจนยากที่จะถอนตัว!เย่ถิงเซินที่กำลังคิดอยู่ ก็หัวเราะออกมาเบา ๆ จากนั้นก็บอกกับผู้ช่วยของเขา “ไปเตรียมช่อกุหลาบแล้วก็เลือกต่างหูรุ่นลิมิเต็ดของเย่ซือจิวเวลรี่ที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อไม่นานมานี้มาที คืนนี้จำเป็นต้องใช้มัน!”......หลังจากวางสาย ซูหรานก็เกิดรู้สึกเสียใจขึ้นมาเชิญคุณชายใหญ่เย่มาที่บ้านแบบนี้ ถ้าเกิดว่าทำให้สามีตัวพ่อของเธอไม่มีความสุขล่ะ......ซูหรานคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ จากนั้นก็ตัดสินใจโทรศัพท์หาเพื่อลองถามดูทันทีที่กดโทรออก ก็กลับมีแจ้งเตือนขึ้นมาว่าอีกฝ่ายกำลังคุยสายอยู่หลังจากโทรหลายครั้งติดต่อกัน
เพื่อเป็นการมอบความบันเทิงแก่แขกผู้มีเกียรติอย่างเย่ถิงเซิน ซูหรานจึงกลับไปที่เจินหลินย่วนล่วงหน้าเพื่อเตรียมอาหารทันทีที่เธอเดินเข้าประตูไป เธอก็ได้กลิ่นอาหารลอยฟุ้งออกมาอาหารที่อยู่บนโต๊ะต่างก็เป็นเมนูที่เธอชอบทาน ทั้งสีทั้งกลิ่นทำให้อาหารดูน่าทานมาก ๆ “นี่......” ซูหรานแอบสงสัยว่าตัวเองเข้าผิดประตูหรือเปล่าในขณะที่เธอกำลังจะเดินถอยกลับเพื่อยืนยันให้แน่ใจ สามีตัวพ่อของเธอก็เดินออกมาจากห้องครัว“กลับมาแล้วเหรอ ทำไมวันนี้กลับเร็วจัง นี่เป็นจานสุดท้ายพอดี เดี๋ยวคุณไปล้างมือก่อน แล้วเราก็เริ่มทานกันได้เลย” ฟู่จิ้นหานถือจานผัดผักเอาไว้ในมือ บนตัวสวมเสื้อกันเปื้อน ราวกับเขาเป็นคนที่ลงมือทำกับข้าวด้วยตัวเองใบหน้าหล่อเหลานั้นเมื่อมาอยู่ในชุดนี้ก็แทบไม่ทำให้ดูด้อยค่าลงเลยแม้แต่น้อย กลับกัน นี่ยิ่งทำให้ทุกลมหายใจดูมีชีวิตชีวามากขึ้นกว่าเดิมเสียอีกซูหรานส่ายหัวเรียกสติสายตาจ้องมองไปยังโต๊ะอาหารด้วยความตกใจ “นี่คุณ......ทำเองเหรอ?”“คุณลองชิมดูสิ ไม่รู้ว่าจะถูกปากคุณไหมนะ” ก็ถ้าเธอจะเข้าใจแบบนั้น ก็ใช่ว่าจะไม่ได้!“จุ๊......คิดไม่ถึงเลยว่าคุณจะเก่งขนาดนี้ หน้าตาก็หล่อ แถมยังเข้า
ซูหรานเพิ่งจะเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จและเดินออกมา แต่เธอก็ต้องตกใจกับสีหน้ามืดมนของสามีตัวพ่อของเธอ“คุณว่าไงนะ?” นี่ใครไปยั่วโมโหเขากันเนี่ย? เมื่อกี้ยังดี ๆ อยู่เลยไม่ใช่รึไง!หรือเธอคิดไปเองงั้นเหรอ? แล้วทำไมเธอถึงสัมผัสได้ถึงความรู้สึกหึงจากน้ำเสียงของเขาได้กันล่ะเนี่ย?ฟู่จิ้นหานจ้องไปทางซูหราน “คนที่คุณเชิญมา คือใคร?”“อ๋อ ฉันลืมบอกคุณไปซะสนิทเลย เขาคือคุณชายใหญ่เย่จากเย่ซือกรุ๊ปแห่งจิงเฉิง อีกเดี๋ยวฉันจะแนะนำให้พวกคุณรู้จักกันนะ เขาเองก็อยากเจอคุณเหมือนกัน!”ซูหรานสังเกตเห็นว่าในตอนที่เธอพูดคำว่า “คุณชายใหญ่เย่” ออกมา ใบหน้าของสามีตัวพ่อของเธอก็ดูเหมือนจะมืดมนลงกว่าเดิมเย่ถิงเซิน......คนอีกกลุ่มหนึ่งที่ถูกส่งไปยังซิงหลานจิวเวลรี่ ก็น่าจะเป็นคนของเย่ถิงเซินแล้วล่ะเขาได้เตือนอย่างชัดเจนแล้วว่าให้อยู่ห่างจากซูหราน!ฟู่จิ้นหานจ้องมองซูหราน แล้วเงียบไปสักพัก ทันใดนั้นเขาก็ยิ้ม และพูดออกมาว่า “ในเมื่อเขาเคยช่วยคุณจัดการกับเรื่องใหญ่ เช่นนั้นผมเองก็ควรที่จะขอบคุณเขาด้วยเช่นกัน!”ซูหรานรู้สึกงุนงงนิดหน่อยแต่เธอก็ไม่ได้คิดอะไรมาก ดูจากระยะทางเมื่อกี้ คุณชายใหญ่เย่บอกว่าอีกสิบน
“คุณซูครับ ผม......วันนี้ผมยังมีธุระที่ต้องไปจัดการครับ คงจะไปไม่ได้แล้ว!”เย่ถิงเซินมองดูรถสองสามคันที่ยังคงล็อคตัวเขาเอาไว้อยู่ ในใจเต็มไปด้วยความหงุดหงิดหลังจากพูดจบ สายก็ตัดทันทีซูหรานรู้สึกสับสนเล็กน้อยรีบขนาดนั้นเลยเหรอ ตกลงแล้วเกิดอะไรขึ้นกับคุณชายใหญ่เย่กันแน่?ฟู่จิ้นหานที่อยู่ด้านข้างก็เดินตรงไปยังทางเข้า และกำลังจะเปลี่ยนรองเท้าเพื่อที่จะออกไปข้างนอก จากสีหน้าของซูหราน เขาก็เดาได้ว่าเย่ถิงเซินจะไม่มาแล้วแต่ดูเหมือนว่าเขายังคงต้องแสร้งทำต่อไปอยู่“ไปสิ!” ฟู่จิ้นหานทำท่าทีเร่งเร้าซูหรานลดสายตาลง “ไม่ต้องแล้วล่ะ คุณชายใหญ่เย่มีธุระนิดหน่อย มาไม่ได้แล้ว”“มาไม่ได้แล้วงั้นเหรอ? งั้น......ก็น่าเสียดายมากเลยน่ะสิ ผมคิดว่าจะได้มีโอกาสได้รู้จักเขาเสียอีก”ฟู่จิ้นหานถอนหายใจราวกับกำลังผิดหวัง และมองไปทางอาหารบนโต๊ะ “ไม่อย่างงั้น......พวกเราก็กินกันก่อนดีไหม?”“อืม” คงทำได้แค่นี้แล้วแหละ!ซูหรานเองก็หิวอยู่นิดหน่อยจริง ๆ เธอจึงลองชิมดูสองสามคำ ถึงได้รู้ว่ารสชาติแทบจะเทียบเท่าเชฟมืออาชีพเลยทีเดียวแต่เมื่อนึกถึงไข่ดาวที่ดูน่าสมเพช แล้วก็เบคอนไหม้ในตอนเช้า ซูหรานก็มองสา
“เกมจับผิดชู้อะไรพวกนี้ เธอก็เก็บเอาไว้เล่นกับพี่ซิวหนิงอะไรนั่นของเธอไปเถอะ”ซูหรานหัวเราะอย่างเย็นชาใส่ ก่อนที่จะกดวางสายซูอินคิดไม่ถึงว่าซูหรานจะมีปฏิกิริยาแบบนี้ เธอมองร่างของคุณชายสามฟู่และผู้หญิงที่อยู่ไม่ไกลอย่างไม่พอใจผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่ใครอื่น แต่คือเย่ซือเหยียนเย่ซือเหยียนเพิ่งจะมาถึงเมืองไห่เฉิง เธออยากที่จะเจอหน้าเขามาก เพราะงั้นเธอจึงโทรหาเขาทันทีที่ลงเครื่อง“จิ้นหาน ไม่เจอกันนานเลยนะ งานแข่งขันเครื่องประดับก่อนหน้านี้เดิมทีฉันควรจะได้มาพร้อมกับพี่ แต่เช่าอัน เขา......”เย่ซือเหยียนถอดแว่นกันแดดของเธอออก พร้อมกับปัดผมที่ปกคลุมแก้มซ้ายของเธอ จากนั้นก็เผยให้เห็นรอยช้ำที่มุมหางตา เห็นได้ชัดว่าเกิดขึ้นเพราะการถูกทำร้ายฟู่จิ้นหานขมวดคิ้ว“ตั้งแต่ที่ฉันฟ้องหย่ากับเขา เช่าอันก็คอยรบกวนฉันมาโดยตลอด แต่ว่าในใจฉันมัน......” เย่ซือเหยียนมองไปทางฟู่จิ้นหานด้วยความคนึงหา เธอคาดหวังอยากที่จะเห็นความสงสารจากแววตาของเขาแต่ฟู่จิ้นหานแค่ขมวดคิ้ว สายตาที่มองเธอก็กลับมีแค่ความสงบนิ่งเท่านั้นหลังจากนั้นไม่นาน ฟู่จิ้นหานก็พูดอย่างไม่แยแส “แล้วของล่ะ อยู่ไหน?”หากไม่เป็นเพราะสา
“ผมเองก็มีเรื่องอยากจะคุยกับคุณเหมือนกัน”ฟู่จิ้นหานจ้องมองไปทางซูหราน แววตาที่กระตือรือร้นของเขาทำให้ซูหรานหน้าแดงซูหรานหลีกเลี่ยงสายตาที่เร่าร้อนของเขา และจ้องมองที่ขากางเกงของเขา “คุณพูดก่อน”“งั้นคุณก็หลับตาก่อน!” เขาอยากจะทำให้เธอประหลาดใจซูหรานขมวดคิ้ว ไม่รู้เลยว่าเขาพยายามจะเล่นกลอะไรอยู่กันแน่ แต่เธอก็ยังคงหลับตาลง จากนั้นก็ไม่มีการเคลื่อนไหวใด ๆ อยู่พักหนึ่ง และทันใดนั้นสามีตัวพ่อของเธอก็จับมือของเธอเอาไว้ขณะที่ซูหรานกำลังจะลืมตา สามีตัวพ่อของเธอก็เตือนขึ้นว่า “ห้ามลืมตานะ!”หลังจากนั้น ซูหรานก็รู้สึกถึงบางสิ่งบางอย่างที่เย็น ๆ อยู่บนข้อมือของเธอตั้งแต่ที่เธอศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับเครื่องประดับมาหลายปี ซูหรานก็รู้ได้ในทันทีว่ามันคือสร้อยข้อมือเขามอบสร้อยข้อมือให้กับเธองั้นเหรอ?ซูหรานตกใจเล็กน้อย ขณะที่เธอกำลังสงสัยว่าเขากำลังจะทำอะไรกันแน่ เสียงของสามีตัวพ่อของเธอก็ดังก้องเข้ามาในหู“คุณย่าของผมบอกว่า ถ้าผมเจอคนที่ชอบ ก็ให้ผมมอบให้คนนั้น ซูหราน ตอนนี้ผมยกมันให้คุณแล้วนะ”น้ำเสียงของเขาทุ้มลึก ทั้งยังมีเสน่ห์ในหัวสมองของซูหรานแทบจะขาวโพลนไปหมด หลังจากนั้นครู่
“ฉันไม่ได้ชอบคุณ ถึงเวลาที่ข้อตกลงของเราจะต้องจบลงแล้ว!”ซูหรานทิ้งคำพูดเหล่านี้เอาไว้ ก่อนจะเดินกลับไปที่ออฟฟิศสีหน้าของฟู่จิ้นหานดูมืดมนจนน่ากลัวไม่ชอบเขางั้นเหรอ?เธอจะไม่ชอบเขาได้อย่างไร?เห็นได้ชัดว่าเธอคลั่งไคล้ใบหน้าของเขามากขนาดนั้น!ฟู่จิ้นหานรู้สึกหงุดหงิดอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เขามองไปที่สร้อยข้อมือหยกในมือพร้อมกับความรู้สึกงุนงง นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?......ในช่วงบ่าย ซูหรานได้ไปที่ธนาคารเพื่อถอนเงินสดห้าล้านบาทออกมาหากการถอนเงินไม่มีการจำกัดจำนวน เธอคงถอนเงินทั้งหมดที่จะมอบให้สามีตัวพ่อของเธอออกมาหมดแล้วกลับไปที่เจินหลินย่วน แต่สามีตัวพ่อก็ไม่อยู่ซูหรานนำเงินสดไปเก็บเอาไว้ยังห้องนอน คืนนี้ทั้งคืน สามีตัวพ่อของเธอก็ยังไม่กลับมาทุก ๆ วันหลังจากนั้น ซูหรานก็จะถอนเงินสดออกมาห้าล้านบาท ไม่กี่วันต่อมา ในที่สุดเธอก็ถอนเงินยี่สิบล้านกว่าบาทกลับมาไว้ที่บ้านได้จนครบเช้าวันนี้ ซูหรานได้โทรหาสามีตัวพ่อของเธอเสียงรอสายดังขึ้นครู่หนึ่ง ในขณะที่ซูหรานคิดว่าเขาน่าจะไม่รับสาย สายนั้นก็กลับมีคนรับ“ฮัลโหล?” มีเสียงผู้หญิงดังมาจากปลายสายซูหรานตกตะลึงอยู่ครู่หนึ
ตอนที่ฟู่จิ้หานกำลังคุยโทรศัพท์ เย่ซือเหยียนก็เห็นชื่อผู้โทรเขียนว่า “ภรรยา” อย่างคลุมเครือ เธอก็รู้ได้ในทันทีว่าอีกฝ่ายคือใครเธอไม่เคยเห็นสีหน้าที่ดูกระตือรือร้นแบบนี้ของฟู่จิ้นหานมาก่อนฟู่จิ้นหานขับรถกลับไปที่เจินหลินย่วนทันทีเย่ซือเหยียนอยากที่จะตามไป แต่ก็ต้องหยุดการกระทำลงตรงล็อบบี้ของโรงแรม เย่ซือเหยียนจ้องมองไปทางที่ฟู่จิ้นหานหายตัวไปอย่างว่างเปล่านี่เธอมาสายเกินไปอย่างนั้นเหรอ?เธอลูบบาดแผลตรงแก้ม งานแข่งขันเครื่องประดับครั้งล่าสุด เธอก็ตั้งใจจะมาที่ไห่เฉิงอยู่แล้วแต่หนึ่งชั่วโมงก่อนออกเดินทาง เช่าอันที่ดื่มจนเมาก็มาก่อกวนเธอ ทั้งสองยื้อยุดฉุดกระชากกันไปมา จากนั้นเขาก็ลงมือทำร้ายเธอเย่ซือเหยียนรู้สึกเสียใจมากหากในตอนแรกไม่ใช่เป็นเพราะทุกคนคิดว่าฟู่จิ้นหานจะพ่ายแพ้ในการชิงอำนาจผู้สืบทอดฟู่ซือกรุ๊ป เธอก็คงไม่หันไปเลือกคนอื่นแบบนี้ถ้าตอนนั้นเธอเลือกยืนหยัดที่จะอยู่เคียงข้างจิ้นหาน ตอนนี้ เธอก็คงเป็นคุณนายฟู่ไปแล้ว ยิ่งไม่ต้องลำบากมายื่นฟ้องหย่าเพื่อเลือกใหม่เหมือนในตอนนี้ด้วยซ้ำแต่ตอนนี้ ต่อให้จะสามารถเลือกใหม่ได้ เวลาก็สายเกินไปอยู่ดีแววตาของเย่ซือเหยียนเต็