"ต่อไปถ้าพวกคุณอยากเจอหยางหยาง ก็โทรหาฉัน ฉันจะพาหยางหยางไปส่งที่บ้านพ่อแม่คุณ แต่พวกคุณต้องพาหยางหยางลับมาส่งให้ตรงเวลา"นี่เป็นสิ่งที่ไห่หลิงรับปากกับเย่เจียนีไว้ ว่าจะไม่ใช้เด็กมาเป็นเครื่องมือทำลายความสัมพันธ์ของเย่เจียนีับโจวหงหลินและจะพยายามไม่มาเจอโจวหงหลินหลังจากที่หย่ากันแล้ว"ได้"โจวหงหลินไม่มีข้อโต้แย้ง"ตอนนี้พวกเราไปจัดการเรื่องที่สำนักทะเบียน ฉันลางานมา หลังจากดำเนินงานเสร็จเรียบร้อยแล้ว ต้องกลับบริษัทไปทำงานต่อ"ตอนนี้ในใจของโจวหงหลินก็สงบเช่นกันไห่หลิงกลับมาที่รถของน้องสาว จากนั้นมุ่งหน้าไปที่สำนักทะเบียนพร้อมน้องส่วนโจวหงหลินได้พาพ่อกับแม่มาด้วย โดยขับรถตามหลังรถของไห่ถงตอนอยู่ในรถแม่โจวยังร้องไห้อยู่สักพักซึ่งโดนสามีตำหนิชุดใหญ่ จึงตระหนักได้ว่าไม่สามารถกลับไปเป็นเหมือนเดิมได้แล้ว แม่โจวก็เช็ดน้ำตา แล้วพูดกับลูกชายว่า "อีกเดี๋ยวพอจัดการเรื่องหย่าเสร็จ แกก็ให้ไห่หลิงกลับไปเก็บข้าวของ แล้วย้ายออกไปซะ อย่าให้อยู่ต่ออีกแม้ต่คืนเดียว""ฉันกับพ่อแกจะกลับบ้านนอกเมืองก่อน เพราะต้องกลับไปเก็บของเหมือนกัน แล้วจะย้ายเข้ามาอยู่กับแก ปีนี้พวกเราอยู่ฉลองตรุษจีนในเม
แม่โจวพูดอย่างเจ็บปวดว่า "แกทั้งหย่าทั้งให้เงินมากมายแก่ไห่หลิงอีก ถือว่าอย่างน้อยไห่หลิงก็ให้กำเนิดลูกชายให้แก แบ่งก็แบ่ง แม่รู้สึกเจ็บปวดแต่ต้องทำใจยอมรับ แล้วยังจะมาจัดงานแต่งงานอีก ยังมีเรื่องค่าสินสอด ซึ่งต้องใช้เงินเยอะ แกคิดว่าบ้านเปิดธนาคารเหรอ?”“แม่ไม่ต้องห่วง ฉันจะหาเงินค่าแต่งงานกับเจียนีเอง พ่อกับแม่ไม่ต้องออก”แม้ว่าจะไม่ต้องออกเงิน แต่แม่โจวก็ยังเจ็บปวดอยู่ดีเมื่อคิดถึงตอนที่ตัวเองวิ่งไปหาตระกูลไห่อย่างโง่เขลา เพื่อใช้ช่วยพูดโน้มน้าวให้ไห่หลิงไม่หย่า ซึ่งนั่นทำให้เธอต้องเสียเงินหลายแสนบาท แม่โจวยากเอามือตบหัวตัวเองที่ทำอะไรโง่เง่าแบบนั้นลงไป?รอจนกว่าลูกชายดำเนินการหย่าเสร็จสิ้น เธอก็จะไปหาผู้เฒ่าไห่เพื่อเอาเงินหลายแสนนั้นคืนมางูเฒ่าไห่ไถ่เงินหลายแสนจากเธอ จากนั้นสัญญาว่าจะโน้มน้าวไห่ถงให้ออกหน้าพูดให้ไห่หลิงไม่ให้หย่า แต่พวกเขาล้มเหลว ดังนั้นต้องคืนเงินให้เธอผ่านไปสิบนาที ก็มาถึงสำนักทะเบียนสองพี่น้องไห่มาถึงก่อน และกำลังรอโจวหงหลินและครอบครัวที่หน้าประตูสำนักทะเบียนหลังจากที่โจวหงหลินมาถึง ทั้งคู่ก็ไม่ลังเลและเดินเข้าไปในสำนักทะเบียนเมื่อสามปีที่แล้ว พวก
"เครื่องใช้ไฟฟ้าเธอไม่ได้ซื้อมาทั้งหมด ดังนั้นอย่าเอาไปแบบมั่วๆ"แม่โจวก็กลัวว่าไห่หลิงจะเอาเครื่องใช้ไฟฟ้าที่พวกเขาซื้อมาไป“ป้าไม่ต้องห่วง อะไรที่ฉันไม่ได้ซื้อมา ฉันจะไม่แตะมันแน่นอน ถ้าเจอว่าของขาดไปก็มาหาฉันได้นะ”แม่โจวส่งเสียงหึออกมาอย่างเย็นชา"ตื๊ด ๆ ๆ ๆ..."โทรศัพท์ของโจวหงหลินดังขึ้นเป็นเสียงเรียกเข้าจากเจ้านาย และโจวหงหลินก็รับสายทันทีที่เห็นไม่รู้ว่าเจ้านายโทรมามีเรื่องอะไร เห็นแค่สีหน้าของโจวหงหลินก็เข้มขึ้นและก็พูดด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ ว่า "หัวหน้าครับ ฉันจัดการธุระเสร็จแล้ว ตอนนี้กำลังกลับไปที่บริษัทเพื่อจัดการต่อ ทำไมคำสั่งซื้อทั้งหมดถูกยกเลิก? ไม่ต้องกังวลครับ ฉันจะจัดการและเรียกคืนคำสั่งซื้อเหล่านั้นมาอย่างแน่นอนครับ”หลังจากวางสายโทรศัพท์แล้ว โจวหงลินก็พูดกับพ่อแม่ว่า "พ่อแม่ มีเรื่องด่วนที่บริษัท ต้องกลับไปที่ออฟฟิศก่อน พวกพ่อแม่เรียกแท็กซี่กลับกันเองนะ"เขาพูดกับไห่หลิงว่า "ไห่หลิง คุณย้ายออกก่อน 22.00 น.นะ เพราะผมจะกลับบ้านเวลานั้น"จากนั้นโจวหงหลินก็รีบจากไปไม่มีแม้แต่จะพูดกับไห่หลิงสักคำพ่อโจวมองดูลูกชายจากไปอย่างรีบร้อนและมองสองพี่น้องไห่ แต่ไม่ได้พ
ไห่ถงจอดรถ"ถงถง ทุกอย่างเรียบร้อยดีไหม?"เซินเสี่ยวจวินถามอย่างห่วงใยไห่ถงยิ้ม "เรียบร้อย"ไห่หลิงลงจากรถและนำบัตรเข้าออกของหมู่บ้านออกมา ขณะแตะบัตร เธอบอกกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยว่า "ฉันมาขนของย้ายออก และคนเหล่านี้คือคนที่ฉันเรียกให้มาช่วยขนของค่ะ"เจ้าหน้ารักษาความปลอดภัยมองกลุ่มคนที่อยู่หน้าทางเข้าหมู่บ้านแล้วถามว่า “ขนของหรือรื้อถอน? พวกเขามีเครื่องมือรื้อถอนอยู่เต็มมือ ย้ายออกเพื่อรีโนเวท?”"ค่ะ จะรีโนเวทน่ะ"ยังไงมันก็เป็นเงินที่เธอจ่ายไปเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยไม่ได้ถามต่อแค่ไม่ได้ยกพวกมาทะเลาะกันก็พอนำโดยไห่หลิง กลุ่มคนก็สามารถเดินเข้ามาหมู่บ้านกวางหมิงได้อย่างอึกทึกครึกโครมระหว่างทาง ผู้คนจำนวนมากถูกดึงดูดโดยคนกลุ่มใหญ่นี้และหยุดลงเพื่อมองดู“ไห่หลิง เธอพาคนจำนวนมามากมายขนาดนี้เพื่ออะไร?”คนที่รู้จักถามขณะทักทายไห่หลิงไห่หลิงยิ้มและพูดว่า "ฉันจะย้ายบ้านค่ะ แล้วก็ทุบบ้านหน่อย เพราะต้องการรีโนเวทค่ะ"“เยี่ยมไปเลย จะรีโนเวทยังไงเหรอ?”“ฉันไม่ชอบการตกแต่งแบบตอนนี้ค่ะ เลยจะทุบมันออกและรีโนเวทใหม่”คนคนนั้นอุทานออกมา แล้วพูดชมเชยว่า "เป็นเพราะสามีของ
"คุณ คุณไม่ใช่คนรับจ้างขับรถแทนคนนั้นเหรอคะ?"ไห่ถงจำอาชีได้อย่างไม่คาดคิดอาชียิ้มอย่างเก้ๆ กังๆ ว่า "ฉันทิ้งนามบัตรให้สามีคุณ แล้วบอกเขาว่าถ้ามีงานอะไรอยากให้ฉันช่วย ก็เรียกมาได้เลย ตราบใดที่ให้เงินฉันก็จะทำครับ"ไห่ถงเคยคิดที่จะทำงานเป็นคนขับรถแทน เพราะไม่ใช่ทุกวันที่ต้องทำงาน และยังสามารถทำงานพาร์ทไทม์อย่างอื่นได้ ซึ่งดีกว่าอยู่บ้านเฉยๆ จึงไม่สงสัยว่าอาชีโกหก“งั้นรบกวนด้วยค่ะ”“ไม่เป็นครับ แค่มีค่าแรงก็ทำได้หมด”อาชีพูดเสร็จ รีบยกโซฟาออกไปพร้อมกับคนอื่นเซินเสี่ยวจวินถามเธออย่างส่งๆ ว่า "คนรู้จักเหรอ?"“อืม เคยเห็นเขาที่หมิงหยวนฮวา การ์เด้นสองสามครั้งแล้ว ปกติเขาทำงานเป็นคนขับรถแทน และจ้านหยินก็เมากลับบ้านมาสองครั้ง ซึ่งได้เขาขับรถพามาส่งบ้าน”“ฉันไม่รู้ว่าเขาก็รับงานพาร์ทไทม์ด้วย ฉันจะขอนามบัตรเขาทีหลัง เพราะถ้ามีอะไรต้องขอแรงเขาในอนาคต ฉันคิดว่าเขาไว้ใจน่ะ”คุณยายจ้านก็เก็บของเล่นของหยางหยาง และแอบพูดในใจว่า "อาชีเป็นหนึ่งในบอดี้การ์ดของอาจ้าน เขาจะดูไม่น่าเชื่อถือเหรอ?คนเยอะงานเลยเดินหน้าไปอย่างรวดเร็วทุกคนช่วยกันคนละไม้คนละมือ ย้ายเครื่องใช้ไปฟ้าทั้งหมดที่ไห่หลิง
หลังจากที่เอาของทุกอย่างที่สามารถย้ายออกจากบ้านแล้ว บ้านก็ว่างเปล่า ของที่เหลือถูกซื้อโดยโจวหงหลินและมีไม่เยอะทุกคนย้ายเครื่องไฟฟ้าที่โจวหงหลินซื้อไปที่หน้าประตูบ้าน และเริ่มทุบกระเบื้องปูพื้นและลอกวอเปเปอร์บนผนังออกเสียงสว่านไฟฟ้า เสียงทุบกำแพง เสียงเจาะผนังปะปนกันเป็นจังหวะซึ่งมันส่งกระทบต่อผู้อยู่อาศัยชั้นล่างด้วยความรู้สึกเกรงใจ สองพี่น้องจึงออกไปที่ร้านค้าข้างนอกและซื้อผลไม้ให้กับเพื่อนบ้านทั้งชั้นบนและชั้นล่าง เพื่อพวกเขาขอโทษและสัญญาว่าจะทำให้เสร็จก่อนมืดพวกเขาทั้งหมดบอกว่าไม่เป็นไร สองพี่น้องตระกูลไห่คุ้นเคยกับเพื่อนบ้านที่อาศัยทั้งชั้นบนและชั้นล่าง แต่ว่าสองพี่น้องมอบผลไม้เพื่อแทนคำขอขอโทษ แม้ว่าจะมีเสียงรบกวนอีก เพื่อนบ้านก็ไม่สนใจชั่วคราวถ้าบ้านไหนที่มีเด็กอยู่ที่บ้าน และทนเสียงดังรบกวนไม่ได้ ก็จึงพาเด็กออกไปเดินเล่นสองพี่น้องได้ซื้ออาหารมากมายแจกคนงานที่ช่วยรื้อถอนบ้านเจ้าของบ้านให้การสนับสนุน และพนักงานจึงทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพถึงตอนเย็น ได้รื้อทุกอย่างที่สามารถรื้อออกมาได้ และทุบทุกอย่างที่รื้อออกมาไม่ได้“คุณหนูไห่ ต้องเก็บขยะด้วยไหม?”มีคนถามไห่ห
จ้านหยินเคยบอกไว้ว่า ถ้าเขาจะไม่ใช่ผู้ชายยอดเยี่ยม เขาไม่กล้าแนะนำเขาให้กับเพื่อนของเธอแน่ และคำพูดของเขาก็สามารถเชื่อถือได้ซูหนานตกใจเล็กน้อยที่มาช้าไปเขามองไปที่เซินเสี่ยวจวิน ซึ่งเป็นคนสั่งให้ทุกคนเคลื่อนย้าฃของ เมื่อเห็นเข้า ซูหนานก็เดินเข้าไปหาทักทายอย่างสุภาพ "คุณซู""คุณเซิน"ซูหนานยิ้มและถามด้วยความเป็นห่วง “คุณเซินหายจากหวัดแล้วหรือยัง?”“ดีแล้วค่ะ ขอบคุณคุณซูสำหรับความห่วงใย”ไห่ถงดึงจ้านหยินออกไปอย่างเงียบ ๆ และปล่อยให้ซูหนานกับเซินเสี่ยวจวินพูดคุยกันคุยกับส่วนตัว ไห่ถงชื่นชนสามีและพูดว่า "จ้านหยินเพื่อนร่วมงานของคุณเก่งจริงๆ เขาเป็นระดับหัวหน้าในบริษัทของคุณด้วยใช่ไหม? ตอนนั้นที่พงกคุณออกมาจากโรงแรม ฉันก็เห็นเขาที่นั่นเหมือนกันค่ะ"“เขาก็เป็นหัวหน้าที่มีตำแหน่งสูงเหมือนกัน และใครๆ ก็เรียกเขาว่า ประธานซู”ทันใดนั้น เขาเลื่อนหน้ามาแนบชิดกับหูของไห่ถง แล้วกระซิบว่า "คุประธานซูไม่ยอมให้ฉันพูด พวกเราเป็นสามีภรรยากัน ดังนั้นจึงพูดได้ ประธานซูเป็นคนที่มีความสามารถและได้รับความไว้วางใจจากประธานใหญ่เสมอ เรียกได้ว่าในบริษัทนั้น นอกจากประธานใหญ่แล้ว ประธานซูยังดำรงตำแหน่
หลังจากที่ครึกครื้นมาตลอดช่วงบ่าย ความสงบก็มาเยือนพร้อมกับความมืดมิดในตอนแรก ไห่หลิงตกแต่งบ้านเล็กๆ หลังนี้ด้วยความเอาใจใส่และหมดเงินไปเป็นจำนวนมาก วันนี้เธอได้ย้ายเครื่องใช้ไฟฟ้าทั้งหมดที่เธอซื้อมา แต่บ้านเช่าของเธอไม่มีพื้นที่เก็บ เธอจึงเลือกของที่สามารถใช้งานทั่วไปว้ ส่วนที่เหลือไม่ได้ย้ายไปบ้านน้องสาว แต่ขายลดราคาและยังถือเป็นการอำลาอดีตอีกด้วยเนื่องจากบ้านเช่าของไห่หลิงยังไม่ได้จัดข้าวของ จึงไม่สะดวกในการทำอาหาร ไห่หลิงชวนทุกคนมาทานอาหารที่โรงแรมนอกจากนี้ยังเป็นการเฉลิมฉลองของการหวนกลับคืนมาสู่อิสรภาพของเธอด้วยไห่หลิงอำลาอดีตอย่างมีความสุข และโจวหงหลินที่อยู่อีกด้านหนึ่งก็ไม่ได้โวยวายแล้วตอนกลางคืน 21.00 น. ก็ไปอพาร์ทเมนต์ที่เย่เจียนีเช่าอยู่“เจียนี คุณเอาของมาแค่นี้เหรอ?”โจวหงหลินเห็นว่าเย่เจียนนี่ไม่มีสัมภาระมากมายในกระเป๋า เขาจึงเดินไปลากกระเป๋าเดินทางแล้วถามเธอว่า "พวกคุณเก็บข้าวของหมดแล้วเหรอ?"“ฉันอยู่คนเดียวค่ะ เลยไม่ค่อยมีสัมภาระมากนัก และทิ้งของที่ไม่ต้องการไปแล้ว”เย่เจียนีเดินออกไปพร้อมกับโจวหงหลิน โดยกอดกระเป๋าใบเก่งและตุ๊กตาที่มักจะนอนกอดไปด้วย “ฉัน