เธอจอดรถลงหน้าจ้านซื่อกรุ๊ป แล้วจึงโทรหาจ้านหยินีกครั้งตลอดทางมานี้เธอโทรหาจ้านหยินไม่ต่ำกว่ายี่สิบสายแต่นายขี้หึงตัวเท่าบ้านนั่นไม่ยอมรับสายเธอร้อนใจจะตายอยู่แล้ว!โชคดีที่ ครั้งนี้จ้านหยินก็ยอมรับสายเธอในที่สุด"จ้านหยิน ฉันอยู่หน้าบริษัทคุณแล้ว คุณขอลางานกับหัวหน้าสักครึ่งชั่วโมงได้ไหม? ออกมาหน่อย ฉันมีเรื่องอยากคุยกับคุณ"จ้านหยินดีดตัวลุกขึ้นยืน เดินไปที่หน้าต่างห้องประชุม ดึงม่านออกแล้วมองลงไปข้างล่างชั้นที่เขาอยู่สูงมาก ระยะทางจึงทิ้งห่างออกไกลเกินไป ต่อให้เขาสายตาดีขนาดไหนก็ไม่อาจมองเห็นได้อย่างชัดเจนว่ารถที่จอดหน้าบริษัทคันนั้นเป็นของไห่ถงหรือไม่"จ้านหยิน คุณฟังอยู่หรือเปล่า? ตอบหน่อยสิ"ไห่ถงพูดอย่างร้อนใจ "คุณออกมาหน่อย ถ้าคุณไม่ออกมา ฉันจะรออยู่หน้าบริษัทจนกว่าคุณจะเลิกงาน"จ้านหยินกดเสียงต่ำ "คุณรอเดี๋ยว ผมกำลังออกไปเดี๋ยวนี้"ปิดม่านลง เขาหันกลับมามุ่งหน้าออกไปนอกห้องประชุม เมื่อวางสายเสร็จ ก็ออกคำสั่งเสียงขรึม "ซูหนาน นายคุมการประชุมหน่อย"ซูหนานแทบอยากจะระเบิดหัวเราะออกมาเขาทายถูกจริงๆด้วยแต่กลับไม่แสดงสีหน้าใดๆ แล้วรับคำว่า "ได้"จ้านหยินทิ้งคณะบอ
“คุณนี่งี่เง่ามาก ไม่ได้ฉันได้อธิบายสักนิด สิ่งที่คุณเห็นอาจไม่ใช่เรื่องจริงก็ได้”เธอปล่อยเขาไป และหยิกแขนเขาสองทีด้วยความโกรธเขาทำให้เธอตกใจมากคิดว่าพวกเขาก่อสงครามเย็นกันอีกรอบจ้านหยินทนต่อความเจ็บปวดจากที่เธอกหยิกเขาสองทีอย่างเงียบ ๆ ซึ่งเจ็บมาก แต่เขาก็ไม่สนใจเท่าไหร่ขอเพียงแค่ธอใส่ใจเขาก็พอแล้ว“จางเหนียนเซิงสารภาพรักกับฉัน แต่โดนฉันปฏิเสธไปแล้ว เพราะตอนนี้ฉันเป็นภรรยาของคุณ และในชีวิตที่เหลืออยู่นี้ ถ้าคุณไม่ทิ้งฉันฉัน ฉันก็จะไม่ทิ้งคุณเช่นกันค่ะ”"จริงใช่ไหม?"จ้านหยินคิดถึงที่เขาปกปิดตัวตนไว้ตอนที่เธอรู้ว่าโดนเขาหลอกมานาน เธอก็จะไม่ทิ้งเขา?"คุณยังไม่เชื่อฉันเหรอคะ?"จ้านหยินถอนหายใจออกมาเบา ๆ กอดเธอไว้ในอ้อมแขน “ ไห่ถงตอนที่เห็นคุณกับจางเหนียนเซิงอยู่ด้วยกัน ฉันโกรธมาก และปฏิกิริยาตอบสนองสัญชาตญาณของฉันคือต้องการจากไป ฉันรู้เต็มอกด้วยว่า มันไม่ใช่ความผิดของคุณ จางเหนียนเซิงต่างหากที่มาค่อยรบกวนคุณ”"เป็นความจริงที่.....ฉันหึงน่ะ"“ฉันหึงจนหน้ามืดตามัว คิดถึงความรักอันลึกซึ้งของจางเหนียนเซิงที่มีต่อคุณ และคุณยังสนิทกับเขามานานกว่าสิบปีอีก มันก็ทำให้ฉันหงุดหงิ
“คุณมีทักษะในศิลปะการต่อสู้ แต่ยังต้องอยู่ห่างจากเขาเอาไว้ เพราะสามีของคุณใจแคบเกินกว่าที่จะเห็นคุณอยู่กับเขาได้ แม้ว่าเขาจะยังวนเวียนอยู่รอบตัวคุณ ฉันก็ยังอิจฉา”เมื่อก่อนเขาก็หึงแต่แค่เขาปฏิเสธที่จะยอมรับมันเท่านั้นถ้าไม่สนใจ เขาก็จะไม่สนด้วยซ้ำว่าเธออยู่กับใครทำอะไรบ้างเป็นเพราะเขาใส่ใจ จึงโกรธและทำเรื่องที่ไร้เหตุผลหลายครั้งต่อหลายครั้ง“ถ้าตอนที่เขามา ฉันจะไล่ตะเพิดเขาออกไป แต่ฉันไม่สามารถหักขาเขา เพื่อป้องกันไม่ให้เขามาหาได้”สีหน้าของจ้านหยินเย็นชา "ฉันจะทำให้เขาไม่กล้ามาเอง""คุณจะทำอะไรคะ? อย่าทำอะไรบ้าๆ นะ"จ้านหยินจับหน้าเธอแล้วพูดว่า "ไม่ต้องกังวล เมื่อมีคุณอยู่แล้ว ฉันจะไม่ทำอะไรบ้าๆ แน่นอน"เพราะเขายังอยากอยู่กับเธอตลอดชีวิตเขาเริ่มตัดความร่วมมือทางธุรกิจกับจางซื่อกรุ๊ปแล้ว และเลื่อนโครงการของหูซื่อกรุ๊ปกำลังพูดคุยอยู่ออกไปด้วย จางซื่อกรุ๊ปจะเข้าใจอย่างทันทีว่าจ้านซื่อกรุ๊ปกำลังมุ่งเป้าไปที่พวกเขา และรอให้ประธานจางมาหาเขาเพื่อถามถึงเหตุผลไห่ถงไม่สามารถหยุดจางเหนียนเซิงได้ งั้นพ่อแม่ของเขาจะไม่สามารถหยุดเขาได้?“เห็นแก่เสี่ยวจวิน อย่าทุบตีเขาจนตายนะ”เมื่
“ฉันไม่ได้ใจแคบเหมือนคุณนะคะ”จ้านหยิน“.....คุณโกรธ”“ใช่ๆ ฉันโกรธ ฉันส่งข้อความหาคุณไปเยอะมาก แต่คุณไม่ตอบฉันเลย เพราะคุณใจแคบ”ไห่ถงลงจากรถ แล้วดึงเขาออกมาจากรถ เอาวางร่มยัดใส่ไว้ในมือเขาแล้วพูดว่า "คุณควรรีบกลับเข้าไปทำงานเร็ว ๆ ค่ะ ฉันต้องไปแล้วจริงๆ"เธอยังคงหิวอยู่เขาตื่นมาตั้งแต่เช้าตรู่ เพื่อต้มน้ำขิงให้เธอ แต่เธอยังไม่ได้กินตอนนี้ยังปวดท้องอยู่“ฉันยืนรอดูคุณไปก่อน”ซางเสี่ยวเฟยและแม่ของเธอมาหาเธอ นี่อาจเป็นเพราะเรื่องเกี่ยวกับของน้องสาวคุณนายซางจ้านหยินไม่สามารถรั้งเธอไว้ที่นี่ได้ไห่ถงกลับมานั่งที่เบาะคนขับ โบกมือให้เขาแล้วพูดว่า "ถ้าคุณจะไปกินข้าวกลางวันที่ร้าน ช่วยบอกฉันล่วงหน้าด้วยนะคะ ไม่เช่นนั้นคุณไปถึงแล้วไม่มีอะให้ทานค่ะ""ครับ"ถ้าสองแม่ลูกตระกูลซางอยู่ในร้านเธอ เขาคงไม่ไปที่นั่นไห่ถงรีบขับรถจากไปจ้านหยินยืนดูรถของเธอไปไกลจนลับตา ก่อนที่จะหันหลังกลับแล้วเดินกลับเข้าไปแต่เขาไม่รู้สึกตัวสักนิดว่า ซูหนานกับจ้านอี้เฉินสลับกันมาส่องดูพวกเขาสองสามีภรรยาที่ประตูบริษัทด้วยกล้องส่องไกลส่วนผู้จัดการที่ได้รับแจ้งให้เข้าร่วมการประชุม ซูหนานได้พูดสรุปเรื่อง
เพื่อที่จะไม่โดนบ่นเรื่องที่ยังไม่แต่งงาน เซินเสี่ยวจวินไม่ลังเลเลยที่จะล้มตัวลงนอนในงานเลี้ยงวันเกิดของคุณนายต้วน ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นว่าเธอถูกบีบให้แต่งงานอยู่ถ้าเขามาเยี่ยมเซินเสี่ยวจวิน และโดนคุณนายเซินเห็นเข้า อาจเป็นเรื่องยากสำหรับเขาที่จะหนีไปได้แม้ว่าเซินเสี่ยวจวินจะรู้สึกดีกับเขา แต่ทั้งสองยังไม่ได้จริงจังกัน และก็ไม่ใช่เวลาเหมาะสมที่พบหน้าพ่อแม่ของพวกเขาสำหรับทางฝั่งเขานั้น เขาเพียงแต่บอกให้ผู้นำตระกูลซูรู้ นอกจากนี้ไม่มีใครกล้า เพราะเขากลัวว่าผู้เฒ่าจะทำอะไรโหวกเหวกโวยวาย จนทำให้เซินเสี่ยวจวินหวาดกลัวเซินเสี่ยวจวินขอบคุณซูหนานสำหรับความห่วงใยทั้งสองไม่ได้พูดคุยกันนานเกินไป และวางสาย......ซางเสี่ยวเฟยยและแม่ของเธอกำลังรอไห่ถงกลับมาที่ร้านหนังสือ จางเหนียนเซิงก็จากไปหลังจากที่ซางเสี่ยวเฟยและแม่ของเธอมาถึงแม่ของเขาเตือนให้เขาอยู่ห่างจาซางเสี่ยวเฟยเอาไว้ ตอนที่พบเธอ เพราะพวกเขาไม่สามารถทำให้ตระกูลซางไม่พอใจได้คุณนายซางตัดสินใจแล้วว่า ไห่ถงและพี่สาวเป็นหลานสาวของตัวเอง เธอเดินไปรอบๆ ร้านหลายรอบ และก็สำรวจทุกซอกทุกมุมแล้วยังเห็นของอื่น ๆ อีกมากมายเธอถามลูกส
“ลูกเคยเห็นสามีที่แต่งงานสายฟ้าแลบของไไห่ถงไหม?”คุณนายซางถามลูกสาวหากไห่ถงและพี่สาวเป็นหลานสาวของเธอจริงๆ และคุณนายซางก็มีศักดิ์เป็นป้าของพวกเธอ และเธอจะต้องดูแลหลานสาว“หนูยังไม่ได้เจอเขางานยุ่งมาก คุณแม่ก็รู้ด้วยว่าคนที่สามารถทำงานที่จ้านซื่อกรุ๊ปได้ล้วนเป็นพวกหัวกะทะและงานก็ยุ่งมาก เหมือนว่าสามีของไห่ถง ยังเป็นระดับหัวหน้า ดังนั้นเขาจึงยุ่งมากกว่าปกติ”“เคยได้ยินไห่ถงพูดถึงเขาเป็นครั้งคราว และสีหน้าก็ดูอ่อนโยนมากขึ้นเลื่อนๆ หนูคิดว่าทั้งคู่ได้พัฒนาความสัมพันธ์กันแล้ว”ซางเสี่ยวเฟยไม่ได้สนใจเรื่องการแต่งงานของไห่ถงมากนักหลังจากเธอหลังจากตกหลุมรักเข้าแล้ว เธอเห็นท่าทางของไห่ถงที่มีต่อสามีสายฟ้าแลบของเธอเปลี่ยนไปซางเสี่ยวเฟยคิดอยู่ครู่หนึ่ง และพูดเสริมต่อว่า "แต่พวกเขายังไม่ได้รักอย่างลึกซึ้ง ดังนั้นพวกเขาจึงยังคงแต่งงานในนามอยู่"“การแต่งงานแบบสายฟ้าแลบได้แต่งเพราะความรัก ตอนแรกพวกเขาจดทะเบียนสมรสก่อน แล้วค่อยๆ สะสมความรู้สึกที่ีต่อกัน น้ำหยดลงหินทุกวัน หินยังกร่อนและสองสามีภรรยามีเหตุผลกันมาก”ก่อนที่พวกเขาจะได้ทำความรู้จักกัน คุณนายซางก็อดไม่ได้ที่จะเอนเอียงไปข้างไห่ถง
“ข้าวเช้าฉันไม่ร้อนแล้ว ฉันจะเอาเข้าไปอุ่นในครัวหน่อย เสี่ยวเฟย คุณเป็นขาประจำที่นี่แล้ว ช่วยฉันดูแลป้าด้วยนะ”ซางเสี่ยวเฟยยิ้มและพูดว่า "ไม่ต้องกังวล เราสองแม่ลูกจะไม่เกรงใจ จะทำเหมือนร้านของเธอเหมือนของฉันเอง"ไห่ถงคิดในใจ: ด้วยธุรกิจของครอบครัวของคุณ ร้านค้าของฉันจะไม่ดึงดูดสายตาคุณเลยสักนิดเธอนำอาหารเช้าที่จ้านหยินห่อมากลับเข้าไปในห้องครัว อุ่นและกินมันในห้องครัวน้ำขิงน้ำตาลทรายที่จ้านหยินทำให้เธอนั้น ใส่ไว้ในกระติกน้ำร้อนจึงยังร้อนอยู่อากาศเริ่มเย็นแล้ว เธอมีรอบระดูก็เลยรู้สึกว่ามือและเท้าเย็น จึงกอดกระติกน้ำร้อนและดื่มน้ำขิงน้ำตาลทรายแดง ทำให้ไห่ถงรู้สึกสบายท้องมากขึ้นมาก"ตื๊ด ๆ ๆ ๆ..."โทรศัพท์ดังขึ้นเธอกำลังดื่มน้ำขิงน้ำตาลทรายแดงขณะหยิบโทรศัพท์ออกมาเพื่อดู และพบว่าเป็นสายเรียกเข้าจากจ้านหยิน เธอจึงกดรับสาย"ถึงร้านยัง?"จ้านหยินได้คำนวณเวลาในการโทรหา"ถึงแล้วค่ะ""คุณกำลังกินอะไร?"“ฉันกินทำอาหารเช้าแสนอร่อยที่คุณเตรียมไว้ให้เสร็จค่ะ และตอนนี้ฉันกำลังดื่มน้ำขิงน้ำตาลทรายแดงที่คุณก็ทำให้ฉันด้วย รสชาติของขิงนั้นเข้มข้นมาก หวาน และมีกลิ่นเผ็ดเล็กน้อย แต่เมื่อดื่
"จางเหนียนเซิงไปยัง?"จ้านหยินยังเห็นเขาเป็นศัตรูหัวใจ“ฉันกลับมาก็ไม่เห็นเขาแล้ว คุณยังหึงอยู่?”จ้านหยินเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนพูดว่า "คุณยังบอกว่าฉันนิสัยเป็ยแบบนี้ ความหีงอาจกลายเป็นนิสัยของฉันไปแล้ว"ถ้าซูหนานกับคุณยายจ้านอยู่ที่นั้นด้วย ต้องซ้ำเติมเขาแล้วไห่ถงหัวเราะ “ฉันจะทำอาหารบำรุงสายตาให้คุณทุกวัน”ในเมื่อเขาตาถั่วก็ต้องบำรุงซะหน่อย"อาหารที่คุณทำ ผมก็ชอบกินหมด"“จ้านหยิน เอาน้ำตาลกรอกปากเหรอคะ? คำพูดคำจาของคุณหวานจนมดขึ้นแล้วค่ะ”มุมปากของจ้านหยินกระตุก คุณยายของเขามักจะไม่ชอบเขาที่ไม่พูดจาหวานๆ กับไห่ถง แต่เมื่อเขาพูดหวาน ๆ ออไปสองคำ ไห่ถงก็คิดว่าเขาเอาน้ำตาลกรอกปากมา เธออาจจะไม่ชอบคำพูดหวานๆ เลี่ยนๆ"คุณทำงานเถอะ ฉันไม่รบกวนแล้ว""ครับ"ไห่ถงตัดสายโทรศัพท์ไปก่อนจ้านหยินเอาโทรศัพท์ออกจากหู แล้วมองที่หน้าจอสักพักก่อน จะบ่นว่า "ไม่มีแม้แต่จะพูดว่าคิดถึงฉันเลย"จึงวางโทรศัพท์ลง เขาปรับอารมณ์อย่างรวดเร็วและให้ความสนใจกับงานกองโตไห่ถงดื่มน้ำขิงน้ำตาลทรายแดงจนหมด แล้วทำความสะอาดกระติกน้ำร้อน จากนั้นนำผลไม้บางส่วนออกมาจากตู้เย็น เพื่อล้างทำความ วางลงในถาดผลไม้ แล้