"สามีให้ฉัน สวยใช่ไหมล่ะ? ฉันว่ามันสวยมาก ชอบสุดเลย"หลังจากที่ไห่ถงถ่ายรูปช่อดอกไม้ไปไม่น้อยแล้ว ก็วางโทรศัพท์ลง อุ้มช่อดอกไม้เข้าหาตัวแล้วดม "หอมมาก!"จางเหนียนเซิงเห็นภาพเหล่านั้นเต็มสองตา บาดหัวใจเกินไปมาก"ที่แท้พี่เขยเป็นคนให้พี่ไห่ถงนี่เอง วันนี้เป็นวันพิเศษอะไรหรอ? ที่ผ่านมาไม่เคยเห็นเขาให้ดอกไม้พี่ไห่ถงเลยนี่" รอยยิ้มของจางเหนียนเซิงค่อนข้างแข็งทื่อ คำพูดที่เขาพูดออกมาก็แฝงไว้ด้วยความริษยา ในขณะเดียวกันก็แฝงถึงการจ้องจับผิดอยู่ด้วยไห่ถงเงยหน้ามองเขา แล้วว่า "ระหว่างสามีภรรยา จะให้ดอกไม้กันต้องเป็นวันพิเศษด้วยหรอ? ถ้าฉันชอบ สามีฉันก็พร้อมจะซื้อมาให้ทุกวันนั่นแหละ เมื่อก่อนน่ะ เป็นเพราะฉันเสียดายเงิน ดอกไม้ช่อนึงก็ไม่ใช่ถูกๆ แถมกินก็ไม่ได้ ฉันบอกเขาว่าแทนที่จะให้ดอกไม้ช่อนึงสู้ซื้อเนื้อดีๆให้ฉันกินดีกว่า เขาก็เลยไม่ได้ให้"จางเหนียนเซิง "...มันก็ใช่""เหนียนเซียง มีธุระอะไรจะบอกพี่จวินหรือเปล่า? ไม่งั้นโทรหาเธอไหม เธอก็น่าจะใกล้กลับแล้วล่ะ""ไม่มีอะไร ผมแค่ผ่านมาเลยแวะมาเยี่ยม พี่ไห่ถง ผมกลับบริษัทไปทำงานก่อนนะ""โอเค"ไห่ถงรับคำสั้นๆ แล้วหันกลับไปชื่มชมช่อดอกไม้ที่จ้า
"เธอเชื่อจริงๆหรือว่าไม่ได้มีความหมายอื่น? ถงถง ถ้าเกิดว่าฝ่ายชายเขามีใจ เธอต้องคว้าโอกาสนี้ให้ดีล่ะ ฉันรอไปกินเหล้า เป็นเพื่อนเจ้าสาวในงานแต่งจริงๆของเธออยู่"เซินเสี่ยวจวินหยอกล้อเพื่อนสาว"เธอคิดไปไกลมากนะ""ฉันว่าไม่ได้ไกลเลยนะ ฮ่าๆ ถงถง ฉันเรียกให้เหนียนเซียงรออยู่ เดี๋ยวเราสองพี่น้องจะไปกินกาแฟกัน เธออยากดื่มอะไร เดี๋ยวฉันซื้อกลับมาให้"ไห่ถงครุ่นคิด แล้วว่า "เอาชานมรสเผือกหอมให้ฉันแก้วนึงแล้วกัน""โอเค"เซินเสี่ยวจวินตอบรับอย่างร่าเริง "เธอดูร้านไปนะ ฉันไปกินกาแฟก่อน""ไปเถอะ"ถึงยังไงตอนนี้ที่ร้านก็ไม่มีลูกค้า ปกติเวลานี้ถ้าไม่นอนฟุบอยู่หน้าแคชเชียร์เธอก็จะถักงานฝีมือของเธอเซินเสี่ยวจวินออกไปแล้วจางเหนียนเซิงรออยู่ข้างนอกเมื่อเซินเสี่ยวจวินออกมา ก็รีบเก็บรอยยิ้มบนใบหน้า"ไปกันครับ"จางเหนียนเซิงเดินขึ้นรถของจางเหนียนเซิงจางเหนียนเซิงเห็นสีหน้าของญาติพี่ค่อนข้างจริงจัง ทันใดนั้นก็รู้สึกใจฝ่อขณะเดียวกันที่จ้านซื่อกรุ๊ปจ้านหยินเดินเข้าลิฟต์อย่างอารมณ์ดีเลขาจ้าวเดินถือจดหมายฉบับนึงเข้ามา"บอสครับ จดหมายฉบับนี้ ประธานซูสั่งว่าต้องเอามาให้ท่านเองกับมือ บอกว่า
เขาเคยพูดว่าจะให้พวกตระกูลไห่เป็นขอทานยังยากเลยซู่หนานหัวเราะและพูดว่า: "ถ้าบีบคอจนตายในคราวเดียว ก็จะไม่มีเรื่องสนุกให้ดู"จ้านหยินมีเส้นสีดำบนใบหน้าของเขา"การจัดการกับคนแบบนี้ อย่าเพิ่งรีบใจร้อน ค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป ปล่อยให้พวกเขาสูญเสียทุกสิ่งที่พวกเขาเคยมีไปทีละเล็กทีละน้อย ใ้ลิ้มรสชาติที่พยายามรักษาไว้ แต่ได้สูญเสียไปต่อหน้าต่อตานั้นคือสิ่งที่ทรมานที่สุด"ซูหนานยอมรับว่าครั้งนี้ตัวเขาไม่ค่อยจริงจังเท่าไหร่ไม่มีเร่งรีบที่จะจัดการพกตระกูลไห่ภายในคราวเดียว“แต่บอสไม่ต้องกังวลไป ยังไงผลลัพธ์สุดท้ายก็จะทำให้คุณพึงพอใจอย่างแน่นอน”“เพราะตอนนี้ไห่จื้อเหวินถูกบริษัทไล่ออกแล้ว ครั้นการค้นหายอดฮิตได้รับความนิยมอย่างสูงในขณะนั้น และชื่อเสียงในที่ทำงานของไห่จื้อเหวินก็ย่ำแย่เช่นกัน ส่วนเรื่องการจะหางานดีๆ อีกครั้งเป็นเรื่องยากมาก”ท่าทางออกของจ้านหยินอ่อนลง เมื่อได้ยินว่าไห่จื้อเหวินตกงาน“เรื่องนี้ต้องขอบคุณคุณหนูซาง ซึ่งเป็นคนขอให้พี่ชายของเธอไล่ไห่จื้อเหวินออก และยังบอกได้ว่าคุณหนูซางใจดีกับคุณนายมาก”จ้านหยินฮึมอย่างเย็นชาไห่ถงไม่รู้ว่าเหนือฟ้ายังมีฟ้า ดังนั้นเธอรวมหัวกับซางเ
ร้านกาแฟเซินเสี่ยวจวินเลือกที่นั่งห่างไกลและนั่งลงจางเหนียนเซิงนั่งตรงข้ามเธอ“เหนียนเซียง เธอดื่มอะไร?”“อะไรก็ได้ พี่จวินอยากดื่มอะไรก็สั่งให้ฉันด้วยแล้วกัน”เซินเสี่ยวจวินพูดกับพนักงานเสิร์ฟ: "ขอกาแฟขมๆ มาสองแก้วค่ะ"“พี่จวิน กาแฟขมๆ มันไม่อร่อยนะ”เซินเสี่ยวจวินมองเขาด้วยหางตา และจางเหนียนเซิงพูดอย่างเหน็บแนม: "กาแฟขมก็คือกาแฟขม"หลังจากที่กาแฟขมๆ สองแก้วที่คนทั้งสองสั่งก็มาเสิร์ฟ เซินเสี่ยวจวินก็ถามอย่างตรงไปตรงมา: "เหนียนเซียง ฉันอยากจะถามอะไรเธอสักอย่าง เธอชอบพี่ไห่ถงหรือเปล่า?"จางเหนียนเซิงอึ้งเขามองไปที่เซินเสี่ยวจวินอย่างเบลอ“พี่จวิน......”“พูดความจริง!”เซินเสี่ยวจวินออกคำสั่งหน้าของจางเหนียนเซิงค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีแดงเขาถูกจับได้แล้ว?“พี่จวิน ฉัน... ฉัน ฉันชอบพี่ไห่ถง”“ตั้งแต่เมื่อไหร่?”จางเหนียนเซิงพูดด้วยน้ำเสียงเบาๆ: "ฉันกฌไม่รู้ว่ามันเริ่มตั้งแต่เมื่อไหร่ อาจเป็นตอนที่ฉันอายุสิบสี่หรือสิบห้าปี ฉันรู้สึกไม่เข้าใจเกี่ยวกับความรักครั้งแรก หรืออาจเป็นตอนที่ฉันอายุสิบเจ็ดหรือสิบแปด”เซินเสี่ยวจวินเปลี่ยนเป็นสีเข้ม "เธอแอบรักไห่ถงมานานแล้ว"ซ่อนม
“เพียงเพราะฉันเป็นลูกพี่ลูกน้องของนาย ฉันถึงโทรหานายเพื่อจะมาพูดสิ่งเหล่านี้ ไม่ต้องบอกว่า ไห่ถงไม่ชอบนาย แม้ว่าเธอจะชอบนาย แต่ฉันก็ไม่เห็นด้วยกับการที่พวกนายคบกัน”"ทำไมอ่ะ?"“เพราะครอบครัวของนาย ฉันจึงรู้ดีว่าคุณป้าของฉันเป็นยังไง ถ้าเธอรู้ว่านายชอบไห่ถง นายคิดว่าเธอจะยังคงยิ้มให้ไห่ถงอีหไหม? เธอจะพยายามทุกวิถีทางเพื่อไม่ให้พวกนายเจอกัน และอาจถึงขั้นใช้วิธีรุนแรงกับไห่ถงด้วย"“คุณป้าหมกมุ่นอยู่ในสังคมชนชั้นสูงมานานกว่า 20 ปี และเธอฝึกฝนมายาวนานให้มีสายตาที่มองสูงขึ้น นายคือลูกชายคนเดียวของเธอ เป็นทั้งความหวังและเป็นผู้สืบทอดของตระกูลจาง เธอความคาดหวังในตัวนายสูงมาก ดังนั้นเธอจึงต้องการให้นายแต่งงานกับลูกสาวของตระกูลที่มีชื่อเสียง”"ไห่ถงเป็นคนเก่งมาก แต่ภูมิหลังของเธอนั้นต่ำต้อย แต่มันไม่เกี่ยวข้องกับนาย และเพื่อตัวฉัน คุณป้ายินดีที่จะปฏิบัติต่อไห่ถงเหมือนหลานสาว แต่เมื่อมันเกี่ยวของกับนาย เธอจะโหดร้ายกับไห่ถงอย่าแน่นอน ไห่ถงไม่สามารถมาเป็นหนนึ่งในตัวเลือกลูกสะใภ้ในสายตาคุณป้า”คำพูดของเซินเสี่ยวจวินนั้นตรง และไม่มีความเมตตา"เหนียนเซียง ความรู้สึกของนายที่มีต่อไห่ถงจะไม่มีอะไร
เซินเสี่ยวจวินมองหน้าเขา แล้วถามอย่างจริงจังว่า "นายต้องการให้ไห่ถงเลิกกับคุณจ้าน? จางเหนียนเซิง อย่าให้ฉันต้องร้ายนะ!"จางเหนียนเซิงเจ็บปวดจนพูดไม่ออกเขารู้สึกแค่ว่า เขาปล่อยวางไม่ได้แต่เขาไม่สามารถทำเรื่องที่สามารถทำร้ายไห่ถงได้ท้ายที่สุดแล้ว เขาก็ลูกพี่ลูกน้องของตัวเอง เซินเสี่ยวจวินจึงมีสีหน้าอ่อนลง แล้วถอนหายใจพูดว่า: "เหนียนเซียง อะไรที่ควรพูดฉันก็พูดไปหมดแล้ว นายควรใจเย็นๆ ก่อน แล้วค่อยบังคับตัวเองไม่ให้ไปที่ร้านพี่ ไม่เจอและผ่านไปนานๆ ความรู้สึกก็จะจางหายไปเอง”หลังจากที่พูดจบเธอก็ยืนขึ้น แล้วพูดว่า "พี่เลี้ยงกาแฟแล้วกัน ฉันจะกลับไปร้านก่อน นายก็รีบกลับไปที่บริษัท ตอนนี้นายยังอยู่ในขั้นตอนการฝึกงานและนายต้องทำงานหนักกว่าใครๆ จำไว้ว่าตระกูลจาง ไม่ได้มีนายแค่คนเดียว ถ้านายไม่พยายามทุกอย่างที่เป็นของนายก็จะหลุดมือไป”หลังจากที่เซินเสี่ยวจวินพูดจบ ก็ลากเก้าอี้ออก แล้วหันหลังเดินจากไปจางเหนียนเซิงนั่งอยู่อย่างเหม่อลอยเมื่อรู้ว่าตัวเองรักพี่ไห่ถงก็ไม่กล้าสารภาพออกมาอย่างกล้าหาญจะปล่อยให้โอกาสหลุดลอยไปอย่างนั้นหรือ?เมื่อเซินเสี่ยวจวินกลับมาถึงร้าน หยางหยางก็ตื่นแล้วไห
ไห่ถงยิ้ม "ฉันรู้สึกปลื้มใจมากค่ะ คุณจ้าน มีอะไรอยากจะพูดกับฉันเหรอคะ?"จ้านหยิน: "...คืนนี้ฉันไม่ต้องไปกินเลี้ยงกับลูกค้า ฉันคิดว่า ถ้าคุณสนใจ ฉันจะไปช้อปปิ้งกับคุณได้"หลังจากให้ดอกไม้ช่อแรกไปแล้ว จ้านหยินก็วิ่งหนีไป เมื่อคิดถึงเรื่องนี้อีก และหลังจากที่เขาก็รู้สึกว่าการเริ่มต้นนั้นไม่ใช่เรื่องยากนั้นเขานัดภรรยาไปช้อปปิ้งในตอนกลางคืนอย่างไม่เขินไห่ถงคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า "ฉันอยากจะพาหยางหยางไปรับพี่ฉันหลังเลิกงาน ถ้าคุณไม่รังเกียจก็ไปรับรับพี่ฉันหลังเลิกงานด้วยกัน แล้วจากนั้นไปช้อปปิ้งหลังอาหารเย็นได้"“พี่ต้องทำโอทีไหม?”“เธอเพิ่งส่งข้อความมาว่า เธอไม่ต้องทำโอทีในวันแรก และสามารถเลิกงานได้ตอน 17.30 น. ค่ะ”หลังจากที่จ้านหยินเงียบไป ก็พูดว่า "โอเค อีกสักพักฉันจะไปหา แล้วพวกเราก็ไปรับพี่จากเลิกงานด้วยกัน และฉันจะเลี้ยงอาหารค่ำพวกคุณเอง""โอเค"“งั้นฉันวางสายนะ”"โอเค"จ้านหยินไม่ได้วางสายไปในทันที เขากำลังรอให้ไห่ถงพูดบางสิ่งที่หวานๆ กับเขาน่าเสียดายที่เขาไม่สามารถรอคำพูดหวานๆได้ ดังนั้นเขาเพียงแต่รอให้ภรรยาถามเขาว่า: "คุณจ้าน มีอะไรอีกไหมคะ?"“ไม่ ฉันจะวางสาย”
หลังจากที่จ้านหยินเอ่ยปากชวนภรรยไปช้อปปิ้งในตอนกลางคืน เขาก็รู้สึกมีความสุขและประสิทธิภาพในการทำงานก็ดีขึ้นมากได้ยินเสียงเคาะประตู เขาก็ตอบรับ ทำให้คนที่อยู่นอกประตูสามารถรับรู้ได้ว่าเขาอารมณ์ดีซูหนานเปิดประตูเข้ามาเขาไม่ได้อยู่คนเดียว ยังพาจวินหลานมาด้วยบอดี้การ์ดของจวินหลานกำลังรออยู่ที่ประตูออฟฟิศ"บอส คุณจวินมาแล้ว"จ้านหยินหยุดทำงานและลุกขึ้น เดินออกจากโต๊ะ "คุณจวิน"ทั้งสองจับมือกันอีกครั้ง และเขาเชิญจวินหลานให้นั่งบนโซฟาเลขาจ้าวเพิ่งแจ้งเขาว่า จวินหลานมาที่นี่ แต่เขาไม่คิดว่าจวินหลานจะเข้ามาพร้อมกับซูหนาน บางทีทั้งสองอาจพบกันข้างนอกซูหนานเทน้ำให้จวินหลานหลังจากที่จวินหลานนดื่มน้ำแล้ว จ้านหยินก็ถาม "คุณจวิน ความร่วมมือของพวกมีปัญหาอะไรหรือเปล่าครับ?"หุ้นส่วนระดับสูงอย่างจวินหลานไม่จำเป็นต้องนัดหมายและสามารถพบเขาได้ตลอด อย่างไรก็ตาม จวินหลานมักจะติดต่อกับซูหนานเกือบตลอดเวลา แต่คราวนี้เมื่อเขามาที่บริษัทเพื่อมาหาจ้านหยินโดยตรง จ้านหยินจึงคิดว่า น่าจะมีปัญหากับความร่วมมือระหว่างทั้งสองบริษัทจวินหลานยิ้มและพูดว่า: "ประธานจ้าน ไม่ได้มีปัญหากับความร่วมมือของพวกเรา
"ฉันคิดว่าคุณนายลู่ถ่ายรูปคุณหนูหยูและแสดงให้พี่สาวดูโดยตั้งใจ เพื่อทดสอบว่าเธอมีความรู้สึกกับตงหมิงหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ผลก็คือเธอไม่มีความคิดนั้นอย่างแน่นอน เธอไม่เคยคิดอะไรกับตงหมิงเลย ตอนนี้เธอหมกมุ่นอยู่กับร้านอาหารเช้าและต้องการเพียงแค่ประกอบอาชีพและหาเงิน"จ้านหยินก็มองไห่หลิงออกเช่นกัน"ถ้าเธอมีความคิดอะไรกับตงหมิง คุณนายลู่คงจะไม่ยอมให้เธอเปิดร้านที่นั่นต่อไป"ไห่ถงเห็นด้วยกับสิ่งที่สามีของเธอพูดคุณนายลู่กำลังทดสอบพี่สาวของเธอ พี่สาวของเธอไม่รู้เรื่องอะไรเลย แต่ไม่เป็นไร เธอจะได้ไม่ได้รับผลกระทบ"ที่รัก คุณคิดว่าฉันควรบอกเรื่องพวกนี้กับพี่สาวของฉันไหม?""คุณนายลู่คงทำอะไรไม่ได้ แสดงให้เห็นว่าเธอเพียงสงสัยเช่นเดียวกับเรา แต่ไม่สามารถพิสูจน์ได้ คุณไม่จำเป็นต้องพูดอะไรกับพี่สาวของคุณ ฉันแค่ต้องคุยกับตงหมิงและบอกเขาว่าอย่าไปทานอาหารเช้าที่บ้านพี่สาวของเราในอนาคต"จ้านหยินบ่นให้เพื่อนๆ ฟังว่าครอบครัวของเขาไม่ได้เตรียมอาหารเช้าไว้ ลู่ตงหมิงต้องรีบไปร้านกินได้ไม่อั้นแต่เช้าเพื่อทานอาหารเช้าในวันหยุดสุดสัปดาห์ใช่ไหม"ตกลง"หลังจากจ้านหยินกินและดื่มจนอิ่มแล้ว ไห่ถงก็ยิ้มและถา
ไห่ถงรู้สึกโชคดีอีกครั้ง เธอได้แต่งงานกับผู้ชายที่แม้จะแสดงอาการงอแงเล็กน้อยเป็นครั้งคราว แต่เขาก็ปฏิบัติต่อเธอเป็นอย่างดี เขาไม่เคยใช้ความรุนแรงในครอบครัวกับเธอ และเขาไม่ต้องกังวลว่าเขาจะนอกใจด้วยกุญแจสำคัญอยู่ที่การเลี้ยงดูของเขา บ้านสามีที่่ใจกว้างและมีเมตตาอย่างแม่สามีตระกูลจ้าน เป็นสิ่งที่หาได้ยากในตระกูลที่ร่ำรวยเมื่อคิดย้อนกลับไปเมื่อคุณยายจ้านบอกกับเธอว่าเธอช่วยชีวิตอีกฝ่ายไว้และจะไม่แนะนำหลานชายที่ไม่ดีให้เธอรู้จักที่จริงแล้ว หลานชายทุกคนในครอบครัวของหญิงชราอย่างเธอนั้นนั้นดีมากจ้านหยินเป็นหลานชายคนโต และหญิงชราก็เลือกที่จะจับคู่เธอกับหลานชายที่ดีที่สุด"คุณนายลู่ได้ช่วยประธานลู่หาภรรยาที่เหมาะสมแล้ว เธอคือคุณหนูหยูหยินหยิน ทั้งสาว สวย และดูเฉลียวฉลาดและมีความสามารถ เห็นได้ชัดว่าเธอเป็นคนที่อยู่ในแวดวงชั้นสูงมายาวนาน ความมั่นใจและรัศมีแห่งความสง่างามที่แผ่ออกมาจากทุกการเคลื่อนไหว ท่าทางของเธอบ่งบอกว่าเธอมาจากภูมิหลังที่ร่ำรวยหรือสูงศักดิ์ นั่นสามารถทำให้คุณนายลู่ชอบเธอได้โดยไม่ต้องลำบากอะไร""ฉันรู้"จ้านหยินพูดขณะกิน "เป็นเพราะคุณนายลู่เลือกภรรยาที่เหมาะสมกับตงหมิง
"ไม่ต้องพูดถึงว่าเราทุกคนต่างก็มีสิ่งที่ต้องทำ แม้ว่าในอนาคตเราจะเกษียณ เราก็ไม่สามารถรับประกันได้ว่าเราจะตื่นขึ้นทุกวันและพบกันเมื่อเราลืมตาขึ้น"มีคนตื่นก่อนเสมอ และมีคนตื่นทีหลังเสมอจ้านหยินรู้ว่าเขาสร้างปัญหาโดยไม่มีเหตุผล"ป้าเหลียงบอกว่าคุณยังไม่ได้กินข้าว คุณหิวไหม ออกไปกินข้าวกันเถอะ ฉันจะอยู่กับคุณ"ไห่ถงรู้ว่าการยืดเวลาการสนทนาออกไปอาจทำให้เกิดความตึงเครียดระหว่างพวกเขามากขึ้นหลีกเลี่ยงการทะเลาะเบาะแว้ง เพราะอาจทำให้ทั้งคู่โกรธกันได้"อืม"จ้านหยินพยักหน้าแล้วปล่อยภรรยาที่รักของเขาจากอ้อมแขนไห่ถงดึงเขาออกมาป้าเหลียงเตรียมอาหารเช้าของจ้านหยินไว้บนโต๊ะอาหารแล้วนายน้อยชอบทำตัวจุกจิกจู้จี้ แต่ต่อหน้านายหญิง เขามักจะต้องก้มหัวและประนีประนอมอยู่เสมอป้าเหลียงไม่กังวลเลยว่าอาหารเช้าที่เธอทำจะเสียเปล่า"ทำไมคุณไม่พาหยางหยางมาล่ะ?"จ้านหยินทานอาหารเช้ากับภรรยา และอารมณ์ของเขาก็ดีขึ้น เขาเลิกทำหน้าเย็นชาและถามถึงเจ้าตัวน้อย"พี่สาวของฉันบอกว่าวันนี้เธอจะปิดร้านเร็วและปล่อยให้หยางหยางเล่นในร้าน เธอจะพาหยางหยางกลับบ้านเร็วๆ นี้ จ้าน...ที่รัก พาหยางหยางมาอยู่ที่นี่กันเถ
"เมื่อไหร่คุณยายจะกลับมา? ฉันคิดถึงเธอมาก"ไห่ถงคิดถึงวันที่คุณยายจ้านเคยอยู่ที่นี่มากป้าเหลียงพูด: "เมื่อฉันรู้ตัวว่าต้องเตือนนายหญิง มันก็สายเกินไปเสียแล้ว คุณผลักประตูเปิดและเดินเข้าไปแล้ว"ไห่ถงถอนหายใจอีกครั้งและพูดว่า "ฉันจะไปล้างมือ"เธอล้างมือสองครั้งด้วยสบู่และกลับไปที่ห้องที่เธอเคยอยู่ เธอหยิบชุดเสื้อผ้าที่สะอาดจากตู้เสื้อผ้า เปลี่ยนชุด แล้วกลับไปที่ห้องนอนใหญ่"ที่รัก ฉันล้างมือและฆ่าเชื้อสองครั้ง ฉันยังเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีขนแมวติดตัวของฉัน"ไห่ถงเดินไปข้างหลังจ้านหยิน และขณะที่เธอพูด เธอก็เอื้อมมือไปโอบรอบเอวของเขา"ที่รัก ฉันขอโทษ ฉันลืมไปจริงๆ ว่าฉันกำลังอุ้มแมวอยู่เมื่อกี้ จริงๆ แล้วพวกมันน่ารักมาก คุณให้ฉันเลี้ยงพวกมัน และพวกมันก็มีค่าสำหรับฉันทั้งหมด คุณพูดว่า ถ้าฉันให้หญ้าคุณหนึ่งกำมือ คุณจะถือว่ามันเป็นสมบัติ ในทำนองเดียวกัน ไม่ว่าคุณจะให้อะไรกับฉัน ฉันก็จะรักมันมาก"จ้านหยินไม่หันหลังกลับและปล่อยให้เธอโอบเอวของเขาเขากล่าว: "ฉันตื่นมาแล้วไม่เห็นคุณ ฉันถามป้าเหลียงแล้วเธอก็บอกว่าคุณออกไปแต่เช้า ฉันรู้สึกเหมือนถูกคุณทิ้งเอาไว้ข้างหลัง เมื่อคุ
ไห่ถงก้มตัวลงและอุ้มแมวขึ้นมา"นายหญิง คุณไปง้อนายน้อยก่อนเถอะ นายน้อยเพิ่งตื่นและยังไม่ได้กินข้าว"ป้าเหลียงรู้สึกไร้เรี่ยวแรงเมื่อจู่ๆ นายน้อยของเธอกลายเป็นคนคิดเล็กคิดน้อยถ้าเธอไม่มาทำงาน เธอคงไม่รู้ว่านายน้อยจะมีด้านที่คิดเล็กคิดน้อยเช่นนี้ไห่ถงลูบแมวแล้วถามป้าเหลียง: "ป้าเหลียง คุณต้องบอกฉันว่าทำไมเขาถึงโกรธ ฉันถึงจะง้อได้ ฉันยังไม่ได้ทำอะไรเลย"ป้าเหลียงกระซิบ: "ฉันเดาว่านายน้อยคงโกรธที่คุณออกไปข้างนอกแต่เช้าในวันหยุดสุดสัปดาห์ นายน้อยพักผ่อนที่บ้านและหวังว่านายหญิงจะอยู่กับเขา"ไห่ถง: "... ฉันแค่ไปช่วยงานพี่สาวของฉัน แม้ว่าจะเป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ แต่โรงงานหลายแห่งไม่มีวันหยุดและยังต้องทำงาน ดังนั้นร้านอาหารเช้าของน้องสาวฉันจึงยังคงยุ่งมาก ฉันออกไปเร็วแต่ก็กลับมาเร็วเช่นกัน ฉันยังกลับมาก่อน 10 โมง"เธอไม่เคยคิดว่าจ้านหยินจะกลายเป็นคนใจแคบเพราะเรื่องเล็กน้อยเช่นนี้ป้าเหลียงก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรเหมือนกัน"ฉันจะเข้าไปง้อเขา"ไห่ถงซึ่งรู้ดีว่าสามีของเธอเป็นคนแบบไหน เดินเข้าไปในห้องอย่างช่วยไม่ได้พร้อมกับแมวของเธอในอ้อมแขนหลังจากที่เธอผลักประตูเปิดและเข้าไป ป้าเหลียงก็จำ
ขณะที่ยุ่งอยู่ตรงนี้ จ้านหยินก็ตื่นขึ้นตามปกติ ก่อนที่เขาจะลืมตา เขาหันข้างและเหยียดแขนยาวของเขาออกไปเพื่อกอดภรรยาที่รักของเขา แต่สุดท้ายก็คว้าลมนั่นคือตอนที่เขาลืมตาขึ้นแน่ล่ะ ไห่ถงไม่อยู่ในห้องอีกต่อไปเมื่อมองดูท้องฟ้าภายนอก พระอาทิตย์กำลังขึ้นสูงจ้านหยินหันกลับมาและหยิบโทรศัพท์จากโต๊ะข้างเตียงเพื่อดูเวลา"ตอนนี้เก้าโมงแล้ว!"จู่ๆ เขาก็ลุกขึ้นนั่งแม้กระทั่งในวันหยุดสุดสัปดาห์ เขาก็ไม่เคยเข้าตื่นสายขนาดนี้มาก่อนบางทีอาจเป็นเพราะว่าเขากลับบ้านดึกเมื่อคืนก่อนเขารีบอาบน้ำและเปลี่ยนเป็นเสื้อผ้าลำลอง โดยตั้งใจเลือกชุดที่ไห่ถงซื้อมาให้เขาเมื่อเขาเปิดประตู เขาก็เห็นป้าเหลียงกำลังนั่งอยู่บนโซฟา อุ้มแมวตัวหนึ่งไว้และดูทีวี เมื่อได้ยินเสียงประตูเปิด เธอจึงหันไปมองเขา จากนั้นก็ลุกขึ้นยืนพร้อมรอยยิ้ม “นายน้อย คุณตื่นแล้ว คุณอยากกินอาหารเช้าไหม?”"ตอนนี้เก้าโมงกว่าแล้ว"จ้านหยินบ่นพึมพำขณะเดินออกไป“ถึงจะเก้าโมงกว่าแล้ว ก็ยังควรกินอะไรนะ นายหญิงได้สั่งเราไว้ก่อนที่เธอจะออกไป ให้เตือนนายน้อยว่าควรกินอาหารเช้าเมื่อเขาตื่นนอน”"นายหญิงของคุณอยู่ที่ไหน? เธอตื่นและออกไปข้างนอกตั้ง
หยูหยินหยินก็ไม่ได้โกรธเช่นกันเธอและลู่ตงหมิงรู้จักกันมาเป็นเวลานานแล้ว แต่พวกเขาแทบจะไม่ได้พูดคุยกันเลย ดังนั้นจึงอาจกล่าวได้ว่าพวกเขาไม่ได้รู้จักกันดีนักเขาไม่รู้เกี่ยวกับอดีตของเธอ ก็ถือเป็นเรื่องปกติ"คุณหนูหยู นี่อาหารเช้าของคุณ"หลังจากไห่หลิงทำอาหารเช้าให้หยูหยินหยินแล้ว เธอก็เอามาวางไว้ตรงหน้าเธอ ด้วยรอยยิ้ม เธอกล่าวกับหยูหยินหยินว่า "คุณหนูหยู ทานให้อร่อยนะคะ"หยูหยินหยินตอบด้วยรอยยิ้มไห่หลิงกลับไปที่นั่งและนั่งลง"พี่ คุณเจอเธอเมื่อไหร่?"ไห่ถงกระซิบกับพี่สาวของเธอ"คุณนายลู่แวะมาวันก่อนและเข้ามานั่งคุยกับฉัน ขณะที่คุยกับฉัน เธอบอกฉันว่าเธอต้องการจับคู่คุณหนูหยูกับประธานลู่ และแสดงรูปถ่ายของคุณหนูหยูให้ฉันดู ฉันก็เลยจำเธอได้"ไห่หลิงตอบน้องสาวของเธอด้วยเสียงต่ำและกระซิบ: "เห็นไหม พวกเขาเข้ากันได้อย่างสมบูรณ์แบบ คุณหนูหยูก็ให้ความรู้สึกสบายใจมากเช่นกัน โดยไม่มีความรู้สึกห่างเหินแบบทายาทเศรษฐี"ไห่ถงมองน้องสาวอย่างละเอียด จากนั้นก้มหัวลงเพื่อกินบะหมี่และกระซิบว่า "เข้ากันได้ดีทีเดียว"ป้าเคยพูดว่าคุณนายลู่เข้ากับคนยากมากจ้านหยินก็พูดเช่นกันเนื่องจากคุณนายลู่ม
เขาไม่มีอะไรจะคุยกับไห่ถงมากนักและด้วยไห่ถงที่อยู่ที่นี่ ลู่ตงหมิงและไห่หลิงก็ไม่ได้พูดอะไรมากนักลูกค้าก็เริ่มทยอยเข้ามาเพื่อกินเกี๊ยวนึ่ง ผู้ช่วยร้านเป็นคนจัดการรับออเดอร์ พนักงานจะเสิร์ฟอาหารเช้าให้พวกเขาแทนไห่หลิงซึ่งเป็นเถ้าแก่เนี้ยเองเธอสามารถนั่งลงในที่เดิมและกินบะหมี่ต่อไปได้"พี่ลู่"คำว่าพี่ลู่นั้น ทำให้ลู่ตงหมิงหมดความอยากอาหารทันทีพี่น้องไห่มองไปที่หญิงสาวสวยที่เปิดประตูกระจกและเดินเข้ามา ไห่ถงไม่เคยรู้จักหยูหยินหยิน แต่ไห่หลิงเคยเห็นภาพของหยูหยินหยิน เมื่อมองไปหยูหยินหยินที่เข้ามา เธอคิดว่าหยูหยินหยินสวยกว่าในรูปเข้ากันได้ดีกับลู่ตงหมิง"คุณหนูหยู คุณอยากทานอาหารเช้าไหม?"ไห่หลิงวางตะเกียบลงและยืนขึ้นอีกครั้งเพื่อต้อนรับแขกสายตาของหยูหยินหยินละสายตาจากลู่ตงหมิงและจ้องมองไปที่ไห่หลิง เธอเคยเห็นไห่หลิงหลายครั้งจากไกลๆ แต่เป็นครั้งแรกที่เธอได้เห็นหน้าอีกฝ่ายกับตาตัวเอง เมื่อมองดูไห่หลิงอย่างดีๆแล้ว หยูหยินหยินรู้สึกว่าไห่หลิงเป็นหญิงสาวที่สวยมาก“ฉันได้ยินมาว่าอาหารเช้าที่นี่อร่อยมาก ฉันจะทานเหมือนกับพี่ลู่ ขอบคุณ”หยูหยินหยินเดินไปที่โต๊ะของลู่ตงหมิง วางกระเ
"ตกลง"น้องของเธออยากกินบะหมี่เครื่องในหมู ไห่หลิงยังต้มบะหมี่เครื่องในหมูสองชามด้วย เธอไม่ชอบผักชี ดังนั้นจึงมีแต่ชามน้องของเธอเท่านั้นที่ใส่ผักชีในชามของเธอ"บะหมี่เสร็จแล้ว"ไห่หลิงเรียกน้อฃให้มาเอาบะหมี่ที่ปรุงแล้วไห่ถงหยุดงาน ล้างมือ แล้วเดินไปหยิบชามบะหมี่ของเธอสองพี่น้องนั่งลงที่โต๊ะ ไห่ถงหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาอย่างเป็นนิสัยและเตรียมกินบะหมี่ไปพร้อมกับอ่านข่าวไปด้วย"เวลากิน อย่ามัวแต่ดูโทรศัพท์ข เก็บโทรศัพท์ของเธอลงไป"ไห่หลิงไม่ยอมให้เธอกินในขณะที่เล่นโทรศัพท์ของเธอแบบนี้"ฉันแค่จะดูมันเฉยๆ"ไห่ถงพูด แต่ก็เก็บโทรศัพท์ของเธอกลับเข้าไปในกระเป๋าอย่างเชื่อฟัง"ต่อไปนี้ กินข้าวอยู่ห้ามเล่นโทรศัพท์ไปด้วย""เข้าใจแล้ว"ต่อหน้าพี่สาวของเธอ ไห่ถงไม่กล้าที่จะดื้อรั้น นอกจากนี้ การใช้โทรศัพท์ขณะกินอาหารก็เป็นนิสัยที่ไม่ดีจริงๆ“พี่ คืนนี้พี่จะไม่ไปงานเลี้ยงกับฉันจริงๆ เหรอ”"ไม่ไป""พี่ ฉันคิดว่าคุณควรออกไปเปิดโลกบ้าง"ไห่หลิงค่อยๆ กินบะหมี่ที่เพิ่งปรุงเสร็จและร้อนมาก"ฉันไม่จำเป็นต้องไปดูโลกแล้ว ฉันยังไปไม่ถึงระดับนั้น เธอแตกต่าง เธอเป็นนายหญิงคนโตของตระกูลจ้าน เธอต้