เซินเสี่ยวจวินมองหน้าเขา แล้วถามอย่างจริงจังว่า "นายต้องการให้ไห่ถงเลิกกับคุณจ้าน? จางเหนียนเซิง อย่าให้ฉันต้องร้ายนะ!"จางเหนียนเซิงเจ็บปวดจนพูดไม่ออกเขารู้สึกแค่ว่า เขาปล่อยวางไม่ได้แต่เขาไม่สามารถทำเรื่องที่สามารถทำร้ายไห่ถงได้ท้ายที่สุดแล้ว เขาก็ลูกพี่ลูกน้องของตัวเอง เซินเสี่ยวจวินจึงมีสีหน้าอ่อนลง แล้วถอนหายใจพูดว่า: "เหนียนเซียง อะไรที่ควรพูดฉันก็พูดไปหมดแล้ว นายควรใจเย็นๆ ก่อน แล้วค่อยบังคับตัวเองไม่ให้ไปที่ร้านพี่ ไม่เจอและผ่านไปนานๆ ความรู้สึกก็จะจางหายไปเอง”หลังจากที่พูดจบเธอก็ยืนขึ้น แล้วพูดว่า "พี่เลี้ยงกาแฟแล้วกัน ฉันจะกลับไปร้านก่อน นายก็รีบกลับไปที่บริษัท ตอนนี้นายยังอยู่ในขั้นตอนการฝึกงานและนายต้องทำงานหนักกว่าใครๆ จำไว้ว่าตระกูลจาง ไม่ได้มีนายแค่คนเดียว ถ้านายไม่พยายามทุกอย่างที่เป็นของนายก็จะหลุดมือไป”หลังจากที่เซินเสี่ยวจวินพูดจบ ก็ลากเก้าอี้ออก แล้วหันหลังเดินจากไปจางเหนียนเซิงนั่งอยู่อย่างเหม่อลอยเมื่อรู้ว่าตัวเองรักพี่ไห่ถงก็ไม่กล้าสารภาพออกมาอย่างกล้าหาญจะปล่อยให้โอกาสหลุดลอยไปอย่างนั้นหรือ?เมื่อเซินเสี่ยวจวินกลับมาถึงร้าน หยางหยางก็ตื่นแล้วไห
ไห่ถงยิ้ม "ฉันรู้สึกปลื้มใจมากค่ะ คุณจ้าน มีอะไรอยากจะพูดกับฉันเหรอคะ?"จ้านหยิน: "...คืนนี้ฉันไม่ต้องไปกินเลี้ยงกับลูกค้า ฉันคิดว่า ถ้าคุณสนใจ ฉันจะไปช้อปปิ้งกับคุณได้"หลังจากให้ดอกไม้ช่อแรกไปแล้ว จ้านหยินก็วิ่งหนีไป เมื่อคิดถึงเรื่องนี้อีก และหลังจากที่เขาก็รู้สึกว่าการเริ่มต้นนั้นไม่ใช่เรื่องยากนั้นเขานัดภรรยาไปช้อปปิ้งในตอนกลางคืนอย่างไม่เขินไห่ถงคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า "ฉันอยากจะพาหยางหยางไปรับพี่ฉันหลังเลิกงาน ถ้าคุณไม่รังเกียจก็ไปรับรับพี่ฉันหลังเลิกงานด้วยกัน แล้วจากนั้นไปช้อปปิ้งหลังอาหารเย็นได้"“พี่ต้องทำโอทีไหม?”“เธอเพิ่งส่งข้อความมาว่า เธอไม่ต้องทำโอทีในวันแรก และสามารถเลิกงานได้ตอน 17.30 น. ค่ะ”หลังจากที่จ้านหยินเงียบไป ก็พูดว่า "โอเค อีกสักพักฉันจะไปหา แล้วพวกเราก็ไปรับพี่จากเลิกงานด้วยกัน และฉันจะเลี้ยงอาหารค่ำพวกคุณเอง""โอเค"“งั้นฉันวางสายนะ”"โอเค"จ้านหยินไม่ได้วางสายไปในทันที เขากำลังรอให้ไห่ถงพูดบางสิ่งที่หวานๆ กับเขาน่าเสียดายที่เขาไม่สามารถรอคำพูดหวานๆได้ ดังนั้นเขาเพียงแต่รอให้ภรรยาถามเขาว่า: "คุณจ้าน มีอะไรอีกไหมคะ?"“ไม่ ฉันจะวางสาย”
หลังจากที่จ้านหยินเอ่ยปากชวนภรรยไปช้อปปิ้งในตอนกลางคืน เขาก็รู้สึกมีความสุขและประสิทธิภาพในการทำงานก็ดีขึ้นมากได้ยินเสียงเคาะประตู เขาก็ตอบรับ ทำให้คนที่อยู่นอกประตูสามารถรับรู้ได้ว่าเขาอารมณ์ดีซูหนานเปิดประตูเข้ามาเขาไม่ได้อยู่คนเดียว ยังพาจวินหลานมาด้วยบอดี้การ์ดของจวินหลานกำลังรออยู่ที่ประตูออฟฟิศ"บอส คุณจวินมาแล้ว"จ้านหยินหยุดทำงานและลุกขึ้น เดินออกจากโต๊ะ "คุณจวิน"ทั้งสองจับมือกันอีกครั้ง และเขาเชิญจวินหลานให้นั่งบนโซฟาเลขาจ้าวเพิ่งแจ้งเขาว่า จวินหลานมาที่นี่ แต่เขาไม่คิดว่าจวินหลานจะเข้ามาพร้อมกับซูหนาน บางทีทั้งสองอาจพบกันข้างนอกซูหนานเทน้ำให้จวินหลานหลังจากที่จวินหลานนดื่มน้ำแล้ว จ้านหยินก็ถาม "คุณจวิน ความร่วมมือของพวกมีปัญหาอะไรหรือเปล่าครับ?"หุ้นส่วนระดับสูงอย่างจวินหลานไม่จำเป็นต้องนัดหมายและสามารถพบเขาได้ตลอด อย่างไรก็ตาม จวินหลานมักจะติดต่อกับซูหนานเกือบตลอดเวลา แต่คราวนี้เมื่อเขามาที่บริษัทเพื่อมาหาจ้านหยินโดยตรง จ้านหยินจึงคิดว่า น่าจะมีปัญหากับความร่วมมือระหว่างทั้งสองบริษัทจวินหลานยิ้มและพูดว่า: "ประธานจ้าน ไม่ได้มีปัญหากับความร่วมมือของพวกเรา
“ฉันชื่นชมประธานเย่มานานแล้ว และก็รอที่จะมีโอกาสได้พบกับเขาสักครั้ง แะละนี่ก็เป็นโอกาสที่คุณมอบให้ฉันครับ”จวินหลานยิ้ม "พี่ใหญ่ฉันก็ชื่นชมประธานจ้านมานานแล้วเหมือนกันครับ"ต่างคนต่างสุภาพจุนรันมาที่นี่เพื่อมอบบัตรเชิญให้จ้านหยินในนามของพี่ใหญ่ ซึ่งบัตรเชิญถูกมอบให้ไปแล้ว และเขาก็อยู่ต่อได้อีกไม่นาน เพราะเขาก็ยุ่งมากเหมือนกันเขาพูดว่า: "ประธานจ้าน คุณซู ฉันยังมีอย่างอื่นที่ต้องขอตัวทำไปก่อน ถ้าตอนเย็นว่างมาทานอาหารเย็นด้วยกันดีไหมครับ ฉันเลี้ยงเอง?"ซูหนานยิ้มและพูดว่า: "ฉันว่างเสมอครับ แต่ประธานของเราอาจไม่ว่าง"จ้านหยินตอบกลับว่า: "ฉันจะเลี้ยงอาหารคุณจวินวันหน้าครับ"ตอนเย็นเขาต้องไปกับภรรยาจวินหลานยิ้มและพูดว่า "โอเคครับ ฉันจะรอสายจากประธานจ้าน"เขาลุกขึ้นยืนจ้านหยินและซูหนานก็ต่างยืนขึ้น และเดินไปส่งจวินหลานออกจากออฟฟิศ“ประธานจ้าน คุณซูไม่ต้องไปส่งครับ”จวินหลานหยุดที่ประตูออฟิศ และไม่ต้องการให้เจ้านายทั้งสองไปส่งเขาจ้านหยินกับซูหนานอยู่ที่ประตูออฟฟิศเพื่อดูจวินหลาน ที่เดินจากไปพร้อมกับบอดี้การ์ดที่รายล้อมรอจนจวินหลานพ้นสายตาไป ซูหนานก็สะกิดเพื่อน และถามอย่างซุ
“แม้ว่าฉันจะไม่ได้อยู่ที่นั่นในตอนนั้น แต่ฉันก็ได้ยินมาว่าคณนายจางเป็นคนซึ่งพาเธอไปร่วมงานเลี้ยง ได้วิ่งหน้าตั้งรีบไปลากเธอออกไปจากงาน”จ้านหยิน "..."เขาได้ยินไห่ถงพูดถึงเป็นบ้างเป็นครั้งเป็นคราวว่า เซินเสี่ยวจวินถูกเร่งแต่งงานจากครอบครัวของเธอ ซึ่งครั้งที่แล้วก็ได้ไห่ถงไปเป็นเพื่อนเธอนัดบอดที่ร้านกาแฟแอเวนิวอีกด้วยพฤติกรรมของเซินเสี่ยวจวินที่งานวันเกิดของคุณนายต้วนตอนนั้น อาจเป็นการการะทำลงไปโดยเจตนา? เพื่อให้ครอบครัวไม่ต้องเร่งเร้าเรื่องแต่งงานอีก“การล้มลงไปนอนบนพื้นของคุณเซินนั้น ได้ดึงดูดความสนใจของผู้คนส่วนใหญ่ในตอนนั้น และทุกคนในแวดวงต้องเคยได้ยินข่าวของหญิงคนนี้”ซูหนานยิ้มแล้วพูดว่า “ถึงคนในแวดวงของพวกเราดื่มจนเมา ก็ไม่มีใครนอนราบลงพื้นเหมือนเธอแน่ เพราะคุณสมบัติผู้ดีของพวกเศรษฐีนั้นได้ฝั่งแน่นเข้ากระดูกดำแล้ว ถึงเมาก็จะยังคงนิ่งและดูดีอยู่”หลังจากเงียบไปครู่หนึ่งจ้านหยินก็ถามเพื่อนว่า "งั้นนายชอบที่ยังคงดูดีแม้ว่าจะเมา หรือชอบที่จะแบบไม่มีหัวคิด?"“ฉันไม่ได้คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้มาก่อน แต่ว่าหากนายต้องการจัดนัดบอดให้ฉันจริงๆ นะ นายสามารถจัดการได้เลย ฉันจะไปเจอกับคุณ
ไห่ถงให้ความสำคัญต่อพี่สาวและหลานชายของเธอมากที่สุดตามใจเจ้าตัวเล็กหยางหยาง สามารถทำคะแนนได้ดีที่สุดขนม เป็นสิ่งที่นักกินอย่างไห่ถงชอบให้ช่อดอกไม้แก่เธอ เธออาจจะไม่มีค่อยชอบนัก หากให้ขนมถุงใหญ่แก่เธอแทน แน่นอนว่าเธอจะต้อมยิ้มออกมาจ้านหยินเข้าไปในร้านพร้อมกับขนมถุงใหญ่ในมือซ้ายและเครื่องบินของเล่นในมือขวา ไห่ถงเพิ่งป้อนโจ๊กให้หลานชายหนึ่งชาม"คุณน้า"เจ้าตัวน้อยเห็นจ้านหยินมาก็มีความสุขมากไห่ถงเห็นของเล่นในมือของสามี จึงพูดว่า "คุณจ้าน ทำไมคุณถึงซื้อของเล่นให้หยางหยางอีกแล้วคะ เสี่ยวจวินกฌเพิ่งซื้ออันใหม่มาหให้เองค่ะ"จ้านหยินยื่นขนมถุงใหญ่ให้ไห่ถง จากนั้นให้เครื่องบินของเล่นกับหยางหยาง แล้วอุ้มเขาขึ้นมา“พวกเรามีหยางหยางเป็นหลานชายคนเดียว ถ้าไม่ซื้อให้เขาจะซื้อให้ใครกัน? ส่วนของคุณเซินก็ส่วนของคุณเซิน ส่วนฉันก็ส่วนของฉัน”ไห่ถงวางชามไว้บนโต๊ะ จากนั้นมองไปที่ถุงขนม "ของกิน? ทำไมเยอะขนาดนี้คะ?"“หยางหยางเล่นที่นี่แล้วเบื่อ ก็เลยซื้อขนมมาให้เขานิดหน่อย”เห็นได้ชัดว่าซื้อมาให้ไห่ถง แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าไห่ถงแล้ว เรื่องหนักใจของจ้านหยินก็ประทุขึ้นอีกครั้ง หลังจากลังเลอยู่สักพ
"จะว่าไปแล้ว"จู่ๆ ไห่ถงก็คิดถึงสัตว์เลี้ยงขึ้นมา และถามจ้านหยินว่า “เแล้วเสี่ยวไป๋กับตัวอื่นๆ จะทำยังไงคะ? พาพวกมันไปด้วยหรือเปล่า?”“เสี่ยวไป๋?”จ้านหยินแสดงแววตาคิดหนัก เสี่ยวไป๋คือใคร?“มันคือสุนัขที่คุณให้ฉันมาไงค่ะ และฉันจะตั้งชื่อมันว่าเสี่ยวไป๋”ทันใดนั้นสายตาของจ้านหยินก็อ่อนโยนลงทันทีที่แท้ก็เป็นสุนัขนี่เองเขาคิดว่าตัวเองมีคู่แข่งเพิ่มอีกคนโดยที่ไม่รู้ตัว“ถงถง ถ้าไม่สะดวกก็ให้เสี่ยวไป๋และตัวอื่น ๆ เอาไว้ที่ร้านก่อนก็ได้ ฉันจะพาพวกเขากลับบ้านไปด้วยกันหลังเลิกงาน แล้วค่อยพาพวกเขากลับมาให้เธอในวันพรุ่งนี้ บ้านฉันเองก็มีสัตว์เลี้ยง ฉันสัญญาว่าจะดูแลพวกเขาแทนเธอเอง”ไห่ถงยิ้มและพูดว่า "อย่างนั้นก็ได้ ถ้างั้นเสี่ยวไป๋และตัวอื่น ๆ เอาไว้ที่ร้าน"เธอกอดเซินเสี่ยวจวินและเอ่ยปากชมเชย "เสี่ยวจวิน เธอเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดในโลกจริงๆ"เซินเสี่ยวจวินผลักเธอออกไปเบา ๆ และพูดด้วยรอยยิ้ม "ของของฉันก็เป็นของเธอ พวกเราเล่นด้วยกันมาตั้งแต่เด็ก รีบไปเถอะ อย่าให้คุณจ้านรอนาน"ไห่ถงก็เดินออกไปอย่างสบายใจกับจ้านหยิน“ไห่ถงจอดรถทิ้งไว้ที่นี่เถอะ พรุ่งนี้ผมจะส่งคุณไปทำงานเอง”จ้านหยินเ
“พี่ ทุกอย่างราบรื่นดีไหม?”สองพี่น้องเดินไปที่รถของจ้านหยินพร้อมกับพูดคุยกันไห่หลิงยิ้มและพูดว่า "อย่าลืมสิ่งที่พี่เคยทำงานแบบนี้มาก่อน เรื่องงานนั้นราบรื่นมาก ในตอนแรกพี่อาจจะยังไม่ชินกับงานเท่าไหร่ แต่อีกไม่น่าก็จะกลับมาคล่องแคล่วเหมือนเมื่อก่อน"มันเป็นเพียงการสื่อสารระหว่างคน ตอนนี้ยังไม่มีเพื่อนร่วมงานคนไหนที่จะสามารถเข้ากันได้เลยอาจเป็นเพราะเหตุการณ์ในวันสัมภาษณ์ด้วย อย่างที่ทุกคนรู้กันว่า เธอกับประธานลู่รู้จักกัน ภายนอกพวกเขาอาจจะสุภาพต่อเธอ แต่เบื้องหลัง ทุกคนกำลังวิจารณ์เรื่องความสัมพันธ์ของเธอกับประธานลู่ แถมพวกพนักงานหญิงอีกหลายต่อหลายคนมองเธอด้วยสายตาที่ไม่ยากเกินกว่าจะเดาออกได้ทั้งหมดนี้ ไห่หลิงได้ยินเพื่อนร่วมงานพุดคุยกันในห้องน้ำโดยบังเอิญแต่นี่เป็นเพียงวันแรกของการเริ่มทำงานเท่านั้น สิ่งต่างๆ ก็จะค่อยๆ เปลี่ยนไปในทิศทางที่ดีขึ้น"จ้านหยิน"ไห่หลิงทักทายน้องเขย หลังจากขึ้นไปนั่งบนรถจ้านหยินพยักหน้าและมองไปที่ไห่ถง ไห่หลิงเป็นเขกและเธอก็เข้าใจความหมายของสายตาของน้องเขยทันที หลังจากขึ้นรถแล้ว เธอก็ไม่รอให้น้องสาวขึ้นรถมาและจะปิดประตูรถทันทัไห่ถงไม่ได้คิดอ