“ฉันชื่นชมประธานเย่มานานแล้ว และก็รอที่จะมีโอกาสได้พบกับเขาสักครั้ง แะละนี่ก็เป็นโอกาสที่คุณมอบให้ฉันครับ”จวินหลานยิ้ม "พี่ใหญ่ฉันก็ชื่นชมประธานจ้านมานานแล้วเหมือนกันครับ"ต่างคนต่างสุภาพจุนรันมาที่นี่เพื่อมอบบัตรเชิญให้จ้านหยินในนามของพี่ใหญ่ ซึ่งบัตรเชิญถูกมอบให้ไปแล้ว และเขาก็อยู่ต่อได้อีกไม่นาน เพราะเขาก็ยุ่งมากเหมือนกันเขาพูดว่า: "ประธานจ้าน คุณซู ฉันยังมีอย่างอื่นที่ต้องขอตัวทำไปก่อน ถ้าตอนเย็นว่างมาทานอาหารเย็นด้วยกันดีไหมครับ ฉันเลี้ยงเอง?"ซูหนานยิ้มและพูดว่า: "ฉันว่างเสมอครับ แต่ประธานของเราอาจไม่ว่าง"จ้านหยินตอบกลับว่า: "ฉันจะเลี้ยงอาหารคุณจวินวันหน้าครับ"ตอนเย็นเขาต้องไปกับภรรยาจวินหลานยิ้มและพูดว่า "โอเคครับ ฉันจะรอสายจากประธานจ้าน"เขาลุกขึ้นยืนจ้านหยินและซูหนานก็ต่างยืนขึ้น และเดินไปส่งจวินหลานออกจากออฟฟิศ“ประธานจ้าน คุณซูไม่ต้องไปส่งครับ”จวินหลานหยุดที่ประตูออฟิศ และไม่ต้องการให้เจ้านายทั้งสองไปส่งเขาจ้านหยินกับซูหนานอยู่ที่ประตูออฟฟิศเพื่อดูจวินหลาน ที่เดินจากไปพร้อมกับบอดี้การ์ดที่รายล้อมรอจนจวินหลานพ้นสายตาไป ซูหนานก็สะกิดเพื่อน และถามอย่างซุ
“แม้ว่าฉันจะไม่ได้อยู่ที่นั่นในตอนนั้น แต่ฉันก็ได้ยินมาว่าคณนายจางเป็นคนซึ่งพาเธอไปร่วมงานเลี้ยง ได้วิ่งหน้าตั้งรีบไปลากเธอออกไปจากงาน”จ้านหยิน "..."เขาได้ยินไห่ถงพูดถึงเป็นบ้างเป็นครั้งเป็นคราวว่า เซินเสี่ยวจวินถูกเร่งแต่งงานจากครอบครัวของเธอ ซึ่งครั้งที่แล้วก็ได้ไห่ถงไปเป็นเพื่อนเธอนัดบอดที่ร้านกาแฟแอเวนิวอีกด้วยพฤติกรรมของเซินเสี่ยวจวินที่งานวันเกิดของคุณนายต้วนตอนนั้น อาจเป็นการการะทำลงไปโดยเจตนา? เพื่อให้ครอบครัวไม่ต้องเร่งเร้าเรื่องแต่งงานอีก“การล้มลงไปนอนบนพื้นของคุณเซินนั้น ได้ดึงดูดความสนใจของผู้คนส่วนใหญ่ในตอนนั้น และทุกคนในแวดวงต้องเคยได้ยินข่าวของหญิงคนนี้”ซูหนานยิ้มแล้วพูดว่า “ถึงคนในแวดวงของพวกเราดื่มจนเมา ก็ไม่มีใครนอนราบลงพื้นเหมือนเธอแน่ เพราะคุณสมบัติผู้ดีของพวกเศรษฐีนั้นได้ฝั่งแน่นเข้ากระดูกดำแล้ว ถึงเมาก็จะยังคงนิ่งและดูดีอยู่”หลังจากเงียบไปครู่หนึ่งจ้านหยินก็ถามเพื่อนว่า "งั้นนายชอบที่ยังคงดูดีแม้ว่าจะเมา หรือชอบที่จะแบบไม่มีหัวคิด?"“ฉันไม่ได้คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้มาก่อน แต่ว่าหากนายต้องการจัดนัดบอดให้ฉันจริงๆ นะ นายสามารถจัดการได้เลย ฉันจะไปเจอกับคุณ
ไห่ถงให้ความสำคัญต่อพี่สาวและหลานชายของเธอมากที่สุดตามใจเจ้าตัวเล็กหยางหยาง สามารถทำคะแนนได้ดีที่สุดขนม เป็นสิ่งที่นักกินอย่างไห่ถงชอบให้ช่อดอกไม้แก่เธอ เธออาจจะไม่มีค่อยชอบนัก หากให้ขนมถุงใหญ่แก่เธอแทน แน่นอนว่าเธอจะต้อมยิ้มออกมาจ้านหยินเข้าไปในร้านพร้อมกับขนมถุงใหญ่ในมือซ้ายและเครื่องบินของเล่นในมือขวา ไห่ถงเพิ่งป้อนโจ๊กให้หลานชายหนึ่งชาม"คุณน้า"เจ้าตัวน้อยเห็นจ้านหยินมาก็มีความสุขมากไห่ถงเห็นของเล่นในมือของสามี จึงพูดว่า "คุณจ้าน ทำไมคุณถึงซื้อของเล่นให้หยางหยางอีกแล้วคะ เสี่ยวจวินกฌเพิ่งซื้ออันใหม่มาหให้เองค่ะ"จ้านหยินยื่นขนมถุงใหญ่ให้ไห่ถง จากนั้นให้เครื่องบินของเล่นกับหยางหยาง แล้วอุ้มเขาขึ้นมา“พวกเรามีหยางหยางเป็นหลานชายคนเดียว ถ้าไม่ซื้อให้เขาจะซื้อให้ใครกัน? ส่วนของคุณเซินก็ส่วนของคุณเซิน ส่วนฉันก็ส่วนของฉัน”ไห่ถงวางชามไว้บนโต๊ะ จากนั้นมองไปที่ถุงขนม "ของกิน? ทำไมเยอะขนาดนี้คะ?"“หยางหยางเล่นที่นี่แล้วเบื่อ ก็เลยซื้อขนมมาให้เขานิดหน่อย”เห็นได้ชัดว่าซื้อมาให้ไห่ถง แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าไห่ถงแล้ว เรื่องหนักใจของจ้านหยินก็ประทุขึ้นอีกครั้ง หลังจากลังเลอยู่สักพ
"จะว่าไปแล้ว"จู่ๆ ไห่ถงก็คิดถึงสัตว์เลี้ยงขึ้นมา และถามจ้านหยินว่า “เแล้วเสี่ยวไป๋กับตัวอื่นๆ จะทำยังไงคะ? พาพวกมันไปด้วยหรือเปล่า?”“เสี่ยวไป๋?”จ้านหยินแสดงแววตาคิดหนัก เสี่ยวไป๋คือใคร?“มันคือสุนัขที่คุณให้ฉันมาไงค่ะ และฉันจะตั้งชื่อมันว่าเสี่ยวไป๋”ทันใดนั้นสายตาของจ้านหยินก็อ่อนโยนลงทันทีที่แท้ก็เป็นสุนัขนี่เองเขาคิดว่าตัวเองมีคู่แข่งเพิ่มอีกคนโดยที่ไม่รู้ตัว“ถงถง ถ้าไม่สะดวกก็ให้เสี่ยวไป๋และตัวอื่น ๆ เอาไว้ที่ร้านก่อนก็ได้ ฉันจะพาพวกเขากลับบ้านไปด้วยกันหลังเลิกงาน แล้วค่อยพาพวกเขากลับมาให้เธอในวันพรุ่งนี้ บ้านฉันเองก็มีสัตว์เลี้ยง ฉันสัญญาว่าจะดูแลพวกเขาแทนเธอเอง”ไห่ถงยิ้มและพูดว่า "อย่างนั้นก็ได้ ถ้างั้นเสี่ยวไป๋และตัวอื่น ๆ เอาไว้ที่ร้าน"เธอกอดเซินเสี่ยวจวินและเอ่ยปากชมเชย "เสี่ยวจวิน เธอเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดในโลกจริงๆ"เซินเสี่ยวจวินผลักเธอออกไปเบา ๆ และพูดด้วยรอยยิ้ม "ของของฉันก็เป็นของเธอ พวกเราเล่นด้วยกันมาตั้งแต่เด็ก รีบไปเถอะ อย่าให้คุณจ้านรอนาน"ไห่ถงก็เดินออกไปอย่างสบายใจกับจ้านหยิน“ไห่ถงจอดรถทิ้งไว้ที่นี่เถอะ พรุ่งนี้ผมจะส่งคุณไปทำงานเอง”จ้านหยินเ
“พี่ ทุกอย่างราบรื่นดีไหม?”สองพี่น้องเดินไปที่รถของจ้านหยินพร้อมกับพูดคุยกันไห่หลิงยิ้มและพูดว่า "อย่าลืมสิ่งที่พี่เคยทำงานแบบนี้มาก่อน เรื่องงานนั้นราบรื่นมาก ในตอนแรกพี่อาจจะยังไม่ชินกับงานเท่าไหร่ แต่อีกไม่น่าก็จะกลับมาคล่องแคล่วเหมือนเมื่อก่อน"มันเป็นเพียงการสื่อสารระหว่างคน ตอนนี้ยังไม่มีเพื่อนร่วมงานคนไหนที่จะสามารถเข้ากันได้เลยอาจเป็นเพราะเหตุการณ์ในวันสัมภาษณ์ด้วย อย่างที่ทุกคนรู้กันว่า เธอกับประธานลู่รู้จักกัน ภายนอกพวกเขาอาจจะสุภาพต่อเธอ แต่เบื้องหลัง ทุกคนกำลังวิจารณ์เรื่องความสัมพันธ์ของเธอกับประธานลู่ แถมพวกพนักงานหญิงอีกหลายต่อหลายคนมองเธอด้วยสายตาที่ไม่ยากเกินกว่าจะเดาออกได้ทั้งหมดนี้ ไห่หลิงได้ยินเพื่อนร่วมงานพุดคุยกันในห้องน้ำโดยบังเอิญแต่นี่เป็นเพียงวันแรกของการเริ่มทำงานเท่านั้น สิ่งต่างๆ ก็จะค่อยๆ เปลี่ยนไปในทิศทางที่ดีขึ้น"จ้านหยิน"ไห่หลิงทักทายน้องเขย หลังจากขึ้นไปนั่งบนรถจ้านหยินพยักหน้าและมองไปที่ไห่ถง ไห่หลิงเป็นเขกและเธอก็เข้าใจความหมายของสายตาของน้องเขยทันที หลังจากขึ้นรถแล้ว เธอก็ไม่รอให้น้องสาวขึ้นรถมาและจะปิดประตูรถทันทัไห่ถงไม่ได้คิดอ
ไห่หลิงส่งซิกให้น้องสาวเธอ ไห่ถงก็เข้าใจความหมายของสายตานั้นเพื่อบอกว่าจ้านหยินเป็นคนดีจริงๆ และขอให้เธอปฏิบัติตัวดีๆ ต่อจ้านหยินไห่ถงต้องยอมรับว่าจ้านหยินนั้นเจ้ากี้เจ้าการและระมัดระวังตัวมากในบางครั้ง แต่เมื่อเผชิญกับปัญหาต่าง ๆ เขาก็เป็นคนที่พึงพาได้และดีกว่าผู้ชายหลายคนสิ่งคำคัญคือ พวกเขาคู่สามีภรรยาไม่ได้แต่งงานกันเพราะคาวามรัก และเขาได้ทำเพื่อเธอนั้นเรียกว่าดีที่สุดแล้วเพื่อแสดงให้พี่สาวห็นว่า เธอเองก็ไม่ได้ใจร้ายกับจ้านหยิน ไห่ถงจึงคอยตักอาหารให้เขาขณะรับประทานอาหารจ้านหยินกินจนริมฝีปากเต็มไปด้วยน้ำมัน หัวใจรู้สึกหวานละมุนและอิ่มเอมอาหารที่ไห่ถงตักให้นั้นอร่อยมากทันใดนั้น ก็ทำให้จ้านหยินนึกถึงตอนที่เขาเห็นเธอตักอาหารให้จางเหนียนเซิงที่ร้านอาหารสำหรับสวรรค์ จ้านหยินนึกคิดว่าตอนนั้นจางเหนียนเซิงคงมีความสุขมากใช่ไหม?ฮึ่ม แค่ตักอาหารให้แค่ครั้งเดียวจะมีดีอะไร?ยังไง ไห่ถงก็คิดว่าจางเหนียนเซิงเป็นแค่น้องชาย!มันไม่มีความหมายมากไปกว่านั้น!คืนนี้ไห่ถงตักอาการให้เขาโดยม่ขาด จางเหนียนเซิงมีความสุขได้แค่ครั้งเดียว และตามเขาไม่ทันด้วยซ้ำความรักของจางเหนียนเซิงที่มีต่
คงเป็นเพราะในใจไม่เป็นสุขเพราะสัญญาที่พวกเขาได้เซ็นไว้จ้านหยินตัดสินใจหาวิธีขโมยสัญญาในมือไห่ถงมา ไม่สิ ไม่ใช่ขโมย แค่เอากลับแบบลับๆ เพราะการ "ขโมย" ฟังดูไม่ไพเราะเท่าไหร่ เขาซึ่งเป็นนายน้อยแห่งตระกูลจ้านจะทำเรื่องอย่างขโมยของได้อย่างไรกัน? หลังจากเอาคืนกลับมาได้แล้ว เขาก็วางแผนที่จะทำลายสัญญานั่นทิ้งนายน้อยจ้านที่ไม่กล้าจับมือภรรยา ได้เดินเป็นเพื่อยภรรยาตลอดทั้งคืน และยังทำหน้าพนักงานถือที่ไม่ได้รับค่าจ้างอีก เอาถุงเล็กและใหญ่เก็บขึ้นรถตอนแรก ไห่ถงบอกว่าไม่มีอะไรที่อยากจะซื้อ แต่เมื่อเธอเดินไปตามทางก็เริ่มซื้อนั้นซื้อนี่ โดยที่ใช้เงินของตัวเองจ่ายจ้านหยินอยากจะช่วยเธอจ่ายเงิน แต่เธอกลับปฏิเสธอย่างหนักแน่น ซึ่งทำให้จ้านหยินหงุดหงิดมากสี่ทุ่มคืนนั้น สองสามีภรรยาก็ถึงกลับบ้านเล็กๆ“โชคดีที่ฉันไม่ชอบใส่รองเท้าส้นสูงค่ะ เพราะเดินนานๆ จะทำให้ปวดเท้า”ทันทีที่ไห่ถงกลับถึงบ้าน ก็ทิ้งตัวลงบนโซฟาจ้านหยินหัวเราะเบา ๆ และพูดว่า "สาวๆ อย่างคุณไม่ชอบช้อปปิ้งเหรอ?"เขาเป็นผู้ชาย ไม่เคยชอบการไปเป็นเพื่อนเพื่อช้อปปิ้ง แต่ไม่ได้ทำแม้จะบ่นออกมาด้วย“.....อันนี้ จริงๆแล้วเสี่ยวจวินชอบเด
หลังจากนั้น ไห่ถงก็พูดว่า "ฟังคุณพูดแล้ว ฉันคิดว่าน่าจะดีกว่าผู้ชายที่เสี่ยวจวินเคยไปนัดบอดมาก่อนหน้านี้ พรุ่งนี้ฉันถามเสี่ยวจวินแล้วกันว่าคิดเห็นอย่างไร"“คุณจ้าน ตอนนี้มันดึกมากแล้วตาะ ฉันขอตัวกลับห้อง ไปอาบน้ำและนอนก่อนนะคะ”ไห่ถงเหนื่อยจากการเดินช้อปปิ่งจ้านหยินตามมาและพูดอย่างใจเย็น "ราตรีสวัสดิ์!"ไห่ถงบอกราตรีสวัสดิ์กับเขา แล้วหันหลังเดินกลับห้องของเธอไป และไม่ได้เอาของที่ได้มาการช้อปปิ้งออกมาจัดให้เรียบร้อยด้วยซ้ำ ไว้ค่อยมาจัดการในวันพรุ่งนี้เช้าเมื่อมองดูไห่ถงเข้ามาในห้องไป จ้านหยินก็ยืนนิ่งพูดไม่ออกเป็นเวลานานหลังจากนั้นไม่นาน เขาก็เดินออกไปที่ระเบียง นั่งลงบนเก้าอี้ชิงช้า และมองท้องฟ้ายามค่ำคืนอย่างเงียบ ๆ ครุ่นคิดถึงอนาคตที่เขาและไห่ถงอาจจะมีร่วมกัน?จ้านหยินคุ้นเคยกับการนอนดึกนั่งบนระเบียงจนกระทั่งถึง 5 ทุ่มกว่า จึงกลับห้องของเขาสองสามีภรรยาอาศัยอยู่ใต้หลังคาเดียวกัน แต่การใช้ชีวิตนั้นแยกกันเขาไม่เคยเข้าไปในห้องของเธอมาก่อน และเธอก็ไม่เคยก้าวเท้าเข้าไปในห้องของเขาด้วยทันทีที่ประตูทั้งสองห้องปิดลง พวกเขาก็ดูเหมือนไม่มีอะไรที่เกี่ยวข้องกันแล้วนี่คือผลลัพธ์น