คงเป็นเพราะในใจไม่เป็นสุขเพราะสัญญาที่พวกเขาได้เซ็นไว้จ้านหยินตัดสินใจหาวิธีขโมยสัญญาในมือไห่ถงมา ไม่สิ ไม่ใช่ขโมย แค่เอากลับแบบลับๆ เพราะการ "ขโมย" ฟังดูไม่ไพเราะเท่าไหร่ เขาซึ่งเป็นนายน้อยแห่งตระกูลจ้านจะทำเรื่องอย่างขโมยของได้อย่างไรกัน? หลังจากเอาคืนกลับมาได้แล้ว เขาก็วางแผนที่จะทำลายสัญญานั่นทิ้งนายน้อยจ้านที่ไม่กล้าจับมือภรรยา ได้เดินเป็นเพื่อยภรรยาตลอดทั้งคืน และยังทำหน้าพนักงานถือที่ไม่ได้รับค่าจ้างอีก เอาถุงเล็กและใหญ่เก็บขึ้นรถตอนแรก ไห่ถงบอกว่าไม่มีอะไรที่อยากจะซื้อ แต่เมื่อเธอเดินไปตามทางก็เริ่มซื้อนั้นซื้อนี่ โดยที่ใช้เงินของตัวเองจ่ายจ้านหยินอยากจะช่วยเธอจ่ายเงิน แต่เธอกลับปฏิเสธอย่างหนักแน่น ซึ่งทำให้จ้านหยินหงุดหงิดมากสี่ทุ่มคืนนั้น สองสามีภรรยาก็ถึงกลับบ้านเล็กๆ“โชคดีที่ฉันไม่ชอบใส่รองเท้าส้นสูงค่ะ เพราะเดินนานๆ จะทำให้ปวดเท้า”ทันทีที่ไห่ถงกลับถึงบ้าน ก็ทิ้งตัวลงบนโซฟาจ้านหยินหัวเราะเบา ๆ และพูดว่า "สาวๆ อย่างคุณไม่ชอบช้อปปิ้งเหรอ?"เขาเป็นผู้ชาย ไม่เคยชอบการไปเป็นเพื่อนเพื่อช้อปปิ้ง แต่ไม่ได้ทำแม้จะบ่นออกมาด้วย“.....อันนี้ จริงๆแล้วเสี่ยวจวินชอบเด
หลังจากนั้น ไห่ถงก็พูดว่า "ฟังคุณพูดแล้ว ฉันคิดว่าน่าจะดีกว่าผู้ชายที่เสี่ยวจวินเคยไปนัดบอดมาก่อนหน้านี้ พรุ่งนี้ฉันถามเสี่ยวจวินแล้วกันว่าคิดเห็นอย่างไร"“คุณจ้าน ตอนนี้มันดึกมากแล้วตาะ ฉันขอตัวกลับห้อง ไปอาบน้ำและนอนก่อนนะคะ”ไห่ถงเหนื่อยจากการเดินช้อปปิ่งจ้านหยินตามมาและพูดอย่างใจเย็น "ราตรีสวัสดิ์!"ไห่ถงบอกราตรีสวัสดิ์กับเขา แล้วหันหลังเดินกลับห้องของเธอไป และไม่ได้เอาของที่ได้มาการช้อปปิ้งออกมาจัดให้เรียบร้อยด้วยซ้ำ ไว้ค่อยมาจัดการในวันพรุ่งนี้เช้าเมื่อมองดูไห่ถงเข้ามาในห้องไป จ้านหยินก็ยืนนิ่งพูดไม่ออกเป็นเวลานานหลังจากนั้นไม่นาน เขาก็เดินออกไปที่ระเบียง นั่งลงบนเก้าอี้ชิงช้า และมองท้องฟ้ายามค่ำคืนอย่างเงียบ ๆ ครุ่นคิดถึงอนาคตที่เขาและไห่ถงอาจจะมีร่วมกัน?จ้านหยินคุ้นเคยกับการนอนดึกนั่งบนระเบียงจนกระทั่งถึง 5 ทุ่มกว่า จึงกลับห้องของเขาสองสามีภรรยาอาศัยอยู่ใต้หลังคาเดียวกัน แต่การใช้ชีวิตนั้นแยกกันเขาไม่เคยเข้าไปในห้องของเธอมาก่อน และเธอก็ไม่เคยก้าวเท้าเข้าไปในห้องของเขาด้วยทันทีที่ประตูทั้งสองห้องปิดลง พวกเขาก็ดูเหมือนไม่มีอะไรที่เกี่ยวข้องกันแล้วนี่คือผลลัพธ์น
ป้าเหลียงทักทายด้วยรอยยิ้มนายน้อยสั่งไม่ให้เธอเรียกเขาว่านายน้อยต่อหน้านายหญิง แต่ให้เรียกเขาว่าคุณจ้านแทน"ป้าเหลียง มาแล้วเหรอครับ ไห่ถงนี่คือป้าเหลียงที่ผมเคยบอกคุณเมื่อก่อนหน้านี้"จ้านหยินแนะนำตัวอย่างรวดเร็วไห่ถงยิ้มแล้วพูดว่า “ตอนที่กกลับมาถึงบ้านฉันเจอป้าเหลียงแล้วค่ะ ป้าเหลียงได้แนะนำตัวเรียบร้อยแล้ว เชิญนั่งก่อนค่ะ ป้าเหลียง เดี๋ยวขอฉันจะเอาของเข้าเก็บก่อน”“คุณนาย ให้ฉันทำเองเถอะ”“ป้าเหลียง”ป้าเหลียงยิ้มเป็นการขอโทษและแอบมองนายน้อยก่อนจะเลิกเรียกคุณนายอีกครั้ง และเรียกเธอว่าคุณหนูไห่แทน“คุณจ้าน คุณหนูไห่ พวกคุณยังไม่ได้ทานอาหารเช้ากันเลยใช่ไหมคะ เดี๋ยวฉันจะทำอาหารเช้าให้พวกคุณเองค่ะ”ไห่ถงต้องการห้ามเธอไว้ แต่ป้าเหลียงพูดด้วยรอยยิ้ม "คุณไห่ ฉันมาที่นี่เพื่อเป็นแม่บ้านนะคะ คุณจ้านอธิบายหน้าที่ของฉันชัดเจนแล้วค่ะ เริ่มตั้งแต่วันนี้ ก็จะคิดเงินเดือนของฉันแล้ว ดังนั้นคุณหนูไห่อย่าให้ฉันไม่ได้ทำงานเลยค่ะ งั้นคุณหนูไห่จะทำเองทุกอย่างใช่ไหมคะ?”ไห่ถไม่มีทางเลือกนอกจากปล่อยให้ป้าเหลียงทำหน้าที่จัดกับข้าวที่เธอซื้อกลับเข้าไปในครัว“ป้าเหลียง กระดูกหมู ข้าวโพด แครอท ถั
จ้านหยินอยู่ในห้องพักใหญ่ จนกระทั่งไห่ถงมาเคาะประตู“คุณจ้าน ป้าเหลียงเตรียมอาหารเช้าเสร็จแล้วค่ะ”ไห่ถงยืนอยู่ที่ประตูห้อง เพื่อเคาะและตะโกนเรียกหาแต่ในใจเธอกลับกำลังบ่นอยู่: เปลี่ยนเสื้อผ้าอะไรตั้งนานสองนานยังไม่ออกมาอีกจ้านหยินมักจะทำอะไรอย่างรวดเร็ว และไม่เคยผัดวันประกันพรุ่งโอ้ ยกเว้นตอนที่เขาส่งดอกไม้ เขาไม่ได้เนี้ยบขนาดนั้นจ้านหยินมาเปิดประตูเขาสวมเสื้อเชิ้ตแต่ยังไม่ได้ติดกระดุมทันทีที่ประตูเปิดมา ไห่ถงก็เห็นกล้ามเนื้อหน้าอกที่แข็งแรงหลังจากอึ้งอยู่ครู่หนึ่ง ไห่ถงก็พูดว่า "คุณจ้าน อาหารเช้าพร้อมแล้วค่ะ"จ้านหยินให้ความสนใจกับท่าทางที่แสดงออกของไห่ถง เมื่อเห็นว่า ไห่ถงเพิ่งตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง หลังจากพูดเสร็จแล้วก็หันหลังเดินจากไปเขาปิดประตูอีกครั้ง มองลงไปที่เสื้อที่ปลดกระดุมออก สงสัยว่าเขาเปิดไม่พอหรือเปล่า?ภรรยาของเขาไม่น้ำลายหกเดี๋ยวนะ?ดูเหมือนเขาจะมีแผนเอาหยอกล้อภรรยาลส่วนมาก เขาไม่ประสบความสำเร็จในการหยอกลัอจ้านหยินรู้สึกว่า ตัวเองจะโดนผีเข้าในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาถึงทำอะไรแบบนี้ออกมาได้ รออักสักพักไว้กลับไปที่บริษัท เขาจะถามซูหนานว่าเขารู้จักห
มองดูนายหญิงที่เจริญอาหารอย่างนั้น ป้าเหลียงก็ยิ้ม เมื่อมองดูเธอก็รู้สึกหิวมากขึ้นทันที และไม่ได้เหลือบตามองดูนายน้อย เธอก็เริ่มกินบ้างเหมือนกันหลังจากกินอาหารอร่อยหมดแล้ว ฉวยโอกาสที่ป้าเหลียงกำลังเก็บจานและล้างอยู่ในห้องครัว ไห่ถงก็ขยับเก้าอี้ออกมาแล้วถูที่สีข้างของจ้านหยินจ้านหยินกลายเป็นเหมือนเม่นทันที ทิ่มแทงไปทั่วทั้งร่างกายแต่ครั้งนี้ไม่เหมือนเมื่อก่อน เขาไม่ได้ระวังตัว เขากังวลไม่รู้ว่าภรรยาตั้งใจจะทำอะไรกันแน่“คุณจ้าน ในบ้านเรามีห้องรับแขกแต่ไม่มีเตียง หลังจากไปรับหยางหยางมาแล้วจะพาป้าเหลียงและหยางหยางกลับไปที่ร้านก่อน เพราะต้องไปซื้อเตียงและผ้าปูที่นอนให้ป้าเหลียง จะปล่อยให้ป้าเหลียงนอนกับพื้นไม่ได้”กระดูกสันหลังของเม่นดูเหมือนจะผ่อนคลายทันที“คุณเป็นนายหญิง คุณจัดการมันเองได้เลย"จ้านหยินมีการประชุมสำคัญเช้านี้และไม่มีเวลาไปซื้อเครื่องนอนกับไห่ถงได้“คุณใช้เงิน 500,000 บาทที่ผมให้คุณไปครั้งก่อนหมดยัง? หลังจากที่ผมถึงที่บริษัท ผมจะใช้คอมพิวเตอร์โอนเงินบางส่วนไปยังบัตรค่าใช้จ่ายในบ้านผ่านออนไลน์ แม้ว่าป้าเหลียงจะเป็นแม่บ้านที่จ้างมาดูแลหยางหยาง ก็ไม่สามารถปฏิบัติกั
ไห่ถงคิดและทำอย่างนั้นเธอหยิบโทรศัพท์ออกมาทันทีและค้นหาขั้นตอนการผูกเน็คไททางอินเตอร์เน็ตหลังจากรีบอ่านอย่างรวดเร็วสองครั้ง เธอก็ยัดโทรศัพท์กลับเข้าไปในกระเป๋าเธอเดินไปข้างหน้าและหยิบเน็คไทที่จ้านหยินออยู่ในมือ เธอดึงมัน ดึงมันขึ้นมา แล้วเอามันไปคล้องคอเขา เธอพึมพำ “การกลับห้องไปเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้ามันเหนื่อยมากกว่ากาไปแต่งหน้า แถมฉันยังไม่เคยผูกเนคไทด้วยซ้ำ”เมื่อเห็นเช่นนี้ ป้าเหลียงก็รีบเดินออกไปก่อนเธอรอสองสามีภรรยาอยู่ข้างนอก“พวกผู้ชายที่ฉันรู้จัก ยกเว้นพี่เขยบัดซบและนักเรียนมัธยมต้น พวกเขาต่างก็ไม่ใส่สูทหรือเนคไท ฉันไม่มีประสบการณ์จริงๆ และเรียนรู้จากอินเทอร์เน็ต ฉันไม่รู้ว่าจะทำมันได้หรือเปล่า ถ้าฉันรัดคอคุณก็โปรดยกโทษให้ฉันด้วยนะ”จ้านหยินฟังความคิดที่ไม่มั่นใจของเธอ ดวงตาของเขาสั่นไหวด้วยความดีใจเธอไม่มีประสบการณ์เธอไม่เคยช่วยผู้ชายคนไหนผูกเน็คไทมาก่อนแถมเธอยังต้องเปิดอินเตอร์เน็ตเพื่อดูขั้นตอนผูกเน็คไทเขาอีกความจริงเรื่องนี้ทำให้เขารู้สึกมีความสุขมากแม้ว่าไห่ถงจะดูขั้นตอนบนอินเตอร์เน็ตสองครั้ง แต่เธอก็ยังไม่สามารถผูกเน็คไทได้อย่างถูกต้อง เพราะมันดูง่าย แ
ออกไปทำงานหาเงิน แต่ไม่มีเวลาให้กับเขาไห่หลิงสูดน้ำมูกและไม่หันหลังมองกลับไป ขี่รถออกไปด้วยหัวใจที่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่นถ้าไม่ได้ยินเสียงร้องไห้ของลูกชายก็คงจะดีกว่าไห่ถงอุ้ใหยางหยางแล้วเข้าไปในรถ ปลอบเขาสักพักก่อนที่เด็กน้อยจะหยุดร้องไห้แต่เขาปฏิเสธที่จะนั่งด้วยตัวเองและซุกตัวอยู่ในอ้อมแขนของไห่ถง โดยยังคงจับไห่ถงไว้แน่นด้วยมือทั้งสองข้าง เขาถามอย่างน้อยใจว่า "... ไม่ต้องการหยางหยางเหรอ?"เขาพูดไม่ชัดนัก และไห่ถงก็ไม่ได้ยินสิ่งที่เจ้าตัวเล็กพูดในตอนแรกเธอค่อย ๆ ผละเด็กน้อยออกและก้มศีรษะลงเพื่อถามเบา ๆ “หยางหยางพูดว่าอะไรนะ”หยางหยางเงยหน้าขึ้นมองไห่ถง แล้วถามว่า: "แม่ไม่ต้องการหยางหยางอีกแล้วเหรอ?"“ใครพูดอย่างนั้น แม่แค่ไปทำงาน ไม่ใช่ว่าแม่ไม่ต้องการหยางหยางแล้ว แม่กลับมาอยู่กับหยางหยางทุกคืน”หยางหยางพูดอย่างน้อยใจ “พ่อพูดแบบนั้น”ไห่ถงอยากจะด่าแรงๆ ออกไปไอ้สวะโจวหงหลินคนนั้น ไม่อยากให้พี่เธอไปทำงาน เลยพูดเรื่องไร้สาระต่อหน้าหยางหยาง โดยหวังว่าจะใช้หยางหยางเป็นเครื่องมือ เพื่อหยุดพี่สาวไม่ให้ไปทำงาน“หยางหยาง พ่อกำลังโกหก แม่จะไม่มีวันไม่ต้องการหยางหยางหรอก แม่บอก
หลังจากออกจากโรงเรียนมัธยกวนเฉิงด้วยรถพาณิชย์ จ้านหยินก็แวะจอดรถที่ประจำของเขาและปล่อยให้บอดี้การ์ดขับรถไปทำงาน จากนั้นเขาก็ขึ้นชบวนรถพิเศษโรลส์-รอยซ์ระหว่างทางไปบริษัท เขาโทรหาลุงหมิงและขอให้ส่งคนเอาคาร์ซีทสำหรับเด็กมาให้จ้านหยินประหลาดใจ ซางเสี่ยวเฟยรออยู่ที่ทางเข้าบริษัทอีกครั้ง แต่ไม่ได้ขวางทางเขาอีกต่อไปเธอยืนเงียบ ๆ อยู่ข้างๆ มองดูขบวนรถพิเศษของเขาขับเข้ามาในบริษัทซางเสี่ยวเฟยพบว่าเป็นการยากที่จะตัดใจจากความรักที่เธอมีต่อจ้านหยิน เธอบอกตัวเองให้กลับมาพบเขาอีกครั้งในวันนี้และจะไม่กลับมาอีกในอนาคตเว้นเสียแต่ว่าเธอรู้ว่าเขาสวมแหวนเพื่อทำให้เธอตัดใจและไม่ได้แต่งงานจริงๆ เธอก็จะกลับมาประตูของจ้านซื่อกรุ๊ปถูกปิดอย่างรวดเร็วหลังจากขบวนรถพิเศษของจ้านหยินเข้ามาในบริษัทรถโรลส์-รอยซ์ที่ซางเสี่ยวเฟยจ้องมองก็ลับสายตาไป เธอยืนสักพักก่อนจะหันหลังและกลับไปที่รถอย่างหดหู่หลังจากนั้นไม่นาน ซางเสี่ยวเฟยก็เริ่มขับรถในที่สุด ในตอนแรกได้ขับอย่างช้าๆ แต่ทันใดนั้นมันก็เริ่มเร่งความเร็ว และขับหายไปไกลทันทีเมื่อเธออารมณ์ไม่ดี ซางเสี่ยวเฟยจะไปซื้อของบางอย่างสองชั่วโมงต่อมา รถของเธอก็จอด