ซางเสี่ยวเฟยเห็นเขาลงรถแล้ว ก็ดีใจรู้สึกว่าความมุ่งมั่นขงเธอเริ่มเห็นผลนิดหน่อยแล้ว ดูได้จากที่จ้านหยินไม่แม้แต่จะแลสายตาจนกระทั่งยอมลงรถมาเจอเธอ นี่ก็เรียกว่าเริ่มเห็นผลแล้ว"จ้านหยิน ฉันเตรียมอาหารเช้าไว้ให้คุณด้วย"ซางเสี่ยวเฟยรีบยื่นกล่องอาหารเช้าแสนรักของตัวเองที่พกมาให้กับจ้านหยิน ขณะเดียวกันก็ยื่นช่อดอกไม้ออกไปด้วย แล้วยิ้มหน้าบาน "ดอกไม้ช่อนี้ฉันตัดมาจากสวนดอกไม้ที่บ้านเอง ตัดกิ่งก้านใบ แล้วจัดเรียงเป็นช่อเองกับมือ ฉันให้คุณ"จ้านหยินมองหน้าซางเสี่ยวเฟยด้วยสีหน้าไร้อารมณ์เอาดอกไม้ให้ผู้ชายอกสามศอก ไห่ถงสอนซางเสี่ยวเฟยให้จีบผู้ชายยังไงกันแน่?เห็นเขาเป็นผู้หญิงหรือไง?จ้านหยินยื่นมือขวาออกไปรับช่อดอกไม้ก่อน แล้วค่อยยื่นมือซ้ายไปรับกล่องข้าวทันใดนั้นซางเสี่ยวเฟยก็รู้สึกเบิกบานใจฟู นี่จ้านหยินยอมรับเธอแล้วใช่ไหม?วินาทีถัดมาเธอก็เห็นนิ้วนางข้างซ้ายของจ้านหยินมีแหวนทองสวมอยู่ แหวนทองวงนั้นยังมีขนาดใหญ่มากด้วย เมื่อสวมอยู่บนนิ้วนางข้างซ้ายของเขา ต่อให้วันนี้จะไม่มีแสงแดด แต่มันก็เป็นประกายแวววาวจนไม่อาจทำให้เธอมองผ่านไปได้"จ้านหยิน!"ซางเสี่ยวเฟยลอบถามเขาอย่างระมัดระว
ซางหวู่เหิงได้รับข่าวมาก่อนแล้ว แต่เขาก็ไม่ทันได้ตั้งตัวกับที่การน้องสาวบุกเข้ามาในห้องทำงานแบบนี้"รีบมาซะขนาดนี้ มีผีวิ่งตามหลังอยู่หรือไง"ซางหวู่เหิงวางปากกาเซ็นชื่อลง น้องสาวมาทั้งที เขาไม่คิดจะทำงานต่ออีก"วันนี้ไม่ไปเฝ้าอยู่ที่จ้านซื่อกรุ๊ปหรือไง? บอกไม่รู้ตั้งกี่ครั้งแล้วว่าจ้านหยินไม่เหมาะกับเธอ แล้วหมอนั่นก็ไม่มีทางรักเธออยู่แล้ว แต่พูดยังไงก็ไม่ฟัง ไม่ยอมตัดใจสักที คราวนี้โดนหักอกมาแล้วล่ะสิ?"ซางหวู่เหิงลุกขึ้นเดินอ้อมโต๊ะทำงานออกมา รอจนน้องสาวเดินเข้ามาใกล้ เขามองดูใบหน้าซีดขาวของน้องสาวด้วยความสงสาร "จ้านหยินทำอะไรกับเธอ?"เขาไม่สนับสนุนที่น้องสาวตามจีบจ้านหยิน แต่ก็ไม่ยอมให้จ้านหยินทำร้ายจิตใจน้องสาวเขาเช่นกัน"พี่"ซางเสี่ยวเฟยจับแขนแข็งแรงของพี่ชาย แล้วถามด้วยความร้อนรน "พี่รีบบอกฉันมา จ้านหยินโสดหรือว่าแต่งงานแล้ว?"ซางหวู่เหิงชะงักไปนิดหน่อย แล้วพูด "ทำไมถึงถามอะไรแบบนี้? คนทั้งกวนเฉิงเขารู้กันทั้งนั้นว่าจ้านหยินยังโสด แม้แต่แฟนยังไม่มีเลย ก็เขานิสัยแบบนั้น ไม่ยอมให้สาวๆที่ไม่ใช่ญาติพี่น้องเข้าใกล้ ก็มีแค่เธอนี่แหละที่ใจกล้าบ้าบิ่นวิ่งไล่ตามเขา""พี่ยังว่าจ้
"บอกหน่อยสิทำไมเธอถึงได้ดื้อด้านถึงขนาดนี้?""ก็ดื้อด้านจริงๆนั่นแหละ"ซางหวู่เหิงรู้สึกตึงเครียด"จ้านหยินไม่มีทางชอบเธอ แล้วตระกูลจ้านเองก็ไม่ได้ปลื้มเธอเท่าไหร่"ซางหวู่เหิงวิเคราะห์ให้น้องสาวฟัง "คุณยายจ้านแห่งตระกูลจ้านเป็นยายหญิงชราที่จิตใจยังสาว ในบรรดาหลานชายเก้าคน นอกจากคนเล็ดสุดสองคนที่ยังไม่ถึงวัยแต่งงาน เจ็ดคนที่เหลือควรจะแต่งงานได้แล้ว คนแก่น่ะตั้งหน้าตั้งตารอให้หลานชายแต่งงานอยู่""เธอจีบจ้านหยินอย่างเปิดเผยมาสักพักแล้วแท้ๆ คุณยายจ้านออกมาเคลื่อนไหวอะไรบ้างไหม? ไม่มีเลยสักนิด ทำอย่างกับไม่รู้ว่าเธอกำลังไล่ตามจ้านหยินอยู่อย่างงั้น เพราะอะไร? เพราะคุณยายไม่ได้หมายตาให้เธอเป็นหลานสะใภ้ใหญ่ยังไงล่ะ""ไม่งั้นนิสัยอย่างคุณยายจ้าน ถ้ารู้ว่ามีคนออกตัวประกาศว่าจะจีบจ้านหยินล่ะก็ ต้องยื่นมือมาช่วยสุดชีวิต ขนาดที่ว่าสามารถทำเรื่องเกิดเบอร์ขนาดไหนก็ย่อมได้ เช่นเอาจ้านหยินมาส่งให้เธอถึงเตียง แล้วให้พวกเธอได้เสียกันซะ แล้วคุณยายจะได้อุ้มหลานเร็วๆ""ถ้าเธอกับจ้านหยินได้เสียกัน ไม่ว่าจะเป็นตระกูลจ้านหรือตระกูลของเรา ก็จะต้องเรียกร้องให้จ้านหยินรับผิดชอบเธอ ต่อให้เขาไม่อยากแต่งก็ต้
ซางหวู่เหิงมองดูใบหน้าของน้องสาวที่เปลี่ยนเป็นสีซีด ก็รู้ได้ว่าการที่เธอพูดคำพูดเหล่านั้นออกมาเต็มไปด้วยความเสียใจอย่างที่สุดเขาก็เคยมีความรักมาก่อน ถึงแม้ว่าชีวิตแต่งงานตอนนี้จะมีความสุขดี แต่กว่าจะมีถึงจุดนี้เขาก็เคยเสียใจและสิ้นหวังมาก่อน จึงเข้าใจดีกว่าความรักนั้นทำลายหัวใจของมนุษย์ได้ดีที่สุดแต่เขาก็เห็นชัดเต็มสองตา จ้านหยินไม่มีทางรักน้องสาวของเขา ขืนน้องสาวยังตามตื๊อเขาต่อไป สุดท้ายแล้วเธอก็จะเป็นคนที่ถูกทำร้ายจิตใจมากที่สุด สู้ให้น้องสาวยอมตัดใจซะตั้งแต่ตอนนี้ยังดีกว่าเขาพูดพลางถอนหายใจ "เสี่ยวเฟย ไม่ใช่ว่าพี่ไม่อยากช่วยสืบข่าวจ้านหยิน แต่เธอลองคิดดูสิว่าคนข้างกายของจ้านหยินเป็นใคร? นั่นคือซูหนาน แล้วตระกูลซูทำธุรกิจอะไร? แค่พี่คิดว่าจะสืบจ้านหยิน จ้านหยินก็รู้ตัวก่อนแล้ว""เธอคิดว่าเขาจะปล่อยให้พี่สืบไหม? อีกอย่าง คนของพี่ถูกจัดแจงให้ไปค้นหาคุณน้ากันหมดแล้ว"ซางเสี่ยวเฟยเงียบเธอรู้ว่าสิ่งที่พี่พูดเป็นความจริงทั้งหมดซูหนานที่ตัวติดกับจ้านหยินเกิดจากตระกูลซู ความเทพของตระกูลซูอยู่ที่เรื่องอะไร คนทั้งกวนเฉิงต่างก็รู้กันทั้งนั้น"เสี่ยวเฟย ผู้ชายดีๆบนโลกนี้มีถมเถไป ลื
แต่กลับลังเลครุ่นคิดอยู่นานถึงสิบนาที กว่าเขาจะยอมเปิดประตูลงจากรถ เดินเข้าไปในร้านดอกไม้"คุณผู้ชาย ซื้อดอกไม้หรอคะ? ให้แฟนหรอคะ?"หลังจากจ้านหยินเดินวนทั่วร้านหนึ่งรอบ ก็ถามเจ้าของร้านว่า "จะให้ภรรยาครับ"เจ้าของร้านพูดยิ้มๆ "วันเกิดของเธอหรือเป็นวันครบรอบแต่งงานของพวกคุณคะ?""ไม่ใช่ทั้งสอง ก็แค่อยากให้น่ะครับ"เจ้าของร้านพูดยิ้มๆ "งั้นเป็นช่อดอกกุหลาบประดับแซมด้วยดอกยิปโซเป็นยังไงคะ?"จ้านหยินที่ไม่เคยให้ช่อดอกไม้ผู้หญิงมาก่อน ก็คิดว่าที่เจ้าของร้านเสนอมานั้นแม่นยำดี จึงพยักหน้า "เอาตามที่คุณบอกเลยครับ""รอสักครู่นะคะ"เจ้าของร้านดูออกว่านี่เป็นครั้งแรกที่ชายหนุ่มให้ดอกไม้ภรรยาใช้เวลาอยู่สักครู่ เจ้าของร้านก็ส่งช่อดอกไม้ให้จ้านหยิน จ้านหยินรับช่อดอกไม้มาอุ้มไว้ เมื่อจ่ายเงินเสร็จ ก็หอบช่อดอกไม้หมุนตัวออกจากร้านเขาเอาช่อดอกไม้วางลงเบาะข้างคนขับ ขณะที่กำลังขับรถก็คอยมองช่อดอกไม้อยู่เป็นระยะขณะเดียวกันก็ยังคิดว่า เขาควรจะใช้เหตุผลอะไรมาอ้างเพื่อให้ช่อดอกไม้นี้ต่อหน้าไห่ถงดี?ไม่นาน ก็มาถึงหน้าประตูโรงเรียนมัธยมกวนเฉิง เนื่องจากเขาเลิกงานก่อนเวลา ตอนนี้นักเรียนเพิ่งจะเลิก
จ้านหยินไม่ได้หงุดหงิดเลยสักนิด โจวหยางให้เขาทำอะไรเขาก็ทำ แถมยังสอนวิธีเล่นแบบใหม่ให้กับโจวหยางอีกด้วยไห่ถงอดคิดไม่ได้ว่า อีกหน่อยถ้าเขามีลูกเป็นของตัวเอง จะต้องเป็นพ่อที่มีความรับผิดชอบสูงมากแน่ๆ"เป็นอะไร?"เซินเสี่ยวจวินสังเกตุว่าเพื่อนรักของเธอจับจ้องไปยังจุดนึง เลยเบียดเข้ามามองด้วย ทันใดนั้นเธอก็ลอบยิ้มกรุ้มกริ่ม แล้วตบบ่าของไห่ถง "เธอคิดว่าคุณจ้านของเธอหล่อสุดๆเลยใช่ไหมล่ะ?""ฉันไม่ต้องคิดหรอก เขาก็หล่อสุดๆมาตั้งนานแล้ว""รีบๆเผด็จศึกเขาสิ เห็นไหมว่าเขาดีกับหยางหยางขนาดไหน ความอดทนสูงมาก ผู้ชายแบบนี้เนี่ยมองภายนอกเย็นชาอย่างกับน้ำแข็ง แต่ลึกๆแล้วอ่อนโยนสุดๆ เขาต้องเป็นผู้ชายรักเด็กแน่ๆ เธอรีบจับเขาทุ่มลงเตียง เผด็จศึกซะ ก็มีมีลูกน้อยหน้าตาเหมือนเขาได้แล้ว ฟินจะตายไป"ไห่ถงหุบยิ้ม "พูดอย่างกับฉันทำเพื่อแค่ให้มีลูกอย่างนั้นแหละ"เงียบไปชั่วอึดใจ เธอก็กระซิบว่า "แค่มองหน้าดุดันอย่างกับปีศาจน้ำแข็งของเขา ต่อให้ทุ่มลงเตียงได้ ก็ไม่กล้าเผด็จศึกหรอก"ผู้ชายลักษณะนิสัยอย่างจ้านหยินอ่อยยากซะด้วยหรือต่อให้อ่อยสำเร็จ อย่างมากก็แค่จูบเธอตอบล่ะมั้งเซินเสี่ยวจวินขำพรืด ก่อนจะรีบ
"พี่สาวฉันบอกว่าจะไม่กลับมากินข้าว ระยะทางค่อนข้างไกล เห็นบอกว่าถ่อกลับมาลำบากมาก ตอนเที่ยงก็ไม่มีเวลาพัก ในบริษัทมีโรงอาหาร เธอจะกินข้าวที่บริษัท"จ้านหยินรับคำสั้นๆ"ตอนเย็นพี่เลิกงานกลับมา ถามด้วยว่าพี่ปรับตัวได้หรือเปล่า โดนใครรังแกไหม ผมพอจะคุยประธานลู่ได้อยู่ ถ้ามีใครังแกพี่ ผมจะขอให้ประธานลู่ช่วยเป็นแบ็คอัพให้"ไห่ถงหันกลับมามองเขาอีก "ไม่แปลกใจแล้วว่าทำไมพี่ถึงห่วงคุณขนาดนั้น เอาแต่กำชับฉันเป็นล้านรอบว่าต้องทำตัวดีๆกับคุณ"ใบหน้าของจ้านหยินแดงระเรื่อเวลาอยู่ต่อหน้าพี่ภรรยาเขามักจะวางตัวได้อย่างดีเพราะเวลาค่อนข้างคับขัน ไห่ถงจึงเตรียมอาหารเที่ยงที่เรียบง่ายมากโชคดีที่ จ้านหยินกินอย่างเอร็ดอร่อย ไม่มีท่าทีรังเกียจสังนิดไห่ถงคิด แค่เครื่องในหมูที่เขาไม่กิน แล้วก็ไม่ชอบกินกระเทียมกับต้นหอมผักชีแล้ว ที่จริงเขาก็เลี้ยงง่ายมากเหมือนกันหลังมื้ออาหาร จ้านหยินไม่ได้กลับไปในทันทีไห่ถงล้างเครื่องจานชามเสร็จก็ออกมาจากห้องครัว เมื่อเห็นว่าเขายังอยู่ ก็ล้วงโทรศัพท์ออกมาดูเวลา แล้วเดินไปหาเขาพร้อมกับถาม "คุณจ้าน ตอนบ่ายคุณไม่ต้องทำงานหรอ? บ่ายโมงกว่าแล้วนะ ฉันจำได้ว่าที่ผ่านมาค
จ้านหยินมองไห่ถงเงียบๆชั่วครู่ แล้วเขาก็ไม่พูดจริงๆ แล้วก็หมุนตัวเดินไปไห่ถงอ้าปากอยากจะเรียกเขา แต่ก็ล้มเลิกความตั้งใจ ถ้าเขาไม่อยากพูดต่อให้ง้างปากเขาออก เขาก็ไม่มีทางพูด"เวลาจะพูดก็ไม่พูดเอาแต่อ้ำๆอึ้งๆนี่น่าเบื่อที่สุด ทำไมพูดออกมาตามที่รู้สึก?"ความปากหนักของจ้านหยินทำเอาไห่ถงหงุดหงิดจนถากถางออกมามนุษย์ทุกคนต่างก็มีความขี้สงสัยกันทั้งนั้น เขามาพูดอมพะนำแบบนี้ ล่อเอาความอยากรู้อยากเห็นในใจของเธอออกมาแล้ว จนเอาแต่คิดว่าเขาอยากจะพูดอะไรกับเธอกันแน่ไม่ถึงสองนาที ชายหนุ่มที่พูดอมพะนำคนนั้นก็หอบช่อดอกไม้เดินเข้ามาไห่ถงมองเขาอย่างอึ้งๆไม่อยากจะเชื่อว่าจ้านหยินจะอุ้มช่อดอกไม้อยู่เธอขยี้ตาแล้วมองดูให้อีกที ก็เป็นคุณจ้านของเธอจริงๆนี่นานี่เขา อยากจะให้ดอกไม้เธองั้นหรอ?พิลึก หัวใจของไห่ถงเต้นเร็วระรัว เส้นประสาททั้งตัวจู่ๆก็ตึงขึ้นมา ผีหลอกน่ะ นี่เธอกำลังตื่นเต้นมาก!ดอกไม้ช่อนั้นไม่ได้ส่งให้เธอต่อหน้าตรงๆ แต่ถูกมือใหญ่คู่นั้นวางเอาไว้บนโต๊ะแคชเชียร์ เธอได้ยินชายหนุ่มที่ราวกับกลัวดอกพิกุลจะร่วงออกจากปากพูดว่า "ระหว่างทางผ่านร้านดอกไม้เห็นในนั้นมีดอกไม้สวยมาก ก็เลยซื้อมาให