ไห่หลิงพูดอย่างใจเย็นว่า "คุณสั่งกระเช้าดอกไม้มาให้ฉัน ถ้าภรรยาของคุณรู้เรื่องเข้า แล้ววิ่งแจ้นมาต่อว่าฉันอีกว่าฉันไปยั่วยุสามีของเธอ ซึ่งมันไร้สาระมาก ถ้าฉันอยากจะยั่วยุผู้ชาย แน่น่อนว่าจะต้องยั่วยุคนที่เก่งและดีกว่าคุณแน่นอน ทำไมต้องกลับไปกินของเก่าด้วย? ผู้ชายคนอื่นในโลกตายหมดแล้วเหรอ?"โจวหงหลินทำหน้าอยากจะมุดดินหนี เขาเป็นคนเลวในสายตตาของไห่หลิง และด้วยนิสัยของเธอ เธอไม่กลับมารื้อฟื้นหาอดีตแน่นอนไม่รู้จริงๆ ว่าแม่และพี่สาวคิดอะไรอยู่ ทำไมถึงพวกเขาปฏิบัติกับไห่หลิงแบบนั้นในตอนนั้น และตอนนี้พวกเธอกลับอยากให้ เขาแต่งงานกับไห่หลิงใหม่ พวกเธอเห็นไห่หลิงเป็นอะไรไป?จะบอกให้มาก็มา จะบอกให้ไปก็ไป"ไห่หลิง ฉันยอมรับว่าฉันคิดผิดเอง แต่นั่นเป็นเรื่อในอดีต ตอนนี้พวกเรา.....ไม่ได้เป็นสามีภรรยากันแล้ว พวกเราก็ยังสามารถเป็นเพื่อนกันได้ เพื่อเห็นแก่ประโยชน์ของหยางหยาง อย่างน้อยก็ไว้หน้าฉันบ้างเถอะ"ไห่หลิงมองลูกชาย ซึ่งไร้เดียงสา เขาไม่เข้าใจว่า ทำไมทุกวันนี้เขากับแม่ถึงไม่ได้อยู่กับพ่อแล้วและไม่เข้าใจว่า ทำไมถึงมีป้าอยู่กับพ่อ แทนที่จะเป็นแม่ไห่หลิงคิดว่าลูกชายยังเด็กอยู่ ดังนั้นเธอจึง
เย่เจียนีไม่ยอมตกลง และลึกๆ ในใจของโจวหงหลิน เขาเองก็ทำใจไม่ได้เช่นกัน มีเพียงแค่คลายความสัมพันธ์กับไห่หลิงเท่านั้น ที่จจ้านหยินจะสามารถช่วยเหลือเขาได้หากเขารู้มาตั้งแต่แรกว่า ไห่ถงเป็นนายหญิงของตระกูลจ้าน ถึงแม้ว่าจะประวิงเวลาไป เขาก็จะทำและไม่ยอมหย่า และด้วยวิธีนี้ ไห่ถงจะไม่ยอมให้จ้านหยินทำร้ายเขา เพราะเห็นแแก่พี่สาวตัวเองเสียดายที่ไม่ได้รู้ตั้งแต่แรกในตอนแรก เขาสงสัยว่าจ้านหยินคือนายน้อยจ้าน แต่เขาคิดว่าไห่ถงไม่ได้มีดวงรวย และไม่เชื่อว่าไห่ถงจะสามารถแต่งงานกับตระกูลเศรษฐีได้ ดังนั้นเขาจึงเลิกเดา ใครจะคิดว่า จ้านหยินคือนายน้อยจ้านจริงๆโจวหงหลิน "...""คุณโจวถ้าไม่มีธุรอะไรแล้ว ก็เชิญกลับไปเถอะ"โจวหงหลินอุ้มลูกชายเอาไว้และนั่งนิ่งๆ ปากก็ว่า "ฉันอยากใช้เวลากับหยางหยางมากกว่านี้ ฉันเคยยุ่งกับงานจนไม่มีเวลาอยู่กับหยางหยาง แต่ตอนนี้ฉันว่างงานชั่วคราว และมีเวลาเหลือเฟือที่จะชดเชยเวลาในอดีตเหล่านั้นแล้ว""คุณกับคุณหนู่เย่ไม่ต้องเตรียมงานแต่งเหรอ? บ้านตกแต่งเสร็จแล้ว?"ไห่หลิงถามเขาโจวหงหลิน: "... เงินส่วนใหญ่ของฉัน เจียนีเป็คนจัดการ และเธอก็เป็นคนรับผิดชอบในเรื่องเหล่านี้ ด้
"แต่ครอบครัวของเเจียนีนิสัยไม่ดีเลย พวกเขาไม่ดีเท่าไห่ถง ตอนนั้น ไห่ถงไม่เพียงแต่ช่วยทำงานบ้านและทำอาหารเช้าเท่านั้น แต่ยังดูแลหยางหยางด้วย แต่ก่อนไม่ว่าฉันจะตื่นนอนตอนไหน ไห่ถงก็จะเตรียมอาหารเช้าให้กับครอบครัวสามคนของพวกเรา ส่วนฉันก็แค่กินข้าวแล้วออกไปทำงาน""แต่ตอนนี้ เจียนีไม่ได้ตื่นเช้ามาเตรียมอาหารเช้าให้ เธออยากให้ฉันลุกขึ้นมาทำอาหารเช้าให้เธอกินแทน ครอบครัวของเธอต้องการแค่ผลประโยชน์ และไม่ได้ลงมือช่วยอะไรเลย"เมื่อได้ยินแบบนี้ ไห่หลิงโกรธจนควันออกหู "คุณปฏิบัติกับน้องสาวของฉันเหมือนเป็นพี่เลี้ยงเด็กฟรีๆ คุณจำได้ไหมว่า ทำไมพวกเราถึงทะเลาะกันเมื่อก่อนตรุษจีนร คุณบอกว่าน้องฉันอาศัยอยู่ในบ้านคุณและกินๆ นอนๆ แต่ละเดือนก็จ่ายเงินให้อีก เดือนละหมื่นกว่าสำหรับค่าอาหาร""ตอนนี้ไม่มีใครทำงานเป็นพี่เลี้ยงเด็กฟรีใๆ ห้ครอบครัวของคุณแล้ว คุณเลยบอกว่าน้องฉันดีมากงั้นเหรอ? โจวหงหลินขอบอกเลยนะ ถ้าไม่ใช่เพราะฉัน ถงถงคงย้ายออกไปนานแล้ว และคิดว่าเธอเต็มใจเป็นพี่เลี้ยงเด็กฟรีๆ งั้นเหรอ? เธอเต็มใจทำให้เพราะฉันเป็นพี่เธอ""และฉันเป็นพี่สาวที่ไม่ได้เรื่อง ล้มเหลวในการปกป้องเธอ ให้คุณรังแกเธอ โยนควา
อากาศในเดือนตุลาคมของเมืองกวนเฉิงยังร้อนจัด มีเพียงตอนเช้าและตอนเย็นเท่านั้นที่สามารถทําให้ผู้คนรู้สึกถึงความเย็นของปลายฤดูใบไม้ร่วงได้หลังจากไห่ถงตื่นขึ้นมาในตอนเช้าและทําอาหารเช้าให้ครอบครัวพี่สาวทั้งสามคนแล้ว เธอก็หยิบทะเบียนบ้านและจากไปอย่างเงียบ ๆ"จากนี้ไปเราจะใช้ระบบAAกันแล้ว ไม่ว่าจะเป็นค่าครองชีพหรือค่าผ่อนรถและผ่อนบ้าน ทุกอย่างก็ต้องAAกัน! น้องสาวคุณมาอยู่ที่บ้านเรา ก็ต้องบอกให้เธอช่วยจ่ายค่าใช้จ่ายครึ่งหนึ่งด้วยแค่ให้เงินมา 10,000 บาทละเดือนเอาไปใช้อะไรได้? มันจะไปต่างอะไรกับมากินฟรีอยู่ฟรีล่ะ?"นี่คือสิ่งที่ไห่ถงได้ยินพี่เขยของเธอพูด ตอนที่พี่สาวและพี่เขยทะเลาะกันเมื่อคืนนี้เธอต้องย้ายออกจากบ้านของพี่แต่มีทางเดียวเท่านั้นที่จะทำให้พี่วางใจก็คือแต่งงานเธออยากจะรีบแต่งงานไปให้เร็ว แต่ว่าแม้แต่แฟนก็ยังไม่มี เธอจึงตัดสินใจรับคำขอของคุณยายจ้าน หญิงชราที่เธอได้ช่วยเหลือไว้โดยไม่ได้ตั้งใจ เธอจะแต่งงานกับหลานชายคนโตของคุณยายจ้านซึ่งชื่อจ้านหยินที่การแต่งงานเป็นเรื่องยากยี่สิบนาทีต่อไป ไห่ถงก็ลงจากรถหน้าประตูสํานักงานเขต"ไห่ถง"ทันทีที่ลงจากรถ ไห่ถงก็ได้ยินเสียงตะโก
"หากตัดสินใจแล้ว ฉันก็จะไม่เปลี่ยนใจค่ะ"ไห่ถงคิดไตร่ตรองอยู่สองสามวันก่อนตัดสินใจ และตอนนี้เธอตัดสินใจดีแล้ว ดังนั้นเธอจึงไม่คืนคำเมื่อจ้านหยินได้ยินเธอพูดแบบนั้น เขาจึงไม่ได้พูดอะไรออกไปเพื่อให้เธอเปลี่ยนใจ แต่หยิบเอกสารของตัวเองออกมา แล้วมอบแก่เจ้าหน้าที่ไห่ถงก็หยิบเอกสารของตัวเองออกมาเช่นกันพวกเขาจดทะเบียนสมรสเสร็จอย่างรวดเร็ว ทั้งกระบวนการใช้เวลาเพียงไม่ถึง 10 นาทีเมื่อไห่ถงรับทะเบียนสมรสมาจากเจ้าหน้าที่ จ้านหยินล้วงกุญแจที่เตรียมไว้ก่อนหน้านี้ออกจากกระเป๋ากางเกงแล้วส่งให้ไห่ถงพร้อมกับพูดว่า "บ้านที่ผมซื้อไว้อยู่ที่หมิงหยวนฮวา การ์เด้น ได้ยินคุณยายบอกว่าคุณเปิดร้านขายหนังสืออยู่ที่ประตูหน้าโรงเรียนมัธยมกวนเฉิง บ้านของผมไม่ไกลจากร้านขายหนังสือของคุณ ถ้านั่งรถเมล์ก็ใช้เวลาเพียงสิบกว่านาทีเท่านั้น""คุณมีใบขับขี่รถยนต์ไหมครับ? ถ้ามีใบขับขี่ผมสามารถจ่ายเงินดาวน์รถยนต์ให้ได้ครับ แต่คุณต้องผ่อนชำระงวดรถยนต์ทุกเดือน เมื่อมีรถยนต์แล้วคุณก็จะสะดวกในการเดินทางไปทำงานแล้วก็กลับบ้าน"“งานของผมยุ่งมาก ผมออกจากบ้านเช้าตรู่กว่าจะกลับถึงบ้านก็ดึก บางครั้งก็ต้องเดินทางไปทำงานต่างจังหวัด
"คุณยายคะ หนูไม่เป็นไรแน่นอนค่ะ"ไห่ถงตอบกลับแบบปัดๆถึงแม้ว่าคุณยายจ้านจะดูแลเธอดี แต่ทว่าจ้านหยินเป็นหลานแท้ๆ เธอเป็นเพียงแค่หลานสะใภ้ หากเราทั้งคู่มีปัญหาขัดแย้งกันจริงๆ ครอบครัวจ้านจะเข้าข้างเธอหรือไม่?ไม่ใช่ว่าไห่ถงไม่เชื่อแต่อาจเหมือนกับพ่อแม่สามีของพี่สาวเธอก่อนแต่งงานพ่อแม่สามีดูแลพี่สาวดีมาก ดีมากจนทำให้ลูกสาวแท้ๆ ของพวกเขาอิจฉาริษยาหลังจากแต่งงานพวกเขากลับกลายเป็นคนละคน ทุกครั้งที่พี่สาวกับสามีมีปัญหาขัดแข้งกัน แม่สามีจะตั้งใจกล่าวหาว่าเป็นเพราะพี่สาวทำหน้าที่ภรรยาได้ไม่ดีสุดท้ายแล้วลูกชายยังไงก็คือลูกในไส้ของพวกเขา แต่ลูกสะใภ้ก็ยังเป็นคนนอกวันยันค่ำ"หลานทำงานไปก่อนนะ ยายไม่รบกวนล่ะ เดี๋ยวตอนเย็นยายจะเรียกอาหยินมารับหลานมาบ้านมากินข้าวเย็นด้วยกัน""คุณยายคะ หนูปิดร้านดึก น่าจะไม่สะดวกไปทานข้าวเย็นด้วยค่ะ แต่ถ้าเลื่อนเป็นวันหยุดสุดสัปดาห์นี้แทนได้ไหมคะ?"เพราะว่าโรงเรียนจะหยุดสุดสัปดาห์ ร้านหนังสือของพวกเขาต้องพึ่งพาโรงเรียนในการทำรายได้ เมื่อโรงเรียนหยุด ธุรกิจของพวกเขาก็จะซบเซา แล้วบางครั้งอาจจะไม่เปิดร้านเลย เธอจึงมีเวลาว่าง"ได้จ้ะ"คุณยายจ้านพูดอย่างเห็น
"พี่คะ แบบนั้นไม่ได้นะ นั้นเป็นทรัพทย์สินของเขาก่อนแต่งงาน ฉันไม่ได้ออกเงินช่วยซื้อสักบาท แล้วจะให้เขาเพิ่มในใบครอบครองทรัพย์สินร่วมกันอีกได้อย่างไร เรื่องนี้เราจะไม่พูดกันอีกนะคะ"เมื่อได้รับใบทะเบียนสมรสมา จ้านหยินก็มอบกุญแจบ้านให้ ทำให้เธอสามารถย้ายเข้าบ้านนั้นได้ทันที ปัญหาเรื่องบ้านก็ได้รับการแก้ไขเรียบร้อย แค่นี้ก็ดีมากแล้วเธอจะไม่ขอให้จ้านหยินเพิ่มชื่อเธอในใบครอบครองทรัพย์สินร่วมกัน ถ้าเขาต้องการเพิ่มชื่อของเธอในใบครอบครองทรัพย์สินเอง เธอก็จะไม่ปฏิเสธในฐานะสามีภรรยาที่ตัดสินใจว่าจะอยู่ด้วยกันตลอดชีวิตไห่หลิงแค่พูดแบบไปนั้น เพราะรู้ว่าน้องสาวพึ่งพาตนเองก่อนและไม่โลภมาก เธอจึงหยุดกังวลเกี่ยวกับปัญหานี้หลังจากที่ถูกพี่สาวสอบถามทุกเรื่องแล้ว ไห่ถงจึงสามารถย้ายออกจากบ้านพี่สาวได้สำเร็จพี่สาวต้องการไปส่งเธอที่หมิงหยวนฮวา การ์เด้น แต่ทันใดนั้นหลานชายโจวหยางตื่นขึ้นพอดี เจ้าตัวเล็กตื่นขึ้นมาก็ร้องไห้และมองหาแม่ของเขา"พี่คะ พี่ไปดูแลหยางหยางก่อน สัมภาระของฉันไม่เยอะ ฉันไปคนเดียวได้"ไห่หลิงต้องป้อนข้าวลูกชาย เมื่อป้อนข้าวเสร็จแล้วก็ต้องเตรียมอาหารกลางวันต่อ เพราะสามีตอนเที่ยง
จ้านหยินพูดอย่างเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น "ประชุมต่อไป"คนที่สนิทกับเขามากที่สุดคือลูกพี่ลูกน้องคนโตของเขา และเป็นนายน้อยคนที่สองของตระกูลจ้าน ชื่อ จ้านอี้เฉินจ้านอี้เฉินเข้ามา กระซิบถามว่า "พี่ใหญ่ ผมได้ยินที่คุณยายพูดกับพี่แล้ว พี่แต่งงานกับคนที่ชื่อถงอะไรสักอย่างจริงๆ เหรอ"จ้านหยินมองเขาตาขวางจ้านอี้เฉินลูบจมูกและนั่งตัวตรง โดยไม่กล้าถามต่ออีกแต่ก็ได้แสดงความเห็นอกเห็นใจถึงพี่ชายคนโตอย่างมากแม้ว่าลูกชายหลานชายของตระกูลจ้านไม่จำเป็นต้องแต่งงานเพื่อยกระดับฐานะของตน แต่พี่ชายคนโตและพี่สะใภ้ไม่ได้มาจากครอบครัวที่ฐานะเหมาะสมกัน เพียงเพราะคุณยายชอบผู้หญิงที่ชื่อไห่ถง จึงต้องการให้พี่ชายคนโตแต่งงาน พี่ชายคนโตน่าสงสารจริง ๆจ้านอี้เฉินยังคงส่งความเห็นอกเห็นใจแก่พี่ชายคนโตอีกครั้งโชคดีที่เขาไม่ใช่หลายชายคนโต มิฉะนั้นคนที่แต่งงานกับผู้มีพระคุณช่วยชีวิตของคุณยายก็เป็นเขาแล้วไห่ถงไม่รู้เรื่องเหล่านี้ เธอต้องถามให้ชัดเจนว่าบ้านใหม่ของเธออยู่ที่ชั้นไหน และเธอลากกระเป๋าเดินทางและหาบ้านใหม่จนเจอหลังจากเปิดประตูเข้าไปในบ้าน เธอพบว่าบ้านค่อนข้างใหญ่ ใหญ่กว่าบ้านพี่สาวของเธอและตกแต่งอ