"แต่ครอบครัวของเเจียนีนิสัยไม่ดีเลย พวกเขาไม่ดีเท่าไห่ถง ตอนนั้น ไห่ถงไม่เพียงแต่ช่วยทำงานบ้านและทำอาหารเช้าเท่านั้น แต่ยังดูแลหยางหยางด้วย แต่ก่อนไม่ว่าฉันจะตื่นนอนตอนไหน ไห่ถงก็จะเตรียมอาหารเช้าให้กับครอบครัวสามคนของพวกเรา ส่วนฉันก็แค่กินข้าวแล้วออกไปทำงาน""แต่ตอนนี้ เจียนีไม่ได้ตื่นเช้ามาเตรียมอาหารเช้าให้ เธออยากให้ฉันลุกขึ้นมาทำอาหารเช้าให้เธอกินแทน ครอบครัวของเธอต้องการแค่ผลประโยชน์ และไม่ได้ลงมือช่วยอะไรเลย"เมื่อได้ยินแบบนี้ ไห่หลิงโกรธจนควันออกหู "คุณปฏิบัติกับน้องสาวของฉันเหมือนเป็นพี่เลี้ยงเด็กฟรีๆ คุณจำได้ไหมว่า ทำไมพวกเราถึงทะเลาะกันเมื่อก่อนตรุษจีนร คุณบอกว่าน้องฉันอาศัยอยู่ในบ้านคุณและกินๆ นอนๆ แต่ละเดือนก็จ่ายเงินให้อีก เดือนละหมื่นกว่าสำหรับค่าอาหาร""ตอนนี้ไม่มีใครทำงานเป็นพี่เลี้ยงเด็กฟรีใๆ ห้ครอบครัวของคุณแล้ว คุณเลยบอกว่าน้องฉันดีมากงั้นเหรอ? โจวหงหลินขอบอกเลยนะ ถ้าไม่ใช่เพราะฉัน ถงถงคงย้ายออกไปนานแล้ว และคิดว่าเธอเต็มใจเป็นพี่เลี้ยงเด็กฟรีๆ งั้นเหรอ? เธอเต็มใจทำให้เพราะฉันเป็นพี่เธอ""และฉันเป็นพี่สาวที่ไม่ได้เรื่อง ล้มเหลวในการปกป้องเธอ ให้คุณรังแกเธอ โยนควา
หลู่ตงหมิงเดินผ่านหลังเลิกงาน และบังเอิญเห็นโจวหงหลินเดินออกมาจากร้านพร้อมกับอุ้มหยางหยางเอาไว้ เขาคิดว่าไอ้คนหน้าด้านมาที่นี่เพื่อจับตัวหยางหยางไป จึงรีบจอดรถแที่ทางเข้าร้านกินได้ไม่อั้น"หยางหยาง"ลู่ตงหมิงจอดรถ ลงจากรถอย่างรวดเร็ว และก้าวเดินไปข้างหน้า ก่อนที่โจวหงหลินจะได้ทันตั้งตัว ลูกชายของเขาที่อยู่ในอ้อมแขนก็ถูกลู่ตงหมิงพรากตัวไปหลังจากคว้าตัวหยางหยางมาแล้ว ลู่ตงหมิงก็เตะไปที่โจวหงหลิน จนล้มลงไป ก่อนจะผลักเขาให้ถอยหลังไปสองสามก้าว ก่อนจะร่วงลงไปจากฟุตบาทโจวหงหลินมองลู่ตงหมิงอย่างประหลาดใจไอ้คนแซ่ลู่เป็นบ้าอะไร?แย่งลูกเขาไป แถมเตะเขาอีก"ไสหัวไปซะ ถ้ากล้ามาแย่งตัวหยางหยางและรังแกไห่หลิงอีก ฉันจะหักขาแกออกเองWโจวหงหลิน "...""พ่อ"หยางหยางตะโกนพ่อของเขา และดิ้น เพื่อให้ปล่อยเขาโจวหงหลินลุกขึ้นและอธิบายว่า "ประธานลู่ คุณเข้าใจผิดแล้ว ฉันไม่ได้มาแย่งตัวหยางหยาง และไม่ได้รังแกไห่หลิงด้วย ฉันแค่มาหาหยางหยาง ซึ่งหยางหยางบอกว่า เขาอยากไปเล่นที่สวนสาธารณะเล็กๆ ดังนั้นฉันจึงเลยจะพาเขาไปที่นั่น"ลู่ตงหมิงจ้องอย่างว่างเปล่า ชัดเจนว่าเขาไม่เชื่อลู่ตงหมิงอุ้มหยางหยางเข้าไ
หยางหยางมองพ่อ แล้วพูดว่า “นั่นลุงลู่ ลุงลู่ไม่เคยรังแกแม่”โจวหงหลิน".....ลูกชอบลุงลุ่เหรอ?"หยางหยางส่ายหัว "ผมไม่ชอบลุงลู่ แต่เขาไม่ใช่คนใจร้าย"ลุงลู่เป็นคนดี ไม่ว่าเขาจะชอบลุงลู่หรือไม่"หยาง ลุงลู่กำลังพยายามขโมยแม่ลูกไปจากลูก เขาจะกลายเป็นคนเลวในอนาคต สิ่งที่ลูกต้องทำคือป้องกันไม่ให้ลุงลู่อยู่กับแม่ลูกตามลำพัง ตราบใดที่แม่ลูกอยากไปเดทกับลุงลู่ ลูกจะต้องร้องไห้และทำเรื่องไม่ดี ลูกเข้าใจไหม?ไหยางหยางเรียนรู้การขมวดคิ้วมาจากน้าชาย เมื่อเขาโกรธและเน้นเสียงดังว่า "ลุงลู่ชอบหยางหยาง เขาต้องการแย่งหยางหยางมาจากแม่ ไม่ใช่แย่งแม่ไปจากหยางหยาง! ลุงลู่มีหน้าตาน่ากลัว หยางหยางไม่ชอบเขา แต่ลุงลู่ไม่ใช่คนใจร้าน!""แม่ไม่เคยไปเที่ยวกับลุงลู่เลย ทุกครั้งที่ลุงลู่มาบ้าน เขาก็เอากังหันลมมาให้หยางหยาง แต่หยางหยางไม่ชอบกังหันแล้ว"ลุงลู่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะต้องเปลี่ยนเป็อะไรแทนโจวหงหลิน "..."เขาหยุดเท้า และมองลูกชายตอนที่หย่ากัน คำพูดของหยางหยางยังไม่ค่อยคล่องแคล้วนัก แม้จะผ่านมาเพียงไม่กี่เดือน แต่หยางหยางไม่เพียงแค่พูดคล่องแคล้วเท่านั้น แต่ยังพูดได้ชัดถ้อยชัดคำอีก ลูกชายของเขาฉลาดมาก!
เธอก็ไม่เสียใจลู่ตงหมิงขมวดคิ้ว "ทำไมเขาถึงมาที่ร้านของคุณตลอด ไอ้เห็บหมานั้นกล้าปฏิบัติกับคุณแบบนั้นเมื่อก่อนอีก ฉันอยากจะทุบเรียกสติเขาเอง เพื่อระบายความโกรแทนคุณ""เขาต้องการใช้หยางหยาง เพื่อคลายความสัมพันธ์ที่ตึงเครียดระหว่างฉันกับพวกเขา"หลังจากคิดทบวนอยู่ครู่หนึ่ง ลู่ตงหมิงก็พูดว่า "อยากให้จ่านหยินปล่อยพวกเขาไปงั้นเหรอ? ไม่มีทาง ให้พวกเขาตกงานไปแบบนั้นนั่นแหละ หลังจากใช้เงินเก็บทั้งหมดแล้ว มารอดูกันว่า ทั้งคู่จะยังรักและเอาใจใส่กันต่อไปได้หรือไม่?"คู่รักที่กักก้อนเกลือกินนั้น ลดลงอย่างต่อเนื่อง และช่วงเวลาที่ยากลำบากของโจวหงหลินกับเย่เจียนีกำลังงรออยู่ข้างหน้า"ตอนนี้ร้านของคุณอยู่ที่นี่ คุณไม่สามารถย้ายหนีได้ ก็ปล่อยให้พวกเขาดูธุรกิจของคุณเติบโตทีละขั้น ในอนาคต หากคุณสามารถเปิดโรงแรมขนาดใหญ่ กลายเป็นผู้หญิงที่มีอำนาจและมีรวยนับพันล้านแล้ว พวกเขาจะโกรธจนความดันขึ้นแน่"ไห่หลิงยิ้ม "ในอนาคตฉันก็อยากจะเปิดโรงแรมใหญ่ๆ ที่มีมูลค่าสุทธินับหลายพันล้านเหมือนกัน แต่สำหรับตอนนี้มาดูกันว่าร้านนี้จะเป็นอย่างไร เป้าหมายแรกของฉันคือการได้ทุนคืน""เป้าหมายที่สองคือ เปิดร้านสาขา"เป้า
ลู่ตงหมิงรู้ว่าไห่หลิงไม่จำเป็นต้องใช้เครือข่ายของเขา เพราะมีทั้งตระกูลซางและตระกูลจ้านคอยช่วยเหลือเธออยู่หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง เขาก็พูดว่า "ถ้าคุณยุ่งอยู่ ฉันจะกลับไปก่อนนะ เพื่อที่แม่จะไม่ต้องโทรมาเร่งฉัน""โอเค ประธานลู่เดินทางปลอดภัยค่ะ"ไห่หลิงมาส่งลู่ตงหมิงออกจากร้านลู่ตงหมิงมองไปที่รถของโจวหงหลิน และถามไห่หลิงว่า “นั่นรถของอดีตสามีของคุณใช่ไหม?”"ฉันเห็นเขาลงจากรถคันนั้น น่าจะเป็นรถใหม่ของเขา"ภรรยาก็เปลี่ยนใหม่ รถก็เปลี่ยนใหม่ด้วยถ้าไม่ใช่เพราะจ้านหยินหมายหัวโจวหงหลินเอาไว้ โจวหงหลินคงมีชีวิตที่สุขสบาย มีทั้งเงิน ภรรยาใหม่ และรถใหม่....ลู่ตงหมิงอยากจะเดินไปเจาะยางรถของโจวหงหลินจริงๆ เขาคิดว่าถ้าเจาะยางรถของโจวหงหลิน ก็จะต้องติดอยู่ที่ร้านของไห่หลิงและทานอาหารเย็นที่นี่อีกด้วย สุดท้ายลู่ตงหมิงไม่ได้ทำเช่นนั้น"หากในอนาคตครอบครัวของพวกเขามารังแกคุณอีก บริษัทของฉันอยู่ใกล้แค่นี้ โทรมาหาฉันเลยนะ แล้วฉันจะส่งคนมาจัดการให้ เจ้าของร้านใกล้ๆ ร้านคุณทั้งหมด เป็นร้านของฉัน และฉันเองก็พยายามปกป้องผู้เช่าของฉันด้วย"ลู่ตงหมิงพูดออกมาตรงๆ เหมือนกับว่าเขาไม่มีเจตนาแอบแฝงใดๆ แ
"เมื่อหยินหยินต้องการความช่วยเหลือเรื่องธุรกิจ ลูกก็สามารถช่วยเธอได้ คุณป้าฟางกับฉันเป็นเพื่อนเก่าแก่กันมาหลายปีแล้ว ถึงแม้ว่าเราจะไม่ได้เจอกันนานเป็นสิบหรือยี่สิบปี แต่พวกเราก็ไม่เคยขาดการติดต่อเลย"ความตั้งใจของคุณนายลู่ที่จะจับคู่ลู่ตงหมิงกับหยูหยินหยินนั้นชัดเจนมากหยูหยินหยินมองไปที่ลู่ตงหมิงตรงๆ ในความเห็นของเธอ รอยแผลเป็นบนใบหน้าของลู่ตงหมิงน่ากลัวมา หากทำทำศัลยกรรม รอยแผลเป็นก็สามารถลบออกได้และหน้าตาของเขาก็จะกลับมาเหมือนเดิมถ้าไม่มองข้ามใบหน้าของเขาที่มีรอยแผลเป็นไป เขาก็เป็นผู้ชายที่หล่อมากตอนเป็นวัยรุ่น ใครบ้างที่ไม่เคยทำอะไรอย่างหุนหันพลันแล่นบ้าง?เธอเมื่อก่อนก็เคยมีรอยสักมาก่อน"คุณแม่ ตอนนี้ผมยุ่ง"ลู่ตงหมิงพูดอย่างธรรมดา "หากคุณหนูหยูมีประโยชน์รวมกับฉัน ฉันสามารถให้ความช่วยเหลือได้ แต่ฉันไม่มีเวลาพาคุณหนูหยูไปเดินเล่นจริงๆ""แม่อยู่บ้านเบื่อๆ ก็ไปเป็นเพื่อนคุณหนูหยูและพาเธอไปคุ้นเคยกับสถานที่"ขณะที่ลู่ตงหมิงพูด ก็มองไปที่หยูหยินหยินและขอโทษ “คุณหนูหยู ฉันยุ่งมากจริงๆ""วันนี้ไม่ใช่วันอาทิตย์เหรอ? ลูกยังต้องไปบริษัท?""จ้านหยินนัดไปกินปิ้งย่างที่บ้านเขา"ล
หยูหยินหยินพูดอย่างกระตือรืนล้น "ฉันสงสัยว่า ฉันจะมีโอกาสได้พบกับนายหญิงจ้านหรือไม่"เธอเคยได้ยินเรื่องของจ้านหยินมาบ้าง แต่ไม่เคยมีโอกาสได้พบจ้านหยินตัวเป็นๆ มาก่อนเลยผู้หญิงที่สามารถสร้างความประทับใจให้กับจ้านหยินได้นั้น หยูหยินหยินคิดว่า เป็นเพราะอีกฝ่ายต้องมีคุณสมบัติที่โดดเด่นอย่างแน่นอน ดังนั้น เธอสามารถเรียนรู้วิธีการเอาชนะใจผู้ชายจากนายหญิงจ้านได้หยูหยินหยินตอนนี้มีอายุ 28 ปีแล้ว และยังโสด เธอมีแฟนตั้งแต่ตอนอายุ 18 หรือ 19 ปี แต่ก็เลิกรากันไป ต่อมาเธอได้เข้าไปทำธุรกิจของครอบครัวและยุ่งกับงานมาก ซึ่งนั่น เป็นสาเหตุที่เธอไม่มีแฟนมาจนถึงตอนนี้คุณนายลู่ตั้งใจที่จับเธอกับลู่ตงหมิง และพ่อแม่ของทั้งคู่ก็เห็นด้วย ซึ่งหยูหยินหยินก็รู้เรื่องราวในอดีตของลู่ตงหมิงเช่นกัน และสามารถยอมรับเรื่องราวในอดีตของเขาได้เธอไม่สนใจรอยแผลเป็นบนใบหน้าของลู่ตงหมิง เธอรู้สึกว่าตราบใดที่เธอสามารถทำให้ลู่ตงหมิงตกหลุมรักได้ เธอจะให้เขาเข้ารับการศัลยกรรมตกแต่ง เพื่อลบรอยแผลเป็นและฟื้นคืนรูปลักษณ์ที่หล่อเหลาของเขาให้กลับมาได้อย่างแน่นอนหลังจากฟังคำพูดของหยูหยินหยินแล้ว คุณนายลู่ก็ยิ้มและพูดว่า "มีโอ
จ้านหยิน: "....ฉันบอกเมื่อไหร่ว่าจะกลับคฤหาสน์กินปิ้งย่างพรุ่งนี้"ถ้าอยากกินปิ้งย่างที่ไหนก็มี ทำไมต้องไปกินที่ตฤหาสน์ด้วย?"ฉันยังชอบกินปลาหมึก เนื้อแกะ กุ้ง อะไรก็ได้ที่นายย่าง ฉันชอบหมด"ลู่ตงหมิงดูเหมือนจะไม่ได้ยินคำพูดของจ้านหยิน และยังคงคุยเรื่องอาหารอยู่ฝ่ายเดียวจ้านยินวางสายทันทีหลังจากได้ยินชัดเต็มฟังสองหูอย่างไรก็ตาม คำพูดของลู่ตงหมิงทำให้เขามีเกิดไอเดีย พรุ่งนี้ยังเป็นวันอาทิตย์ และเขาไม่ต้องทำงาน ยังไม่ได้พาไห่ทงกลับไปที่คฤหาสน์ด้วย เหมือนอย่างที่ลู่ตงหมิงบอก จึงเชิญเพื่อนสามหรือห้าคนไปกินปิ้งย่าง และที่คฤหาสน์เองก็มีสถานที่สำหรับปิ้งย่างโดยเฉพาะและยังสามารถพาไห่ทงกลับไปพักผ่อนได้อีกสองสามวัน เพื่อให้เธอคุ้นเคยกับสภาพแวดล้อม และทิวทัศน์อันสวยงามของคฤหาสน์ ก็อาจช่วยให้ไห่ถงอารมณ์ดีขึ้นได้อีกด้วยเมื่อคิดเช่นนี้แล้ว จ้านหยินจึงส่งข้อความไปหาลู่ตงหมิง: เข้าใจแล้ว ไปบอกซูหนานด้วย และบอกเขาว่าถ้านายน้อยซูว่าง ก็สามารถเชิญนายน้อยซูมาด้วยได้ลู่ตงหมิงได้รับการตอบกลับจากเพื่อน และถอนหายใจด้วยความโล่งใจเกือบจะแย่แล้วแม้ว่า จ้านหยินจะไม่รับสาย เขาก็ยังจะไปหาจ้านหยินพร
"ฉันคิดว่าคุณนายลู่ถ่ายรูปคุณหนูหยูและแสดงให้พี่สาวดูโดยตั้งใจ เพื่อทดสอบว่าเธอมีความรู้สึกกับตงหมิงหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ผลก็คือเธอไม่มีความคิดนั้นอย่างแน่นอน เธอไม่เคยคิดอะไรกับตงหมิงเลย ตอนนี้เธอหมกมุ่นอยู่กับร้านอาหารเช้าและต้องการเพียงแค่ประกอบอาชีพและหาเงิน"จ้านหยินก็มองไห่หลิงออกเช่นกัน"ถ้าเธอมีความคิดอะไรกับตงหมิง คุณนายลู่คงจะไม่ยอมให้เธอเปิดร้านที่นั่นต่อไป"ไห่ถงเห็นด้วยกับสิ่งที่สามีของเธอพูดคุณนายลู่กำลังทดสอบพี่สาวของเธอ พี่สาวของเธอไม่รู้เรื่องอะไรเลย แต่ไม่เป็นไร เธอจะได้ไม่ได้รับผลกระทบ"ที่รัก คุณคิดว่าฉันควรบอกเรื่องพวกนี้กับพี่สาวของฉันไหม?""คุณนายลู่คงทำอะไรไม่ได้ แสดงให้เห็นว่าเธอเพียงสงสัยเช่นเดียวกับเรา แต่ไม่สามารถพิสูจน์ได้ คุณไม่จำเป็นต้องพูดอะไรกับพี่สาวของคุณ ฉันแค่ต้องคุยกับตงหมิงและบอกเขาว่าอย่าไปทานอาหารเช้าที่บ้านพี่สาวของเราในอนาคต"จ้านหยินบ่นให้เพื่อนๆ ฟังว่าครอบครัวของเขาไม่ได้เตรียมอาหารเช้าไว้ ลู่ตงหมิงต้องรีบไปร้านกินได้ไม่อั้นแต่เช้าเพื่อทานอาหารเช้าในวันหยุดสุดสัปดาห์ใช่ไหม"ตกลง"หลังจากจ้านหยินกินและดื่มจนอิ่มแล้ว ไห่ถงก็ยิ้มและถา
ไห่ถงรู้สึกโชคดีอีกครั้ง เธอได้แต่งงานกับผู้ชายที่แม้จะแสดงอาการงอแงเล็กน้อยเป็นครั้งคราว แต่เขาก็ปฏิบัติต่อเธอเป็นอย่างดี เขาไม่เคยใช้ความรุนแรงในครอบครัวกับเธอ และเขาไม่ต้องกังวลว่าเขาจะนอกใจด้วยกุญแจสำคัญอยู่ที่การเลี้ยงดูของเขา บ้านสามีที่่ใจกว้างและมีเมตตาอย่างแม่สามีตระกูลจ้าน เป็นสิ่งที่หาได้ยากในตระกูลที่ร่ำรวยเมื่อคิดย้อนกลับไปเมื่อคุณยายจ้านบอกกับเธอว่าเธอช่วยชีวิตอีกฝ่ายไว้และจะไม่แนะนำหลานชายที่ไม่ดีให้เธอรู้จักที่จริงแล้ว หลานชายทุกคนในครอบครัวของหญิงชราอย่างเธอนั้นนั้นดีมากจ้านหยินเป็นหลานชายคนโต และหญิงชราก็เลือกที่จะจับคู่เธอกับหลานชายที่ดีที่สุด"คุณนายลู่ได้ช่วยประธานลู่หาภรรยาที่เหมาะสมแล้ว เธอคือคุณหนูหยูหยินหยิน ทั้งสาว สวย และดูเฉลียวฉลาดและมีความสามารถ เห็นได้ชัดว่าเธอเป็นคนที่อยู่ในแวดวงชั้นสูงมายาวนาน ความมั่นใจและรัศมีแห่งความสง่างามที่แผ่ออกมาจากทุกการเคลื่อนไหว ท่าทางของเธอบ่งบอกว่าเธอมาจากภูมิหลังที่ร่ำรวยหรือสูงศักดิ์ นั่นสามารถทำให้คุณนายลู่ชอบเธอได้โดยไม่ต้องลำบากอะไร""ฉันรู้"จ้านหยินพูดขณะกิน "เป็นเพราะคุณนายลู่เลือกภรรยาที่เหมาะสมกับตงหมิง
"ไม่ต้องพูดถึงว่าเราทุกคนต่างก็มีสิ่งที่ต้องทำ แม้ว่าในอนาคตเราจะเกษียณ เราก็ไม่สามารถรับประกันได้ว่าเราจะตื่นขึ้นทุกวันและพบกันเมื่อเราลืมตาขึ้น"มีคนตื่นก่อนเสมอ และมีคนตื่นทีหลังเสมอจ้านหยินรู้ว่าเขาสร้างปัญหาโดยไม่มีเหตุผล"ป้าเหลียงบอกว่าคุณยังไม่ได้กินข้าว คุณหิวไหม ออกไปกินข้าวกันเถอะ ฉันจะอยู่กับคุณ"ไห่ถงรู้ว่าการยืดเวลาการสนทนาออกไปอาจทำให้เกิดความตึงเครียดระหว่างพวกเขามากขึ้นหลีกเลี่ยงการทะเลาะเบาะแว้ง เพราะอาจทำให้ทั้งคู่โกรธกันได้"อืม"จ้านหยินพยักหน้าแล้วปล่อยภรรยาที่รักของเขาจากอ้อมแขนไห่ถงดึงเขาออกมาป้าเหลียงเตรียมอาหารเช้าของจ้านหยินไว้บนโต๊ะอาหารแล้วนายน้อยชอบทำตัวจุกจิกจู้จี้ แต่ต่อหน้านายหญิง เขามักจะต้องก้มหัวและประนีประนอมอยู่เสมอป้าเหลียงไม่กังวลเลยว่าอาหารเช้าที่เธอทำจะเสียเปล่า"ทำไมคุณไม่พาหยางหยางมาล่ะ?"จ้านหยินทานอาหารเช้ากับภรรยา และอารมณ์ของเขาก็ดีขึ้น เขาเลิกทำหน้าเย็นชาและถามถึงเจ้าตัวน้อย"พี่สาวของฉันบอกว่าวันนี้เธอจะปิดร้านเร็วและปล่อยให้หยางหยางเล่นในร้าน เธอจะพาหยางหยางกลับบ้านเร็วๆ นี้ จ้าน...ที่รัก พาหยางหยางมาอยู่ที่นี่กันเถ
"เมื่อไหร่คุณยายจะกลับมา? ฉันคิดถึงเธอมาก"ไห่ถงคิดถึงวันที่คุณยายจ้านเคยอยู่ที่นี่มากป้าเหลียงพูด: "เมื่อฉันรู้ตัวว่าต้องเตือนนายหญิง มันก็สายเกินไปเสียแล้ว คุณผลักประตูเปิดและเดินเข้าไปแล้ว"ไห่ถงถอนหายใจอีกครั้งและพูดว่า "ฉันจะไปล้างมือ"เธอล้างมือสองครั้งด้วยสบู่และกลับไปที่ห้องที่เธอเคยอยู่ เธอหยิบชุดเสื้อผ้าที่สะอาดจากตู้เสื้อผ้า เปลี่ยนชุด แล้วกลับไปที่ห้องนอนใหญ่"ที่รัก ฉันล้างมือและฆ่าเชื้อสองครั้ง ฉันยังเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีขนแมวติดตัวของฉัน"ไห่ถงเดินไปข้างหลังจ้านหยิน และขณะที่เธอพูด เธอก็เอื้อมมือไปโอบรอบเอวของเขา"ที่รัก ฉันขอโทษ ฉันลืมไปจริงๆ ว่าฉันกำลังอุ้มแมวอยู่เมื่อกี้ จริงๆ แล้วพวกมันน่ารักมาก คุณให้ฉันเลี้ยงพวกมัน และพวกมันก็มีค่าสำหรับฉันทั้งหมด คุณพูดว่า ถ้าฉันให้หญ้าคุณหนึ่งกำมือ คุณจะถือว่ามันเป็นสมบัติ ในทำนองเดียวกัน ไม่ว่าคุณจะให้อะไรกับฉัน ฉันก็จะรักมันมาก"จ้านหยินไม่หันหลังกลับและปล่อยให้เธอโอบเอวของเขาเขากล่าว: "ฉันตื่นมาแล้วไม่เห็นคุณ ฉันถามป้าเหลียงแล้วเธอก็บอกว่าคุณออกไปแต่เช้า ฉันรู้สึกเหมือนถูกคุณทิ้งเอาไว้ข้างหลัง เมื่อคุ
ไห่ถงก้มตัวลงและอุ้มแมวขึ้นมา"นายหญิง คุณไปง้อนายน้อยก่อนเถอะ นายน้อยเพิ่งตื่นและยังไม่ได้กินข้าว"ป้าเหลียงรู้สึกไร้เรี่ยวแรงเมื่อจู่ๆ นายน้อยของเธอกลายเป็นคนคิดเล็กคิดน้อยถ้าเธอไม่มาทำงาน เธอคงไม่รู้ว่านายน้อยจะมีด้านที่คิดเล็กคิดน้อยเช่นนี้ไห่ถงลูบแมวแล้วถามป้าเหลียง: "ป้าเหลียง คุณต้องบอกฉันว่าทำไมเขาถึงโกรธ ฉันถึงจะง้อได้ ฉันยังไม่ได้ทำอะไรเลย"ป้าเหลียงกระซิบ: "ฉันเดาว่านายน้อยคงโกรธที่คุณออกไปข้างนอกแต่เช้าในวันหยุดสุดสัปดาห์ นายน้อยพักผ่อนที่บ้านและหวังว่านายหญิงจะอยู่กับเขา"ไห่ถง: "... ฉันแค่ไปช่วยงานพี่สาวของฉัน แม้ว่าจะเป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ แต่โรงงานหลายแห่งไม่มีวันหยุดและยังต้องทำงาน ดังนั้นร้านอาหารเช้าของน้องสาวฉันจึงยังคงยุ่งมาก ฉันออกไปเร็วแต่ก็กลับมาเร็วเช่นกัน ฉันยังกลับมาก่อน 10 โมง"เธอไม่เคยคิดว่าจ้านหยินจะกลายเป็นคนใจแคบเพราะเรื่องเล็กน้อยเช่นนี้ป้าเหลียงก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรเหมือนกัน"ฉันจะเข้าไปง้อเขา"ไห่ถงซึ่งรู้ดีว่าสามีของเธอเป็นคนแบบไหน เดินเข้าไปในห้องอย่างช่วยไม่ได้พร้อมกับแมวของเธอในอ้อมแขนหลังจากที่เธอผลักประตูเปิดและเข้าไป ป้าเหลียงก็จำ
ขณะที่ยุ่งอยู่ตรงนี้ จ้านหยินก็ตื่นขึ้นตามปกติ ก่อนที่เขาจะลืมตา เขาหันข้างและเหยียดแขนยาวของเขาออกไปเพื่อกอดภรรยาที่รักของเขา แต่สุดท้ายก็คว้าลมนั่นคือตอนที่เขาลืมตาขึ้นแน่ล่ะ ไห่ถงไม่อยู่ในห้องอีกต่อไปเมื่อมองดูท้องฟ้าภายนอก พระอาทิตย์กำลังขึ้นสูงจ้านหยินหันกลับมาและหยิบโทรศัพท์จากโต๊ะข้างเตียงเพื่อดูเวลา"ตอนนี้เก้าโมงแล้ว!"จู่ๆ เขาก็ลุกขึ้นนั่งแม้กระทั่งในวันหยุดสุดสัปดาห์ เขาก็ไม่เคยเข้าตื่นสายขนาดนี้มาก่อนบางทีอาจเป็นเพราะว่าเขากลับบ้านดึกเมื่อคืนก่อนเขารีบอาบน้ำและเปลี่ยนเป็นเสื้อผ้าลำลอง โดยตั้งใจเลือกชุดที่ไห่ถงซื้อมาให้เขาเมื่อเขาเปิดประตู เขาก็เห็นป้าเหลียงกำลังนั่งอยู่บนโซฟา อุ้มแมวตัวหนึ่งไว้และดูทีวี เมื่อได้ยินเสียงประตูเปิด เธอจึงหันไปมองเขา จากนั้นก็ลุกขึ้นยืนพร้อมรอยยิ้ม “นายน้อย คุณตื่นแล้ว คุณอยากกินอาหารเช้าไหม?”"ตอนนี้เก้าโมงกว่าแล้ว"จ้านหยินบ่นพึมพำขณะเดินออกไป“ถึงจะเก้าโมงกว่าแล้ว ก็ยังควรกินอะไรนะ นายหญิงได้สั่งเราไว้ก่อนที่เธอจะออกไป ให้เตือนนายน้อยว่าควรกินอาหารเช้าเมื่อเขาตื่นนอน”"นายหญิงของคุณอยู่ที่ไหน? เธอตื่นและออกไปข้างนอกตั้ง
หยูหยินหยินก็ไม่ได้โกรธเช่นกันเธอและลู่ตงหมิงรู้จักกันมาเป็นเวลานานแล้ว แต่พวกเขาแทบจะไม่ได้พูดคุยกันเลย ดังนั้นจึงอาจกล่าวได้ว่าพวกเขาไม่ได้รู้จักกันดีนักเขาไม่รู้เกี่ยวกับอดีตของเธอ ก็ถือเป็นเรื่องปกติ"คุณหนูหยู นี่อาหารเช้าของคุณ"หลังจากไห่หลิงทำอาหารเช้าให้หยูหยินหยินแล้ว เธอก็เอามาวางไว้ตรงหน้าเธอ ด้วยรอยยิ้ม เธอกล่าวกับหยูหยินหยินว่า "คุณหนูหยู ทานให้อร่อยนะคะ"หยูหยินหยินตอบด้วยรอยยิ้มไห่หลิงกลับไปที่นั่งและนั่งลง"พี่ คุณเจอเธอเมื่อไหร่?"ไห่ถงกระซิบกับพี่สาวของเธอ"คุณนายลู่แวะมาวันก่อนและเข้ามานั่งคุยกับฉัน ขณะที่คุยกับฉัน เธอบอกฉันว่าเธอต้องการจับคู่คุณหนูหยูกับประธานลู่ และแสดงรูปถ่ายของคุณหนูหยูให้ฉันดู ฉันก็เลยจำเธอได้"ไห่หลิงตอบน้องสาวของเธอด้วยเสียงต่ำและกระซิบ: "เห็นไหม พวกเขาเข้ากันได้อย่างสมบูรณ์แบบ คุณหนูหยูก็ให้ความรู้สึกสบายใจมากเช่นกัน โดยไม่มีความรู้สึกห่างเหินแบบทายาทเศรษฐี"ไห่ถงมองน้องสาวอย่างละเอียด จากนั้นก้มหัวลงเพื่อกินบะหมี่และกระซิบว่า "เข้ากันได้ดีทีเดียว"ป้าเคยพูดว่าคุณนายลู่เข้ากับคนยากมากจ้านหยินก็พูดเช่นกันเนื่องจากคุณนายลู่ม
เขาไม่มีอะไรจะคุยกับไห่ถงมากนักและด้วยไห่ถงที่อยู่ที่นี่ ลู่ตงหมิงและไห่หลิงก็ไม่ได้พูดอะไรมากนักลูกค้าก็เริ่มทยอยเข้ามาเพื่อกินเกี๊ยวนึ่ง ผู้ช่วยร้านเป็นคนจัดการรับออเดอร์ พนักงานจะเสิร์ฟอาหารเช้าให้พวกเขาแทนไห่หลิงซึ่งเป็นเถ้าแก่เนี้ยเองเธอสามารถนั่งลงในที่เดิมและกินบะหมี่ต่อไปได้"พี่ลู่"คำว่าพี่ลู่นั้น ทำให้ลู่ตงหมิงหมดความอยากอาหารทันทีพี่น้องไห่มองไปที่หญิงสาวสวยที่เปิดประตูกระจกและเดินเข้ามา ไห่ถงไม่เคยรู้จักหยูหยินหยิน แต่ไห่หลิงเคยเห็นภาพของหยูหยินหยิน เมื่อมองไปหยูหยินหยินที่เข้ามา เธอคิดว่าหยูหยินหยินสวยกว่าในรูปเข้ากันได้ดีกับลู่ตงหมิง"คุณหนูหยู คุณอยากทานอาหารเช้าไหม?"ไห่หลิงวางตะเกียบลงและยืนขึ้นอีกครั้งเพื่อต้อนรับแขกสายตาของหยูหยินหยินละสายตาจากลู่ตงหมิงและจ้องมองไปที่ไห่หลิง เธอเคยเห็นไห่หลิงหลายครั้งจากไกลๆ แต่เป็นครั้งแรกที่เธอได้เห็นหน้าอีกฝ่ายกับตาตัวเอง เมื่อมองดูไห่หลิงอย่างดีๆแล้ว หยูหยินหยินรู้สึกว่าไห่หลิงเป็นหญิงสาวที่สวยมาก“ฉันได้ยินมาว่าอาหารเช้าที่นี่อร่อยมาก ฉันจะทานเหมือนกับพี่ลู่ ขอบคุณ”หยูหยินหยินเดินไปที่โต๊ะของลู่ตงหมิง วางกระเ
"ตกลง"น้องของเธออยากกินบะหมี่เครื่องในหมู ไห่หลิงยังต้มบะหมี่เครื่องในหมูสองชามด้วย เธอไม่ชอบผักชี ดังนั้นจึงมีแต่ชามน้องของเธอเท่านั้นที่ใส่ผักชีในชามของเธอ"บะหมี่เสร็จแล้ว"ไห่หลิงเรียกน้อฃให้มาเอาบะหมี่ที่ปรุงแล้วไห่ถงหยุดงาน ล้างมือ แล้วเดินไปหยิบชามบะหมี่ของเธอสองพี่น้องนั่งลงที่โต๊ะ ไห่ถงหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาอย่างเป็นนิสัยและเตรียมกินบะหมี่ไปพร้อมกับอ่านข่าวไปด้วย"เวลากิน อย่ามัวแต่ดูโทรศัพท์ข เก็บโทรศัพท์ของเธอลงไป"ไห่หลิงไม่ยอมให้เธอกินในขณะที่เล่นโทรศัพท์ของเธอแบบนี้"ฉันแค่จะดูมันเฉยๆ"ไห่ถงพูด แต่ก็เก็บโทรศัพท์ของเธอกลับเข้าไปในกระเป๋าอย่างเชื่อฟัง"ต่อไปนี้ กินข้าวอยู่ห้ามเล่นโทรศัพท์ไปด้วย""เข้าใจแล้ว"ต่อหน้าพี่สาวของเธอ ไห่ถงไม่กล้าที่จะดื้อรั้น นอกจากนี้ การใช้โทรศัพท์ขณะกินอาหารก็เป็นนิสัยที่ไม่ดีจริงๆ“พี่ คืนนี้พี่จะไม่ไปงานเลี้ยงกับฉันจริงๆ เหรอ”"ไม่ไป""พี่ ฉันคิดว่าคุณควรออกไปเปิดโลกบ้าง"ไห่หลิงค่อยๆ กินบะหมี่ที่เพิ่งปรุงเสร็จและร้อนมาก"ฉันไม่จำเป็นต้องไปดูโลกแล้ว ฉันยังไปไม่ถึงระดับนั้น เธอแตกต่าง เธอเป็นนายหญิงคนโตของตระกูลจ้าน เธอต้