เธอก็ไม่เสียใจลู่ตงหมิงขมวดคิ้ว "ทำไมเขาถึงมาที่ร้านของคุณตลอด ไอ้เห็บหมานั้นกล้าปฏิบัติกับคุณแบบนั้นเมื่อก่อนอีก ฉันอยากจะทุบเรียกสติเขาเอง เพื่อระบายความโกรแทนคุณ""เขาต้องการใช้หยางหยาง เพื่อคลายความสัมพันธ์ที่ตึงเครียดระหว่างฉันกับพวกเขา"หลังจากคิดทบวนอยู่ครู่หนึ่ง ลู่ตงหมิงก็พูดว่า "อยากให้จ่านหยินปล่อยพวกเขาไปงั้นเหรอ? ไม่มีทาง ให้พวกเขาตกงานไปแบบนั้นนั่นแหละ หลังจากใช้เงินเก็บทั้งหมดแล้ว มารอดูกันว่า ทั้งคู่จะยังรักและเอาใจใส่กันต่อไปได้หรือไม่?"คู่รักที่กักก้อนเกลือกินนั้น ลดลงอย่างต่อเนื่อง และช่วงเวลาที่ยากลำบากของโจวหงหลินกับเย่เจียนีกำลังงรออยู่ข้างหน้า"ตอนนี้ร้านของคุณอยู่ที่นี่ คุณไม่สามารถย้ายหนีได้ ก็ปล่อยให้พวกเขาดูธุรกิจของคุณเติบโตทีละขั้น ในอนาคต หากคุณสามารถเปิดโรงแรมขนาดใหญ่ กลายเป็นผู้หญิงที่มีอำนาจและมีรวยนับพันล้านแล้ว พวกเขาจะโกรธจนความดันขึ้นแน่"ไห่หลิงยิ้ม "ในอนาคตฉันก็อยากจะเปิดโรงแรมใหญ่ๆ ที่มีมูลค่าสุทธินับหลายพันล้านเหมือนกัน แต่สำหรับตอนนี้มาดูกันว่าร้านนี้จะเป็นอย่างไร เป้าหมายแรกของฉันคือการได้ทุนคืน""เป้าหมายที่สองคือ เปิดร้านสาขา"เป้า
ลู่ตงหมิงรู้ว่าไห่หลิงไม่จำเป็นต้องใช้เครือข่ายของเขา เพราะมีทั้งตระกูลซางและตระกูลจ้านคอยช่วยเหลือเธออยู่หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง เขาก็พูดว่า "ถ้าคุณยุ่งอยู่ ฉันจะกลับไปก่อนนะ เพื่อที่แม่จะไม่ต้องโทรมาเร่งฉัน""โอเค ประธานลู่เดินทางปลอดภัยค่ะ"ไห่หลิงมาส่งลู่ตงหมิงออกจากร้านลู่ตงหมิงมองไปที่รถของโจวหงหลิน และถามไห่หลิงว่า “นั่นรถของอดีตสามีของคุณใช่ไหม?”"ฉันเห็นเขาลงจากรถคันนั้น น่าจะเป็นรถใหม่ของเขา"ภรรยาก็เปลี่ยนใหม่ รถก็เปลี่ยนใหม่ด้วยถ้าไม่ใช่เพราะจ้านหยินหมายหัวโจวหงหลินเอาไว้ โจวหงหลินคงมีชีวิตที่สุขสบาย มีทั้งเงิน ภรรยาใหม่ และรถใหม่....ลู่ตงหมิงอยากจะเดินไปเจาะยางรถของโจวหงหลินจริงๆ เขาคิดว่าถ้าเจาะยางรถของโจวหงหลิน ก็จะต้องติดอยู่ที่ร้านของไห่หลิงและทานอาหารเย็นที่นี่อีกด้วย สุดท้ายลู่ตงหมิงไม่ได้ทำเช่นนั้น"หากในอนาคตครอบครัวของพวกเขามารังแกคุณอีก บริษัทของฉันอยู่ใกล้แค่นี้ โทรมาหาฉันเลยนะ แล้วฉันจะส่งคนมาจัดการให้ เจ้าของร้านใกล้ๆ ร้านคุณทั้งหมด เป็นร้านของฉัน และฉันเองก็พยายามปกป้องผู้เช่าของฉันด้วย"ลู่ตงหมิงพูดออกมาตรงๆ เหมือนกับว่าเขาไม่มีเจตนาแอบแฝงใดๆ แ
"เมื่อหยินหยินต้องการความช่วยเหลือเรื่องธุรกิจ ลูกก็สามารถช่วยเธอได้ คุณป้าฟางกับฉันเป็นเพื่อนเก่าแก่กันมาหลายปีแล้ว ถึงแม้ว่าเราจะไม่ได้เจอกันนานเป็นสิบหรือยี่สิบปี แต่พวกเราก็ไม่เคยขาดการติดต่อเลย"ความตั้งใจของคุณนายลู่ที่จะจับคู่ลู่ตงหมิงกับหยูหยินหยินนั้นชัดเจนมากหยูหยินหยินมองไปที่ลู่ตงหมิงตรงๆ ในความเห็นของเธอ รอยแผลเป็นบนใบหน้าของลู่ตงหมิงน่ากลัวมา หากทำทำศัลยกรรม รอยแผลเป็นก็สามารถลบออกได้และหน้าตาของเขาก็จะกลับมาเหมือนเดิมถ้าไม่มองข้ามใบหน้าของเขาที่มีรอยแผลเป็นไป เขาก็เป็นผู้ชายที่หล่อมากตอนเป็นวัยรุ่น ใครบ้างที่ไม่เคยทำอะไรอย่างหุนหันพลันแล่นบ้าง?เธอเมื่อก่อนก็เคยมีรอยสักมาก่อน"คุณแม่ ตอนนี้ผมยุ่ง"ลู่ตงหมิงพูดอย่างธรรมดา "หากคุณหนูหยูมีประโยชน์รวมกับฉัน ฉันสามารถให้ความช่วยเหลือได้ แต่ฉันไม่มีเวลาพาคุณหนูหยูไปเดินเล่นจริงๆ""แม่อยู่บ้านเบื่อๆ ก็ไปเป็นเพื่อนคุณหนูหยูและพาเธอไปคุ้นเคยกับสถานที่"ขณะที่ลู่ตงหมิงพูด ก็มองไปที่หยูหยินหยินและขอโทษ “คุณหนูหยู ฉันยุ่งมากจริงๆ""วันนี้ไม่ใช่วันอาทิตย์เหรอ? ลูกยังต้องไปบริษัท?""จ้านหยินนัดไปกินปิ้งย่างที่บ้านเขา"ล
หยูหยินหยินพูดอย่างกระตือรืนล้น "ฉันสงสัยว่า ฉันจะมีโอกาสได้พบกับนายหญิงจ้านหรือไม่"เธอเคยได้ยินเรื่องของจ้านหยินมาบ้าง แต่ไม่เคยมีโอกาสได้พบจ้านหยินตัวเป็นๆ มาก่อนเลยผู้หญิงที่สามารถสร้างความประทับใจให้กับจ้านหยินได้นั้น หยูหยินหยินคิดว่า เป็นเพราะอีกฝ่ายต้องมีคุณสมบัติที่โดดเด่นอย่างแน่นอน ดังนั้น เธอสามารถเรียนรู้วิธีการเอาชนะใจผู้ชายจากนายหญิงจ้านได้หยูหยินหยินตอนนี้มีอายุ 28 ปีแล้ว และยังโสด เธอมีแฟนตั้งแต่ตอนอายุ 18 หรือ 19 ปี แต่ก็เลิกรากันไป ต่อมาเธอได้เข้าไปทำธุรกิจของครอบครัวและยุ่งกับงานมาก ซึ่งนั่น เป็นสาเหตุที่เธอไม่มีแฟนมาจนถึงตอนนี้คุณนายลู่ตั้งใจที่จับเธอกับลู่ตงหมิง และพ่อแม่ของทั้งคู่ก็เห็นด้วย ซึ่งหยูหยินหยินก็รู้เรื่องราวในอดีตของลู่ตงหมิงเช่นกัน และสามารถยอมรับเรื่องราวในอดีตของเขาได้เธอไม่สนใจรอยแผลเป็นบนใบหน้าของลู่ตงหมิง เธอรู้สึกว่าตราบใดที่เธอสามารถทำให้ลู่ตงหมิงตกหลุมรักได้ เธอจะให้เขาเข้ารับการศัลยกรรมตกแต่ง เพื่อลบรอยแผลเป็นและฟื้นคืนรูปลักษณ์ที่หล่อเหลาของเขาให้กลับมาได้อย่างแน่นอนหลังจากฟังคำพูดของหยูหยินหยินแล้ว คุณนายลู่ก็ยิ้มและพูดว่า "มีโอ
จ้านหยิน: "....ฉันบอกเมื่อไหร่ว่าจะกลับคฤหาสน์กินปิ้งย่างพรุ่งนี้"ถ้าอยากกินปิ้งย่างที่ไหนก็มี ทำไมต้องไปกินที่ตฤหาสน์ด้วย?"ฉันยังชอบกินปลาหมึก เนื้อแกะ กุ้ง อะไรก็ได้ที่นายย่าง ฉันชอบหมด"ลู่ตงหมิงดูเหมือนจะไม่ได้ยินคำพูดของจ้านหยิน และยังคงคุยเรื่องอาหารอยู่ฝ่ายเดียวจ้านยินวางสายทันทีหลังจากได้ยินชัดเต็มฟังสองหูอย่างไรก็ตาม คำพูดของลู่ตงหมิงทำให้เขามีเกิดไอเดีย พรุ่งนี้ยังเป็นวันอาทิตย์ และเขาไม่ต้องทำงาน ยังไม่ได้พาไห่ทงกลับไปที่คฤหาสน์ด้วย เหมือนอย่างที่ลู่ตงหมิงบอก จึงเชิญเพื่อนสามหรือห้าคนไปกินปิ้งย่าง และที่คฤหาสน์เองก็มีสถานที่สำหรับปิ้งย่างโดยเฉพาะและยังสามารถพาไห่ทงกลับไปพักผ่อนได้อีกสองสามวัน เพื่อให้เธอคุ้นเคยกับสภาพแวดล้อม และทิวทัศน์อันสวยงามของคฤหาสน์ ก็อาจช่วยให้ไห่ถงอารมณ์ดีขึ้นได้อีกด้วยเมื่อคิดเช่นนี้แล้ว จ้านหยินจึงส่งข้อความไปหาลู่ตงหมิง: เข้าใจแล้ว ไปบอกซูหนานด้วย และบอกเขาว่าถ้านายน้อยซูว่าง ก็สามารถเชิญนายน้อยซูมาด้วยได้ลู่ตงหมิงได้รับการตอบกลับจากเพื่อน และถอนหายใจด้วยความโล่งใจเกือบจะแย่แล้วแม้ว่า จ้านหยินจะไม่รับสาย เขาก็ยังจะไปหาจ้านหยินพร
ตอนนี้ไห่ถงรู้แล้วว่าในช่วงตรุษจีน เธออาศัยอยู่ในคฤหาสน์เก่าที่ตระกูลจ้านไม่ได้อยู่มานานแล้ว เพื่อเอาไว้หลอกเธอ ครอบครัวแม่สามีจึงทำความสะอาดบ้านเก่าอีกครั้ง แล้วย้ายกลับเข้าไปอยู่หลอกอย่างจริงจัง!จ้านหยินตอบกลับอย่างอ่อนโยน "โอเค เอาตามที่คุณว่า ยังไงก็ตาม ที่นั่นคือบ้านของพวกเราสามารถกลับไปเมื่อไรก็ได้และอยู่ได้นานเท่าที่ต้องการ"ไห่ถงต้องการจะถอดผ้ากันเปื้อนออกจากตัวเขา แล้วพูดว่า “ฉันจะไปทำอาหารเอง”"ไม่ต้อง ผัดผักอีกซัก 2 จานก็เสร็จแล้ว ชมดอกไม้กันเพลินๆ ไปก่อนนะ ฉันไปทำเอง"จ้านยินห้ามไม่ให้เธอเข้าไปในห้องครัวไห่ถงจูบใบหน้าของเขาจ้านหยินดีใจมากที่ถูกจูบจากนั้น จึงกลับมาครัวทำอาหารอย่างมีความสุข"ที่รัก"ไห่ถงรู้ว่า เขาชอบที่จะได้ยินเธอเรียกเขาว่าที่รัก ดังนั้นเมื่อเขาอยู่ที่บ้าน เธอจึงอยากทำให้เขาพอใจ "คุณเชิญซูหนานกับประธานลู่มากินปิ้งย่างด้วยกัน คนยังน้อยไง เชิญน้อยนายน้อยห้าจวินมาด้วยเถอะ""ฉันจะชวนเสี่ยวจวินกับเสี่ยวเฟย และถามพี่ด้วยว่า เธออยากไปด้วยกันไหม"เสียงของจ้านหยินดังออกมาจากในครัว: "โอเค ฉันจะโทรหานายน้อยห้าจวินในภายหลัง และชวนเขามากินปิ้งย่างพรุ่งน
"พ่อพาหยางหยางไปเล่นที่สวนสาธารณะ"ไห่ถงถามเขา "พ่อกลับไปแล้วยัง?""พ่อกลับไปแล้วและบอกว่าจะกลับมาพรุ่งนี้ เพื่อพาผมไปเที่ยว ผมอยากไปสวนสัตว์ พ่อบอกว่าจะพาหนูไป น้าพรุ่งนี้ไปสวนสัตว์กับผมไหม"โจวหงหลินพาหยางหยางไปเล่น เด็กน้อยมีความสุขมาก ตอนนี้ดูเหมือนจะสนิทกับพ่อมาก และเขาก็พูดถึงพ่อทุกคำไห่ถงยิ้ม "น้าจะไปกินปิ้งย่างพรุ่งนี้ แม่ก็ไปด้วย หยางหยางอยากได้ไปกันไหม?"หยางหยางตอบอย่างไม่คิด "ไปด้วย งั้นผมไม่ไปสวนสัตว์กับพ่อแล้ว"น้ากับหลานถามกันไปมา คุยกันอย่างมีความสุข หลังจากคุยกันสักพัก ไห่ถงก็วางสายและโทรหาเซินเสี่ยวจวินกับซางเสี่ยวเฟย เพื่อชวนพวกเธอไปที่คฤหาสน์โหย่วโหย่วด้วยกันในวันพรุ่งนี้ โดยการขับรถของตัวเองมาได้ยินมาว่าคฤหาสน์โหย่วโหย่วนั้นสวยงามมาก เป็นพื้นที่ที่มีวิวสวยงาม แต่แน่นอนว่าไม่ใช่ทุกคนจะสามารถเข้าไปเยี่ยมชมในฐานะแขกได้"ที่รัก กินข้าว"จ้านหยินทำอาหารสองจานสุดท้ายเสร็จ จากนั้นก็เดินออกจากครัวพร้อมผัดผัก วางไว้บนโต๊ะอาหาร จากนั้นตะโกนไปที่ระเบียงไห่ถงรีบวางสายเสี่ยวเฟย ยืนขึ้นตอบรับจ้านหยิน และเดินกลับเข้าไปในห้องเธอเดินไปที่โต๊ะอาหารและเห็นกุ้งที่เธอชอบ
จ้านยินมองดูผู้หญิงทั้งสองอย่างหมดหนทางหลังจากที่ไห่ทงหัวเราะจนเสร็จ เขาก็พูดว่า "ที่รัก ทานซุปก่อนนะ"ไห่ถงตอบกลับ "โชคดีที่ฉันไม่ได้ดื่มซุปเมื่อกี้ ไม่เช่นนั้นฉันต้องพ่นมันออกมแน่""กินข้าวๆ"คุณยายจ้านและหยิบตะเกียบ คีบอาหารจานโปรดของเธอขึ้นมา หลังจากชิมแล้ว เธอขมวดคิ้วและพูดว่า "ถงถง ผัดอาหารจานนี้เหรอ? รสชาติต่างจากเดิมนะ""ไม่อร่อย?"จ้านหยินถามว่า "ถ้าคิดว่าไม่อร่อย ฉันจะโทรหาห่าวหยูทันที และขอให้เขามารับคุณยาย และให้พาไปที่โรงแรม เพื่อรับประทานอาหารอร่อยๆ เพราะอาหารที่นี่ไม่ถูกปากคุณยาย""พูดมาแบบนี้ ต้องเป็นจ้านหยินทำแน่"คุณยายจ้านยังคงกินอาหารต่อไป และพูดกับไห่ทงขณะกินว่า "ถงถงทักษะการทำอาหารของอาจ้านยังไม่ดีขึ้นมาก หลานต้องให้เขาฝึกฝนเพิ่มเติมนะ ในวันหยุดสุดสัปดาห์ ก็ให้เขาทำอาหารและเตรียมอาหารสามมื้อให้หลาน เขาจะได้มีโอกาสฝึกฝนมากขึ้น และก็จะสามารถทำอาหารที่อร่อยได้"จ้านหยินทำหน้าบุญไม่รับ “คุณยายกินไปบ่นอาหารที่ฉันทำไป เอางี้ไหมหยุดกินเถอะ”"เมื่อก่อนแกไม่เคยทำอาหาร ถ้าไม่ใช่เพราะถงถง ยายก็คงไม่ได้กินอาหารฝีมือแกอีก จึงคว้าโอกาสนี้ไว้กินเพื่อเอาไว้ก่อน ถึงแม้แ