หลู่ตงหมิงเดินผ่านหลังเลิกงาน และบังเอิญเห็นโจวหงหลินเดินออกมาจากร้านพร้อมกับอุ้มหยางหยางเอาไว้ เขาคิดว่าไอ้คนหน้าด้านมาที่นี่เพื่อจับตัวหยางหยางไป จึงรีบจอดรถแที่ทางเข้าร้านกินได้ไม่อั้น"หยางหยาง"ลู่ตงหมิงจอดรถ ลงจากรถอย่างรวดเร็ว และก้าวเดินไปข้างหน้า ก่อนที่โจวหงหลินจะได้ทันตั้งตัว ลูกชายของเขาที่อยู่ในอ้อมแขนก็ถูกลู่ตงหมิงพรากตัวไปหลังจากคว้าตัวหยางหยางมาแล้ว ลู่ตงหมิงก็เตะไปที่โจวหงหลิน จนล้มลงไป ก่อนจะผลักเขาให้ถอยหลังไปสองสามก้าว ก่อนจะร่วงลงไปจากฟุตบาทโจวหงหลินมองลู่ตงหมิงอย่างประหลาดใจไอ้คนแซ่ลู่เป็นบ้าอะไร?แย่งลูกเขาไป แถมเตะเขาอีก"ไสหัวไปซะ ถ้ากล้ามาแย่งตัวหยางหยางและรังแกไห่หลิงอีก ฉันจะหักขาแกออกเองWโจวหงหลิน "...""พ่อ"หยางหยางตะโกนพ่อของเขา และดิ้น เพื่อให้ปล่อยเขาโจวหงหลินลุกขึ้นและอธิบายว่า "ประธานลู่ คุณเข้าใจผิดแล้ว ฉันไม่ได้มาแย่งตัวหยางหยาง และไม่ได้รังแกไห่หลิงด้วย ฉันแค่มาหาหยางหยาง ซึ่งหยางหยางบอกว่า เขาอยากไปเล่นที่สวนสาธารณะเล็กๆ ดังนั้นฉันจึงเลยจะพาเขาไปที่นั่น"ลู่ตงหมิงจ้องอย่างว่างเปล่า ชัดเจนว่าเขาไม่เชื่อลู่ตงหมิงอุ้มหยางหยางเข้าไ
หยางหยางมองพ่อ แล้วพูดว่า “นั่นลุงลู่ ลุงลู่ไม่เคยรังแกแม่”โจวหงหลิน".....ลูกชอบลุงลุ่เหรอ?"หยางหยางส่ายหัว "ผมไม่ชอบลุงลู่ แต่เขาไม่ใช่คนใจร้าย"ลุงลู่เป็นคนดี ไม่ว่าเขาจะชอบลุงลู่หรือไม่"หยาง ลุงลู่กำลังพยายามขโมยแม่ลูกไปจากลูก เขาจะกลายเป็นคนเลวในอนาคต สิ่งที่ลูกต้องทำคือป้องกันไม่ให้ลุงลู่อยู่กับแม่ลูกตามลำพัง ตราบใดที่แม่ลูกอยากไปเดทกับลุงลู่ ลูกจะต้องร้องไห้และทำเรื่องไม่ดี ลูกเข้าใจไหม?ไหยางหยางเรียนรู้การขมวดคิ้วมาจากน้าชาย เมื่อเขาโกรธและเน้นเสียงดังว่า "ลุงลู่ชอบหยางหยาง เขาต้องการแย่งหยางหยางมาจากแม่ ไม่ใช่แย่งแม่ไปจากหยางหยาง! ลุงลู่มีหน้าตาน่ากลัว หยางหยางไม่ชอบเขา แต่ลุงลู่ไม่ใช่คนใจร้าน!""แม่ไม่เคยไปเที่ยวกับลุงลู่เลย ทุกครั้งที่ลุงลู่มาบ้าน เขาก็เอากังหันลมมาให้หยางหยาง แต่หยางหยางไม่ชอบกังหันแล้ว"ลุงลู่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะต้องเปลี่ยนเป็อะไรแทนโจวหงหลิน "..."เขาหยุดเท้า และมองลูกชายตอนที่หย่ากัน คำพูดของหยางหยางยังไม่ค่อยคล่องแคล้วนัก แม้จะผ่านมาเพียงไม่กี่เดือน แต่หยางหยางไม่เพียงแค่พูดคล่องแคล้วเท่านั้น แต่ยังพูดได้ชัดถ้อยชัดคำอีก ลูกชายของเขาฉลาดมาก!
เธอก็ไม่เสียใจลู่ตงหมิงขมวดคิ้ว "ทำไมเขาถึงมาที่ร้านของคุณตลอด ไอ้เห็บหมานั้นกล้าปฏิบัติกับคุณแบบนั้นเมื่อก่อนอีก ฉันอยากจะทุบเรียกสติเขาเอง เพื่อระบายความโกรแทนคุณ""เขาต้องการใช้หยางหยาง เพื่อคลายความสัมพันธ์ที่ตึงเครียดระหว่างฉันกับพวกเขา"หลังจากคิดทบวนอยู่ครู่หนึ่ง ลู่ตงหมิงก็พูดว่า "อยากให้จ่านหยินปล่อยพวกเขาไปงั้นเหรอ? ไม่มีทาง ให้พวกเขาตกงานไปแบบนั้นนั่นแหละ หลังจากใช้เงินเก็บทั้งหมดแล้ว มารอดูกันว่า ทั้งคู่จะยังรักและเอาใจใส่กันต่อไปได้หรือไม่?"คู่รักที่กักก้อนเกลือกินนั้น ลดลงอย่างต่อเนื่อง และช่วงเวลาที่ยากลำบากของโจวหงหลินกับเย่เจียนีกำลังงรออยู่ข้างหน้า"ตอนนี้ร้านของคุณอยู่ที่นี่ คุณไม่สามารถย้ายหนีได้ ก็ปล่อยให้พวกเขาดูธุรกิจของคุณเติบโตทีละขั้น ในอนาคต หากคุณสามารถเปิดโรงแรมขนาดใหญ่ กลายเป็นผู้หญิงที่มีอำนาจและมีรวยนับพันล้านแล้ว พวกเขาจะโกรธจนความดันขึ้นแน่"ไห่หลิงยิ้ม "ในอนาคตฉันก็อยากจะเปิดโรงแรมใหญ่ๆ ที่มีมูลค่าสุทธินับหลายพันล้านเหมือนกัน แต่สำหรับตอนนี้มาดูกันว่าร้านนี้จะเป็นอย่างไร เป้าหมายแรกของฉันคือการได้ทุนคืน""เป้าหมายที่สองคือ เปิดร้านสาขา"เป้า
ลู่ตงหมิงรู้ว่าไห่หลิงไม่จำเป็นต้องใช้เครือข่ายของเขา เพราะมีทั้งตระกูลซางและตระกูลจ้านคอยช่วยเหลือเธออยู่หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง เขาก็พูดว่า "ถ้าคุณยุ่งอยู่ ฉันจะกลับไปก่อนนะ เพื่อที่แม่จะไม่ต้องโทรมาเร่งฉัน""โอเค ประธานลู่เดินทางปลอดภัยค่ะ"ไห่หลิงมาส่งลู่ตงหมิงออกจากร้านลู่ตงหมิงมองไปที่รถของโจวหงหลิน และถามไห่หลิงว่า “นั่นรถของอดีตสามีของคุณใช่ไหม?”"ฉันเห็นเขาลงจากรถคันนั้น น่าจะเป็นรถใหม่ของเขา"ภรรยาก็เปลี่ยนใหม่ รถก็เปลี่ยนใหม่ด้วยถ้าไม่ใช่เพราะจ้านหยินหมายหัวโจวหงหลินเอาไว้ โจวหงหลินคงมีชีวิตที่สุขสบาย มีทั้งเงิน ภรรยาใหม่ และรถใหม่....ลู่ตงหมิงอยากจะเดินไปเจาะยางรถของโจวหงหลินจริงๆ เขาคิดว่าถ้าเจาะยางรถของโจวหงหลิน ก็จะต้องติดอยู่ที่ร้านของไห่หลิงและทานอาหารเย็นที่นี่อีกด้วย สุดท้ายลู่ตงหมิงไม่ได้ทำเช่นนั้น"หากในอนาคตครอบครัวของพวกเขามารังแกคุณอีก บริษัทของฉันอยู่ใกล้แค่นี้ โทรมาหาฉันเลยนะ แล้วฉันจะส่งคนมาจัดการให้ เจ้าของร้านใกล้ๆ ร้านคุณทั้งหมด เป็นร้านของฉัน และฉันเองก็พยายามปกป้องผู้เช่าของฉันด้วย"ลู่ตงหมิงพูดออกมาตรงๆ เหมือนกับว่าเขาไม่มีเจตนาแอบแฝงใดๆ แ
"เมื่อหยินหยินต้องการความช่วยเหลือเรื่องธุรกิจ ลูกก็สามารถช่วยเธอได้ คุณป้าฟางกับฉันเป็นเพื่อนเก่าแก่กันมาหลายปีแล้ว ถึงแม้ว่าเราจะไม่ได้เจอกันนานเป็นสิบหรือยี่สิบปี แต่พวกเราก็ไม่เคยขาดการติดต่อเลย"ความตั้งใจของคุณนายลู่ที่จะจับคู่ลู่ตงหมิงกับหยูหยินหยินนั้นชัดเจนมากหยูหยินหยินมองไปที่ลู่ตงหมิงตรงๆ ในความเห็นของเธอ รอยแผลเป็นบนใบหน้าของลู่ตงหมิงน่ากลัวมา หากทำทำศัลยกรรม รอยแผลเป็นก็สามารถลบออกได้และหน้าตาของเขาก็จะกลับมาเหมือนเดิมถ้าไม่มองข้ามใบหน้าของเขาที่มีรอยแผลเป็นไป เขาก็เป็นผู้ชายที่หล่อมากตอนเป็นวัยรุ่น ใครบ้างที่ไม่เคยทำอะไรอย่างหุนหันพลันแล่นบ้าง?เธอเมื่อก่อนก็เคยมีรอยสักมาก่อน"คุณแม่ ตอนนี้ผมยุ่ง"ลู่ตงหมิงพูดอย่างธรรมดา "หากคุณหนูหยูมีประโยชน์รวมกับฉัน ฉันสามารถให้ความช่วยเหลือได้ แต่ฉันไม่มีเวลาพาคุณหนูหยูไปเดินเล่นจริงๆ""แม่อยู่บ้านเบื่อๆ ก็ไปเป็นเพื่อนคุณหนูหยูและพาเธอไปคุ้นเคยกับสถานที่"ขณะที่ลู่ตงหมิงพูด ก็มองไปที่หยูหยินหยินและขอโทษ “คุณหนูหยู ฉันยุ่งมากจริงๆ""วันนี้ไม่ใช่วันอาทิตย์เหรอ? ลูกยังต้องไปบริษัท?""จ้านหยินนัดไปกินปิ้งย่างที่บ้านเขา"ล
หยูหยินหยินพูดอย่างกระตือรืนล้น "ฉันสงสัยว่า ฉันจะมีโอกาสได้พบกับนายหญิงจ้านหรือไม่"เธอเคยได้ยินเรื่องของจ้านหยินมาบ้าง แต่ไม่เคยมีโอกาสได้พบจ้านหยินตัวเป็นๆ มาก่อนเลยผู้หญิงที่สามารถสร้างความประทับใจให้กับจ้านหยินได้นั้น หยูหยินหยินคิดว่า เป็นเพราะอีกฝ่ายต้องมีคุณสมบัติที่โดดเด่นอย่างแน่นอน ดังนั้น เธอสามารถเรียนรู้วิธีการเอาชนะใจผู้ชายจากนายหญิงจ้านได้หยูหยินหยินตอนนี้มีอายุ 28 ปีแล้ว และยังโสด เธอมีแฟนตั้งแต่ตอนอายุ 18 หรือ 19 ปี แต่ก็เลิกรากันไป ต่อมาเธอได้เข้าไปทำธุรกิจของครอบครัวและยุ่งกับงานมาก ซึ่งนั่น เป็นสาเหตุที่เธอไม่มีแฟนมาจนถึงตอนนี้คุณนายลู่ตั้งใจที่จับเธอกับลู่ตงหมิง และพ่อแม่ของทั้งคู่ก็เห็นด้วย ซึ่งหยูหยินหยินก็รู้เรื่องราวในอดีตของลู่ตงหมิงเช่นกัน และสามารถยอมรับเรื่องราวในอดีตของเขาได้เธอไม่สนใจรอยแผลเป็นบนใบหน้าของลู่ตงหมิง เธอรู้สึกว่าตราบใดที่เธอสามารถทำให้ลู่ตงหมิงตกหลุมรักได้ เธอจะให้เขาเข้ารับการศัลยกรรมตกแต่ง เพื่อลบรอยแผลเป็นและฟื้นคืนรูปลักษณ์ที่หล่อเหลาของเขาให้กลับมาได้อย่างแน่นอนหลังจากฟังคำพูดของหยูหยินหยินแล้ว คุณนายลู่ก็ยิ้มและพูดว่า "มีโอ
จ้านหยิน: "....ฉันบอกเมื่อไหร่ว่าจะกลับคฤหาสน์กินปิ้งย่างพรุ่งนี้"ถ้าอยากกินปิ้งย่างที่ไหนก็มี ทำไมต้องไปกินที่ตฤหาสน์ด้วย?"ฉันยังชอบกินปลาหมึก เนื้อแกะ กุ้ง อะไรก็ได้ที่นายย่าง ฉันชอบหมด"ลู่ตงหมิงดูเหมือนจะไม่ได้ยินคำพูดของจ้านหยิน และยังคงคุยเรื่องอาหารอยู่ฝ่ายเดียวจ้านยินวางสายทันทีหลังจากได้ยินชัดเต็มฟังสองหูอย่างไรก็ตาม คำพูดของลู่ตงหมิงทำให้เขามีเกิดไอเดีย พรุ่งนี้ยังเป็นวันอาทิตย์ และเขาไม่ต้องทำงาน ยังไม่ได้พาไห่ทงกลับไปที่คฤหาสน์ด้วย เหมือนอย่างที่ลู่ตงหมิงบอก จึงเชิญเพื่อนสามหรือห้าคนไปกินปิ้งย่าง และที่คฤหาสน์เองก็มีสถานที่สำหรับปิ้งย่างโดยเฉพาะและยังสามารถพาไห่ทงกลับไปพักผ่อนได้อีกสองสามวัน เพื่อให้เธอคุ้นเคยกับสภาพแวดล้อม และทิวทัศน์อันสวยงามของคฤหาสน์ ก็อาจช่วยให้ไห่ถงอารมณ์ดีขึ้นได้อีกด้วยเมื่อคิดเช่นนี้แล้ว จ้านหยินจึงส่งข้อความไปหาลู่ตงหมิง: เข้าใจแล้ว ไปบอกซูหนานด้วย และบอกเขาว่าถ้านายน้อยซูว่าง ก็สามารถเชิญนายน้อยซูมาด้วยได้ลู่ตงหมิงได้รับการตอบกลับจากเพื่อน และถอนหายใจด้วยความโล่งใจเกือบจะแย่แล้วแม้ว่า จ้านหยินจะไม่รับสาย เขาก็ยังจะไปหาจ้านหยินพร
ตอนนี้ไห่ถงรู้แล้วว่าในช่วงตรุษจีน เธออาศัยอยู่ในคฤหาสน์เก่าที่ตระกูลจ้านไม่ได้อยู่มานานแล้ว เพื่อเอาไว้หลอกเธอ ครอบครัวแม่สามีจึงทำความสะอาดบ้านเก่าอีกครั้ง แล้วย้ายกลับเข้าไปอยู่หลอกอย่างจริงจัง!จ้านหยินตอบกลับอย่างอ่อนโยน "โอเค เอาตามที่คุณว่า ยังไงก็ตาม ที่นั่นคือบ้านของพวกเราสามารถกลับไปเมื่อไรก็ได้และอยู่ได้นานเท่าที่ต้องการ"ไห่ถงต้องการจะถอดผ้ากันเปื้อนออกจากตัวเขา แล้วพูดว่า “ฉันจะไปทำอาหารเอง”"ไม่ต้อง ผัดผักอีกซัก 2 จานก็เสร็จแล้ว ชมดอกไม้กันเพลินๆ ไปก่อนนะ ฉันไปทำเอง"จ้านยินห้ามไม่ให้เธอเข้าไปในห้องครัวไห่ถงจูบใบหน้าของเขาจ้านหยินดีใจมากที่ถูกจูบจากนั้น จึงกลับมาครัวทำอาหารอย่างมีความสุข"ที่รัก"ไห่ถงรู้ว่า เขาชอบที่จะได้ยินเธอเรียกเขาว่าที่รัก ดังนั้นเมื่อเขาอยู่ที่บ้าน เธอจึงอยากทำให้เขาพอใจ "คุณเชิญซูหนานกับประธานลู่มากินปิ้งย่างด้วยกัน คนยังน้อยไง เชิญน้อยนายน้อยห้าจวินมาด้วยเถอะ""ฉันจะชวนเสี่ยวจวินกับเสี่ยวเฟย และถามพี่ด้วยว่า เธออยากไปด้วยกันไหม"เสียงของจ้านหยินดังออกมาจากในครัว: "โอเค ฉันจะโทรหานายน้อยห้าจวินในภายหลัง และชวนเขามากินปิ้งย่างพรุ่งน